ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HAEEUN - LITTLE BOY

    ลำดับตอนที่ #2 : - LITTLE BOY ♡ ( DH ) - 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 858
      13
      13 ต.ค. 56

     

                 


     


      - LITTLE BOY ♡ ( DH ) - 1

























               เช้าวันใหม่ในโรงเรียนอนุบาลดูเหมือนจะวุ่นวายเป็นพิเศษ








                บรรดาเด็กตัวน้อยวิ่งสวนกันไปมาส่งเสียงเจี้ยวจ้าว บ้างก็ร้องไห้จะกลับบ้าน บ้างก็กำลังสนุกสนานอยู่กับโลกใบเล็กๆของพวกเขา นั่นคงเป็นภาพที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนคุ้นตาดี แต่น่าแปลกที่เช้าวันนี้บริเวณสนามหญ้าปราศจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเด็กอนุบาลสสามห้องสาม







                เจ้าพวกเด็กแสบที่โปรดปรานการเล่นซนยิ่งกว่าอะไร แต่ทว่าวันนี้กลับพากันมารวมตัวกันอยู่ที่ห้องเรียนกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทุกคนนั่งล้อมกันเป็นวงกลมโดยมีเด็กผู้ชายตัวอ้วนคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงกลาง สีหน้าของเด็กน้อยดูไม่สบอารมณ์ ต่างจากเพื่อนคนอื่นที่มีท่าทีสนอกสนใจ บางคนก็หัวเราะเอิ้กอ้ากพร้อมกับหันไปคุยจ้อกับเพื่อนข้างๆ ซึ่งแน่นอนว่าทอปปิคอันดับหนึ่งประจำวันนี้คงจะหนีไม่พ้น…












    ทงเฮฟันหลอ

     







     

    (‘ ‘ )
      






    ( ‘ ‘)








    (‘ ‘ )





     

    ..

     

     

    ( () )

     




     

     
     

    พวกนายจะเลิกมองเราได้ยัง และในที่สุดเด็กน้อยผู้มีความอดทนต่ำก็ทนไม่ไหวกับการตกเป็นเป็นเป้าสายตาให้เพื่อนทั้งห้องจับจ้องจึงตัดสินใจถามออกไปโดยที่ยังใช้มือข้างหนึ่งปิดปากเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น











    แต่แน่นอนว่ามัน………..ไม่ทันแล้ว……












    ก็ทงเฮฟันหลออะ ._.”







    ….ซองมิน- [] -….” ทงเฮเบิกตากว้าง ค่อนข้างช็อคนิดหน่อยที่ได้ยินประโยคเมื่อครู่นี้จากปากเพื่อนสนิทที่หลงคิดมาตลอดว่านิสัยดีและน่ารักที่สุดในโลก….








    *จะร้อง*







    จังหวะที่ทงเฮเผลอลดมือลงทำให้ช่องว่างระหว่างฟันซี่ที่หายไปปรากฏแก่สายตาของเพื่อนทั้งห้อง และไม่กี่วินาทีถัดมาเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง








    “555555555555555 ทงเฮฟันหลอ 555555555555 ทงเฮฟันหลอ~~~~~~”








    คิมจงอุนที่ตั้งตัวเองขึ้นเป็นหัวโจกของห้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเป็นคนแรก แล้วหลังจากนั้นทั้งห้องก็ตกอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าเซ็งแซ่เป็นตลาดสดสุดๆ และหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามุมหนึ่งเด็กชายซีวอนกำลังทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีด้วยการพยายามกลั้นเอาไว้จนหน้าเขียว









    ขอบใจนะซีวอน







    วินาทีนั้นเหมือนเป็นวินาทีสำคัญที่สุดในชีวิตเด็กอนุบาลที่คงจะจำติดตัวไปจนตาย แน่นอนว่าทงเฮไม่ลืมแน่ เด็กน้อยรู้สึกร้อนผาวที่ขอบตาอยากร้องไห้ แต่หม่าม๊าเคยบอกว่าผู้ใหญ่เขาไม่ร้องไห้กัน









