ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] B.A.P - Moonstruck

    ลำดับตอนที่ #6 : Moonstruck:: Dark Light #03 (DaexJae)

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 59







    Dark Light:: 03

     

    Couple :: DaexJae

    BG :: Whole Again [Atomic Kitten]

     










    เช้าแล้ว....

     

     

    จองแดฮยอนตื่นขึ้นเมื่อรู้สึกถึงการขยับตัวเล็กน้อยของคนในอ้อมกอด นางฟ้าคนสวยของเขายังคงหลับสนิทอย่างอ่อนแรง ใบหน้าเชิดหยิ่งแสดงออกถึงความหัวรั้นนั้นดูนุ่มนวลน่าหลงใหลเหลือเกินยามที่จมอยู่ในห้วงนิทราแบบนี้...

     

    โฮสต์หนุ่มยิ้มให้กับความเอาแต่ใจของตนเอง...บทรักในรถเมื่อคืนไม่สามารถเติมเต็มความคิดถึงที่เขาห่างหายยองแจไปนานถึง 4 ปีได้เลย หลังจากตักตวงความหวานของอีกฝ่ายไปหนึ่งรอบแล้ว เขาก็พาคุณยูตรงดิ่งมายังคอนโดหรูซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิวที่ทั้งคู่จอดรถทำ กิจกรรมร่วมกันในทันที แดฮยอนตั้งใจทำงานจนมีเงินเก็บมากพอที่จะซื้อห้องชุดเรียบหรูและกว้างขวางในใจกลางกรุงโซลได้อย่างไม่ลำบากนัก....บนเตียงนอนหลังใหญ่แสนอบอุ่นในคืนนั้น เขากับยองแจปลดปล่อยความคิดถึงซึ่งกันและกันโดยไม่จำเป็นต้องกักเก็บเอาไว้อีก...

     

    .

    .

    .

     

    ทั้งคู่พบกันในปีแรกตอนเข้ามหาวิทยาลัย แดฮยอนเป็นเด็กนักเรียนทุนที่สอบโควต้าสาขาออกแบบดีไซน์ได้ด้วยคะแนนอันดับที่หนึ่ง แต่เพราะฐานะทางบ้านที่ไม่สู้ดี บวกกับครอบครัวที่อยู่ปูซานไม่สามารถส่งค่าใช้จ่ายให้เขาได้มากเท่าไหร่นัก การอาศัยอยู่ในเมืองที่ค่าครองชีพสูงอย่างกรุงโซลจึงเป็นเรื่องลำบากพอสมควร ลำพังค่าอุปกรณ์การเรียนและหอพักที่เขาเช่าอยู่แต่ละเดือนก็แทบจะไม่เหลือใช้แล้ว ด้วยเหตุนี้เอง ชายหนุ่มจึงต้องหางานพิเศษทำโดยการเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในแกลเลอรี่เล็กๆใกล้มหาวิทยาลัย ซึ่งช่วยทุ่นเวลาเดินทางหลังจากเลิกเรียนให้กับเขาได้มาก ทักษะทางการออกแบบและหัวทางศิลปะทำให้เขาต้อนรับผู้ชมที่มาเยี่ยมชมได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง...

     

    และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาได้เจอกับยูยองแจด้วย...

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ร่างโปร่งคลายอ้อมกอดแล้วประคองศีรษะทุยให้หนุนกับหมอนนิ่มๆแทนแขนของเขา ก่อนจะขยับลงจากเตียงอย่างแผ่วเบาด้วยกลัวคนที่กำลังหลับอย่างสบายจะตื่น ตลอดสี่ปีที่ทั้งคู่คบกัน แม้จะมีปัญหากันบ้าง ทะเลาะกันบ้างเพราะยองแจเองก็ดื้อและเอาแต่ใจไม่น้อยเท่าไหร่ แต่แดฮยอนก็ต้องยอมรับว่าคนสวยบนเตียงของเขาพยายามปรับตัวเท่าที่จะทำได้แล้วจริงๆ แม้ว่าเขาจะใส่เสื้อผ้าเก่าๆสีซีดหรือชอบกินอาหารข้างทางมากกว่าจะเข้าไปในร้านใหญ่ๆ ยูยองแจก็ไม่เคยบ่นสักครั้ง กระทั่งวันครบรอบที่ทั้งคู่คบกัน ไม่ว่าจะเป็น 100 วัน...หกเดือน หนึ่งปี...ยาวมาจนถึงปีที่สี่ ของขวัญที่เขาให้กับคนรักนั้นมีราคาค่างวดน้อยเหลือเกิน แต่อีกฝ่ายกลับดีใจและปลาบปลื้มทุกครั้งที่ได้รับมัน...

