ตอนที่ 13 : L O N E W O L F | Revenge is a dish best served cold.
? cactus
Chapter 10
Revenge is a dish best served cold.
(เมนู ‘ล้างแค้น’ จะหอมหวานที่สุดเมื่อเสิร์ฟแบบเย็น ๆ )
CUT
(bio twitter)
เขายอมแพ้ ถ้าแม้แต่เบโลมอร์คานาลก็ไม่อาจสู้รบปรบมือกับกลิ่นคาวของเลือดอันสดใหม่ ร้อยโทปาร์คล้มเลิกความตั้งใจที่จะใช้มันเพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะ หันไปหาบุหรี่มวนด้วยกระดาษจากโรดง ซินมุนฉบับสองสัปดาห์ก่อนซึ่งให้รสชาติที่คุ้นเคย ดีกว่าเป็นไหน ๆ
ชานยอลจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายที่เขาสูบบุหรี่ในกล่องกระดาษบนชั้นวางเหนือโต๊ะทำงานผ่านมานานกี่เดือน หรือกี่ปีแล้ว สำคัญอะไรเล่า เมื่อการเอาใจออกห่างบุหรี่อย่างช้า ๆ ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ มีอันต้องเลิกล้มไปด้วยของเหลวสีแดงจากร่างกายของผู้ติดตาม
แต่ก่อน กลิ่นเบโลมอร์คานาล บุหรี่สัญชาติรัสเซียคือกลิ่นของร้อยโทปาร์ค ชายหนุ่มร่างสูงหลงใหลในรสขมปร่า ล้าสมัย ทว่ารุนแรงนั้น บุหรี่สีเทามวนกระจิด ต่อเข้ากับแกนกระดาษแข็งสีขาว ความยาวสามเท่าของตัวมันเองซึ่งใช้ทดแทนไส้กรอง พลเรือเอกปาร์คมินกูเรียกมันว่าปาปิรอสซ่า บุหรี่โบราณที่ไม่เป็นที่นิยมแล้วในโลกตะวันตก เพียงแต่ชานยอลรักมัน ปาปิรอสซ่าเบโลมอร์คานาล... หนึ่งในบุหรี่ซึ่งได้ชื่อว่ามีรสชาติรุนแรงที่สุดในภูมิภาคยุโรป ไม่มีใครที่ไม่สำลักกระอักกระไอในการสูบครั้งแรก กระทั่งมินโฮหรือเซฮุน แบคฮยอนจะเป็นอย่างนั้นไหมนะ...
“จะสูบเท่าไหร่ก็ได้ แต่อย่าริอ่านสูบบุหรี่ดาด ๆ ”
บุหรี่ดาด ๆ ในความหมายของพลเรือเอกเขี้ยวลากดิน คือบุหรี่ยี่ห้ออารีรัง หรือที่เลวร้ายน้อยที่สุด คือบุหรี่ยี่ห้อซอนบง ซึ่งวางจำหน่ายทั่วไปและเป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชน พ่อบอกว่า “มีแต่คนชั้นเราเท่านั้นที่จะซื้อหาบุหรี่สัญชาติอื่น ๆ ได้ ชานยอล” ทำให้ร้อยโทปาร์คสับสน พ่อเองไม่ใช่หรือที่สรรเสริญท่านผู้นำ บอกเขาว่าประธานาธิบดีทั้งสามได้รังสรรค์สังคมปราศจากชนชั้นอันผาสุกแห่งแรก... และแห่งเดียวในโลก ทุกคำแนะนำของพ่อล้วนแต่ขัดแย้งซึ่งกันและกัน
วันหนึ่ง เมื่อไม่มีเบโลมอร์คานาลในกระเป๋าเสื้อ ชานยอลได้รับบุหรี่ทำมือมวนหนึ่งจากพนักงานทำความสะอาดในอาคารที่ทำการพรรคแรงงาน มันถูกมวนด้วยกระดาษจากโรดง ซินมุน หนังสือพิมพ์ซึ่งออกโดยพรรคแรงงานเอง พนักงานที่ค้อมศีรษะอย่างพินอบพิเทาบอกเขาว่า “ลองโรดง ซินมุนสักหน จะไม่หันไปหาบุหรี่อื่น ๆ ”
