ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Hey! Say! JUMP

    ลำดับตอนที่ #10 : [SF] SHIZUOKA surprise... _chapter 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 131
      0
      25 เม.ย. 56

    [shortFic] SHIZUOKA surprise...

    Pairing : Nakajima yuto X Yamada            ryosuke

    Rating : nc-18

    Auther : [C]hoGaz

     
     

     




    Chapter two


    ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำประมาณชาตินึง ไม่จ้ายย!! เกือบหนึ่งชั่วโมงได้แล้วต่างหาก ผมเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองหลับไปสองชั่วโมงเต็มๆ ผมหายง่วงแล้วก็จริงแต่ว่ามันหิวมากๆเลยเลยอ่า ท้องผมกิ่วละเนี่ย ดูดิผอมลงกว่าเดิมอีก ={}=

    แต่ว่าตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก ผมเหม่อมองเสื้อเชิ๊ตที่เพิ่งจะถอดพับเก็บไว้ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ในความฝันนั่น ไม่สิ...ในความจริงนั่น เอ๊ะ หรือจะความฝัน แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ ผมเกือบจูบกับยูโตะแล้วนะ อีกนิดเดียวแท้ๆ

    เฮ้อออ~

    เรานี่  แก่แดดจริงๆ

    นับวันในหัวผมชักจะมีแต่ไอเรื่องแบบนี้

    "ยูโตะคนบ้า ทำอะไรไม่คิดถึงใจฉันบ้างเลย" ผมจ้วงน้ำลูบหน้าตัวเอง สะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านทิ้ง แล้วหยิบผ้าขนหนูตรงอ่างน้ำมาซับหน้า ก่อนจะคว้าชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดมาสวม ผมพาตัวเองออกจากห้องน้ำในสภาพที่เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนยังคงเปียกชุ่มจนลู่ไปกับลำคอ

    ยูโตะที่นอนเหยียดตัวยาวสบายๆบนเตียงละสายตาจากหนังสือที่เขาพกมาด้วย หันมาสบตากับผม ผมหลบสายตาในทันที รีบหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาขยี้หัวตัวเองเพื่อกลบเกลื่อนว่าผมไม่ได้มองเขาแต่อย่างใด

    แต่ยูโตะกลับเดินมาหาผมซะงั้น เขาเดินเข้ามาใกล้แล้วผลักไหล่ผมจนตัวผมลงไปนั่งบนเตียง

    ผมตกใจกับสิ่งที่เขาทำ ก็เลยตั้งการ์ดป้องกันขึ้นมาทันที แต่เขาไม่ได้สนใจอะไรมากมายกลับฉวยเอาผ้าเช็ดตัวผมไปแล้วเช็ดผมให้ ผมลดการ์ดลงแล้วแอบมองเขาเงียบๆ ผมแอบเห็นเขาอมยิ้มด้วยล่ะ

    เวลาที่เห็นเขายิ้ม ผมน่ะมีความสุขมากๆเลยนะ>_<

    "นี่ ยูโตะ มะรืนนี้วันเกิดไดจังแล้ว นายคิดหรือยังว่าจะซื้ออะไรให้?" เพราะบรรยากาศมันเงียบเกินไป หรือเพราะผมเขินจวนจะระเบิดอยู่แล้วก็เลยหาเรื่องหยุดความคิดฟุ้งซ่าน

    ยูโตะหยุดมือแล้วก้มมามองผมจนสายตาเราประสานกัน เหมือนเขาหยุดนิ่งคิดอะไรอยู่สักอย่าง

    "พักนี้นาย...ขาวขึ้นรึเปล่านะ?" ยูโตะว่าพลางกลับมาเช็ดผมให้เหมือนเดิม

    แต่ผมนี่สิ บอกคำเดียวว่า 'อึ้ง'

    เขาหมายความว่าไง? คือ...เป็นคำถามปกติใช่ป่ะ? ผมต้องตอบกลับมั๊ย? หรือเป็นประโยคบอกเล่า แค่พูดลอยๆขึ้นมา แล้วมันเกี่ยวกับวันเกิดไดจังตรงไหนล่ะเนี่ย?

