ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สับสน Jumble - NakaYama

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 10 เริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 54


    ตอนที่ 10 เริ่มต้น

     

    อ๊อดดด~

    วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ กลับบ้านระวังตัวกันด้วย เสียงของอาจารย์สาวกล่าวจบการเรียนการสอนในวันนี้

    เย้ๆๆ เค้ก กินเค้กกัน จิเน็นดูจะกระตือรือร้นมากที่สุด เพราะลุกขึ้นกระโดดเหยงไปมาเหมือนกับเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่ ผมอมยิ้มให้กับท่าทางที่เหมือนเด็กของเขา

    วันนี้ยามะจังเลี้ยงล่ะ เสียงห้าวของคนตัวสูงกว่าพร้อมกับมือที่ตบเข้าที่ไหล่ผมเบาๆ เป็นเชิงว่าคนนี้แหละ ยามะจัง

    ทำไมเป็นฉันล่ะ เงยหน้าสบมองด้วยแววตาหาเรื่องทีเล่นทีจริง

    ก็นายเป็นคนชวนนิ หันมายิ้มกว้างเห็นฟันครบทุกซี่ใส่ผม ถึงยูโตะคุงจะดูเท่ห์แต่เวลาที่เขาทำอะไรแบบนี้มันก็ดูน่าเอ็นดูไม่น้อยเหมือนกัน

    กี่ขวบแล้ว หะ ทำตัวเป็นเด็กไปได้ ถึงปากจะพูดอย่างนั้น แต่ผมก็อดยิ้มกับท่าทางแบบนั้นไม่ได้อยู่ดี

    จะไปกันได้รึยัง? หลังจากที่นิ่งเงียบอยู่นาน เอริกะก็เป็นคนตัดบททั้งหมด พาดกระเป๋าขึ้นบ่าเดินนำหน้าออกจากห้องไป ไม่ลืมที่จะคว้ายูโตะคุงให้เดินเคียงไปด้วย

     

     

    ไม่นานนักพวกเราสี่คนก็หยุดยืนหน้าร้าน Make a Wish ที่ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งการค้าขนาดย่อม ซึ่งมักจะมีเด็กนักเรียน นักศึกษามาเป็นลูกค้าประจำเสมอๆ เนื่องด้วยร้านที่ไม่ใหญ่มาก ทำให้การต้อนรับได้ทั่วถึง และภายในร้านยังตกแต่งโทนสีหวานๆน่ารักตามสไตล์ร้านเค้ก รวมถึงรสชาติเค้กที่ถูกปากสาวๆ  

     

     

    กริ๊ง~  เสียงกระดิ่งที่ผูกติดไว้กับบานกระจกใสกระทบกันส่งเสียงดังเบาๆที่พอจะทำให้พนักงานในร้านรับรู้ได้ว่ามีลูกค้ามาเยือน ไม่นานนักพนักงานที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีก็เดินมาต้อนรับ ซึ่งนั่นก็ทำให้จิเน็นยิ้มแก้มแดงได้ทันที ผมเลยแอบหันไปแซวจิเน็นเบาๆ

    เชิญทางนี้เลยครับ อิโนะคุงเดินพาพวกเราเข้าไปในร้าน เลือกที่นั่งสบายๆและเป็นส่วนตัวพอสมควรให้พวกเรา ยื่นเมนูที่วางไว้บนเคาร์เตอร์แถวๆนั้นส่งให้ผม ผมแค่คนเดียวจริงๆ  ผมมองเมนูตรงหน้าสลับกับใบหน้าของพนักงานหนุ่มด้วยความแปลกใจ

    เอ่อ..

    เลือกตามที่นายชอบเลยนะ เรียวสึเกะ ต้องแปลกใจอีกรอบกับสรรพนามที่ใช้เรียกตัวผมถูกเปลี่ยนอย่างกะทันหันจากคนที่เพิ่งเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง ผมที่กำลังจะอ้าปากท้วงกลับไปก็ถูกใครอีกคนแทรกซะก่อน

    เรียวสึเกะ? ยูโตะคุงทวนชื่อผมเพื่อใช้เป็นคำถามว่าทำไม

    เรียกอย่างที่เคยมันห่างเหินน่ะ ตั้งแต่นี้ฉันจะเรียกนายว่าเรียวสึเกะนะอิโนะคุงพูดออกมาราวกับว่าผมกับเขาเคยเจอกันมาก่อนหน้านี้นับครั้งไม่ถ้วน ทั้งๆที่มันไม่ใช่ แถมยังบอกผมเสร็จสรรพโดยที่ไม่ได้ถามผมเลยสักคำ ผมเลยได้แต่พยักหน้าตอบกลับไป ทำให้อิโนะคุงเดินอ้อมมาที่ข้างหลังผม ก้มตัวยื่นหน้ามาใกล้พร้อมกับชี้ที่เมนูตรงหน้า

