ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สับสน Jumble - NakaYama

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 11 เลิกรา

    • อัปเดตล่าสุด 23 ธ.ค. 54


    ตอนที่ 11 เลิกรา

     

    ถ้าเจ็บปวดนักก็ตัดใจซะ แล้วมาคบกับฉัน ฉันชอบนาย เรียวสึเกะ  ใบหน้าของคนที่เพิ่งบอกชอบผมเมื่อครู่ โน้มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนปลายจมูกของเราแตะกัน มือข้างหนึ่งเลื่อนจากใบหน้าผมไปจับท้ายทอยผมไว้ เพื่อไม่ให้ผมขยับหน้าหนีไปไหน  มือที่เป็นอิสระพยายามดันไหล่คนตรงหน้าออกจนอีกคนเริ่มรำคาญต้องรวบมือผมเอาไว้ด้วยมือแกร่งเพียงข้างเดียวของเขา ผมหลับตาทันที ใจผมเต้นเร็วแรงจนน่ากลัว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปมันอาจจะหยุดทำงานเอาเสียดื้อๆก็เป็นได้

    ...ไม่ ถ้อยคำปฏิเสธแผ่วเบาที่ผมพูดออกมา หวังให้คนตรงหน้าหยุดการกระทำนี้สักที

    พลั่ก!!” ผมลืมตาทันที เมื่อได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างที่กระทบกันรุนแรงพอดู สิ่งที่ผมเห็นคือร่างของอิโนะคุงถูกผลักด้วยแรงของใครบางคน จนเขาต้องล้มลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ และใบหน้าที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดีที่ตอนนี้มีแต่ความโกรธปรากฏอยู่ ออกแรงกระชากตัวผมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ให้ลุกขึ้นยืน และเหวี่ยงผมให้ไปหลบอยู่หลังลำตัวเขา

    ทำบ้าอะไร!!!” เสียงประกาศกร้าวของยูโตะคุงดังจนตัวผมสะดุ้งเฮือก ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะโกรธทำไม

    ก็กำลังจะจูบกันน่ะสิ ถามได้ อิโนะคุงที่ลุกขึ้นยืนได้แล้ว ขยับตัวปัดเศษดินออกจากกางเกงตน  หันมาตอบคำถามด้วยใบหน้าและเสียงที่ท้าทายอารมณ์ของคนถามได้เป็นอย่างดี

    เดี๋ยวยูโตะคุง มันไม่ใช่อย่างนั้น เราแค่คุยกัน ถึงจะไม่ใช่อย่างนั้นแต่ผมก็ต้องออกปากห้ามและใช้สองมือรั้งแขนแกร่งคนตรงหน้าด้วยแรงทั้งหมดที่มี เพื่อให้คนที่อารมณ์กำลังขึ้นไม่พุ่งตัวเข้าใส่อีกคนที่เพิ่งลุกขึ้นยืนได้

    ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อยเรียวสึเกะ ก็เห็นๆอยู่ว่าฉันกับนายกำลังจูบกัน โธ่ ให้ตายเถอะ แล้วจะยั่วโมโหกันอีกทำไม ทั้งๆที่ผมพูดแก้ตัวให้แล้วแท้ๆ คราวนี้ผมรั้งไว้ไม่ไม่ไหวแล้ว ยูโตะคุงจับเข้าที่คอเสื้อเชิ้ตของอิโนะคุง ง้างหมัดขึ้นสูงเตรียมจะต่อยคนตรงหน้า

    เลิกเรียกเรียวสึเกะสักที!!” ขึ้นเสียงใส่ทั้งๆที่ห่างกันเพียงนิดเดียว ผมแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

    ทำไมจะเรียกไม่ได้ นายมีสิทธิอะไรมาห้าม นายไม่ได้ชอบเขาไม่ใช่หรอ แล้วนายโกรธอะไรที่ฉันทำอย่างนี้ ไม่ได้ขึ้นเสียงกลับ หากแต่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เพียงแค่นั้นก็ทำให้ยูโตะคุงที่อารมณ์ขึ้นสูงลดลงทันที เขาลดหมัดลง ปล่อยคอเสื้อที่ยับยู่ยี่จากมือตนออก ก้มหน้านิ่งคล้ายว่ากำลังทบทวนทุกคำพูดที่อีกฝ่ายพูดมา

    ถึงอย่างนั้นก็ห้ามเรียก!!”  เงยหน้าสบมองอีกคนด้วยสายตากร้าว ก่อนจะผละตัวกลับออกมา ไม่ลืมที่จะกระชากข้อมือผมให้เดินตามไปด้วย ผมได้แต่หันกลับไปมองอิโนะคุง แล้วขยับปากเบาๆว่า ขอโทษครับอีกฝ่ายเองก็ตอบกลับด้วยการส่ายหัวเล็กน้อย แล้วยิ้มให้เหมือนเดิม

