ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Hey! Say! JUMP

    ลำดับตอนที่ #9 : [SF] SHIZUOKA surprise... _chapter 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 250
      0
      19 เม.ย. 56

    [shortFic] SHIZUOKA surprise...

    Pairing : Nakajima yuto X Yamada ryosuke

    Rating : nc-18

    Auther : [C]hoGaz













     
    คอนนิจิวะ มินนะซังงงง~

    ฟิคเฉพาะกิจ 'ชิซุโอกะเซอไพรซ์' นี้แต่งเนื่องมาจากฟินกับการที่โตะมะนอนห้องเดียวกันแบบมากๆๆๆๆ ก็เลยอยากจะมโนเรื่องเพื่อสนองความฟินของตัวเองคร่าาา~


    Chapter one


    ผมยามาดะ เรียวสุเกะ และผองเพื่อนเฮเซย์จั๊มพ์มาแสดงทัวน์คอนเสิร์ตที่จังหวัดชิสุโอกะกัน วันนี้เป็นการแสดงคอนของเราในวันแรก ซึ่งนั่นก็หมายความว่า พวกเราแสดงติดต่อกันสองรอบแล้ววว~ เหนื่อยเอาการเลยล่ะ หลังจากแสดงคอนเสิร์ตเสร็จ พวกเราดันต้องมานั่งรวมกันตรงลอบบี้ของโรงแรมเพื่อการชี้แจงเรื่องห้องพัก

    ผมนั่งเพลียๆ คล้ายๆว่าหนังตามันหนักมากจนมันจะปิดลงมาได้อยู่แล้ว ทุกคนก็ดูไม่ต่างกัน ยกเว้นคนเดียว อาริโอกะ ไดกิ แน่ล่ะก็มะรืนนี้น่ะมันเป็นวันเกิดของเขานี่!!! ถึงเขาจะร่าเริงขนาดไหนก็ไม่ทำให้ผมกระตือรือร้นตามสักนิดเพราะผมน่ะง่วงมาก ไม่ไหวแล้ววว (~_~;)


    "ฮ้าวววว~" ผมหาวอ้าปากกว้างอย่างไม่เกรงใจใคร ยูโตะหันมามองผมแบบแปลกๆ แล้วเขาก็หัวเราะออกมา

    อะไร? ทำไม? หมอนั่นหัวเราะผมทำไม? หรือเมื่อกี๊หน้าตาตอนหาวผมทุเรศมากงั้นหรอ? หนอย!!! ผมเลยส่งสายตาอาฆาตตอกกลับรอยยิ้มปัญญาอ่อนนั่น เขาหุบยิ้มแล้วหันหน้ากลับไปทันที

    "เหอะ!!" ผมสบถดังๆให้ยูโตะได้ยินซะเลย


    "ยามะจังง่วงมากเลยหรอ?" จิเน็นที่นั่งตัวติดกันกับผม ติดมากจนจะขยับมานั่งทับผมได้อยู่แล้ว ถามผมด้วยความห่วงใย...มั้ง?

    "ง่วงมากกก" ผมลากเสียงยาวเอียงหัวซบลงบนไหล่คนตัวเล็ก ยูริหัวเราะคิกคักเหมือนเขาจะพอใจกับสิ่งที่ผมทำ

    "ถ้าได้นอนห้องเดียวกับยามะจังก็ดีนะ" ยูริยิ้มหวานให้ผม ผมเกือบจะหลงเคลิ้มเออออตามละเชียว ถ้าไม่ลืมว่าเขาน่ะชอบนอนหลับก่อนผมประจำล่ะนะ

    "หึย ไม่เอาอ่ะ นายหลับก่อนฉันตลอด อยู่ห้องเดียวกับนายเหมือนฉันอยู่คนเดียว" ผมส่ายหน้าพั่บๆ ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ก็ผมมันขี้กลัวนี่ การที่ต้องนอนกับคนที่เอะอะอะไรก็หลับตลอดแบบนั้นไม่ต่างอะไรกับการอยู่คนเดียวสักนิด

