คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : - LITTLE BOY ♡ ( DH ) - 4
- LITTLE BOY ♡ ( DH ) - 4
วันนี้ฮยอกแจตื่นเช้าเป็นพิเศษ แม้ว่าปกติจะโดนโซราบังคับให้ตื่นเช้ามากๆอยู่แล้ว แต่ที่บอกว่ามันพิเศษก็ตรงที่วันนี้เขาตื่นขึ้นมาด้วยตัวเอง ฮยอกแจก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่วันนี้คือวันสุดท้าย และ…
“พี่ฮยอกแจ”
และเขาอยากจะอยู่กับเด็กปีศาจพวกนี้ให้ได้นานๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ร่างบางตัดสินใจลุกจากเตียงแล้วไปเคาะห้องปลุกโซราตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี สุดท้ายก็เป็นอย่างที่คิด พวกเรามาถึงโรงเรียนเป็นสองคนแรก ถ้าไม่นับลุงยามหน้าประตูน่ะนะ
“พี่ฮยอกแจคะ”
ชายเสื้อของฮยอกแจถูกมือเล็กๆของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดึงไว้ เขาหันกลับไปแล้วก็พบว่าเด็กคนนั้นคือมุนจองยอน อ่า…ถ้าจำไม่ผิดเด็กคนนี้เป็นคนที่พวกจงอุนชอบไปแกล้งจนร้องไห้ประจำ
“ว่าไงครับ” ฮยอกแจตอบ ก่อนจะค่อยๆคุกเข่าลง “มาแต่เช้าเลยนะ”
“พี่ฮยอกแจช่วยจองยอนหน่อย”
“หื้อ จะให้พี่ช่วยอะไรครับ?”
เด็กหนุ่มเลิกคิ้วถาม ซึ่งคนตรงหน้าก็เอาแต่อึกอักไม่ยอมตอบ สักพักก็วิ่งไปลากคิมจงอุนที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์เข้ามาสมทบ “คือ…พวกเรา…อยากมีรูป…”
“อ่า…ถ่ายรูปคู่สินะ…” ฮยอกแจแปลความหมายที่จองยอนพยายามจะสื่อ ร่างบางดีดนิ้วก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าโหมดถ่ายรูป “มา…นับหนึ่งถึงสามแล้วยิ้มนะ”
ปลายนิ้วเรียวรัวชัตเตอร์ไปเกือบสิบกว่ารูปได้ แต่มันน่าตลกตรงที่ไม่มีรูปไหนเลยที่เด็กชายคิมจงอุนยิ้ม…มันไม่มีเลยสักรูป…ช่างเป็นเด็กที่นอกจากจะฟอร์มเยอะแล้วยังนิสัยไม่ดีเลยจริงๆ
“ขอบคุณมากนะคะ ^ ^” จองยอนยิ้มกว้าง “แล้วต้องทำยังไงจองยอนถึงจะได้รูปพวกนี้เหรอคะ”
“เดี๋ยวพี่ส่งไปให้คุณแม่จองยอนแล้วกันเนอะ แต่…ถ่ายใหม่จะไม่ดีกว่าเหรอ จงอุนไม่เห็นยิ้มสักรูปเลย” ฮยอกแจว่าพลางใช้ปลายนิ้วเลื่อนให้จองยอนดูทีละรูป
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จงอุนก็เป็นแบบนั้นตลอด” เด็กหญิงหลุบตาลงต่ำ “มาขอเค้าถ่ายเองแท้ๆ…แต่ทำไมไม่ยอมยิ้มก็ไม่รู้…” จองยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณกับฮยอกแจอีกครั้ง แล้วก็วิ่งไปรวมกับกลุ่มเพื่อนๆ
…ความรักของเด็กตัวเล็กพวกนี้นี่ช่างน่าอิจฉาจริงๆ…
เด็กๆรับรู้แค่เพียงว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนอนุบาล แล้วก็จะปิดเทอมใหญ่ พวกเขาจึงร่าเริงกันเป็นพิเศษ ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับการทดสอบเล็กๆน้อยที่อีโซรากำลังจะให้ทำ ไม่มีใครคิดถึงการเข้าเรียนในชั้นประถม และไม่มีใครรู้ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของอีฮยอกแจเช่นกัน
ฮยอกแจนั่งทิ้งกายลงบนเก้าอี้แล้วทอดสายตามองโซราที่กำลังพูดอะไรสักอย่างอยู่หน้าห้อง และเด็กๆทุกคนต่างก็ตั้งอกตั้งใจฟัง ไม่มีใครละสายตาไปไหน และนั่นมันเป็นภาพที่เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นเลยจริงๆ
