คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 8 เพื่อนที่ดีที่สุด
ตอนที่ 8 เพื่อนที่ดีที่สุด
ผมค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ไม้สีขาวที่มันเริ่มหม่นเพราะอายุการใช้งาน ทอดยาวอยู่สองสามตัว บริเวณสวนด้านหลังโรงเรียน มีต้นไม้สูงใหญ่รายล้อมทำให้บริเวณนี้ดูร่มรื่นมากกว่าส่วนอื่นของโรงเรียน บ่อยครั้งผมเองก็ชอบมานั่งเล่นที่นี่ และก็มักจะมียูโตะคุงมานั่งเป็นเพื่อนด้วยเสมอ
น้ำตาไหลลงมาช้าๆ บางทีแล้วผมคงจะไม่มีภูมิต้านทานในเรื่องพวกนี้แน่ๆ รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอลงทุกครั้งถ้าเป็นเรื่องของยูโตะคุง
“แฮ่ก ยามะจัง อยู่นี่เอง ตามหาตั้งนาน เฮ้อ”
“จิเน็น” เงยหน้ามองเพื่อนตน โดยที่ใบหน้าชุ่มไปด้วยน้ำตา พร้อมเอาสองมือโอบรอบเอวคนตัวเล็กแล้วเอาหน้าซุกลงไปตรงหน้าอก ปล่อยโฮโดยไม่อายคนตรงหน้าสักนิด ความทรงจำเมื่อวานย้อนกลับมาทำร้าย อีกทั้งเรื่องเมื่อกลางวันอีก อย่างเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ คือการร้องไห้
“ยามะจัง อย่าร้องไห้เลยนะ ฮึก” เสียงจิเน็นเริ่มสั่นเครือในท้ายประโยค ผมเงยหน้ามองเขา ก็เห็นว่าคนตัวเล็กร้องไห้ออกมาซะแล้ว
“ขอโทษนะ จิเน็น ขอโทษที่ฉันมันอ่อนแอ” ผมรู้สึกสมเพชตัวเอง และผมยังทำให้คนคนนี้ร้องไห้ด้วย ถึงแม้จิเน็นจะเป็นคนปากร้าย ขี้โวยวาย แต่ผมรู้ดีกว่าใคร ว่าคนคนนี้อ่อนโยนแค่ไหน ผมดีใจที่มีเพื่อนที่ดีที่สุดอยู่ตรงนี้
“ยามะจังไม่ได้อ่อนแอเลยนะ”
“ฉันไม่รู้ ว่าทำไม มันถึงกลายเป็นแบบนี้ ตอนนี้ฉันไม่ได้หวังให้ยูโตะคุงรักฉัน แต่ฉันเองก็ทนไมได้ที่มีอีกคนที่สำคัญกับเขามากกว่าฉันแล้ว มันเจ็บปวด ฉันควรทำยังไง จิเน็น ต้องทำยังไง ฮึก” พูดไปร้องไห้ไป ไม่รู้ว่าอีกคนจะฟังรู้เรื่องมั๊ย ลำพังแค่ผมคนเดียว คิดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
“ถ้ายามะจังรักยูโตะจริงๆ นายก็อย่ายอมแพ้นะ อย่าแพ้ให้ผู้หญิงคนนั้น ฉันเชื่อในสายตาของฉัน และนายก็ต้องเชื่อมันด้วยเหมือนกัน” คำพูดจริงจังที่ออกจากปากคนตัวเล็ก มันทำให้ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา แต่ความกังวลที่มีก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ‘แล้วเมื่อไหร่กันที่ผมจะชนะ?’
