ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชมรมคนโรคจิต

    ลำดับตอนที่ #2 : ตุ๊กตาหมี : ~unknow~

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 48






         ตุ๊กตาหมี







               เมื่อคุณโกรธใครสักคนมาก ๆ ...คุณจะรู้สึกอยากฆ่าเขามั้ย?





                                                                                                            แม้จะเป็นอารมณ์เพียงชั่ววูบก็ตามที...





    - - - - --- -- - -- - - - --  --  - -- - -- - -- - --  - - --- - - -- - - - - - - - - - -- - - - - -- -  ---- --  --  - -- - - - -





               ยามเย็นที่บรรยากาศขุ่นมัวเหมือนจิตใจ ชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินออกมาจากตึกสำนักงานสูง  แม้ท่าทางจะเหมือนดีใจที่ถึงเวลาเลิกงานเสียทีแต่ในใจเขาก็ยังมีอารมณ์โกรธขึ้งอยู่เต็มเปี่ยม  ..เพียงเพราะปากเสียงอย่างไม่รู้จักจบเรื่องงาน  และเขาก็เหมือนจะเป็นฝ่ายผิดเพราะลูกค้าเห็นด้วยกับอริของเขา





               ‘ใช่สิ! กูมันคลื่นลูกเก่า ไม่แรงเหมือนคลื่นลูกใหม่แล้วนี่หว่า’  เขาคิดพลางเดินไปตามย่านร้านค้าใกล้บริษัท  เมื่อเดินผ่านร้านขายของกระจุกกระจิกสายตาก็ไปพบกับตุ๊กตาหมีตัวโตเกือบถึงเอวของเขาตั้งอยู่หลังกระจก  เขานิ่งคิดถึงลูกสาวตัวเล็กที่เพิ่งเกิดมาได้เมื่อไม่กี่ปีมานี้  แล้วเขาก็เปิดประตูร้านเข้าไปซื้อมันมา





               เขาเดินถือตุ๊กตาหมีพลางหลบสายตาคนเดินถนนไปยังที่จอดรถใกล้ ๆ กัน  มองหารถยนต์ของเขาและยัดมันลงไปที่เบาะด้านหลังพร้อมแฟ้มเอกสาร  แล้วรถคันนั้นก็แล่นออกไปสู่ถนนที่รถติดยาวเป็นแถว...







               เมื่อเขากลับถึงบ้านก็เกือบทุ่มแล้ว  แม้จะยังหัวค่ำอยู่แต่ลูกสาวตัวน้อยแสนน่ารักกลับหลับไปแล้ว  ผู้เป็นพ่อได้แต่เดินไปลูบแก้มเนียนเบา ๆ และประทับจูบบนหน้าผากของเด็กน้อย





               “รอให้แกกับมือดีกว่าค่ะ  พรุ่งนี้เดี๋ยวฉันชวนแกดูโทรทัศน์รอคุณก็ได้”  ภรรยาเดินอุ้มตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ออกมาจากห้องนอนของลูกสาว  ชายหนุ่มได้แต่พยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินไปอาบน้ำ





    - - - - --- -- - -- - - - --  --  - -- - -- - -- - --  - - --- - - -- - - - - - - - - - -- - - - - -- -  ---- --  --  - -- - - - -





               เมื่อเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเหมือนทุกวันผมก็ตื่นก็ไปทำงานเหมือนทุก วัน...  รอรถติดที่สี่แยกเหมือนทุกวัน...  หาที่จอดรถเหมือนทุกวัน...  เดินเข้าบริษัทไปตอกบัตรเหมือนทุกวัน..  เจอหน้าไอ้หมอนั่นเหมือนทุกวัน..  และทะเลาะกับมันเหมือนทุกวัน...





               โธ่ว้อย! ผมละอยากจะกรีดหน้ามันให้ยับจริง ๆ เลย!  ขอแค่มีมีดคม ๆ สักเล่มละก็..  จะค่อย ๆ เฉือนลงไปบนใบหน้าเย่อหยิ่งจองหองนั่น  จะประณีตเหมือนหั่นเค้กวันเกิดลูกสาว  ค่อย ๆ .. ช้า ๆ ...  รอให้เลือดสีแดงไหลเยิ้มออกมาจากรอยกรีดนั่น  แล้วก็กรีดรอยต่อไป...  ให้เลือดอาบหน้าเ(ห)อี้ย ๆ นั่น  รอฟังถ้อยคำที่มันจะเอ่ยออกมาขอร้อง  ใช่แล้ว... เสียงที่อ้อนวอนของมันคงเป็นเหมือนเสียงสวรรค์เลยละ





               ถ้าทำได้อย่างที่คิด... ก็ดีน่ะสิ!!!





