คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : PROLOGEU
‘..หลับตาลงสิเจ้าโง่ แสงสว่างไม่เคยยอมรับพวกเรา เจ้าคิดจะลุกขึ้นจากความมืดมิดเพื่ออะไร
พวกมนุษย์นั้นเอาแต่ทะนงตัวอยู่เหนือคนอื่น เหยียบย่ำมองพวกเราเป็นพวกชั้นต่ำเช่น..
อสุรกายอย่างเจ้า ปาร์ค ชานยอล..’
ท่ามกลางความมืดมิดในยามราตรี คืนวันที่ท้องฟ้าปิดไร้แสงจันทร์สอดส่อง ตลอดทางยาวบนถนนสายเปลี่ยวใจกลางเมืองเล็กๆในแถบที่ไกลออกจากตัวเมืองพอสมควร เกล็ดหิมะที่เกาะตามพื้นถนนเริ่มละลายกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดย่อม แต่ลมหนาวเย็นยังคงพัดเอื่อยๆมาไม่ขาดสาย
บยอน แบคฮยอน ..คือผู้ชายตัวเล็กๆธรรมดาในไม่กี่คนบนโลกที่ยังย่ำเท้าเดินอยู่บนถนนในยามวิกาล แขนทั้งสองข้างหอบข้าวของพะรุงพะรังที่อยากจะโยนทิ้งลงข้างทางเต็มที ขาเรียวเล็กพยายามก้าวให้ถี่และเร็วมากขึ้นก่อนที่ความหนาวเย็นจะกัดกินไปทั้งตัวจนเขาเริ่มจะเดินไม่ได้
ชายหนุ่มลากกระเป๋าและของต่างๆมาหยุดลงที่หน้าหอพักขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ตึกแถวที่ดูเก่าคร่ำครึและน่าเกรงขาม ไฟตรงทางเข้าเริ่มกระพริบถี่ๆเหมือนกำลังจะดับ ..ชั่วอึดใจ ในที่สุดมันก็ดับลงจริงๆ
“เห้อ.. เอาเถอะเงินก็ไม่ค่อยจะมี อดทนวะแบคฮยอน!” เขากล่าวกับตัวเองก่อนจะผลักประตูไม้เข้าไปเบาๆ กลัวเหมือนกันว่ามันจะหลุดติดมือ เสียงเอี๊ยดอ๊าดของมันดูแสบแก้วหูเสียจนเขาต้องเบ้หน้า สอดส่ายสายตามองหาเคาเตอร์จนพบก็รีบเดินเข้าไปทันที
“เอ่อ.. ลุงครับ!” เขาเรียกชายวัยกลางคนที่นอนเหยียดยาวเอาขาพาดตรงเคาเตอร์ไว้ให้สะดุ้งตื่น ผู้ชายคนนั้นหาวอีกสองสามครั้งพลางสะบัดหัวไล่ความมึนงงแล้วคว้าเอาแว่นอันหนาเตอะขึ้นมาใส่ ก่อนจะหรี่ตามองแบคฮยอนอย่างสงสัย
“มีอะไรรึพ่อหนุ่ม?”
“ที่นี่ใช่หอพักนี่รึเปล่าครับ?” แบคฮยอนเอ่ยตอบพร้อมยื่นนามบัตรใบเล็กๆให้ ชายวัยกลางคนรับไปแล้วก้มลงอ่านมันอยู่สักพัก ก่อนจะส่งคืนมาพร้อมพยักหน้าให้เขา
“ใช่แล้วล่ะ เธออยากจะพักที่นี่?” ถามกลับด้วยเสียงที่ไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่นัก ในเมื่อหอพักของเขาเองก็เก่าเสียจนแทบจะไม่มีใครอาศัยอยู่ หรือบางคนที่เช่าอยู่ก็หายสาบสูญไปแล้ว เหลือเพียงไม่มีคนเท่านั้น และแต่ละคนก็ทำตัวเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ที่นี่สักเท่าไหร่
“ครับ พอดีผมต้องการหอพักถูกๆเท่านั้น” แบคฮยอนบอกไปตามความจริง เพราะหอพักเก่าเขาได้ค้างค่าเช่าไว้เกือบสามเดือนทำให้ถูกไล่ตะเพิดออกมากลางดึกแบบนี้
“งั้นก็ตามฉันมา” กล่าวแค่นั้นก็หันไปหยิบกุญแจพวงใหญ่ออกมาจากลิ้นชักข้างใต้ เขาลุกขึ้นเดินนำขึ้นไปบนบันไดที่เป็นไม้อัดแน่นแต่ก็ยังพอมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังมาอยู่บ้าง แบคฮยอนค่อยๆลากกระเป๋าผ่านช่องแคบๆของบันไดมาอย่างทุลักทุเล
..ห้องหมายเลข ‘1003’
“ฉันจะไม่โกหกว่าห้องมันได้รับความดูแล ราคามันก็น่าจะบอกคุณภาพของมันอยู่แล้ว ก่อนอยู่นายก็ควรทำความสะอาดซะ มีอะไรฉันจะอยู่ข้างล่าง แต่เรื่องอาหารคงลำบากหน่อยแถวนี้ไม่ค่อยมีอะไรนัก ตอนดึกกว่านี้ก็จะมืดมาก ไม่จำเป็น..