     

     

    ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเองก็หวั่นไหวกับคำว่าชอบของอิโนะคุงเหมือนกัน ถึงอย่างนั้นผมก็คงคบกับเขาไม่ได้หรอก ในเมื่อผมยังรักยูโตะคุงมากขนาดนี้  ผมยอมรับว่าดีใจมากที่ยูโตะคุงมาห้ามไว้ทัน ดีใจมากที่เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนั้น  ดีใจมากที่เขาไม่ให้อิโนะคุงเรียกผมว่าเรียวสึเกะ และดีใจมากที่เขายังคงจับมือผมอยู่จนถึงตอนนี้ อยากจะถามว่าทำไมถึงโกรธขนาดนั้น แต่อารมณ์ของยูโตะคุงยังคงคุกรุ่นอยู่แน่ๆ เลยเลือกที่จะเดินเงียบๆต่อไปดีกว่า

     

     

    ใช้เวลาไม่นานนักเราสองคนก็เดินมาหยุดตรงหน้าบ้านของผมแล้ว ยูโตะคุงปล่อยมือผม ทำท่าจะเดินเข้าบ้านตัวเองไป

    ยูโตะคุง เรียกชื่อเขาออกไปเพียงแค่อยากจะให้ยูโตะคุงอยู่ตรงนี้นานขึ้นสักหน่อยก็ยังดี เขาหันมามองผมด้วยสายตาแปลกใจ

    ขอบคุณมากนะ เขาแปลกใจมากขึ้นกว่าเดิมที่ผมขอบคุณเขา ก็ที่มาทันไง ถ้าเกิดยูโตะคุงมาไม่ทันละก็ ผมต้องเสียจูบแรกไปแน่ๆเลย

    อะ อ่อ แล้วไหนบอกแค่คุยกันเฉยๆ เขาพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงว่าเข้าใจแล้ว แต่ประโยคหลังนั่นทำเอาผมสะอึก มันก็จริงที่ผมพูดแบบนั้น

    อะ นั่น... ก็ตอนนั้นสถานการณ์มันบังคับนี่หน่า

    หลังจากที่ได้คุยกัน ผมก็รู้ว่าอารมณ์คนตรงหน้าเป็นปกติแล้ว รวมทั้งคำพูดของอิโนะคุงนั่น มันก็ทำให้ความอยากรู้ของผมมีมากขึ้น

    แล้วทำไมยูโตะคุงถึงไปเจอฉันได้ล่ะ? ทั้งๆที่ผมวิ่งสะเปะสะปะไปทั่ว เพราะร้องไห้อยู่ แม้แต่ผมเองยังไม่รู้ว่าตรงนั้นคือที่ไหนเลย แล้วเขาเจอผมได้ยังไง

    .... เขาเงียบไม่ยอมตอบผม

    งั้นแล้วทำไมถึงโกรธขนาดนั้นล่ะ? ในเมื่อไม่ยอมตอบคำถามแรก และผมเองก็ไม่อยากรอ เลยถามเขาต่อไป

     ก็ฉันไม่ชอบ... เขาก้มหน้าลง ผมที่เตี้ยกว่าเขาอยู่มาก มองเห็นใบหน้านั่นได้ชัดเจน เขาเหมือนกับเด็กที่บ่นถึงของกินที่ไม่ชอบยังไงยังงั้น

    ไม่ชอบอะไร

    แล้วทำไมนายต้องให้ไอนั่นเรียกอย่างนั้นด้วยล่ะ ทั้งๆที่ผมถามเขาอยู่แท้ๆ ตอนนี้กลายเป็นเขาที่ถามผมแทน

    ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธนี่หน่า ในเมื่ออิโนะคุงอยากเรียกอย่างนั้น ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก แล้วชื่อจริงของผมก็มีแค่คนในครอบครัวเท่านั้นที่เรียก บางทีผมก็อยากให้คนอื่นเรียกผมว่าเรียวสึเกะเหมือนกัน โดยเฉพาะคนตรงหน้านี่

    งั้นถ้าฉันเรียกบ้าง นายคงไม่ปฏิเสธใช่ไหม ผมอึ้งกับสิ่งที่ยูโตะคุงพูดออกมา หัวใจเต้นระรัวกับเรื่องเล็กน้อยนี้ รู้สึกถึงความร้อนบนแก้มทั้งสองข้าง ผมเคยหวังให้เขาเรียกผมด้วยชื่อจริง และตอนนี้ความหวังของผมมันกำลังจะเป็นจริง

     

    กริ๊ง กริ๊งงงง

    ผมที่กำลังจะตอบตกลงด้วยความดีใจก็ต้องชะงักทันที เมื่อเสียงโทรศัพท์ของยูโตะคุงดังขึ้น และเขาหันไปให้ความสนใจกับมัน แทนที่จะเป็นคำตอบของผม