    หัวผมสั่นคลอนตามแรงเช็ด ยูโตะทำแบบนั้นอยู่สักพักก็หยุดมือ

    "เอ้า! แห้งแล้ว นอนกันเถอะ" เขาว่าพลางเดินเอาผ้าเช็ดตัวผมไปตากผึ่งเอาไว้เพื่อให้พร้อมใช้ในคราวถัดไป

    ผมที่ยังงงๆ มึนๆอยู่ก็เลยเดินตามยูโตะมา มองเห็นแผ่นหลังกว้างแล้วรู้สึกใจสั่นแบบแปลกๆ
    ผมสะกิดแผ่นหลังของเขาเบาๆ ยูโตะหันมายิ้มให้เหมือนอย่างเคย แล้วก็เลิ่กคิ้วทำหน้าสงสัยประมาณว่า ผมสะกิดเขาทำไม?

    "อะ...เอ่อ...อ๋อ..." ไม่รู้จะตอบคำถามสายตานั้นด้วยอะไร เพราะไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่เดินมาเหมือนกัน แต่สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นขวดครีมตัวใหม่ที่เพิ่งสอยมาก่อนหน้ามาทัวร์ที่ชิสุโอกะได้สามวันพอดี ผมคว้ามันขึ้นมาแล้วโชว์ต่อหน้ายูโตะ

    "ฉันใช้อันนี้แหละ!"

    "เอ๊ะ?" ยูโตะอึ้งแปปนึง

    "ฮ่าๆๆๆๆ" แล้วก็ระเบิดหัวเราะออกมา จนผมรู้สึกอายขึ้นมา

    สรุปว่ามันเป็นประโยคบอกเล่าใช่ป่ะ? แล้วผมตอบทำไมอ่าา~

    "ยามะจังน่ารักชะมัด" อยู่ดีๆยูโตะก็คว้าเอาตัวผมไปกอดไว้ ผมหน้าตาเลิ่กลักทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหน แถมมือยังถือขวดครีมอยู่อีกต่างหาก

    ก่อนจะคิดถึงขวดครีมควรคิดถึงใจตัวเองก่อน ตอนนี้หัวใจผมทำงานหนักอีกแล้ว...

    ตึก ตัก ตึก ตัก
    อ่ะ! ไอหัวใจบ้าแกจะเต้นแรงทำไมหา?!

    ปกติหมอนี่ก็ชอบเนียนแตะเนื้อต้องตัวผมตลอดเวลาอยู่แล้ว การที่เขาจะกอดผมมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักหน่อยนี่ เพราะฉะนั้นผมควรพาตัวเองเข้าสู่สภาวะปกติ อย่างแรกก็คือต้องให้เขาเลิกกอดผมเสียก่อน

    "นี่ ยูโตะพอเถอะน่า" ผมว่าพลางดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดเขา ยูโตะหัวเราะชอบใจกระชับกอดแน่นขึ้น

    "ฉันดีใจมากเลยนะที่ได้นอนห้องเดียวกับนายน่ะ" ยูโตะเอ่ยออกมาเบาๆ เพราะกอดกันอยู่ก็เลยมองไม่เห็นหน้าเขา พอมองไม่เห็นสายตาผมก็เลยเดาไม่ได้ว่าที่เขาพูดมันจริงมากน้อยแค่ไหน

    หรือบางทีเขาอาจจะแค่ล้อผมเล่นอยู่ก็ได้...

    "งะ งั้นหรอ?" ผมตอบตะกุกตะกัก รู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้า ได้ยินเสียง 'ฉ่า~' เบาๆ บางทีหน้าผมอาจจะสุกไปแล้วก็ได้ ถึงจะเขินอายมากแค่ไหน ผมก็ไม่หลงกลหรอกนะ

    ยูโตะดันตัวผมออก มือแกร่งวางบนไหล่ของผม  เขาย่อตัวลงจนระดับสายตาของเราเท่ากัน

    "แล้วยามะจังล่ะ ดีใจรึเปล่า?" ดวงตาสีนิลนั่นกำลังทำให้ผมหลงเคลิ้ม แต่ยูโตะน่ะขี้โกง ทีตอนเขาพูดผมมองไม่เห็นแววตาเขานี่ แล้วทำไมทีตอนถามผมถึงเอาแต่จ้องกันแบบนี้

    ผมน่ะดีใจอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ แต่ว่านะ...ถ้าผมพูดออกไปเขาก็ต้องได้ใจ แต่ถ้าหากผมโกหกแทนล่ะ เขาจะดูออกมั๊ย?