ภาพเด็กหนุ่มตัวเล็กสองคนกอดกันร้องไห้อยู่ในสายตาของใครบางคนมาตลอด หนึ่งในนั้นคือเด็กที่ถูกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ส่วนอีกคนคือเด็กที่มานั่งทานเค้กที่ร้านเขาเป็นประจำ
“เธอ อยากให้มันเป็นแบบนี้จริงๆใช่มั๊ย” เขาเปรยเบาๆ ก่อนจะเดินจากไป
“สบายใจขึ้นเยอะเลยเนอะ จิเน็น ^__^”
“สบายใจที่ไหน เราเข้าเรียนคาบบ่ายไม่ทันเลยเห็นมั๊ย” พูดจบก็อมลมไว้ในแก้มจนมันป่องแล้วสะบัดหน้าหนีผมไปอีกทาง อย่างนี้เขาเรียกว่า งอนใช่มั๊ย
“งั้นฉันจะเลี้ยงเค้กเป็นการไถ่โทษนะ” คนตัวเล็กกว่าหันหน้ากลับมาทันที
“จริงหรอ? งั้นไปร้านนั้นกันนะ” หรือผมจะเสียท่าให้กับเพื่อนตัวดีซะแล้วเนี่ย
“ตามใจนายเลย”
“งั้นไปเก็บกระเป๋ากัน ถ้าช้าเดี๋ยวคนเยอะ” ดูจิเน็นจะกระตือรือร้นมากเลยนะ เขาชอบเค้กมากขนาดนั้นเลยหลอ
จิเน็นจูงมือผม เรียกว่าลากผมไปมากกว่า ถึงผมจะมีกำลังใจขึ้นมากกว่าเดิม แต่การที่จะต้องกลับไปเผชิญหน้ากับคนทั้งคู่อีกครั้ง มันก็ยังคงทำใจลำบากอยู่ดี ผมฝืนตัวนิดๆ เมื่อเกือบจะถึงหน้าห้องเรียนแล้ว จิเน็น หันหน้ามาหาผม มองผมด้วยสายตาจริงจัง และจับมือผมเอาไว้แน่น ผมไม่เข้าใจกิริยาคนตรงหน้าเท่าไหร่นัก
“ยามะจัง รู้ใช่มั๊ย ว่านายเป็นเพื่อนที่ฉันรักมากที่สุด” เขากำลังจะหมายถึงอะไร?
“อืม”
“และฉันเองก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นเพื่อนเสียใจ นายก็รู้ใช่มั๊ย”
“อืม”
“เพราะฉะนั้นฉันจะช่วยยามะจังเอง ไว้ใจจิเน็น ยูริคนนี้ได้เลย” เขาชูสองนิ้ว และยื่นมาตรงหน้าผม รอยยิ้มจริงใจที่ช่วยผมเอาไว้อีกครั้งและอีกครั้ง...
ผมที่เดินตามจิเน็นเข้ามาในห้องดันเผลอสบตากับยูโตะคุงโดยบังเอิญ แต่กลับเป็นผมเองที่หลบตาเขา ผมค่อยๆเก็บของใส่กระเป๋า โดยมีจิเน็นเร่งเร้าเป็นระยะ
“เร็วเข้ามายะจัง เดี๋ยวคนเยอะ”
“รู้แล้วๆ” หยิบกล่องข้าวที่กินเหลือไว้เมื่อตอนกลางวันออกมา อารมณ์ต่างๆที่เหมือนจะจางหายไปบ้างแล้วกำลังจะปะทุขึ้นมาอีก แต่ผมต้องอดทนไว้
“จะไปไหนกัน?” ผมที่กำลังจะเก็บกล่องข้าวใส่กระเป๋าต้องชะงักทันที เมื่อถูกมือคนตัวสูงกว่าจับข้อมือผมเอาไว้ เงยหน้ามองยูโตะคุง ใช้สายตาถามแทนคำพูดว่า ทำไม?