..อย่าออกไปข้างนอกจะดีที่สุด”
แบคฮยอนลากกระเป๋าเข้าห้องมาโดยที่เขาก็ฟังไม่ฟังบ้างที่เจ้าของหอพักพูดใส่ จนได้ยินเสียงประตูปิดลง เขาก็ทิ้งตัวลงนอนกับฟูกแข็งๆนั่นทันที โดยไม่ได้สนใจสักนิดว่าฝุ่นที่ลอยออกมานั่นจะหนาขนาดไหน ดวงตากลมใสแต่แฝงแววแห่งความเหงากำลังจับจ้องเพดานห้องเก่าๆไว้ ปล่อยให้ความคิดไหลลื่นไปเรื่อยตามอารมณ์ ก่อนจะผล็อยหลับไปไม่รู้ตัว..
“โอย..” ทันทีที่เริ่มรู้สึกตัวตื่นอาการปวดที่หลังก็เล่นงาน แบคฮยอนค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่งช้าๆพลางทุบหลังตัวเองไปด้วย เขาบิดซ้ายบิดขวาเพื่อให้บรรเทาอาการปวดเมื่อยลงบ้าง แต่ไม่ทันจะได้ทำอะไร ร่างกายก็ดันเรียกร้องอีกอย่างหนึ่งขึ้นมาอีก ..จ๊อก จ๊อก..
“ให้ตายเถอะ.. กี่โมงแล้ววะเนี่ย” มือบางคว้าเอานาฬิกาหัวเตียงมาดูแล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อมันใกล้จะเที่ยงคืนเข้าไปทุกที ทั้งที่ตอนแรกเขามาถึงที่นี่ก็แค่เกือบจะสามทุ่มเท่านั้น
“ชิบหายล่ะ ออกไปหาอะไรกินรองท้องหน่อยแล้วกัน” หันมาคว้าเสื้อโค๊ตตัวใหญ่แล้วกอบโกยเศษเหรียญทั้งหมดที่พอมีอยู่ออกไปนอกห้องทันที ..จนบางทีเขาอาจจะลืมคำเตือนของชายวัยกลางคนไปแล้วก็ได้..
‘..อย่าออกไปนอกห้องจะดีที่สุด’
หลังจากเดินไปไกลจากหอพักได้ราวหลายๆกิโล แบคฮยอนก็เดินกลับมาตามถนนเส้นเดิมพร้อมถ้วยบะหมี่ร้อนๆในมือและขนมอีกเล็กน้อย เพราะพรุ่งนี้เช้าเขาอาจจะตื่นมาในตอนเกือบเที่ยงเลยก็เป็นได้ เรื่องหางานทำใหม่แถวๆนี้ก็ค่อยว่ากันอีกที
มือบางเปิดถ้วยบะหมี่ขึ้น ก่อนจะเป่ามันเบาๆ เส้นสีเหลืองนวลกรุ่นไปด้วยไอร้อนสีขาวจางๆถูกส่งเข้ากลีบปากบางอย่างรวดเร็ว แบคฮยอนยกยิ้มให้กับความอร่อยที่เป็นเหมือนความสุขเล็กๆในชีวิตของเขา ขาเรียวเล็กก็ก้าวต่อไปเรื่อยๆในขณะที่เจ้าตัวยังหมกมุ่นอยู่กับของอร่อยในมือจนไม่ทันระวังในการเดินไปชนกลุ่มของใครบางคนเข้า
“โอ๊ะ! ขอโทษครับ” แบคฮยอนเบิกตากว้างทันทีที่น้ำร้อนบางส่วนในถ้วยบะหมี่กระเด็นไปโดนแผ่นหลังกว้างของชายรูปร่างกำยำคนหนึ่ง จนเมื่อไล่สายตามองดีๆแล้ว ..ชายเกือบยี่สิบคนกำลังจ้องเขม็งมาที่เขา
“มึงหาเรื่องหรอวะ? กล้าดียังไงเอาน้ำร้อนมาสาดหลังกู!!” เสียงทุ้มอันน่ากลัวตวาดลั่นไปทั่ว มือหนากระชากคอเสื้อของเขาเข้าไปประจันหน้าจนต้องปล่อยถ้วยบะหมี่ให้ตกลงก่อนมันจะถูกเตะออกไปไกลด้วยฝีมือของคนๆเดียวกัน