    "ไม่สักนิด ง่วงนอนแล้วยูโตะ นอนเหอะ" ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ดันตัวเขาออกห่าง เผลอใส่แรงลงไปนิดหน่อย ส่งผลให้ยูโตะตัวเซเล็กน้อย แอบเห็นสายตาเศร้าสร้อยของเขาเพียงวูบเดียว...

    แล้วผมก็เลยดินมาเข้าห้องน้ำทำธุระให้เสร็จเรียบร้อย เพราะถ้าเกิดไปปวดตอนกลางคืนขึ้นมา ผมไม่กล้าลุกมาเข้าห้องน้ำแน่ๆ แล้วถ้าอั้นไว้มันก็ไม่ดีต่อสุขภาพ

    พอผมเดินออกมา คนตัวสูงก็นอนห่มผ้าหันหลังให้ผมแล้ว

    ยูโตะคงจะโกรธผม

    ดูไม่ออกหรอ? ว่าผมน่ะโกหก

    เขาอาจจะเป็นคนจริงใจ ทำอะไรซื่อตรงเสมอ ผมรู้...แต่บางทีผมก็ไม่อยากคิดไปเองกับสิ่งที่เขาพูด เขาทำนี่ แล้วผมน่ะ...ทั้งขี้อาย ปากไม่ตรงกับใจ แถมปากเสียอีกด้วย ให้พูดอะไรหวานๆออกไป ผมทำไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะระเบิดซะก่อน (
    -_-)

    เพราะยูโตะเลือกเตียงติดกับระเบียงให้ ผมก็เลยได้เตียงข้างๆกัน ผมสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนนุ่ม ขยับตัวยุกยิกอยู่สักพักก็ได้ที่ ผมนอนหันข้างมองแผ่นหลังที่ซ่อนใต้ผ้านวมหนานั้น

    "นี่ ยูโตะ~ หลับแล้วหรอ?" ผมลองส่งเสียงเรียกเขาดู

    เงียบ~

    ยูโตะนอนนิ่ง ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา

    "นายหลับก่อนฉันได้ไงอ่า?" ผมตัดพ้อด้วยน้ำเสียงคล้ายเด็ก แล้วผลก็เป็นเหมือนเดิม มีแต่ความเงียบเท่านั้น

    เนี่ยคนเขาอุตส่าห์จะง้อสักหน่อย

    นอนหลับขึ้นอืดเป็นหมูไปเลยไป๊ ไอโย่ง!!!

    ผมที่หมดความพยายามในการง้อเอื้อมมือไปตรงโต๊ะคั่นเตียง คว้าไอโฟนมากดเล่น เห็นวอทแอพที่จิเน็นส่งมา

    อุ้ย! ตั้งแต่สองทุ่มแน่ะ

    เขาส่งมาแสดงความดีใจที่ผมได้นอนห้องเดียวกับยูโตะ แล้วก็นัดแนะเรื่องวันเกิดไดจังนิดหน่อย

    'ดีใจอะไรกัน? หมอนั่นงอนฉันไปแล้ว' ผมพิมตอบกลับ นี่เกือบเที่ยงคืนแล้ว ไม่ได้เห็นจิเน็นเป็นเพื่อนแก้เหงาหรอกนะ แต่ตาผมมันยังสว่างอยู่เลย ปกติแล้วยูโตะจะอยู่เป็นเพื่อนคุยจนกว่าผมจะหลับ แต่นี่ยูโตะหลับไปแล้ว อยู่คนเดียวแบบนี้มันน่ากลัวนิดนึงเหมือนกันน่ะ

    ระหว่างรอจิเน็นตอบกลับมา ท้องผมมันก็ร้องขึ้นมา ก็เลยลุกจากเตียงเดินไปหยิบถุงเยลลี่ที่ใส่ไว้ในตู้เย็นมากิน ผมเคี้ยวหมุบหมับ เปิดดูนู่นนี่ในไอโฟนไปเรื่อย

    ฟึ่บ!

