ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] B.A.P - Moonstruck

    ลำดับตอนที่ #5 : Moonstruck:: Dark Light #02 (DaexJae)

    • อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 59






    Dark Light:: 02

     

    Couple :: DaexJae
    BG :: Didn't We Love [Tamara Walker]

     

     

    ยองแจยังคงนั่งรออยู่ในห้องด้วยภาวะที่เป็นกังวลนิดหน่อย ได้ยินว่ายงฮวาเป็นลมและยงนัมก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วแบบนั้น ต่อให้ไม่เอะใจเรื่องอื่นก็ต้องเป็นห่วงอาการอยู่ดี แต่ในเมื่อห้องทำงานของยงฮวาอยู่ไม่ไกล ถ้าปฐมพยาบาลทันเวลาก็ไม่น่ามีอะไรต้องห่วง...

     

    สิบนาทีผ่านไป ระหว่างที่นั่งรอข่าวคราวอยู่เงียบๆ ตากลมโตก็มองออกไปยังกระจกใส ชวนให้เห็นท้องถนนและตึกรามต่างๆที่ยังมีดวงไฟส่องเป็นสีสันสวยงาม...เพราะย้ายจากเกาหลีไปอยู่อเมริกาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจบจึงอดซึมซับความรู้สึกเดิมๆไม่ได้ ในตอนนั้น เขาจากไปด้วยดวงใจที่เจ็บปวดและแหลกสลายเกินจะเยียวยา แต่สี่ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์เกินไปนัก เขาพยายามลืมเรื่องเก่าโดยการเรียนรู้ธุรกิจของครอบครัว ช่วยพ่อและพี่ชายรับผิดชอบการทำสัญญาค้าขายหรือคุยกับผู้นำเข้า ในที่สุดก็รับมอบสาขาที่เกาหลีจากพ่อมาดูแลโดยตรง....

     

    ยองแจเคยคิดว่าเขาลืมทุกอย่างไปได้แล้ว จนกระทั่งวันที่กลับเกาหลีครั้งแรก...วันที่เขาได้เจอกับคนๆนั้นโดยบังเอิญ....

     

    ในวันนั้น ยองแจมาเที่ยวคลับกับเพื่อนตามคำชวนและพบเขาทำงานอยู่ที่นั่น ทั้งที่ไม่ค่อยชอบบรรยากาศของคลับและการบริการในแนวนี้เท่าไหร่ แต่เพราะอยากรู้ความเป็นไปของผู้ชายคนนั้นจึงตัดสินใจเดินเข้าไปสัมผัสกับมัน แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เหลือเยื่อใยอีกแล้วก็ตาม

    เพราะเขา..เพราะเขาคนเดียว
    เพราะยูยองแจไม่สามารถลืมเขาได้เลย
    ถึงได้ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่ควรจะทำลงไป
    ทั้งที่ควรจะลืมเรื่องทั้งหมดไปได้แล้วแท้ๆ

     

    .

    .

    .

     

    ความรักที่ตกค้างอยู่ในใจ ไม่ว่านานเท่าไหร่ก็ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังไปได้ ชายหนุ่มคิดแบบนั้น แต่เห็นได้ชัดว่าคนที่เจอกับเขาไม่ได้รู้สึกอย่างเดียวกันเลย.....

     

    .

    .

    .

     

    เสียงประตูที่เปิดออกทำให้ตากลมโตผละจากกระจกใสกลับไปมอง และต้องตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร....ใบหน้าคมที่เขาคุ้นตามาตลอดหลายปีก่อนจะจากไปอเมริกา สายตาเสียดแทงที่มองเขาเป็นครั้งสุดท้ายในวันวาน เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งมันก็ยังไม่เปลี่ยน แม้กระทั่งในตอนนี้ที่จองแดฮยอนเดินมานั่งกอดอกเงียบๆไม่พูดไม่จา ปากอิ่มจึงต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถามออกไปซะเอง...

     

    “แล้วยงนัม...”

     

    “บอสเป็นลม เขาก็เลยพาไปหาหมอแล้วฝากให้ผมมาดูแลคุณแทน” น้ำเสียงห้วนๆที่ขัดขึ้นมาทำให้ยองแจหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ใช่ว่าเขาอยากจะคุยกับไอ้หน้าหงิกนี่ซะเมื่อไหร่ บรรยากาศอึดอัดแบบนี้ถ้าทำได้ก็อยากหนีไปให้เร็วที่สุดอยู่แล้ว ถ้าจำเป็นต้องพูดกันแล้วจะทำหน้าแบบนี้ สู้ไม่คุยกันเลยยังดีซะกว่า

     

    ร่างบางถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะลุกจากโซฟาขึ้นมา แต่เมื่อเขาก้าวเท้าเดินออกไปจากห้อง มือใหญ่ของอีกฝ่ายก็ยื่นมาคว้าไว้ทันที

     

    “จะไปไหน” น้ำเสียงโฮสต์หนุ่มยังคงคุมโทนเดิม

     

    “กลับบ้านสิ ยงนัมไม่อยู่แล้วฉันจะนั่งทำบ้าอะไรต่อล่ะ” เสียงใสตอบออกไปทันควันพร้อมกับดวงตากลมที่มีแววท้าทายอย่างไม่ยอมแพ้ ยิ่งเห็นแบบนั้น คิ้วเข้มที่ขมวดหนักอยู่แล้วก็ยิ่งขมวดเพิ่มเข้าไปอีก

     

