คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : chapter 05 -------- Jaehwan x Sewoon ❤ (Special)
✐ #Special
part : Jaehwan x Sewoon
[
Kim Jaehyun ]
“ พวกมึง อาทิตย์หน้าน้องปี1 จะมาแล้วนะเว้ย”
เสียงตะโกนลั่นมาแต่ไกลของแดเนียล
คนหล่อหัวชมพูประจำกลุ่มที่ถือจานข้าวพูนจานมาอย่างร่าเริงแล้วยกยิ้มตาหยีตามสไตล์ของมัน
ผมเงยหน้าเบนความสนใจจากข้าวไปสนใจกับประโยคที่มันบอก
รวมถึงทุกคนในกลุ่มก็ดูตื่นเต้น
“ จริงเหรอวะ เป็นโอกาสดี ที่กูจะได้มีแฟนสักที”
ซองอูเพื่อนที่มีขี้แมงวันสามจุดบนใบหน้าเอามือลูบคางทำหน้ากรุ้มกริ่มคิดอะไรบางอย่าง
“ เอาไปเลย กูขอบาย กูไม่ชอบเด็ก” ซังกยุนพูดเสียงแข็ง
ยิ่งเกลียดเธอยิ่งเจอรักมึงไม่เคยได้ยินเหรอ
“ แต่กูว่า เกลียดยังไงก็ได้อย่างงั้นนะมึง”
ดงโฮแซวพร้อมตักข้าวเข้าปากคำโต
ผมดีดนิ้วเพราะเห็นด้วยอย่างยิ่งในคำพูดของดงโฮ
แต่ซังกยุนเอาแต่ส่ายหน้า “ ก็กูไม่ชอบ ไม่ชอบมันก็ไม่มีทางได้ป่ะวะ
ไร้สาระพวกมึงอะ”
“ อย่างพวกมึง พวกมึง พวกมึง พวกมึงเนี่ย” มินฮยอนชี้นิ้วมาที่ดงโฮ
ซังกยุน ซองอู แดเนียล “กูไม่ได้เชียร์ให้ได้เด็กหรอก
กูเชียร์แจฮวานมัน” ก่อนจะขยิบตาให้ผม ขนลุกเลยเว้ยไอ้เหี้ย
ถ้ามึงไม่ได้คุยกับพี่ฮยอนบินอยู่นะกูก็นึกว่ามึงทอดสะพานให้กู
“ โห ไรวะ กูก็อยากมีแฟนเด็กบ้างนะเว้ย” แดเนียลโวยวายใหญ่
“ คนตายด้านอย่างไอ้ผู้ใหญ่มันจะชอบใครวะมึง” แล้วหันมาแว้งกัดผม
“ น้อย ๆ หน่อย ไอ้แดน กูไม่ได้ตายด้าน แต่กูคิดว่ามองควายมองวัวยังสวยกว่าผู้หญิงเฉยๆ”
“ มึงก็ไม่ต้องหาแฟนเป็นผู้หญิงสิวะ” ซองอูเสนอ ไอ้ห่า...กูขนลุก
“ มึงก็เอาเองสิวะ ไม่ต้องหวังดีให้กู ฟังชัดๆ กู......ไม่....มี.....ทาง.....ชอบ.....ใคร!!!!!!” ผมลั่นวาจาออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจ
มีแฟนเป็นควายยังดีกว่ามีแฟนเป็นคนครับ อย่างน้อยการอยู่กับควายมันก็ทำให้สบายใจมากกว่าน่ะ
ผม ‘คิมแจฮวาน’ นักศึกษาสัตวแพทย์ปี 2 ที่วันๆจมอยู่กับกองหนังสือและกีต้าร์
นอกจากผมจะเข้าออกห้องสมุดเป็นว่าเล่นแล้ว(อาจารย์ให้ใบปั๊มแลกกับคะแนนในวิชาน่ะครับ)
ก็ยังเจียดเวลาอันน้อยนิดออกมาซ้อมกีต้าร์
ไม่ได้ไปซ้อมที่ไหนไกลหรอกที่ห้องผมนี่แหล่ะ
วันดีคืนดีผมก็บังคับเพื่อนในกลุ่มให้มานั่งฟังบ้าง
อาสาออกไปร้องเพลงตามงานมหาลัยบ้างในคณะบ้าง รับทุกจ๊อบที่ได้เงินอะ
ไม่ได้เงินก็เอาอยากแหกปากเล่นๆ ตามประสาคนเสียงดี
แบบนี้ถึงทำให้ผมไม่มีเวลาออกไปหาสาวมาเป็นลูกสะใภ้ให้อีพ่อ เอ๊ย
คุณพ่อสักที ก่อนจากบ้านนามาพ่อได้สั่งความไว้ว่า ‘ ถ้าเอ็งไม่ได้ลูกสะใภ้มาให้ข้าก็ไม่ต้องกลับบ้านมาให้เห็นหน้า’
โธ่พ่อ.. ผมบอกตรงๆนะ
ให้ผมมองวัวมองควายที่บ้านยังจะเจริญหูเจริญตามากกว่าอีกนะ หาลูกสะใภ้นะยากกว่าเอาเกรดAทุกตัวมาประดับใบ transcript ซะอีก(พูดก็พูดเถอะนี่ 4.00 ของคณะนะครับ)
จะให้จีบเพื่อนในคณะตัวเองก็จนใจ ก็มันรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว ใคร ๆ ก็ต่างว่าสาวสัตวแพทย์ถึกบึกบึนกันยิ่งกว่าผู้ชายเสียอีก
นั่นคือความจริงครับ ผู้หญิงตัวบางๆคนอื่นอาจจะยกแพ็คน้ำคนเดียวไม่ไหว แต่สาว ๆ
คณะผมไหวครับแถมยกทีเดียว2แพ็ค ยิ่งเรื่องล้มวัวไม่ต้องพูดถึงล้มได้อย่างง่ายดาย
ให้ออกไปไล่จับควายคนเดียวก็เคยเห็นมาแล้ว จูงม้าตัวสูงท่วมหัว เคาะกลีบให้ม้าเอย
โอ๊ยสารพัด
(