     

    .

    .

    .

     

    ยองแจไม่เคยรังเกียจหรืออายที่จะเดินเคียงคู่กับเขาเลย...จนกระทั่งวันที่เขาตัดสินใจเปลี่ยนไปทำอาชีพโฮสต์หรือพนักงานบริการในคลับตามที่เจ้าของแกลเลอรี่ เจ้านายเก่าของเขาชักชวน....

     

    .

    .

    .

     

    ขายาวก้าวเดินไปตรงส่วนที่เป็นแพนทรีสำหรับทำครัว เช้าตรู่ในวันที่สดใสชวนให้อารมณ์ดีสุดๆ ริมฝีปากหนาผิวเพลงอย่างมีความสุขขณะเปิดตู้เย็นหยิบนมสดและแป้งสำหรับทำแพนเค้กไปด้วย แดฮยอนเข้างานตอนบ่ายถึงเย็นเป็นปกติอยู่แล้วจึงไม่ต้องรีบร้อนมากนัก ไหนๆวันนี้ก็มีคนกินข้าวเช้ากับเขา การทำแพนเค้กแบบง่ายๆคงไม่เสียเวลาซักเท่าไหร่ ยูยองแจชอบแพนเค้กราดเมเปิ้ลไซรัปกับสตรอเบอร์รี่ลูกโตๆ ถ้ามีครีมสดด้วยจะยิ่งชอบ แต่เพราะไม่มีครีมสดเก็บไว้ เมเปิ้ลไซรัปกับสตรอเบอร์รี่ก็น่าจะเพียงพอ

     

    .

    .

    .

     

    มือใหญ่ตีแป้ง ใส่ส่วนผสมและแผ่ขนมลงบนกระทะอย่างแคล่วคล่อง โฮสต์หนุ่มจำทุกรายละเอียดเกี่ยวกับอดีตคนรักของเขาได้เสมอ ยองแจเป็นรักแรกและรักเดียวของเขานับตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตน เขาไม่ใช่คนทะเยอทะยาน ไม่คิดจะคบกับใครเพื่อเงินและมีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่เกาะกลุ่มเพื่อนฐานะสูงๆหรือคอยประจบประแจงใครเพื่อผลประโยชน์ การเป็นนักเรียนทุนในมหาวิทยาลัยที่มีค่าเทอมแสนแพงนั้นก็มีฐานะทางสังคมด้อยกว่าคนอื่นมากพออยู่แล้ว แม้จะเป็นคนง่ายๆ แต่เขาก็รักศักดิ์ศรีเกินกว่าจะยอมให้คนรวยคนไหนมาใช้เงินฟาดหรือประณามให้เขารู้สึกด้อยค่ามากลงไปอีก เขาถึงไม่เคยรู้ซึ้งกับคำว่าเจ็บ จนกระทั่งมาโดนด้วยน้ำมือคนรักของตัวเอง...

     

    จึงไม่แปลกที่แดฮยอนจะเกลียดยูยองแจอย่างฝังใจอยู่นานถึงสี่ปี....
    แต่ตอนนี้มันกลับเลือนรางลงไปได้ในชั่วพริบตา....

     

    .

    .

    .

     

    ก็เพราะร่างน้อยที่ยอมเขาทุกอย่างในค่ำคืนที่ผ่านมานั่นแหละ ชายหนุ่มเคยคิดว่าเขาจะเกลียดยองแจได้อย่างเต็มหัวใจในสักวันหนึ่ง แต่ที่สุดแล้วก็ทำไม่ได้...เอาจริงๆที่ผ่านมาเขาอาจจะไม่ได้เกลียดยูยองแจจริงๆด้วยซ้ำ มันเป็นแค่ทิฐิที่สร้างขึ้นมาเพื่อยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเอง คนที่ไม่มีอะไรเทียบเท่าอีกฝ่ายได้แม้แต่น้อย กระทั่งความมั่นใจที่คิดจะคว้าหัวใจดวงนั้นมาไว้กับตัว เขาก็ยังไม่มี...

     

    .

    .

    .