    "ใจร้ายชะมัด ก็แน่ล่ะใครจะตามใจนายยอมเปิดไฟนอน ยอมอยู่เป็นเพื่อนจนกว่านายจะหลับแบบยูโตะล่ะ" จิเน็นผลักหัวผมขึ้น เหมือนเขาจะงอนนิดหน่อยนะ แล้วทำไมต้องพูดถึงยูโตะด้วยอ่ะ

    "ก็นะ แต่หมอนั่นพูดมาก นอนกับนายดีกว่าน้าา~" ผมแกล้งเอาหัวซบลงไปใหม่ แอบง้อๆนิดหน่อยด้วย

    "ไหนบอกว่านอนกับฉันก็เหมือนนอนคนเดียวไง" ยูรินี่ความจำดีนะ เขาย้อนคำพูดผมจนผมสะอึกเลย ลืมๆไปก็ได้นะไอที่ผมพูดเมื่อกี๊น่ะ

    "นั่นแหละๆ นอนคนเดียวแต่นายไม่ว่าเรื่องเปิดไฟนี่" ก็แน่ล่ะ เขาจะว่าผมได้ไง ไอคนที่ไม่ว่าสถานการณ์ไหนก็หลับได้ตลอดแบบจิเน็นเนี่ย เขานอนทั้งๆที่ไม่สนใจด้วยซ้ำว่ามันสว่างหรือมืด

    "เฮ้อ ยามะจังนี่จริงๆเลย ฉันขอให้นายได้นอนห้องเดียวกับยูโตะน้าาา~" เขาขยับตัวหนีผม หัวผมที่มีมวลเกือบจะตกตามแรงโน้มถ่วงโลกอยู่แล้ว ดีนะไหวตัวทัน ยูริชี้นิ้วไปทางยูโตะพยักพะเยิดหน้ามาทางผม แล้วไอ้รอยยิ้มมีเลศนัยนั่นมันอะไร?!

    "ไอเด็กบ้า!!"

    "ใครเด็ก? ยามะจังนั่นแหละเด็ก นอนปิดไฟก็ไม่ได้ เนอะเคโตะ" ยูริเขยิบไปหลบหลังเคโตะเมื่อผมทำท่าจะฆ่าเขาเมื่อกี๊ แถมไอ้ตาขีดนี่ก็หัวเราะผมอีก เฮ้อ ช่างเถอะ ไอเรามันก็นอนต่างสถานที่แล้วปิดไฟไม่ได้จริงๆนี่

    ลองคิดดูนะ ในห้องมืดๆ เงียบๆ เย็นๆ มองไม่เห็นอะไรเลย แต่กลับได้ยินและสัมผัสได้ชัดเจนอย่างนั้น ถ้าสมมติมีอะไรโผล่มาจะทำยังไงเล่า?! แล้วถ้ามันดึงขาผมอ่ะ แล้วมันดึงผ้าห่มผมอ่ะ โอยย~ แล้วไอสิ่งที่เรียกว่าผีเนี่ย ถึงเราจะมองไม่เห็นอะไรในที่มืดแล้วทำไมเรากลับเห็นมันในที่มืดล่ะ? แค่คิดก็สยองแล้ว (
    Д`)

    "ว๊ากกก!!" ผมสะดุ้งโหยงแหกปากลั่น ใครสะกิดหลังโผ้มม!!

    "ยามะจังเป็นอะไร?" ตัวต้นเหตุโผล่หน้าจากข้างหลังมาถามผมด้วยความห่วงใย

    "ก็นายอ่ะแหละ!! เล่นบะ..." ผมหันไปเผชิญหน้า แต่เห็นสายตาที่มองมาก็เลยพูดอะไรไม่ออก สายตาที่ห่วงใยผมจริงๆ...

    ไอบ้ายูโตะนายกำลังทำฉันเขิน >_<

    "ฉันทำให้นายตกใจหรอ? ขอโทษ" คนถูกกล่าวหาทำหน้าสลด ผมรู้สึกผิดทันที หมอนี่แค่เดินมาสะกิด แต่ตัวผมเองเนี่ยแหละมัวคิดนู่นนี่อยู่ ก็เลยตกใจเวอร์เกินเหตุ

    "ไม่หรอก ฉันคิดนู่นนี่เพลินอ่ะ ก็เลยสะดุ้งนิดหน่อย" ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ยูโตะยิ้มร่าเหมือนเด็กๆ

    ตึก ตัก ตึก ตัก

    อ๊ากกก ใจผมเต้นแรงทำไมอ่ะ? ทำม๊ายย?!!

