ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สับสน Jumble - NakaYama

    ลำดับตอนที่ #15 : Special Christmas Part 2 (end)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 54


     Special Christmas Part 2 (end)

     

    ทั้งๆที่เช้านี้ผมตั้งใจจะตื่นแต่เช้าหมือนเดิม แต่เมื่อคืนดันเผลอตื่นเต้นกับเรื่องนัดในวันนี้ทำให้นอนไม่พอ นาฬิกาที่ตั้งปลุกไว้ตอนหกโมงเช้า มันคงส่งเสียงดังตั้งนานแล้ว แต่ผมเพิ่งมารู้สึกตัวก็ตอนที่ปาเข้าไปเกือบเจ็ดโมง รีบเด้งตัวลุกจากที่นอน รถไฟเที่ยวเช้าที่เมื่อวานทำให้ผมได้เจอยามะจังวันนี้คงไม่ทันแล้วแน่ๆ

    โธ่ บ้าจริงเผลอหงุดหงิดใส่ตัวเองเมื่อมาไม่ทันรถไปเที่ยวเช้า ยิ่งทำให้อารมณ์เช้านี้แย่มากขึ้น

                หงุดหงิดอะไรแต่เช้าหรอ? ผมสะดุ้งโหยง เมื่ออยู่ดีๆก็มีคนมาสะกิดที่แขนซ้ายผม

                อะ ยามะจัง ทำไม  วันนี้ยามะจังพันผ้าพันคอสีแดงผืนนุ่มไว้จนเกือบถึงปากของเขา ใบหน้าขาวๆขึ้นสีแดงระเรื่อจากอากาศเย็นภายนอก ผมอยากจะบอกว่าเขาเหมาะกับสีแดงมากๆเลยล่ะ

                วันนี้ตื่นสาย เลยไม่ทันรถไฟเที่ยวเช้า คนเยอะแน่ๆเลยอ่ะ ชะโงกหน้าไปมองรถไฟเที่ยวใหม่ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าชานชาลา

                นั่นสิ เออออตอบไป ที่จริงแล้วผมก็ขึ้นเที่ยวนี้เป็นประจำนะ แต่คนก็เยอะจริงๆนั่นแหละ ทั้งเด็กนักเรียน คนวัยทำงานเบียดเสียดเต็มไปหมด

               

     

    ทันทีที่รถไฟจอดเทียบชานชาลา คนจากไหนไม่รู้เยอะแยะเบียดผมกับยามะจังออกจากแนวทางเดินที่พวกเรายืนอยู่ก่อน เลยกลายเป็นว่าเราทั้งสองคนขึ้นเป็นคนสุดท้าย

     

     

                ยามะจัง มายืนตรงนี้ เหลือพื้นที่ไม่มากนัก แต่ก็พอให้เราสองคนยืนได้ ผมออกแรงดึงคนน่ารักให้มายืนตรงที่ที่ผมเว้นไว้ให้ ยามะจังก็ยอมทำตามแต่โดยดี แถมยังเอาหลังพิงกระจกใสของประตูรถไฟเสียด้วย เลยทำให้เราหันหน้าเข้าหากัน

                ขอบคุณนะยูโตะคุง ยิ้มให้ผมด้วยระยะห่างเพียงแค่นี้ ใจผมเต้นแรงจนน่ากลัว ให้ตายเถอะ น่ารักเกินไปแล้ว

                อืม ผมแกล้งทำเป็นเสมองออกไปนอกตัวรถ ขืนยังมองหน้ายามะจังอยู่ หัวใจผมหยุดเต้นแน่ๆ

     

     

    ระหว่างทาง เราสองคนได้แต่เงียบ ยามะจังก็เอาแต่ก้มหน้า ส่วนผมก็มองผ่านเขาไปดูวิวข้างนอก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกหัวใจพองโตขึ้น ถ้าเกิดวันนี้ผมตื่นเช้าตามนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ ผมคงไม่เจอยามะจัง และถ้าเกิดยามะจังไม่ตื่นสาย เราก็คงไม่ได้ขึ้นรถไฟเที่ยวเดียวกัน ทุกอย่างมันดูเหมาะเจาะลงตัวมากเกินไป ว่าไหม?