    ทงเฮโตแล้ว ทงเฮไม่ร้องไห้หรอกจะบอกให้












    “555555555555555 ทงเฮฟันหลอ 555555555555 ทงเฮฟันหลอ~~~~~~”







    ประโยคสั้นๆสี่พยางค์ฝังลงไปในหัวของเด็กน้อยช้าๆจนสุดท้ายหยาดน้ำใสก็เอ่อล้นขึ้นมาจนเต็มดวงตา มือเล็กกำเข้าหากันแน่นเมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์ตรงหน้านี้มันไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลย









    ทงเฮโมโหแล้วนะ !!!!!!!!!!!!!!!!!












    “555555555555555 ทงเฮฟันหลอ 555555555555 ทงเฮฟันหลอ~~~~~~”









                เดี๋ยวมันก็ขึ้น!!!!!!!!!!!!” แล้วเด็กชายวัยห้าขวบกว่าก็ตัดสินใจแก้ไข้สถานการณ์ด้วยการโต้ตอบประโยคโง่ๆออกไปทั้งน้ำตา เสียงสูดจมูกฟึดฟัดทำให้เสียงหัวเราะค่อยๆจางลง เหลือเพียงเสียงคิกคักบางส่วนจากเด็กน้อยสามสี่คนที่ยังไม่เข้าใจความหมายของน้ำใสที่ไหลลงมาเปื้อนแก้มกลมๆนั้น









                ทงเฮอ่า…” ซองมินเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้หัวเราะออกมาจนสุดเสียง ตอนแรกก็แอบอมยิ้มไปกับภาพตรงหน้า แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทเริ่มร้องไห้ เด็กน้อยก็ไม่ลังเลที่จะปรี่เข้ามาจับแขนของทงเฮไว้








    ไม่ต้องมายุ่งทว่าทงเฮกลับสะบัดมือเล็กออกอย่างไม่ใยดี เด็กชายลุกขึ้นพร้อมกับเหวี่ยงสายตามองบรรดาเพื่อนร่วมชั้น ก่อนจะหันหลังเตรียมออกไปจากตรงนี้










    แต่











              “ทงเฮ









    “………..”





    จะไปไหนครับ







    เสียงหวานๆของคุณครูโซราทำให้ทงเฮรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก เด็กน้อยวิ่งดุ๊กๆเข้าไปหาหญิงสาวทันทีด้วยสีหน้าที่เหมือนกับมีเรื่องมากมายอยู่ในหัว พร้อมจะรายงานให้คุณครูคนสวยฟัง และเวลานั้นเองเด็กๆคนอื่นก็เริ่มหน้าถอดสี








    แต่ยังไม่ทันที่เด็กชายจะขยับปากฟ้อง ดวงตากลมโตก็เหลือบไปเห็นใครอีกคนที่เดินตามหลังคุณครูโซรามาด้วยสีหน้าเนือยๆ บนหลังมีกระเป๋าใบใหญ่เบ่อเริ่ม









    เท่านั้นสายตาของเด็กน้อยก็เปลี่ยนไปทันที









    เหมือนว่าใครอีกคนที่ว่านั่นจะรักการยั่วโมโหเด็กจนเป็นนิสัย ถึงได้ยักคิ้วแล้วแลบลิ้นใส่เป็นการทักทายอรุณสวัสดิ์ ซึ่งนั่นทำให้เด็กน้อยถึงกับเลือดขึ้นหน้า แต่เอาไว้ก่อน เวลานี้น้องเฮต้องรายงานความประพฤติของเพื่อนให้คุณครูฟัง ถึงแม้น้องเฮจะเกลียดพี่ฮยอกแจมากแค่ไหน น้องเฮจะอดทนทำเป็นมองไม่เห็นไปละกันนะ







