คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
INTRO.
“เชี่ย.. ปวดหลังสัด”
ใครสักคนที่หัวฟูยุ่งเหยิงคล้ายลูกหมาเพิ่งตื่นนั่งทุบไหล่และหลังคอตัวเองเพราะอาการปวดเมื่อยกำลังเล่นงานเขา
ปากหาวหวอดๆพร้อมบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อย
ชายหนุ่มตัวเล็กใส่เสื้อกล้ามสีเทาสะบัดหัวแรงๆให้ตื่นก่อนจะหันไปเห็นอีกศพที่เบียดเบียนพื้นที่บนเตียงเขา
-_-
“หยอยตื่นดิ้!” ไม่พูดอย่างเดียว ออพชั่นเสริมต้องมา เอาเท้าน้อยๆสะกิดยิกๆ
แต่ก็เหมือนเดิม
มันก็เป็นแบบนี้ทุกเช้านั่นแหละ
ไอ้ที่เขาปลุกคนที่นอนกลับหัวกลับหางเป็นยีราฟตากแห้งอยู่นี่จะมีผลซะที่ไหน
หลับทีไรเหมือนตาย นี่ต่อให้ตึกถล่มมันคงนึกว่าแม่ไกวเปลให้นอนอยู่มั้ง
“หยอยยย
กูบอกให้ตื่นกูหิวววว”
“…”
“หยอยยยย!! ตื่นๆๆๆๆ!!” เอาเท้าถีบให้แรงขึ้นอีกหน่อยและหลายๆที มันก็พอจะทำให้อีกคนขยับตัวบ้าง แต่ก็ยังไม่ยอมลุกขึ้นมาอยู่ดี
“โอ้ยย! มึงจะปลุกยากไปไหนวะ จู๋หมาเอ้ย..” บ่นงุบงิบแต่ก็ยังไม่ละความพยายามปลุกต่อไป
เพราะชีวิตเขาหลังจากคบกันปีที่แล้วนี่แทบจะฝากทุกอย่างไว้กับชานยอล ขืนหมอนั่นไม่ตื่นเขาจะเอาอะไรกินวะ
-_- มีคนขับรถให้ตลอดจนเป็นง่อยขับอะไรไม่เป็นแล้วเนี่ย
“อือออ..งึมๆๆ ซึ้ด..” คนตัวสูงกว่าเริ่มขยับตัวพร้อมดูดน้ำลายในปากซึ่งบางส่วนมันก็ไหลย้อยมาอยู่แล้วด้วยทำเอาคนมองต้องกลอกตาไปมาด้วยความระอา
เออ
แฟนกูแม่งสถุนแบบนี้ไง จบนะ!
“ลุกเลยสัด! เหนื่อยปลุกแล้ววว” เขาดึงแขนชานยอลอีกรอบแรงๆ
แต่อีกคนก็แค่ขยับตัวสะบัดเขาออกแต่ก็ยังไม่ยอมตื่นอยู่ดี
“งืมมมม..ม่ายยย..”
“กูให้โอกาสมึงอีกรอบนะ
จะลุกไม่ลุก?”
“ม่ายยยยย..” ทั้งที่จงใจเปลี่ยนเสียงให้ดุขึ้นแต่มันก็ไร้ประโยชน์
ใบหน้าใสของเด็กหนุ่มยกยิ้มอย่างอำมหิตกับท่าไม้ตายที่ว่าใช้กี่ครั้งไอ้คนขี้เซาก็ไม่เคยเข็ดสักครั้ง
..ถือว่าเตือนแล้วละกัน
‘พลั่ก!!’
“ห..เห้ย!..โอ้ยย!!”
ไม่ทันไรไอ้ที่นอนพาดยาวๆบนเตียงก็ต้องหล่นตุ้บลงไปที่พื้นเล่นเอาตื่นตาสว่างอย่างไม่ต้องสงสัย
คนทำก็นั่งหัวเราะลั่นอยู่บนเตียงกับผลงานของตัวเอง
ทิ้งให้อีกคนร้องโอดโอยก่อนจะยันตัวลุกขึ้นมา
“เตี้ย! เล่นไรแต่เช้าวะ!?” ถามด้วยเสียงเหวี่ยงๆพร้อมค้อนวงโต
“ฮ่าๆๆๆ!! ก็มึงไม่ตื่นเองอ่ะ ช่วยไม่ได้!” ยักไหล่พลางทำหน้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“เออ! มึงจำไว้เลยวันนี้กูงอน!”
