คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 9 ก่อตัว
ตอนที่ 9 ก่อตัว
“....ให้นายอยู่ห่างฉันไว้ ถ้าอยากจะคบกับเขาต่อ นายจะทำตามรึเปล่า”
ยูโตะคุงนิ่งเงียบ ปล่อยเวลาผ่านไปช้าๆ เขาไม่ยอมตอบคำถามผมสักที ใจผมเต้นรัว เจ็บแปล๊บๆเป็นระยะ สองมือที่เกาะกุมกันไว้เริ่มชื้นเหงื่อ น้ำตาใหล้จะเอ่อล้นเต็มที
“ฉันไม่ทำหรอก!!” เขาโพล่งออกมาทำให้ผมสะดุ้ง แต่ผมก็จ้องหน้าอีกคนไม่ละสายตา
“เพราะอะไร?” คำนี้เหมือนผมพูดเบากับตัวเอง แต่อีกฝ่ายก็ได้ยินมันแม้ไม่ชัดเจนนัก
“นายว่าไงนะ?”
“เพราะอะไรนายถึงไม่ทำ” พูดให้ชัดและดังกว่าเดิม จ้องสบเข้าไปในดวงตาของยูโตะคุง แสดงให้เขาเห็นว่าผมจริงจังแค่ไหน แต่เขากลับหลบสายตาผม
“ก็...เพราะนายเป็นเพื่อนฉันไง”
“ฉันไม่ใช่เพื่อนนาย!!” อารมณ์ของผมตอนนี้ คืออยากพูดทุกอย่างที่อัดแน่นในใจให้อีกฝ่ายรู้สักที
“ว่าไงนะ”
“ฉันไม่ใช่เพื่อนนาย เพราะ ฉันรักนาย ได้ยินมั๊ย!!” นี่คือสิ่งที่ผมอยากพูด ใช่ ผมอยากพูดมันมาตลอด ตะโกนเสียงดังใส่อีกฝ่ายจนตัวเองเจ็บที่ลำคอ ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา โชคดีที่ตอนนี้มีแค่เราสองคน
“ยามะจัง อย่าทำแบบนี้ นายก็รู้...”
“ฉันไม่รู้ ฮือ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น ฮึก” พูดสวนยูโตะคุงไป ทั้งที่ผมเองยังก้มหน้าก้มตาใช้สองมือปาดน้ำตาออกอย่างรำคาญ
“...เอริจัง คือผู้หญิงคนเดียวกันกับคนที่ฉันชอบเมื่อสามเดือนก่อน ฉันเริ่มเล่นดนตรีจริงจังก็เพราะเขา ถึงตอนนั้นจะไม่ได้คบกัน แต่ตอนนี้ฉันคบกับเขาอยู่ นายเข้าใจใช่มั๊ย” ยูโตะคุงร่ายยาวถึงความรักของเขา ผมไม่อยากฟังสักนิด แต่สิ่งที่เขาพูดผมกลับได้ยินมันชัดเจน ทั้งๆที่ผมคิดว่าเรื่องนั้นมันจบไปแล้ว แต่เปล่าเลย มันกำลังเริ่มต้นอีกครั้งต่างหาก
“ฮึก แล้วจะให้ฉันทำยังไง ฮืออ” ทั้งๆที่ผมเคยคิดไว้ว่า ผมจะเก็บความรู้สึก จะเป็นเพื่อนกับเขา แต่ตอนนี้ผมทนไม่ได้ที่ยูโตะคุงจะมีใครอีกคนที่สำคัญกว่าผม โดยที่คนๆนั้นเป็นคนพิเศษ แต่ผมเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น
“...นายก็แค่กลับไปเหมือนเก่า เราสองคนกลับไปเป็นเพื่อนกันอย่างเดิม” พูดออกมาง่ายๆ แต่มันทำยากรู้มั๊ย?
“...ฉันทำไม่ได้ ...แล้วคะ ความรู้สึกฉันล่ะ?” ผมไม่ได้เพิ่งรักเขา แต่ความรักของผมมันเริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ ตลอดระยะเวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน ถึงรู้ว่าไม่ควร แต่ผมควรตัดใจงั้นหรอ ลืมความรู้สึกที่มีทั้งหมดไปอย่างนั้นหรอ ให้ทิ้งมันไปแล้วกลับมาเหมือนเดิม ตอนนี้ผมทำไม่ได้
“ยามะจัง ฉัน...”