    หลังจากที่สปอยเรื่องราวทั้งหมดให้คุณครูคนสวยฟังจนเข้าใจตรงกันแล้ว เด็กน้อยก็ไม่ลืมที่จะหันมาตวัดสายตาเขียวปั้ดมองตัวการที่ทำให้ต้องโดนเพื่อนล้อ แน่นอนว่าคนถูกมองไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด ร่างบางยักไหล่แล้วเบ้ปากอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะพาตัวเองไปนั่งที่โต๊ะ แล้วลงมือหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้











    อีฮยอกแจ










    เมื่อวานคุณครูโซราเพิ่งแนะนำให้รู้จัก แถมยังบอกให้ทงเฮเรียกคนคนนั้นว่าพี่ด้วย











    เรื่องอะไร – 3 –










                “เด็กๆ เงียบแล้วฟังคุณครูหน่อยค่ะและเมื่อนางฟ้าเริ่มออกโรง ทงเฮก็รู้สึกเหมือนกำลังตัวขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่บรรดาเพื่อนร่วมชั้นต่างก็ก้มหน้างุดตัวลีบเล็กไปตามประสาคนมีความผิด

               








    ต่อจากนี้ไปถ้าคุณครูเห็นว่าใครล้อเพื่อนอีกคุณครูจะทำโทษ










    กร้าก






    เด็กชายวัยห้าขวบปลายๆไม่สามารถกลั้นอาการของผู้ชนะได้ ทงเฮฉีกยิ้มเหยาะเย้ยออกมาเต็มที่ไม่สนว่าฟันซี่ข้างหน้าจะอยู่หรือจะหาย แขนทั้งสองข้างยกขึ้นมาแล้วยืดตัวกอดอกแน่นโดยอัตโนมัติ








    ส่วนทงเฮกลับไปนั่งที่ได้แล้วค่ะ” …แล้วก็เหี่ยวลงนิดหน่อยเมื่อท้ายประโยคของคุณครูโซราหันมาสั่งตัวเองให้ไปนั่งรวมกับคนใจร้ายพวกนั้น ทงเฮก้าวฉับๆไปด้วยสีหน้ามาดมั่น ก่อนจะยู่ปากใส่ซองมินไปทีนึงบอกให้รู้ว่างอนมาก แล้วหยิบกระเป๋าตัวเองย้ายไปนั่งโต๊ะติดริมหน้าต่างที่ว่างอยู่แทน










    ทงเฮส่งยิ้มที่หล่อที่สุดในชีวิตไปให้เด็กผู้หญิงผิวขาวที่กำลังจะกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า(คิดเอาเอง) เด็กผู้หญิงที่ทงเฮขอลงความเห็นว่าน่ารักที่สุดในโลกใบนี้













    นานะจัง(▽≦)










    เด็กชายวางกระเป๋าลงบนโต๊ะตัวที่อยู่ติดกับนานะจังสาวน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นด้วยหัวใจที่อิ่มเอิบ นึกขอบคุณเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อยู่เหมือนกันที่ทำให้ทงเฮมีข้ออ้างย้ายโต๊ะนั่งอิอิ








    ชั่วโมงเรียนแรกเริ่มต้นขึ้นเหมือนอย่างทุกๆวัน แต่ดูเหมือนวันนี้สมาธิของเด็กชายอีทงเฮจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ เผลอไม่ได้สายตามันจะหันไปมองคนข้างๆทู้กทีเลยฮึก








    ทงเฮไม่วาดรูปเหรอ







    (▽≦)







    ทงเฮ…”







    “(〜 ̄)







    ทงเฮ!”