“เอ้า!! อะไรวะ? กูมั้ยละ? ต้องงอนมึงเนี่ย! ห้ะๆๆๆ! บ้านมีก็ไม่อยู่ กูเจ้าของบ้านนะเว้ยยยย อย่าดื้อให้มันมากนักไอ้หยอย นอนนอกห้องเมื่อไหร่มึงจะรู้สึก!” ตะโกนตามหลังแผ่นหลังกว้างในเสื้อกล้ามสีดำไปติดๆ ก่อนจะต้องถอนหายใจแรงๆ แบคฮยอนเบะปากให้กับคนขี้งอนก่อนจะหันไปคว้ามือถือที่หัวเตียง
เท่านั้นแหละ! เขาแทบจะเด้งตัวพุ่งตกตึกไปแล้วด้วยซ้ำ!
“หยอยๆๆๆ!! ชิบหายแล้วววววว!” แบคฮยอนพาขาสั้นๆลงจากเตียงแล้ววิ่งผ่านกองเสื้อผ้าเน่าๆ
รีบพุ่งตัวไปหาคนที่กำลังยืนแปรงฟันอยู่ในห้องน้ำ แถมยังทำหูทวนลมใส่เขาอีก
“…”
“มันใช่เวลามั้ย!!
เลิกงอนก่อนเด้ะ มึงนึกดิ้! วันนี้วันอะไร?”
“…” คนตัวสูงกว่าแค่เหลือบมองแต่ไม่ยอมตอบอะไรออกมาปล่อยให้เขายืนเท้าเอวไปป้าขี้โมโหอยู่นั่น
“เออ!! มึงทนพูดกับกูให้ตลอดแล้วกัน!” พูดจบแค่นั้นก็หันไปคว้าที่ฉึดก้นมาฉีดใส่ชานยอลอย่างแรงเล่นเอาอีกคนต้องโวยวายดังลั่นจนต้องทิ้งแปรงสีฟัน
คือจะว่าไงวะ
นั่นที่ล้างขี้เลยนะเว้ยยย!
“เชี่ย! แค่ก! ไอ้เตี้ยพอดิ้! โอ่ย!
ถุ้ย!”
“อ้ากก! อย่าถุยใส่กูเด้! T[]T!!” เถียงไปเถียงมาพักหนึ่งพอชานยอลเห็นว่าเขายืนเบะปากจนเหมือนจะร้องไห้จริงๆก็ยอมสงบปากสงบคำแล้วเอื้อมมือมาเช็ดน้ำจากหน้าให้แทน
ใบหน้าคมดูยุ่งเหยิงเหมือนคนโดนขัดใจ แต่ก็คงจะไม่อะไรมากแล้ว
“ว่าแต่มึงจะบอกไรวะ?
เมื่อกี้อ่ะ” แบคฮยอนเบิกตากว้างร้องอ๋อทันทีชานยอลถาม
เขารีบคว้ามือถือที่เปียกไปเกือบมาเขย่าๆก่อนจะชูหน้าจอใส่อีกคน “มึงดูดิ้!!”
“เห้ยยยยยยยยยย!!!”
“มึงจำได้แล้วใช่มั้ย!!
งั้นไป..!!” แบคฮยอนคว้าแขนอีกคนแล้วออกแรงดึงให้เดินตามแต่ชานยอลยังคงนิ่ง เขาหันหน้ากลับไปก็ต้องตกใจเมื่อคนตัวสูงจ้องเขาด้วยใบหน้าที่สั่นระริกเวลาโกรธ
“มึงกิ๊กกับพี่ซูโฮอีกแล้วใช่ม้ายยยยยยยยยยยยยยย!!”
ห้ะ? เดี๋ยวน้า......
แบคฮยอนดึงมือถือกลับมางงๆ
พอก้มดูก็ถึงเข้าใจเพราะมันขึ้นโชว์ว่าพี่ซูโฮโทรมาเกือบยี่สิบสาย เออแปลกว่ะ
ปกติโทรหากันก็จริงแต่โทรเยอะขนาดนี้มีไรป่าววะ? แต่ช่างมันเห้อะ!! ตอนนี้น่ะมันจะไม่ทันแล้ว!!
