คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF] Pain _chapter 2
Pain
Nakajima Yuto x Yamada Ryosuke
Morimoto Ryutaro x Chinen Yuri
Rate PG-15
..............................................................................................................................................
Chapter Two
เพียงเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์ เรียวสึเกะก็ได้รับรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ของริวทาโร่และจิเน็น เจ้าเด็กริวคอยรายงานเรื่องต่างๆให้เขาฟังอยู่เสมอ ถึงจะได้เห็นรอยยิ้มของริวทาโร่อยู่เสมอแต่กลับไร้วี่แววรอยยิ้มของยูโตะ...
“นากาจิม่าคุง ช่วยยิ้มหน่อยครับ!” เสียงช่างกล้องหนุ่มประจำนิตยสารรายเดือนที่ขายดีอันดับต้นๆในหมู่วัยรุ่นอย่าง Duet กล่าวอย่างหงุดหงิดหน่อยๆเมื่อนายแบบเบื้องหน้ากล้องยืนนิ่งไม่มีอารมณ์ร่วมสักนิด
“ขอโทษครับ” ยูโตะโค้งตัวเป็นเชิงขอโทษที่ตัวเองไม่มีสมาธิในการทำงานเลยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งเห็นริวทาโร่ทำตัวสนิทสนมกับจิเน็นก็ยิ่งหงุดหงิด
“งั้นไปพักก่อนก็ได้ ยาโอโตเมะคุงนายมาถ่ายก่อน” ยูโตะโค้งตัวอีกรอบเพื่อเป็นการขอบคุณ ทุกการกระทำของร่างสูงอยู่ในสายตาของเรียวสึเกะมาตั้งแต่ต้นรวมทั้งสายตาที่ยูโตะมองไปยังจิเน็นด้วย
ยูโตะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติกสีขาวที่ถูกวางไว้เป็นแถวและพอดีสำหรับสมาชิกทุกคนในวง ร่างสูงเลือกที่นั่งใกล้ๆเรียวสึเกะเพราะตรงนี้อยู่ไกลจากจิเน็นและริวทาโร่ ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่เรียวสึเกะก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้
“ไหวไหม?” มือนุ่มของเรียวสึเกะแตะเบาๆที่หน้าผากของยูโตะ พลางยื่นขวดน้ำเย็นๆส่งให้
“เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ” ร่างสูงรับมันไปพร้อมๆกับเอนตัวพิงผนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า พลางถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า
“นากาจิม่าคุง ถ่ายต่อได้แล้วครับ!!”
“วันนี้กลับบ้านด้วยกันนะ” ยูโตะวางขวดน้ำลงบนตักของเรียวสึเกะก่อนจะขยี้หัวคนที่นั่งอยู่อย่างเอ็นดู
“อืม” เรียวสึเกะอมยิ้มน้อยๆอย่างมีความสุข อย่างน้อยตอนนี้ยูโตะก็กลับมาอยู่ข้างๆเขาเหมือนเมื่อก่อน
เวลาผ่านไปร่วมหลายชั่วโมงกว่าการถ่ายแบบลงนิตยสารจะเสร็จสิ้นลง ถึงจะเป็นการถ่ายภาพนิ่งแต่ทุกคนก็ดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดจึงขอตัวกลับก่อน และแน่นอนว่าริวทาโร่กับจิเน็นต้องกลับด้วยกัน ภายในห้องแต่งตัวจึงเหลือเพียงแค่เรียวสึเกะและยูโตะเท่านั้น ร่างบางเก็บของอย่างไม่เร่งรีบนัก ในขณะที่ร่างสูงเดาะปากอย่างอารมณ์เสียที่ริวทาโร่กับจิเน็นกลับด้วยกัน
“เสร็จแล้วล่ะ กลับกันเถอะ” เรียวสึเกะสะพายกระเป๋าเป้ใบโปรดพาดบ่าพลางกระชับให้แน่นขึ้น ยูโตะเองก็สะพายกระเป๋าด้วยเช่นกัน
“แวะกินไรก่อนมั๊ย?” ร่างบางออกปากถามทันทีที่เดินผ่านร้านอาหารมากมาย แต่ก็ไร้คำตอบจากร่างสูง เพราะมัวแต่มองร้านอาหารตามทางจึงไม่ทันสังเกตว่ายูโตะวิ่งนำหน้าเขาไปไกลแล้ว
“ยูโตะ รอด้วยสิ” เรียวสึเกะได้แต่วิ่งตาม ยูโตะก็ยิ่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น และอยู่ดีๆก็หยุดอย่างกะทันหันทันทีที่มาถึงสวนสาธารณะเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากสตูดิโอที่ใช้ถ่ายแบบในวันนี้