    ห๊า…” เพราะเสียงเรียกที่ดังขึ้นและสัมผัสเบาๆที่แขนทำให้เด็กน้อยผู้อ่อนไหวง่ายกับความรักครั้งแรกหลุดออกจากห้วงมโน เมื่อกี๊นานะจังพูดว่ายังไงนะ… ;  [];”








    ทงเฮไม่วาดรูปเหรอเด็กหญิงว่าต่อพร้อมกับหัวเราะออกมากับท่าทีตื่นๆนั้น คุณครูสั่งให้วาดรูปอะไรก็ได้ส่งน่ะ









    ( () )









    พอสติสตังกลับมาครบถ้วนแล้วทงเฮก็เลื่อนสายตาลงมามองกระดาษเอสี่สีขาวสะอาดที่วางอยู่ตรงหน้า สลับกับมองนานะจังที่ส่งรอยยิ้มเล็กๆมาให้





    นานะจังของทงเฮน่ารักที่สุดในโลก T___________T

     


















     

    เวลาผ่านไป







    คงเป็นอีกเรื่องที่ต้องจดจำไว้ว่าระหว่างที่วาดรูปนั้นเด็กชายอีทงเฮเกือบช็อคตายไปแล้วหลายสิบครั้งเพราะเด็กผู้หญิงที่นั่งข้างๆให้ยืมยางลบ ถ้าเดาไม่ผิดนานะจังต้องชอบทงเฮแน่เลยเกร้ด #มโนคือชนะ  (〜 ̄)













    นานะจัง










    แต่แน่นอนว่ารักแท้ย่อมมีอุปสรรค








    วาดรูปอะไรไหนมาให้พี่ฮยอกแจดูซิ





    ทงเฮนั่งขวยเขินอยู่ได้ไม่กี่นาทีเสียงมารผจญก็ดังขัดขึ้นจนต้องหันขวับไปมอง พร้อมกับไฟริษยาในใจที่ค่อยลุกโชนขึ้นมาทีละนิด ภาพตรงหน้าเป็นพี่ชายผมสีสว่างที่ก้มหน้าลงมาเพื่อดูภาพของเด็กหญิง รอยยิ้มน่ารักปรากฏบนใบหน้านั้น แต่แน่นอนว่าเด็กห้าขวบอย่างอีทงเฮไม่มีทางสนใจหรอกจะบอกให้!!!








    ฮยอกแจอย่ามายุ่งกับนานะจังของทงเฮนะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!  




     

     







     

     

     

    ฝั่งคนที่ถูกสายตาอาฆาตแค้นจับจ้องก็ใช่ว่าจะไม่รู้ตัว เพียงแต่อีฮยอกแจเลือกที่จะไม่สนใจแล้วฉีกยิ้มสวยๆให้เด็กหญิงตรงหน้าแทน นานะจังรีบยื่นภาพวาดฝีมือตัวเองมาให้ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย ฮยอกแจจ้องมองอย่างพิจารณา แน่นอนว่าฝีมือของสาวน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นคนนี้สวยโดดเด่นกว่าเพื่อนคนอื่นในห้องจนทำให้ฮยอกแจอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชม และเพราะแบบนั้นทำให้เขารับรู้ได้ถึงความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจากเด็กตัวอ้วนที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไป












    ไอ้เด็กคนนี้นี่








    แก่แดดจริ๊ง





    ฮยอกแจปรายตามองก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ แล้วเดินเลี่ยงไปดูเด็กคนอื่นแทน ให้ตายเถอะเขาไม่ได้มีความอดทนมากมายนักหรอกนะ ไอ้เรื่องจะให้ไปคอยตามโอ๋ตามเอาใจลูกลิงพวกนี้ยิ่งไม่ใช่ใหญ่







    ฮยอกแจปัดความคิดยุ่งๆในหัวออก แล้วหันไปหาเด็กชายอีซองมินที่นั่งทำหน้าซึมอยู่คนเดียว บนแผ่นกระดาษตรงหน้าคือรูปวาดเละๆตามฝีมือของเด็กอนุบาล แต่หากลองมองดีๆแล้วรูปที่เด็กน้อยวาดนั้นถ้าฮยอกแจเดาไม่ผิดมันคงเป็นรูป….