    "คิดเรื่องอะไร? เรื่องฉันหรอ? นายนี่น้าา~" ยูโตะยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่วายยังเอานิ้วมาจิ้มแก้มผมอีก เห็นผมใจดีด้วยหน่อยเอาใหญ่เลยนะ

    แต่ผมก็ชอบเวลาเขาจิ้มแก้มผมน้าา~


    เฮ้ย!! ไม่ใช่ๆ

    "เพี๊ยะ!!!" ผมเลยยกมือฟาดที่ไหล่เขาเข้าไปจังๆ เพื่อเรียกสติตัวเองคืน คนตัวสูงโอดครวญมือแกร่งลูบหัวไหล่ตัวเองป้อยๆ

    "ยามะจังตีฉันทำไมอ่า?" ยูโตะคร่ำครวญ

    "หมั่นไส้" ผมตอบกลับช้าๆ ชัดๆ ยูโตะหน้าหดเหลือสองนิ้วเลย ฮ่าๆ ตลกชะมัด

    อาจจะดูเหมือนผมใจร้าย ชอบแกล้งยูโตะใช่ไหมล่ะ? แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลยนะ หมอนี่น่ะชอบมากวนผมอยู่เรื่อย พูดนั่นพูดนี่ กวนประสาทผมตลอดเวลา พักนี้ยิ่งแล้วใหญ่ชอบพูดเหมือนกับว่าจะจีบผมอย่างนั้น ชอบมาชมว่าผมน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ ชอบมาทำตัวติดกับผม

    ผมไม่ชอบนี่! รู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเองเข้าไปทุกทีเวลาอยู่ใกล้ยูโตะ

    "นี่นายเดินตามมาทำไมอ่ะ?" เห็นไหมล่ะ? ตอนนี้เขาก็เดินตามผมมา จั๊มพ์ทุกคนแยกย้ายแล้ว ผมก็เลยจะเดินกลับห้องบ้าง ตอนนี้นะอยากซบหน้าลงกับหมอนนุ่มๆจะตายอยู่แล้ว

    "ยามะจังไม่ได้ฟังหรอ? ฉันกับนายพักห้องเดียวกันนะ" อ่า...ผมมัวแต่คิดเรื่องสยองขวัญเลยไม่ได้ฟังอะไรเลยหรอเนี่ย? ร่างสูงแกว่งคีร์การ์ดไปมาต่อหน้าผม ผมเห็นเลขที่ห้องแว๊บๆว่า 504 เอ~


    เฮ้ย เดี๋ยวเซ่! หมายความว่าไงอ่ะ?

    "ห๊ะ?!!" ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง คิ้วสวยขมวดยุ่งจ้องคนตัวสูงอย่างสงสัยบวกกับถ้าเขาล้อผมเล่นผมจะซัดหมัดโคอาล่าใส่ซะเลย

    "เรานอนห้องเดียวกัน..." ถ้าเขาพูดปกติล่ะผมจะไม่ว่า แล้วทำไมเขาต้องกระซิบเบาๆข้างหูผมด้วยล่ะ

    "อ๊ะ!" ผมขนลุกซู่ ไอลมเบาหวิวท้ายประโยคนั่นแทรกซึมเข้ารูหูผมเลยนะ ผมยกมือปิดหูทันที ยูโตะเล่นบ้าอะไรของเขาเนี่ย?!!

    "ฮ่าๆ ไปกันเถอะ ง่วงไม่ใช่หรอ?" เขาขำท่าทีผม ชักชวนผมเข้าห้องด้วยการโอบไหล่พาเดินไปด้วยกัน ผมสะบัดตัวออก ยูโตะหันมามองผมแล้วยิ้มกว้าง

    จะยิ้มอะไรหนักหนาครับ? คุณชายนากาจิม่า

    มันไม่ดีต่อหัวใจผมนะ!!!