ตลอดเวลาเกือบสองเดือนที่เขาอยู่ที่นี่ แม้จะไม่ใช่ทุกวันแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกใจหายเหมือนกันที่ต่อไปจะไม่ได้เจอเจ้าเด็กพวกนี้แล้ว ฮยอกแจเบ้หน้าทันทีที่ลองนั่งคิดถึงชีวิตประจำวันของตัวเองหลังจากนี้ เขาจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนชดเชยตลอดทั้งสัปดาห์ ทางโรงเรียนเพิ่งติดต่อมาเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าฮยอกแจต้องแยกคลาสพิเศษ และเรียนรวมกับพวกที่มีปัญหาคล้ายๆกันอะไรทำนองนั้น
ถ้าเป็นแบบนั้นสู้ยอมปวดหัวกับเจ้าเด็กพวกนี้ยังดีกว่าอีก
แต่เขามีทางเลือกซะที่ไหน
ระหว่างที่นั่งคิดอะไรเพลินๆสายตาก็ดันไปสะดุดกับร่างกลมๆที่นั่งอยู่หลังห้อง และสายตาดื้อรั้นคู่นั้นก็ดันเหวี่ยงมาทางเขาพอดิบพอดี ฮยอกแจจ้องกลับไปด้วยความแปลกใจนิดหน่อย และเขาคิดว่าเขาไม่ควรจะเป็นฝ่ายหลบตาก่อน
“อะไรอีกเนี่ย…” ริมฝีปากบางสบถออกมาเบาๆเมื่อทงเฮไม่ยอมละสายตาไปจากเขาเสียที สุดท้ายก็เป็นฮยอกแจเองที่ต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทาง และทำแสร้งหยิบหนังสือเล่มที่ใกล้ตัวที่สุดขึ้นมาเปิดอ่าน
เป็นเด็กที่พิลึกดีจริงๆ
ฮยอกแจจมดิ่งลงไปกับเรื่องราวในหนังสือเล่มนั้น เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองทงเฮอีก จนกระทั่งบรรทัดสุดท้ายจบลงจึงยอมละสายตาขึ้นมา ร่างบางบิดขี้เกียจแล้วลุกขึ้นจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็จำต้องหยุดฝีเท้าเพราะเสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“จะไปไหน”
ห้วนขนาดนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใคร
“เข้าห้องน้ำ” หันไปตอบ พร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง โซรากำลังวุ่นอยู่กับจัดการกับความวุ่นวายที่คิมจงอุนก่อ ส่วนเด็กคนอื่นๆก็อยู่ในโลกของตัวเองไปตามประสา
“พี่ฮยอกแจจะไปไหน”
ฮยอกแจเบนสายตากลับมาขมวดคิ้วมองไอ้เด็กตรงหน้าที่ถามย้ำกลับมาอีกครั้ง
“เข้าห้องน้ำไง จะไปด้วยเหรอ” อดจะแปลกใจไม่ได้ที่แววตาของทงเฮไม่มีความอวดดีและดื้อรั้นเหมือนอย่างที่ผ่านๆมาแล้ว ฮยอกแจทำท่าจะเดินเลี่ยงไปในเมื่อทงเฮไม่ยอมตอบ แต่ทงเฮก็ทำให้เขาต้องแปลกใจอีกรอบด้วยการเดินตามมาแล้วถามต่อ
“พี่ฮยอกแจจะมาอีกมั้ย”
ฮยอกแจอมยิ้มนิดหน่อยที่ได้ยินแบบนั้น ขาทั้งสองข้างก้าวไปตามทางเดินเรื่อยๆโดยไม่ได้หันกลับไปมองเด็กชายที่เดินตามหลังมา
“ไม่มาแล้ว”
“ทำไม”
“คำว่าครับท้ายประโยคหายไปไหน? ถ้ายังพูดไม่เพราะก็ไม่ตอบ”
ร่างบางหยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ก่อนจะหันกลับไปเลิกคิ้วเป็นเชิงว่ารอให้อีกฝ่ายพูดจาเพราะๆให้ชื่นใจก่อนแล้วถึงจะตอบ แต่แน่นอนว่าเด็กฟอร์มเยอะอย่างทงเฮไม่มีทางยอม เด็กชายเบะปากแล้วหันหน้าหนีไปทาง แล้วฮยอกแจก็ต้องเป็นฝ่ายยอมไปตามระเบียบ
“ทงเฮเห็นนั่นมั้ย” ร่างบางย่อตัวลงนั่ง ก่อนที่ปลายนิ้วจะชี้ไปยังโรงเรียนไฮสคูลของพ่อคยูฮยอน “ตึกสูงๆตรงนู้น”
“……………..”