    ซองมิน วาดอะไรเอามาให้พี่ฮยอกแจดูหน่อย






    เด็กน้อยหันมามองพี่ฮยอกแจแวบหนึ่ง ก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ด้วยท่าทีที่ไม่ต่างไปจากเดิม ฮยอกแจรับมันมาดูใกล้ๆเพื่อตอกย้ำความคิดของตัวเองว่าเขาไม่ได้เดาอะไรผิดไป









    รูปใครกับใครครับเนี่ย?” ฮยอกแจไม่ว่าเปล่า ใช้แขนข้างหนึ่งคว้าตัวซองมินเข้ามากอดไว้หลวมๆ







               “ซองมินกับทงเฮใช่มั้ย?”











    แน่นอนว่าคำตอบของเด็กน้อยคือการพยักหน้าช้าๆ









    ทงเฮโกรธซองมิน…”







    อ่า…”








    ทงเฮเกลียดซองมินแล้ว…”








    ไม่ใช่แบบนั้นหรอกฮยอกแจหน้าเจื่อนไปเมื่อเห็นว่าดวงตากลมโตคู่นั้นเริ่มมีน้ำใสๆเอ่อคลอ อย่าร้องนะ ทงเฮไม่ได้โกรธซองมินหรอก








    แม้จะไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่ฮยอกแจก็เลือกที่จะใช้ฝ่ามือลูบหัวซองมินเบาๆ เขาไม่รู้วิธีการปลอบหรือรับมือกับเด็กตัวเล็กๆในสถานการณ์แบบนี้  กะว่าจะโยนให้โซราเสียหน่อย แต่พอหันไปก็พบว่าคุณพี่สาวกำลังคร่ำเคร่งอยู่กับเอกสารบางอย่าง ฮยอกแจจึงทำได้แค่ถอนหายแล้วเบนหน้ากลับมายิ้มอ่อนโยนให้เด็กน้อยในอ้อมกอด







    ซองมินจะทำยังไงดีฮึก








    เอางี้ เดี๋ยวพี่ฮยอกแจไปคุยให้นะ








    จริงนะ พี่ฮยอกแจพูดจริงๆนะ







    ..อื้อจริงสิ




    สัญญา

     

















     

    เดี๋ยว

     






















     

    ต้องสัญญาด้วยเรอะ…………………

     

     



















     

    ( () )

     

     






















     

    โอเค สัญญา





     

    *เกี่ยวก้อย*

     

     
































     

     










     

    นั่นคือเหตุผลที่อีฮยอกแจต้องมานั่งจ้องหน้ากับไอ้เด็กอ้วนกะปุ๊กลุกนี่อีกครั้ง









    ทงเฮ







    อารายยยย” คนถูกเรียกตอบรับด้วยน้ำเสียงยานคาง พร้อมกับใช้คางไถกับโต๊ะไปตามประสา ไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะพูดอะไร





     

    เงยหน้ามาฟังพี่ฮยอกแจพูด








                เสียงเข้มๆนั้นทำให้เด็กชายชักงัก แต่ก็ไม่ได้เชื่อฟังมากขึ้น








    ทะเลาะอะไรกับซองมิน







    “………..  – 3 - ”









    ตอบ” 






                คำพูดกดดันจากปากอีกฝ่ายทำให้ทงเฮรู้สึกอารมณ์เสียจนต้องนิ่วหน้า แล้วคนเอาแต่ใจก็ส่ายหัวไปมาเป็นคำตอบ ซึ่งแน่นอนว่าอีฮยอกแจไม่เชื่อ!!








    จะบอกดีๆหรือจะให้รายงานคุณครูโซรา





    “………..”