“นายวิ่งทำไมเนี่ย?” เรียวสึเกะหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า พวงแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อจากการวิ่ง และยิ่งแดงมากขึ้นเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า
มือของริวทาโร่ช้อนท้ายทอยของจิเน็นอย่างทะนุถนอม พร้อมๆกับที่ใบหน้าของเจ้าของมือเลื่อนเข้าหาใบหน้าหวานของจิเน็นที่ขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด ริวทาโร่ประทับริมฝีปากอย่างอ่อนโยน จิเน็นเองก็เอียงหน้ารับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ ร่างบางยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้เห็นในขณะที่ร่างสูงวิ่งออกจากตรงนั้นไปแล้ว
“ยูโตะ เดี๋ยวสิ!!” ทันทีที่ได้สติเรียวสึเกะก็ออกวิ่งตามยูโตะ ทำไมยูโตะวิ่งเร็วขนาดนี้กันนะ
“ฮึก..” อยู่ดีๆยูโตะก็ทรุดตัวลงโชคดีที่เรียวสึเกะประคองไว้ทัน เสียงสะอื้นดังขึ้นเบาๆแต่มันกลับดังเข้าไปข้างในใจของร่างบาง เขาแทบจะไม่เคยเห็นร่างสูงร้องไห้เลย ยูโตะที่เสียใจมากขนาดนี้เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก
‘นายรักจิเน็นมากขนาดนี้เลยหรอ’ คำถามนี้ดังขึ้นวนเวียนในหัวของเรียวสึเกะพร้อมๆกับความเจ็บปวดที่ประดังเข้ามาในหัวใจของเขา
“ทำไม ทั้งๆที่ฉันรักนายมากขนาดนี้!!” ยูโตะแผดเสียงอย่างเจ็บปวด น้ำตาใสไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ร่างสูงกำหมัดแน่นก่อนจะชกเข้ากับพื้นถนนอย่างต้องการระบายความเจ็บปวด
“หยุดนะ!!” เรียวสึเกะร้องห้ามอย่างตกใจที่ยูโตะทำแบบนี้ ในเวลานี้ร่างสูงไม่ได้ยินเสียงห้ามที่ดังอยู่ใกล้ตัวนั้น ยังคงรัวกระหน่ำลงไปราวกับคนไม่มีความรู้สึก
“ฮือออ หยุดนะ ฉันบอกให้หยุด ฮึก โอ๊ยย!” เรียวสึเกะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากใช้มือของตัวเองรองรับหมัดที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดนั้น ถ้ายูโตะยังชกอย่างนี้ต่อไปกระดูกอาจจะหักก็ได้ แค่มือตัวเองเจ็บมันยังไม่เท่าความเจ็บที่ใจของเขาเลยสักนิด ยูโตะที่กลายเป็นเป็นแบบนี้เพราะรักจิเน็นมาก เรื่องนี้ที่เขาย้ำตัวเองมาตลอด น้ำตามากมายไหลออกมาอย่างไม่ปิดบัง เขาไม่ไหวแล้ว...
“ยะ ยามะจัง” ร่างสูงที่เพิ่งได้สติ รีบจับมือของเรียวสึเกะขึ้นมาดูอย่างเป็นห่วง แต่ร่างบางกลับเลือกที่จะชักมือออกและกอดเข้าไปที่ร่างสูงอย่างเต็มแรง
“อย่าทำอย่างนี้ พอได้แล้ว ฮึก ถ้ามือนายเป็นอะไรขึ้นมา นายจะตีกลองไม่ได้นะ ฮืออ ฮึก” ร่างบางสะอื้นอย่างหนัก พลางกอดกระชับร่างของยูโตะแน่นขึ้น ความอบอุ่นของร่างสูงที่เขาสัมผัสได้กำลังเรียกร้องให้เขาเผยความรู้สึกที่ตัวเองมีออกมา
“ขอโทษ ยามะจัง ไม่ทำแล้ว ขอโทษนะ” มือแกร่งที่สั่นเทาเพราะเริ่มรู้สึกชาขึ้นมาของยูโตะกำลังลูบกลุ่มผมนิ่มอย่างอ่อนโยน เอ่ยคำขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่เรียวสึเกะเองก็ยังไม่หยุดร้องไห้เสียที
“ฉันทนไม่ได้ที่เห็นนายเสียใจขนาดนี้...” เรียวสึเกะคลายอ้อมกอดออก แต่สองมือกลับเลื่อนขึ้นไปคล้องคอคนร่างสูงแทน
“ฉันจะเป็นตัวแทนของจิเน็นให้ จนกว่านายจะตัดใจได้” ทันที่ที่พูดจบ ใบหน้าหวานของเรียวสึเกะก็เลื่อนเข้าใกล้ใบหน้าร่างสูงมากขึ้น มากขึ้น ริมฝีปากอิ่มประทับเบาๆบนริมฝีปากของร่างสูง ร่างบางเอียงหน้าเล็กน้อยเพื่อให้ริมฝีปากทั้งสองสัมผัสกันมากขึ้น ดวงตากลมใสที่คลอไปด้วยน้ำตาของเรียวสึเกะปิดลงช้าๆพร้อมๆกับหัวใจของเขาที่ถูกปิดลงด้วยคำพูดของตัวเอง....
..............................................................................................................................................