“เดี๋ยวพี่ฮยอกแจต้องไปที่นั่นล่ะ”
“……………..”
“คงไม่ได้มากวนใจทงเฮแล้ว”
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนทั้งคู่อยู่พักใหญ่ ก่อนที่ฮยอกแจจะหยัดตัวขึ้นยืนพร้อมกับยีผมเด็กชายเบาๆ ทงเฮยังคงนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยแววตามุ่งมั่งจ้องมองไปยังตึกสูงๆที่ว่า
“จะเข้าด้วยกันมั้ย”
ฮยอกแจหันมาถาม แต่เมื่อทงเฮไม่ตอบ ก็เลยถือวิสาสะคว้าตัวเด็กชายเข้าห้องน้ำมาด้วยกัน ทงเฮไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะเริ่มปวดละเหมือนกัน พอเข้าไปแล้วก็เตรียมจะแกะกระดุม แต่กลับมีมือหนึ่งของคนตัวสูงกว่ายื่นมาช่วยจนต้องรีบเบี่ยงตัวหนี
“ทงเฮถอดเองได้”
“เอ้า คนเค้าอุตสาห์มีน้ำใจ” ฮยอกแจเบ้หน้า ก่อนจะเดินเลี่ยงไปส่องกระจกล้างไม้ล้างมือรอ พอหันกลับไปมองอีกทีก็ถูกเสียงแข็งๆของคนที่กำลังทำธุระส่วนตัวตอบกลับมาทันที
“อย่ามอง”
-_,-
ไอ้เด็กนี่…
มีอยู่แค่นั้นใครจะไปอยากมองกันเล่า!
เมื่อเสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น นั่นก็หมายความว่าชีวิตวัยอนุบาลของเหล่าลูกลิงทั้งหลายก็สิ้นสุดลงเช่นกัน พวกเด็กๆยังคงส่งเสียงเจี้ยวจ้าวและไม่เป็นระเบียบจนถึงวินาทีสุดท้ายจริงๆ ฮยอกแจเห็นสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ของโซราแล้วก็แอบขำออกมาคนเดียว
แต่ในที่สุดนางฟ้าก็สามารถทำให้เหล่าเด็กปีศาจนั่งเรียงแถวกันได้อย่างเป็นระเบียบเพื่อรอผู้ปกครองมารับ ฮยอกแจนั่งมองภาพคุณพ่อคุณแม่จูงมือเด็กตัวน้อยกลับไปคนแล้วคนเล่าด้วยรอยยิ้ม เขาเพิ่งพบว่าการดูแลเด็กพวกนี้มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่เคยคิด…
ร่างบางกวาดสายตามองไปรอบๆ มือก็นั่งไล่เช็ครายชื่อว่าใครกลับไปแล้วบ้าง และเท่าที่ดูก็เหมือนจะเหลือแค่กลุ่มของคิมจงอุนกับซองมินเท่านั้น
“ฮยอกแจไปรอในรถไป เดี๋ยวทำเอง”
โซราเดินเข้ามาพร้อมกับดึงแฟ้มรายชื่อในมือของฮยอกแจไปไว้กับตัว ซึ่งคนเป็นน้องก็ได้แต่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอแล้วกระทืบเท้าออกไปตามคำสั่ง ถึงจะเหลืออีกแค่ไม่กี่คนแต่เขาก็ยังอยากช่วยโซราไปจนกว่าจะถึงเวลาล็อคประตูแล้วกลับบ้านพร้อมกัน
“ฮยอกแจ เดี๋ยว”
“หื้อ”
“ทงเฮยังไม่ได้กลับนี่นา”
ประโยคนั้นทำเอาคิ้วของฮยอกแจขมวดแน่น ร่างบางเดินกลับไปเช็ครายชื่อในแฟ้มอีกครั้งแล้วก็พบว่าทงเฮยังไม่กลับจริงๆด้วย ริมฝีปากบางพึมพำออกมาอย่างแปลกใจ ก่อนจะกวาดสายตามองหาเด็กตัวกลมที่ไม่ได้นั่งรวมกลุ่มอยู่กับพวกคิมจงอุนเหมือนอย่างเคย