แทรกนิดนึง ล้มวัว คือ การจับบังคับสัตว์อย่างหนึ่งในงานในสัตวแพทย์เพื่อให้ทำงานสะดวกและปลอดภัยทั้งตัวคนและสัตว์ จะล้มด้วยมือเปล่าก็ได้ หรือมีเชือกไว้ช่วย และทำเพื่อเอาไว้ปฏิบัติงาน
เช่น ตรวจโรค รักษาโรค ฉีดวัคซีน ทำหัตถการต่าง ๆ เป็นต้น )
ผมนั่งเท้าคางฟังบรรยายวิชาจิตวิทยาของ อาจารย์อีทึก
อย่างเซ็ง ๆ นอกจากวิชานี้จะงานเยอะแล้วผมต้องมานั่งฟังประโยคน่าเบื่อซ้ำ ๆ ทุกคาบ
แค่คิดว่าทำไมต้องเรียนด้วย
หมาแมววัวควายไม่ได้มาปรึกษาปัญหาชีวิตกับผมในอนาคตสักหน่อย เมื่อไหร่จะหมดชั่วโมงวะ
จะรีบกลับไปนอนกลางวัน เมื่อคืนนอนไม่พอ ต้องมานั่งตบยุงรอดงโฮกับซังกยุนซ้อมว้ากอีก
ถ้าไม่เห็นแก่ข้าวฟรีก็คงไม่ไปให้ทรมานตัวเอง
ครืน ครืน ครืน ~
ผมคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู ปรากฏเป็นไอ้แดนที่โทรมา ผมรีบขออนุญาตอาจารย์อีทึกออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก
เอ้า สงสัยล่ะสิ ทำไมเป็นเพื่อนกันถึงไม่ลงเรียนด้วยกัน
ก็ไอ้พวกห่านี่จะลงเรียนอะไรไม่เคยปรึกษากันเลยครับ ลงกันฟรีสไตล์
แล้วมาลุ้นเอาว่าวันนี้จะได้เจอใครบ้าง วันนี้ผมเรียนกับซองอู 2 คน
ที่เหลือก็เรียนคนละวิชา
“ ฮัลโหล..แดน มึงมีอะไรวะ กูกำลังเรียนอยู่”
( ผู้ใหญ่...กูวานมึงหน่อยดิ ช่วยอะไรกูอย่าง )
“ ไอ้ห่า บอกแล้วว่าหยุดเรียกกูว่าผู้ใหญ่สักที กูไม่ช่วยมึงหรอกมึงพูดไม่เข้าหูกู”
( เฮ้ยยยย มึงต้องช่วยกู มีแต่มึงเท่านั้นที่ช่วยได้นะๆ )
“ ช่วยอะไร ถ้าช่วยได้กูก็จะช่วยนะ ”
( เรื่องนี้มึงช่วยได้แน่นอน มึงช่วยไปเป็นพี่แฝงวันรับน้องช่วยกูหน่อยดิ
)
“ ฮ่ะ ไอ้แดน อย่างกูเนี่ยนะจะไปเป็นพี่แฝง ก่อนมึงจะให้กูช่วยมึงคิดหน้าคิดหลังก่อนป่ะวะ
หน้ากูแก่ขนาดนี้ใครเขาจะไปเชื่อ ”
( กูเชื่อว่ามึงทำได้ ตกลงนะ กูจะได้ลงชื่อให้มึง)
“ กูขอคิดก่อนได้มั้ยวะ แค่นี้นะ คนจะร่ำเรียนหนังสือ”
( เออไอ้คนขยัน แล้วให้คำตอบกูตอนเย็นนะมึง)
ผมวางสายจากแดเนียลแล้วกลับเข้ามานั่งเรียนในห้อง ซองอูที่นั่งจดตามอาจารย์อยู่ก็หันมาถามว่ามีเรื่องอะไรกัน
พอผมบอกไปมันก็ขำก๊ากจนอาจารย์อีทึกหันมามองแรงใส่ จนพวกเราต้องลระดับเสียงลง
“ อย่างมึงเนี่ยนะ จะไปเป็นพี่แฝงน่ะ ฮ่า ๆ ” ซองอูจ้องหน้าผม
เอือมมือมาจับใบหน้าผมพิจารณาซ้ายขวา
กูว่าไปเป็นผู้ใหญ่บ้านง่ายกว่านะ ห่าจะไปเป็นเด็ก18 ใครเอาส้นตีนคิดเนี่ย
ซองอูคิดในใจ
“ กูไปถามเพื่อนมึงดูสิ ทำไมถึงเลือกกู ”
ผมเคืองมากเลยนะ แกล้งกันเปล่าวะจะให้ผมไปเป็นพี่แฝงเนี่ย
เด็กที่ไหนจะไปเชื่อกูวะ
“ เอาส้นตีนเลือกมั้ง กูว่า”
ไอ้ซองอู ไอ้ห่า....
หลังเลิกเรียน ผมกับซองอูลงมาพักเที่ยงกินข้าวกันที่โรงอาหาร
วันนี้เป็นวันที่แดเนียลบอกว่าน้อง ๆ จะเข้ามารายงานตัวพร้อมสัมภาษณ์กัน ซองอูมันก็ชวนผมแว๊บไปแอบดูหน้าน้องๆปี
1 เผื่อจะมีใครเหมาะเป็นแม่ของลูกบ้าง
โธ่...ใครจะเอามึง
“ อ้าว ผู้ใหญ่บ้าน ไหนบอกไม่สนใจน้องไง” มินฮยอนที่เห็นหน้าผมก็แซวใหญ่
“ กูไม่ได้อยากมา แต่ไอ้อ๋งลากกูมา” ผมชี้ไปที่ซองอู
ที่กำลังชะเง้อคอมองดูน้องๆอยู่
“ แล้วไอ้พวกพี่ว้ากล่ะ”
“ พอเรียนเสร็จ แม่งก็หายเข้ากลีบเมฆเลย กูเลยมาคนเดียวเนี่ย” มินฮยอนพูดด้วยท่าทีหง่อย
ๆ ที่โดนปล่อยทิ้งให้มาคนเดียว
“ กูบอกเลย ปี1
ปีนี้น่ารักๆทั้งนั้น” ซองอูพูดขณะที่ยังมองอย่างไม่วางตา
โคตรเหมือนคนแก่โรคจิตมาเล็งเด็กเลยแฮะ
“ เก็บน้ำลายมึงด้วยอ๋ง อย่าหื่นใส่น้องให้มาก” มินฮยอนแขวะ
พูดได้โคตรตรงใจเลยฝ่าบาท
“ หื่นเหี้ยไร กูแค่เอ็นดู” ไม่พูดเปล่ามือก็ปาดน้ำลายด้วย
นั่นไงมึงหื่น..
