คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Moonstruck:: Dark Light #05 (DaexJae)
Dark Light:: 05
Couple :: DaexJae
BG :: Don't Love You No More (I'm Sorry) [Craig David]
“ลาก่อนนะคุณจอง ถ้าเกลียดฉันมากนัก จากนี้ไป เราก็ไม่ต้องมาเจอ กันอีก”
.
.
.
สิ้นเสียงนั้น ยองแจก็หมุนตัวกลับไปที่รถหรูของตัวเองแล้วบึ่งออกจากคลับทันที ไม่ทันฟังเสียงตะโกนของอีกฝ่ายที่พยายามรั้งเขาเอาไว้อย่างหมดแรง....พลาดไปแล้ว เขาทำพลาดไปอีกแล้ว แค่ความโกรธชั่ววูบและอยากเอาชนะทำให้เขาเผลอพูดพล่อยๆออกไป สุดท้ายก็เผลอไปทำร้ายจิตใจอีกคนเข้าจนได้...
“จองแดฮยอน ฉันรู้นะว่าแกไม่ได้คิดอย่างที่พูด” ซอดงฮยอกหัวเราะอย่างสะใจเมื่อเห็นคนตรงหน้าถูกเข้าใจผิดจนเป็นเรื่องใหญ่ “แกรักยองแจมาตลอดใช่ไหมล่ะ แม้กระทั่ง 4 ปีที่แล้วที่แกบอกเลิกเขา แกก็ยังรักเขาอยู่...คนแพ้คือแกต่างหากไอ้หน้าโง่ ยองแจไม่เคยบอกว่ารังเกียจหรืออยากจะเลิกกับแกเลย เรื่องทุกอย่างฉันเป็นคนทำทั้งหมดนั่นแหละ”
“ว่าไงนะ แกพูดว่าอะไรนะ” ดูเหมือนแดฮยอนจะขาดสติไปแล้ว เขาปรี่เข้าไปคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายแล้วเขย่าด้วยความโกรธ “หมายความว่ายังไงที่บอกว่ายองแจไม่เคยเกลียดฉัน”
“ก็ไม่เกลียดไง มีอะไรที่ชัดเจนกว่านี้อีก” ไฮโซหนุ่มลอยหน้าลอยตาใส่ “ที่แกทะเลาะกับยองแจเมื่อ 4 ปีก่อนเป็นแผนของฉันเอง ก็แกมันน่าหมั่นไส้เองนี่หว่า ทำตัวเป็นปลิงเกาะยองแจไปทั่ว ฉันเห็นแล้วหงุดหงิดก็เลยต้องจัดซะหน่อย”
“ก...แกทำมันได้ยังไง” โฮสต์หนุ่มถาม อารมณ์โกรธและสงสัยปนกันจนวุ่นวายไปหมด “ทั้งเสียงของยองแจที่โทรมาหาฉันตอนนั้น แถมยังเรื่องเช็คอีก แกทำได้ยังไงถึงได้เหมือนเป็นยองแจจริงๆ”
“ไม่เห็นจะยาก ฉันลูกใคร ไอ้โง่” ตบท้ายด้วยการด่าเขาไปอีกหนึ่งดอก “บ้านฉันเป็นเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์นะ ก็ใช้เบ๊ตัวเองให้เป็นประโยชน์สิ แค่เอาคลื่นเสียงของยองแจไปซ้อนทับกับลูกค้าที่มีคลื่นเสียงคล้ายกันมากที่สุด เสร็จแล้วฉันก็ใช้เงินฟาดหัวมันให้แกล้งเลียนเสียงทำเป็นยองแจเพื่อโทรไปหาแก...เบอร์ของยองแจก็ใช้เครือข่ายฉัน แค่สับเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่ก็พอแล้ว ฉันเอาเบอร์นั้นมาโทรหาแก เสร็จแล้วก็ระงับเบอร์ทิ้ง พอดีว่าคนที่เลียนเสียงเป็นยองแจนี่ก็เล่นได้ดีซะด้วย แต่ก็สมกับเงินที่ฉันจ้างมันนั่นแหละ”
“แล้วเช็คใบนั้น” แดฮยอนกัดฟันกรอด “อย่าบอกนะว่าแกปลอมลายมือกับลายเซ็นของยองแจขึ้นมา”
“เริ่มฉลาดขึ้นแล้วนี่..แน่นอน ฉันไปจ้างคนให้ปลอมลายมือกับลายเซ็นของยองแจ แต่มันก็ไม่เหมือนนักหรอก เพราะฉันรู้ว่าคนอย่างแกมันทิฐิแรง ต้องฉีกเช็คทิ้งก่อนที่จะเอาไปตรวจอยู่แล้ว หรือถ้าให้เอาไปขึ้นเงินจริงก็ขึ้นไม่ได้เพราะมันเป็นของปลอม...แต่ถ้าทำอย่างงั้นก็แปลว่าแกเห็นเงินดีกว่ายองแจ ถูกไหมล่ะ”
มือที่จับคอเสื้อของอีกฝ่ายคลายออกแล้วทิ้งลงข้างตัวอย่างไร้ความรู้สึก เขาโง่มาตลอด สมควรให้ซอดงฮยอกด่าก็ถูกแล้ว เพราะทิฐิและความกดดันในใจแท้ๆทำให้มองทุกอย่างในแง่ลบจนทำร้ายคนรอบข้างไปด้วย ที่สำคัญที่สุดก็คือ คนรอบข้างคนนั้นเป็นคนรักของเขาเอง...