    เรียวสึเกะชอบแบบนี้ไหม? ผมผงะตัวหนีด้วยความตกใจ ผมไม่เข้าใจการแสดงออกของคนคนนี้เลยสักนิด ครั้งก่อนตอนที่เจอยังไม่เห็นทำอะไรแบบนี้เลย แล้วตอนนี้อยู่ดีๆก็ทำเหมือนสนิทกับผมขึ้นมา

    ผมเอาอันนี้ก็ได้ครับ เลือกมั่วๆไปก่อน เพื่อจะให้คนคนนี้ถอยห่างจากผม และก็เป็นดังคาดเมื่ออีกคนเขยิบตัวออกห่างแล้วเพื่อทำหน้าที่พนักงานต่อไป หลังจากที่อิโนะคุงรับเมนูแล้วเดินจากไป จิเน็นก็กระตุกแขนเสื้อผมเบาๆ

    ทำไมเขาทำแบบนั้น เสียงจิเน็นดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าเองก็เช่นกัน

    ฉันเองก็ไม่รู้ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมอยู่ๆถึงเปลี่ยนท่าที

    ยามะจัง.... เรียกผมอีกครั้งด้วยสายตาที่ผมเองก็รู้ว่าหมายความยังไง

    ฉันรักยูโตะคุง นายก็รู้ กระซิบเบาๆ ไม่อยากให้คนตรงข้ามได้ยินมัน อีกคนก็พยักหน้าเข้าใจ แต่สีหน้าเศร้าสร้อยนั่นก็ไม่ได้หายไป

     

     

    หลังจากนั้นก็ไม่นาน เค้กที่พวกเราสั่งก็ถูกวางอยู่ตรงหน้า มันน่ากินมากเลย

                น่ากินเนอะ ถึงว่านายชอบมากิน หันไปบอกกับจิเน็น ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามากินเพราะอะไร

                ใช่ไหมล่ะ หันมายิ้มให้ผม ดูจะภูมิใจกับเค้กตรงหน้าราวกับตัวเองเป็นคนทำมันขึ้นมา ผมจึงรู้สึกดีขึ้นเพราะผมกลังวลเรื่องความรู้สึกของเขา ทั้งโต๊ะมีเพียงแค่ผมกับจิเน็นเท่านั้นที่คุยเล่นหยอกล้อกัน

                เป็นอะไรรึเปล่า? ผมที่รู้สึกตัวก่อน มองเห็นเค้กที่ยังคงรูปสวยเพราะคนตรงข้ามผมยังไม่ได้แตะมันเลยสักนิด เลยถามยูโตะคุงไป

                เปล่าอีกคนตอบกลับมาเรียบนิ่ง จะบอกว่ายูโตะคุงไม่ชอบกินก็คงไม่ใช่ เพราะทุกครั้งที่ผมซื้อมาเขาจะแย่งผมกินเสมอ โดยเฉพาะสตรอเบอรี่ลูกโตที่ตั้งเด่นบนหน้าเค้ก เขาจะแย่งเอามันไปเสมอ      

                ไม่เป็นอะไร แล้วทำไมไม่กินล่ะ อร่อยนะ ตักเค้กเข้าปากตัวเองคำโต เพื่อแสดงให้เห็นว่ามันอร่อยอย่างที่พูดจริงๆ แต่อีกคนกลับไม่มีทีท่าอยากจะกินมันเช่นเคย ผมเลยเอาส้อมจิ้มที่สตรอเบอรี่ลูกโตเพียงลูกเดียวบนเค้กของตัวเองยื่นไปให้คนตรงหน้า ขยับส้อมขึ้นลงเร่งเร้าให้คนตรงหน้ารับมันเข้าปากไป ถึงผมจะเสียดายแต่อยากให้ยูโตะคุงร่าเริงมากกว่า

                ง่ำ ในที่สุดยูโตะคุงก็กินมัน ผมหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางนั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ผมทำมันไปกระตุ้นอารมณ์ของคนอีกคนให้ระเบิดออกมา

                มันจะมากเกินไปแล้ว!!” ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่ออีกคนตะโกนขึ้นมาเสียงดัง เมื่อมองไปตามเสียงก็เจอสายตาเกรี้ยวกราดของเอริกะจ้องมาราวกับว่าจะฆ่าผมให้ได้ ผมที่รู้ตัวรีบชักมือที่ถือส้อมกลับทันที