“ผ..ผมไม่ได้..ตั้งใจ..จ” เอ่ยเสียงตะกุกตะกักจนน่ารำคาญก่อนจะถูกโยนทิ้งลงกับพื้น ความจุกแล่นขึ้นไปทั่วตัวทันที ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด
“หึ เตรียมตัวตายเถอะมึง” แบคฮยอนหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรมที่กำลังเกิดขึ้น เขาขดตัวให้เล็กที่สุดเผื่อมันจะพอบรรเทาอาการเจ็บก่อนตายได้บ้าง
..แต่จู่ๆเสียงรอบตัวเขาก็เงียบหายไป
ทั้งๆที่ควรจะมีเท้านับสิบคู่ที่ระดมใส่ตัวเขาไม่ยั้ง แต่ทุกอย่างกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ แบคฮยอนปรับสายตาเพ่งมองไปจนหันเห็นภาพตรงหน้าที่ทำให้เขาต้องเบิกตากว้างและเขยิบตัวถอยอย่างไม่รู้ตัว
ผู้ชายนับสิบคนเมื่อครู่กำลังถูกเผาไหม้ด้วยฝีมือของ ‘ใครบางคน’ ..ไม่ใช่!!
สิ่งที่เขากำลังเห็น ไม่ใช่คน!!!
..ร่างกายสูงโปร่งเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปกำลังสยายปีกแห่งเปลวไฟ ดวงตาแดงก่ำดุจเลือด มือปรากฏเล็บยาวสีดำ ปากยามส่งเสียงร้องที่แหลมสูงเต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคมสีขาว ใบหน้าเรียวยาวยังคงมีเค้าโครงของมนุษย์..
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!” เสียงร้องแสดงถึงความเจ็บปวดเรียกสติของแบคฮยอนให้กลับมาอีกครั้ง ใบหน้าใสเริ่มซีดเซียวเพราะความกลัวที่กัดกินไปทั้งหัวใจ ภาพร่างที่ถูกเผาไหม้เป็นก้อนเปลวไฟถูกโยนทิ้งไปกระแทกตึกร้างแถวนั้นจนกระจัดกระจายไปทั่ว กลิ่นเนื้อเหม็นไหม้ยิ่งทำให้เขาอยากจะอาเจียนออกมาเสียให้ได้ และในยามที่ดวงตาสีแดงฉานตวัดหันกลับมามอง
เพียงเสี้ยววินาทีก็ปรากฏชายรูปร่างสูงโปร่งตรงหน้าเขา!!!
ร่างบางสั่นระริกในยามที่ตัวประหลาดค่อยๆลดตัวลงมาหา ดวงตาคู่ใสสบเข้ากับแววตาสีแดงฉาน เสียงลมหายใจที่รุนแรงราวกับกระหายอะไรสักอย่างดังก้องไปทั่วโสตประสาท ก่อนปีกเปลวไฟที่สยายอยู่กลางหลังจะดับลง เล็บยาวสีดำที่หายไปพร้อมกับสติของคนตัวเล็กที่ดำดิ่งลงสู่ความมืดมิด
..ในอ้อมกอดของ‘ชายคนนั้น’
เป็นไงบ้าง? ฝากติชมด้วยนะ. 555555555555
พอดีพล็อตเรื่องนี้มันผุดขึ้นมาเฉยเลย อยากแต่งแฟนตาซีนานแล้ว
เรื่องนี้ก็คงมีทุกอารมณ์เหมือนเคย แต่ปมเยอะน่าดู ..
ถ้ามีคนอ่านเราจะมาลงต่อให้นะ แต่ถ้าไม่มีก็..ลบ
บ๊ายบายฝันดีนอนกอดชานยอลโอปป้า<3 #แรชชุง
ความคิดเห็น