ปรากฏว่าชานยอลตกหลุมรักมัน พอ ๆ กับที่เคยตกหลุมรักเบโลมอร์คานาล แม้จะทำปากแข็ง บอกแก่พนักงานทำความสะอาดว่าโรดง ซินมุนไม่มีอะไรพิเศษ ก็พ่อได้กำชับแล้วว่า “อย่าริอ่านสูบบุหรี่ดาด ๆ ”
เมื่อถ้อยคำของพ่อคือถ้อยคำของประธานาธิบดี และถ้อยคำของประธานาธิบดีคือถ้อยคำของโลกทั้งใบ เขาจะปฏิเสธถ้อยคำเหล่านั้นได้อย่างไรกัน
เซฮุนอาจจะเป็นเบโลมอร์คานาลสำหรับเขา... เป็นตัวแทนแห่งความลุ่มหลง ความหุนหัน และความรุนแรง เพียงแต่ชานยอลไม่แน่ใจนัก ว่าแบคฮยอนเหมือนหรือต่างจากโรดง ซินมุนอย่างไร ทำให้หันเหจากเบโลมอร์คานาลน่ะใช่...
และก็คงจะเป็นหนึ่งใน ‘บุหรี่ดาด ๆ ’ ของปาร์คมินกูเช่นกัน
มองอย่างเลื่อนลอยที่บุหรี่สองมวนบนพื้นห้อง เบโลมอร์คานาลไม่อาจกลบเกลื่อนกลิ่นคาวจากเลือดบนผ้าปูที่นอน พอ ๆ กับที่ข้อเสนอของเซฮุนไม่อาจบีบรัดหัวใจของเขาได้เท่ากับความลับของแบคฮยอน
ผู้ติดตามขยับตัว ชานยอลได้ยินเสียงแสกสากซึ่งเกิดจากการเสียดสีระหว่างส่วนที่ยังขยับได้ของอีกฝ่ายกับผ้าปูที่นอน จากนั้นจึงเป็นเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด “ปล่อย... ” แบคฮยอนกระซิบ “ปล่อยฉัน”
โทสะและความชิงชังผุดพลุ่งขึ้นอีกระลอก ร้อยโทปาร์คตะคอกโดยไม่หันไปมอง “คำพูดของนายไม่มีค่า ไม่มีอีกต่อไป! ”
“ได้โปรด ชานยอล... อย่าทำอย่างนี้”
อย่าทำอย่างนี้อะไรกัน เขาต่างหากที่ต้องพูดแบบนั้น “บอกฉันซิแบคฮยอน” ผู้บังคับบัญชาคาดคั้น “ตอนที่บอกว่า กลัวว่าจะอดรนทนต่อไปไม่ไหว แค่มองตาฉันก็รู้แล้วว่ารู้สึกเหมือนกัน อยากแน่ใจว่ารู้สึกเหมือนกัน คิดอะไรอยู่”
อีกคนหนึ่งไม่ตอบ ชายหนุ่มร่างเล็กแค่สะอื้นเบา ๆ
“ตอบสิโว้ย! ”
“ฉันโกหก! ” แบคฮยอนกรีดร้องขึ้น “ฉันโกหก! พอใจหรือยัง! สาแก่ใจหรือยัง ฆ่าฉันเลยซี่ ฆ่าฉันเดี๋ยวนี้เลย! ”
เลือดทุกหยดในร่างกายของเขาคล้ายจะเดือดพล่าน สูบฉีดไอน้ำร้อนจัดสู่กล้ามเนื้อทุกมัด ร้อยโทปาร์คกระโจนพรวดเดียวกลับขึ้นไป จ่อปลายบุหรี่ซึ่งยังไม่มอดลงกับดวงตาของผู้ติดตาม “อย่า-บัง-คับ-ให้-ฉัน-ทำ-อย่าง-นั้น-เป็น-อัน-ขาด” ชายหนุ่มร่างสูงพูดช้า ๆ “โทษของผู้ทรยศคือประหารชีวิต หรือถูกใช้แรงงานจนกว่าจะตาย... เหมือนหมาตัวหนึ่ง นายติดต่อกับผู้ทรยศในโซล ตั้งใจจะเป็นผู้ทรยศ และสมคบคิดกับผู้ทรยศมากหน้าหลายตา พวกเราทุกคน... ใช้ชีวิตร่วมกันในโซลอย่างนั้นเรอะ พวกเขาจะยิงเป้านาย ยิงอย่างไม่ลังเลเลย แบคฮยอน”