“ไม่ใช่เว้ยยย
กูให้ดูวันที่!”
“มึงไม่ต้องเบี่ยงประเด็นเลยเตี้ย!
ฮึ่ยยยยยยย!”
“เออเรื่องมึงละ!
ไม่ต้องไปโรงเรียนกันละสัด! เถียงแม่งคาห้องน้ำนี่ละไอ้หำ
นี่ถ้ามึงขี้นะมีหวังได้ยืนดมขี้กันสามชาติเศษแน่ กูไม่รู้จะบอกไรละ
แค่วันนี้มันวันเปิดเทอมเว่ย! แค่นั้นอ่ะ!”
เอาเป็นว่าชัดเจน ชายปาร์คชานนี่เงิบแดกเลยทีเดียว
ยิ่งหันขวับไปมองนาฬิกาในห้องแล้วยิ่งเงิบเข้าไปใหญ่
เก้าโมงครึ่งแล้วแท้ๆ!!
“เออทำหน้าควายงงไปเลยสิมึง
สมน้ำหน้า! -_-”
“แล้วมึงบ่นทำเหี้ยไรวะเตี้ย!!
ไปแต่งตัว!!” ไม่พูดอย่างเดียวยังคว้าตัวแบคฮยอนขึ้นพาดบ่า
ก่อนจะวิ่งเข้าห้องนอนไปแต่งตัวอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังไม่วายเถียงกันไปตลอดเวลาด้วยความที่หาของไม่เจอ
อันนี้อยู่โน้นอยู่นี่วิ่งกันให้วุ่นแต่เช้า
ผ่านไปได้เกือบสิบนาที เด็กหนุ่มสองคนต่างไซส์ในชุดนักเรียนมัธยมปลายปีสามกำลังยืนสวมรองเท้าผ้าใบกันอย่างเร่งรีบ ชานยอลที่ใส่เสร็จก่อนหันไปคว้ากระเป๋าเป้ของแบคฮยอนมาสะพายไว้พร้อมกับเป้ตัวเอง คว้ามือของแบคฮยอนไว้แล้วลากออกจากห้อง เล่นตัวคนไม่ทันตั้งตัวหน้าเกือบแหกทิ่มพื้น
“ไอ้หำ!! มึงรีบก็รีบดิวะ!
แต่มึงทำงี้เกิดกูตายก่อนได้ไปโรงเรียนทำไงวะ!!..ว้ากกกกกก!!” คนตัวเล็กกว่าบ่นได้ไม่ทันจบก็ต้องร้องตกใจเมื่อหันไปเห็นซากเน่าของใครบางคนนอนขดอยู่หน้าประตูพร้อมตุ้กตาไอรอนแมนตัวใหญ่
เห็นแว้บแรกเขานึกว่าวันนี้จะซวยเห็นผีแต่เช้าแล้วซะอีก ก็ดูสถาพมันสิมานอนหน้าห้องงี้
เหมือนคนที่ไหนวะ!
“ใจเย็นๆ มีกูอยู่ทั้งคนกลัวไร..
เหี้ยยยยยยย!!!!!!” ไอ้คนที่เพิ่งบอกว่าไม่กลัวอย่างเก่งกล้ากลับกำลังโดดดิ้นเหมือนหมาโดนเตะอยู่ข้างๆเขาเพราะไอ้หน้าห้องนี่ดันเด้งตัวขึ้นมาตอนชานยอลเอาเท้าไปเขี่ย
และพอเห็นหน้ามันเท่านั้นแหละพวกเขานี่แทบอยากเตะให้มันล้มพับไปอีกรอบเลยทีเดียว
ไม่ใช่ใคร มันคือเพื่อนเขาเอง
เดาสิไอ้ที่ชอบทำไรแปลกๆน่ะจะมีใคร
กูให้เลย โอเซฮุน!!
“มันตายแล้วปะวะ?” ชานยอลกระซิบถามเขาเพราะไอ้คนที่เด้งตัวขึ้นมายังคงนั่งนิ่งอยู่แบบนั้นไม่พูดอะไร
แต่จากที่สังเกตสภาพดูเหมือนเมื่อคืนจะร้องไห้หนักอยู่เพราะหน้างี้เยินอย่างจะตูดหมา
แถมยังใส่ชุดนอนมาด้วยซ้ำ
“มึงก็ถามมันดิตายยัง?”
