ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HAEEUN - LITTLE BOY

    ลำดับตอนที่ #5 : - LITTLE BOY ♡ ( DH ) - 4

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 56


     

    - LITTLE BOY ♡ ( DH ) - 4






     
















                วันนี้ฮยอกแจตื่นเช้าเป็นพิเศษ แม้ว่าปกติจะโดนโซราบังคับให้ตื่นเช้ามากๆอยู่แล้ว แต่ที่บอกว่ามันพิเศษก็ตรงที่วันนี้เขาตื่นขึ้นมาด้วยตัวเอง ฮยอกแจก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่วันนี้คือวันสุดท้าย และ









    พี่ฮยอกแจ








    และเขาอยากจะอยู่กับเด็กปีศาจพวกนี้ให้ได้นานๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ร่างบางตัดสินใจลุกจากเตียงแล้วไปเคาะห้องปลุกโซราตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี สุดท้ายก็เป็นอย่างที่คิด พวกเรามาถึงโรงเรียนเป็นสองคนแรก ถ้าไม่นับลุงยามหน้าประตูน่ะนะ








    พี่ฮยอกแจคะ








    ชายเสื้อของฮยอกแจถูกมือเล็กๆของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดึงไว้ เขาหันกลับไปแล้วก็พบว่าเด็กคนนั้นคือมุนจองยอน อ่าถ้าจำไม่ผิดเด็กคนนี้เป็นคนที่พวกจงอุนชอบไปแกล้งจนร้องไห้ประจำ







    ว่าไงครับฮยอกแจตอบ ก่อนจะค่อยๆคุกเข่าลง มาแต่เช้าเลยนะ







    พี่ฮยอกแจช่วยจองยอนหน่อย







    หื้อ จะให้พี่ช่วยอะไรครับ?”





    เด็กหนุ่มเลิกคิ้วถาม ซึ่งคนตรงหน้าก็เอาแต่อึกอักไม่ยอมตอบ สักพักก็วิ่งไปลากคิมจงอุนที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์เข้ามาสมทบ คือพวกเราอยากมีรูป…”







    อ่าถ่ายรูปคู่สินะ…” ฮยอกแจแปลความหมายที่จองยอนพยายามจะสื่อ ร่างบางดีดนิ้วก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าโหมดถ่ายรูป มานับหนึ่งถึงสามแล้วยิ้มนะ








    ปลายนิ้วเรียวรัวชัตเตอร์ไปเกือบสิบกว่ารูปได้ แต่มันน่าตลกตรงที่ไม่มีรูปไหนเลยที่เด็กชายคิมจงอุนยิ้มมันไม่มีเลยสักรูปช่างเป็นเด็กที่นอกจากจะฟอร์มเยอะแล้วยังนิสัยไม่ดีเลยจริงๆ







    ขอบคุณมากนะคะ ^ ^” จองยอนยิ้มกว้าง แล้วต้องทำยังไงจองยอนถึงจะได้รูปพวกนี้เหรอคะ








    เดี๋ยวพี่ส่งไปให้คุณแม่จองยอนแล้วกันเนอะ แต่ถ่ายใหม่จะไม่ดีกว่าเหรอ จงอุนไม่เห็นยิ้มสักรูปเลยฮยอกแจว่าพลางใช้ปลายนิ้วเลื่อนให้จองยอนดูทีละรูป







    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จงอุนก็เป็นแบบนั้นตลอดเด็กหญิงหลุบตาลงต่ำ มาขอเค้าถ่ายเองแท้ๆแต่ทำไมไม่ยอมยิ้มก็ไม่รู้…” จองยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณกับฮยอกแจอีกครั้ง แล้วก็วิ่งไปรวมกับกลุ่มเพื่อนๆ











    ความรักของเด็กตัวเล็กพวกนี้นี่ช่างน่าอิจฉาจริงๆ










    เด็กๆรับรู้แค่เพียงว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนอนุบาล แล้วก็จะปิดเทอมใหญ่ พวกเขาจึงร่าเริงกันเป็นพิเศษ ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับการทดสอบเล็กๆน้อยที่อีโซรากำลังจะให้ทำ ไม่มีใครคิดถึงการเข้าเรียนในชั้นประถม และไม่มีใครรู้ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของอีฮยอกแจเช่นกัน