                ขอโทษ รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันคงไม่แปลก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เพรีผมไม่มีสิทธิ

                นายไม่รู้ใช่ไหม ฉันเป็นแฟนยูโตะคุง หะ!!!” ดูเหมือนคำขอโทษของผมไม่ได้ผล เอริกะตะโกนเสียงดังมากกว่าเดิม โชคดีที่ตอนนี้มีคนไม่มากนักในร้าน ผมได้แต่ก้มหน้าลงสำนึกผิด

                ฉันรู้... คล้ายกับว่าผมต้องการพูดมันกับตัวเอง ผมรู้ดี

                รู้แล้วยังทำ มันทุเรศ!!”

                เกินไปแล้วนะ หยุดว่าเพื่อนฉันสักทีได้ไหม จิเน็นที่ทนฟังอยู่นานขึ้นเสียงกลับไปบ้าง กลายเป็นว่าตอนนี้พวกเราทะเลาะกันหนักกว่าเดิม

                พอเหอะ ฉันผิดเองแหละ ยูโตะคุงตัดบทและยอมรับผิด หวังให้เรื่องมันจบ แต่เปล่าเลย มันกลับทำให้หนักกว่าเดิม

                รับผิดแทนกันเลยนะ!!” คนที่ตอนนี้ก็ยังขึ้นเสียงไม่เลิก เดินเข้ามาประชิดตัวผมง้างมือขวาขึ้นให้สูงกว่าศีรษะตัวเอง ออกแรงเหวี่ยงมันมาที่แก้มซ้ายผม ใจผมกระตุกวูบ หลับตาลงทันที

                หมับ ผมไม่รู้สึกถึงแรงที่มากระทบแก้มผม ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ลืมตามองภาพเบื้องหน้า ข้อมือขวาของเอริกะถูกยึดไว้ด้วยมือแกร่งของอิโนะคุง สายตาคาดโทษส่งมาทางผม พร้อมกับคำพูดร้ายกาจที่ทำให้ผมตัวชาทั้งตัว

                ยูโตะไม่มีวันรักนาย จำใส่หัวไว้ยามาดะ เรียวสึเกะ!!” น้ำตาไหลลงมาโดยไม่ตั้งใจ ทั้งๆที่ผมเองก็รู้ แล้วยูโตะคุงก็เคยบอกว่าเขารับความรู้สึกผมไม่ได้ แต่พอมาได้ยินจากปากคนอื่น มันยิ่งย้ำว่านั่นคือความจริง ความจริงที่ผมหนีไม่พ้น ต่อให้ยูโตะคุงยอมให้ผมอยู่ข้างเขาด้วยความรู้สึกนี้ มันก็ไม่มีวันที่เขาจะรักผม...

     

     

                เผลอหันไปมองยูโตะคุง เขายืนนิ่งก้มหน้าลง ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองผมสักนิด ฝืนตัวเองให้อยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว

                ยามะจัง ยามะจัง!!!” ผมรีบวิ่งออกมาจากร้าน โดยไม่สนใจเสียงเรียกของจิเน็นเลย แค่อยากออกห่างคนทั้งคู่ให้มากที่สุด แต่ยิ่งวิ่งมาไกลแค่ไหนประโยคนั้นก็ยังไล่ตามทัน วนเวียนซ้ำไปซ้ำในหัวผมมาอยู่อย่างนั้น ผมเหนื่อย เจ็บปวด อยากจะหยุด แต่ทำไม่ได้

                หมับ ตัวผมลอยหวือตามแรงกระชากของใครบางคน หน้าผมซบลงกับอกของคนคนนั้น ตอนนี้ผมกำลังถูกเขากอดอยู่ แอบหวังในใจว่าจะเป็นยูโตะคุง แต่ผมก็แค่คิดไปเอง

                เรียวสึเกะ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? เงยหน้ามองคนที่กอดตนอยู่ อิโนะคุง เขาวิ่งตามผมมา ไม่ใช่คนคนนั้น ไม่ใช่ยูโตะคุง

                อืมม ไม่เป็นไร พยายามดันตัวเองให้ออกจากอ้อมกอดนี้ แต่ก็ไม่เป็นผล อิโนะคุงกอดผมแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมเริ่มรู้สึกอึกอัด