ทั้งสองคนผละออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาหวานเยิ้มไปด้วยรสจูบอ่อนหวานเมื่อครู่ช้อนมองคนตัวสูงกว่าอย่างน่ารัก
“จิเน็น ฉันรักนายนะ” ริวทาโร่ประคองกอดอย่างอ่อนโยน พร่ำบอกรักครั้งแล้วครั้งเล่า เกิดความเงียบขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนที่เรื่องราวเมื่อครู่จะเป็นเพียงความฝันที่แสนเจ็บปวด
“พอใจนายหรือยัง!” สายตาหวานเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยวอย่างชัดเจน น้ำตาหยดใสไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ไม่!” ริวทาโร่เชิดคางมนของจิเน็นให้สูงขึ้น และจูบเน้นย้ำลงไปอีกครั้ง และอีกครั้ง
พลั่ก! มือบางผลักร่างริวทาโร่ลงไปกองกับพื้นก่อนจะออกวิ่งให้ห่างจากคนคนนี้ให้ไกลที่สุด แต่ไวเท่าความคิดมือแกร่งของริวทาโร่กลับคว้าข้อมือเล็กของจิเน็นไว้ได้ก่อน ริวทาโร่ออกแรงกระชากให้จิเน็นหันมาเผชิญหน้ากัน
“ฉันยอมให้แล้ว จะเอาอะไรอีก เลิกยุ่งได้แล้ว!” จิเน็นพยายามแกะมือแกร่งอย่างยากลำบาก ยิ่งพยายามออกแรงแกะเท่าไหร่ ริวทาโร่ก็ยิ่งออกแรงบีบมากขึ้น จนข้อมือแดงก่ำเป็นจ้ำตามรอยนิ้วมือของริวทาโร่
“ก็ฉันยังไม่พอ เลิกกับยูโตะซะ!” ริวทาโร่ประกาศกร้าวอย่างเอาเรื่องก่อนะจะกระชับใบหน้าหวานของจิเน็นและจูบลงไปอีกครั้ง เท่าไหร่ก็ไม่พอ จิเน็นน้ำตาไหลพรากอย่างน่าสงสาร ที่เขายอมให้เจ้าเด็กนี่จูบและยอมเข้าไปสนิทสนมด้วยก็เพราะว่าถ้าทำแบบนี้แล้วริวทาโร่สัญญาจะเลิกยุ่งกับเขาและจะตัดใจ แต่มันไม่เหมือนกับที่พูดไว้ ความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้นในใจ ถ้าเกิดยูโตะรู้ ถ้าเกิดยูโตะเข้าใจผิด แล้วมาบอกเลิกเขาไปจะทำอย่างไร เขาคงอยู่ไม่ได้ถ้าหากไม่มียูโตะ...
“พอเถอะ ฮึก ฉันรักยูโตะ แค่ยูโตะคนเดียว ฮือออ” จิเน็นร้องไห้จนตัวโยน เสียงสะอื้นดังก้องไปทั่วบริเวณ คำพูดเพียงไม่กี่คำกลับบาดลึกลงไปในหัวใจของริวทาโร่ได้ขนาดนี้ เพราะริวทาโร่รักจิเน็นมากเกินไป เพราะทนไม่ได้ที่จะเห็นจิเน็นเป็นของใครนอกจากตัวเอง แล้วทำไมถึงยังรักยูโตะอยู่...
ริวทาโร่คลายแรงบีบที่ข้อมือออก จิเน็นที่เป็นอิสระแล้วก็รีบวิ่งหนีไป นับตั้งแต่เกิดมาริวทาโร่พยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียน้ำตา พยายามทำตัวเข้มแข็งทุกครั้งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ครั้งนี้มันยากเกินกว่าที่จะกลั้นความเสียใจไว้ได้ มันยากเกินกว่าที่หัวใจของเขาจะรับไหว น้ำตาจากไหนไม่รู้มากมายเอ่อล้นออกมาจากดวงตากลม ริวทาโร่เงยหน้ามองท้องฟ้า การเงยหน้าขึ้นสูงจะทำให้น้ำตาไหลกลับเข้าไปได้ แต่เปล่าเลย น้ำตาอุ่นๆกลับไหลลงมาอาบแก้มตามแรงโน้มถ่วงของโลกต่างหาก
“ฉันไม่ยอมแพ้แค่นี้แน่!” ริวทาโร่ประกาศกร้าวทั้งน้ำตา เขาตระหนักแล้วความเจ็บปวดเหล่านี้จะไม่เลือนหายไปจนกว่าเขาหัวใจของจิเน็นจะมีเพียงแค่เขา...
..............................................................................................................................................
มาต่ออย่างรวดเร็ว~
ในเรื่องนี้จะใช้คำว่า ‘เขา’ เป็นตัวแทนของตัวละคร
เพราะจะได้อธิบายความรู้สึกของทุกคนได้พร้อมๆกัน
งงๆกันรึเปล่าคะ?
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์น้า ^___^V
ดูแล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องสั้น T^T แต่งไปแต่งมาเริ่มยาวแล้วล่ะ
แต่จะพยายามทำให้จบในไม่กี่ตอน
ความคิดเห็น