    ไม่ต้องมาทำตาขวางเลย เดี๊ยะๆว่าแล้วก็ยกมือขึ้นมาทำท่าจะตีสักทีให้หายหมั่นเขี้ยว แต่เด็กชายกลับไวกว่า ถือโอกาสชิ่งหนี วิ่งดุ๊กๆไปรวมกับพวกซีวอนที่นั่งเล่นอยู่มุมหนึ่งของห้อง










    ฮยอกแจคลี่ยิ้มออกมานิดหน่อยคือด้วยความสัตย์จริงเลยนะ เขาไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องทะเลาะกันของเด็กอนุบาลพวกนี้สักนิด มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเอามาใส่ใจด้วยซ้ำไป










    เผลอๆพรุ่งนี้เช้าตื่นมาก็ลืมหมดแล้วว่าเคยโกรธกัน










    โซรา



    ร่างบางเดินไปสะกิดคนเป็นพี่สาวที่ฟุ่บหน้าอยู่บนโต๊ะทำงาน อีโซราสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าอิดโรย เธอมองน้องชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า และนั่นมันทำให้อีฮยอกแจรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบ
    ค่อยๆกลายเป็นสีเทา








    ไปพักก่อนมั้ย








    แต่…” โซราทอดสายตามองผ่านไปยังเด็กตัวเล็กๆหลายสิบคนที่จับกลุ่มเล่นกันอยู่ไม่ไกลด้วยความกังวล แม้จะไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา แต่อีฮยอกแจก็เข้าใจความคิดของพี่สาวได้ในทันที








    อีกแค่ครึ่งชั่วโมงเอง เดี๋ยวดูให้








    หญิงสาวนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยอมพยักหน้าตกลงในที่สุด เธอตบบ่าน้องชายสองสามทีก่อนจะพาร่างกายที่อ่อนล้าของตัวเองไปที่ลานจอดรถ และใช้พื้นที่แคบๆบนรถยนต์ส่วนตัวเป็นเตียงนอนชั่วคราว









    แค่ครึ่งชั่วโมงที่ได้หลับตา ก็นับว่าดีแล้วสำหรับเธอในเวลานี้












    ภาพทั้งหมดอยู่ในกรอบสายตาของคนเป็นน้องชายอย่างอีฮยอกแจทั้งหมด เขารู้ว่าโซราเหนื่อยมากแค่ไหนกับการจัดการเรื่องต่างๆและดูแลเด็กพวกนี้คนเดียวในช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา








    เธอทำมันด้วยตัวเอง ไม่มีใครสักคนที่พอจะช่วยแบ่งเบาได้






    นั่นคือหนึ่งเหตุผลที่อีฮยอกแจมาที่นี่

     

     

     


























     

     ฮยอกแจนั่งเล่นโน้ตบุตไปเรื่อยๆระหว่างรอเวลาเลิกเรียน เขาเฝ้ามองนาฬิกาทุกๆสิบนาที น่าแปลกที่เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงดูเหมือนจะช้าเหลือเกิน แต่นั่นก็ถือว่าดีแล้ว เขาอยากให้โซราได้พักผ่อนเยอะๆ







    พี่ฮยอกแจคะ ผูกโบว์ให้นานะหน่อย







    เสียงใสๆปลุกให้ฮยอกแจออกจากห้วงความคิด เขาเบนสายตามามองเด็กสาวตัวเล็กด้วยความเอ็นดู ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อผูกโบว์หูกระต่ายที่คอเสื้อให้ตามคำขอ







    น่ารักที่สุดเลย~” ฮยอกแจเอ่ยปากชมพร้อมกับหยิกแก้มนิ่มๆไปด้วยความหมั่นเขี้ยว ก็เด็กญี่ปุ่นตรงหน้านี้หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักจริงๆนี่ ไม่แปลกใจเลยทำไมเจ้าเด็กอ้วนนั่นถึงได้หวงนัก










    พี่ฮยอกแจก็น่ารักค่ะ






    เฮ้ๆ ผิดแล้วฮยอกแจท้วงเสียงสูง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเข้าโหมด camera พี่หล่อต่างหากล่ะ เอ้า! ยิ้มเร็ว







    ร่างบางเพลิดเพลินอยู่กับการถ่ายรูปเด็กน้อยตรงหน้าเสียจนไม่ได้ทันสังเกตว่ามีก้อนกลมๆกำลังเดินอาดๆเข้ามา กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่เครื่องมือสื่อสารราคาแพงในมือร่วงลงกระแทกกับพื้นกระเบื้องอย่างแรง








    เห้ย!”