    ผมขมวดคิ้วยุ่ง ใจเต้นระส่ำชวนขนลุก แต่ก็ทำใจกล้าหันไปมองต้นตอของเสียง

    อ๋อ ยูโตะขยับตัวใต้ผ้านวมนี่เอง ตอนนี้ตัวเขาขดงอไปอยู่กลางเตียง ผมอมยิ้มกับท่านอนที่เหมือนเด็กของเขา

    ผมส่ายหน้าให้กับความกลัวผีขึ้นสมองของตัวเองเบาๆ

    ผ่านไปเกือบห้านาทีจิเน็นก็ตอบกลับมา

    'ยามะจังแกล้งอะไรยูโตะอีกแล้ว?' จิเน็นกล่าวโทษผม ทำไมอะไรๆก็คิดว่าผมแกล้งล่ะ ชอบมองเห็นผมเป็นคนซาดิสอยู่เรื่อย ผมไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย

    'ฉันเปล่าทำอะไรนะ มีแต่หมอนั่นแหละชอบแกล้งฉัน' ผมแก้ตัว มือพิมอยู่แต่ไม่รู้ว่าตัวผมเนี่ยจะส่ายหน้าไปด้วยทำไม

    ฟึ่บ!

    ผมสะดุ้งเฮือก ก่อนจะถอนหายใจเมื่อรู้ว่าเป็นเสียงแบบเดิมกับตอนแรก ตอนนี้ยูโตะเปลี่ยนท่าหันตัวมาทางผมแล้ว แต่ดวงตาเขาก็ยังปิดสนิทอยู่

    ผมรู้สึกเมื่อยหลังนิดหน่อย ก็เลยเอนตัวลงบนเตียง ในท่าที่เอาหลังพิงกับหัวเตียง แต่นั่งขัดสมาธิไว้

    'แต่ยามะจังชอบพูดจาทำร้ายจิตใจยูโตะ รู้ตัวมั๊ย?'

    'ก็...แหม ที่หมอนั่นพูดเชื่อได้รึเปล่าก็ไม่รู้' ผมก็ไม่รู้จะแก้ตัวอะไร ก็เมื่อกี๊ผมพูดจาทำร้ายจิตใจเขาล่ะมั้ง ถึงได้ทิ้งผมไว้คนเดียวแบบนี้

    'เล่นตัวเกินไปแล้ว เดี๋ยวยามะจังปฏิเสธมากๆ ยูโตะก็หนีไปชอบคนอื่นหรอก' ผมสะอึกนิดๆ

    'จริงหรอ?'

    'ถ้ายามะจังชอบยูโตะจริงๆ ไม่เห็นต้องกลัวเลย ฉันกับไดจังก็เชียร์นายอยู่นะ
    ' ส่งอีโมจิสองนิ้วมาให้ผมอีกด้วยแน่ะ

    'แล้วถ้าเขาไม่ได้ชอบฉันล่ะ?' ได้กำลังใจมาแต่ไม่ใช่ว่าจะกล้าดับเครื่องชนบอกรักกันโต้งๆได้สักหน่อยนี่

    'ยามะจังขี้ขลาด ไม่คุยด้วยแล้ว นอนละ' แล้วเขาก็ตัดบทผมไป

    'อ้าวเดี๋ยวสิ' แค่อยากปรึกษาด้วยหน่อยเอง เรื่องแบบนี้ผมไม่มั่นใจเอาซะเลยนะ

    "โหย หนีเฉยเลย ชี่จังของนายพึ่งพาไม่ได้เลย" ผมหันไปบ่นใส่หน้ายูโตะเบาๆ แล้วหยิบเยลลี่ในถุงมาเคี้ยวต่อแก้หงุดหงิด