“ เล็งตามสบายนะ
กูไปกินข้าวแล้ว หิว” ผมบอกก่อนจะเดินดุ่มๆ รีบไป
ตอนนี้ไม่สนอะไรทั้งนั้นนอกจากกินข้าวแล้วล่ะ
“ อ้าวเฮ้ยไอ้ผู้ใหญ่บ้าน รอกูก่อน กินด้วยยยยย”
ซองอูตะโกนไล่หลังมาพร้อมกับวิ่งให้ทันตัวผม
“ ขอทางด้วยครับ” เด็กผู้ชายเสื้อขาวกางเกงน้ำตาลคนหนึ่ง
วิ่งผ่านตัวผมไปด้วยความไวแสง ทำให้ต้องเหลี่ยวหลังไปดู รีบหาพระแสงเหรอน้อง
ด้วยความที่รีบวิ่งมากจนทำให้เดินชนประตู
น้องหันหน้ามามองซ้ายมองขวาว่ามีคนมองอยู่ไหม ก่อนจะผลักประตูเข้าไป วินาทีที่น้องหันหน้ามาเป็นวินาทีที่ผมเห็นหน้าน้องชัดเจนขึ้น
ด้วยท่าทางโก๊ะ ๆ มันให้ผมมองว่าน้องน่ารัก
처음 본 그 순간 내겐
แต่วินาทีที่พบเจอกับคุณครั้งแรก
심장이 멎을 것 같은 미소가
รอยยิ้มของคุณทำหัวใจผมหยุดเต้น
날 얼어붙게 했다고
คุณทำให้ผมแน่นิ่งไปเลย
ถ้าวันนั้นไม่พูดคำว่า กู......ไม่....มี.....ทาง.....ชอบ.....ใคร!!!!!! ก็คงดี และขอถอนคำพูดด้วยว่ามีแฟนเป็นควายยังดีกว่ามีแฟนเป็นคน
แค่ประทับใจไม่ถึงกับชอบหรอก
ตอนเย็นผมรีบต่อสายไปหาแดเนียลเพื่อตกลงว่าจะเป็นพี่แฝงทันที
ไอ้ผมชมพูมันก็คาดคั้นว่าอะไรทำให้ผมตกลงได้รวดเร็วขนาดนี้
ตอนแรกกะจะไม่บอกความจริง แต่มันก็คาดคั้นจะเอาคำตอบจนผมหลุดปากบอกไป
มันก็ล้อผมใหญ่ว่าในที่สุดคนตายด้านอยางผมก็มีความรัก
เหนื่อยจะเถียงแล้วแค่บอกว่าประทับใจไม่ได้บอกว่าชอบ
เมื่อวางสายไม่นานไลน์กลุ่มก็เด้งทันที ไอ้แดนโคตรปากโป้งว่ะ -______-
Def Daniel : มึงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
กูมีข่าวล่ามาบอกครับเพื่อน
Hero DongHo : ข่าวอะไรวะ พิมพ์ไวๆ กูอยากรู้
S.Sunggyun : + 100000000000
Kim JaeHwan : น้อย ๆ หน่อยไอ้แดน เดี๋ยวจะโดน!!!!!
OngOng : โอ๊ะโอ
มีคนร้อนตัวครับเพื่อน
Minminhyun : เรื่องผู้ใหญ่มันชัวร์ ร้อนตัวขนาดนี้
Def Daniel : ถูกต้องครับ ฉลาดมากเด้อมินฮยอน
Minminhyun : ทำไมซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้วะ
* สติ๊กเกอร์หงุดหงิด*
S.Sunggyun : เล่ามาแดน กูอยากรู้แล้ว
OngOng : เมื่อกลางวัน
นั่งข้างกูทำเงียบเชียวนะแจฮวาน
Kim JaeHwan : ก็กูกินข้าวอะ
OngOng : กูรู้นะ
อย่าคิดว่ากูไม่รู้ มึงมองน้องคนนั้นนานมาก...
อุ๊บบบบบ
หลุด
โทษทีมึงคีย์ลั่น
Hero DongHo : เชรดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กูกินน้ำอยู่พุ่งใส่หน้าไอ้ซังกยุนเต็ม ๆ เลยว่ะ
มึงรีบมายืนยันเร็วแดน ทำไรอยู่
S.Sunggyun : แม่ง กูโคตรซวยเพราะมึงเลยผู้ใหญ่
Kim JaeHwan : เกี่ยวอะไรกับกูครับ พวกมึงแม่ง....
Def Daniel : กูไปสั่งข้าวมา ไม่นึกว่าฟีดแบคจะดีขนาดนี้
อ่านให้ชัด ๆ เลยนะว่า
คิมแจฮวานชอบน้องปี 1 ครับพวกมึง
เดี๋ยวกูแปะรูปให้ด้วย
Hero DongHo : เห็นรูปน้องแล้วกูง่วงว่ะ
Def Daniel : +1
Kim JaeHwan : กูไม่ได้บอกว่าชอบ แค่บอกว่าประทับใจ
S.Sunggyun : ประทับใจ = ชอบครับเพื่อน
Minminhyun : อ๋ออออ
ใครวะบอกว่ามองควายมองวัวยังสวยกว่า...