ฮยอกแจชะโงกหน้าออกมาข้างนอกห้องด้วยความกังวล แล้วก็เจอร่างกลมๆนั่งอยู่บนม้านั่งที่สนามเด็กเล่น เท่านั้นร่างบางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หันไปบอกโซราว่าเจอแล้ว จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเด็กชายที่เอาแต่มองตรงไปข้างหน้า ไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนย่องเข้ามาด้านหลัง
“ทงเฮ”
“เฮ้ย!” เจ้าของชื่อสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะเหวี่ยงสายตาหงุดหงิดมาทางฮยอกแจแทนที
“โทษทีๆ” ฮยอกแจหัวเราะ “มานั่งทำอะไรคนเดียวฮึ?”
“รอหม่าม๊า”
“ก็แล้วทำไมไม่ไปนั่งรวมกับเพื่อนๆในห้องล่ะ”
ทงเฮไม่ได้ตอบ และไม่ได้มองมาทางฮยอกแจด้วย ถ้ามันไม่เป็นการเข้าข้างตัวเองเกินไป ร่างบางก็พอจะเดาได้ว่าเด็กชายกำลังคิดอะไรและรู้สึกแบบไหน
พี่ฮยอกแจไม่อยู่ทงเฮไม่ดีใจเหรอ ฮยอกแจอยากจะถามออกไป เขาอยากรู้ว่าคนตรงหน้าจะตอบแบบไหน แต่ฮยอกแจก็ไม่ได้ถาม ร่างบางนั่งลงข้างๆทงเฮ ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงใส
“พรุ่งนี้คงไม่ได้เจอกันแล้วนะ”
“……………”
“ห้ามดื้อกับคุณครูเข้าใจมั้ยครับ”
“…………..”
“ทงเฮต้องตั้งใจเรียนนะ”
สายลมยามเย็นพัดผ่านทั้งคู่ไป ไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนั้น ทงเฮเอาแต่นิ่งเงียบ ส่วนฮยอกแจเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น ถ้าลองมองอีกแง่ นี่มันก็เป็นแค่ช่วงหนึ่ง แค่อารมณ์ของเด็กอนุบาล ไม่นานทงเฮก็จะลืมเอง
อีกไม่นาน พี่ฮยอกแจคนนี้ก็คงไม่อยู่ในความทรงจำของทงเฮอีก
“ทงเฮ…” ฮยอกแจเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบา “พี่ฮยอกแจไปแล้วนะ”
ร่างบางหยัดตัวขึ้น ก่อนจะคลี่รอยยิ้มบางๆให้เด็กชาย แม้ว่าทงเฮจะไม่ได้เงยหน้ามามองก็ตาม ฮยอกแจลอบถอนใจก่อนจะคว้าแขนเล็กให้ลุกตามมา
“ไปนั่งรอกับซองมินในห้องไป”
ทีแรกเจ้าเด็กดื้อนี่ก็ทำท่าจะไม่ยอมไปจนต้องอุ้มขึ้นมานั่นล่ะถึงยอมสงบลง
ทงเฮต้องมีเพื่อน
นั่นคือสิ่งเดียวที่อีฮยอกแจต้องการ
ฮยอกแจพาทงเฮไปนั่งข้างๆซองมิน ก่อนจะโน้มตัวลงฝังปลายจมูกลงบนแก้มนิ่มเป็นครั้งสุดท้าย ริมฝีปากบางส่งรอยยิ้มจางๆไปให้ แล้วกลั้นใจหันหลังเดินออกมาในที่สุด
เขารู้สึกวูบโหวงอยู่ข้างในกับภาพสุดท้ายที่เห็น…
ทงเฮร้องไห้
This emptiness in the bottom drawer
It’s getting harder to pretend
“ทงเฮ…โดนเพื่อนแกล้งมาเหรอคะ?”