    ให้บอกรักยูโตะเนี่ย ยากยิ่งกว่าการมีสตรอเบอรี่สีแดงสดวางอยู่บนโต๊ะแล้วผมกินไม่ได้เลยนะ

    เฮ้อ~

    เสียงผ้าห่มกับผ้าปูที่นอนดังเสียดสีกับตัวยูโตะดังขึ้นเป็นระยะ เพราะหมอนั่นพลิกตัวอยู่ตลอดเวลา จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาหลับจริงๆรึเปล่า

    ผมก็เลยนอนจ้องเขาอยู่สักพัก ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกให้ผมรู้ว่าเขาหลับไปแล้ว

    ยูโตะเนี่ย หน้าเล็กแล้วก็ยาวด้วย เห็นกรามชัดอีกต่างหาก จมูกก็โด่ง เป็นคนที่หล่อเอามากๆ เทียบกับผมแล้ว มีแต่คนบอกว่าผมหน้าตาน่ารัก พักนี้ก็เลยตัดผมให้สั้นลงบ่อยๆ จะได้ดูแมนขึ้น แต่ก็เทียบหมอนี่ไม่ได้อยู่ดี

    ผมจำได้เลยนะ ตอนที่เห็นยูโตะตีกลองครั้งแรกผมใจสั่นไปหมด ไม่คิดว่าคนที่อายุน้อยกว่าผมจะเท่ห์ได้ขนาดนี้ ทำให้ผมอยากเล่นดนตรีเป็นบ้าง ก็เลยเริ่มฝึกเล่นแซกโซโฟน เขาเป็นแรงผลักดันหลักๆของผมเลยล่ะ

    สมัยก่อนเราสองคนตัวเท่าๆกัน ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เขาสูงนำผมไปแล้ว ผมไม่ชอบยืนถ่ายรูปข้างหมอนี่เลย เพราะเขาทำให้ผมดูตัวเล็กลงกว่าเดิม หรือเวลาไปสัมภาษณ์ลงแม็กกาซีนเขามักจะพูดถึงผมอยู่บ่อยๆ แต่ว่าผมน่ะมักจะเฉไฉตอบคนอื่นอยู่เรื่อย แล้วพอการสัมภาษณ์จบลงเขาก็ชอบมาโวยวายใส่ผมเรื่อยว่าทำไมผมไม่ตอบเขาบ้าง ผมน่ะรำคาญมากเลย อย่างเวลาตอนเช้าๆยูโตะชอบโทรมาปลุกผม บอกให้ผมออกไปยืนดูพระอาทิตย์ เพราะว่ามันสวยมากๆ ทั้งๆที่ผมหลับอยู่แท้ๆ ผมก็เลยด่าเขาไป หลังจากนั้นยูโตะก็เลยไม่โทรมา แต่เขากลับส่งข้อความมาแทน อยู่กับเขาผมมีแต่เรื่องให้ไม่ชอบใจเสมอ พอมาลองคิดดูแล้วในชีวิตผมก็มียูโตะอยู่ด้วยกันมาตลอด

    จนกระทั่งยูโตะเริ่มห่างผม ไปสนิทกับอิโนะจังและเคโตะ ขณะเดียวกันผมก็สนิทกับไดจังมากขึ้น เรื่องที่เราคุยกันมันก็เริ่มน้อยลง เวลาของเราก็เริ่มน้อยตามไปด้วย  ดังนั้นพอผมเห็นเขาโหวกเหวกโวยวายดูสนุกสนานแบบนั้น ผมก็เริ่มอิจฉาอิโนะจังกับเคโตะ ผมก็เลยรู้ได้ทันทีว่าผมอยากให้ยูโตะกลับมาอยู่ใกล้ๆ

    ดังนั้นผมดีใจมากที่เราได้ถ่ายละครด้วยกัน ความรู้สึกเดิมๆของผมเริ่มกลับมา แม้ยูโตะจะทำตัวแบบเดิมแต่ผมก็ไม่รู้สึกรำคาญสักนิด ผมมีความสุขมากจริงๆ

    .....'ผมชอบยูโตะ'.....

    คำนี้น่ะ...ยังไงก็ไม่พูดออกไปหรอก!