    "ยามะจัง ยูโตะมานี่ๆ" จิเน็นกวักมือเรียกผมหยอยๆตรงหน้าประตูลิฟท์ ข้างกันมีบุรุษหน้าตาดีใช้นิ้วชี้ควงคีย์การ์ดอยู่ ผมรีบวิ่งไปหาทันที



    "พักห้องเดียวกับเคโตะหรอ?" ผมถามพลางมองหน้าจิเน็นสลับกับเคโตะ

    "ก็แน่ล่ะ เห็นๆอยู่ ใช่ป่ะเคโตะ?" ยูโตะเดินมาหยุดยืนเคียงผม แถมยังกระแดะตอบคำถาแทนจิเน็นอีก ผมหันไปทำท่าจะด่าแต่จิเน็นดึงแขนผมเอาไว้

    "ไปเถอะๆ ลิฟท์มาแล้วๆ" คนตัวเล็กพูดพร้อมดึงตัวผมเข้าไปในนั้น โดยมียูโตะและเคโตะเดินตามเข้ามา

    ผมส่งสายตาอาฆาตไป แต่ไอ้โย่งกลับทำหน้าระรื่น ผมเลยได้แต่ถอนหายใจ ยืนอยู่เงียบๆ ต้องยอมมันทุกทีสิน่า

    ลิฟท์ขนาดพอดีกำลังเคลื่อนตัวขึ้นตามแต่ละชั้นจิเน็นบอกผมว่า...พวกเราอยู่ชั้นเดียวกันหมด แต่พวกเบสขึ้นไปก่อนแล้ว เห็นบ่นว่าอยากอาบน้ำมากๆ และเขายังบอกผมอีกว่า ยาบุคุงอยู่กับยูยะ ส่วนฮิคารุคุงอยู่กับไดจัง ส่วนเขาอยู่กับเคโตะแล้วก็อิโนะจัง ผมก็เลยถามเขาว่าแล้วอิโนะจังล่ะ? จิเน็นยิ้มเขินๆ

    'ไปหาไดจัง' หลังจากได้ยินคำตอบผมกับจิเน็นก็หัวเราะคิกคักกันอยู่สองคน

    ติ๊งงง~ เสียงลิฟท์เปิดพวกเราก็แยกย้ายกัน จิเน็นโบกมือบ๊ายบายแล้วเดินไปทางซ้าย เขาอยู่ห้องแรกของชั้นส่วนผมไปทางขวาเพราะเป็นห้องพักสุดท้ายของสมาชิกจั๊มพ์


    ยูโตะอาสาปลดล็อกห้องให้ เขาเปิดประตูให้ผมเดินนำไปก่อน ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ก็ห้องมันมืดอ่ะ ยูโตะก็เลยต้องเป็นคนเดินเข้าไปก่อน เมื่อเขาเสียบคีย์การ์ดบนกำแพงห้องด้านขวามือ ไฟทั้งห้องก็สว่างพรึ่บ ผมก็เลยจัดแจงพาตัวเองเข้ามาในห้องทันที

    ห้องพักขนาดกว้างพอสมควรเพราะมีเตี่ยงเดี่ยวสองเตียง มีโต๊ะไม้เล็กๆตั้งคั่นระหว่างเตียง มีจอแอลซีดีขนาดสี่สิบหกนิ้วแขวนติดกับผนัง มีตู้เย็นเล็กๆด้วย ดีเลยๆผมจะได้เอาขนมเยลลี่ที่แอบขโมยน้องสาวมาแช่ตู้เย็น ^o^

    "นี่ยามะจัง ตรงนี้วิวสวยดีนะ" ยูโตะกวักมือเรียกผมจากตรงระเบียงห้อง ทันทีที่เขาเลื่อนเปิดกระจก ลมเย็นๆก็ปะทะตัวผมทันที รู้สึกสดชื่นไงไม่รู้ ผมก็เลยเลิกสนใจตู้เย็นกับเยลลี่แล้วเดินไปหาเขา

    "อืม สวยจัง" ถึงท้องฟ้าภายนอกจะมืดสนิทไม่มีดวงดาวสักดวงเลยก็ตาม แต่ว่าแสงไฟจากตึกรามบ้านช่องที่พร้อมใจกันเปิดในเวลานี้ มันระยิบระยับเหมือนดวงดาวเลยล่ะ