“เอ้า! มึงนี่ก็กวนตีนนะเตี้ย”
“ก็มึงอยากรู้นี่หว่า ก็ถามมันสิ!”
เอาอีกละมันเถียงกันอีกละ! บุคคลที่สามที่เหมือนถูกลืมไปแล้วค่อยๆหันไปมองเพื่อนรักที่กลายเป็นผัวเมียกันแล้วอย่างระอา
แต่สำหรับคนอย่างเซฮุนระอากว่านี้ก็เขานี่ละ ชีวิตช่างอาภัพนัก
ยิ่งคิดไปถึงเหตุผลที่ต้องมานอนอยู่นี่แล้วยิ่งเสียใจ! ไม่หวายยแล้วววว!!
“แง้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!”
คู่รักต่างสะดุ้งโหยงจากเสียงแหกปากของเพื่อนสนิทสุดอนาถที่พวกเขาเคยคุยกันว่าเมื่อใดที่ชายโอมาเยือนเมื่อนั้นแหละโลกที่อยู่มันจะอยู่ไม่ได้พักใหญ่
แบคฮยอนกลอกตาไปมาก่อนจะผลักให้ชานยอลที่เตรียมจะเดินหนีเข้าไปดูเพื่อนสักหน่อย
“เห้ยไอ้ตุ้ด! มึงเป็นหอยสังข์กะละมังแมวแจวเรือไปเทียบท่าเหยียบขี้หมาขึ้นไม่ได้ใช้ไมโลมาชงกินเป็นส้นตีนอะไรวะ?”
‘ป้าบ!!’ พูดจบเท่านั้นแหละ
แบคฮยอนก็ประเคนฝ่ามือพิฆาตเข้าหลังกบาลจนหัวแทบทิ่ม
ชานยอลหันไปขู่ฟ่อในขณะที่คนตัวเล็กก็ขู่กลับไป แต่เริ่มจะกัดกันได้ไม่นานก็นึกได้ว่ามีอีกตัวใกล้จะบ้าเต็มที
“ฮึกๆๆๆๆ ฮือออออ” เซฮุนเบะปากร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา การตอแหลขั้นสุดของมันเล่นเอาคันเท้าขึ้นมาดื้อๆ
มันเงยหน้าขึ้นมองพวกเขาก่อนจะโหยหวนออกมาดังลั่น
“พี่ซูโฮฮฮฮฮฮฮ เค้าทิ้งกูวววววว
เค้าไม่รักกูแล้วววว โฮกกกกกกกก”
“..!!” ทั้งชานยอลและแบคฮยอนต่างมองหน้ากันงงๆ
เพราะเพื่อนเขามันไม่ค่อยจะโวยวายไรหนักหน่วงส่วนมากก็ติ๊งต๊อง
แต่พอเป็นเรื่องซูโฮทีไรเหมือนมันจะจริงจังทุกที
คนตัวสูงเอื้อมมือปบีบไหล่เพื่อนพร้อมปลอบ คนตัวเล็กเลยใช้โอกาสนี้ถาม
“เค้าทิ้งมึงยังไงวะ? มึงเข้าใจผิดป่าว?”
“ม่ายยยยยย
เค้าไล่กูออกจากบ้านนนนน โฮรววววว” เซฮุนฝังหน้าลงกับไอรอนแมนตัวโปรดที่แฟนตัวขาวซื้อให้อีกตามเคยพร้อมดีดดิ้นเหมือนเด็กๆ
“เอ้า! มึงไปทำไรให้เค้าปะเนี่ย?”
“กู..ฮึก จับได้ว่าเค้ามีกิ้ก!”
คำตอบที่ตอบมาเล่นเอาคนฟังอ้าปากค้าง อยากจะบ้า! อย่างพี่ซูโฮเนี่ยนะจะมีกิ้ก โอโห้
ทำไมกูรู้สึกเหมือนได้ฟังเรื่องพระกกสีกาอะไรแบบนั้นเลย
ถึงจะไม่ค่อยอยากเชื่อแต่ดูจากสภาพเซฮุนแล้วคงไม่ใช่เล่นๆเหมือนกัน
“แล้วมึงรู้ได้ไง?” ชานยอลถาม
“กูเห็นเค้าแปะรูปไว้หัวนอน..”
