คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วันโลกาวินาศ
ณ ยามค่ำคืนหนึ่งที่เหมือนกับคืนอื่น ๆ ชายคนหนึ่งวัย 43 หุ่นอวบ ผมสีน้ำตาลมีผมหงอกสีขาวที่ขึ้นตามขอบผม ดวงตาสีฟ้าสวมแว่นตากำลังนั่งจด เช็คคะแนนของของนักเรียนไปทีละคน ทีละคน กระทั้งแผ่นใบสุดท้าย
ถอนหายใจ “เฮ้อ~ F อีกครั้งสำหรับเธออีกครั้ง จอร์จ. . .”
เมื่อลายเซ็นสำหรับยืนยันคะแนนของวิชาประวัติศาสตร์ถูกขีดเขียนเสร็จ ก็ถึงคราวที่จะได้พักเสียทีเขาเดินไปนั่งยังโซฟาเก่าๆ ก่อนจะเปิดดูรายการในโทรทัศน์ไปเรื่อย หน้าเสียดายที่ข่าวส่วนใหญ่ก็เกี่ยวข้องแต่กับสงคราม คอมมิวนิสต์ และ โฆษณาเกี่ยวกับ Vault ตลอดเวลา
“Vault tec Vault เพื่ออนาคต เพื่อชาวอเมริกันทุกบลาๆ บ้านแกสิ”
“เพื่อทุกคนที่มีตังค์หรือผลประโยชน์นะสิไม่ว่า”
“แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว”
ขณะกำลังบ่นพึมพำ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขารีบหันไปมองก่อนจะพยุงตัวเดินไปคว้าโทรศัพท์มารับสาย
“แดนเนียล วิลสัน รับสายครับ?”
“แดน! Old friend! เป็นไงบ้าง!?”
เมื่อได้ยินเสียงตอบกลับจากอีกฝ่าย แดนเนียล เริ่มมีรอยยิ้มปรากฎขึ้นบนหน้าอัตโนมัติทันที
“สตีฟฟฟฟฟ!!!!?”
“Yup! สตีฟ เพื่อนคนหล่อคนดีคนเดิมยังไงละ”
“โอ้! โห้~ โฮ่~ ฉันไม่ได้คาดหวังว่านายจะโทรมาหาวันนี้นะเนี่ย ไม่ได้คุยกันตั้งนาน ลมอะไรพัดมาให้มีอารมณ์ละเนี่ย? หืม?”
“ก็นะคือแบบ แบบ นายได้ดูข่าวเรื่องสถานการณ์รอบโลกบ้างไหม?”
“ก็ดูบ้างนะ แต่ส่วนใหญ่ชอบเอาเวลาไปสอนเด็ก และ เช็คคะแนนมากกว่า ว่าแต่ที่ถามนี่คือมีอะไร?”
“นายยังจำบริษัท Vault tec ที่ทำงานเก่าเร- เฮ้ย! หมายถึงนายได้ไหม?”
“อาฮะ แน่นอน ใครมันจะลืมได้ลงกันละ? แต่มันมีอะไร นายหาเอกสารทุจริตของมันได้หรอ?”
“. . . เอิ่ม. . . Nope มันค่อนข้างตรงข้าม”
“ตรงข้าม? ยังไง ที่นายหมายถึงสตีฟ?”
แดนเนียล เขาเริ่มเปลี่ยนจากสีหน้ายิ้มขณะคุยในตอนแรกกลายเป็นสีหน้าความสงสัย
“คือ. . .แบบ จีน โซเวียต สถานการณ์มันเริ่มตึงเครียดจนถึงขีดสุดแล้ว. . . และ ทางที่บริษัทเองหลายคนก็เริ่มที่จะลงทะเบียน สำหรับ Vault ให้ตัวเองและครอบครัว และ ด้วยความที่คนในบริษัทมีสิทธิ์ลงก่อน ฉันก็เลยแบบ. . .”