    "ฉันถ่ายรูปเก็บไว้ดีกว่า" ยูโตะว่า แล้วก็ยกกล้องขึ้นมาถ่าย ผมยังสงสัยเลยว่ากล้องนี่ย่อส่วนเก็บในกระเป๋ากางเกงได้รึไง? ยูโตะถึงได้มีมันทุกที่ทุกเวลาเหมือนกางเกงใน

    ผมยืนเท้าขอบระเบียงรับลมเย็นๆ เหม่อมองดวงไฟที่ผมคิดว่ามันคือดวงดาวนั่นท่ามกลางความเงียบ ผมอมยิ้มเล็กๆ

    ผมมีความสุขเวลาได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตตามที่ต่างๆ ทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปมันช่วยฟื้นฟูจิตใจที่เหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ผมก็เลยชอบที่จะใช้เวลานิดหน่อยในการเฝ้ามองและเก็บภาพเหล่านั้นไว้เป็นความทรงจำ ซึ่งต่างกับยูโตะเพราะรายนั้นเลือกจะเก็บเรื่องราวต่างๆลงบนแผ่นฟิล์มเพื่อย้ำเตือนความทรงจำว่าเขาจะไม่ลืมมัน มันก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยล่ะนะ แต่เพราะผมไม่ชอบจับกล้องสักเท่าไหร่ ผมก็เลยชอบไปขอดูรูปถ่ายต่างๆของเขา มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองได้ไปในที่นั้นกับยูโตะ เหมือนว่าผมได้ใช้เวลาเหล่านั้นร่วมกันกับเขา

    ให้ตายเถอะ ชักจะเหมือนสาวแรกรุ่นเข้าไปทุกที

    "แชะ! แชะ!" ผมที่กำลังแสดงเป็นพระเอกเอ็มวีอยู่ถูกเรียกกลับมาให้อยู่ในโลกความจริงด้วยเสียงกดชัตเตอร์ของยูโตะ ผมหันหน้าไปมองเขา ทำท่าจะเข้าไปส่องผ่านเลนส์กล้องแบบยูโตะบ้าง

    "หันมาทำไม? หันกลับไปสิ" ยูโตะตวาดผมแล้วยกกล้องหนีไม่ให้ผมโดนมัน ผมส่งเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจ แต่ก็ยอมหันกลับไปแต่โดยดี

    เชอะ! แค่นี้ก็ต้องหวงด้วย

    "มุมกำลังดีแท้ๆเชียว" ยูโตะบ่นงุ้งงิ้งๆ ผมเริ่มรำคาญ ก็เลยเดินกลับเข้าไปข้างในห้องดีกว่า

    ผมทิ้งตัวนอนแผ่บนที่นอนพยายามมองหาจิ้งจกบนเพดานห้อง ขี้เกียจอยู่ฟังยูโตะคนขี้บ่น ด้วยความที่ผมง่วงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหรือไม่ก็เพดานห้องนี้มันกำลังสะกดจิตผมอยู่ หนังตาผมหย่อนจนผมรั้งไว้ไม่ได้แล้ว

    หลับสักหน่อยละกัน ยังไงๆยูโตะก็เอาแต่สนใจกล้องไม่สนใจผมอยู่แล้ว จับกล้องทีไรเป็นงี้ทุกที เราเป็นคนแท้ๆ สู้กล้องยังไม่ได้เลย ยูโตะคนบ้า อุตส่าห์ได้พักห้องเดียวกันสองคน สนใจอย่างอื่นนอกจากผมได้ไง...

    ฟี้~

    ฟี้~

    "ยามะจังๆ ตื่นได้แล้ว!" ผมรู้สึกเหมือนใครเรียกผมอยู่ เขากำลังเขย่าตัวผมด้วย แต่ผมง่วงมาก ลืมตาไม่ไหวอ่า~

    "อืมม~" ผมพลิกตัวหนีคนๆนั้น ทำเป็นไม่สนใจแล้วนอนต่อ


    "ถ้ายามะจังไม่ตื่นฉันจะถอดเสื้อผ้านาย แล้วถ่ายรูปเก็บไว้!" ผมเด้งตัวขึ้นนั่งทันที หลังผมคงตั้งฉากกับที่นอน90องศาพอดีเด๊ะแน่ๆ มองเห็นยูโตะอยู่ข้างๆ

    อ๋อ ยูโตะปลุกผมน่ะเอง

    แต่ว่า...ผมรู้สึกว่าหน้าอกเย็นแบบแปลกๆ เหมือนกับว่าความเย็นจากแอร์ปะทะเนื้อผมตรงๆไม่ผ่านอะไรเลย อย่าบอกนะว่า....