เขร้ ถึงกะแปะหัวนอน!
“หนักว่ะ! แล้วมึงแน่ใจอ่อว่าใช่?
เพื่อนเค้าป่าว?” แบคฮยอนถามให้แน่ใจอีกครั้ง
“แน่ใจ! จุนมยอนไม่เคยแปะรูปใครเลยนะเว่ย!
นอกจากมัน! มัน! ที่กูรู้จัก!!”
คนฟังเริ่มอึ้งไปไม่เป็นอีกครั้งหลังจากได้ยิน
เป็นคนที่เซฮุนรู้จักงั้นหรอ? เห้ย งั้นพวกเขาก็มีโอกาสจะรู้จักเหมือนกันดิ
เล่นเอาใจหล่นไปที่ตามตุ่ม เหมือนเรื่องนี้มันจะไม่ง่ายซะแล้ว
ถึงว่าที่เขาบอกกันว่าคนใกล้มักอันตราย เห้อ ไม่น่าเลย..
“มันเป็นใครวะ?” ทั้งชานยอลและแบคฮยอนถามขึ้นพร้อมกัน
แต่พอได้ยินคำตอบเท่านั้นแหละพวกเขาแทบจะจับไอ้คนพูดทุ่มลงกับพื้น!!
“กัปตันอเมริกา!! กูเกลียดมัน!!”
เออไอ้สัด! ได้ยินไม่ผิดหรอก แม่งหึงกัปตัน!!
กูละอยากรู้จริง
คุณนายโอทนให้มันผ่านช่องคลอดมาได้ไงวะ!!?
“ไม่ใช่แค่มึงหรอกที่เกลียด..”
ชานยอลพูดขึ้นทำเอาเซฮุนตาลุกพราวเหมือนได้คนร่วมขบวนการ
“จริงอ่อวะ? งั้นไปมึงต้องไปจัดการแม่งกับกู!!”
“กูเกลียดมึงเนี่ยแหละไอ้ตุ้ดดดด!!”
“ว้ายยยยยยยยยย!” เซฮุนกลิ้งตัวหลบได้ทันพร้อมกรีดร้องเสียงสูงหลังจาดเพื่อนตัวสูงเตรียมจะกระทืบเขาให้ตายคาตีนแต่ยังดีที่แบคฮยอนล็อคตัวไว้ได้ทัน
ชานยอลจ้องหน้าเขาไม่วางตาในขณะที่เขาได้แต่กอดตุ้กตาไว้แน่นมองตาปริบๆอย่างไม่รู้จะทำยังไง
“ไม่น่าเลย..” แบคฮยอนบ่นขึ้นพลางถอนหายใจยาว
“ไม่น่าเชื่อมันเลยใช่มั้ย?”
ชานยอลหันมาถามในแบบที่เขารู้สึก แต่อีกคนกลับส่ายหน้าช้าๆก่อนตอบ
“ไม่น่านับแม่งเป็นเพื่อนต่างหาก!!”
เวรกรรมอะไรวะเนี่ย?
ชีวิตช่างลำบาก เพื่อนปกติมันหายาก ขายตามตลาดก็ไม่มีใครเอา!!
ยกให้ฟรีๆกูยังทิ้งเลยครับ -_-
จำไว้อย่าไว้ใจพวกชัทอัพ ซักคนเดียวก็ไม่ได้จริงๆ!
มาอัพให้แล้วเน้อออออ อย่าลืมคอมเม้นกันนะ T^T อาจจะไม่ฮามากนะ เพราะเพิ่งกลับมาแต่งแต่จะพยายามนะ อิๆๆๆ ขอบคุณทุกคอมเม้นที่รอคอยเลยนะ เราอ่านหมดแล้ว ขอบคุณมากๆๆๆ คิดถึงทุกๆคนเหมือนกันนน จุ้บๆ มีอะไรก็คอมเม้นไว้หรือทักทายในทวิตกันได้ตลอดน้าาา ติดแท็ค #ชัทอัพ2 มาก็ได้ แล้วเจอกันใหม่!
ความคิดเห็น