ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    World of Thearchy สงครามมหัศจรรย์ข้ามพิภพ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1: 1St (บุคคลที่1)

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 51


                
            ภายใต้แสงจันทร์สีนวลที่สาดส่องลงบนพื้นถนนคอนกรีตชื้นแฉะ ของตรอกเล็กๆใกล้บริเวณตึกร้าง  
    ที่นี่ดูเงียบสงบ และดูเหมือนจะสงบเกินไปไม่มีแม้แต่เสียงสิ่งมีชีวิตเดินดิน หรือเสียงเห่าหอนของสุนัขจรจัด  
    มีเพียงหวีดหวิวของสายลมที่พัดผ่านกิ่งไม้ไร้ใบ  ความสดใสของทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้ดูเหมือนกำลังจะตาย
    ไปพร้อมๆกับ จิตวิญญาณของทุกคนในเมือง   แต่ในกระแสเสียงหวีดหวิวของสายลมยังมีเสียงบางอย่างปะปน

      “ฮือ.......ฮึกๆ........ฮือๆ.........”

      “นี่! หนูน้อยทำไมเจ้าถึงมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวเช่นนี้เล่า”

     เด็กหญิงค่อยๆเงยหน้าที่ซุกอยู่ระหว่างเข่าขึ้น และมองดูที่มาของเสียง “ฮือ....นะ....หนู   หาพ่อแม่แล้วก็ทุกคนไม่เจอ......หนูไม่รู้จะทำอย่างไร” เด็กหญิงเอ่ยเสียงสั่นเพราร่างกายที่สั่นเทาจากการร้องไห้อย่างมาราธอน “พี่สาวเป็นใครกัน ทำไมพี่สาวตัวเล็กจัง แล้วทำไมพี่สาวถึงมีปีกแล้วก็บินได้ แล้วทำไมพี่สาวถึงสวยจัง แล้ว... ”

      “อ้าวเจ้าเป็นเด็กหญิงรึเนี่ย   แล้วถามซะรัวใครที่ไหนจะไปตอบคำถามเจ้าได้ทันกันเล่า...ฮึ”

      “หนูขอโทษค่ะ คือหนูไม่ได้ตั้งใจ” เด็กหญิงพูดแล้วตั้งท่าจะร้องไห้เพราะคิดว่าทำผิด

      “เอ้าๆ ไม่ต้องร้อง ข้าจะได้ตอบคำถามเจ้าดีไหม?”

      “ค่ะ”

      “อันตัวข้ามีนามว่า เนมมิซิส (Nemesis) ข้าเป็นนางฟ้าจากโลกDivaข้าถึงได้ตัวเล็กมีปีกบินได้
    และก็มีหน้าตาสะสวยน่ารักเช่นนี้...ข้าแนะนำตัวแล้ว แล้วเจ้าล่ะ”

      “หนูชื่อบีทริช (Beatrice) คือว่า...หนูอยู่กับพ่อแม่และก็คนในคณะ.....”

      “เนมมิซิส คุยกับใครอยู่น่ะ”

              ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน จู่ๆ เสียงปริศนาก็ดังขึ้นพร้อมกับเงาลางๆ ที่วิ่งมาในความมืด  
    ไม่นานก็ปรากฏหญิงสาววัยประมาณ 20 ปี ผมดำยาวรวบมัดสูง ในชุดกระโปรงยาวคลุมเท้าสีเหลืองอ่อน  
    ใบหน้าของเธอดูอ่อนเยาว์ ดวงตากลมโต ขนตายาวงอนเป็นแพ
    สายตาคมกริบหากเพียงจ้องมอง สมองจะขาวโพลนไร้ความคิดดังต้องมนตร์ตรา

      “อ๋อ! สหายใหม่ของเราเอง มอลดี้”