“ตายเสียดีกว่าถูกทำแบบนี้” แบคฮยอนบอกอย่างโกรธจัด “ตายเสียดีกว่า เมื่อเขารู้แล้วว่านายทำอะไรกับร่างกายของฉันบ้าง ฉันไม่มีหน้าไปพบคนที่สำคัญต่อฉันเหลือเกินคนนั้น ด้วยร่างกายที่สกปรกแบบนี้หรอก! ”
อีกฝ่ายถูกมัดอยู่ไม่ใช่หรือ ตัวเปล่าเล่าเปลือย ชอกช้ำอย่างน่าเวทนา ถึงอย่างนั้น ชานยอลกลับรู้สึกราวกับเล็บของผู้บังคับบัญชาค่อย ๆ กรีดผ่านผิวหน้าอก ฉีกทึ้ง ตะกุยตะกาย กระทั่งกลายเป็นแผลเหวอะหวะ น่าสยดสยอง ก่อนที่แบคฮยอนจะทาแผลนั้นด้วยเกลือ และถ่มน้ำลายรดพร้อมทั้งใบหน้าบิดเบี้ยว
“นี่ใช่ไหมเหตุผลที่กระเสือกกระสนเป็นผู้ติดตาม” ร้อยโทปาร์คกระซิบลอดไรฟัน “เพื่อไต่เต้า... ใช้เต้าไต่เสียด้วย เพื่อจะเป็นผู้ทรยศที่ฉกาจฉกรรจ์ เพื่อวันหนึ่งจะได้มีเงินมีทอง... หนีไป”
“ฉันจะปล่อยให้นายเข้าใจอย่างนั้น”
“อย่ามาทำเหมือนฉันเป็นตัวตลก ฉันเป็นเจ้าของนาย เป็นแล้ว... และจะเป็นต่อไป! ”
“เชิญ... จะอ้างสิทธิ์เหนือร่างกายของฉันด้วยการยัดไอ้จ้อนเข้ามา ซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนหมูเหมือนหมา เหมือนสัตว์ป่าก็ตามใจ! ” แบคฮยอนผรุสวาท “เพราะนั่นคือทั้งหมดที่นายจะได้ ทั้งหมด... ไม่มีความรัก ไม่มีความภักดี ไม่มี! ”
“ใครสนใจความรักกัน”
“ทุกคนนอกปราสาทสามฤดูของนายรู้จักความรัก” อีกฝ่ายแค่นหัวเราะ “ปราสาทสามฤดูที่มีแต่ความกระหายในอำนาจ คำโกหก และการเหยียบย่ำเพื่อนร่วมโลก คนอย่างนายที่เติบโตขึ้นในปราสาทหลังนั้น จะไม่มีทางรู้จักหรือได้รับความรัก ไม่มีทางและไม่มีวัน! ”
การปะทะคารมระหว่างชานยอลกับผู้ใต้บังคับบัญชาสิ้นสุดลงอย่างกะทันหันด้วยเสียงครืด... ครืด... เป็นจังหวะสม่ำเสมอ เขารู้ในทันทีว่าชายหนุ่มร่างเล็กจวนเจียนจะคลุ้มคลั่ง แบคฮยอนสะดุ้งและสูดหายใจเข้าทางปากอย่างรวดเร็ว อาการบ้าดีเดือดจากความสิ้นหวังหายไปอย่างรวดเร็ว อีกไม่นานผู้ติดตามจะกลับมาร้องไห้ อ้อนวอนเขาทั้งเสียงสะอื้น “ปล่อยฉันไป... ปล่อยฉันไป ชานยอล” หรือใกล้เคียง
ถึงอย่างนั้น อะไรกันที่เป็นความจริง แบคฮยอนที่กู่ร้อง แล่เนื้อเถือหัวใจของเขาด้วยคำพูด หรือแบคฮยอนที่สะอึกสะอื้นด้วยความหวาดกลัว ร้อยโทปาร์คกำลังจะถูกหลอกลวงอีกครั้งหนึ่งหรือเปล่า