    ฮยอกแจนั่งทิ้งกายลงบนเก้าอี้แล้วทอดสายตามองโซราที่กำลังพูดอะไรสักอย่างอยู่หน้าห้อง และเด็กๆทุกคนต่างก็ตั้งอกตั้งใจฟัง ไม่มีใครละสายตาไปไหน และนั่นมันเป็นภาพที่เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นเลยจริงๆ









    ตลอดเวลาเกือบสองเดือนที่เขาอยู่ที่นี่ แม้จะไม่ใช่ทุกวันแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกใจหายเหมือนกันที่ต่อไปจะไม่ได้เจอเจ้าเด็กพวกนี้แล้ว ฮยอกแจเบ้หน้าทันทีที่ลองนั่งคิดถึงชีวิตประจำวันของตัวเองหลังจากนี้ เขาจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนชดเชยตลอดทั้งสัปดาห์ ทางโรงเรียนเพิ่งติดต่อมาเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าฮยอกแจต้องแยกคลาสพิเศษ และเรียนรวมกับพวกที่มีปัญหาคล้ายๆกันอะไรทำนองนั้น








    ถ้าเป็นแบบนั้นสู้ยอมปวดหัวกับเจ้าเด็กพวกนี้ยังดีกว่าอีก






    แต่เขามีทางเลือกซะที่ไหน








    ระหว่างที่นั่งคิดอะไรเพลินๆสายตาก็ดันไปสะดุดกับร่างกลมๆที่นั่งอยู่หลังห้อง และสายตาดื้อรั้นคู่นั้นก็ดันเหวี่ยงมาทางเขาพอดิบพอดี ฮยอกแจจ้องกลับไปด้วยความแปลกใจนิดหน่อย และเขาคิดว่าเขาไม่ควรจะเป็นฝ่ายหลบตาก่อน








     อะไรอีกเนี่ย…” ริมฝีปากบางสบถออกมาเบาๆเมื่อทงเฮไม่ยอมละสายตาไปจากเขาเสียที สุดท้ายก็เป็นฮยอกแจเองที่ต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทาง และทำแสร้งหยิบหนังสือเล่มที่ใกล้ตัวที่สุดขึ้นมาเปิดอ่าน









    เป็นเด็กที่พิลึกดีจริงๆ








    ฮยอกแจจมดิ่งลงไปกับเรื่องราวในหนังสือเล่มนั้น เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองทงเฮอีก จนกระทั่งบรรทัดสุดท้ายจบลงจึงยอมละสายตาขึ้นมา ร่างบางบิดขี้เกียจแล้วลุกขึ้นจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็จำต้องหยุดฝีเท้าเพราะเสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง












    จะไปไหน















    ห้วนขนาดนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใคร








    เข้าห้องน้ำหันไปตอบ พร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง โซรากำลังวุ่นอยู่กับจัดการกับความวุ่นวายที่คิมจงอุนก่อ ส่วนเด็กคนอื่นๆก็อยู่ในโลกของตัวเองไปตามประสา






    พี่ฮยอกแจจะไปไหน






    ฮยอกแจเบนสายตากลับมาขมวดคิ้วมองไอ้เด็กตรงหน้าที่ถามย้ำกลับมาอีกครั้ง







    เข้าห้องน้ำไง จะไปด้วยเหรออดจะแปลกใจไม่ได้ที่แววตาของทงเฮไม่มีความอวดดีและดื้อรั้นเหมือนอย่างที่ผ่านๆมาแล้ว ฮยอกแจทำท่าจะเดินเลี่ยงไปในเมื่อทงเฮไม่ยอมตอบ แต่ทงเฮก็ทำให้เขาต้องแปลกใจอีกรอบด้วยการเดินตามมาแล้วถามต่อ







    พี่ฮยอกแจจะมาอีกมั้ย







    ฮยอกแจอมยิ้มนิดหน่อยที่ได้ยินแบบนั้น ขาทั้งสองข้างก้าวไปตามทางเดินเรื่อยๆโดยไม่ได้หันกลับไปมองเด็กชายที่เดินตามหลังมา