               ผมจำต้องกัดฟันกรอดเมื่อเสียงเยาะเย้ยดังขึ้นข้างหูและติดอยู่ในสมอง  เสียงของไอ้เ(ห)อี้ยนั่นดังกังวานอยู่เรื่อย ๆ เหมือนกับว่ามีใครอัดลงเทปแล้วเปิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า  กระดาษรายงานมากมายที่กองสุมอยู่ตรงหน้าดูขาวโพลนจนทำให้ตาพร่าไปหมด  ให้ตายสิ!  เพราะมันคนเดียวทำให้งานผมไม่เดินเลยแม้แต่นิดเดียวตั้งแต่เช้า!





               ผมจึงยื่นใบลาครึ่งวันและหลบออกมา  เมื่อเดินไปถึงรถที่จอดทิ้งไว้ก็เร่งมันตรงกลับบ้าน  ผมจำเป็นต้องออกจากที่ทำงานให้เร็วที่สุด  ...ก่อนที่ผมจะเผลอไปฆ่าใครเข้า...





               ที่บ้านไม่มีคนอยู่ดังคาด  เพราะแนนมักจะพาลูกไปเดินในสวนสาธารณะแถวนี้เพื่อให้น้ำได้ออกกำลังกายบ้าง  การที่ปล่อยให้เด็กวัยเดินได้แล้วนอนอยู่กับบ้านไม่ใช่เรื่องดีเลย





               ผมเปิดประตูบ้านเข้าไป  ทุกสิ่งทุกอย่างภายในนั้นสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย  ...เพราะแนน  เธอเป็นแม่ศรีเรือนชั้นเยี่ยม  ผมไม่ผิดหวังเลยที่เลือกใช้ชีวิตร่วมกับเธอ





               แล้วผม... กลับมาทำไมกันนะ?





               แค่อยากให้ใจสงบหรือแค่อยากระบายกันแน่?





               พอคิดเรื่องนี้ภาพใบหน้าไอ้เ(ห)อี้ยนั่นก็ลอยมาอีก  รอยยิ้มแบบนั้น.. น่าต่อยให้เลือดกบปากจริง ๆ เลย  ผมเดินไปในห้องนอนตัวเอง  คว้าตุ๊กตาหมีที่เพิ่งซื้อมา  มือที่จิกหัวมันอยู่ด้านชาไร้ความรู้สึกไปนานแล้ว  ขาของผมก้าวฉับ ๆ ไปทางห้องครัวอย่างรวดเร็ว  มีดสีเงินวาววับวางเรียงกันในที่เก็บอย่างสวยงาม ผมไม่รอช้าคว้ามีดเล่มใหญ่สุดมากระชับในมือ





               ปลายมีดคมกริบปาดลงเนื้อนุ่ม ๆ ของตุ๊กตาทันที  แค่แผลเดียวมันไม่สะใจหรอก ใช่... ใช่... จิ้มมีดลงไปแล้วคว้าน ใช่แล้ว... ต้องอย่างนี้สิ  ปาดมีดลงไป... ที่ตาสีดำวาววับนั่นด้วย  ตุ๊กตาอะไร้... ไม่มีชีวิตแต่ตากลับมีประกายซะสวยงาม  สวยนักก็อย่ามีเลย  มีดเล่มเดิมถูกแซะลงไปบริเวณตา  แล้วมือหยาบกร้านของผมก็ควักมันออกมา ใช่.. ตุ๊กตาไร้ค่าอย่างแกมันไม่จำเป็นต้องมีอะไรดี ๆ หรอก  ใช่... ใช่แล้ว...





               ความคุกรุ่นของเพลิงแค้นยังคงเริงระบำในใจผมไม่หยุด  คมมีดกรีดลงเนื้อผ้าของตุ๊กตาหมีอีกนับไม่ถ้วน  ...ไอ้ที่ระบายอารมณ์ชั้นยอด...  มันต้องโดนแบบนี้แหละ  มันสมควรโดน





    - - - - --- -- - -- - - - --  --  - -- - -- - -- - --  - - --- - - -- - - - - - - - - - -- - - - - -- -  ---- --  --  - -- - - - -





               เมื่อพอใจแล้วความรู้สึกคือหมดแรง  เขานั่งลงกับพื้นเหม่อมองเพดาน  วางมีดลงข้างตัว





               ‘เพดานมีแต่ไฟ... แนนติดเพิ่มตั้งแต่เมื่อไรกันนะ ไม่ห็นปรึกษาเราเลย  ไฟเหมือนที่บริษัทเลยแฮะ  กลับมาต้องชมเสียหน่อยแล้ว...’





               “เอกชัย!!! คุณทำอะไรลงไป!!!”  เสียงหนึ่งเรียกขึ้น  ชายพนักงานบริษัทจึงหันไปมองอย่างแปลกใจ ...เขาไม่ได้อยู่บ้านคนเดียวหรอกหรือ??  “คุณฆ่าคนเชียวนะ!!!”