Kim JaeHwan : กูบอกว่ามองควายมองวัวยังสวยกว่าผู้หญิง
ไม่ได้บอกว่าผู้ชายซะหน่อย
S.Sunggyun : ถุยยยยยยยยยยยยยยยยย
อ่อนว่ะแจฮวาน โคตรแพ้ภัยตัวเอง
ดูอย่างกูนี่ บอกไม่ชอบ ไม่เอา คือไม่เว้ย
กูคนจริง
Def Daniel : คนจริงบ้านกูตายหลายรายแล้ว
Hero DongHo : +1
อย่าให้กูเห็นว่าไปตามจีบเด็ก
จะล้อยันลูกบวช
S.Sunggyun : ถ้ากูจีบเด็กนะ
กูยอมวิ่งแก้ผ้าร้อยรอบเลยครับ
OngOng : จัดไปครับ อยากเห็นพี่ว้ากวิ่งแก้ผ้า
วันรับน้อง
ผมตื่นแต่เช้ามาอาบน้ำแต่งตัวด้วยความอารมณ์ดี
จากที่เคยซ้อนบิ๊กไบท์ซังกยุนไปเรียน ผมก็ต้องเปลี่ยนมาเดินเท้าไปแทน
อยากจะร้องไห้ครับ ตึกคณะมันไกลจากหอผมมาก ระหว่างทางเดินไปก็เจอเด็กปี 1 เต็มไปหมด
ด้วยความที่ผมมนุษย์สัมพันธ์ไม่ค่อยดีก็เลยไม่ทักใคร แม้บางคนจะส่งสายตาอย่างเป็นมิตรมาให้ผมก็เถอะ
เมื่อไปถึงผมขยิบตาให้เพื่อนทีนึง ผมไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันกับน้องคนนั้นเพราะกลัวว่าจะมีพิรุธ
ไอ้เพื่อนเลยบอกว่าจะพาไปเข้ากลุ่มน้องตอนพักเที่ยงแล้วกัน
นี่คือแผนการณ์ของไอ้แดนครับ ผมว่ามันไม่ได้ช่วยผมหรอกมันช่วยตัวเองมากกว่า อุ้บบบ
อย่าคิดลึกนะ น้องคนที่มันแอบชอบดูเหมือนจะเป็นเพื่อนกับเซอุน ผมรู้ชื่อน้องจากการแอบมองเจ้าตัวนั่นแหล่ะ
“ เดี๋ยวพวกพี่นั่งด้วยนะน้อง” ไอ้แดนเดินเข้าไปแทรกตรงกลุ่มของเป้าหมายทันที
“ นี่ให้เพื่อนนั่งกินข้าวด้วย” พูดจบก็ดันตัวผมให้นั่งลงข้างเซอุน
ดูเหมือนน้องอูจินที่แดนมันชอบจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เห็นหันมาค้อนให้หลายทีแล้ว
งานช้างแล้วมึงจะจีบเด็กนี่ ส่วนเซอุนก็เขยิบที่ให้ผมนั่งด้วยอย่างว่าง่าย
ทุกคนดูไม่สงสัยอะไรผมเลย เยี่ยม !
“ สวัสดี เรา คิมแจฮวาน
นะ ฝากเนื้อฝากตัวฝากหัวใจไว้ด้วย”
ผมโปรยยิ้มไปสุดฤทธิ์ก่อนจะหยุดไปสบตากับน้องเซอุน เซอุนชะงักนิดนึงก่อนจะยิ้มตอบ
“ เจอกันอีกแล้วนะ อูจิน” ไอ้แดนที่แทรกตัวลงไปนั่งข้างๆเด็กของมันได้ก็หันหน้าไปทักทายเจ้าตัวเล็กอูจิน
แต่อูจินก็ชักสีหน้าใส่ สงสัยจะนกว่ะ
“ อย่าจีบกันดิพี่ พวกผมอิจฉานะ” ไอ้เด็กที่ป้ายชื่อบอกว่าชื่อซอนโฮแซว
“ เงียบไปเลยซอนโฮ” อูจินตะหวาดเพื่อน
“ พักเรื่องจีบกันไปก่อนนะพี่ว่า
ไหนน้องๆชื่ออะไรกันบ้าง พี่ชื่ออ๋งนะ ส่วนนี่ไอ้หมี” ซองอูเริ่มแนะนำตัวก่อน
พร้อมกับแนะนำเพื่อน ผมเกลียดชื่อแฝงของพวกมันนี่แหล่ะ ตั้งมาได้อ๋งกับหมี
ส่วนผมตอนแรกพวกมันจะไม่ให้ใช้ชื่อจริงกัน
แต่ก็โดนผมขู่ว่าจะไม่เป็นพี่แฝงแล้วพวกมันเลยหยุด
ขืนใช้ชื่อแต่ละชื่อที่พวกมันตั้งให้นะ ก็อายเขาตายเลย น้อง ๆ
ก็ทยอยแนะนำตัวทีละคน ผมที่จำหน้าคนยาก
มนุษย์สัมพันธ์แย่ก็พยายามจำชื่อกับหน้าแต่ละคนไว้
นี่จะเป็นกลุ่มที่ผมอยู่ด้วยจนจบรับน้องแน่ๆ เพราะมีเซอุน..