    ไม่มาแล้ว






    ทำไม







    คำว่าครับท้ายประโยคหายไปไหน? ถ้ายังพูดไม่เพราะก็ไม่ตอบ







    ร่างบางหยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ก่อนจะหันกลับไปเลิกคิ้วเป็นเชิงว่ารอให้อีกฝ่ายพูดจาเพราะๆให้ชื่นใจก่อนแล้วถึงจะตอบ แต่แน่นอนว่าเด็กฟอร์มเยอะอย่างทงเฮไม่มีทางยอม เด็กชายเบะปากแล้วหันหน้าหนีไปทาง แล้วฮยอกแจก็ต้องเป็นฝ่ายยอมไปตามระเบียบ







    ทงเฮเห็นนั่นมั้ยร่างบางย่อตัวลงนั่ง ก่อนที่ปลายนิ้วจะชี้ไปยังโรงเรียนไฮสคูลของพ่อคยูฮยอน ตึกสูงๆตรงนู้น







    “……………..”










    เดี๋ยวพี่ฮยอกแจต้องไปที่นั่นล่ะ










    “……………..”







    คงไม่ได้มากวนใจทงเฮแล้ว






    เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนทั้งคู่อยู่พักใหญ่ ก่อนที่ฮยอกแจจะหยัดตัวขึ้นยืนพร้อมกับยีผมเด็กชายเบาๆ ทงเฮยังคงนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยแววตามุ่งมั่งจ้องมองไปยังตึกสูงๆที่ว่า







    จะเข้าด้วยกันมั้ย







    ฮยอกแจหันมาถาม แต่เมื่อทงเฮไม่ตอบ ก็เลยถือวิสาสะคว้าตัวเด็กชายเข้าห้องน้ำมาด้วยกัน ทงเฮไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะเริ่มปวดละเหมือนกัน พอเข้าไปแล้วก็เตรียมจะแกะกระดุม แต่กลับมีมือหนึ่งของคนตัวสูงกว่ายื่นมาช่วยจนต้องรีบเบี่ยงตัวหนี








    ทงเฮถอดเองได้








    เอ้า คนเค้าอุตสาห์มีน้ำใจฮยอกแจเบ้หน้า ก่อนจะเดินเลี่ยงไปส่องกระจกล้างไม้ล้างมือรอ พอหันกลับไปมองอีกทีก็ถูกเสียงแข็งๆของคนที่กำลังทำธุระส่วนตัวตอบกลับมาทันที









    อย่ามอง

     








     

    -_,-

     










     

    ไอ้เด็กนี่

     









     

    มีอยู่แค่นั้นใครจะไปอยากมองกันเล่า!

     

     




































     

    เมื่อเสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น นั่นก็หมายความว่าชีวิตวัยอนุบาลของเหล่าลูกลิงทั้งหลายก็สิ้นสุดลงเช่นกัน พวกเด็กๆยังคงส่งเสียงเจี้ยวจ้าวและไม่เป็นระเบียบจนถึงวินาทีสุดท้ายจริงๆ ฮยอกแจเห็นสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ของโซราแล้วก็แอบขำออกมาคนเดียว







    แต่ในที่สุดนางฟ้าก็สามารถทำให้เหล่าเด็กปีศาจนั่งเรียงแถวกันได้อย่างเป็นระเบียบเพื่อรอผู้ปกครองมารับ ฮยอกแจนั่งมองภาพคุณพ่อคุณแม่จูงมือเด็กตัวน้อยกลับไปคนแล้วคนเล่าด้วยรอยยิ้ม เขาเพิ่งพบว่าการดูแลเด็กพวกนี้มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่เคยคิด









    ร่างบางกวาดสายตามองไปรอบๆ มือก็นั่งไล่เช็ครายชื่อว่าใครกลับไปแล้วบ้าง และเท่าที่ดูก็เหมือนจะเหลือแค่กลุ่มของคิมจงอุนกับซองมินเท่านั้น









    ฮยอกแจไปรอในรถไป เดี๋ยวทำเอง








    โซราเดินเข้ามาพร้อมกับดึงแฟ้มรายชื่อในมือของฮยอกแจไปไว้กับตัว ซึ่งคนเป็นน้องก็ได้แต่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอแล้วกระทืบเท้าออกไปตามคำสั่ง ถึงจะเหลืออีกแค่ไม่กี่คนแต่เขาก็ยังอยากช่วยโซราไปจนกว่าจะถึงเวลาล็อคประตูแล้วกลับบ้านพร้อมกัน