      “หืม...เด็กคนนี้” หญิงสาวนามมอลดี้กล่าวพร้อมกับก้มลงแล้วมองดูเด็กหญิงอย่างไม่วางตา 
    ในขณะที่เด็กก็จ้องมองหญิงสาวแปลกหน้าโดยปราศจากความเกรงกลัว

      “มีอะไรกับสหายใหม่ของเราหรือ”

      “ปล่าว!!  ปล่าว!! ไม่มีอะไรหรอก   เอ่อ...สวัสดีจ้ะหนูน้อย...เอ่อ...เราชื่อมันเดย์ (Monday) 
    แต่เนมมิซิสเรียกเราว่า มอลดี้ จะเรียกเราแบบนั้นก็ได้นะ แล้วเจ้าล่ะชื่ออะไร” 
    มันเดย์ว่าแล้วก็ยื่นมือแสดงการทักทายกับบีทริช

      “สวัสดีค่ะ คุณมอลดี้ หนูชื่อบีทริช ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” บีทริชยื่นมือไปจับมือมันเดย์แสดงการทักทายตอบ 

      “อ้าว! เธอเป็นผู้หญิงรึเนี่ย...อายุเท่าไรแล้วล่ะ”

      “ค่ะ...เด็กผู้หญิง...อายุ 6 ขวบค่ะ อีกประมาณ 2 เดือนก็จะ 7 ขวบแล้วล่ะค่ะ”

      “นี่ เจ้า 2 คนจะถามกันอีกนานไหม ข้าจะได้นอนรอ” เนมมิซิสพูดขัดคอทั้ง 2 คนเชิงประชด

      “อ้อ! ‘โทดที เรากำลังตื่นเต้นกับสหายคนใหม่น่ะ”

      “อืมๆ...นี่! บี๊ตตี้ เล่าเรื่องของเจ้าต่อซิ ข้าอยากฟัง” เนมมิซิสกล่าวอย่างสดใสแล้วบินไปนั่ง
    อยู่หัวของมันเดย์ที่กำลังนั่งลงบนลังไม้เก่าๆข้างๆ บีทริช

      “บี๊ตตี้!!”


      “ก็เจ้านั่นล่ะบีทริช”

      “อ่อ...คือวันนั้น แม่บอกไห้หนูนอนกลางวันบนรถม้าของฮอลลิ...เอ่อ...คนในคณะน่ะค่ะ 
    แล้วพอหนูตื่นมาก็ไม่เจอใครเลย หนูก็เลยออกมาเดินตามหาทุกคนไปเรื่อยๆ 
    พอรู้ตัวอีกทีก็ออกมานอกเมือง ก็เลยตั้งใจว่ากลับไปรออยู่ที่เดิม 
    แต่พอเดินกลับไปก็มาโผล่ที่นี่ทั้งๆที่คิดว่าเดินกลับทางเก่าแล้วแท้ๆ”

      “เจ้านี่ โง่จังเดินผิดทาง แล้วยังคิดว่าเดินถูกอีก ฮิฮิ”

      “แล้วรู้ชื่อเมืองที่คนรู้จักเจ้าอยู่กันรึเปล่าล่ะ เราจะได้ไปส่ง”

      “ไม่รู้ซิ หนูไม่รู้หรอก”

      “อ้าว”

      “แล้ว จำป้ายตามร้านค้า ร้านอาหาร อะไรได้บ้างไหม”

      “อืม...อ๋อ!! เห็นอยู่ป้ายนึง แต่หนูอ่านไม่ออกหรอก”

      “จำได้ไหมว่าเขียนว่ายังไงบ้าง”

      “ได้ค่ะ! เค้าเขียนแบบนี้” ‘Sahib Restaurant’ บีทริช เอาก้อนหินที่อยู่ข้างๆ ตัวขูดบนกำแพงพอให้
    เห็นเป็นตัวหนังสือเท่าที่เธอจำได้