    ผมก้มลงมอง...

    (._.)

    (o_o)

    (O_O)

    อ๊ากกกกกกก!!!!

    "ไอบ้า ไอโรคจิต นายมันลามกที่สุดเลยย!!!" ผมตะโกนด่า สองมือก็คว้าหมับที่คอเสื้อตัวเอง ไม่ให้คว้าได้ยังไง ก็เสื้อผมมันถูกปลดกระดุมออกหมดเลย ยูโตะมองผมแบบแปลกๆ สายตาเขามันดูไม่น่าไว้ใจ แถมเขายังไม่ได้ใส่ใจคำด่าของผมเลยสักนิด

    ร่างสูงเขยิบตัวเข้ามาใกล้ ผมก็ขยับตัวหนี

    "ปึ่ก"

    เสียงหลังผมชนกับหัวเตียง

    แย่แล้วววว

    "อย่านะ ฉันไม่เล่นนะเว้ย!!!" ผมหลับตาปี๋ เมื่อยูโตะโน้มหน้าเข้ามาใกล้ มือหนึ่งผลักร่างสูง อีกมือหนึ่งขยำสาบเสื้อตนจนยับยู่ยี่

    สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆรินรดพวงแก้มใสที่แดงเถือกคล้ายลูกสตรอเบอรี่ ใบหน้าหวานร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงรัวเร็วจนมันจะหลุดออกมาแร๊ปข้างนอกได้อยู่แล้ว

    ริมฝีปากยูโตะเฉียดใบหูผมเบาๆ

    "ใครว่ากล้องสำคัญกว่านายกันล่ะ?"

    "เอ๊ะ?!" ผมเผลอลืมตา เลยสบตากับยูโตะเต็มๆ รอยยิ้มหล่อร้ายปรากฏชัดในสายตาผม

    หมอนี่...หล่อชะมัด

    "พิสูจน์ให้ดูเอามั๊ย?" ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนใกล้เข้ามาเรื่อย...เรื่อย...

    ผมรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ร้อนๆ ร้อนเกินไปแล้ววว!!!

    ผมลืมตาพรึ่บสิ่งที่จ่ออยู่ตรงหน้าผมก็คือ...

    ดะ...ไดร์เป่าผม

    (°_°)



    "ในที่สุดก็ตื่น ฉันปลุกนายตั้งนานแน่ะ" คนร่างสูงพูดแบบไม่แคร์อะไร เขาเอาไดร์เป่าผมไปเป่าผมต่อ มือยาวๆของเขาขยี้หัวตัวเองและมองผมผ่านกระจก

    "สี่ทุ่มกว่าแล้ว ไปอาบน้ำแล้วมานอนดีๆสิ" เขาปัดมือไล่ผม ผมที่ยังงงๆ มึนๆ สลึมสลือลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำอย่างว่าง่าย

    กระจกบานใหญ่ตั้งตระหง่านทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป ผมไล่มองตัวเองผ่านกระจก ผมหยักศกผ่านการเซตเป็นทรงจากการแสดงคอนเสิร์ตยุ่งเหยิงดูไม่ได้ ใบหน้าที่ยังไม่พร้อมใช้งานดูตลกไงไม่รู้ ผมสะบัดหน้าตัวเองแรงๆเพื่อคลายความง่วง

    คิดได้ไงเอาไดร์เป่าผมมาปลุกคนอื่นเขาเนี่ย!!

    อย่าว่าแต่ยูโตะเลย ตัวผมเองเนี่ยฝันบ้าอะไรก็ไม่รู้

    โอ๊ยย น่าอายชะมัดเลยอ่าาา~

    ใจผมยังเต้นแรงอยู่เลย จูบกับยูโตะหรอ?