เสียงของคนเป็นแม่เอ่ยถามด้วยความห่วงใยขณะขับรถกลับบ้าน ลูกชายตัวน้อยของเธอเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ถามอะไรก็เอาแต่สั่นหน้าแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง
“หรือว่า…นานะจังไม่มาโรงเรียน?” เธอพยายามคาดเดาไปตามความน่าจะเป็นที่ทำให้ลูกชายคนเก่งกลายเป็นคนเศร้าซึมได้ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ในเมื่อทงเฮไม่ยอมพูดอะไรเธอจึงยอมแพ้แล้วตั้งใจขับรถไปเรื่อยๆ เอาไว้ถึงบ้านค่อยให้ป่าป๊าช่วยกล่อมอีกแรงน่าจะโอเคกว่า
“หม่าม๊า”
แต่ก็ผิดคาด…ทงเฮเป็นฝ่ายเริ่มพูดขึ้นก่อน
“พาทงเฮไปที่นั่นหน่อย” นิ้วเล็กๆชี้ไปยังโรงเรียนไฮสคูลที่อยู่ไม่ไกล “ตึกนั่น”
“จะไปทำไมหื้ม?”
“อยากไป”
คำตอบและแววตาที่ดูมุ่งมั่นจนน่ากลัวนั้นทำให้คนเป็นแม่ถึงกับแปลกใจ
“เอาไว้วันหลังนะ” แต่ก็ตอบปัดไปเพราะคิดว่าไม่สำคัญอะไร “วันนี้เย็นแล้ว ป่าป๊ารอกินข้าวอยู่ที่บ้าน”
.
.
.
แต่วันแล้ว…วันเล่า…
“หม่าม๊า ทงเฮอยากไปที่นั่น”
เด็กชายก็ยังคงพร่ำประโยคเดิมๆออกมาทุกครั้งที่นั่งรถผ่าน…
“หม่าม๊าพาทงเฮไปหน่อยนะ”
เวลาผ่านไป….
“หม่าม๊า เมื่อไหร่จะพาทงเฮไป”
จากเดือนกลายเป็นปี
“หม่าม๊า!”
“ถ้าหม่าม๊าไม่พาไปทงเฮจะไปเองแล้วนะ!”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนเป็นแม่หันมามองลูกชายด้วยสายตาประหลาดๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอตัดสินใจไม่บ่ายเบี่ยงและถามกลับไปถึงเหตุผล
“ไหนทงเฮบอกหม่าม๊ามาซิว่าทำไมถึงอยากให้พาไป”
ทงเฮโตขึ้นมากแล้ว…บางทีถ้าเธอจะตามใจเด็กคนนี้บ้าง…
“อยากเรียนที่นั่นเหรอ”
“เรียน?”
“ก็นั่นมันโรงเรียนมัธยมไง ทงเฮอยากเรียนที่นั่นเหรอ”
“…………..”
“ถ้างั้นทงเฮต้องตั้งใจเรียนนะ แล้วสอบให้ได้”
“สอบได้แล้วจะเป็นยังไง”
“ทงเฮก็จะได้ไปที่นั่นทุกวันเลยไง”
“หม่าม๊าพูดจริงๆนะ”
แววตาของเด็กหนุ่มทอประกาย
“โอเค! ทงเฮจะสอบให้ได้!”
But I’m not lost
I’m not gone
I haven’t forgot
TBC
ตอนต่อไปไม่มีน้องเฮแล้วนะ
ความคิดเห็น