      “อื้ม... Sahib หรอหลงมาไกลนะเจ้าเนี่ย” มันเดย์ว่า “มันไกลนะจาก Sahib ถึงที่นี่แล้วเจ้าก็ยังเดินเท้า 
    อย่างต่ำก็ต้องใช้เวลา วันสองวัน เจ้าไม่หิวหรอ”

      “ไม่หรอก หนูมีไอ้นี่น่ะ แม่บอกว่ามันใช้หาเงินได้ หนูก็เลยลองดู”   บีทริชพูดพลางหยิบสิ่งของรูปสี่เหลี่ยม
    ชิ้นเล็ก ออกจากกระเป๋ากางเกงตัวมอมแล้วยื่นให้ทั้งสองคนดู

      “เม้าท์ออร์แกน เจ้าเล่นดนตรีไดด้วยรึ” มันเดย์ถาม

      “ได้สิ ก็หนูอยู่ในคณะละครเร่นินา พ่อกับแม่บอกว่าพวกเราจน ดังนั้นจะต้องทำอะไรๆด้วยตัวเอง 

      ต้องเรียนรู้ให้รวดเร็ว ต้องอดทน ต้องไม่เกรงกลัวที่จะทำสิ่งต่างด้วยตัวเอง และก็ต้องประหยัดให้มากๆ”

      “มิน่า...เจ้าถึงได้อดทนและคุยจ้อกับคนแปลกหน้าอย่างเราได้อย่างไม่เกรงกลัว”

      “นี่! มอลดี้ มานี่กับข้าหน่อยสิ” เนมมิซิสกระซิบข้างหูมันเดย์ หลังจากเงียบอยู่นาน

      “เดี๋ยวเรามานะ” ทั้งสองคนเดินออกไปจากบริเวณที่บีทริชอยู่ไม่ไกลนัก

      “มีอะไร”

      “เจ้าไม่รู้สึกบ้างรึไง Sahib น่ะ พึ่งถูกพวก Davy กวาดล้างไปวันก่อนเองนะ”

      “รู้ซิ ข้าถึงได้คิดว่าจะพาแม่หนูน้อยนั่นไปที่ Sahib เพื่อให้เขาเข้าใจเหตุการณ์แล้วก็จะพากลับไปที่เกาะด้วย” 

    มันเดย์พูดพลางหันไปมองเด็กหญิงที่นั่งสำรวจเม้าท์ออร์แกนของตนอย่างไม่รู้เรื่องราว

      “จะพากลับที่นั่นด้วยหรอ มันจะดีหรอ มอลดี้”

      “ดีซิ ข้ารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างในตัวเธอน่ะ เซนส์ข้ามันบอก”

      “ตามใจเจ้าแล้วกัน เซนส์เจ้ามันสุดยอดอยู่แล้วนี่”

      “งั้นเอาตามนี้นะ”

      “อื้ม”

      “นี่! บีทริช พวกเราพวกเราตกลงกันว่าจะพาเจ้าไปส่งที่ Sahib น่ะ ตกลงไปกับเราไหม”

      “จริงๆหรอ!! คุณกับพี่สาวนางฟ้าจะพาหนูไปหาพ่อกับแม่จริงๆ หรอ”

      “ว่าไงล่ะไปไหม”

      “ไปซิคะ ไป   ขอบคุณนะคะ”

      “ไป  งั้นพวกเราไปกัน”

      “รอเดี๋ยวนะคะ” บีทริชเก็บเม้าท์ออร์แกนเข้ากระเป๋ากางเกง ลุกขึ้นยืนเอามือปัดกางเกง
      และโบกมือให้ต้นไม้ไร้ใบที่อยู่ข้างๆ และเริ่มก้าวเท้าออกเดินทาง




    ------------------------------*****************-------------------------------------------------------------------------------


    หวัดดีค่ะ
    เพิ่งจะเริ่มเขียนดูกะเอาให้เพื่อนอ่านเล่นๆเอามาลงเด็กซะหน่อย

    ลองดู

    เป็นยังไงก็ติ กันได้นะคะ


    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ทุกคน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×