    ไม่จริง...ไม่จริง...

    มือบางที่กำลังจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตหยุดชะงัก

    เส้นเลือดตรงหน้ามารวมกันทันทีโดยมิได้นัดหมาย

    กระดุมทุกเม็ดถูกปลดจากรังดุมแล้วเป็นที่เรียบร้อย ไม่ต้องให้ผมลำบากปลดเลย ผิวขาวเนียนของผมโผล่พ้นจากสาบเสื้อเชิ๊ตตัวเก่ง

    เอ๊ะ?! ก็ผมเพิ่งตื่น นั่นก็คือผมฝัน

    แล้วทำไมเสื้อผมหลุด ใครปลดกระดุม

    หรือไม่ใช่ฝัน เฮ้ยย!!!

    "ปั้ง!!" ผมกระฉากประตูห้องน้ำอย่างแรง ยูโตะสะดุ้งตัว เขาละสายตาจากกล้องตัวโปรดหันมามองผมช้าๆ มือของเขาที่กำลังถือกล้องสั่นอยู่เห็นๆ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วถอยหลังออกไปเรื่อยๆ เหมือนจะรู้ชะตากรรมตัวเอง

    "ไอบ้า! ไอลามก!! ไอ้คนฉวยโอกาสเอ๊ย!!!" เมื่อหมดทางหนี ยูโตะก็รีบวางกล้องตัวเองลงบนเตียง ผมก้าวเท้ายาวๆเข้าใกล้ยูโตะ ง้างหมัดขึ้น ยูโตะมองผมตาปริบๆ (
    ・・;)

    "มาซะค่อน โคอาล่าพั๊นซ์ ย้ากกกก!!!!!" ผมปล่อยท่าไม้ตายใส่ยูโตะเต็มๆ เหมือนกำลังจินตนาการว่าไอโคอาล่าตัวนั้นจะปรากฏข้างหลังผมเหมือนในดราม่าที่ผมเล่น

    แต่ผิดคาด...ยูโตะหยุดหมัดของผมด้วยมือเดียวของเขา เขาจับมือผมแน่นออกแรงกระชากตัวผมเข้าไปใกล้ แผ่นอกบางกระแทกกับอกแกร่งโดยไม่ตั้งใจ

    "ถ้ายังไม่ไปอาบน้ำฉันปล้ำนายตรงนี้แน่!!" ยูโตะคาดโทษใส่ผม ผมตกใจตาโตในคำพูดของเขา พอคิดได้อีกทีผมก็รีบสะบัดตัวหนี แล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที

    ถึงตรงนี้แล้ว ยามาดะ เรียวสุเกะกับนากาจิม่า ยูโตะยังไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรกันเลยนะครับ!!!!

    tbc. next Chapter 70%


    ••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••


    อัพฟิคเรื่องใหม่อีกแล้วค่า~

    เรื่องนี้เกี่ยวโยงกับรีพอร์ทคอนนะคะ ทุกคนน่าจะรู้เนอะ

    ก็แบบอยากทำให้มันเป็นเรื่อนเป็นราวขึ้นมาอ่ะค่ะ

    เนื้อเรื่องส่วนที่มีความคล้ายคลึงกับรีพอร์ทนั้น อาจจะผิดๆถูกๆบ้างค่ะ

    ถ้าหากมันไม่ใช่อะไรตรงไหนท้วงติงได้เลยนะคะ

    อย่างเช่นห้องพักของจั๊มพ์ ใครพักกับใครอะไรแบบนี้

    เรายอมรับเลยค่ะว่าลืมแคปจากทวิตเตอร์เก็บไว้ เราจำไม่ได้จริงๆค่ะ

    หลังว่าทุกคนคงจะสนุกกันนะคะ ^__^

    ส่วนเรื่อง PAIN เรากำลังพยายามอยู่นะคะ  ที่หายไปนานๆแบบนี้ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆเลยค่ะ

    ขอโทษจริงๆค่ะ T^T

    ยังไงช่วยติดตามต่อทั้งเรื่องนี้แล้วก็ PAIN ด้วยนะคะ

    ขอบคุณมากๆเลยค่า~


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×