    แปปนะ ยามะจัง เขาขอเวลาผมสักครู่ ก่อนจะหันหลังเอาโทรศัพท์สีเงินสวยแนบหู และเอามืออีกข้างป้องปากไว้   ยามะจัง งั้นหรอ

    โทษทีนะ แต่เอริจังโทรมา ฉันต้องไปหาเขาก่อน นายรีบเข้าบ้านเถอะ อากาศเริ่มเย็นแล้ว บอกให้ฟังโดยที่ผมไม่ได้อยากรู้ว่าใครกันที่โทรมา แถมยังเอามือดันหลังผมให้ผมรีบก้าวเข้าบ้าน ก่อนจะขอตัวและออกวิ่งไป

    ที่นายถามเมื่อกี๊ ฉันไม่ปฏิเสธหรอก อยากจะตอบคำถามนั้น ถึงแม้คนถามจะวิ่งหายไปแล้วก็ตาม  ยิ้มให้กับตัวเองบางๆ ก่อนจะสาวเท้าเข้าบ้านไป

     

    นายไม่ได้รักฉัน เรื่องนั้นฉันรู้ แต่ที่นายทำแบบนี้

    ฉันเองก็อดคิดไม่ได้ว่า บางทีนายอาจจะชอบฉันสักนิดแล้วใช่ไหม

     

    .................................................................................................................................................

     

     

    เอริจัง ฉันขอโทษ ไม่สำเร็จน่ะ ประโยคที่ฟังดูเหมือนสำนึกผิด แต่ถ้าคนปลายสายสามารถมองเห็นคนพูดได้ล่ะก็ จะรู้เลยว่าคนที่พูดมีสีหน้าที่สบายใจมากแค่ไหน

    นายมันงี่เง่า เคย์ เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ ถึงผมจะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าผมทำไม่สำเร็จจะทำให้เอริจังไม่พอใจมากแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่อยากให้มันเป็นไปตามที่เอริจังอยากให้เป็น

    แต่ฉัน...

    นายไม่รักฉันแล้วสินะ เสียงตัดพ้อแบบที่เธอชอบใช้ มันทำให้ผมเจ็บร้าวไปทั้งอก ผมรักเธอ เรื่องนั้นเธอเองก็รู้ดี แต่เธอต่างหากที่ไม่ได้รักผม

     

     

    ความรักที่มันอัดแน่นในหัวใจ ครั้งนึงมันเคยได้รับการยอมรับ และคิดว่าจะเป็นเช่นนั้นต่อไป แต่ไม่นานนักอีกคนก็เปลี่ยนใจ ยื่นความรักนั่นกลับคืนมาเพราะเธอไม่ได้ชอบผมอีกต่อไปแล้ว เจ็บปวด ทรมาน ทั้งๆที่รักมากขนาดนี้ ทำไมกัน พยายามไปให้ไกลจากเธอมากที่สุด แต่เมื่อผมเริ่มทำใจได้เธอก็กลับมา พร้อมกับมิตรภาพครั้งใหม่ที่เรียกว่าเพื่อน กลับมาเพื่อขอให้ผมช่วยเรื่องความรักของเธอ บอกให้ผมขัดขวางความรู้สึกของเด็กคนนึงเพื่อไม่ให้ความรักครั้งนี้ของเธอต้องพัง อ้อนวอนผมให้ช่วยเธอ

     

     

    ใบหน้านั่นที่ผมหลงใหลมาอยู่ตรงหน้าผมอีกครั้ง พร้อมสัมผัสที่ผมไม่ได้รับมันจากเธอแสนนาน โหยหารอยยิ้มนั้น ผมไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของเธอได้อีก ผมรู้ดีว่าเธอแค่หลอกใช้ผม เธอไม่เคยคิดถึงความรู้สึกผมเลยสักนิด ผมที่รักเธอมาตลอด แต่ตอนนี้กลับต้องยื่นมือเข้ามาเพื่อให้เธอกับอีกคนรักกันมากกว่าเดิม อีกคนที่ไม่ใช่ผม และผมเองก็ยอมทำ

     

     