ไวเท่าความคิด เขารับโทรศัพท์ พร้อมกับที่อีกคนหนึ่งร้องว่า “อย่านะ! ” เสียงจากปลายสายไม่ใช่เสียงของจงแดอย่างแน่นอน เสียงนี้ทุ้มกว่า แหบห้าวกว่า และร้อนรนกว่า
“แบคฮยอน! เจอน้องหรือ... ”
“มีธุระอะไรกับแบคฮยอน”
ปลายสายเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะถามขึ้นอย่างระแวดระวัง “คุณเป็นใคร เขาลืมโทรศัพท์หรือเปล่า ช่วยบอกเขาด้วยว่า... ”
“จะให้บอกเขาว่าใครโทรศัพท์มา ผู้ทรยศอีกคนหนึ่งหรือเปล่า พี่ชายใช่ไหม ตัวจริงเสียงจริง หรือตัวปลอม... ที่เพิ่งจะขาดใจตายบนแผ่นดินทุนนิยมสด ๆ ร้อน ๆ ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว”
ใช้เวลาประมวลผลไม่กี่วินาที เมื่อไม่เห็นประโยชน์ของการเสแสร้ง อีกฝ่ายก็ตะโกน “แกทำอะไรแบคฮยอน! ”
“แกรู้อยู่แล้ว”
“ฉันจะฆ่าแก” ปลายสายบอกอย่างเคียดแค้น “ฉันจะฆ่าแก ปาร์คชานยอล”
“อ้อ... รู้จักฉันเสียด้วย” ร้อยโทปาร์คเงยหน้าขึ้นและหัวเราะอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “ผู้สมรู้ร่วมคิดสินะ ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะรู้... ว่าแบคฮยอนตั้งใจจะทำอะไรในฐานะผู้ติดตามของฉัน ยินดีด้วยนะ ฉันสนองความต้องการนั้นอย่างถึงพริก... ถึงขิง... ถึงอก... ถึงใจแล้วล่ะ”
อย่างเห็นได้ชัด ผู้สมรู้ร่วมคิดคนนี้รู้ว่าอะไรคือความต้องการของแบคฮยอน รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่ไม่คาดฝันว่าจะเป็นไปอย่างนี้ ไม่คาดฝันว่าจะผู้ติดตามจะกลายเป็นของเขา โดยเฉพาะเป็นของเขาอย่างไม่เต็มใจ เพราะอีกฝ่ายปฏิเสธอย่างเร่งร้อนว่า
“ไม่จริง แบคฮยอนจะไม่พลาด”
“จงอิน... ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
“เงียบ! ” ร้อยโทปาร์คกระชากเสียง “ต้องการชีวิตของฉันสินะ อยากจะบีบคอฉัน... เอาให้ตายคามือ มาซี่ มาที่เปียงยาง มาสู้กันซึ่ง ๆ หน้า หมดเวลาสำหรับปาหี่แล้ว! ”
ชานยอลวางสาย จากนั้นจึงดับบุหรี่กับหน้าอกของแบคฮยอน ราวกับจะชดเชยความเจ็บปวดอันไร้ที่มาในหัวใจของตัวเอง ระหว่างที่ผู้ติดตามร้องเสียงหลง ดิ้นรนด้วยอาการปวดแสบปวดร้อนนั่นเอง ชายหนุ่มร่างสูงเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือออกไปอย่างสุดแรงเกิด กระทบหน้าต่างซึ่งแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และร่วงหล่นสู่พื้นหินเบื้องล่าง
“ให้ตายสิโว้ย! หยุดร้องไห้เสียที”