“ให้เหมือนเก่า ...ฉันทำไม่ได้หรอก นะ ขอฉันอยู่ข้างๆนายด้วยความรู้สึกนี้เถอะนะ” เสียงสั่นเครือของผมกำลังอ้อนวอนต่อคนตรงหน้า น้ำตายังคงไหลมาเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหมดลงง่ายๆ สองขาที่ไร้เรี่ยวแรงกำลังก้าวเข้าประชิดตัวคนร่างสูงเรื่อยๆ ใช้สองมือโอบรอบลำตัวแกร่ง ซบหน้าลงกับอกแผ่วเบา หวังเพียงคนคนนี้จะรับรู้มันผ่านสัมผัสครั้งนี้ ‘รับรู้ความรู้สึกทั้งหมดของผม’
“ถึงอย่างนั้น ฉันก็รับความรู้สึกนายไม่ได้อยู่ดี” ถึงทุกคำที่พูดออกมาจะเป็นการปฏิเสธแต่ยูโตะคุงก็ปล่อยให้ผมกอดเขาอยู่อย่างนั้น
“อืม ฉันรู้ ไม่เป็นไร” ผมรู้ดี....
สองมือของร่างสูงกำลังกอดตอบเช่นกัน มันช่างอบอุ่นมากเหลือเกิน น้ำตาที่มีกลับถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม แต่มันกลับเศร้าสร้อยจนน่าใจหาย
‘เพียงแค่ได้อยู่ใกล้คนคนนี้ ถึงจะเจ็บปวดก็ไม่เป็นไร’
..............................................................................................................................................................................
ภาพตรงหน้าเกือบทำให้เอริกะล้มทั้งยืน ภาพคนสองคนที่กำลังกอดกัน คนนึงคือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนกันส่วนอีกคนคือคนที่ไม่ชอบหน้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น มันทำให้เขาแทบบ้า อยากจะพุ่งเข้าไปกระชากมันให้ออกห่างจากแฟนของเขาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ถูกมือของใครบางคนรั้งไว้ทุกครั้งไป ไม่นานนักท่าทางเกรี้ยวกราดเมื่อสักครู่ก็เปลี่ยนเป็นสงบนิ่งจนอีกคนแปลกใจ
“เคย์.... เธอรักฉันไหม?” เบื้องหน้าของผมคือผู้หญิงคนเดียวที่ผมรัก ใบหน้าของเธอยังคงเข้าออกอยู่ทุกลมหายใจ ดวงตาที่แสนรัก ครั้งหนึ่งมันเคยปรากฏเป็นตัวผมเอง แต่ในตอนนี้ผมกลับหามันไม่เจอ มันเจ็บปวด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถหยุดความเจ็บปวดและความรักได้ สายตาของเธอที่เว้าวอนขอร้อง หัวใจของผมเจ็บแปล๊บและกลับมาเต้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง
“รักสิ ฉันรักเธอ” เสียงของผมแหบพร่า ความรักอัดแน่นทว่าเบาหวิวคล้ายกับมันไร้ตัวตน
“ถ้าอย่างนั้นนายคงไม่อยากเห็นฉันเสียใจ” เสียงของเธอเรียบนิ่งผิดกับผมที่แปลกใจและเปลี่ยนเป็นตกใจแทบจะทันทีที่จบประโยคถัดไปของเธอ
“ทำตามที่ฉันขอร้อง เอายามาดะ เรียวสึเกะออกไปจากฉันกับยูโตะคุงซะ!!”