                ผมไม่เป็นอะไรแล้ว จริงๆครับ ในที่สุดอิโนะคุงก็ยอมปล่อยผม ผมก้าวถอยหลังให้ออกห่างจากตัวเขา ก้มหน้าลง รู้สึกอายขึ้นมานิดๆที่ตัวเองยังมีน้ำตาคลออยู่

                เล่าให้ฟังได้นะ จับข้อมือผม พาเดินไปนั่งลงเก้าอี้ไม้ยาวสีน้ำตาลที่อยู่แถวๆนั้น ผมเองก็ไม่ได้ฝืน ปล่อยให้อิโนะคุงพาไป บางทีพูดให้คนนี้ฟังอาจจะดีขึ้นก็ได้

               

     

    ผมรักยูโตะคุง แต่เอริกะเป็นแฟนเขา เขาสองคนรักกัน น้ำตาที่คลอหน่วงอยู่แล้ว เริ่มไหลลงมา เมื่อต้องพูดความจริงที่เจ็บปวดออกไป อิโนะคุงจับมือผมแล้วบีบเบาๆ เขากำลังพยายามปลอบผมอยู่ ผมเองก็รู้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยๆ อิโนะคุงก็เป็นคนดี

    ผมกับยูโตะคุงเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะพวกเราอยู่บ้านติดกัน ผมก็ไม่รู้ว่าตอนไหนที่รักเขา แล้วพอผมใจกล้าบอกไป เขาก็คบกับเอริกะแล้ว แต่จริงๆแล้วยูโตะคุงรักเอริกะมาก่อน เขาถึงปฏิเสธผม แต่ผมก็ขออยู่ข้างๆเขาด้วยความรู้สึกนี้ ยูโตะคุงก็ยอม แต่พอเอริกะพูดอย่างนั้น ผมก็ทนไม่ได้... ประโยคนั้นที่วนเวียนอยู่ในหัวผมจนถึงตอนนี้

    อืม ฉันรู้ ผมหันไปมองหน้าอีกคนอย่างแปลกใจ

    อ่อ คือ ก็เอริจังเป็นแฟนเก่าฉันไง เขาบอกเลิกฉัน แล้วไปคบกับเด็กคนนั้น แต่ฉันกับเอริจังก็ยังเป็นเพื่อนกันนะ นั่นสินะ ผมก็เคยเห็นเขาสองคนทะเลาะกัน

    แล้วอิโนะคุงไม่เจ็บปวดหรอฮะ? ที่เห็นเอริกะกับยูโตะคุงอยู่ด้วยกัน ผมเองเจ็บทุกครั้งที่เห็น แต่มันจะเจ็บกว่าถ้าผมไม่ได้อยู่ใกล้ยูโตะคุง

    เจ็บสิ แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ

    ทำไมครับ?

    เพราะฉันชอบคนอื่นแล้ว พูดจบก็หันมาจ้องหน้าผมด้วยสายตาที่ผมเดาไม่ออก ผมที่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างเริ่มขยับตัวหนี แต่ไปไหนไม่ได้ เพราะมือผมถูกอีกคนจับไว้อยู่ก่อนแล้ว

    ถ้าเจ็บปวดนักก็ตัดใจซะ แล้วมาคบกับฉัน ฉันชอบนาย เรียวสึเกะ  ไม่จริง ทำไม อิโนะคุงชอบผม ผมเจ็บปวดก็จริง ผมควรตัดใจ ผมควรรักคนที่เขารักผม แต่ผมก็รักยูโตะคุง แล้วจิเน็นล่ะ จิเน็นชอบอิโนะคุงอยู่ ความคิดในหัวผมปนเปกันมั่วไปหมด ผมจะทำยังไงดี ในขณะที่ผมกำลังสับสนอยู่นั้น สองมือของอิโนะคุงก็เลื่อนมาจับหน้าผมให้หันไปหาเขา โน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาเรื่อยๆ จนห่างกันเพียงแค่ลมหายใจ เขากำลังจะจูบผม ไม่จริงใช่ไหม.....

     

     

    .............................................................................................................................................................................

     

      

     

    อิโนะยามะๆๆๆ 555 ชอบคู่นี้เป็นพิเศษอ่ะ

    แต่ยังไงเรื่องนี้ก็นากายามะแน่นอนค่ะ >///<

     

    พรุ่งนี้ไปเรียนอีกแล้ววว แต่เรียนบ่ายค่ะ

    เลยมาปั่นซะก่อนดีกว่า กลัวไม่มีเวลา

     

    อ่านให้สนุกนะคะ เชิญติชมได้ตามสบายเลยค่ะ

    V^________^V


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×