ไม่มีคำอะไรที่สรรหามาด่าคนโง่อย่างจองแดฮยอนได้จริงๆ
.
.
“ทำไมแกต้องทำถึงขนาดนี้” ริมฝีปากหนาเอ่ยอย่างหมดแรง “แค่อยากจะแยกฉันกับยองแจ แกต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
“ฉันยอมรับนะว่าลงทุนมากไปหน่อย ถึงขั้นวางแผนอยู่หลายตลบเหมือนกัน” ดงฮยอกยักไหล่ “แต่ผลที่ได้กลับมามันก็คุ้ม จะมาโทษฉันคนเดียวไม่ได้นะจองแดฮยอน แกเองไม่ใช่เหรอที่เห็นตัวเองสำคัญกว่ายองแจ อยากจะตะเกียกตะกายขึ้นมายืนเคียงข้างเขาจนทำให้เขาเจ็บซะเอง ฉันเลือกทำแบบนี้ก็เพราะรู้จุดอ่อนแกไงล่ะ คุ้มดีเหมือนกันที่ทำให้พวกแกแยกกันได้ตั้ง 4 ปี ถ้ารู้ว่ายองแจกลับมาหาแกอีก ฉันก็จะไม่ปล่อยแกเอาไว้หรอก”
“เอาเถอะ ฉันยอมรับว่าฉันโง่” แดฮยอนตอบกลับ “เพราะความหูเบาทำให้ฉันกับยองแจต้องเลิกกัน แต่แล้วแกล่ะ” เสียงทุ้มต่ำหัวเราะเยาะเย้ยเหมือนไม่มีอะไรจะเสีย “ขนาดฉันกับยองแจเลิกกันแล้ว แกก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้ แกชอบยองแจมาตลอดถึงตามเล่นงานฉันแบบนี้ใช่ไหมล่ะ แล้วยังไง 4 ปีที่ผ่านมาแกทำอะไรได้ไหม ยองแจก็ยังไม่รักแก แม้กระทั่งคุณซงภรรยาตามกฎหมายของแกยังไม่รักแกเลย คนที่แกชอบกี่คนๆก็มาหลงฉันกันหมด แกมันน่าสมเพช ไอ้ผู้ชายน่าสมเพช!”
