คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 5 โกรธตัวเอง
ตอนที่ 5 โกรธตัวเอง
วันนี้ผมตื่นเร็วเป็นพิเศษ โดยไม่ต้องให้แม่มาปลุกเหมือนอย่างเคย เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของผม ผมลงมาจากห้อง เปิดตู้เย็นแล้วหยิบช็อกบอลที่ใส่ห่อไว้พร้อมผูกริบบิ้นสีชมพูอันเล็กไว้ที่ปากถุง ใส่กระเป๋านักเรียนด้วยความระมัดระวัง มองนาฬิกาที่แขวนติดกับผนังห้องนั่งเล่น
“ไปรอหน้าบ้านยูโตะคุงเลยละกัน แม่ฮะ ผมไปแล้วน้า”
ใช้เวลาเพียงไม่นาน ยูโตะคุงก็เดินออกมาจากบ้าน ดูเขาจะอึ้งมากที่เห็นผมมารอเขาที่บ้าน
“อะ อรุณสวัสดิ์ ยามะจัง ทำไมวันนี้...”
“ตื่นเร็วน่ะ เลยมารอนายบ้างดีกว่า” ปกติยูโตะคุงจะเป็นฝ่ายมารอผมเสียมากกว่า เขาเอื้อมมือมาขยี้หัวผมอย่างเคย “หรอ?” ผมได้แต่หัวเราะตอบกลับไป
เดินมาสักพัก ยูโตะคุงก็หยุดเอาดื้อๆ แล้วหน้ามาประจันกับผม
“ยามะจัง วันนี้ฉันมีเรื่องจะบอกนาย ฉันอยากให้นายรู้เป็นคนแรกน่ะ” ใจผมเต้นระรัว เมื่อวานเขาก็พูดกับผมอย่างนี้ เรื่องอะไรกันแน่เนี่ย
“อืม ฉันเองก็มีเรื่องจะบอกนายเหมือนกัน” เป็นเรื่องที่นายก็ต้องรู้เป็นคนแรกนั่นแหละ >///<
ตอนนี้พวกผมสองคนหยุดตรงตู้ล็อกเกอร์เพื่อนจะเปลี่ยนรองเท้า พอยูโตะคุงเปิดมันเท่านั้นแหละ จดหมายฉบับเล็กฉบับน้อยร่วงลงมาเพียบ แถมเขายังหันมายักคิ้วให้ผม เพราะล็อกเกอร์ของผมมันว่างเปล่าน่ะสิ เฮอะ
“อรุณสวัสดิ์จ๊ะ ยูโตะคุง ^ ^” ไม่ใช่เสียงของจิเน็นที่ทักพวกผมทุกเช้า แต่กลับเป็นเสียงของผู้หญิงอีกคน ที่ตอนนี้เจ้าตัวเดินมาแทรกระหว่างผมกับยูโตะคุงแล้ว
“อรุณสวัสดิ์ เอริจัง มาเร็วนะวันนี้” พูดพลางเอากระเป๋าแขวนไว้กับตะขอที่อยู่ข้างโต๊ะตน
“ก็ฉันดีใจจนนอนไม่หลับนี่หน่า ยูโตะคุงไม่เป็นอย่างนั้นหรอ”
“คุยเรื่องอะไรกันอยู่หลอ” จิเน็นที่เพิ่งมาถึง ถามคำถามที่ผมกำลังจะถามออกไปพอดี
“ก็ฉันกะ...” ยูโตะยกมือปรามเอริกะ ทำให้เธอเดินไปที่นั่งของตัวเองแล้ว เช่นเดียวกับจิเน็น แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงจ้องผมอย่างนั้น ผมไปทำอะไรให้งั้นหรอ
“แล้วฉันจะบอกนายนะ ยามะจัง” หันมายิ้มให้ผม
วันนี้การเรียนก็ไม่เข้าหัวผมเช่นเคย เพราะผมมัวแต่คิดเรื่องอื่นตลอดเวลาน่ะสิ แล้วยังมีสายตาอาฆาตจากใครบางคนที่ส่งมาเป็นพักๆ เพราะหันไปผมก็รู้ว่าคนที่จ้องมา เป็นเอริกะ ทำไมกันล่ะ? หรือว่า ผมไปเห็นตอนที่เขาทะเลาะกับแฟนเข้า
พักกลางวันนี้ ผมว่าเอริกะทำตัวเป็นปาท่องโก๋ติดกับยูโตะคุงตั้งแต่เมื่อกี๊ ขนาดเขาบอกว่าจะไปซื้อน้ำ ยัยนี่ยังขอไปด้วยเลย
