ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : (OS) Set The Scene -GongYoung-
Couple : Gongchan x Jinyoung
"จินยองๆ เดี๋ยวช่วยจัดเรื่องของลูกค้ารายใหม่ด้วยนะ"
ยังไม่ทันได้เงยหน้าจากโน้ตบุ๊คดีกองเอกสารก็ถูกวางลงข้างๆเต็มๆ กดเซฟงานก่อนจะหันมาเปิดแฟ้มอันใหญ่ที่สุดบนโต๊ะ
ดูเหมือนบรรยากาศรอบข้างจะวุ่นวายมากเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่คนนิยมจะแต่งงาน แน่นอน บริษัทจัดหาคู่อย่างที่นี่ก็ต้องวุ่นวายด้วยเช่นเดียวกัน
ในช่องสองสามปีที่ผ่านมานี้คนนิยมที่จะใช้บริษัทเราอย่างมาก ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะหาคนในชีวิตจริงๆมันยากมากรึไงถึงได้ต้องมาจ้างวานแบบนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะ
รื้ออ่านแฟ้มประวัติไปได้จนถึงอันสุดท้ายก็ต้องชงักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
ชื่อ-สกุล : กง ชานชิก
ว/ด/ป เกิด : 14/08/1993
ส่วนสูง : 181
เพศ : ชาย
ว/ด/ป เกิด : 14/08/1993
ส่วนสูง : 181
เพศ : ชาย
กงชาน? หมอนั่นจะแต่งงานเหรอ?
ได้ยินชื่อแล้วหน้ากับเสียงกวนๆก็ลอยตามมาทันที เด็กผู้ชายตาเบี้ยวๆชอบทำตัวแว๊นๆ เด็กแถวบ้านที่ไม่ได้เจอมาตั้งหลายปี เหลือบมองรูปตรงริมที่แปะมาด้วยก็ระบายยิ้มออกมา โตมากขึ้นจริงๆนะเนี่ย
อ่านรายระเอียดถึงผู้หญิงแบบที่ต้องการมาด้วยก็ต้องคิดหนักก่อนจะนึกถึงลูกค้าผู้หญิงที่เคยอ่านเมื่อสองสามวันก่อน
คิมฮยอนอา!!
ถึงจะยังรู้สึกตะขิดตะข่วงใจว่าทำไมรีบแต่งงานทั้งที่อายุแค่ยี่สิบ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้นี่นา
รีบต่อสายหาเบอร์ที่แนบมาก่อนมือจะหันไปรัวข้อความใส่โน้ตบุ้ค
'สวัสดีครับ'
น่าแปลก เสียงที่รับสายกลับเป็นเสียงผู้ชายที่ดูจะมีอายุ
"สวัสดีครับคุณกงชานชิก ผมโทรมาจากบริษัท.."
จัดการบอกถึงรายละเอียดของผู้หญิงที่ต้องการและในที่สุดฝ่ายนู้นก็ตกลง
"ถ้าอย่างนั้นคุณสะดวกวันไหนครับ ผมจะเอารายละเอียดแล้วก็สัญญาไปให้อ่าน"
"พรุ่งนี้ตอนบ่ายว่างไหมครับ?"
"เรื่องสถานที่ผมจะส่งเมลไปบอกนะครับ ขอบคุณครับ"
เคลียร์ไปอีกหนึ่ง
และแล้ววันที่ต้องไปเจอเจ้าชานชิกก็มาถึง ผมหอบเอกสารพะรุงพะรังไปทางร้านที่นัดไว้
พลั่ก
"โอ้ย!"
ก้นจ้ำเบ้ากับพื้นเมื่อเดินชนกับใครสักคนที่กำลังจะเดินเข้าร้านพอดีแถมเอกสารยังหล่นลงพื้นจนกระจัดกระจายไปหมด
"เป็นอะไรมั้ยครับคุณ"
เพราะเสียงทุ้มคุ้นหูทำให้ผมละความเจ็บเงยหน้าขึ้นมองแทน
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะนิ่งไปพอเห็นหน้าผม ดูชานชิกสิ ไม่ได้ดูโตขึ้นเลยสักนิดหน้าตาก็เหมือนเดิม ที่ดูจะแปลกไปก็แค่ความสูงกับชุดสูทราคาแพงเท่านั้น
"จำพี่ไม่ได้เหรอ?"