     

    แพนเค้กหนานุ่มถูกทอดจนเป็นสีเหลืองนวล กลิ่นหอมของเนยโชยไปถึงคนที่เพิ่งตื่นและเดินออกจากห้องนอนมาด้วยท่าทางงัวเงีย แก้มนิ่มๆยกขึ้นมาเป็นก้อนกลมน่าหยิกขณะที่เงยหน้าสูดกลิ่นหอมของอาหารอย่างมีความสุข ยองแจตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงปิดประตูห้องแล้ว แต่ด้วยความล้าจากเมื่อคืนที่โดนอีกฝ่ายรังแกจนช้ำไปทั้งตัวก็เลยนอนเล่นเอาแรงอยู่อีกพักหนึ่งแล้วค่อยเดินออกมา

     

    “หอมจัง ทำแพนเค้กเหรอ” เสียงใสกล่าวเบาๆก่อนจะเดินไปนั่งแปะอยู่ตรงโซฟาตัวใหญ่ มือเรียวกดรีโมทเปิดโทรทัศน์อย่างถือวิสาสะแถมยังนอนเอกเขนกเต็มที่ พร้อมกับเลื่อนช่องไปดูการ์ตูนตอนเช้าตามกิจวัตรประจำวันที่เคยทำ

     

    “อืม ทำเสร็จพอดี” โฮสต์หนุ่มตอบรับ อดยิ้มนิดๆกับนิสัยชอบดูการ์ตูนของอีกคนไม่ได้ “จะกินตรงโต๊ะนี่หรือจะให้ยกไปให้”

     

    “เดี๋ยวฉันลุกไปเอง ให้พักโฆษณาก่อน” ยองแจตอบขณะหันหลังให้เขา ตายังจดจ้องไปที่การ์ตูนเพนกวินน้อยผจญภัยเหมือนเดิม จนตัดเข้าโฆษณาถึงได้ลุกมานั่งที่เคาน์เตอร์ สะโพกมนยกตัวขึ้นนั่งบนเก้าอี้ทรงสูง  เผยให้เห็นต้นขาอ่อนที่มีรอยจูบจางๆอย่างไม่ตั้งใจ

     

    “อ้อ เสื้อเชิ้ตนี่ฉันหยิบจากตู้นายมาใส่นะ” คนสวยพูดขณะหั่นแพนเค้กกับสตรอเบอร์รี่เข้าปาก “หลวมเหมือนกันนะเนี่ย ไม่คิดว่าจะตัวใหญ่ขนาดนี้”

     

    “ผมว่าคุณผอมลงมากกว่า” แดฮยอนยื่นมือไปจับเสื้อที่อีกฝ่ายใส่อยู่เพื่อดูว่ามันหลวมมากแค่ไหน “เมื่อคืนก็กอดอยู่ทั้งคืน ว่าจะบอกตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าคุณผอมลง ทำงานหนักมากเหรอ”

     

    “อ...อืม ก็นิดหน่อย” ปากอิ่มตอบอ้อมแอ้ม จะบอกว่าทำงานหนักก็ไม่เต็มปากเท่าไหร่ น่าจะเป็นเพราะตรอมใจจากเมื่อสี่ปีก่อนมากกว่าถึงได้ผอมลงแบบนี้ “ฉันรับสาขาที่เกาหลีจากพ่อมาดูแลเต็มตัว สองปีหลังนี่เลยลงแรงอยู่คนเดียวซะเป็นส่วนใหญ่”

     

    “คุณเป็นคนเก่ง” แดฮยอนจ้องไปที่ดวงตากลมใสนั้นตรงๆ “ทำอะไรก็สำเร็จทุกเรื่องอยู่แล้ว ที่ผ่านมาคงเหนื่อยมากใช่ไหม”

     

    “ชินแล้วล่ะ” ยองแจหัวเราะคิก “ไม่ลำบากเท่าไหร่หรอกเพราะเรามีคู่ค้าและหุ้นส่วนที่ดีอยู่แล้ว...ฉันตั้งใจจะสร้างที่นี่เป็นสาขาเล็กๆแล้วก็ก้าวไปเรื่อยๆ...ไม่เอาแล้วไม่อยากคุยเรื่องเครียด” เขาตัดบทก่อนจะรวบมีดกับส้อมเข้าด้วยกันเมื่อกินเสร็จ ใครจะไปอยากคุยเรื่องงานในยามเช้าอันแสนสบายและสดใสอย่างนี้กันล่ะ แถมแพนเค้กที่คนตรงหน้าทำให้ยังอร่อยไม่เปลี่ยน ยูยองแจก็เลยเบิกบานมากเป็นพิเศษ...

    .

    .

    .

    ถ้าไม่นับร่างกายที่ยังระบมอยู่หน่อยๆนะ...

     

    .

    .

    .

     

    บรรยากาศสดใสละลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในวันก่อนได้อย่างน่าอัศจรรย์ บทสนทนาแบบง่ายๆ กับท่าทางที่ผ่อนคลายราวจะย้อนวันวานของพวกเขาเมื่อสี่ปีก่อนอีกครั้ง ก็เล่นทำตัวน่ารักซะขนาดนี้แล้วจะให้ใจแข็งได้ยังไง ดูเหมือนจองแดฮยอนจะลืมความเกลียดที่เคยย้ำกับตัวเองนักหนาไปหมดแล้ว...

