ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : (OS) üvegedények -GongBin-
Couple : Gongchan x Hongbin
"ผมคิดว่าโปรเจคของคุณล้มเหลวนะมิสเตอร์กง"
น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยว่าก่อนจะส่งโหลแก้วคืนมาให้กับวัยรุ่นหนุ่มตรงหน้า ดวงตาเคร่งเครียดภายใต้แว่นกรอบหนาสีดำเงยมองสิ่งมีชีวิตตรงหน้าก่อนจะก้มลงขีดเขียนบางอย่าง
"ผมขอสั่งให้คุณทำลายมันทิ้ง"
มิสเตอร์กงหรือกงชานชิกรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างในตัวของเขากำลังพังทลายลง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าทำสีหน้านิ่งเฉยเป็นการยอมรับและก้าวพาตัวเองออกไปนอกสถานที่นี้
ดวงตาเรียวก้มลงมองขวดโหลแก้วในมืออย่างเสียใจแต่ก็ยัดมันเข้าด้านในสิ่งที่ปกคลุมร่างกายและเดินทางกลับไปที่บ้านของตัวเอง หัวสมองครุ่นคิดอย่างหนักถึงสิ่งที่ทำให้โปรเจคของเขาผิดพลาดแต่ดูเหมือนจะไม่มี หรืออาจมีบางสิ่งที่มิสเตอร์แกสตันรู้เพียงแต่ไม่บอกนักเรียนอย่างเขา
สิ่งขับเคลื่อนหยุดลงก่อนร่างสูงโปร่งของกงชานชิกจะก้าวลงและกลับเข้าบ้าน ปล่อยรองเท้าถอดไว้อย่างสะเปะสะปะ ก้าวขาขึ้นบันไดก่อนจะปิดประตูห้องของตัวเอง ทิ้งตัวคว่ำลงกับเตียงและหยิบเอาขวดโหลขนาดกลางขึ้นมาเพ่งมองใกล้ๆตา
ดาวเคราห์สีน้ำเงินดวงน้อยยังคงลอยอยู่ด้านใน ลอยเคว้งคว้างดังเช่นวันแรกที่กงชานชิกได้รับมันมา ตาคู่เรียวเพ่งไปด้านในก่อนจะพบกับสิ่งที่เขาต้องการ พลังอ่อนๆที่เป็นส่วนหนึ่งของเขากำลังทำหน้าที่ของมัน และกงชานชิกตกหลุมรักเศษเสี้ยวพลังงานจากตัวของเขาเอง
พลังงานที่ชื่อว่าอีฮงบิน
กงชานชิกจำไม่ได้แล้วว่าเขาตื่นเต้นแค่ไหนตอนที่พลังของตัวเองถูกแบ่งออกไปส่วนหนึ่งเพื่อเติมเต็มดาวเคราห์ดวงนึงที่มีสีน้ำเงิน สีเขียวและสีขาวประปรายอย่างเช่นดาวเคราห์โลก โปรเจคที่เพิ่งถูกมิสเตอร์แกสตันสั่งให้ทำลายทิ้งเมื่อครู่
เขาแทบจะใช้เวลาทั้งวันกับการเฝ้ามองวิถีชีวิตของสิ่งที่คิดว่าตัวเองมีชีวิตและสูงกว่าสิ่งใดๆทั้งปวงอย่างมนุษย์ บ้างขับรถ บ้างกำลังกิน หรือบ้างที่ใช้เวลาอยู่กับผืนน้ำสีคราม
แต่แล้วเขาก็สะดุดใจกับบางสิ่ง วัยรุ่นราวคราวเดียวกับเขาที่มีรอยยิ้มเจิดจ้า รอยบุ๋มข้างแก้มกับดวงตากลมโตและคางทรงตัด หากมาอยู่ที่นี่คงน่ารักไม่น้อยเชียวล่ะ คนๆนั้นหยุดสายตาของกงชานชิกไว้แทบจะในทันที
อาทิตย์ต่อมามิสเตอร์แกสตันบอกวิธีที่ทำให้เราสามารถเคลื่อนย้ายมวลสารเข้าไปในดาวเคราะห์โลกได้ กงชานชิกไม่รอช้าเลยที่จะส่งตัวเองเข้าไปในนั้น ที่ในแผนที่บอกว่าคือประเทศเกาหลี