     

     

    ยามะจัง ดูสิ หิมะตกแล้วล่ะ ผมที่มองไปนอกตัวรถเริ่มเห็นปุยหิมะสีขาว ลอยกระทบกระจกใสรอบตัวรถไฟ จึงเรียกคนตัวเล็กกว่าให้หันไปดูมัน

    จริงด้วย หิมะตกแล้วว ตกวันคริสต์มาสพอดีเลยเนอะหลังจากที่ผมบอก เจ้าตัวก็รีบหันไปมองทันทีพร้อมกับแสดงอาการตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ

    ไม่หนาวหรอ ไม่ใส่ถุงมือน่ะ ผมเพิ่งสังเกตุเห็น เมื่อเขาเอามือยันกระจกใสไว้

    อะ ลืมใส่มาจริงๆด้วย พูดพร้อมกับหันฝ่ามือเข้าหาหน้าตัวเอง เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้ใส่มา ผมอมยิ้มกับท่าทางคนตรงหน้า

    เดี๋ยวลงจากรถแล้ว เอาของฉันไปใส่ไว้นะ มันอยู่ในกระเป๋าคนเยอะอย่างนี้หยิบลำบาก

    ไม่เอาหรอก เดี๋ยวนายหนาวนะยังอุตส่าห์เป็นห่วงผม ทั้งๆที่ตัวเองหนาวกว่า

    ฉันไม่ชอบใส่หรอก ที่เอาติดมาด้วย ก็เพราะแม่ยัดใส่ไว้ให้น่ะ เป็นประจำเวลาอากาศหนาวหรือฝนตก แม่ผมจะใส่พวกถุงมือหรือพวกร่มไว้ในกระเป๋าผมเสมอ เพราะถ้าไม่ใส่ไว้ผมคงไม่ยอมใช้มันแน่ๆ ยามะจังพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้

     

     

    ..............................................................................................................................................

     

     

    เอ้านี่ ใส่ไว้ทันทีเราสองคนก้าวลงจากรถไฟ ผมก็รีบหยิบถุงมือในกระเป๋าส่งให้ยามะจังทันที

    ขอบคุณมากนะ ยิ้มให้ก่อนรับมันไปใส่อย่างเต็มใจ แต่ขนาดมือผมกับเขาต่างกันพอสมควรเลยนะเนี่ย

    ใหญ่จัง พูดพร้อมกับยื่นสองมือมาตรงหน้าผม ผมหัวเราะกับท่าทางนั้น

    รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะสาย ถือวิสาสะรวบมือคนตรงหน้าไว้ ออกแรงดึงให้เดินตามมา

     

     

    ผมส่งยามะจังถึงห้อง ก่อนที่จะขอตัวเดินไปที่ห้องตัวเอง ไม่ลืมที่จะเตือนความจำเขาเรื่องนัดวันนี้ เจ้าตัวก็พยักหน้าตอบกลับมา

     

     

    เคย์โตะ นายว่าถ้าฉันบอกชอบยามะจังวันนี้ มันจะเร็วไปมั๊ย? ทันทีที่นั่งลงบนโต๊ะตัวเอง ก็หันไปขอคำปรึกษาจากเพื่อนผู้เชี่ยวชาญ

    เร็วมาก ตอบกลับมาแทบจะทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด

    นั่นสิ แต่ยามะจังบอกว่ามีคนที่ชอบแล้ว นายว่าไง? ผมเผลอทำหน้าเศร้าออกไปรึเปล่าเนี่ย

    งั้นก็รีบบอกเถอะ เดี๋ยวไม่ทันกิน ตอบแทบจะทันทีอีกครั้ง ช่วยคิดให้มากกว่านี้หน่อยได้มั๊ย