อะไรหมั่นไส้ผมเหรอ ก็เรื่องของคุณสิ
ผมไม่ได้เป็นพี่แฝงคนเดียวหรอกนะ
มีชีฮยอน มินกิ ฮักนยอน ฮยองซอบ คัดมาแต่ละคนหน้าเด็ก ๆ กันทั้งนั้น
ยกเว้นผมนี่แหล่ะ หน้าแก่เป็นชายวัย30คนเดียว งานของพี่แฝงก็คือทำให้เด็ก ๆ ปี 1 สนิทกัน
ทุกคนห้ามรวมตัวกัน ให้แยกไปอยู่กลุ่มต่าง ๆ พอจบงานก็เฉลยแล้วแยกย้าย อันที่จริงมันก็ดีนะ
แต่ถ้าเด็กปี 1 คนนั้นมีเพื่อนสนิทที่ไว้ใจเป็นพี่แฝงหมด
นั่นแหล่ะคือความซวยมหันต์ ความซวยอีกอย่างคือน้องจะพาลโกรธเอาน่ะสิ
ซึ่งผมกลัวว่าถ้าผมสนิทกับเซอุนไปมากกว่านี้
พอเฉลยเซอุนจะเกลียดผมเอา แม้จะคุยกันถูกคอกันแค่ไหน ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยผมก็ควรจะรักษาระยะห่างให้มาก
ยิ่งพอเจ้าโปเนียวรู้ว่าผมอยู่หอเดียวกัน แถมชอบกีต้าร์เหมือนกัน
ก็ชอบมาขลุกอยู่ห้องผมประจำ แม้ว่าเราจะรู้จักกันแค่ไม่กี่วันก็ตาม
เจ้าตัวแชร์เรื่องราวต่างๆ ในชีวิตตัวเองให้ผมฟังเยอะมาก เซอุนมีความฝันอยากจะเป็นนักร้องเคยไปออดิชั่นตามรายการร้องเพลงมาแล้วด้วย
แต่ไม่ติด มาเรียนคณะนี้เพราะแม่ขอร้องถ้ายอมเรียนจะให้ไปออดิชั่น
งานอดิเรกชอบแต่งเพลง อยากเป็นประธานค่ายเพลง ชอบกินอะไร ชอบสีไหน ผมรู้หมดแหล่ะ
เจ้าตัวอาจจะไม่ได้ตั้งใจบอก แต่ผมน่ะจำได้ จะบอกให้ว่าผมไม่มีพิรุธหรอก
ของทุกอย่างที่น้องจะสงสัยผมเอาไปสุมไว้ที่ห้องซังกยุนหมดแล้ว
แม้มันจะบ่นหน่อยก็ตาม
“ พี่รหัสอูจินดีจังเนอะแจฮวาน
ส่งขนมมาให้ทุกวัน ฉันอิจฉาจัง”
เซอุนพูดในขณะที่เจ้าตัวนอนคว่ำเอามือเท้าคางอยู่บนเตียงผม ผมได้แต่ทำหน้าเจื่อน ๆ
แทนคำตอบ
ถ้าเซอุนรู้ว่าพี่รหัสอูจินเป็นใครจะไม่อิจฉาเลยนะจ๊ะพี่ว่า...
“ เราไม่เห็นมีพี่รหัสมาเทคเลย ” เซอุนทำหน้าจ๋อย
ความจริงผมก็ไม่รู้ว่าพี่รหัสเซอุนเป็นใคร
แต่พอเห็นเจ้าตัวทำหน้าจ๋อยก็ปลุกความเป็นสายเปย์ตัวผมเลย
ไม่เป็นไรอีหนู
เดี๋ยวพี่แจฮวานคนนี้เปย์เองนะคะ
“ เราก็ไม่ได้เหมือนกัน ไม่แน่นะ
พรุ่งนี้พี่เขาอาจจะส่งขนมมาให้ก็ได้” พยายามพูดปลอบใจเจ้าตัว
จนคนที่อยู่เตียงยิ้มออกมาได้ ผมรีบเข้าไลน์ไปฝากความกับไอ้เพื่อนเกลอทันที
พร้อมกับโอนเงินในบัญชีไปให้แม่งอย่าวเร่งด่วน
ก็ถ้าไม่โอนมันก็จะไม่เทคน้องให้ผม ไม่รู้แม่งพูดเล่นหรือเปล่า
กลัวน้องนอยด์ใส่อีกงานนี้ต้องทุ่ม
“ แจฮวาน เราได้ขนมแล้ว”
เซอุนวิ่งถือกล่องขนมกล่องใหญ่มาหาผมที่กำลังยืนไอติมด้วยความเอร็ดอร่อยอยู่กับเจ้าพวกเพื่อนเขา
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเซอุนกับขนมกล่องให้ทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างพอใจ
เป็นจังหวะเดียวกับที่มินฮยอนหันมาขยิบตาให้ ผมก็พยักหน้าให้แทนคำตอบ
ทำดีมากพวกมึง
“ ได้ทีกล่องใหญ่เลยเหรอ
พี่รหัสโคตรป๋าเลยอะ”
“ อิจฉานะเนี่ย
พี่ฉันให้ทุกวันไม่เห็นได้กล่องใหญ่แบบนี้เลย”
“ อูจินไม่ต้องอิจฉาหรอก
มีคนเทคแคร์เป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วนี่นา”
“ บ้าพวกนายอะ”
“ เอามาแบ่งกินบ้างเด่”
“ ตะกละมากซอนโฮ นี่ของเพื่อน”
“ เมื่อวานเพิ่งบ่นไปเอง
วันนี้ก็ได้ขนมเลย แปลกใจแฮะ”
“
ก็บอกแล้วไงว่าพรุ่งนี้พี่เขาจะเอามาให้”
ความจริงคือ พี่เปย์เอง
ขอโทษที่พี่ต้องพูดปลดทุกวัน นรกจะกินกระบาลพี่แล้ว
“ คุณแจฮวานครับ บอกความรู้สึกที่คุณได้เข้ารับน้องรอบ2หน่อยสิครับ” ซองอูยื่นไมค์มาจ่อที่ปากผม
ในขณะที่ผมก็แอบลอบมองท่าที่ของเซอุนตลอด ผมคว้าไมค์มาใกล้ตัวก่อนจะพูดออกไป
“ สวัสดีครับ พี่คิมแจฮวาน ปี2 แฮะๆ” เกาท้ายทอยตัวเองหน่อยแก้เขิน
ตาก็มองเซอุนตลอดไม่วางตา