    ระหว่างที่คิดเรื่อยเปื่อยอยู่ ผมก็เพิ่งรู้สึกตัวเมื่อเยลลี่ชิ้นสุดท้ายเข้าปาก

    แย่แล้ว~!!!

    ผมกินขนมหมดถุงเลย!!!

    พรุ่งนี้ตัวบวมแน่ๆเลย
    (T ^ T)

    ทำไงดีอ่า~?

    นี่ตีสองแล้วด้วย ถ้าไม่หลับตอนนี้ พรุ่งนี้ผมก็จะหน้าโทรม

    งั้นเก้าโมงเช้าพรุ่งนี้ผมต้องตื่นมาวิดพื้น!!!

    ผมเอาผ้าห่มคลุมโปง พยายามข่มตาให้หลับ แต่ว่า....มันไม่หลับอ่า~

    เสียงผ้านวมของยูโตะก็ดังรบกวนตลอดเวลา ไม่รู้หมอนั่นจะขยับตัวอะไรหนักหนา

    โอ้ย นอนไม่หลับ!!

    หลายครั้งแล้วที่ผมลุกเข้าลุกออกจากเตียง อีกไม่นานเข็มสั้นจะชี้เลขสามอยู่แล้ว ยังไม่รู้สึกง่วงสักนิด ก็เลยว่าจะออกไปปะทะลมเย็นๆสักหน่อย เผื่อจะช่วยให้ง่วงขึ้นมาบ้าง เพราะผมหลับไปก่อนหน้านี้นานพอสมควร นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมนอนไม่หลับสินะ

    และในขณะที่กำลังจะเอื้อมมือไปเลื่อนเปิดผ้าม่านออก ผมก็คิดขึ้นมาได้ว่า 'อาจจะมีอะไรโผล่ขึ้นมาตรงระเบียงก็ได้' ผมก็เลยหยุดชะงัก หันหลังเดินกลับมา ผ้านวมของยูโตะที่ร่นลงมาถึงกลางลำตัวของเขา เผยให้ผมเห็นวัตถุสีดำทรงสี่เหลี่ยมโผล่พ้นออกมา

    "หมอนี่ ถึงจะหลับก็ไม่ห่างกล้องเลยนะ ให้ตายเถอะ!" ผมถอนหายใจอย่างเซ็งๆ จะมีวิธีไหนช่วยให้ผมหลับได้ไหมนะ

    อ๊ะ! นึกอะไรดีๆออกละ

    ผมเดินย่องเข้าไปใกล้ๆเตียงยูโตะ แล้วแอบฉกกล้องเขามาอย่างรวดเร็ว! ผมเปิดไล่ดูภาพแต่ละภาพอย่างตั้งใจ

    ยูโตะไปเที่ยวทะเลมาด้วยหรอ? น่าอิจฉาจัง

    รูปนี้ไรยะน่ารักจัง หน้าตาเหมือนกันจริงๆเลยพี่น้องคู่นี้

    เอ๊ะ?!

    นี่มัน...รูปผมนี่ นี่ก็ด้วย รูปนี้ด้วย ผมแตะค้างตรงรูปลูกศรบนหน้าจอ รูปแต่ละรูปถูกเลื่อนให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น เกือบกว่าร้อยรูปมันเป็นรูปผมในแต่ละอิริยาบถทั้งหมด จนกระทั่งผมหยุดมือที่รูปที่เพิ่งถ่ายวันนี้

    มันเป็นรูปถ่ายด้านข้างโดยที่ผมยืนเท้าขอบระเบียงรับลม รอยยิ้มจางๆปรากฏบนใบหน้า เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนของผมพลิ้วไหวตามแรงลมเย็นๆที่เข้ามาปะทะ

    ตอนนั้นยูโตะถ่ายรูปผมหรอ? มุมกำลังดีที่ว่าหมายถึงผมเองหรอกหรอเนี่ย?