    งั้นหรอ? แต่มันก็จริงอย่างที่เคย์โตะว่า ถ้าเกิดคนที่ยามะจังชอบเพิ่งรู้สึกตัวแล้วตอบตกลงขึ้นมา ผมก็แย่น่ะสิ

    คนอย่างนากาจิม่า ยูโตะกลุ้มใจกับเรื่องแบบนี้ด้วยรึไง

    เฮ้อ ยามะจังเป็นรักแรกพบของฉันนะ นายไม่เคยมีรึไง บางทีอาจจะเป็นรักครั้งแรกเลยมั้ง

    งั้นนายก็บอกไปเลย เชื่อฉันดิ อย่าปล่อยโอกาสให้หลุดมือน่า ตบไหล่ผมสองสามที ก่อนจะเดินออกนอกห้องไป ผมมองหลังเคย์โตะด้วยสายตาเชื่อมั่นสุดๆ

    เอาวะ! โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆ

     

     

    ..............................................................................................................................................

     

     

    Yama’s talk

                ห้อง 3-c

    ยามะจัง ทำไมวันนี้มาสายล่ะ  เพื่อนตัวเล็กที่สนิทที่สุด เอ่ยถามผมทันทีที่ผมเดินมาที่โต๊ะตัวเอง

    ก็ ตื่นสายน่ะ ตอบอ้ำอึ้งไป เพราะจริงๆแล้วผมไม่ได้ตื่นสายหรอก

    อย่ามาโกหกหน่อยเลย ยามะจังไม่มีทางตื่นสายแน่ ไปทำอะไรมา บอกมาเลยนะ เพื่อนตัวเล็กก็ยังคงคาดคั้นเอาคำตอบจากผมไม่เลิก

    ก็ไปรอใครบางคนมา ตอนแรกผมจะขึ้นรถไฟเที่ยวเช้าที่ผมขึ้นเป็นประจำ เพราะช่วงนั้นคนไม่เยอะ ผมที่ไม่ได้ตัวสูงมากนักจะให้ขึ้นไปเบียดกับคนเยอะๆไม่ไหวหรอก เคยมีครั้งนึงตอนที่มาเรียนที่นี่วันแรก ผมถูกล้อมรอบด้วยเด็กนักเรียนม.ปลายผู้ชายสี่ห้าคน แถมยังตัวสูงๆกันทั้งนั้น ตอนนั้นผมเกือบขาดอากาศหายใจ เลยเข็ด ไม่เอาอีกแล้ว แต่วันนี้ผมตั้งใจมารอเขา และก็โชคดีที่ได้เจอ

    ยูโตะคุงอะไรนั่นอ่ะหรอ จิเน็นทำสายตาอยากรู้สุดๆ

    อื้ม >///<”

    แล้วได้มาด้วยกันรึเปล่า

    อื้ม >///< ยูโตะคุงใจดีมากเลยล่ะ ดูนี่สิ เขาให้ฉันใส่ถุงมือของเขาด้วยนะพูดพร้อมอวดถุงมือหลวมๆให้จิเน็นดู

    ดีใจด้วยนะ แล้วยังไงต่อ? จิเน็นส่งยิ้มให้

    แล้วก็วันนี้ ยูโตะคุงชวนไปดูไฟต้นคริสต์มาสในเมืองด้วยล่ะ ผมตื่นเต้นมากเลย ก็ในเมื่อคนที่ผมชอบมาตลอดมาชวน ใจผมเต้นแรงมากเลย

    แต่ว่านะ ยูโตะคุงมีคนที่ชอบแล้วล่ะ ผมทำหน้าเศร้าลงทันที เมื่อคิดถึงประโยคเมื่อวานที่ผมถามเขาไป แต่เขาจะรู้ไหมนะ ว่าคนที่ผมชอบมาตลอดตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่นี่ก็คือ ยูโตะคุง

    หรอ แล้วหมอนั่นจะมาชวนยามะจังทำไมล่ะ ทำไมไม่ไปกับคนที่ชอบ ผมเองก็ไม่เข้าใจ แต่ผมดีใจมากๆ ที่เขาชวนผม ถึงแม้เขาอาจจะชวนผมไปเพราะเขาเหงาก็ได้