“จะไปไหนก็ไม่เกี่ยวกับนายนี่หน่า!!” ไม่ใช่ผมหรอกที่พูดออกไป จิเน็นต่างหาก และตอนนี้เจ้าตัวก็ถลึงตามองคนตัวสูงกว่าอย่างไม่เกรงกลัว
“จะไปไหน? ยามะจัง” คราวนี้เขาจงใจถามผม ออกแรงบีบมากขึ้น รู้สึกเจ็บที่ข้อมือนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้สะบัดออกอย่างที่เคยทำเมื่อกลางวัน
“จะไปกินเค้กกัน” ผมตอบเสียงเรียบ หันไปจ้องหน้าเขา และเขาเองก็ยอมปล่อยมือผม ผมหันไปพยักหน้าให้จิเน็นเป็นเชิงว่า ‘ไปกันเถอะ’
‘ร้าน Make a Wish’ เราสองคนหยุดยืนตรงหน้าร้าน จิเน็นกระตุกมือผมเบาๆ เป็นเชิงว่า อย่าเพิ่งเข้าไป และเขาก็ชะโงกเข้าไปดูในร้าน ถึงผมจะไม่เข้าใจแต่ก็ทำตามที่เขาบอก
“ไม่มีอ่ะ ค่อยมากินวันอื่นเหอะ” จิเน็นบอกผมหลังจากที่เขาพยายามมองหาอะไรสักอย่างในร้าน
“อะไรไม่มี?”
“น่าๆ ไว้มากินวันหลัง” พยายามดึงแขนผม และกลับหลังหันทำท่าจะเดินไป แต่พอดีว่า
“โอ๊ยย ขอโทษครับ” ผมที่หันไปดูว่าจิเน็นเป็นอะไร ก็เจอเข้ากับใครบางคน
“อ่ะ อิโนะคุง” จิเน็นที่กำลังเอามือลูบหน้าผากตัวเอง หันมามองผมด้วยสีหน้าแปลกใจ และเมื่อเขาหันไปเห็นคนที่ตัวเองเดินชนเมื่อกี๊ก็ต้องแปลกใจยิ่งกว่า
“เป็นอะไรมากรึเปล่า” อิโนะคุง ก้มลงให้หน้าตัวเองอยู่ในระดับเดียวกับจิเน็น แต่จิเน็นกลับผงะตัวถอยห่างออกทันที
“มะ ไม่เป็นอะไร ขอโทษทีครับ ผมไม่ทันมอง” ผมมองปฏิกริยาคนตรงหน้าด้วยความสงสัย
“ฉันเองก็เหมือนกัน โทษทีนะ มากินเค้กกันใช่มั๊ย ทำไมไม่เข้าไปในร้านล่ะ” ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมอยู่ๆจิเน็นถึงเปลี่ยนใจ
“เปล่าครับ ไว้วันหลังจะมาใหม่ครับ” ตอบอย่างชัดเจน ลากผมให้ออกห่างจากร้านเค้กนั่น
จิเน็นพาผมเดินมาทางกลับบ้านของผมเอง ถึงตอนนี้ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี จิเน็นหันหน้ามาหาผม พร้อมกับเดินถอยหลังไปด้วย ซึ่งสวนกับผมที่เดินก้าวเท้าไปข้างหน้า
“รู้จักพนักงานคนเมื่อกี๊ด้วยหลอ?”
“ใช่ เคยเจอกันสองครั้งได้แล้วมั้ง อ่ะ ครั้งนี้ครั้งที่สาม”
“เจอกันได้ไงอ่ะ” จิเน็นจะสงสัยผมอะไรหนักหนา อ่ะ หรือว่า
“นายชอบอิโนะคุงหลอ?” จิเน็นหน้าแดงแป๊ด เขาก้มหน้าอย่างเขินอาย น่ารักดี
“เขาชื่ออิโนะคุงหลอ” หยุดอาการเขินไว้ชั่วครู่ จิเน็นก็ยิงคำถามใส่ผมต่อ
“ใช่ๆ ชื่อ อิโนะ เคย์ ฉันเคยเจอเขาตอนที่มาซื้อช็อกโกแลตให้ยูโตะคุงน่ะ” พอพูดถึงชื่อนี้ขึ้นมา ผมก็หน้าเจื่อนทันที
“นายไปรู้จักเขาได้ไงอ่ะ ยามะจัง”
“ก็ตอนนั้นมาซื้อช็อกโกแลตไง แล้วเขาก็มาต้อนรับฉัน ก็เลยรู้จักกัน ว่าแต่นายไปหลงรักเขาได้ไง” ผมที่เป็นฝ่ายถูกถามอยู่นาน ก็เลยถามเขากลับบ้าง
“ก็เจอที่ร้านนี้แหละ” ตอบง่ายเกินไปมั้ง