แต่แล้วโลกดวงเล็กๆนั่นดูจะใหญ่เกินไปเขาถึงได้หาสิ่งมีชีวิตที่มีรอยยิ้มเจิดจ้าคนนั้นไม่เจอ กงชานชิกกลับออกมาด้วยแววตาที่เสียใจแต่ก็ต้องรีบปกปิดมันไว้เพราะหากถูกจับได้เขาคงถูกไล่ออกและไม่มีทางได้เจอคนๆนั้นอีกแน่
คืนนั้นเขาใช้เวลาเกือบทั้งคืนในการเฝ้ามองคนที่มีรอยยิ้มเจิดจ้าคนนั้น ดูเหมือนในช่วงเย็นเขาจะวุ่นวายอยู่กับจอสี่เหลี่ยมอยู่หลายชั่วโมง กลับบ้านไปกอดแม่ของเขาและทำการบ้านก่อนเข้านอน เป็นเรื่องราวธรรมดาที่กงชานชิกเองก็ล้วนแต่ผ่านมันมาทั้งหมดแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน
กงชานชิกอดใจรอไม่ไหวเมื่อวันหยุดเคลื่อนเข้ามาใกล้ และเมื่อมันมาถึงเขาไม่รอเลยที่จะบอกแม่ของเขาว่าต้องทำงานและห้ามรบกวน ก่อนจะพาตัวเองกลับเข้าไปในโลกใบเดิมอีกครั้ง
และครั้งนี้ดูเหมือนจะได้ผลเมื่อเขาโผล่มาที่ระแวกบ้านของคนที่มีรอยยิ้มเจิดจ้าคนนั้นพอดี และกงชานชิกใช้เวลามากพอที่จะจดจำได้ว่าบ้านหลังที่ทารั้วสีน้ำตาลเข้มนั่นแหละคือเป้าหมาย
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะพบและพูดคุยกับคนๆนั้นได้อย่างไร กงชานชิกไม่รู้วิธีควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆในโลกมนุษย์ได้ เขาจึงต้องปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้น
ดงตาเรียวมองชะเง้อเข้าไปในบ้านอีกครั้งหลังจากยืนอยู่ตรงนี้มาสักพัก คนที่มีรอยยิ้มเจิดจ้าคนนั้นก้าวออกมานอกบ้านพร้อมกับเสื้อแขนยาวสีขาวที่คลุมด้วยแจ๊คเก็ตแขนกุดสีเหลืองสดใสไม่น้อยไปกว่ารอยยิ้ม
และสุดท้ายตากลมๆคู่นั้นก็หันมา
กงชานชิกยืนนิ่งอยู่กับที่จนคนๆนั้นเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ กลิ่นหอมอ่อนๆที่เขาไม่รู้จักลอยมาแตะจมูกเช่นเดียวกับคนที่มีรอยยิ้มเจิดจ้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า
เขาเพิ่งได้เห็นอย่างเต็มตาว่าสิ่งมีชีวิตที่ชื่อมนุษย์มีรูปลักษณ์ที่งดงามถึงเพียงนี้ แม้จะมีทุกอย่างเหมือนกันกับเขาแต่กงชานชิกรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้าแตกต่าง เหมือนรูปทรงสี่เหลี่ยมท่ามกลางรูปทรงกลมยังไงอย่างงั้น
'หลงทางเหรอครับ ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลย'
เสียงทุ้มต่ำที่เพิ่งได้ยินครั้งแรกทักขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักถูกส่งมาให้ กงชานชิกยิ้มรับก่อนจะเริ่มทำหน้ายุ่งอีกครั้งเมื่อไม่รู้วิธีพูดภาษาเดียวกับคนตรงหน้า
'ผม..'
