ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - sf vixx rabin <3

    ลำดับตอนที่ #2 : [OS Ravi x Hongbin] First Kiss

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 398
      2
      30 มี.ค. 58

    [OS] First Kiss

    Couple : Ravi x Hongbin 



     

    ใครๆก็ลือกันทั้งโรงพยาบาลว่าคุณหมอราวี่ยังไม่เคยมีจูบแรก เอาง่ายๆคือคุณหมอยังซิงนั่นเอง
    เรื่องนี้มันทำให้ผมมีไอเดียดีๆอย่างนึงผุดขึ้นมาในสมองสวยๆของผมนั่นคือ ทำยังไงก็ได้ให้อีฮงบิน
    คนนี้เป็นจูบแรกของคุณหมอคนหล่อ


     

    วันนี้ก็เป็นอีกวันนึงที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลอย่างผมแอบอู้งานมาเดินเล่นแถวหน้าห้อง
    ตรวจโรคทั่วไป ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจให้เดินเล่นหรอกครับ ก็แค่มีคนน่าสนใจอยู่แถวนี้ก็เท่านั้นเอง
    ผมนั่งรออยู่หน้าห้องตรวจชะเง้อคอมองรอพยาบาลสาวสุดเซ็กซี่เรียกชื่อ แต่ผมล่ะหงุดหงิดเธอ
    เหลือเกิน หันมาเรียกชื่อคนไข้ทีหันไปยิ้มหวานเยิ้มให้คนในห้องที เดี๋ยวพ่อจับตบเลยนี่



    “คุณอีฮงบิน.. วันนี้ก็มาหาหมออีกแล้วเหรอคะ ป่วยไม่หายสักที” พยาบาลสาวคนนั้นมองผมด้วย
    ใบหน้าเหยเกแถมยังพูดเหน็บแนมผมอีก ทำอย่างกับเธอรู้ว่าผมมาที่นี่บ่อยเพื่ออะไร



    “ก็ผมป่วยของผม เธอจะยุ่งอะไรด้วย” ผมตอบเธอกลับไปพร้อมกับลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดิน
    ผ่านหน้าเธอไปแบบเชิดๆ เหอะ เธอไม่มีวันได้คุณหมอราวี่ไปก่อนผมหรอก ผมเข้าห้องตรวจ
    แล้วนั่งลงตรงหน้าคุณหมอพร้อมส่งรอยยิ้มหวานๆให้เขา



    “สวัสดีฮงบิน ยังไม่หายอีกเหรอครับ?” คุณหมอถามแล้วมองหน้าผมนิ่ง.. เป็นคุณหมอที่
    เคร่งขรึมซะจริงๆเลย



    “แค่กๆ ยังเลยครับ ผมไออีกแล้ว” เอาจริงๆอาการผมมันน่าจะหายไปตั้งแต่มาอ่อย แค่กๆ เอ้ย
    มาหาคุณหมอราวี่ครั้งที่แล้ว แต่ผมดันไปกินทั้งน้ำเย็น ของมันของทอด ถั่วงี้ … มันเลยไอไม่หาย
    ทำให้มีเหตุต้องมาอ่อย เอ้ย มาหาหมออีกรอบ



    “ดูแลตัวเองบ้างรึเปล่า” คุณหมอจ้องผมเขม็ง … นี่ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ แต่ก็ชอบสายตาแบบนั้นนะ
    ดูเร้าใจดี?



    “ก็ไม่ค่อยมีเวลานี่ครับ อยากหาคนมาช่วยดูแลจัง” ผมว่าแล้วก็ท้าวคางมองหน้าคุณหมอแล้ว
    ยิ้มหวานไปให้อีกครั้ง คราวนี้คุณหมอขยับตัวออกห่างแล้วหยิบไฟฉายขึ้นมา



    “อ้าปากครับ” ฟังที่ผมพูดบ้างรึเปล่าเนี่ย ใจร้อนจริงๆเลย ผมอ้าปากตามที่คุณหมอสั่ง เขาเอาไฟฉาย
    มาส่องๆดูคอผม ผมล่ะอยากงับนิ้วมือเรียวๆนั่นเล่นจริงๆเลย



    “คอแดงมากครับ คราวนี้ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น” แล้วหมอก็ก้มจดรายการสั่งยายาวเป็นพรืดจนผม
    กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก … รู้ไว้นะหมอ ผมเกลียดการกินยาที่สุด !!