“ ก่อนอื่นพี่ต้องขอโทษน้อง ๆ
ด้วยที่หลอกไว้หลายคน....” พูดจบก็ทิ้งช่วงมองดูปฏิกิริยาเซอุน
แถมไอ้เด็กกลุ่มเซอุนก็จ้องผมเป็นตาเดียวเลยครับ พี่ทำผิดอะไรมันคือหน้าที่ครับ
แต่เห็นว่าเซอุนก็มองกลับมาจึงพูดต่อ
“ พี่ไม่ได้ตั้งใจหลอกนะ จริงๆนะ สาบาน
พี่แค่อยากให้น้อง ๆ มีเพื่อน คิดซะว่าพี่ทำให้เจอเพื่อนก็แล้วกันนะ ขอบคุณน้อง ๆ
หลายคนที่ทำให้พี่มีความทรงจำที่ดี” พยายามพูดให้ไอ้เด็กพวกนั้นเลิกตาเขียวใส่ผมสักที เห็นแล้วขนลุกเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อกัน
ยิ่งไอ้เด็กซามูเอลยิ่งจ้องหนักเลย มันคงแค้นที่มันจะได้วิ่ง50รอบกระมัง ช่วยไม่ได้นะครับ มึงลั่นวาจาเอง
“ พูดซะหล่อเชียวมึง หว่านเสน่ห์เหรอ”
องอูพูดขัดจังหวะ ผมอยากจะหันไปถีบให้ แต่ไอ้ซองอูหลบทัน
ไม่กวนกูสักวันได้มั้ย
“ อย่าขัดกู ขอพูดให้จบก่อน....ขอให้น้องๆ ทุกคนใช้ชีวิตปี1ให้ดี ตั้งใจรับน้อง
แล้วก็ไม่มีพี่ขอให้ดูแลตัวเองให้นะ” ประโยคสุดท้ายนี่ตั้งใจส่งให้เซอุนเลย เซอุนมองผมนะแต่ก็นิ่ง น้องด่าพี่ก็ได้แต่อย่านิ่งใจพี่ไม่ดี
“ ถุยยยยย อย่างหล่อ”
“ ไอ้เหี้ยอ๋ง จบแค่นี้ครับ
พี่ขอตัวไปเตะปากเพื่อนก่อน” ผมยื่นไมค์ให้คนต่อไป
แล้ววิ่งไล่ถีบไอ้องอูอย่างเอาเป็นเอาตาย วันนี้แหล่ะกูจะฆ่ามึง
คนกำลังจะพูดให้น้องเข้าใจแท้ ๆ
พอเลิกกิจกรรมผมกวาดสายตามองหาเซอุน
พอไม่เจอก็เดินไปถามอูจิน น้องก็บอกเซอุนกลับไปแล้ว ผมจึงเดินคอตกไปซ้อนมอไซต์ไอ้ซองอูกลับหออย่างเลี่ยงไม่ได้
ระหว่างทางก็ไอ้ซองอูก็เปิดเพลงเศร้าคลอไปด้วย เปิดไม่พอแถมร้องเชิงกระเซ้าเย้าแหย่อีก
อยากจะถีบมันตกรถเหลือเกินแต่ก็กลัวตัวเองจะล้มไปด้วย กลัวตายครับ
“ เศร้า เป็นหมาหงอยเลยครับเพื่อนแจ” ซองอูหันหน้ามาคุยกับผม
“ มึงหันไปเลย กูกลัวตาย” ทุบหลังมันทีนึงให้มันหันไปมีสมาธิกับการขับรถก่อน
“ ไม่ต้องเศร้า เดี๋ยวกูพาไปกินเหล้ากับไอ้ยองมิน
วันนี้ไอ้แดนเลี้ยง”
“ แล้วไอ้แดนมันไม่ไปเฝ้าเด็กหรือไง”
“ ใครจะไปเฝ้าล่ะครับ ขืนไปตอนนี้ก็เจอสายตาอาฆาตสิ”
“ เออเนอะ แบบกูกับเซอุน”
“ พวกมึงแม่งคนบาปก็งี้”
ซองอูว่าจบก็ร้องเพลงต่ออย่างอารมณ์ดี ลืมไปหรือไงมึงว่ามันเป็นเพลงเศร้า
อยากจะเอือมมือเอาโทรศัพท์ของมันมาปาทิ้งให้สิบล้อเหยียบเล่น ๆ จริง ๆ
เวลาผ่านไปได้2อาทิตย์หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้คุยกับเซอุนอีกเลย
ได้แต่ส่งโน๊ตสอดใต้ประตูทุกวัน ซื้อน้ำ ซื้อขนม ไปห้อยไว้ที่ประตูห้องก็แล้ว
มีหลายครั้งที่เจอกันตามตึกเรียนบ้าง โรงอาหารบ้าง จะเข้าไปทักก็เดินหนีตลอด แถมตอนนี้เซอุนก็ไปสนิทกับยองมินเพื่อนคณะวิศวะ
สนิทสนมกันออกหน้าออกตามาก ตอนนี้สภาพผมเหมือนหมาหง่อย โคตรจะคอตก
นั่งเรียนอยู่ก็ไม่มีสมาธิ จน อาจารย์คยูฮยอน ที่สอนวิชา Anatomy ก็แปลกใจที่คนเรียนเก่งอย่างผมตอบคำถามผิด ๆ ถูก ๆ ตลอด อาจารย์ก็เพ่งเล็งจะถามแต่ผมจังเลย
จนตอนนี้แทบจะสนิทกับอาจารย์ไปแล้ว เมื่อบ่ายอาจารย์ยังชวนเข้าแก๊งค์เล่นเกมอยู่หยก
ๆ ผมที่ไม่ได้เล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจก็ได้แต่ส่ายหัวปฏิเสธและยืนมองดูอาจารย์คนเก่งที่เล่นเกมอย่างคนเซียนให้ดูด้วยความงง
ลืมภาพอาจารย์จอมเฮี้ยบที่ทำให้นักศึกษากลัวตัวสั่นในคาบไปได้เลย
ดงโฮก็หาว่าโง่ ซังกยุน ซองอูก็คอยแซวทุกวันว่านก
ๆ เพื่อนผมรักผมจะตาย มีแต่พ่อพระอย่างมินฮยอนที่คอยปลอบใจ
ผมได้แต่อิจฉาความสัมพันธ์ของแดเนียลกับน้องอูจินที่ดูเหมือนจะพัฒนาขึ้นในทุกๆวัน
ก็ไอ้แดนมันบอกว่าพัฒนา แต่ผมมองทีไรก็เหมือนเดิมเพียงแต่คนตัวเล็กยอมพูดดีๆกับมัน