    จนวันนี้ที่ผมเห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเด็กคนนึงที่เธอว่า บอกได้อย่างชัดเจน ว่าเด็กคนนี้ไม่มีใจเหลือเผื่อให้ใครเข้าไปได้อีก เรียวสึเกะมีแต่ยูโตะอยู่เต็มหัวใจ ต่อให้จะเจ็บปวดแค่ไหนถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ เรียวสึเกะเหมือนกับตัวผมไม่มีผิด และเรื่องราวในวันนี้ยิ่งย้ำให้ผมรู้ว่ายูโตะเองก็มีใจให้เรียวสึเกะไม่น้อยไปกว่ากัน แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือทำไมตัวยูโตะเองถึงไม่รู้เรื่องนั้น ไม่มีใครคนไหนที่โกรธเป็นบ้าขนาดนั้นที่เห็นคนที่เป็นแค่เพื่อนจะไปจูบกับใคร นอกเสียจากหลงรักเพื่อนคนนั้นเสียเอง ในเมื่อคนทั้งสองใจตรงกันทำไมถึงต้องขัดขวางความรักนั่นด้วย

     

     

    ขอโทษเอริจัง ฉันไม่อยากทำแล้ว ผมควรตัดใจจากเธอสักที ในใจของเธอไม่มีผมอีกต่อไปแล้ว       

    เคย์ ฉันขอร้อง นะ ฉันรักยูโตะคุงจริงๆ น้ำเสียงอ้อนวอนนั่น ทำให้หัวใจผมกระตุกวูบ พร่ำบอกผมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่าเธอรักยูโตะมากแค่ไหน  มันมากเกินที่ผมจะทนไหว

    เอริจังรู้ไหม ฉันรักเธอ จนถึงตอนนี้ฉันก็มีแค่เธอ แต่เธอไม่ได้รักฉันแล้ว ฉันเจ็บปวด และเจ็บปวดกว่าเมื่อเธอบอกว่าเธอรักใคร... ผมเว้นวรรคเพื่อสูดหายใจลึก

    ถ้าเธอรักยูโตะอย่างที่เธอว่า ก็ไปบอกกับเขาตรงๆสิ ถ้ายูโตะรักเธอจริงๆ ต่อให้เรียวสึเกะพยายามยังไงมันก็ไม่ได้ผล เรื่องนั้นเอริจังก็รู้ดีไม่ใช่หรอ โชคดีนะ ตัดสายทิ้ง เพราะไม่อยากได้ยินน้ำเสียงอ้อนวอนนั่นอีก ผมทำได้เท่านี้ทั้งหมดนี่มันจะดีต่อทุกคน โดยเฉพาะเอริจัง

    ลาก่อน ความรักของผม

     

    .................................................................................................................................................

     

     

    ถ้าเธอรักยูโตะอย่างที่เธอว่า ก็ไปบอกกับเขาตรงๆสิ ถ้ายูโตะรักเธอจริงๆ ต่อให้เรียวสึเกะพยายามยังไงมันก็ไม่ได้ผล เรื่องนั้นเอริจังก็รู้ดีไม่ใช่หรอ โชคดีนะ ปลายสายวางสายทันทีที่พูดจบ ทำเอาความอดทนเมื่อกี๊สิ้นสุดลงทันที

    ได้ ในเมื่อนายไม่ช่วยฉัน ฉันก็จะทำมันด้วยตัวของฉันเอง!!” ประกาศกร้าวใส่โทรศัพท์มือถือที่ปลายสายไม่อยู่แล้ว

     

    นายไม่มีวันได้ยูโตะคุงไปแน่ ยูโตะคุงต้องเป็นของฉันท่านั้น

     

    กดหมายเลขโทรศัพท์ที่ท่องจำจนขึ้นใจ ไม่นานนักเจ้าของเบอร์ก็รับ

    เอริจัง เรียกชื่อคนโทรไปด้วยเสียงแผ่วเบา ทำให้รู้ได้ชัดว่าตอนนี้ยูโตะคุงต้องอยู่กับใครเป็นแน่

    อยู่กับใครรึเปล่า? ถามออกไปเพื่อความแน่ใจ

    อยู่กับยามะจัง หนอย ฉันเกลียดชื่อนี้จนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว แค่ตอนเย็นที่นายวิ่งตามมันออกไป มันก็ยิ่งทำให้ฉันเกลียดมากกว่าขึ้นไปอีก

    แล้วมาหาฉันได้ไหม ตอนเย็นนายก็วิ่งพรวดออกไป ทิ้งฉันไว้ที่ร้าน ตัดพ้อปลายสาย แฝงด้วยน้ำเสียงน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด

    ขอโทษนะ เดี๋ยวฉันไปหา ที่ไหนล่ะ เป็นดังคาด

    คอนโดฉัน รีบมานะ ฉันจะรอ ยูโตะคุงความรู้สึกของฉัน ฉันจะไม่ให้นายปฏิเสธมันได้แน่นอน

     

    .................................................................................................................................................

     


      

    เสร็จแล้ววว แต่งตั้งกะเช้า เพิ่งเสร็จตอนนี้

    อิโนะคุงน่าสงสารนะว่ามั๊ย?

     

    ใกล้จะคริสต์มาสแล้วเนอะ >w<

    Meryy X’mas


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×