    ฮยอกแจร้องเสียงหลงแล้วรีบเข้าไปประคองลูกรักที่หน้าจอแตกร้าวไปราวๆห้าเซ็น ร่างบางอ้าปากค้างก่อนจะเบนสายตากลับมามองตัวต้นเหตุช้าๆ แต่ทว่าสีหน้าของเด็กตัวกลมกลับไม่แสดงออกถึงความทุกข์ร้อนอะไรกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งก่อลงไปแม้แต่นิดเดียว



     

     

    เด็กที่เพิ่งลืมตาดูโลกมาได้แค่ไม่กี่ปีอย่างอีทงเฮคงไม่รู้สินะว่าไอ้เศษเหล็กนี่มันแพงมหาศาลขนาดไหน



     

    แน่นอนว่าแววตาคู่นั้นไม่มีร่องรอยของความสำนึกผิด



    มีเพียงประโยคเดียวที่แปะอยู่กลางหน้าผากของคนตรงหน้า









     อย่า มา ยุ่ง กับ นา นะ จัง ของ ทง เฮ นะ









    สาบานว่าฮยอกแจอ่านมันออกโดยไม่ต้องคิดอะไรให้วุ่นวายเลยด้วยซ้ำ ไม่มีเหตุผลอื่นใดอีกที่เด็กเกเรคนนี้จะเดินมาแล้วจงใจใช้ร่างกลมๆชนแขนเขาจนโทรศัพท์ตก ก่อนจะถือวิสาสะลากแขนนานะจังออกไปโดยไร้ซึ่งคำขอโทษ










    ทงเฮยังเด็กน่าไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร





    ไม่โกรธ





















    ไม่โกรธ






























    ไม่โกรธ


























    ไม่

     





























     

    อีทงเฮ!”

     





     

     

     

     


















     

    มานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ!”

     









     

                เพี้ยะ!








                เสียงฝ่ามือกระทบกับเนื้อขาวๆดังสนั่นไปทั่วสร้างความตื่นกลัวให้บรรดาเด็กตาดำๆที่อยู่รอบข้าง และไม่กี่อึดใจเสียงร้องไห้จ้าก็ดังตามมาเป็นสเต็ป แต่อีฮยอกแจไม่มีทางใจอ่อนสงสารแน่นี่พูดเลย




                ทำของของคนอื่นพังแล้วยังไม่รู้จักขอโทษแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนห้ะ!”






                จากนั้นฝ่ามือเรียวก็ฟาดลงไปตามลำตัวของเด็กน้อยอย่างต่อเนื่องและทารุณ







     

              (ขออนุญาตเซนเซอร์)

     

     

     
































     

     

                …ซึม..




                นั่นคืออาการของเด็กชายอีทงเฮหลังจากถูกฟาดไปนับครั้งไม่ถ้วน ดวงตาที่เคยมองค้อนฮยอกแจบัดนี้กลายสภาพเป็นดวงตาของเด็กน้อยผู้น่าสงสารแทน ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากริมฝีปากเล็กๆนั่น ทงเฮเอาแต่ก้มหน้านิ่งนั่งสะพายเป้รอหม่าม๊ามารับ



                ภาพนั้นทำให้อีฮยอกแจรู้สึกผิดขึ้นมาเสียดื้อๆ




                เข้าข่ายพวกที่เพิ่งสำนึกได้ว่าทำเกินไปก็ตอนที่หายโมโหแล้วนั่นล่ะนะ







    นี่…”



    “…………”






    พี่ขอโทษว่าแล้วก็ใช้นิ้วชี้จิ้มลงบนแก้มของอีกฝ่ายเป็นการบอกทางอ้อมว่านี่ง้ออยู่นะ แต่เหมือนทงเฮจะเด็กเกินไปจนไม่อาจเข้าใจได้ เด็กน้อยขยับออกห่างด้วยความตื่นกลัวที่ยังคงฝังอยู่ในใจ