     

    ใบหน้าคมมองดวงหน้าหวานนั้นอยู่นานก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยจูบที่ต้นคอขาวของคนตรงหน้า เมื่อคืนจูบไปตรงไหนบ้างจำไม่ได้หรอก ถามว่าตรงไหนที่ไม่ได้จูบน่าจะดีกว่า เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ายองแจจะช็อคขนาดไหนตอนที่ส่องกระจกแล้วเห็นรอยจูบอยู่เต็มตัว...

     

    สิ่งหนึ่งที่แดฮยอนมั่นใจก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นความเต็มใจของเขาและยองแจทั้งคู่ กับท่าทีที่สงวนไว้ต่อกัน ตลอดสองปีที่เจอกันอีกครั้งในคลับล้วนแต่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและสงครามประสาทซึ่งชายหนุ่มรู้ดีว่ามันคือเส้นใยที่ทอขึ้นมาเพื่อห่อหุ้มความรู้สึกของพวกเขาเท่านั้น และเมื่อมันเบาบางลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ขาดผึงไปอย่างสิ้นเชิง ภายใต้อาการมึนตึงคือความรู้สึกอันหวานล้ำของวันวานที่พวกเขาต่างก็โหยหาซึ่งกันและกันมาตลอด...

     

    เสียงครางแสนหวาน
    เสียงหอบแผ่วของลมหายใจ

    ทุกความรู้สึกที่ยองแจส่งผ่านมาให้ ทำให้เขารู้ว่าความคิดถึงที่มีต่ออีกฝ่ายนั้นทวีคูณกว่าความเกลียดเป็นไหนๆ จนพาลโกรธตัวเองที่ฝืนทนอยู่กับความรู้สึกนั้นมาตั้งหลายปี ขอบคุณยงนัมจริงๆที่โยนโอกาสนี้มาให้เขา ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่มันก็ทำให้แดฮยอนรู้แล้วว่าสิ่งที่เขาพยายามทำมาตลอดช่างเป็นเรื่องโง่เง่าซะเหลือเกิน...

     

    ดวงตาคมลึกทอประกายเจ้าเล่ห์อีกครั้ง ใบหน้าหล่อยื่นไปหาอีกฝ่ายที่ดื่มนมสดอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงมีเลศนัย

     

    .

    .

    .

     

    “ยองแจ”

     

    “หือ”

     

    “อร่อยมั้ย”

     

    “แพนเค้กเนี่ยเหรอ” คนสวยพาซื่อมองไปที่จานแพนเค้กซึ่งตอนนี้เหลือแต่คราบไซรัป “อื้ม อร่อยดี ฝีมือนายยังไม่เปลี่ยนเลย”

     

    “ไม่ใช่แพนเค้ก ผมเนี่ย อร่อยมั้ย”

     

    “แดฮยอน!” ยองแจร้องแล้วตีแขนเขาดังเพียะ แก้มนิ่มซับสีชมพูระเรื่อด้วยความเขินจนแดฮยอนอดใจไม่อยู่ ต้องส่งริมฝีปากเข้าไปประกบปากอิ่ม ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปชิมความหวานจากน้ำเชื่อมเมเปิ้ลและนมสดที่ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีในปากน้อยๆนั้นอย่างตั้งใจ เหนือสิ่งอื่นใด ที่หวานกว่าน้ำเชื่อมและกลมกล่อมกว่านมสดก็คือริมฝีปากแสนนุ่มที่เขาได้ครอบครองแทบทั้งคืนนี่เอง...

     

    “ฉันขอถามตรงๆได้ไหม” คุณหนูรวบรวมลมหายใจเฮือกใหญ่หลังจากถูกจูบแบบเทอร์โบไปหลายนาที แววตาเริ่มแสดงความกังวลเพราะไม่แน่ใจในตัวของคนที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะเอ่ยถามเขา “นายไม่โกรธฉันแล้วเหรอ ไหนบอกเกลียดฉันมากไง แล้วทำไม...เอ่อ...เมื่อคืน..ทำไมถึงทำกับฉันแบบนั้น”

     

    โฮสต์หนุ่มหยุดนิ่งแล้วจ้องดวงตากลมโตนั้นอยู่ชั่วขณะ มือใหญ่เก็บจานแพนเค้กที่กินเสร็จแล้วไปวางในอ่างล้างจานก่อนจะเดินอ้อมเคาน์เตอร์มามองหน้ายองแจตรงๆ

     

    “นั่นสินะ” เขาถอนหายใจขณะยกมุมปากเผยรอยยิ้มแสนเท่อีกครั้ง “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ยองแจ...ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าผมควรเกลียดคุณต่อไปดีรึเปล่า”

     

    “ฉันยังไม่รู้เลยว่านายเกลียดฉันทำไม” เสียงหวานเอ่ยตัดพ้อออกไปอย่างลืมตัว “จริงอยู่ที่นายอธิบายไปเมื่อคืน แต่ฉันบอกแล้วนี่ว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทั้งหมดเป็นเพราะดงฮยอกทั้งนั้น เราคบกันมานาน นายควรจะเชื่อใจฉันหรือแม้แต่ฟังฉันอธิบายบ้างไม่ใช่เหรอ”

     

    .