“เอริกะจัง วันนั้นน่ะ เธอรู้จักกับพนักงานร้านเค้กคนนั้นด้วยหลอ” ทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียวกัน โดยเฉพาะยูโตะคุงนี่ดูจะอึ้งกับสิ่งที่ผมพูดมากที่สุด
“รู้จักสิ ก็เขาเป็นแฟนเก่าฉันน่ะ ทำไมหรอ” อ่อ แฟนเก่า แต่ว่าทำไมพูดเสร็จต้องหันไปหายูโตะคุงด้วยเล่า
“ร้านเค้กไหน?” จิเน็นถามมาบ้าง บางทีเขาอาจจะคิดว่าเป็นร้านเดียวกันกับที่จะชวนผมไปกินก็ได้
“Make a Wish” เอริกะตอบเสียงดังฟังชัด
“O.O พนักงานคนไหนอ่ะ คนไหน” จิเน็นถามคาดคั้น สงสัยจะเป๋นร้านเดียวกันแน่ะๆ
“แล้วนายจะอยากรู้ไปทำไม?” ฝ่ายคนโดนคาดคั้น ตอบกลับทำเอาจิเน็นหน้าเจื่อนลงทันที
หลังเลิกเรียนผมเห็นยูโตะคุงกับเอริกะกระซิบกระซาบอะไรกันอยู่สักพัก ฝ่ายหญิงก็เดินจากไป ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจนัก ผมที่กำลังจะหันไปถาม
“นายรอฉันหน่อยได้ไหม ฉันต้องไปตอบจดหมายพวกนี้” ยูโตะคุงก็พูดขึ้นมาซะก่อน เลยไม่ได้ถามเลย
“อ่อ ได้สิ”
ผมใช้เวลารอเขาเกือบ 2 ชั่วโมง จนตอนนี้จะห้าโมงเย็นแล้ว เดือนกุมภาแล้วแต่อากาศก็ยังคงเย็นเอาเรื่องเหมือนกัน ไม่นานนักยูโตะคุงก็เดินมาหาผมพร้อมกับบ่นนู่นนี่ไปตลอดทาง บางคนอาจจะคิดว่าเขาน่ารำคาญแต่สำหรับผม ผมชอบนิสัยนั้นของเขา เพราะมันทำให้รู้ว่าผมกับเขาสนิทกันมากแค่ไหน
ตอนนี้ผมได้ยินแต่เสียงหัวใจตัวเองเต้นโครมคราม จนกลัวว่าคนข้างๆอาจจะได้ยินมันเข้า
เวลาสำคัญของผมใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว......
"ยามะจัง นายมีเรื่องอะไรจะบอกฉันหรอ?" ยูโตะถามผมตอนที่ผมยังคิดอะไรเต็มหัวไปหมด ทำให้ผมสะดุ้งตัวทันที
"อะ อ่อ นายบอกก่อนดีกว่า" ขอเวลาผมทำใจก่อนได้ไหม
"เรื่องฉันยาวมากกก นายก่อนแหละ ดีแล้ว" ในเมื่อขัดไปก็ไม่ได้ผล แล้วตอนนี้เราสองคนก็หยุดอยู่ตรงหน้าผมแล้วด้วย จะช้าจะเร็วยังไง ผมก็ต้องบอกออกไปอยู่ดี อย่างน้อยขอให้พระเจ้าเข้าข้างผมด้วยเถอะ
ร่างอวบ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋านักเรียน ความหาถุงพลาสติกสีใส ที่ห่อช็อกบอลที่เขาทำมันเองกับมือเอาไว้ เมื่อเจอแล้วก็ยื่นให้คนตรงหน้าทันที
"คะ ความจริงแล้ว ตลอดเว...ลา ฉันมีนะ นายอยู่ข้างๆกันมาตลอด คือว่า ฉันหมายความว่า ฉะ ฉันต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่มีนาย เพราะงะ งั้น 'ฉันรักนาย' ช่วยรับเอาไว้ด้วยเถอะ" ถึงตลอดทั้งประโยคอาจจะติดขัดไปบ้าง แต่คำว่าฉันรักนาย ผมตั้งใจพูดมันมากที่สุด เข้าใจมั๊ย ยูโตะคุง
มีเพียงความเงียบ ผมเลยเงยหน้าขึ้นมองยูโตะคุง แต่สิ่งที่ผมเห็นมันให้ผมแทบทรุดลงกับพื้นตรงนั้น ยูโตะคุงกำลังลำบากใจ เขาไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ 'นี่ผมทำอะไรลงไป'