    ทงเฮ



    “………”






    พี่ฮยอกแจขอโทษนะพูดเสียงอ่อนพลางก้มหน้าลงไปแล้วฝังปลายจมูกลงบนแก้มกลมๆฟอดใหญ่ ก่อนจะชูนิ้วก้อยขึ้นมาพร้อมกับคลี่รอยยิ้มน่ารักดีกัน



    “…………”





     

     

    ทงเฮอ่า…”















    คำถาม: ทำไมกูต้องมานั่งง้อคนที่ทำมือถือกูพังด้วย….

     




















     

    นานะกลับแล้วนะคะพี่ฮยอกแจ


    อ่า คุณแม่มาแล้วเหรอ เดี๋ยวพี่เดินไปส่งนะ


    ไม่เป็นไรค่ะเด็กหญิงสั่นศีรษะก่อนจะหันไปฉีกยิ้มกว้างให้ใครอีกคนที่เอาแต่นั่งหน้าบูด บ๊ายบายทงเฮ


    จบประโยคก็วิ่งไปหาคุณแม่ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว ฮยอกแจมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม ไม่ต่างอะไรกับเด็กชายที่เปลี่ยนสีหน้าและอารมณ์อย่างกะทันหัน มือเล็กยกขึ้นมาโบกหยอยๆแม้ว่าเด็กหญิงจะไม่เห็นมันก็ตาม

     



     

    (ノ・)

     



     

    แหม






    ทีงี้ล่ะ





    ฮยอกแจส่ายหน้าไปมาด้วยความหมั่นไส้อยู่ลึกๆ ก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูอีกครั้ง ทงเฮเป็นคนสุดท้ายที่คุณแม่ยังไม่มารับ เขาจึงจำต้องนั่งรอเป็นเพื่อนต่อไป ในเมื่อรับปากกับโซราไว้แล้วว่าจะดูแลให้ก็คงต้องทำต่อจนจบนั่นล่ะ



    เวลาผ่านไปไม่นานคุณแม่ของทงเฮก็มา ฮยอกแจลุกขึ้นแล้วส่งยิ้มให้หญิงวัยกลางคนอย่างเป็นมิตร ทักทายกันได้แค่สองสามคำเธอก็ขอตัวกลับเพราะมีธุระ ฮยอกแจพยักหน้ารับแล้วบอกลาสั้นๆ ก่อนจะมองภาพสองแม่ลูกจูงมือกันออกไป





    แต่ทว่านาทีสุดท้ายก่อนที่เด็กน้อยจะถูกอุ้มขึ้นรถ ดวงตากลมโตก็หันกลับมาแล้วมองเขาด้วยสายตาเขียวปั้ดแบบเดิม








    คอยดูน้องเฮจะฟ้องหม่าม๊า(#)









              นั่นล่ะ













                นั่นล่ะที่ทำให้ฮยอกแจหัวเราะออกมาจนตาหยี










                เขารู้สึกโล่งใจยังไงบอกไม่ถูกที่เห็นเด็กแสบนั่นกลับไปก้าวร้าวเหมือนเดิม   

















                มือเรียวที่เคยใช้ฟาดมันลงไปบนผิวเนื้อบางค่อยๆยกขึ้นมาแล้วโบกให้กับเด็กน้อยที่อยู่ไกลออกไป

     

     













     

    บ๊ายบาย

     










              TBC

                หนึ่งตอนที่ไม่มีอะไร 55555555555555555555555555

               มาย้ำอีกทีว่า เฮอึน 


             
    ฮยอกแจทารุณน้องเยอะๆเลยนะ รอมันโตแล้วเดี๋ยวให้เอาคืนทั้งต้นทั้งดอกเลยบาย  
              555555555555555555555555555555555555555555555555555  



     






     

    PORCELAIN  THEMEs
     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×