    .

    .

     

    ใช่...มันควรจะต้องเป็นอย่างนั้น แดฮยอนรู้ดีตลอดมาว่าเขาควรจะเชื่อใจคนรักมากกว่าคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่เพราะยองแจฝ่ายเดียว เป็นเพราะตัวเขาด้วยที่ลึกๆแล้วก็ยังมองว่าตัวเองไม่คู่ควรกับคุณหนูคนสวยคนนี้แม้สักนิด ทั้งความรู้สึกผิดในใจและศักดิ์ศรีที่ถูกทำลายไปเมื่อในครั้งก่อน ทำให้เขาไม่ลังเลที่จะปิดหูปิดตาและเลือกเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นทันที...

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

    ย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว ในเทอมสุดท้ายก่อนจบการศึกษามหาวิทยาลัย แดฮยอนได้รับคำแนะนำจากคุณชเว เจ้าของแกลเลอรี่ที่เขาทำงานพาร์ทไทม์มานานจนกลายเป็นลูกรักของที่นั่นเกี่ยวกับงานที่น่าจะสร้างรายได้ให้เขาได้มาก ก่อนหน้านี้คุณชเวเสนอตำแหน่งผู้จัดการแกลเลอรี่ให้กับเขาอย่างไม่ลังเลเลยด้วยซ้ำ แต่แดฮยอนกลับแบ่งรับแบ่งสู้เพราะรู้สึกว่าเขาควรจะสร้างเนื้อสร้างตัวให้รวดเร็วกว่านี้

     

    เขาอยากได้เงินซักก้อนหนึ่งเก็บไว้เพื่อยืนยันให้คนรอบข้างมั่นใจว่าเขาคู่ควรกับยองแจ ตลอดสี่ปีที่ทั้งคู่คบกันมานั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยได้ยินเสียงซุบซิบเหยียดหยันว่าเขาหวังสูง กล้าไปยืนเทียบเคียงลูกชายมหาเศรษฐี ทายาทแบรนด์นาฬิกาชื่อดังระดับโลกแถมยังเรียนเก่งและเต็มไปด้วยความสามารถแทบทุกอย่าง แต่เพราะยองแจไม่สนใจ ที่บ้านของยองแจเองก็ไม่เคยรังเกียจและต้อนรับขับสู้เขาเป็นอย่างดี เพียงแต่ครอบครัวของยองแจไม่รู้ว่าเขาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนสนิททั่วๆไป ถึงจะอึดอัดอยู่บ้างแต่ชายหนุ่มก็สบายใจอยู่เสมอเพราะถ้ายองแจและครอบครัวรักเขา ก็ไม่ต้องมีอะไรให้หนักใจ...

     

    จะติดอยู่อย่างเดียวก็คือกลุ่มเพื่อนของยองแจนั่นแหละ...

     

    ไฮโซก็ต้องคบกับไฮโซด้วยกัน เรื่องนี้แดฮยอนเข้าใจดีเพราะมันเป็นพื้นฐานของการเข้าสังคมในอนาคตสำหรับตระกูลที่ทำธุรกิจทำนองนี้ กลุ่มเพื่อนของยองแจที่เรียนคณะเดียวกันเต็มไปด้วยคุณหนูหรือไม่ก็ลูกชายเศรษฐีที่มีอิทธิพลกับวงการธุรกิจ และหนึ่งในนั้นที่ไม่ถูกกับเขามาตลอดก็คือซอดงฮยอก ทายาทค่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังของเกาหลีนั่นเอง..

    .

    .

    .

     

    อย่าไปสนเขาเลย นายก็รู้ว่าดงฮยอกเป็นคนยังไง” ยองแจเคยพูดกับเขาแบบนั้น นิสัยร้ายกาจเอาแต่ใจและเสเพลตามแบบฉบับลูกคนรวยเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป แม้ยองแจจะไม่ชอบแต่ก็พูดอะไรไม่ได้เพราะรู้จักกับดงฮยอกมาตั้งแต่เด็ก ยองแจรู้นิสัยทุกอย่างของดงฮยอก มีเพียงอย่างเดียวที่ไม่รู้นั่นก็คือ

     

    ดงฮยอกเองก็แอบชอบยองแจอยู่ด้วย....