“แก ไอ้...” ชายหนุ่มคำรามลั่นก่อนจะสวนหมัดเข้าหน้าแดฮยอนไปเต็มๆ แต่โฮสต์หนุ่มก็สวนคืนด้วยหมัดหนักๆที่ทำให้อีกฝ่ายลงไปนอนกับพื้นได้เหมือนกัน ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายไปกว่านี้ เสียงเฉียบขาดของจองยงฮวาก็ดังขึ้น
“หยุด หยุดทั้งคู่นั่นแหละ”
คู่แค้นทั้งสองคนหันไปมองต้นเสียง ยงฮวากับยงนัมกำลังมองพวกเขาอยู่ด้วยสายตาเรียบนิ่งแต่ก็ชวนให้เสียวสันหลังได้อย่างน่าประหลาด บอสหนุ่มเป็นคนขี้เล่น แต่เมื่อไหร่ที่เขาจริงจังขึ้นมา ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถตอบโต้ได้เลย
“นี่ไม่ใช่ที่ที่จะมาทะเลาะกันแบบกุ๊ยนะครับ” ยงฮวาพูดเสียงต่ำ “คุณดงฮยอก ถ้าคุณมาในฐานะลูกค้าปกติผมก็จะบริการอย่างเต็มที่ แต่นี่คุณกับภรรยามาสร้างความวุ่นวายที่คลับของผม แถมยังทะเลาะกับพนักงานของผมอีก แบบนี้ผมก็คงต้องเชิญตัวพวกคุณออกไป กลับไปเถอะครับ คุณซงด้วย นับแต่นี้ผมไม่ให้พวกคุณเข้ามาที่นี่อีกแล้ว”
“ถ้ายังไม่ไป เราก็มีวิธีจัดการกับคุณนะ” ยงนัมเสริมด้วยรอยยิ้มเย็นๆ “และมันก็น่ากลัวชนิดที่คุณไม่รู้หรอกว่าจะเสียวสันหลังได้ถึงขั้นไหน ต่อให้เป็นคนใหญ่คนโตมาจากไหนก็อวดเบ่งกับคลับเราไม่ได้ เรื่องนี้คุณน่าจะเข้าใจนะครับ คุณดงฮยอก ไม่งั้นลองไปถามเพื่อนคุณดูก็ได้ว่าเราจัดการกับเพื่อนคุณยังไง”
ซอดงฮยอกได้แต่มองอย่างเคียดแค้น เขาจำได้ดีเรื่องที่เพื่อนในกลุ่มเคยเมาอาละวาดแล้วโดนคนในคลับจัดการจนไม่กล้าโผล่หน้ามาอีก...Moonstruck มีผู้บริหารที่อายุยังน้อยก็จริง แต่จองยงฮวาก็มีเส้นสายมากมายที่แม้แต่ทายาทเศรษฐีอย่างเขาก็ยังสู้ไม่ได้...เมื่อไม่มีทางเลือก ร่างโปร่งนั้นจึงได้ขู่อาฆาตแล้วฉุดกระชากลากตัวภรรยาออกไป ปล่อยให้จองแดฮยอนยืนเงียบอยู่ตรงนั้นกับความจริงที่เขาเพิ่งได้รู้....
ความจริงที่ว่ายองแจไม่เคยรังเกียจและดูถูก หรือแม้แต่จะเอาเงินมาฟาดหัวเพื่อเหยียบย่ำเขาเลย...ทั้งหมดมีแต่เขาเท่านั้นที่จมอยู่กับทิฐิ ความเกลียด และปมด้อยในใจที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อทำร้ายตัวเองและคนที่รัก...ความเกลียดที่จมอยู่กับมันมา 4 ปีทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้เป็นคนผิด เขาทำพลาด เขาทำพลาดไปแล้วอย่างไม่น่าให้อภัย....
ยูยองแจ คนที่มีทุกอย่างดีกว่าเขา คนที่มีโอกาสมากมายที่จะทิ้งเขาไปหาคนอื่น คนที่ไม่พอใจในงานที่เขาทำแต่ก็ยอมเพราะต้องการให้เขาสบายใจ....ทั้งหมดที่ผ่านมา คนที่ทำให้ยองแจต้องเจ็บที่สุดก็คือเขา...
.
.
“นายเองก็มีความผิดนะแดฮยอน” ยงฮวาปรายตามองคนตรงหน้า เห็นแววตาที่เจ็บช้ำของลูกน้องก็อดจะถอนหายใจไม่ได้ “เอาเถอะ อย่างน้อยตรงนี้ก็เป็นที่จอดรถ มีคนเห็นอยู่แค่ไม่กี่คน...ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจนายนะ แต่งานก็คืองาน รู้ใช่ไหม ไปทำแผลแล้วสงบสติอารมณ์ซะ ทำงานของนายก่อน เรื่องอื่นไว้ค่อยว่ากัน”
“ครับบอส” โฮสต์หนุ่มยิ้มขื่นๆแล้วเดินคอตกเข้าคลับไป ยงนัมเองก็กอดอกมองรุ่นน้องอย่างเห็นใจ...เรื่องราวแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด และทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีใครเจ็บมากน้อยไปกว่ากัน คุณยูทรมานอยู่กับความสับสนและไม่เข้าใจ ส่วนแดฮยอนจมอยู่กับความเกลียดและความแค้น...ไม่มีส่วนไหนที่ทำให้ชีวิตเป็นสุขได้เลยจริงๆ...