               ‘นั่นมัน... หัวหน้านี่  มาได้ยังไงนะ’  เอกชัยคิด  ‘ว่าแต่ฆ่าคนอะไรกัน??.. ก็เจ้านี่มันตุ๊กตาหมี’





               “สวัสดีครับหัวหน้า  มาหาผมได้ยังไงน่ะ”  เอกชัยยกมือขึ้นไหว้หัวหน้าของตนลวก ๆ ..แต่ทันทีที่มือสัมผัสโดนใบหน้าเขาก็เพิ่งรู้สึกว่ามีของเหลวเปรอะมือตนเองอยู่  ชายหนุ่มรีบมองมือตนเอง





               “เฮ้ย!!! เลือด!!! มันมาจากไหน”  ไม่ใช่เพียงมือ... แต่ตอนนี้เหมือนมีเลือดเปรอะอยู่เต็มตัวเขาเลยทีเดียว  เอกชัยมองไปยังซากตุ๊กตาหมี... หรือตามที่เขาเข้าใจ  เพราะคนอื่นเห็นเป็นร่างไร้วิญญาณของผู้ที่ไม่เคยเป็นมิตรกับเอกชัยเลย  “นี่มัน... อะไรกัน  ผมกำลังฝันหรือ?...”





               “มีใครโทรตามตำรวจหรือยังวะ!!  ไอ้เอกชัยมันเพ้อใหญ่แล้ว เร็วเข้า!!”  เพื่อนที่ทำงานอีกคนหนึ่งร้องขึ้น  “เดี๋ยวมันก็มาฆ่าพวกเราหรอก!!!”





               ‘เอ๋?... มันเกิดอะไรขึ้น  เอกชัยไหน ไม่เห็นจะรู้จัก  ฆ่าหรือ...’





               ชายหนุ่งนั่งงงกับตัวเอง หันมองซ้ายทีขวาทีอย่างเคลือบแคลงใจ  คำถามที่ผุดขึ้นมามากที่สุดในใจก็คือ ...มันเกิดอะไรขึ้น?....





               ไม่นานนักก็มีเสียงลิฟต์ดังขึ้นพร้อมร่างของนายตำรวจกรูกันเข้ามาล้อมรอบร่างเอกชัยและศพสภาพน่าเกลียดน่ากลัว  แผลจากคมมีดมากมายทั่วทั้งตัว  ที่ท้องก็ยังมีแผลเหวอะหวะและลำไส้สีแดงฉานขดอยู่ภายใน  ลูกตาทั้งสองข้างถูกควักออกจากเบ้าเหลือน้ำเหลืองไหลย้อยออกมาราวกับว่ากำลังร้องไห้





    - - - - --- -- - -- - - - --  --  - -- - -- - -- - --  - - --- - - -- - - - - - - - - - -- - - - - -- -  ---- --  --  - -- - - - -





               “ขอสอบปากคำหน่อยนะครับ  ช่วยเล่าถึงเมื่อตอนที่นายเอกชัยลงมือฆาตกรรมได้ไหมครับ?”  นายตำรวจถามพนักงานบริษัทคนหนึ่งผู้ตะโกนออกมาให้เรียกตำรวจ





               “ก็... อยู่ดี ๆ ก่อนพักกลางวันไม่นาน  เอกชัยเค้าก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปหาดำรง  เอ่อ.. ผู้ตายน่ะครับ  แล้วเขาก็จิกหัวดำรงลากไปที่ห้องครัวของบริษัท  ที่จริงมันก็เป็นแค่ห้องเล็ก ๆ ที่มีมุมกาแฟและแซนด์วิชมาขายเท่านั้นแหละครับ”





               “ค่ะ.. ผู้ชายคนนั้นลากผู้ชายอีกคนมาด้วย  เขาตรงมาที่ฉัน  ฉันกลัวมากจนทำอะไรไม่ถูก  สายตาของเขาตอนนั้นอย่างกับเสือแน่ะค่ะ  น่ากลัวมาก”  หญิงอีกคนเอ่ย  เธอเป็นพนักงานขายของร้านคอฟฟี่ช็อปเล็ก ๆ นั่นเอง  “เขาเดินมาคว้ามีดที่ฉันใช้หั่นแซนด์วิชไปแล้วก็...  กรีดมีดลงบน...”





               “พอแล้วล่ะครับ  ขอบคุณในความร่วมมือครับ”  ชายในเครื่องแบบกล่าวเมื่อเห็นหญิงสาวร้องไห้ออกมา  





               วันนั้นทั้งวันบริษัทให้พนักงานกลับบ้านเร็วได้เพื่อความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  พนักงานทุกคนไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี ...แต่ที่แน่ ๆ ...





               พวกเขารู้แล้วว่าการแหย่ให้คนโกรธหรือไปโกรธใครมันไม่จบลงอย่างสวยหรูเลย...





    ...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×