แต่อีกคนหนึ่งไม่สนใจ เสียงของชายหนุ่มร่างเล็กเสียดแทงความรู้สึกของเขา ท้ายที่สุด ชานยอลจึงไปจากห้องนั้น เพียงเพื่อจะขังตัวเองไว้ในห้องทำงาน ใช้หินทับกระดาษทุบสมาร์ตโฟนที่ตัวเองซื้อให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ทำลายมันเช่นเดียวกับที่ตัวตนของเขาถูกเหยียบย่ำ ดื่มเหล้าโสมแก้วแล้วแก้วเล่า เพียงเพราะเหล้าโสมเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดเดียวที่ไม่ก่อให้เกิดอาการเมาค้าง ก่อนจะปาขวดลงกับพื้น ทุบโต๊ะและร้องไห้ คร่ำครวญอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้! ทำไมถึงเป็นแบบนี้วะ! ”
กว่าน้ำตาจะเหือดแห้ง ในหลายชั่วโมงต่อมา ร้อยโทปาร์คกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง
เพียงเพื่อจะทำให้มีเสียงร้องไห้กับเสียงคำราม และเสียงของการกระทั้นกระแทก... ดังออกมาอีกหน
เขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้ หลังจากหลายวันที่ถูกคุมขังในห้องนอนของชานยอล อ้อ... เป็นห้องนอนของเขาด้วยนี่ เมื่อพายุอารมณ์ในคืนแรกผ่านพ้นไป ร้อยโทปาร์คเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา แบคฮยอนรับรู้เรื่องราวเหล่านั้นอย่างคนครึ่งหลับครึ่งตื่น ครึ่งเป็นครึ่งตาย มือของเขาไม่ได้ถูกผูกเข้ากับหัวเตียงด้วยเข็มขัดอีกแล้ว ขาข้างหนึ่งก็เช่นกัน เพียงแต่อีกข้างหนึ่งนั้นถูกล่ามด้วยตรวน ยาวพอจะเข้าไปทำอะไร ๆ ในห้องน้ำได้เท่านั้น มีดโกนโบราณหายไปแล้ว ไม่มีของมีคมหรือเคมีภัณฑ์ใด ๆ ในระยะเอื้อมถึง
ผู้บังคับบัญชาไม่ให้เขาไปทำงาน ไม่มีอาหาร นอกจากน้ำดื่มในขวดพลาสติกขนาดสองลิตร ตั้งไว้บนโต๊ะเล็ก ๆ ใกล้กับเตียงนอนเป็นประจำทุกวัน แบคฮยอนสนิทสนมกับความแร้นแค้น จึงอดทนได้ดีพอใช้ ชายหนุ่มร่างสูงจะกลับมาพร้อมกับอาหารชุดหนึ่งทุกเย็น การปะทะคารมจะดำเนินไประหว่างมื้ออาหาร จบลงด้วยการระบายโทสะ ซึ่งทุกครั้งผู้ติดตามจะนอนตัวแข็งทื่อ ราวกับท่อนไม้ ประกาศอย่างชัดเจนด้วยร่างกายว่าอีกฝ่ายไม่อาจทำให้หัวใจสะท้านสะเทือน
ทุกคืน เขาจะถูกกกกอด คล้ายการกระแทกกระทั้นทั้งหลายแหล่ไม่เคยเกิดขึ้น ชานยอลจะกอดเขาจากด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มร่างเล็กจมลงไปในอ้อมแขนที่กว้างขวาง จูบเบา ๆ ที่คอ และครวญครางไม่ได้ศัพท์ราวกับละเมอ
ความหวังของเขามอดไหม้ไปแล้ว เช่นเดียวกับก้นบุหรี่ร้อนจัดซึ่งเคยแผดเผาผิวบริเวณหน้าอกในคืนแรก เมื่อไม่รู้ว่าจุนมยอนเป็นตายร้ายดีอย่างไร จงอินตัดสินใจอย่างไร และจงแดรู้สึกอย่างไร แต่ละวันที่บอกเวลาได้จากแสงซึ่งส่องผ่านบานหน้าต่างเข้ามาเท่านั้นก็เกือบจะไร้ความหมาย