    >_<

    แล้วทำไมไม่บอก ผมจะได้เก๊กท่าเท่ห์ๆให้ถ่าย

    รูปต่อมา...เป็นผมที่นอนแผ่อยู่บนเตียง ดวงตากลมหลับพริ้ม ริมฝีปากได้รูปของผมเผยอขึ้นน้อยๆ

    อีกหลายรูปต่อมาเป็นแต่ละช็อตที่ผมนอนดิ้นจนกระทั่งกระดุมที่ติดไว้อย่างหลวมๆหลุดออก แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะยังเหลือเม็ดล่างอยู่ แต่ตอนที่ผมตื่นมามันก็ไม่ได้ติดอยู่แล้ว

    เพราะฉะนั้นยูโตะนั่นแหละที่เป็นคนปลด หมอนี่ฉวยโอกาสชะมัด

    ส่วนรูปสุดท้าย...

    o{}o !!!!! (หน้าผม)

    ยูโตะก้มลงจนใบหน้าของเราห่างกันเพียงนิด และจุมพิตบนหน้าผากเนียนของผม

    O{}O !!!!! (หน้าผม)

    ไอ้....ไอ้ยูโตะ!!!!

    "ยูโตะ!!! ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้น้าาา!!!" ผมปากล้องทิ้งลงบนที่นอน กระโดดคร่อมยูโตะกระชากคอเสื้อยืดของเขาเขย่าอย่างบ้าคลั่ง

    "เฮ้ยๆ อะไรๆ?" ยูโตะงัวเงียตื่นขึ้นมาในสภาพที่ทั้งตกใจที่เห็นผมอยู่ตรงหน้า และหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะเวลานอน แต่ดูเหมือนเขาจะตกใจผมมากกว่า

    "ทำไมนายทำอย่างนี้ หา?!!!" ผมตะโกนถามเขาพร้อมกับเขย่าคอจนศีรษะเขาสั่นคลอนตามแรงผม ยูโตะจับข้อมือของผมให้หยุดการกระทำก่อนที่มันจะหลุดกระเด็นกลิ้งไปไหนต่อไหน

    "อะไร? ฉันทำอะไร?" ยูโตะทำหน้าเลิ่กลั่ก ดูเขาจะยังตกใจไม่หาย

    "กล้องนั่น!" ผมกระชากมือตัวเองออกจากมือเขา ชี้นิ้วไปที่วัตถุสีดำที่นอนแอ้งแม้งนิ่งสนิทบนเตียงของผม ยูโตะตาโตทันที หน้าเขาซีดเผือกลงอย่างเห็นได้ชัด เขาหันมามองผมช้าๆ

    ตอนนี้หน้าผมมันคงแดงเถือกเหมือนเลือดคั่งแล้วแน่ๆ

    "ขอโทษยามะจัง ฉันขอโทษ..." ยูโตะพร่ำบอกขอโทษจนผมเริ่มคิดว่าตัวเองทำเกินไป ก็เลยปล่อยมือจากคอเสื้อของเขา

    "ทำอย่างนี้ทำไม?" ผมปรับเสียงและอารมณ์ให้เย็นลงจนเกือบเป็นปกติ ยูโตะเงยหน้ามองผมก่อนจะเสหลบมองไปนอกระเบียง

    "ที่ผ่านมานายไม่ได้ล้อฉันเล่นอย่างงั้นหรอ?" ผมถามซ้ำเขาได้แต่นิ่งเงียบ เหมือนกำลังข่มอะไรไว้สักอย่าง

    "นี่ ยูโตะ ตอบสิ!" ผมเร่งเร้าเอาคำตอบ ตอนนี้หัวใจของผมเต้นรัวเร็วจนน่ากลัว

    ยูโตะคว้ามือผมเอาไว้ เขาบีบมันเบาๆ และเบนสายตากลับมามองผม ดวงตาสีนิลของเขาสะท้อนเงาของผมเด่นชัด ก่อนที่มันจะแปรปลี่ยนเป็นความวูบไหว

    "ฉันก็แค่รักนายมากเกินไปเท่านั้นเอง"


    tbc. last chapter 100%


    ตัดช้าบบบบบ!!!!
    ขอแบ่งเป็นสามตอนนะคะ

    ฝากติดตามด้วยนะคะ
    คอมเม้นให้กำลังใจกันหน่อยน้า~

    ••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×