    “หมอไปช่วยดูแลผมไม่ได้เหรอครับ?” พูดแล้วก็ส่งสายตาออดอ้อนไปให้คุณหมอคนหล่อตามเคย



    “ไม่ครับ หมอมีงาน” คุณหมอเหลือบมองผมก่อนจะก้มลงเขียนรายชื่อยาต่อแล้วเรียกพยาบาล
    คนเดิมเข้ามาพาผมออกไปจากห้อง



    “ลองเก็บไปคิดดูนะครับคุณหมอราวี่” แล้วผมก็หยอดทิ้งไว้แบบที่เคยๆทำมา



     

    ผมรับยาจากห้องยามาแล้วมองมันอย่างหมดอาลัยตายอยาก ยาเกือบ 10 อย่าง โอย เอาไปทิ้งดีกว่า
    ยังไงๆผมก็ไม่กินยาพวกนี้อยู่แล้ว ผมเดินไปเข้าห้องน้ำมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าทางสะดวกผมก็หย่อน
    ถุงยาลงในถังขยะใบใหญ่ทันที แต่ยังไม่ทันได้เอามือกลับออกมาผมก็ต้องชะงักค้าง



    “ฮงบิน คุณเอายามาทิ้ง?” ความซวยบังเกิด คุณหมอราวี่ดันมาเข้าห้องน้ำแล้วเห็นผมทิ้งถุงยาลงถังขยะพอดี



    “ก็เอ่อ..ผม ผมไม่ชอบกินยานี่ครับ” ผมก้มหน้าก้มตา ต้องโดนดุแน่ๆ ผมเห็นปลายเท้าคนตรงหน้ามา
    หยุดใกล้ๆผมก่อนจะจับไหล่ผม



    “ถ้านายไม่กินยา ก็อย่ามาหาผมอีกถ้ามันไม่หาย จำไว้” หมอบีบไหล่ผมแน่น แล้วเอื้อมมือไปหยิบ
    ถุงยาในถังขยะกลับคืนมาให้ ผมรับมาแต่ไม่กล้ามองหน้าเขาเลย



    “คุณหมอมาป้อนยาผมมั้ยล่ะ?” ผมก็ยังไม่วายจะพูดอะไรที่ฆ่าตัวเองแบบนี้สินะ



    “ได้สิ เย็นนี้หมอว่าง” ผมแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ปกติหมอราวี่เขาจะปฏิเสธผมทุกอย่าง ไม่ยอมอะไร
    ผมเลย แต่วันนี้เขายอม ผมเงยหน้ามองอีกคนที่ยังทำหน้านิ่งได้ตลอดเวลา ผมอยากรู้จริงๆว่าเขา
    เคยยิ้มบ้างรึเปล่า



    “หื้ม นี่หมอแกล้งผมเล่นรึเปล่าครับ?” ผมเอียงคอถามเขา นี่ผมงงจริงๆนะ



    “เปล่า เลิกงานมาเจอกันหน้าโรงพยาบาลแล้วกัน” แล้วหมอราวี่ก็กลับหลังหันเดินออกไปจากห้องน้ำ
    ปล่อยให้ผมยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น แล้วเขาไม่ได้มาทำธุระส่วนตัวรึไงวะ



    ผมใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดช่วงบ่าย จะบอกว่าผมรอเวลาเลิกงานก็คงเป็นไปได้ พอถึงเวลา
    ห้าโมงเย็นผมรีบเก็บของทุกอย่างและรีบเดินไปรอคุณหมอหน้าโรงพยาบาลทันที แต่เขาเร็วกว่าผม
    เขาขับรถมาจอดรอผมอยู่แล้ว



    “ขึ้นมาสิ” หมอราวี่ลดกระจกรถลงแล้วเอ่ยชวนผมขึ้นรถ หมอถอดชุดกราวน์ออกแล้วก็หล่อไปอีกแบบ
    โอ้ย อีฮงบินจะละลาย



    “ครับๆ” ผมรีบเปิดประตูไปนั่งข้างคนขับทันที แล้วเขาก็ออกรถ ระหว่างที่นั่งไปเรื่อยๆผมก็มี
    คำถามคาใจจะถามเขาล่ะ



    “นี่เรากำลังจะไปไหนกันเหรอครับ?” ผมหันมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขาตอนกำลังตั้งใจขับรถ
    มันดูดีมาก โอย ใจสั่นครับ หมอราวี่หันมามองผมแว้บนึงก่อนจะหันกลับไปสนใจด้านหน้าต่อ



    “ป้อนยา” หมอตอบกลับมาห้วนๆสั้นๆจนผมไม่กล้าถามต่อ – 0 – นี่เขาจะพาผมไปฆ่ารึเปล่าเนี่ย
    จนตอนนี้เราทั้งสองอยู่หน้าคอนโดหรูใจกลางกรุงโซล เขาพาผมมาที่นี่ทำไมน่ะ



    “เอ่อ หมอครับ” ผมอ้าปากถามยังไม่ครบประโยคเลย อีกคนเดินลงจากรถไปซะแล้ว ผมรีบเปิด
    ประตูลงตามเขาทันที