.
.
.
“ผมคงต้องทำงานหนักเป็นสามเท่า” เสียงทุ้มเอ่ยติดตลกก่อนจะกุมมือคนข้างๆไว้เงียบๆ “ลำพังงานบอสกับงานของผมเองยังไม่เท่าไหร่ ที่หนักก็คงเป็นไอ้หน้าหงิกนั่นแหละ ถ้าจะแคนเซิลตารางงานเพราะป่วย คลับเราคงไม่เสียเครดิตหรอกใช่ไหม”
“ไม่หรอก” ยงฮวาตอบรับ “กรณีนี้แคนเซิลนัดน่าจะดีกว่าไปนั่งเป็นผีบ้าหน้าเหี่ยวๆให้ลูกค้าตกใจ...ฝากด้วยแล้วกันนะยงนัม หมดเรื่องคราวนี้ฉันจะให้รางวัลนายเป็นพิเศษเลย”
“ไม่เอาหรอก อะไรที่อยากได้ผมก็มีหมดแล้ว” แขนยาวตวัดไหล่อีกฝ่ายแล้วโอบเข้ามาชิดตัวเขา “ขอแค่บอสไม่ป่วย และแดฮยอนผ่านเรื่องนี้ไปได้ ผมก็ไม่ต้องการอะไรแล้วล่ะ...”
-----------------------------------------------------------------
ยองแจขับรถมาจนถึงบ้านด้วยความรู้สึกที่ยากเกินจะเอ่ย น้ำตาใสๆยังคงไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในหัวใจกลับเย็นชืดด้านชาจนบอกไม่ได้แล้วว่ายังมีแรงเจ็บปวดกับเรื่องนี้อยู่รึเปล่า...คิดเอาไว้ไม่ผิดจริงๆกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วแบบนั้น เขาไม่น่าฝันหวานไปเองเลย ตลอดเวลาที่แดฮยอนทำดีกับเขาก็เพราะอยากจะแก้แค้น บางทีคนๆนั้นอาจคิดว่าการใช้วาจาเชือดเฉือนคงไม่สนุกเท่าการหลอกให้เขาตายใจแล้วตบหน้าคืนทีหลังก็ได้ ท่าทางอ่อนโยน สัมผัสนุ่มนวลแต่ก็ร้อนแรงเป็นแค่การหลอกลวง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ยูยองแจคนนี้กลายเป็นคนโง่ที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ายังรักและลืมอีกฝ่ายไม่ได้....
.
.
.
เขาเหนื่อยแล้ว เหนื่อยกับสิ่งที่ต้องยอมรับ
ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับว่าความรักไม่สามารถรื้อฟื้นเวลาที่หายไปได้เลย...
.
.
ร่างบางทิ้งตัวลงกับเตียงในห้องนอนอย่างหมดแรง ดวงตากลมโตแม้ไม่มีน้ำตาไหลลงมาแต่ก็ยังแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ปกติแล้วเวลากลับเกาหลีเขามักจะนอนที่คอนโดส่วนตัวเพราะมันสะดวกสบายกว่า คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตอนนี้มีเพียงคนรับใช้และผู้ดูแลบางส่วนที่คอยทำความสะอาดถูกยึดเป็นที่พักพิงชั่วคราวเพราะชายหนุ่มจะต้องอยู่คุยธุรกิจเป็นเวลาหลายวัน แต่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งฟุ้งซ่านเข้าไปใหญ่...ดีแล้ว...ในเมื่ออีกฝ่ายชัดเจนว่าไม่เคยคิดจะกลับมามองเขาอีกครั้ง ยองแจก็คงต้องปล่อยให้เวลาที่ผ่านมาถูกกลืนกลับไปในความทรงจำเหมือนเดิม...