“อย่าบอกนะ. . .”
“ใช่. . .ฉันลงทะเบียนเผื่อนายด้วย. . .”
“แต่นายก็รู้ดีหนิ? ว่าฉันโดนพวกมันไล่ออก!! จากพนักงานฝ่ายวิทยาศาสตร์ดีเด่น จนตกสู่การกลายเป็นแค่ครูประวัติศาสตร์ตามโรงเรียนเด็กประถมนะ!?”
“ใจเย็นๆ พวก ใจเย็นๆ ฟังนะ อย่าลืม ฉันเองก็รู้ว่านายก็โดนพวกคนใหญ่เขี่ยออกอย่างไม่ยุติธรรมจริง แต่ก็นายก็ยังต้องมองโลกในความเป็นจริงนะ. . . ว่าสถานการณ์มันย่ำแย่มากแค่ไหน หลุมใต้ดินบ้านๆ ไม่มีทางที่จะป้องกัน กัมมันตภาพรังสี ได้ถึง 100 ปี แค่ 1 ปียังไม่แน่เลย”
เสียงหายใจเพื่อระงับอารมณ์โกรธของ แดน ดังมากพอที่จะทำให้สตีฟได้ยินผ่านโทรศัพท์
“. . . แล้ว Vault หมายเลขอะไร?”
“Vault 5 ของนาย ส่วนของฉันคือ Vault 6 ฉันรู้มันแย่ที่ฉันไม่ได้ถามความสมัครใจนายก่อนและฉันขอโทษ. . . แต่หากฉันไม่รีบลงทะเบียนพร้อมสินบน มันก็จะไม่เหลือที่ให้”
“. . . .เฮ้อออออ~ เออๆ อย่างน้อยแก ก็หวังดี ฉั- ฉันว่าฉันขอนอนพักสมองก่อน โชคดี สตีฟ”
“Ok. . .นายก็ด้วย”
จากนั้นมือของ แดนเนียล ก็เก็บโทรศัพท์ลงบนแท่นวางของมันอย่างเคยพร้อมสีหน้าที่เหนื่อยและผิดหวัง
“. . .”
เขาเหลิองมองยังโต๊ะที่อยู่หน้าโซฟาของเขา ซึ่งมันมีแผ่นใบปลิวที่ทาง Vault ได้พิมพ์แจกจ่ายสำหรับสถานที่อยู่ของ Vault แต่ละแห่งที่ถูกเปิดเผย เมื่อได้ตรวจสอบแล้ว Vault 5 นั้นไม่ได้อยู่ห่างจากเขามาก เพราะ มันอยู่ระหว่างทางไปโรงเรียนที่เขาต้องสอนพอดีด้วยซ้ำ
แต่เพื่อความแน่ใจกันลืม เขาได้ลุกขึ้นถือแผ่นใบปลิวนั้นเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะหยิบสมุดโน้ตในกระเป๋าถือออกมา เพื่อจดสถานที่และพิกัดของ Vault เอาไว้ ก่อนจะเก็บมันเข้ากระเป๋าอย่างเคย แล้วเข้านอน
แสงตะวันสาดส่องผ่านผ้าม่าน เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง เมื่อมือของเขาได้ปิดเสียงมันลง พร้อมการเปิดเปลือกตาตื่นขึ้น เริ่มกิจวัตรประจำวันอีกครั้ง พร้อมสำหรับการสอนนักเรียนในอีกวัน
แป๊! แป๊ด! เสียงแตรรถ และ คนเดินพลุกพล่านยังคงเป็นเหมือนทุกวัน ขณะกำลังรถติดหน้าไฟแดง แดน ก็รู้สึกแปลก
(“นี้ฉันคิดไปเองหรือทำไม? ไฟมันแดงนานผิดปกติ?”)