    “ตามมา”



     

    ตอนนี้หมอราวี่พาผมขึ้นมาชั้นบนสุดของคอนโด เป็นห้องที่กว้างและหรูหรามาก ประตูกระจกขนาดใหญ่
    กั้นระหว่างห้องกับระเบียง เห็นวิวทั่วกรุงโซลชัดเจนมาก ผมว่าคอนโดนี่สูงละลิ่วจนไม่มีใครมองเห็นเราแน่ๆ



    “คุณหมอจะป้อนยาผมที่นี่?” ผมหันไปถามเจ้าของห้องที่กำลังเตรียมอะไรบางอย่างอยู่ในครัว



    “ใช่ นายอยากกินอะไร?” เขาเงยหน้าขึ้นถามผมก่อนจะกลับไปจดจ่อกับของสดในมือ



    “คุณหมอจะทำให้ผมกินเหรอ?” ผมเดินเข้าไปใกล้ๆเขา



    “อืม เอาเป็นของง่ายๆแล้วกัน” สุดท้ายเขาก็พูดเองเออเองแล้วบอกให้ผมไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร
    สงสัยคงกลัวว่าผมจะอยากกินของทอดสินะ ไม่นานนักคุณหมอก็ยกอาหารมาเสิร์ฟ



    “บิบิมบับนี่” ผมมองอาหารตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นรัว.. ผมโคตรเกลียดผักเลย !!



    “ทำไมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้” คนตรงหน้ามองผม ผมยิ่งเบะปากใส่เขาหนักขึ้น



    “ผมไม่กินผัก T^T”



    “ต้องกิน” แล้วคุณหมอก็ตักข้าวในชามจ่อปากป้อนให้ผมกิน ผมส่ายหัวรัวๆ ยังไงก็ไม่ยอมกินหรอก



    “ฮงบิน” เขาเรียกผมเสียงแข็ง แต่ผมก็ยังส่ายหัวไม่ยอมกินต่อไป



    “อื้ออ ไม่เอา ไม่กิน” ผมถอยเก้าอี้ออกห่างโต๊ะ ประท้วงสุดกำลัง ส่วนเขาก็ไม่ยอมแพ้ผมเหมือนกัน
    ถึงขนาดลุกขึ้นยืนแล้วตามมาป้อนผมเนี่ย



    “อี ฮง บิน” น้ำเสียง หน้าตา ดุขึ้นอีกเท่าตัว ผมเลยจำใจงับช้อนเข้าไปแล้วเคี้ยวแบบทรมานสุดๆ.. ฮึก



    “กินให้หมด เดี๋ยวหมอป้อนยา” ผมพยักหน้าหงึกๆแล้วจำใจตักมันเข้าปากจนหมด นี่เพื่อให้หมอ
    ป้อนยาเลยนะ อยากรู้จริงๆว่าเขาจะบังคับให้ผมกินยาด้วยวิธีไหน




    “หมดแล้วครับ” ผมนั่งฝืนยิ้มให้เขา กว่าจะหมด จะบ้าตาย



    “ดีแล้ว งั้นรอหมอแปปนึง” ผมก็ว่าง่ายนะ เดินไปหยุดหน้าประตูกระจกแล้วมองทิวทัศน์ยามค่ำคืน
    นี่ก็สองทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว เมื่อไหร่ผมจะได้กลับบ้านล่ะนี่



    “มาแล้ว” คุณหมอรูปหล่อของผมไปเปลี่ยนชุดมานี่เอง มาพร้อมกับยาและแก้วน้ำในมือ…
    ผมนี่จะช็อคตาย



    “คุณหมอ.. จะป้อนผมยังไง ผมกินยายากมากนะ” ผมเผลอถอยหลังไปชนประตูกระจก
    เขาก้าวเขามาประชิดตัวผม




    NC Censored นะครับ



    “ทำไมราวี่ทำกับผมแบบนี้” กล้าถามแต่ก็อาย



    “เพราะฮงบินมาอ่อยผมทุกวันจนผมทนไม่ไหว” พูดไปพร้อมกับลูบหัวผมไป



    “แล้วที่เขาลือกันว่าราวี่ไม่เคยมีจูบแรกล่ะ?” ผมนอนคว่ำแล้วเงยหน้ามองเขา



    “ผมเป็นคนปล่อยข่าวเองล่ะ ให้ฮงบินติดกับผม” เขาดึงผมเข้าไปจูบอีกรอบและอีกรอบ
    ก่อนเราจะเริ่มบรรเลงความสุขกันต่อ



     

    FIN


    talkkkk

    - ฉาก NC ตามอ่านที่ soelky เวิร์ดเพรส ครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×