     

    ก็เพราะอย่างงี้ไง ที่เขาว่าผีเห็นผีก็คงหมายถึงแบบนี้แหละ แดฮยอนรู้ดีว่าคนๆนั้นก็ชอบยองแจไม่น้อยไปกว่าเขานักหรอก ไอ้หน้าเงือกนั่นพยายามเกาะติดยองแจและกันท่าเขาอยู่ตลอดเวลา มากไปกว่านั้น ทุกครั้งที่เจอกัน ซอดงฮยอกไม่เคยพลาดการดูถูกเขาแม้สักครั้ง ถ้าไม่ได้ยองแจที่คอยตัดความรำคาญและลากเขาออกมา คิดเหรอว่าตลอดสี่ปีเขาจะอดทนอยู่ได้...

     

    .

    .

    .

     

    เพราะทิฐิและความต้องการเอาชนะยิ่งกระตุ้นให้แดฮยอนอยากสร้างเนื้อสร้างตัวให้เร็วขึ้นไปอีก เมื่อคุณชเวแนะนำงานบริการในคลับมาพร้อมกับเสนอให้เขาทดลองทำดูก่อน แดฮยอนจึงลองไปทำดู ในครั้งแรกเขาก็ไม่ชอบใจนัก แต่เพราะมันเป็นงานที่สุจริตและมีรายได้ที่สูงเกินคาดอย่างที่ต้องการ เขาจึงทำไปเรื่อยๆจนรู้สึกว่ามันเป็นความสนุกของชีวิตไปแทน แต่ถึงจะอยู่ในแสงสีมากแค่ไหน ต้องคอยบริการคนอื่นมากเท่าไหร่  แดฮยอนก็ยังเป็นแดฮยอนคนเดิม เป็นคนที่รักยูยองแจมากกว่าใครทั้งหมด เขาเก็บเงินอย่างเข้มงวดและไม่เคยใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยแม้แต่วอนเดียว...จากงานเสริมที่ทำแค่เล็กๆน้อยๆ กลายเป็นงานที่จริงจังจนในที่สุดยองแจก็รู้เรื่องนี้เข้าจนได้

     

    ฉันไม่ยอมให้นายทำเด็ดขาด ไปลาออกเดี๋ยวนี้เลยแดฮยอน” เสียงหวานใสที่เคยออดอ้อนเขากลายเป็นการเหวี่ยงอย่างสุดแรงเกิดในตอนนั้น ถ้าไม่นับตอนเลิกกัน เหตุการณ์ครั้งนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่เขากับยองแจทะเลาะกันหนักที่สุด

     

    ผมแค่ต้องการเก็บเงินเท่านั้นเอง ยองแจ” แดฮยอนใช้น้ำเย็นเข้าลูบ “อีกเทอมเดียวก็จะจบแล้ว รู้มั้ยว่าผมจริงจังกับคุณมากแค่ไหน จะให้ผมเริ่มต้นชีวิตอย่างคนต๊อกต๋อยแบบนี้เหรอ....ไม่ได้หรอก มันต้องมีเงินเก็บเอาไว้บ้าง

     

    ฉันไม่ได้ต้องการให้นายมารวยแข่งกับฉันซักหน่อย” ยองแจขมวดคิ้ว “ถ้าฉันคบกับนายที่ฐานะ ป่านนี้คงทิ้งนายไปนานแล้ว  จะคิดเล็กคิดน้อยอะไรนักหนา

     

    คุณไม่รู้หรอกว่าผมรู้สึกยังไง ในเมื่อคุณไม่เคยเป็นแบบผม” ในที่สุดเขาก็พูดประโยคนี้ออกมา “มันปฏิเสธไม่ได้หรอกยองแจ ต่อให้เรารักกันแต่ผมก็ยังเป็นคนในมุมมืดของคุณอยู่ดี ผมไม่อยากให้คุณต้องอายใครถึงได้ฝืนทำแบบนี้ เหมือนที่คุณต้องคบกับคนในฐานะเดียวกันเพราะการเข้าสังคมนั่นแหละ  ผมอยากเป็นคนที่ยืนเคียงข้างคุณอย่างภูมิใจบ้าง..