เขาจะตาย... ตายในห้องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ความหวังของแบคฮยอนมาถึงในวันสุดท้ายของสัปดาห์ แม่บ้านเข้ามาในห้องและถูกเกลี้ยกล่อมให้ปล่อยตัวเขา ในวินาทีแห่งอิสรภาพวินาทีแรก ชายหนุ่มร่างเล็กตระหนักว่าเขาไม่อาจวิ่ง ส่วนล่างของร่างกายประท้วงด้วยอาการระบมอย่างถึงที่สุด ดังนั้น ผู้ติดตามจอมปลอมจึงได้แต่กระย่องกระแย่งลงบันได บ่ายหน้าไปทางหลังคามัสยิดสีเขียวสด หนีไม่คิดชีวิต
เพียงแต่... ระหว่างโขยกเขยกผ่านส่วนที่เหลืออยู่ของโทรศัพท์มือถือซึ่งถูกปาลงมาจากห้องนอนของชานยอล เปียกน้ำค้างและแทบจะไม่มีชิ้นดีนั่นเอง ข้อความสุดท้ายจากจงอินเด่นหราบนหน้าจอ ส่งมาถึงเขาในคืนแรกของการถูกย่ำยี และคงค้างอยู่อย่างนั้น
ฟังนะ แร้งเฒ่ามาพบจุนมยอน และบอกน้องว่า...
ความจริงพรั่งพรูผ่านสายตา แบคฮยอนส่งเสียงกรีดร้องอย่างเงียบงัน พร้อมกันนั้น เขาหันหลังให้มัสยิดนิกายชีอะห์ ด้วยการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ชายหนุ่มร่างเล็กนั่งรถประจำทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ซึ่งเขาจำได้ขึ้นใจ... ว่ารายละเอียดของการเดินทางนั้นเขียนด้วยน้ำส้มสายชู บนกระดาษยับยู่แผ่นหนึ่ง
ทันทีที่ผู้ติดตามจอมปลอมแจ้งความประสงค์ว่าต้องการจะพบร้อยตรี... ร้อยตรีคนสำคัญในสถานที่แห่งนั้น ประตูห้องหมายเลขที่สามสิบเก้าก็เปิดออก ต้อนรับเขา ดูเหมือนปากที่อ้ากว้างของอสุรกาย
“มีอะไร... มาหาฉันถึงนี่ ท่าทางไม่ค่อยดีเลย คนสวย”
มินโฮทักทายอย่างเกียจคร้านจากคอกทำงานหนึ่ง
“ฉันมาที่นี่... ”
เขาบอกอย่างเด็ดเดี่ยว แบคฮยอนแห่งมูซานไม่มีอะไรต้องเสียอีกต่อไป
“เพื่อบอกว่ารับข้อเสนอของนาย”
เส้นทางของเขากับชานยอลไม่เคยบรรจบกัน และจะไม่มีวันบรรจบกัน แน่ล่ะ... แน่อยู่แล้ว เขารู้ว่าเขาจะไม่เสียใจ ไม่เสียใจอย่างแน่นอน
#ฟิคเปียงยาง
เพิ่งเห็นว่าอัปไม่ติด แง ขอโทษนะคะ
/นี่ก็หลงไปนั่งน้อยใจอยู่ตั้งนานว่าทำไมไม่มีคนสกรีม 555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ยิ่งตอนอ่านพาร์ทบรรยายความรู้สึกนาง สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดจริงๆ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 3 สิงหาคม 2563 / 22:59