แดน เริ่มเอ๊ะใจกับสถานการณ์ก่อนเขาจะเห็นผู้คนมากมายกำลังมุ่งดูทีวี ผ่านร้านค้าอย่างไม่กะพริบสายตา ด้วยความสงสัยเขาจึงยอมลงออกจากรถแล้วไปดูรวมกันกับผู้คน ว่าเขากำลังดูอะไรกันแน่?
สีหน้าของนักข่าวในจอ แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความหวาดกลัวและวิตกกังวล ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูสิ้นหวัง
“ตามด้วย... ใช่ ตามด้วยแสงแฟลช แสงแฟลชที่แสบตา เสียงระเบิด... เรา... เรากำลังพยายามขอคำยืนยัน... แต่ดูเหมือนว่าเราจะสูญเสียการติดต่อกับสถานีในเครือของเรา... เรามี... เรามี... มีรายงานเข้ามา... นั่นคือ เอ่อ... รายงานที่ได้รับการยืนยัน ผมขอย้ำ รายงานนี้ได้รับการยืนยันเกี่ยวกับการระเบิดนิวเคลียร์ในนิวยอร์กและเพนซิลเวเนีย โอ้พระเจ้า”
จากนั้นสัญญาของทีวีก็ถูกตัดขาดทิ้งทันที ทั้งตัวของ แดน และ ผู้คนรอบตัวต่างช็อกและตกตะลึงในสิ่งที่ได้ยิน พวกเขาอาจจะเตรียมตัวมาตลอด แต่ก็ไม่เคยเตรียมใจในเวลาที่ กะทันหันขนาดนี้
เสียงผู้คนที่มากมายที่สิ้นหวังต่างคำพูดมากมายกำลังพ้นออกมาด้วยความตื่นตระหนก บางคนก็เลือกที่จะรีบวิ่ง บางคนก็สวดมนต์ บางคนก็เลือกที่จะกอดลูก กอดเมีย ตัวเองในวาระสุดท้ายนี้…
แต่ไม่ใช่กับแดน สัญชาตญาณของเขาได้สั่งให้เขารีบวิ่งกลับไปยังรถ หยิบกระดาษโน้ตที่เขียนตำแหน่ง Vault ก่อนหน้า และ เหยียบคันเร่งฝ่ารถที่จอดนิ่งออกไป ในสถานการณ์แบบนี้ ความถูกผิดไม่ได้อยู่ในหัวเขามีแต่คำว่าต้องรอดเท่านั้น
ด้วยความเร็วเต็มพิกัด ชนทุกสิ่งที่ขวางทาง (ยกเว้นคน) สภาพรถตอนนี้ดูเละ แต่มันไม่สำคัญอีกต่อไป ถ้าสุดท้ายตายไปก็ขับไม่ได้ เมื่อมาถึงภายใน 3 นาที เขารีบคว้ากระเป๋าถือวิ่งไปยังเจ้าหน้าที่ ที่กำลังรอคนมารายงานตัว
“ชื่อครับ?”
“แดนเนียล วิลสัน!”
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาแปบเดียวในการหาชื่อ และ หลีกทางให้เขาเข้าไปด้านใน
เขาไม่รีรอรีบวิ่งเข้าไปภายในด้วยความกลัว เขาหันหลังไปมองยังประตูขนาดยักษ์ของ Vault ที่เริ่มปิดลง ภาพสุดท้ายนั้นคือไฟความร้อนของนิวเคลียร์ที่กำลังพุ่งมา โชคดีที่ประตูมันปิดทันเสียก่อน แต่ไม่ใช่กับเจ้าหน้าที่คนนั้น…
ภาพเปลวไฟ การทำลายล้าง ที่สามารถกลวาดล้างทุกสิ่งภายในไม่ถึงวิ ยังคงติดตาของ แดน เขานำมือมาจับหน้าอกวัดหัวใจตัวเองที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
.
.
.
.
.
.
“. . .น- นี่- นี่นะหรอ?”
“วันโลกาวิน”
ความคิดเห็น