    ฉันเองก็ไม่รู้ คนที่ชอบอาจจะไม่ว่างก็ได้มั้ง

    ฉันว่า หมอนั่นอาจจะตกหลุมรักนายแล้วก็ได้ จิเน็นพูดพร้อมเอานิ้วชี้จิ้มที่แก้มผมเบาๆ

    บ้า ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกน่า ผมปัดนิ้วจิเน็นออก ก้มหน้าลงเพราะอาย เพราะผมเองก็แอบคิดอย่างนั้นเหมือนกัน

    ก็ยามะจังน่ารักขึ้นมากขนาดนี้นี่หน่า อย่าดูถูกสายตาฉันหน่อยเลย อย่างที่จิเน็นว่า ตอนที่ผมมาเข้าเรียนใหม่ๆ ผมใส่แว่นด้วย ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง แต่จิเน็นก็มาช่วยเปลี่ยนแปลงให้

    จริงหรอ?

    แน่สิ อิจฉาจังน้าคนมีความรักเนี่ย พูดแซวผมพร้อมกับยิ้มน่ารักมาให้ จิเน็นเป็นคนที่นิสัยดีมากๆเลยล่ะ ผมโชคดีมากที่ได้เป็นเพื่อนกับเขา

     

    ตลอดทั้งวัน ผมเฝ้ารอเวลาหลังเลิกเรียนวันนี้ ตื่นเต้นจังเลยนะ อยากให้ถึงเร็วๆจัง

     

     

    ..............................................................................................................................................

     

     

    เลิกเรียน

    เคย์โตะ ฉันไปก่อนนะเว้ย วันนี้ผมก็รีบอีกเช่นเคย แทบอดใจรอไม่ไหวแล้ว

    เออ โชคดี ผมได้ยินสียงเคย์โตะไล่หลังมาเท่านั้น เพราะผมรีบสาวเท้าไปห้องเรียนของยามะจังแล้ว วันนี้ห้องผมเลิกช้ากว่าเวลานิดหน่อยรวมทั้งผมเก็บของอีก เลยทำให้เสียเวลาไปบ้าง ยามะจังเลยต้องเป็นฝ่ายมายืนรอหน้าห้อง

    อ่ะ ยูโตะคุง ยามะจังส่งยิ้มทักทายทันที ที่หันมาเห็นผม

    โทษทีนะ ก้มหัวขอโทษ ไม่ดีเลยที่ให้ยามะจังมารอก่อน

    ไม่เป็นไรหรอก รีบไปกันเถอะ อยากดูแล้ว ยามะจังกระตุกแขนเสื้อผมด้วยท่าทางตื่นเต้น

    ฟ้ายังสว่างอยู่เลย ไปหาอะไรกินกันก่อนไหม ทันทีที่ผมบอกยามะจังก็พยักหน้ารัวเร็ว เห็นของกินดีกว่าไฟสิเนี่ย

     

     

    ตลอดสองวันที่ผมได้รู้จักเขา ผมได้รู้อะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับเขา ยามะจังเป็นคนขี้ลืมแถมยังไม่รู้ตัวเองอีกด้วย ยามะจังขี้หนาวทั้งๆที่ดูแล้วน่าจะมีเนื้อหนังมากกว่าผม ยามะจังห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ยามะจังกินขนมเก่งไม่ว่าจะสั่งมาเท่าไหร่ก็กินหมด ยามะจังยิ้มง่ายเวลาที่เขายิ้มตาก็จะยิ้มไปด้วย ยามะจังขี้อายเวลาที่เขาอายหน้าจะขึ้นสีระเรื่อมันดูออกง่ายมาก ทั้งหมดที่เป็นยามะจัง ผมอยากรู้มากกว่านี้

     

     