ยกมือขึ้นโบกไปมาผ่านคนตรงหน้าก็ดูเหมือนจะเรียกสติคืนมาได้ มือใหญ่กุมมือผมไว้ก่อนจะเบียดตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับสองแขนที่โอบรอบเอว
"ชานชิก?"
ถึงจะตกใจแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธกอดอุ่นๆนี่ ยกมืออีกข้างลูบหลังเพื่อปลอบก่อนจะดันตัวออกมา
"ไหน ไอเด็กแว๊น บอกพี่มาซิ้เป็นอะไร"
พอสบกับตาคมสีหน้าชานชิกก็ดูจะบึ้งขึ้นในทันที
"พ่อจะให้ผมแต่งงาน"
ถึงกับบางอ้อเลยในทันที
"ไม่ต้องกลัวนะชานชิก เชื่อมือพี่สิพี่เลือกผู้หญิงที่ดีให้นายเลยนะ!"
คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนตาคมจะไล่ไปตามตัวจนเจอเข้ากับป้ายบริษัท ร่างสูงลุกขึ้นก่อนจะเดินหันหลังเข้าร้านไปอย่างเร็ว
"ชานชิก.."
จัดการเก็บเอกสารที่ตกเต็มพื้นก่อนจะเดินเข้ามาในร้าน มองไปทางไพรเวทโซนก็เจอวอนชิกกับคุณกงพ่อของชานชิกนั่งอยู่ก่อนแล้ว
"สวัสดีครับ"
เอ่ยทักเป็นมารยาทก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม
"จองจินยอง?"
พอคุณกงเห็นว่าผมเป็นใครสีหน้าก็ดูจะผ่อนลงมาก ผมคุยเรื่องจิปาถะไปเรื่อยรวมถึงเรื่องแต่งงาน
ถ้าถามว่าผมกับชานชิกและครอบครัวกงสนิทกันขนาดไหนล่ะก็..
หลายปีก่อน
คงเป็นเพราะเสียงมอเตอร์ไซค์ที่ขับวนไปมาหน้าบ้านทำให้ผมต้องตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์บูด หันมองนาฬิกาก็เห็นว่าเพิ่งจะตีสองนิดๆ
'ไอเด็กแว๊นชานชิก!! จะขี่ก็ไปขี่ที่อื่นดิ้พรุ่งนี้มีเรียนนะเว้ย'
เดินออกไปตรงระเบียงก่อนจะตะโกนลงไป เวลาแบบนี้และยิ่งแถวนี้อีกด้วย มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ
'พี่จินยองไปเที่ยวกัน เบื่อ'
มองเด็กชายที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะดีก็ต้องถอนหายใจ เพราะมีอยู่ครั้งนึงที่ผมต้องสอบเลยเอาที่อุดหูมาใส่ กลายเป็นว่าไอเด็กนี่ก็นั่งรออยู่หน้าบ้านจนไข้ขึ้นลำบากต้องไปดูแลอีก
'จะไปไหนน่ะ!'
หลังจากรับหมวกกันน็อคพร้อมกับขึ้นซ้อนท้ายแล้วชานชิกก็เร่งรถก่อนจะออกตัวอย่างแรง ผมที่กลัวตกก็เลยยกมือขึ้นกอดเอวไว้แทบไม่ทัน
ชานชิกไม่ตอบนอกจากขับต่อไปเงียบๆ นึกสภาพออกมั้ยครับรถเคเอสอาร์คันเล็กๆกับผู้ชายสองคน
หลังจากขับมาได้สักพัก ผมที่เกือบจะเผลอหลับก็สะดุ้งตื่นขึ้นเพราะกลิ่นของน้ำเย็นๆที่ลอยมา
'สะพานข้ามแม่น้ำ?'
น่าแปลกที่ชานชิกพามาที่นี่ ปกติแค่ขับรถสักพักก็วนกลับมาส่งที่เดิมแล้ว
'ลงมาก่อน'
พูดจบผมก็เลื่อนตัวลงมา มือเรียวเปิดเบาะขึ้นก่อนจะหยิบนมออกมาสองขวด
'พี่ควรจะกินนะจะได้สูงๆ'
แยกเขี้ยวไปให้ก่อนจะขึ้นนั่งบนรถเหมือนเดิม ปล่อยให้ไอเด็กนี่ยืนไปนั่นแหละ
'ว่าไงมีอะไรถึงพามาที่นี่?'