ผมที่ก้าวเดินไปข้างหน้า มองเห็นใครบางคนยืนอยู่ตรงกำแพงหน้าบ้านผม แต่จิเน็นที่เดินถอยหลังมองไม่เห็น ผมหยุดเท้าไว้แค่นั้น นั่นมัน ‘ยูโตะคุง’ แล้วเหมือนเขาก็เห็นผม จิเน็นที่เห็นท่าทางของผม ก็เลยหันหลังกลับไป เป็นจังหวะเดียวกับที่ยูโตะคุงสาวเท้าเข้ามาหา
“งั้นฉันไปก่อนนะ เอาไว้วันหลังค่อยไปกันใหม่ โชคดีนะ เพื่อน” พูดจบก็เดินจากไปทันที ทิ้งผมที่นิ่งเป็นหุ่นไว้ตรงนั้น ยูโตะคุงใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว ในใจผมตอนนี้ทั้งโกรธ กลัว และดีใจตีกันยุ่งไปหมด ผมจะทำยังไงดี รอให้เขาถึงตัวผม หรือจะวิ่งหนีเข้าบ้านดี ไวเท่าความคิดผมรีบวิ่งสวนยูโตะคุงเพื่อจะเข้าบ้านตัวเองทันที แต่แล้ว
“เดี๋ยวก่อนสิ ยามะจัง” เขารั้งมือผมไว้ด้วยมือของเขาอีกแล้ว ผมที่ยังไม่ยอมหันไปเผชิญหน้า อีกฝ่ายเลยต้องเดินมาอยู่ตรงหน้าผม
“เรื่องเมื่อตอนกลางวันน่ะ ฉันขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมนายต้องโกรธกันด้วย”
“ถึงบอกไปยังไงนายก็ไม่เข้าใจ” ผมหรุบตาต่ำ อยู่ดีๆก็รู้สึกไม่กล้าสู้หน้าขึ้นมาซะดื้อๆ
“ก็ลองบอกดูก่อนสิ” กระตุกข้อมือผม เร่งเร้าให้ผมตอบ จะให้ตอบยังไงล่ะ
“นายชอบเอริกะมากรึเปล่า?” นึกถึงคำพูดของจิเน็น ผมอยากเชื่อในสายตาเขา ต่อให้ต้องถามคำถามที่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บก็ตาม
“ก็...ต้องชอบสิ” นั่นสินะ
“แล้วนายจะทำตามที่เขาบอกทุกอย่างมั๊ย” อีกคนมีสีหน้าแปลกใจทันที
“หมายความยังไง”
“ก็เมื่อเช้าฉันบังเอิญได้ยิน ตอนที่นายสองคนคุยกัน เอริกะบอกนายว่า...” หยุดสูดหายใจลึก เพื่อพูดประโยคถัดไปที่ผมตั้งใจเอาไว้แล้ว
“....ให้นายอยู่ห่างฉันไว้ ถ้าอยากจะคบกับเขาต่อ นายจะทำตามรึเปล่า” สองมือผมกอบกุมกันไว้แน่น น้ำตาใกล้จะเอ่อล้นเต็มที แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่หลบสายตาจากยูโตะคุง
‘ช่วยบอกทีว่านายจะไม่ทำ’
.....................................................................................................................................................................
รู้สึกว่าตอนนี้หนักหนาสาหัสมากเลยค่ะ แต่งแล้วก็ลบหลายรอบมาก
ตอนแรกกะว่าจะให้อิโนะจังออกมากกว่านี้ แต่คิดไปคิดมา
ปล่อยให้สองคนนั้นเขาเคลียร์กันไปก่อนดีกว่า
สรุปแล้วตอนนี้เน้นชี่ค่ะ
อยากให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างชี่กะยามะจังมากกว่า
แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะให้อิโนะกับชี่ลงเอยกันดีมั๊ย 555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ J
ผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยค่ะ เพราะอ่านทวนรอบเดียว
ความคิดเห็น