    เราสองคนนั่งเรื่อยๆอยู่ในร้านเค้กในเมือง รอเวลาที่ฟ้ามืดลงกว่านี้สักหน่อย เพื่อที่ไฟหลากสีสันที่ประดับประดาเต็มต้นคริสต์มาสใหญ่จะส่องประกายสวยที่สุด ผมอยากใช้บรรยากาศนั้นในการบอกรักคนตรงหน้านี้ ถึงแม้ยามะจังจะมีคนที่ชอบแล้วก็ตาม แต่ยังไงผมก็จะบอกเขา ถึงเขาจะไม่ชอบผมก็ไม่เป็นไร

     

     

    ไม่นานนักท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีมืด เราสองคนเลยตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงสถานที่นั่น และดูเหมือนว่ารอบตัวเราจะมีคนเยอะขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยถือวิสาสะกุมมือคนตัวเล็กกว่าข้างๆไว้เพื่อไม่ให้เจ้าตัวไหลไปตามผู้คนจำนวนไม่น้อย ยามะจังเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ผมเลยจับมันให้แน่นขึ้น

     

     

    ยูโตะคุง ดูสิ สวยจัง ทันทีที่ยามะจังเห็น ก็ร้องตื่นเต้นใหญ่ แต่สิ่งที่เรียกความสนใจจากผมไม่ใช่ไฟสีสวยจากต้นคริสต์ใหญ่ แต่เป็นสัมผัสที่มือ เพราะตอนนี้ยามะจังกำลังจับมือผมอยู่ ผมไม่ได้พายามะจังเข้าไปใกล้เพราะคนมันเบียดกันเยอะ ผมพายามะจังยืนห่างออกมาหน่อยตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่นัก แต่ก็มองเห็นต้นคริสต์มาสได้ชัดเจน

    ยามะจัง เชื่อเรื่องรักแรกพบไหมผมถามขณะที่ก็มองหน้าคนน่ารักไปด้วย

    อื้ม เชื่อสิ ยามะจังไม่ได้ละสายตามามองผมเลย

    แล้วมันจะเร็วไปมั๊ย ถ้าจะบอกรักคนที่เพิ่งเจอกัน ใจผมเต้นตึกตัก เมื่อใกล้ถึงประโยคสำคัญ  

    ....ยามะจังไม่ตอบ แต่ตอนนี้เขาก็หันมาให้ความสนใจกับผมแล้วล่ะ

    ฉันว่า ฉันชะ... พูดไม่ทันจบประโยค อยู่ดีๆก็มีคนแทรกขึ้น

    อะ นั่น ยูโตะนิ โธ่ ใครวะ ขัดจังหวะ ผมหันกลับไปดู

    นะ นามิ แฟนเก่าผม ทำไมต้องมาเจอแฟนเก่าตอนที่กำลังบอกรักยามะจังด้วยล่ะเนี่ย

    ดีใจจังที่เจอ แล้วนี่มากับใครหรอ? ถามอย่างนี้ผมควรจะตอบว่าไงดีล่ะ ตอบว่าแฟนมันจะน่าเกลียดไปมั๊ย แล้วถ้าบอกว่าเพื่อนในขณะที่กำลังจะบอกรักเนี่ย ให้ตายเถอะ

    อ่อ นี่ เพื่อนฉันเอง ตัดสินใจพูดคำนี้ออกไป น่าจะดีที่สุด แต่ผมก็ไม่ได้ปล่อยมือจาคนข้างๆ

    แหม ยูโตะ ถ้าไม่มีคนมาด้วยก็ชวนฉันสิ ฉันว่างเสมอสำหรับยูโตะนะ พูดจบก็หันไปกรี๊ดกร๊าดกับเพื่อนอีกสองสามคนที่ด้วยกัน

    ฮะ ฮะ นั่นสินะรีบไปเร็วเข้าสิๆ ผมจะได้ต่อจากเมื่อกี๊สักที

    งั้นฉันไปก่อนนะ ว่างๆโทรมาได้นะ เธอโบกมือบ๊าบายตรงหน้า เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกรำคาญผู้หญิงพวกนี้

     

     