เพราะตีสองรถเลยไม่ค่อยจะวิ่งแล้ว ผมมองชานชิกที่ดูเหมือนจะกังวลใจอะไรบางอย่างก็ยกมือขึ้นลูบผมนิ่มสีดำธรรมชาติเบาๆ
'มีอะไรก็บอกพี่ได้นะ ถึงตอนนี้จะยังไม่พร้อมแต่พี่รับฟังได้นะ'
ไม่รู้ว่าไปเจอเรื่องอะไรมาบ้าง เห็นทำตัวแปลกๆแบบนี้แต่ชานชิกเป็นเด็กดี รักครอบครัว ตลอดเวลาที่ผมรู้จักหมอนี่มามันพิสูจน์ได้อย่างดี
'ผมชอบพี่'
เพราะคำสารภาพทำให้มือผมชงัก เลื่อนมองสบตาคมที่แสดงความรู้สึกออกมาก็รู้ว่าที่พูดมาเป็นเรื่องจริง
'พี่ชอบผมรึเปล่า?'
ผมเลือกที่จะไม่ตอบและหลบสายตา นานจนหลายนาที ชานชิกไม่ได้คาดคั้นอะไรนอกจากขับรถกลับมาส่งผมที่บ้านเหมือนเดิม สองสามวันให้หลังผมก็มารู้ว่าหมอนั่นย้ายบ้าน ผมเองก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะเดินไปบอกลาด้วยซ้ำ
สุดท้ายเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
"รายละเอียดก็มีเท่านี้นะครับ ส่วนคุณคิมฮยอนอาผมนัดเธอให้แล้ว จะให้ชานชิกไปเจอในวันมะรืนที่สวนสนุกน่ะครับ"
ดูท่าทางคุณกงจะพอใจอย่างมาก พอหันไปเห็นหน้าชานชิกก็ได้แค่ส่งยิ้มเจือนๆไปให้เพราะเจ้าตัวดูไม่อยากจะแต่งเลยสักนิด
ขอตัวแยกออกมาพร้อมกับเอกสารที่น้อยลงไปถนัดตา เดินขึ้นรถก่อนจะจัดของให้เป็นที่เป็นทางอย่างที่มันควรจะเป็น
ก๊อกๆ
เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าเป็นชานชิก ผมลดหน้าต่างลงก่อนจะยื่นหน้าออกไป
"ไปด้วย"
แค่สองคำสั้นๆ ผมปลดล็อกรถก่อนร่างสูงจะก้าวขึ้นมานั่งข้างๆ
"จะไปไหนล่ะ"
เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาทั้งคันก็มีแต่ความเงียบ ผมเองก็ต้องกลับบริษัทเพราะมีงานต้องทำต่อแถมดูเหมือนชานชิกก็น่าจะมีเรียนด้วยดูจากกระเป๋าเป้นั่นแล้ว
"เมื่อก่อนนายพาพี่ขี่รถเล่นกลายเป็นตอนนี้พี่พานายนั่งรถซะละ"
ก็เห็นว่าบนรถมันเงียบเลยพูดสร้างบรรยากาศ
"ถ้าพี่จำได้พี่ก็ควรจำความรู้สึกผมได้นะ"
ผมเหลือบมองคนข้างๆก่อนจะถอนหายใจออกมา
"มันจะเป็นไปได้ยังไง นายอาจจะแค่รู้สึกดีก็ได้นะ"
ผมได้ยินเสียงจิ้ปากดังมาจากคนข้างๆก่อนเจ้าตัวจะเริ่มสาธยายยาวเหยียด
"งั้นพี่ก็ตอบผมสิ ผ่านมาตั้งหลายปีทำไมพี่ไม่มีแฟนสักที แล้วที่ยังอยู่บ้านเดิมทั้งๆที่ที่ทำงานก็อยู่ตั้งไกลมันคืออะไร ทุกๆตีสองทำไมพี่ต้องออกมานั่งที่ระเบียงพร้อมกับนม ถ้าผมแค่รู้สึกดีแล้วพี่ล่ะแค่รู้สึกดีกับผมรึเปล่า? พี่ตอบผมมา"
แอบทึ่งเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนตามมาตลอด เลี้ยวรถจอดข้างทางก่อนจะตบหน้าคนข้างๆไปเต็มแรง
ตาคมเบิกขึ้นเล็กน้อยหันมามองก่อนจะนิ่งไป ผมมองอะไรไม่ค่อยเห็นเพราะม่านน้ำตาที่เริ่มก่อแต่ผมก็พยายามกลั้นเอาไว้
"แล้วทำไมนายไม่รอฟังคำตอบ.. หายไปไหนมาตั้งนาน!"