ไม่ชักสีหน้าใส่กับมีท่าทีรำคาญก็เท่านั้น ไอ้แดนก็โคตรจะตื้อเลย
หลังเรียนเสร็จก็คอยตาเฝ้ารับส่งประจำ น้องอูจินไม่เคยกลับพร้อมมันหรอก
แต่แม่งก็โคตรพยายาม หยอดนิดหยอดหน่อยก็เอา ผมเห็นแบบนี้ก็มีไฟ อยากพยายามบ้าง งานเฟรชชี่เดย์&ไนท์ที่จะถึงนี้ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ
อย่างน้อยให้เซอุนยอมคุยกับผมก็พอ
ʕ•ᴥ•ʔ - - - - -
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - ʕ•ᴥ•ʔ
[Jung
Sewoon ]
“ ไม่ไหวแล้วเว้ย”
ซามูเอลที่ตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อนอนแผ่ลงข้าง ๆ ผม ผมยื่นน้ำเย็นไปให้
เจ้าตัวเอามาดื่มด้วยความกระหาย แล้วจงเอามารดตัวเพื่อดับความร้อนในร่างกาย
“ อีกแค่ 25 รอบเอง เดี๋ยวก็ครบ50รอบแล้ว” ยกยิ้มให้เพื่อปลอบใจเพื่อน
“ ก็นายไม่ได้มาวิ่งกับเราด้วยนี่เซอุน”
“ แต่ฉันก็มาเฝ้านี่ไง”
“ เพราะไอ้พี่แจฮวานคนเดียวเลย ฉันต้องเหนื่อยแบบนี้”
คนหน้าฝรั่งบ่นอุบพร้อมกับกำหมัดแน่นด้วยความแค้น ก็เห็นมันบ่นแบบนี้ทุกวัน
แต่พอเจอหน้าก็ไม่เห็นจะทำอะไรเขาสักที ผมได้แต่ถอนหายใจ
ผมแอบสงสารซามูเอลที่เคยลั่นวาจาไว้ว่าถ้าแจฮวานเป็นพี่แฝงจะยอมวิ่งรอบสนามฟุตบอล50รอบ
วันนี้ผมก็เลยต้องมาเป็นฝ่ายนั่งเฝ้าตัวคนปากเก่งแทนอูจินที่โดนพี่แดเนียลลากไปซื้อของเป็นเพื่อน
นอกจากที่ซามูเอลจะต้องไปซ้อมหลีดแล้วยังต้องมาคอยดูแลแปลงข้าวโพดแถมยังต้องสละเวลามาวิ่งตามประสาคนปากไวด้วย
เจ้าตัวบอกว่าขอผ่อนวันละ 5 รอบก็แล้วกัน
ไหนจะต้องเก็บแรงไปซ้อมอีก วิ่งทีเดียวคงไม่ไหวเอา
ก็เลยต้องเป็นผมคนว่างงานมานั่งเฝ้าผลัดเปลี่ยนกับอูจินทุกวัน
ก็ถ้าพี่ยองมินไม่ชวนไปไหนและถ้าไม่มีซ้อมสแตนด์เชียร์ ผมก็ว่างอยู่หรอก
ผมกับพี่ยองมินเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
แม่ของพี่ยองมินเป็นพี่สาวของแม่ผม เราจึงสนิทกันมาก
พอผมสอบเข้ามหาลัยนี้ได้แม่ก็ดีใจใหญ่เพราะมีพี่ยองมินเป็นคนดูแล
เรื่องชู้สาวสำหรับเราสองคนน่ะตัดไปได้เลย ถ้าผมไม่ได้เป็นญาติกับพี่ยองมิน
ก็คงไม่ชอบคนอย่างงี้หรอก ภายนอกก็ดูแสนดีพ่อพระมาก ๆ แต่ใครจะรู้ว่าพี่ยองมินน่ะร้ายอย่าบอกใครเชียว
ฮ่าๆ
อีกเรื่องก็คือผมรู้ว่าแจฮวานเป็นพี่แฝงอยู่แล้ว
แม้ว่าแจฮวานจะเซฟตัวเองด้วยการปิดเฟซบุ๊คก็แล้ว
ย้ายของออกจากห้อง(อันนี้พี่ซังกยุนบอกมาในวงเหล้าผ่านพี่ยองมินมาอีกที)
มันไม่พ้นสายตาผมหรอก ผมบังเอิญไปเจอรูปที่มีพี่ยองมินกับเพื่อนๆถ่ายกันในวงเหล้า
รูปนั้นมีแจฮวานอยู่ด้วย แม้แต่พี่แดเนียลเองผมก็รู้ว่าไม่ได้ชื่อหมีตั้งแต่แรก
พี่ซองอูที่ไม่ได้ชื่ออ๋ง หรือรู้แม้กระทั่งพี่รหัสของทุกๆคน และพี่รหัสปี2ของผม...ว่าลาออกไปแล้ว
หลังจากที่ผมบ่นว่าไม่ได้ขนมเทคเหมือนอูจิน พี่มินฮยอนก็มีขนมกล่องใหญ่มาให้ผม
ผมรู้ว่าเป็นพี่แจฮวานแน่ๆที่บอกเพื่อนให้เอามาให้
ก็ตอนนอนเล่นบนเตียงอยู่แอบเห็นไลน์พี่เขาเด้งนี่นา ไม่ได้ตั้งใจดูหรอก
แค่เหลือบไปเห็น ตลอดเวลาที่รับน้องพี่แจฮวานก็ดีกับผมตลอด
แต่เพราะผมต้องทำเป็นโกรธก็เลยยังทำท่าทีเมินเฉยกับพี่เขาอยู่ สารภาพเลยตอนนี้ก็มีใจอ่อนบ้างกับการง้อของพี่แจฮวาน
ความใส่ใจ ความสม่ำเสมอทำเอาผมใจอ่อนยวบหลายรอบ แต่ต้องคีพไว้ก่อนพี่ยองมินบอกไว้
“ งานเฟรชชี่เดย์&ไนท์ อาทิตย์หน้าแล้วนี่นา”
แดฮวีพูดขึ้นในตอนที่เรากำลังนั่งรอข้าว
หลังจากเลิกเรียนพวกเราก็มักจะมารวมตัวกินข้าวกันก่อนจะไปซ้อมสแตนด์เชียร์ มีอูจิน
ผม แดฮวี และควานลิน ส่วนพวกคนหล่อมันก็โดนจับไปเป็นดาวเป็นเดือน เป็นหลีดกันหมด