เขาลุกจากเตียงอีกครั้ง ตามองไปยังกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่เพิ่งจะรื้อเสื้อผ้าออกไป สุดท้ายก็ต้องลากมันกลับมาแล้วเก็บเสื้อผ้าเข้าไปใหม่ จะให้อยู่คนเดียวเงียบๆในบ้านหลังใหญ่แบบนี้คงไม่ไหวแน่ แดฮยอนคงไม่ตามเขามาที่นี่ แต่ซอดงฮยอกนั้นไม่แน่ หลังจากเกิดเรื่องเมื่อ 4 ปีก่อน ในวันที่แดฮยอนทะเลาะกับเขา ดงฮยอกก็พยายามเปลี่ยนฐานะจากเพื่อนให้กลายเป็นคนสนิทมากขึ้นและตามตื๊อเขามาตลอด ขนาดที่ว่าจะตามไปอเมริกาด้วย โชคดีที่พฤติกรรมของดงฮยอกเลวร้ายเกินไป พ่อแม่จึงคลุมถุงชนจัดงานแต่งงานให้เพราะกลัวว่าถ้าตามเขาไปอเมริกาแล้วจะไปทำตัวเหลวไหลอีก ในตอนนั้นเขาเองก็เดินทางไปอย่างเร่งด่วน จึงไม่มีโอกาสเห็นภรรยาของดงฮยอกซึ่งก็คือซงอียองที่มาติดพันแฟนเก่าของเขาในตอนนี้ เขากับดงฮยอกเองก็ขาดการติดต่อกันไปนาน ไม่ใช่ว่าไม่เจอเลย แต่ยองแจเลือกที่จะไม่ติดต่อกับอีกฝ่ายแล้วมากกว่า
.
.
.
โลกกลมจริงๆ โลกมันกลมอย่างไม่น่าให้อภัย ถ้าวันนั้นเขาไม่ไปเจอเพื่อนในคลับ ก็คงไม่ได้พบกับแดฮยอนอีกครั้ง และไม่ต้องมานั่งเศร้าจะเป็นจะตายแบบนี้...
.
.
.
ยูยองแจโง่เอง ไม่ต้องไปโทษใครหรอก....
.
.
“น้ายูจิน น้ายูจินครับ” ปากอิ่มร้องเรียกแม่บ้านใหญ่ขณะลากกระเป๋าเดินทางลงมา “ผมจะไปนอนที่คอนโดนะ คิดว่าคงอยู่ที่นั่นยาวเลย แล้วก็...” ปลายเสียงทอดลงอย่างอ่อนแรง “ถ้ามีใครมาหาผม ช่วยบอกว่าผมไปนอนที่อื่นแล้ว ไม่ต้องบอกเด็ดขาดนะครับว่าผมอยู่ที่ไหน” แม้จะจับสีหน้าและน้ำเสียงที่หมองหม่นนั้นได้ แต่แม่บ้านวัยกลางคนก็ทำได้แค่เพียงเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย ฝากฝังเสร็จ คุณหนูคนสวยก็ขึ้นรถคันหรูก่อนจะขับออกไปอีกครั้ง ตอนนี้ยองแจไม่เหลือความรู้สึกอะไรอีกแล้ว เขาเศร้าไม่ออก ร้องไห้ไม่ได้ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าร้องไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
.
.
.
ในเมื่อตัดใจจากเขามาได้ครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนี้หักดิบอีกก็คงไม่เป็นไร
อย่างมากก็แค่เจ็บไปอีกสามสี่ปี มันกลายเป็นความชินชาไปแล้วล่ะ......
-------------------------------------------------------------------------------
แดฮยอนไม่อยากเชื่อว่าเขาจะผ่านคืนๆหนึ่งไปได้อย่างยากเย็นขนาดนี้ ความรู้สึกหนักอึ้งแบบเมื่อสี่ปีก่อนกลับมาอีกครั้ง คราวนี้มันกำลังลงโทษเขาอย่างหนักหนาสาหัสเหมือนจะทบต้นทบดอกจากที่เขาเคยทำกับยองแจเอาไว้ โฮสต์หนุ่มพยายามทำงานอย่างเต็มที่ทั้งคืน โชคดีที่เขาเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วจึงพอเอาตัวรอดในวันนี้ไปได้
.
.
รู้แล้ว....
เขารู้ซึ้งแล้ว...