    ยูโตะคุงมาชวนฉันทำไม ผมแปลกใจกับคำถามของยามะจัง เมื่อผมหันไปมอง เขาก็ก้มหน้าลง

    ก็ ฉัน.. ผมที่ไม่รู้จะพูดแก้ตัวยังไง ที่ผมชวนก็เพราะผมอยากมากับเขา มันก็แน่อยู่แล้ว

    ฉันอยากกลับแล้วยามะจังเงยหน้ามองผม ดวงตาสั่นไหวนั่น ทันทำให้ผมใจหาย ยามะจังดึงมือตัวเองออกจากมือผม แต่ผมกลับจับมันแน่นขึ้น

    ทำไมล่ะ ยามะจัง ยิ่งยามะจังใช้แรงดึงมือตัวเองออกมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งบีบมันแน่นมากขึ้นเท่านั้น

    ก็ ฉันรู้สึกอายตัวเองที่คิดไปเอง ผมไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูด

    ฉันไม่เข้าใจ ถามออกไปตรงๆ

    ก็ฉันดันคิดไปเองว่ายูโตะคุงอาจจะชอบฉันนี่หน่า ฮึก ท้ายประโยคมีเสียงสะอื้นออกมา ยามะจังเลิกดึงมือออกแล้ว เขายืนนิ่งๆก้มหน้าลง ไหล่บางนั่นกำลังสั่นอยู่ แต่ผมกลับยิ้มกว้างออกมา

    ก็ไม่ได้คิดไปเองนี่ ผมใจเต้นแรงแต่ก็รู้สึกโล่งใจเหมือนกัน ยามะจังรีบเงยหน้าขึ้นมองผมทั้งๆที่ยังมีน้ำตาอยู่

    ยามะจังไม่ได้คิดไปเองหรอก ฉันชวนยามะจังมาก็เพราะอยากมากับยามะจัง แล้วก็เพราะ.... ผมเว้นช่วงก่อนจะพูดคำสำคัญไว้ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าประชิดตัวคนน่ารัก ก้มลงกระซิบข้างหู

    ฉันชอบยามะจังผมพูดมันเบาๆ แต่ก็มั่นใจว่าดังพอให้คนน่ารักได้ยินมันชัดเจน ถ้าไม่อย่างนั้นยามะจังคงไม่หน้าแดงขนาดนั้นหรอก

    แล้วยามะจังล่ะ ชอบฉันรึเปล่ายังคงกระซิบที่ข้างหูคนตัวเล็กกว่า พร้อมกับใช้สองมือโอบรอบตัวเขา เพราะผมมั่นในแล้วว่าความรู้สึกของเราตรงกัน ผมไม่สนว่าคนคนนั้นที่ยามะจังชอบจะเป็นใคร ในเมื่อตอนนี้ยามะจังชอบผมอยู่

    อืม ยามะจังพยักหน้าสองสามที ในอ้อมกอดผม เขาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาเลย

    ว่าไงนะ ฉันอยากได้ยินนายพูดมากกว่านะ ได้ทีผมเลยแกล้งคนในอ้อมกอดซะเลย

    ฉันชอบนาย ชอบมาตลอด ฮึก ไหล่บางที่กำลังสั่นเทา ทำให้ผมกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น จากคำตอบของยามะจังทำให้ผมคิดได้ว่าคนคนนั้นที่ยามะจังชอบคือผมใช่ไหม?