เบนสายตาขึ้นพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลแต่มันก็ยากเหลือเดิน ทั้งความรู้สึกดีใจเสียใจมันปนเปกันไปหมด
"แล้วพี่จะปฏิเสธทำไม"
มือใหญ่จับเข้าที่กรอบหน้าก่อนจะออกแรงเบาๆให้สบตา
"เราต่างกันเกินไปชานชิก นายเด็กกว่า นายมีพร้อมทุกอย่างแต่พี่ไม่มีอะไรเลย มันคงจะดีกว่าถ้าปล่อยนายไปเจอคนที่ดี.."
ยิ่งพูดดูเหมือนตัวยิ่งสั่นมากกว่าเดิม ผมถูกโอบกอดด้วยวงแขนแกร่งของชานชิก ก้มหน้าซุกกับไหล่เขาปล่อยให้น้ำตาไหลในที่สุด
"สรุปว่าพี่ชอบผมใช่มั้ย"
พอเริ่มคุมสติตัวเองได้ชานชิกก็ถามคำถามเดิมที่ผมอึกอักจะไม่ตอบมาหลายปี
"พี่รักนาย ชานชิก"
พอได้พูดความรู้สึกไปก็เหมือนจะได้ยกภูเขาออกจากอก
"ตั้งแต่เมื่อไหร่ บอกผมได้มั้ย?"
ร่างสูงผละกอดออกก่อนจะยกมือเช็ดน้ำตาเม็ดสุดท้ายออกให้ พอผมมองเห็นแววตาของอีกคนใจก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
"พี่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็คอยแต่มองหานายแล้ว"
ยกมือขึ้นลูบไปตามโครงหน้าของอีกคนก่อนจะส่งยิ้มไปให้ ชานชิกไม่ตอบอะไรนอกจากเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้แล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากเบาๆ
"ถ้าอย่างนั้นไปบอกพ่อผมกันว่าผมจะแต่งงาน"
ตาผมเบิกโตทันทีก่อนจะหลุบลงเหมือนเดิม
"ขอบคุณที่นายเข้าใจพี่นะ ฮยอนอาเป็นคนดี"
พูดตามความจริง เพราะจากที่อ่านในประวัติมาแล้วได้คุยสองสามครั้งก็อดติดใจกับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้
"ใครบอกว่าผมจะแต่งกับคนนั้น ผมจะแต่งกับคนตรงหน้าผมตางหาก"
เหลือบตาขึ้นมองก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
"พี่ไม่คิดว่าคุณกงจะยอม"
ชานชิกส่ายหน้าก่อนจะกุมมือผมไว้
"ผมทำตัวเป็นเด็กดีมาตลอดหลายปี แต่เรื่องนี้ผมจะไม่ยอม ผมแต่งงานกับคนที่ไม่รู้สึกอะไรด้วยไม่ได้หรอกนะ"
อดปริ่มใจกับคนตรงหน้าไม่ได้ ชานชิกโตขึ้นมากจริงๆ มันก็คงจะไม่แย่เท่าไหร่มั้งถ้าจะฝากชีวิตไว้กับหมอนี่น่ะ..
"ถ้าอย่างนั้นพี่มานั่งตรงนี้ ผมจะพาเจ้าสาวไปหาพ่อ"
ตีแขนชานชิกไปทีนึงด้วยความเขินกับสิ่งที่ได้ยิน
"มานั่งนี่เร็ว"
พอชานชิกลงจากรถผมก็ปีนไปนั่งฝั่งข้างคนขับ มองวิวข้างทางไปเรื่อยๆพร้อมกับฟังเรื่องที่ชานชิกเล่า
"ถึงแล้ว"
มองบ้านหลังโตตรงหน้าก็อดหวั่นใจไม่ได้ ตอนนี้รู้สึกกลัวทุกอย่างจนปลายนิ้วเย็นเฉียบ
มองมืออุ่นข้างๆที่กุมมือตัวเองไว้ก็รู้สึกอุ่นใจ ชานชิกบีบมือผมเบาๆก่อนจะจูงเข้าไปในบ้าน
ก๊อกๆ
พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นคุณกงนั่งหันหลังให้อยู่ ชานชิกหันมายิ้มให้ผมบางๆก่อนจะจูงเข้าไปในห้อง
"พ่อครับ ผมจะแต่งงาน"
คุณกงดูเหมือนจะนิ่งไป เสียงปิดหนังสือดังขึ้นก่อนจะค่อยๆหันหน้ามาทางนี้
"ผมจะแต่งกับพี่จินยองครับ"
เผลอบีบมือใหญ่แน่นโดยไม่รู้ตัว คุณกงมีสีหน้าหนักใจมากเมื่อหันมาเห็นผมกับชานชิกจับมือกันอยู่
"แกแน่ใจนะว่าจะดูแลจองจินยองได้?"