จองแดฮยอนรู้แล้วว่าความเจ็บปวดที่โดนคนรักเข้าใจผิดนั้นเป็นยังไง วินาทีที่หันไปเห็นแววตาตัดพ้อและหยาดน้ำใสๆไหลลงมากลบใบหน้าหวานนั้นทำให้ชาไปทั้งตัวจนพูดไม่ออก เมื่อสี่ปีก่อน เขาเข้าใจยองแจผิดแถมยังสาปส่งอีกฝ่ายอย่างไม่คิดจะให้อภัย รู้แต่เพียงว่าตัวเองเจ็บที่สุดและชอกช้ำมากที่สุด แต่เขาไม่รู้เลยว่ายองแจที่เป็นฝ่ายถูกเข้าใจผิดนั้นจะใจสลายมากขนาดไหน...ใช่แล้ว มันเป็นเหมือนเขาในตอนนี้นี่แหละ แววตาแสนโศกที่มองตรงมาทำให้หัวใจของแดฮยอนเจ็บกว่าเมื่อสี่ปีที่แล้วเป็นล้านเท่า......
.
.
“ไง ไอ้น้องชาย” ยงนัมเดินตรงเข้ามาในห้องพักพนักงานแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างเขาเงียบๆ คลับปิดแล้วและทุกคนก็กลับบ้านกันหมดแล้ว เหลือแค่เขากับยงฮวาที่ใช้ห้องพักชั้นบนเป็นที่นอนในกรณีที่งานยุ่งมากๆ หลังจากเกิดเรื่อง ยงนัมไม่เห็นหน้าแดฮยอนอีกเลยจึงเดาได้ว่าเขาน่าจะมานั่งดราม่าอยู่ในห้องนี้
“ยงนัม ฉันโง่มากใช่ไหม” โฮสต์หนุ่มหัวเราะขื่นๆ เกลียดตัวเองจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “เพราะฉัน ยองแจถึงได้เป็นแบบนี้ เพราะฉันเขาถึงต้องเจ็บปวดมาตลอด 4 ปี ทำไมฉันถึงได้โง่แบบนี้นะ”
"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฉันขอพูดในฐานะพี่ชายที่รู้จักนายมานานก็แล้วกัน” ยงนัมตบไหล่อีกฝ่ายอย่างเห็นใจ “นายผิดที่ปล่อยให้ปมด้อยกับทิฐิในใจมาทำร้ายคนที่นายรัก ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้หรอกว่านายกับคุณยูรักกันมากแค่ไหน แต่หลังจากเห็นเขาที่คลับ เห็นสายตาที่เขามองนาย ฉันถึงได้รู้ว่าคุณยูยังรักนายมาตลอด ยิ่งได้ฟังเรื่องที่ผ่านมาของนายกับเขาแล้ว ฉันยิ่งอยากจะด่านายแรงๆที่ทำให้คนดีอย่างคุณยูต้องเจ็บทั้งที่นายก็รู้ว่าเขารักนายมากแค่ไหน ตรงนี้แหละจองแดฮยอน...ความเห็นแก่ตัวของนายและทิฐิที่อยากจะเอาชนะคนอื่นทำให้นายทำร้ายคนที่รักมากที่สุดในชีวิต ทั้งที่นายเองก็ไม่เคยเกลียดเขา แต่ต้องบังคับตัวเองให้เกลียดเพราะไม่ยอมรับว่าตัวเองยังลืมเขาไม่ได้ ทุกอย่างสะท้อนกลับมาสร้างความทรมานให้นายแบบนี้ มันก็สมควรแล้ว”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เสียงของแดฮยอนยังคงเคร่งเครียด “ใครจะไปคิดว่าไอ้ดงฮยอกนั่นจะลงทุนวางแผนขนาดนี้...แต่ก็ใช่ ถ้าไม่เป็นเพราะฉันอยากจะเอาชนะมัน เรื่องทุกอย่างก็คงไม่เลวร้ายจนเกินแก้”
“แล้วตอนนี้หัวใจนายบอกว่ายังไงล่ะ” รุ่นพี่ยิ้มให้เขา “คุณยูบอกกับฉันว่าคราวนี้จะอยู่นานหน่อยเพราะเตรียมเปิดสาขาเดือนหน้าแล้ว รีบไปหาเขาซะสิ มีอะไรก็เคลียร์กันให้เรียบร้อย”
“ยองแจไม่ใช่คนพูดง่ายขนาดนั้นหรอก นายรู้จักเขามาพอประมาณก็น่าจะรู้ว่าเขาดื้อขนาดไหน แล้วนี่มันก็....เป็นครั้งที่สองแล้วด้วย” ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ฉันทำให้เขาเจ็บเป็นครั้งที่สอง ไม่แน่ใจแล้วว่าเขาจะให้โอกาสฉันอีกรึเปล่า”