    ชอบฉันมาตลอดเลยหรอ? ในเมื่อเราสองคนใจตรงกัน ผมก็เลยอยากรู้ว่าคนคนนั้นใช่ผมไหมนะ

    อื้ม แค่ยูโตะคุงคนเดียว ถึงตอนนี้ยามะจังกอดผมตอบ เราสองคนมอบไออุ่นให้กันเนิ่นนาน แต่ผมก็รู้สึกว่ามันไม่พอ ผมอยากได้มากกว่านี้ ผละมือข้างนึงออกจากคนตรงหน้า เลื่อนขึ้นมาสัมผัสที่ใบหน้ากลมใสที่ผมหลงใหลแผ่วเบา เอียงใบหน้าตนให้ริมฝีปากของเราตรงกัน โน้มใบหน้าเข้าใกล้มากขึ้น มากขึ้น จนริมฝีปากของเราสัมผัสกัน ริมผีปากนุ่มนิ่มน่าสัมผัสของยามะจัง ตอนนี้ผมได้สัมผัสมันแล้ว ผมมอบจูบแสนหวานอ่อนโยนให้คนตรงหน้า ยามะจังรับสัมผัสแผ่วเบาปิดเปลือกตาลงช้าๆ ความหอมหวานของคนตรงหน้ามันแทบทำให้ผมอดใจไม่ไหว เผลอสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กของยามะจัง ข้างนอกว่าหวานแล้วข้างในยิ่งมากกว่า

    อื้อ..ยามะจังขยับลิ้นหนีผมยิ่งเขาทำมันก็ยิ่งสัมผัสกันมากขึ้นกว่าเดิม จากปฏิกริยาของเขาทำให้ผมเข้าใจได้ทันทีว่าคนตรงหน้าไร้เดียงสามากแค่ไหน  ผมค่อยๆถอนริมฝีปากช้าๆ เพื่อให้คนตรงหน้าได้หายใจ เปลี่ยนจากจูบที่รุกรานเมื่อกี๊เป็นอ้อมกอดอบอุ่นแทน ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการชั่งใจไว้ ยามะจังบริสุทธิ์เกินไป มันยังไม่ถึงเวลา

     

     

    เขาจะรู้ไหมนะว่าผมมีความสุขมากแค่ไหน ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการที่คนสองคนรู้สึกแบบเดียวกัน มันจะมีความสุขมากขนาดนี้ ยามะจังคือของขวัญคริสต์มาสที่ดีที่สุดในชีวิตผม

     

     

    เมื่อท้องฟ้ามืดสนิท ก็ถึงเวลาที่เราสองคนต้องแยกจากกัน แต่ถึงอย่างนั้นในวันพรุ่งนี้เราสองคนก็จะอยู่ด้วยกัน ในทุกๆวันต่อจากนี้ไปผมจะมียามะจังอยู่ข้างๆและผมก็จะอยู่ข้างๆเขาให้นานที่สุดตราบเท่าที่เขาต้องการผม

     

     

    ยูโตะคุงทำอะไรอยู่หรอ ผมที่ประสานมือทั้งสองข้างไว้แนบอกและกำลังจะหลับตาลง ก็ถูกยามะจักขัดไว้ซะก่อน

    อธิษฐาน ยามะจังก็ทำด้วยกันสิ คนน่ารักก็ทำตามอย่างว่าง่าย ประสานมือไว้หลับตาพริ้มพร้อมรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้า

    ยามะจังรู้ไหมว่าถ้าเราและคนรักของเราขอพรร่วมกัน มันจะเป็นจริงตราบชั่วนิรันด์ ผมที่นึกถึงเมลล์มั่นขึ้นได้ เอ่ยบอกคนข้างๆ

    จริงหรอ แต่ฉันกับยูโตะคุงขอเหมือนกันรึเปล่านะ แต่สองมือที่ยังอยู่ในถุงมือหลวมนั่นก็ยังคงประสานกันไว้ และหลับตาพริ้มลงอีกครั้ง ผมที่เห็นอย่างนั้นโน้มตัวลงไปประทับริมฝีปากเบาๆอย่างรวดเร็วก่อนที่อีกคนจะรู้สึกตัว

    อะ ยูโตะคุง เดี๋ยวเถอะมื่ออีกคนรู้สึกตัวก็ส่งสายตาค้อนๆมาให้ แต่ผมเห็นนะว่าเขาแอบอมยิ้ม คนรักของผมน่ารักที่สุดเลย

    กลับกันเถอะ ดึกแล้ว หนาวด้วยพูดพร้อมกุมมือคนรักข้างๆ บีบมันแน่นๆ ส่งผ่านความสุขวันนี้ที่ผมได้รับไปยังเจ้าของมือ

    ขอบคุณมากนะยูโตะคุง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอนายจนถึงวันนี้ นายก็ยังใจดีเสมอ ยามะจังเองก็กุมมือผมไว้แน่นเช่นเดียวกัน ผมทำหน้าแปลกใจเมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนั้น

    ครั้งแรกที่เจอกัน?