    ฮยอกแจ เดี๋ยว







    หื้อ








    ทงเฮยังไม่ได้กลับนี่นา








    ประโยคนั้นทำเอาคิ้วของฮยอกแจขมวดแน่น ร่างบางเดินกลับไปเช็ครายชื่อในแฟ้มอีกครั้งแล้วก็พบว่าทงเฮยังไม่กลับจริงๆด้วย ริมฝีปากบางพึมพำออกมาอย่างแปลกใจ ก่อนจะกวาดสายตามองหาเด็กตัวกลมที่ไม่ได้นั่งรวมกลุ่มอยู่กับพวกคิมจงอุนเหมือนอย่างเคย








    ฮยอกแจชะโงกหน้าออกมาข้างนอกห้องด้วยความกังวล แล้วก็เจอร่างกลมๆนั่งอยู่บนม้านั่งที่สนามเด็กเล่น เท่านั้นร่างบางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หันไปบอกโซราว่าเจอแล้ว จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเด็กชายที่เอาแต่มองตรงไปข้างหน้า ไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนย่องเข้ามาด้านหลัง









    ทงเฮ







    เฮ้ย!” เจ้าของชื่อสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะเหวี่ยงสายตาหงุดหงิดมาทางฮยอกแจแทนที








    โทษทีๆฮยอกแจหัวเราะ มานั่งทำอะไรคนเดียวฮึ?”







    รอหม่าม๊า








    ก็แล้วทำไมไม่ไปนั่งรวมกับเพื่อนๆในห้องล่ะ








    ทงเฮไม่ได้ตอบ และไม่ได้มองมาทางฮยอกแจด้วย ถ้ามันไม่เป็นการเข้าข้างตัวเองเกินไป ร่างบางก็พอจะเดาได้ว่าเด็กชายกำลังคิดอะไรและรู้สึกแบบไหน








    พี่ฮยอกแจไม่อยู่ทงเฮไม่ดีใจเหรอ ฮยอกแจอยากจะถามออกไป เขาอยากรู้ว่าคนตรงหน้าจะตอบแบบไหน แต่ฮยอกแจก็ไม่ได้ถาม ร่างบางนั่งลงข้างๆทงเฮ ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงใส









     

    พรุ่งนี้คงไม่ได้เจอกันแล้วนะ










    “……………”










    ห้ามดื้อกับคุณครูเข้าใจมั้ยครับ









    “…………..”










    ทงเฮต้องตั้งใจเรียนนะ







    สายลมยามเย็นพัดผ่านทั้งคู่ไป ไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนั้น ทงเฮเอาแต่นิ่งเงียบ ส่วนฮยอกแจเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น ถ้าลองมองอีกแง่ นี่มันก็เป็นแค่ช่วงหนึ่ง แค่อารมณ์ของเด็กอนุบาล ไม่นานทงเฮก็จะลืมเอง









    อีกไม่นาน พี่ฮยอกแจคนนี้ก็คงไม่อยู่ในความทรงจำของทงเฮอีก














    ทงเฮ…” ฮยอกแจเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบา พี่ฮยอกแจไปแล้วนะ






    ร่างบางหยัดตัวขึ้น ก่อนจะคลี่รอยยิ้มบางๆให้เด็กชาย แม้ว่าทงเฮจะไม่ได้เงยหน้ามามองก็ตาม ฮยอกแจลอบถอนใจก่อนจะคว้าแขนเล็กให้ลุกตามมา








    ไปนั่งรอกับซองมินในห้องไป








    ทีแรกเจ้าเด็กดื้อนี่ก็ทำท่าจะไม่ยอมไปจนต้องอุ้มขึ้นมานั่นล่ะถึงยอมสงบลง  









    ทงเฮต้องมีเพื่อน



    นั่นคือสิ่งเดียวที่อีฮยอกแจต้องการ









    ฮยอกแจพาทงเฮไปนั่งข้างๆซองมิน ก่อนจะโน้มตัวลงฝังปลายจมูกลงบนแก้มนิ่มเป็นครั้งสุดท้าย ริมฝีปากบางส่งรอยยิ้มจางๆไปให้ แล้วกลั้นใจหันหลังเดินออกมาในที่สุด








    เขารู้สึกวูบโหวงอยู่ข้างในกับภาพสุดท้ายที่เห็น










    ทงเฮร้องไห้

     








     

    This emptiness in the bottom drawer

    It’s getting harder to pretend

     

     








     

    ทงเฮโดนเพื่อนแกล้งมาเหรอคะ?”