“โวะ ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง ไอ้เบื๊อกนี่” ยงนัมผลักหัวอีกฝ่ายแบบทีเล่นทีจริง “นายก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอว่าเรื่องบางเรื่อง เวลาที่ทิ้งห่างไปนานมันไม่ได้ช่วยเยียวยา แถมยิ่งทำให้เลวร้ายขึ้นไปอีก”
“ฉันเข้าใจ” แดฮยอนนิ่งเงียบไปแล้วพูดเรียบๆ “แต่กับยองแจ แค่คำพูดง้องอนไม่ช่วยหรอก สิ่งที่ฉันควรทำคือพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็นว่าฉันอยากจะอยู่ข้างเขา และจริงใจกับเขามากแค่ไหน”
“คิดได้แล้วก็ดี” โฮสต์เบอร์หนึ่งพยักหน้าหงึกหงัก “จากนี้ไปก็เป็นเรื่องของนายแล้วนะ ฉันกับบอสจะไม่ยุ่งเรื่องนี้นอกจากที่จำเป็น กลับไปสงบสติอารมณ์แล้วคิดให้ดีๆ ส่วนเรื่องงาน เรื่องตารางนัดล่วงหน้าของนายก็ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเอง นายไม่เคยลาพักเลยนี่ จะลาก็บอกแล้วกันเดี๋ยวฉันพูดกับบอสให้...ไป...กลับบ้านไปได้แล้ว”
ร่างโปร่งลุกขึ้นด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง ยิ้มบางๆให้รุ่นพี่ก่อนจะเอ่ยขอบคุณแล้วเปิดประตูออกไป เขายังไม่รู้เลยว่าจะไปขอโทษและอธิบายความจริงให้คุณหนูคนสวยเข้าใจได้ยังไง ความเจ็บปวดทั้งหมดตลอด 4 ปีที่ซัดสาดให้อีกฝ่ายนั้นเป็นสิ่งที่เขาคิดไปเองล้วนๆ ขอโทษน่ะต้องทำแน่ๆ แต่แค่เพียงคำพูดมันไม่พอ เขาตั้งใจแล้วว่าจะทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้อีกครั้งว่าคนอย่างเขาพร้อมจะรับผิดและทำทุกอย่างเพื่อยูยองแจได้จริงๆ...
.
.
.
เขาจะไม่มีวันทำผิดซ้ำสองอีก
เขาจะไม่ปล่อยยูยองแจไปอีกแล้ว...
แสงมืดที่สาดกระทบลงบนจิตใจดวงน้อยๆนั่น เขาจะไม่ปล่อยให้มันกัดกินหัวใจของยองแจอีก...
.
.
.
สี่ปีก่อน ยูยองแจอาจมีเหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถกลับมาปรับความเข้าใจกับเขาได้
แต่ตอนนี้ จองแดฮยอนไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะไม่รั้งหัวใจของเขาเอาไว้
.
.
.
ศักดิ์ศรีจะสำคัญอะไรถ้าไม่มีคนที่รักอยู่ข้างๆเพื่อยอมรับในตัวมัน....
TBC
----------------------------------------------------------------------------------
ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าว่าตอนนี้สั้นไปนิดนึง 555555 ตอนหน้าจบแน่นอนค่า มาลุ้นกันนะว่าพี่โฮสต์เค้าจะง้อแฟนแบบไหน =v= (เรามีโครงแล้วแต่ยังไม่แน่ใจว่าพอเขียนจริงๆมันจะยาวรึเปล่า ยังไงถ้ายาวก็จะเอาให้จบตอนหน้าไปเลยค่ะ) ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ แท็กได้ใน #บอพมสต หรือ @chocopastelbbyz เหมือนเดิมค่า^^
ความคิดเห็น