    ตอนที่นายมาช่วยฉัน พาฉันไปส่งถึงห้องไงล่ะ จำไม่ได้หรอ ยามะจังทำหน้างอนๆ เมื่อผมจำเรื่องสำคัญไม่ได้ ผมเคยทำอย่างนั้นด้วยหรอ เดี๋ยวสิ ใช่ๆ แต่เด็กคนนั้นที่ผมช่วยไม่ได้น่ารักอย่างนี้นี่

    แต่คนนั้นไม่เหมือนยามะจังเลยนิ

    ตอนนั้นฉันใส่แว่นเชยๆ ผมเผ้ารุงรัง แต่ยูโตะคุงก็มาช่วย ฉันเลยตกหลุมรักนายตั้งแต่วันนั้นล่ะ ฉันก็เลยพยามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ดูดีขึ้น ได้จิเน็นช่วยเยอะเลย ฉันดีใจมากที่เราขึ้นรถไฟขบวนเดียวกัน ยามะจังพูดพร้อมเอามือไขว้หลังก้าวเท้ายาวๆ เหมือนเด็กๆ

    นี่ ยูโตะคุงว่าน่ารักขึ้นมากไหม? เจ้าตัวก้าวยาวๆมาหยุดตรงหน้าผม พร้อมกับรอยยิ้มกว้างน่ารัก

    นายน่ะมันน่ารักสุดๆไปเลย ฉันรักนายหลงนายจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว ผมก็ได้แค่คิดไม่กล้าตอบออกไปหรอก

    ยูโตะคุงว่าไงล่ะ นี่ ว่าไงเจ้าตัวยังคงเซ้าซี้ไม่เลิก ตลอดระยะทางที่ผมพาเขามาส่งที่บ้าน

    อยากรู้ขนาดนั้นเลยหรอ ถ้าอย่างนั้นให้ฉันเข้าบ้านสิ แล้วจะบอกให้หมดทุกอย่างเลย ผมยิ้มอย่างมีเลศนัยส่งให้ยามะจัง แต่เจ้าตัวดันไม่เข้าใจความหมาย

    แบบตัวต่อตัวเสื้อผ้าไม่เกี่ยวนะ และดูเหมือนยามะจังจะเข้าใจความหมายแล้วล่ะ เขาหน้าแดงมากกว่าเดิม รีบวิ่งเข้าบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลืมที่จะโบกมือบ๊ายบายก่อนจะปิดประตูไป

    ฮะ ฮะ นายน่ะน่ารักมาก ไม่เห็นต้องถามเลย ผมเกาหัวแก้เขินที่พูดเองเออเองคนเดียวเพราะอีกคนเข้าบ้านไปแล้ว

     

     

    ขอบคุณซานต้าครอสที่ส่งของขวัญสุดพิเศษมาให้ ขอบคุณฟ้าที่ทำให้ผมได้เจอยามะจัง แล้วก็ขอบคุณเมลล์ขยะนั่นที่ทำให้ผมได้เจอคนรักตามพรหมลิขิต ผมเปิดดูเมลล์นั่นอีกครั้ง ก่อนจะกดส่งมันต่อให้คนอื่นๆ เพื่อให้พวกเขามีความสุขในวันคริสต์มาสอย่างผม....

     

    ..............................................................................................................................................

     

     

    จบแล้ววว เนื้อเรื่องดูเอื่อยๆเนอะ 5555

    แถมยังไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่เลยอ่า

     

    พิมผิดเยอะมากๆแน่เลย เพราะรีบ

    กลัวเลยคริสต์มาส 5555

     

    Merry Christmas นะคะทุกคนน ^ ^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×