“ได้ไหม เคย์” สีหน้าของผมบ่งชัดว่าลำบากใจแค่ไหน ก็ยามาดะ เรียวสุเกะคนที่เธอกล่าวถึงดูไม่ใช่คนเลวร้ายเลยสักนิด ดวงตากลมใสนั่นดูบริสุทธิ์ทุกครั้งที่ได้สบมัน รอยยิ้มไร้เดียงสาที่ส่งมาให้ทุกครั้งที่เจอก็ดูน่าเอ็นดูมากกว่าน่าหมั่นไส้อย่างที่เธอว่า ผมไม่อยากทำร้ายเด็กคนนี้เลย...จริงๆ
เอริจังเร่งเร้า เธอก้าวขาหนึ่งก้าวเพื่อเข้าใกล้ผม ด้วยส่วนสูงเพียงไหล่ทำให้เธอต้องเงยหน้าสบด้วยดวงตาคาดคั้น ผมมองใบหน้าของเธอ หัวใจของผมเต้นช้าลงจนบางทีอาจจะไม่เต้นอีกต่อไป ผมเอื้อมมือขึ้นใช้ปลายนิ้วไล้เกลี่ยแก้มใสที่ผมหลงรัก
“ได้สิ... ถ้าเธออยากให้ทำ ฉันจะทำ” ผมพูด เจ็บร้าวไปทั้งอกแต่ยามที่เอริกะเผยรอยยิ้มและร้องออกมาอย่างดีใจก็ทำให้หัวใจที่เกือบจะหยุดเต้นไปกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง
เธอเขย่งปลายเท้าขณะแนบริมฝีปากลงมา ผมหลับตารับบสัมผัสที่ค่อยๆกดลงมาอย่างแผ่วเบา พวกเราแตะริมฝีปากอย่างแช่มช้า ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยผมไม่แน่ใจว่าผมมีสิทธิมากเท่าไหร่ ผมไม่ได้รุกล้ำหรือแสดงความต้องการอะไรออกไป เพราะสิ่งที่ผมทำได้คือการเฝ้ารอเธอ.....
..............................................................................................................................................................................
เป็นเวลาเกือบอาทิตย์แล้ว นับตั้งแต่วันนั้น... วันที่ผมเผยความรู้สึกที่มีทั้งหมดออกไป ในบางครั้งผมไม่สามารถมองใบหน้าและดวงตาของยูโตะคุงตรงๆได้ จนต้องเผลอหลบสายตาเสมออาจเพราะความอายหรือความเจ็บปวดเวลาที่เห็นยูโตะคุงอยู่กับเอริกะ ผมก็ไม่แน่ใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้คือความเอาใจใส่ที่มีต่อความรู้สึกของผมที่มันเพิ่มขึ้น ทำให้ความหวังที่เคยมีของผมกลับคืนมา ผมไม่ควรยอมแพ้ใช่ไหม บางทียูโตะคุงอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ เผลอยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ยิ้มอะไรอยู่” เสียงคนตัวสูงกว่าที่ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เอ่ยถามเบาๆ
“อ่ะ อ่อ เปล่า” ตอบกลับไปแบบนั้นแต่ทว่าก็ยังยิ้มอยู่
พลันสายตาก็หันไปเห็นคนที่ยืนข้างๆยูโตะคุง สายตาเรียบนิ่งที่เดาไม่ออกว่าคนคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ทำให้ผมกลัวทุกครั้งที่สบมัน ผมไม่รู้ว่าทำไมเอริกะถึงไม่ชอบผม ทั้งๆที่เราก็เพิ่งพบกันครั้งแรก เพราะฉะนั้นผมคงไม่เคยไปทำอะไรให้เธอหรอก ผมสิควรเป็นคนที่เกลียดเธอมากกว่า ในเมื่อเธอได้ยูโตะคุงไปทั้งๆที่ผมอยู่ข้างๆมาตลอด
“อ่ะ” อยู่ดีๆเอริกะก็ยื่นกระดาษที่ดูคล้ายการ์ดแผ่นเล็กมาตรงหน้าผม ผมมองมันสลับกับหน้าเธออย่างแปลกใจ
“ขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับเธอ รับไปสิ”
“อะ ขอบคุณนะ” ถึงอย่างนั้นผมก็รับมันมา ก้มอ่านเงียบๆต่อหน้าคนทั้งคู่ ในการ์ดนั่นคือบัตรส่วนลดของร้านเค้ก Make a Wish แต่มันมากถึง 80% เงยหน้าสบมองเอริกะด้วยความแปลกใจที่มี