    เสียงของคนเป็นแม่เอ่ยถามด้วยความห่วงใยขณะขับรถกลับบ้าน ลูกชายตัวน้อยของเธอเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ถามอะไรก็เอาแต่สั่นหน้าแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง







    หรือว่านานะจังไม่มาโรงเรียน?” เธอพยายามคาดเดาไปตามความน่าจะเป็นที่ทำให้ลูกชายคนเก่งกลายเป็นคนเศร้าซึมได้ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ในเมื่อทงเฮไม่ยอมพูดอะไรเธอจึงยอมแพ้แล้วตั้งใจขับรถไปเรื่อยๆ เอาไว้ถึงบ้านค่อยให้ป่าป๊าช่วยกล่อมอีกแรงน่าจะโอเคกว่า








    หม่าม๊า










    แต่ก็ผิดคาดทงเฮเป็นฝ่ายเริ่มพูดขึ้นก่อน









    พาทงเฮไปที่นั่นหน่อยนิ้วเล็กๆชี้ไปยังโรงเรียนไฮสคูลที่อยู่ไม่ไกล ตึกนั่น








    จะไปทำไมหื้ม?”







    อยากไป








    คำตอบและแววตาที่ดูมุ่งมั่นจนน่ากลัวนั้นทำให้คนเป็นแม่ถึงกับแปลกใจ








    เอาไว้วันหลังนะแต่ก็ตอบปัดไปเพราะคิดว่าไม่สำคัญอะไร วันนี้เย็นแล้ว ป่าป๊ารอกินข้าวอยู่ที่บ้าน










    .

    .











    .

     




     

    แต่วันแล้ววันเล่า

     


























     

    หม่าม๊า ทงเฮอยากไปที่นั่น

     

     






     

    เด็กชายก็ยังคงพร่ำประโยคเดิมๆออกมาทุกครั้งที่นั่งรถผ่าน

     

     















     

    หม่าม๊าพาทงเฮไปหน่อยนะ

     

     


















     

    เวลาผ่านไป….

     











     

     

    หม่าม๊า เมื่อไหร่จะพาทงเฮไป

     















     

     

    จากเดือนกลายเป็นปี

     















     

    หม่าม๊า!”

     








     

     

     “ถ้าหม่าม๊าไม่พาไปทงเฮจะไปเองแล้วนะ!”

     






     

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนเป็นแม่หันมามองลูกชายด้วยสายตาประหลาดๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอตัดสินใจไม่บ่ายเบี่ยงและถามกลับไปถึงเหตุผล

     




     

    ไหนทงเฮบอกหม่าม๊ามาซิว่าทำไมถึงอยากให้พาไป

     











     

    ทงเฮโตขึ้นมากแล้วบางทีถ้าเธอจะตามใจเด็กคนนี้บ้าง

     











     

    อยากเรียนที่นั่นเหรอ





    เรียน?”






    ก็นั่นมันโรงเรียนมัธยมไง ทงเฮอยากเรียนที่นั่นเหรอ







    “…………..”








    ถ้างั้นทงเฮต้องตั้งใจเรียนนะ แล้วสอบให้ได้







    สอบได้แล้วจะเป็นยังไง





    ทงเฮก็จะได้ไปที่นั่นทุกวันเลยไง








    หม่าม๊าพูดจริงๆนะ

     












     

    แววตาของเด็กหนุ่มทอประกาย

     






     

     

    โอเค! ทงเฮจะสอบให้ได้!”

     

































     

     




     

     

     













     

    But I’m not lost

    I’m not gone

    I haven’t forgot

     

     
















     

     

    TBC

    ตอนต่อไปไม่มีน้องเฮแล้วนะ 



     

     

    PORCELAIN  THEMEs
     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×