     

    ด้วยการเป็นโฮสต์เนี่ยเหรอ” ยองแจสวนกลับ “ไปอยู่ในที่แบบนั้น คอยบริการทั้งผู้หญิงผู้ชาย...ถึงจะไม่มีเรื่องชู้สาวหรือความสัมพันธ์อื่นก็เถอะ....นายเป็นคนรักของฉันนะ คิดว่าฉันมีความสุขเหรอที่เห็นแฟนตัวเองไปบริการคนอื่น

     

    มันไม่ใช่ว่าจะทำตลอดไปนี่นา” แดฮยอนตอบพร้อมกับกอดคนรักแนบแน่น “ผมสัญญานะยองแจ ขอเวลาผมแค่ถึงเรียนจบ เสร็จแล้วผมจะทำงานจริงจัง จะเรียนปริญญาโทต่อ หรือจะเปิดบริษัทออกแบบก็ได้ ผมขอแค่ช่วงนี้เท่านั้น ได้โปรดเถอะ ผมไม่อยากให้คุณต้องถูกใครนินทาเพราะผมอีกแล้ว....

     

    .

    .

    .

     

    เพราะประโยคนั้นเองทำให้ใจของยองแจอ่อนยวบ แม้จะเกลียดอาชีพโฮสต์เข้าไส้ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เชื่อใจในตัวแดฮยอน และยินยอมให้อีกฝ่ายทำต่อไปแม้จะไม่เต็มใจนักก็ตาม...

     

    .

    .

    .

     

    มือใหญ่ดึงร่างโปร่งลงจากเก้าอี้แล้วสวมกอดเอาไว้หลวมๆ เสียงการ์ตูนเพนกวินน้อยผจญภัยยังคงดังอยู่แว่วๆ แต่ทั้งสองคนกลับทอดตามองซึ่งกันและกันด้วยความรู้สึกใหม่ที่ถักทอขึ้นจากความรู้สึกเดิม...

     

    “ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรแล้วจริงๆ” แดฮยอนถอนหายใจอย่างยอมแพ้ “ผมเกลียดคุณนะยองแจ ต่อให้คุณไม่ได้ดูถูกผม แต่คุณก็ทิ้งผมไปอเมริกาโดยที่ไม่บอกผมเลย คุณปล่อยให้ผมนั่งร้องไห้เจ็บปวดเป็นไอ้บ้าอยู่คนเดียว....กว่าจะผ่านช่วงนั้นมาได้ก็ทรมานแทบตาย ถ้าบอสไม่ชวนผมให้มาทำงานกับเขา ป่านนี้ผมคงเคว้งจนไม่รู้จะทำยังไงต่อแล้ว ทุกวันที่ผ่านไปเหมือนกับอยู่ในหลุมมืดๆคนเดียว มันหนักจนไม่รู้จะพูดยังไงเลยล่ะ”

     

    “นายไม่ได้เกลียดฉัน นายไม่เคยเกลียดฉัน” เสียงใสกล่าวอย่างหนักแน่นพร้อมกับแววตาที่ฉายความมั่นใจเต็มเปี่ยม “เหมือนกับที่ฉันไม่เคยเกลียดนาย ตลอด 2 ปีที่อยู่อเมริกา ฉันก็เจ็บปวดไม่น้อยกว่านายหรอก การเดินจากมาโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด มันก็ไม่มีความสุขหรอกนะ ฉันตั้งใจจะบอกกับนายอยู่แล้วเรื่องที่ต้องไปอเมริกา แต่เกิดเรื่องขึ้นก่อน เราทั้งสองคนถึงต้องจากกันแบบนั้น”

     

    “ถ้าเราอยู่กับปัจจุบันแล้วลืมอดีตไป มันจะดีกว่ารึเปล่า” เขาเกลี่ยปอยผมนุ่มสีน้ำตาลอ่อนของคนตรงหน้าอย่างเบามือ “ในเมื่อคุณกับผมมีความสุขกันมากขนาดนั้น พอเป็นทุกข์ผมกลับลืมมันไม่ได้ อยากลืมแต่ลืมไม่ลง มันทรมานแค่ไหนรู้มั้ย”

     

    “แล้วทำไมนายต้องลืมด้วย” ยองแจตอบกลับเขาไปทันควัน “สี่ปีเชียวนะแดฮยอน  ฉันไม่มีค่าพอให้นายจดจำเหรอ”

     

    “คุณเป็นยิ่งกว่าทั้งชีวิตของผมอีก คนสวย” โฮสต์หนุ่มจูบหน้าผากมนอย่างทะนุถนอม “ทำให้ผมสับสนได้ถึงขนาดนี้แล้วจะบอกว่าไม่มีค่าได้ยังไง แต่มันยากนะที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเองทั้งที่ตัวผมก็ตั้งป้อมรังเกียจคุณมาตั้งแต่แรกแบบนั้น”

     