เงยหน้ามองเสี้ยวด้านข้างของชานชิก เพราะตาคมที่ดูมุ่งมั่นทำให้ผมเชื่อใจไปเกินครึ่งแล้วว่าสามารถฝากชีวิตไว้กับหมอนี่ได้
"ครับ"
เสียงทุ้มที่ตอบไปอย่างไม่มีลังเลผมเลยอมยิ้มน้อยๆแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อคุณกงเบนสายตามาสบ
"จินยองเองก็ชอบกงชานใช่มั้ย?"
เผลอกัดริมฝีปากโดยไม่รู้ตัวก่อนจะตอบไปตามหัวใจของตัวเอง
"ครับ ผมรักชานชิก"
คุณกงถอนหายใจเล็กๆก่อนจะกลับไปสนใจกับหนังสือเหมือนเดิมท่ามกลางความงงงวยของผมและชานชิกที่ยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหู
"แปลว่าอะไรอ่ะ?"
อดถามออกไปไม่ได้เพราะบรรยากาศตึงเครียดเมื่อกี้หายไปจนเกือบหมด
"มันก็แปลว่า.."
"แปลว่าพ่อยอมให้เราสองคนแต่งงานกันแล้ว ฝากน้องด้วยนะจินยอง"
ชานชิกยังพูดไม่ทันจบดีคุณกงก็แทรกขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ผมคิดว่ามันใจดีเอามากๆ
ผมโค้งลาก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานเงียบๆ ตอนนี้หัวใจก็ยังเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะตื่นเต้นกับเรื่องเมื่อกี้อยู่เลย
"ไหนๆเราก็จะแต่งกันละ เข้าห้องหอเลยได้มั้ย?"
มือใหญ่โอบรอบเอวผมก่อนจะเลื่อนจมูกโด่งๆมาคลอเคลียที่แก้ม ผมดิ้นออกจากวงแขนก่อนจะเขยิบออกมาห่างๆ
"ไม่ได้พี่ต้องกลับไปทำงาน"
พูดเสร็จก็เดินไปที่รถก่อนจะควานหากุญแจในกระเป๋า
"ไม่ต้องทำแล้วไปลาออก ผมเลี้ยงพี่ได้ทั้งชีวิตเลยนะ"
เสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ข้างหูทำให้ผมหันไปมองก่อนปากหยักจะกดจูบลงมา ขบเม้มไปมาก่อนจะเกิดเสียงน่าอาย ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่หลังแนบกับประตูรถ ก็คงจะเป็นตอนที่มือใหญ่ๆลากเข้ามาในเสื้อละมั้ง
"พี่เป็นของผมนะ ของผมคนเดียว"
เงยหน้าขึ้นสบตาคมที่มองมาก่อนจะยกสองแขนขึ้นโอบรอบคอหลวมๆ
"นายก็เป็นของพี่คนเดียวเหมือนกัน"
เขย่งเท้าขึ้นจุ้บปากหยักก่อนจะผละออกแต่ดูเหมือนอีกคนจะไวกว่า กดจูบลงมาอีกครั้งพร้อมกับลิ้นอุ่นที่ซนไปทั่วทั้งโพรงปาก
คุณกงที่ยืนมองอยู่จากหน้าต่างห้องก็อดระบายยิ้มออกมาไม่ได้กับความในใจที่ได้เปิดเผยออกมาของทั้งสอง
ดูเหมือนการจัดฉากครั้งนี้จะทำให้ลูกชายของเขามีความสุขไปอีกนานแสนนาน
---The End---
ฮัลโหล ลืมกันไปรึยังคะ 5555555555 ยังอยู่นะคะไม่ได้ไปไหน❤
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น