เพียงแต่หลุดคำพูดออกมาครั้งเดียวตากลมๆคู่นั้นก็เบิกกว้าขึ้นเหมือนตั้งใจฟังจนบางอย่างในตัวของเขาสั่นรัว
'พอจะพาไปที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆตรงนี้ได้ไหมครับ'
แปลกใจอยู่ไม่น้อยกับภาษาแปลกๆที่กงชานชิกเองก็เข้าใจและพูดมันออกมาได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจมากกว่านั้นคือคนที่มีรอยยิ้มเจิดจ้าตรงหน้าก้าวนำไปอย่างไม่รีรอ
'คงไม่ใช่คนแถวนี้สินะครับ ผมชื่ออีฮงบินนะ'
อีฮงบิน ชื่อที่กงชานชิกคิดว่ามันน่ารักมากๆถูกบันทึกลงในความทรงจำ ตาเรียวมองตามแผ่นหลังที่กว้างกว่าของเขาอยู่สักหน่อยแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดจนบดบังความน่ารักของคนตรงหน้าลงแต่อย่างใด ขาเรียวยาวก้าวเร็วขึ้นเพื่อเดินให้ทันกับคนที่เพิ่งรู้จักชื่อเมื่อครู่
'ผมชื่อกงชานชิก ยินดีที่ได้รู้จักครับ'
และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้คุยกับมนุษย์ที่ชื่ออีฮงบิน นอกจากใบหน้าน่ารักกับกลิ่นตัวหอมๆ ทำให้กงชานชิกรู้สึกอยากพบกับมนุษย์คนนั้นเพิ่มอีกเป็นทวีคูณ
หลังจากนั้นไม่นานกงชานชิกก็ได้พบกับอีฮงบินบ่อยขึ้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นเวลาค่ำๆหรือวันหยุด จนทั้งคู่สนิทกันมากพอควร กงชานชิกตกหลุมรักรอยยิ้มนั้นเข้าอย่างจังและมันเพิ่มมากขึ้นทุกๆวัน มากเสียจนอยากบอกเรื่องราวทั้งหมดให้กับอีฮงบินได้รู้
แต่ก่อนที่เรื่องทั้งหมดจะถูกบอกออกไปโปรเจคนี้กลับถูกบอกว่าล้มเหลว ปลายนิ้วเรียวลูบเบาๆที่ข้างขวดโหลแก้วใสอย่างครุ่นคิด ภายในหัวตีกันยุ่งเหยิงไปหมดแต่สุดท้ายก็เก็บขวดโหลยัดใส่ใต้หมอนและล้มตัวลงนอนอย่างที่ทำประจำ
กงชานชิกจะไม่ทำลายขวดโหลใบนั้นทิ้ง เขาจะเก็บมันไว้จนกว่าจะได้ครอบครองรอยยิ้มเจิดจ้านั่น หรือจนกว่าจะพาอีฮงบินมาเจอครอบครัวของเขาได้นั่นแหละ
เพราะกงชานชิกตกหลุมรักอีฮงบินเข้าอย่างจัง
--- The End ---
หู้ยยย บอกเลยว่าเรื่องมีความงงมากในตอนท้าย แต่ไม่เป็นไร เราจะอธิบายค่ะ ก็คือเราไปเจอทวิตของคุณ @_PrimReilly ที่บอกว่าโลกอาจจะเป็นโปรเจคที่ผิดพลาดของเอเลี่ยนตัวนึง แล้วความคิดมันก็พรั่งพรูมาเลยค่ะ ก็เลยกลายมาเป็นฟิคเรื่องนี้
ส่วนที่มาที่ไป ความเป็นไปได้อะไรงี้เราไม่แน่นแล้วก็ไม่เน้นนะคะ เอาแค่ว่าเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ก็พอ เพราะถ้าวางหมดเลยจริงๆนี่คงกลายเป็นฟิคยาวอะค่ะ ย่อได้ก็ย่อดีกว่าไม่ว่ากันเนอะ😂
ที่เลือกให้กงชานเป็นตัวเอกเพราะว่าพี่ๆในวงชอบบอกว่ากงชานเป็นเอเลี่ยนอะ ก็เลยจัดซะเลย สมใจ 5555555555555 จำไม่ได้แล้วว่าใครบอกจะอ่าน เอาเป็นว่าแต่งให้ละน้า อ่านให้สนุกนะคะ มีแท็กฟิคด้วยย
#โหลแก้วของกงชาน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น