ควานลินที่ไม่ยอมไปคัดหลีดก็โดนซอนโฮบ่นหูชาว่าทิ้งมันไป
แต่พอพี่มินฮยอนหลีดเก่ามาซ้อมท่าให้ซอนโฮเลยกลับลำแทบไม่ทันเอาแต่ติดพี่มินฮยอนแจ
ระวังพี่ฮยอนบินกินหัวนะจ๊ะ เลยต้องนั่งเหงากัน4คน
“ ได้ยินพี่แดนว่ามีคอนเสิร์ตด้วยนี่นา
มีนักร้องมาแล้วก็มีวงดนตรีของมหาลัยด้วย”
อูจินที่แต่ก่อนเรียกพี่แดเนียลว่าไอ้พี่หมี
ไอ้พี่บ้า ตอนนี้เปลี่ยนสรรพนามมาเป็นพี่แดนอย่างเดียวแล้ว
เพิ่มความสนิทสนมมากขึ้นสุดๆ
“ แหมมมมมมมมมมมมมมมม
เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเรียกพี่แดนแล้วเหรอจ๊ะ ตั้งแต่เมื่อไหร่”
แดฮวีแขวะพร้อมกับเบะปากให้ด้วยความหมั่นไส้
“ ทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะอูจิน”
เพื่อนตัวเล็กเอามือจับหน้าพร้อมกับส่ายหัวปฏิเสธว่าเจ้าตัวไม่ได้หน้าแดงสักหน่อย
เขินก็บอกมาเหอะ
“ ข้าวได้แล้วลูก” เสียงป้าเจ้าของร้านมาขัดจังหวะพอดี
พวกเราเลยหันมาสนใจกับอาหารตรงหน้า ตอนนี้หิวจนไส้กิ่วแล้ว
กว่าอาจารย์เคมีจะปล่อยก็เล่นเอาเย็นเลย
“ สะใจจริงๆ ตอน อาจารย์ฮีชอล
พูดว่าจะจัดการพวกพี่ว้ากให้” ควานลินพูดด้วยความสะใจ หัวเราะลั่นร้าน
ควานลินมักจะบ่นเรื่องพี่ว้ากอยู่เสมอ โดยเฉพาะพี่ว้ากที่ชื่อดงโฮ
ดูจะหมั่นไส้เป็นพิเศษ
“ ชู่...เบาดิ เดี๋ยวมีคนได้ยินแล้วคาบข่าวไปบอกพี่ดงโฮ นายจะซวยนะ” ผมห้ามควานลิน
ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย รอบก่อนที่โดนพี่ว้ากลงเล่นเอาซะน่วมเลย
ควานลินบ่นปวดขาไป3วัน8วัน
“ เราไม่กลัวหรอก ไม่เคยกลัวสักนิด”
เจ้าต่างด้าวพูดด้วยท่าทางมุ่งมั่น
“ เราว่าพี่ดงโฮไม่ได้ใจร้ายอะไรนะ
พี่เขาใจดีจะตาย” แดฮวีพูดด้วยความชื่นชม
ที่จริงพี่ดงโฮก็ไม่ค่อยดุแดฮวีมากเท่าคนอื่นเลยแฮะ บางวันก็ให้ติดรถมาด้วยซ้ำ
“ ดีกับผีสิ
แอบมีซัมติงอะไรกันเปล่า”
“ เปล่า เราไม่มีอะไรนะอูจิน
พี่เขาให้เราติดรถมาด้วยประจำไง”
“ คำก็ดีสองคำก็ดี อยากจะอ้วกว่ะ”
ควานลินพูดพร้อมกับมองบน ไม่รู้ไปแค้นกันตั้งแต่ชาติไหน
“ ใครนินทาเพื่อนพี่อีกแล้ว”
พี่แดเนียลเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับพี่แจฮวาน
ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะตรงข้ามพวกเรา เป็นพี่แจฮวานที่นั่งตรงข้ามผม พวกเราสี่คนตกใจกับเสียงตะโกนของพี่แดเนียลจนต้องแยกออกจากกัน
แล้วไหว้ทักทายพี่ ๆ พร้อมกันอย่างไม่ให้มีพิรุธ คนเป็นพี่รับไหว้
“ มากัน2คนเหรอครับ” เป็นอูจินที่เอ่ยถามก่อน
“ เห็นกี่คนล่ะครับตัวเล็ก”
พี่แดเนียลที่ตอนนี้เปลี่ยนสีผมจากสีชมพูเป็นสีดำสนิททั้งหัวแล้วเอ่ยแซว
ก็ไม่ต้องสงสัยว่าใครเป็นคนย้อมให้ คนข้าง ๆ ห้องเขานั่นแหล่ะ
จีบกันสองคนจนพวกผมที่เหลือหันมามองหน้ากันอย่างหมั่นไส้
อูจินยกกล่องทิชชู่ขึ้นจะปาใส่คนตัวโตกว่าแต่โดนควานลินห้ามไว้
“ ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พี่แดน”
อูจินคาดโทษไว้ พี่แดเนียลก็เอาแต่หัวเราะ คงจะเอ็นดูล่ะนะ
“ เซอุน พี่แจฮวานก็มา
ไม่ทักทายพี่เขาหน่อยเหรอ” แดฮวีหันมาถามผม
“ ไม่อะ เบื่อคนโกหก” เน้นคำท้ายให้ได้ยินชัดๆไปเลย
พี่แจฮวานมีท่าทีหง่อยลงอย่างเห็นได้ชัด ผมได้แต่กลั้นอาการหัวเราะไว้ในใจ
อยากจะขำเสียจริง
รอหน่อยนะครับ พี่แจฮวาน ผมยังสะใจไม่พอ
ʕ•ᴥ•ʔ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - ʕ•ᴥ•ʔ
กลับมาแล้วเด้อ ตอนนี้ #ฮวานอุน เต็มๆ
สนอง need ตัวเองมาก ชิปทุกคู่ ชิปทุกเรือ
ชิปไม่ไหวแล้วเนี่ย -.-
ตอนนี้เรามีดารารับเชิญด้วย ฮ่าๆ
ความคิดเห็น