"ขอโทษยามะจัง ฉันเองก็เองก็เห็นนายสำคัญมาตลอด แต่มันไม่ใช่ ตอนนี้ฉัน..." เอื้อมมือมาขยี้หัวผมอย่างเคย แต่มันไม่กลับไม่เหมือนทุกครั้ง ผมรู้สึกใจหาย ราวกับว่าประโยคต่อไปที่เขาจะพูดเอาหัวใจผมไปด้วย
"ตอนนี้ฉันคบกับเอริจังอยู่ ฉัน อยากให้เราเป็น'เพื่อน'กันมากว่า"
แต่ละคำที่ยูโตะคุงพูด มันค่อยๆทำลายหัวใจผมช้าๆ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ ค่อยๆร่วงลงมาจากทีละเม็ดจนกลายเป็นสายน้ำบนหน้าผม
ร่างของยูโตะเดินไปจากตรงหน้าแล้ว แต่ร่างอวบเองก็ยังคงไม่เงยหน้าขึ้นมาเพื่อรับรู้อะไรรอบตัว เขาค่อยๆทรุดลงกับพื้น น้ำตาไหลเป็นสายยากเกินจะหยุดมันเอาไว้ สองมือค่อยๆรวบถุงพลาสติกใสที่มีช็อกบอลที่ทำขึ้นมาจากความรู้สึกของเขาเอาไว้แน่นก้อนกลมสีน้ำตาลมากอดไว้ ร่างสูงไม่ได้เอามันไปด้วย นั่นหมายความว่า ‘ยูโตะคุงไม่คิดจะรับความรู้สึกของผมเอาไว้สักนิดเลย’
พยามยามฝืนตัวเองครั้งสุดท้าย พาร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงมาที่ห้องนอน นั่งลงช้าๆที่เตียงนุ่ม ชันเข่าขึ้นก้มก้มหน้าซบลงกับเข่าปล่อยโฮอย่างไม่สนใจใคร เพราะตอนนี้ ในห้องนี้มีแค่ผม
ผมเสียใจ ผมเจ็บปวด แต่ทว่าผมกลับโกรธตัวเองมากกว่า โกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่นั่งร้องไห้ โกรธตัวเองที่คิดอะไรเกินเลยกับเพื่อน โกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่คิด โกรธตัวเองที่ทำให้
ยูโตะคุงลำบากใจ โกรธตัวเองที่เก็บความรู้สึกไว้ไม่ได้ โกรธตัวเองที่คิดอยากได้มากกว่านั้น โกรธตัวเองที่เข้าใจอะไรไปเอง โกรธตัวเองที่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นมาแย่งยูโตะคุงไป ผมโกรธตัวเองที่เกลียดผู้หญิงคนนั้น และตอนนี้ผมกำลังเกลียดตัวเองที่คิดแบบนั้น
‘ถ้าหากเวลาย้อนคืนได้ ผมจะไม่พูดมันออกไปเด็ดขาด....’
......................................................................................................................................
เมื่อวานเปิดเทอมวันแรก แต่วันนี้ก็หยุดเรียนซะแล้ว
มื่อวานดันลัลล้ามากเกิน เพราะไม่ได้เจอเพื่อนเกือบ 2 เดือนเลย
ทำให้วันนี้ยกแขนขวาไม่ขึ้นเลยค่ะ แถมเมื่อคืนปวดมาซะจนน้ำตาไหลเลย T T
เลยหยุดซะเลย แต่ว่าก็พยายามอัพฟิคจนได้ค่ะ 5555
ขอบคุณมากนะคะ ที่ลองเข้ามาอ่านกันดู บางทีมันคงติดขัดไปบ้าง
เนื้อหาไม่เชื่อมบ้าง อ่านแล้วอาจจะงงงวยกันไปบ้าง
แต่จากนี้จะพยายามพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพราะรักคู่นี้มากกก
ความคิดเห็น