“ฉันขอเคย์มา เอาไว้ไปกินกับจิเน็นนะ” เธอยิ้มกลับมาให้ผม สายตาเรียบนิ่งไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด แต่ก็ไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนตอนแรกแล้ว
“อืม ขอบคุณมากนะ” ผมยิ้มตอบกลับไป บางทีเธออาจจะเป็นคนดีก็ได้
“ไปด้วยกันมั๊ย พรุ่งนี้” ผมพูดออกไปก่อนที่เอริกะจะดึงแขนยูโตะคุงให้เดินตามออกไปจากห้อง เธอหันมายิ้มให้ผม พยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำคนเดียว
“ยูโตะคุงก็ไปด้วยกันนะ” ชวนคนข้างๆด้วยเหมือนกัน ผมเองไม่ได้รอคำตอบกลับ เพราะยังไงยูโตะคุงก็ต้องไป เลยเลือกที่จะหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์เพื่อนรักที่วันนี้ยังไม่เห็นหน้า แต่แล้วก็มีมือเอื้อมมาขยี้หัวผมเบา พร้อมยิ้มอ่อนโยนที่ส่งมาให้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมรักรอยยิ้มและคนตรงหน้านี้
‘ว่าไงยามะจัง’ ไม่นานนักปลายสายก็ตอบกลับมาด้วยเสียงงัวเงียคล้ายคนเพิ่งตื่นนอน แต่ว่านี่จะเข้าเรียนแล้วนะ
‘ทำไมเสียงเป็นงั้นอ่ะ นายจะไม่มาเรียนหรอ?’
‘ฉันปวดท้องอ่า วันนี้คงหยุด’
‘อ่อ เป็นอะไรมากไหม อ้อ ฉันจะโทรมาบอกว่า พรุ่งนี้ไปกินเค้กกัน แต่นายไหวรึเปล่า’ พออีกคนได้ยินคำว่าเค้กเท่านั้นแหละเสียงที่งัวเงียก็หายไปทันควัน
‘ไปสิ ไปๆๆ ปวดนิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย’ ตอบกลับรวดเร็วโดยไม่ต้องคิดเลยสินะ ผมยิ้มให้กับคนในโทรศัพท์
‘งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ กินยาด้วยล่ะ บาย’ อีกคนแค่อืมตอบกลับมาเบาๆ แล้วก็กดวางไป ผมหันมายิ้มแห้งๆให้ยูโตะคุง แล้วบอกเขาว่าจิเน็นปวดท้อง วันนี้หยุด อีกคนก็พยักหน้ารับรู้ เราสองคนจึงคุยเล่นเรื่อยเปื่อยก่อนที่คาบเรียนตอนเช้าจะเริ่ม
.............................................................................................................................................................................
‘เคย์ พรุ่งนี้มันจะไปกินเค้ก เริ่มได้เลยนะ เข้าใจรึเปล่า’ เสียงใสกล่าวอย่างดีใจ เมื่อรู้ว่าแผนที่ตัวเองคิดกำลังไปได้ด้วยดี
‘อืม เข้าใจแล้ว’ ยิ้มเหี้ยมให้กับตัวเองผ่านกระจกใส
ยามาดะ เรียวสึเกะทำตัวน่ารำคาญ ทั้งๆที่ยูโตะคุงเป็นของฉัน แต่นายก็ยังเข้าใกล้เขา นายได้เจอดีแน่!!
.............................................................................................................................................................................
เพิ่งได้มาต่อวันนี้ เปิดเทอมมานี่ไม่มีเวลาเลยอ่ะ T^T
ตอนนี้ได้เพื่อนช่วยเยอะเลยค่ะ 5555 ขอบคุณมากเลย
พูดถึงชื่อตอน มันหมายถึงสองอย่างค่ะ คือความรู้สึกของยูโตะ
แล้วก็แผนการของเอริกะน่ะคะ เห็นมะๆ ว่าโตะกอดตอบอ่ะ 555
นั่งคิดชื่อตอนนานมากอ่ะ ในที่สุดก็เลยได้ชื่อนี้มา
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะ ถึงจะน้อยนิด T T แต่เราก็ดีใจ
เพราะไม่คิดว่าจะมีใครมาอ่าน เม้นไม่เม้นไม่ว่าเลยค่ะ
แค่เข้ามาอ่านก็พอใจแล้ว >////< แต่เม้นก็ดี 5555 ยังไงเนี่ย
ความคิดเห็น