    “ตอบฉันมาก็พอว่านายรักฉันรึเปล่า จองแดฮยอน นายยังรักฉันอยู่มั้ย” มือน้อยยกขึ้นลูบแก้มอุ่นแล้วใช้นิ้วโป้งถูไปมาเบาๆ ส่งผ่านทั้งความรักและความต้องการไปให้อีกฝ่ายอย่างไม่ปิดบัง “ถ้านายยังรักฉัน อะไรก็ไม่สำคัญแล้ว”

     

    “ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจจะต้องพิสูจน์ก่อน” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มส่องประกายแวววาวอย่างมีความหมาย ผิวสีน้ำผึ้งที่ตัดกับแสงแดดสะท้อนในยามเช้าช่างมีเสน่ห์จนยองแจต้องเป็นฝ่ายกลืนน้ำลายซะเอง...

     

    “ผมอยากรู้ว่าผมจะหายคิดถึงคุณได้เมื่อไหร่” แดฮยอนกล่าวก่อนจะก้มลงงับจมูกรั้นของคนตรงหน้าเบาๆ “เอาเป็นว่าถ้าพ้นบ่ายนี้ไปแล้วยังไม่หายคิดถึง แปลว่าผมยังรักคุณอยู่ รักสุดๆเลยด้วย”

     

    “ม...หมายความว่าไง”

     

    “หมายความว่าคุณจะไม่ได้กลับบ้านง่ายๆไงล่ะ ถ้าผมไม่ปล่อย คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น ไม่อยากรู้เหรอคุณยูว่าผมยังรักคุณอยู่มั้ย”

     

    “ไม่อยากรู้แล้ว” ปลายเสียงของคุณหนูสะบัดขึ้นอย่างแสนงอน “อย่ามารุ่มร่ามนะ เมื่อคืนก็แกล้งจนฉันแทบจมติดเตียงแล้วยังจะมาลามกอะไรอีก”

     

    “ถึงไม่อยาก ผมก็ไม่ให้กลับอยู่ดี” ชายหนุ่มพูดหน้าตาเฉยขณะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนตรงหน้าแล้วกดริมฝีปากลงไปที่รอยจูบเดิมเพื่อย้ำมันอีกครั้ง “รถของคุณยังอยู่ที่คลับอยู่เลย เดี๋ยวผมพาไปเอาตอนเย็น”

     

    “งื้อ แดฮยอน ไม่เอา” ยองแจขมวดคิ้วแล้วยกอาหารเช้ามาอ้างดื้อๆ “เพิ่งกินแพนเค้กไป ยังไม่ย่อย เดี๋ยวอ้วก”

     

    คำเถียงข้างๆคูๆนั้นทำให้แดฮยอนหัวเราะออกมาดังลั่น นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้หัวเราะแบบนี้ ให้ตายเถอะ...ยองแจเป็นทั้งความสุขและความทุกข์ของเขาได้ยังไงกันนะ...

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ไม่ใช่ว่าเขาลืมความเกลียดที่มีต่อคนในอ้อมกอดไปหรอก แต่แดฮยอนรู้ตัวแล้วต่างหากว่าต่อให้เกลียดขนาดไหน ยังไงความรักที่มีให้อีกฝ่ายก็มากเกินจนทำให้เขาพร้อมที่จะทนทุกข์อยู่กับความรู้สึกแบบนี้ด้วยความเต็มใจ..

     

    “นั่นมันข้าวเช้าของคุณ” ริมฝีปากหนากระซิบอย่างหยอกเย้า

     

    .

    .

     

    “ต่อไปก็เป็นข้าวเช้าของผมบ้างไง กินได้ถึงบ่ายเลยนะขอบอก”

     

     

    .

     

    .

     

    TBC

     

    --------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

     ยัง ยังไม่จบ อะไรจะจบง่ายๆแบบนี้ บอกแล้วว่ามี 4-5 ตอน 5555555 ไปข่ะไปทอดแพนเค้ก ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ไม่รู้ว่าโอเคไม่โอเคตรงไหนบ้าง เราพยายามถ่ายทอดออกมาให้เยอะๆเลยไม่รู้ว่ามีงงมั่งมั้ย ถ้าบรรยายยืดยาวไปก็ติชมได้เลยค่ะ ขอบคุณทุกคนที่คอมเม้นด้วยนะค้า เมนชั่นมาเมี้ยนหรือจะแท็กเดิมก็ได้ค่ะ มันจะต้องดราม่ากว่านี้เสะ ตอนหน้านะตอนหน้า 555555
     ปล. เรื่องนี้คงไม่มี NC นะ แต่ถ้าแต่งแนวๆนี้แทนก็โอเคกันใช่มั้ย 55555
     

     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×