    “แต่ยงนัมสั่งให้ผมดูแลคุณ” เขาพูดเรียบๆ มือแข็งแรงยังคงกระชับแน่นเหมือนจะไม่ปล่อยไปไหน ไม่ว่าคนสวยพยายามจะสะบัดออกเท่าไหร่ แดฮยอนก็ยิ่งไม่ปล่อย เพื่อนร่วมงานคงไม่รู้ว่าเขาต้องทำใจนานมากแค่ไหนกว่าจะก้าวขาเดินมาพบกับคนตรงหน้าได้ ทั้งที่พยายามหลีกเลี่ยง ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายมาที่คลับนี้บ่อยๆเพื่อจุดประสงค์อะไร แต่เขาก็ยังควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้อยู่ดี

     

    ทั้งเกลียดทั้งรัก...แดฮยอนไม่รู้จริงๆว่าเขาควรจะแสดงออกกับยูยองแจแบบไหน...แต่เพราะความเจ็บปวดในอดีตทำให้เขาจำเป็นต้องใช้ความรู้สึกแรกมาบังคับหัวใจ นี่คือทางที่เขาเลือกแล้ว..ทางที่เขารักและเจ็บปวดไปกับมันพร้อมๆกัน แต่ก็นั่นแหละ อดีตมักทำลายกำลังใจที่เราสร้างมาได้เสมอ เมื่อมาพบกันตรงๆในคราวนี้ แดฮยอนจึงไม่ลังเลที่จะซัดสาดความเย็นชาใส่คนที่เคยทำร้ายเขาด้วยตัวเอง

     

    .

    .

    .

     

    “คิดว่าจะดูแลฉันได้ดีเท่ายงนัมเหรอ” คนสวยหัวเราะ “คนอื่นอาจคลั่งไคล้นาย แต่ไม่น่าจะใช่ฉันหรอกมั้ง"

     

    “อย่าดูถูกคนอื่นเหมือนที่คุณเคยทำ” แดฮยอนตอกกลับ “ถ้าผมไม่ดี ก็คงไม่ได้ชื่อว่าเป็นเบอร์สองของที่นี่หรอก...เพราะเป็นผม ยงนัมถึงขอให้มาดูแลคุณแทนไง ระดับผมมันต้องไฮโซกระเป๋าหนักเท่านั้น พวกรวยๆพร้อมจ่าย อย่างคุณนี่แหละ ใช่เลย” น้ำเสียงยียวนกวนให้โทสะของยองแจขุ่นมัวอีกครั้ง ยิ่งโดนแหย่แบบนี้ก็ยิ่งพื้นเสียตามประสาคุณหนูที่ไม่เคยโดนขัดใจมากนัก

     

    “ความต้องการของลูกค้าสำคัญกว่า นายไม่รู้เหรอ” ยองแจกัดฟันพูด “ฉัน...ผู้ซึ่งเป็นลูกค้า...ต้องการให้นายปล่อยเพราะไม่อยากจะอยู่กับนาย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”

     

    “อ้อ..งั้นก็ได้” แดฮยอนหัวเราะต่ำๆก่อนจะยอมปล่อยมือ “จริงสินะ เป็นถึงคุณหนูคนสวยไฮโซนี่ เกลียดนักไม่ใช่เหรอที่แบบนี้น่ะ เมื่อก่อนพูดเอาไว้ว่ายังไงสงสัยจะลืมไปแล้ว คิดจะกลืนน้ำลายตัวเองง่ายๆทั้งที่ด่าคนอื่นเค้าไว้เยอะนี่ ไม่อายตัวเองบ้างเหรอ ยูยองแจ”

     

    “ฉันจะกลืนน้ำลายตัวเองไปกี่อึกมันก็ไม่ใช่เรื่องของนาย” อีกฝ่ายส่งเสียงหึในลำคอ “เมื่อก่อนก็ส่วนเมื่อก่อน ตอนนี้ก็คือตอนนี้ ขนาดฉันยังเหม็นหน้าคนที่ตัวเองเคยรักได้เลย กะอีแค่ที่เที่ยวแบบนี้ทำไมจะมาไม่ได้” พูดจบก็เดินพรวดออกไปจากห้องทันที ในใจคิดว่าต้องโทรไปเฉ่งยงนัมซะหน่อยที่ปล่อยให้คนปากตะไกรมาเอาตะไกรงับเขาถึงในห้องอย่างนี้ ถึงจะเป็นลูกค้าวีไอพี แต่ปล่อยให้เขานั่งอยู่ในห้องเฉยๆยังดีกว่าให้มาอยู่กับจองแดฮยอนซะอีก

     

    สองขาก้าวตามยองแจมาติดๆ ริมฝีปากอิ่มหนาที่แสนมีเสน่ห์เตรียมเถียงออกไปอย่างที่ตั้งใจไว้ แน่นอนว่าเขาเกลียดคุณยูคนนี้จนเข้ากระดูกดำ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกนั่นแหละว่าอยากเห็นหน้าและพร้อมจะต่อปากต่อคำกับคนข้างๆได้ทุกเมื่อ ขอแค่ได้รู้ว่ายังมีตัวตนในสายตาของอีกฝ่าย ไม่ว่าจะในแง่ไหน โฮสต์หนุ่มก็รู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูกแล้ว

     

    ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกไป เสียงใสๆเสียงหนึ่งก็แทรกขัดขึ้นมาก่อน

     

    “แดฮยอนคะ ฉันกลับมาแล้ว” เบื้องหน้าคือสาวสวยในวัยยี่สิบปลายๆ ที่ไม่น่าจะอ่อนแก่กว่าทั้งคู่เท่าไหร่ แววตาแสนสวยและเครื่องแต่งกายหรูหรามีระดับแสดงออกถึงฐานะที่ร่ำรวยแต่กลับดูไม่น่าคบนัก ยองแจได้แต่ยืนเม้มปากเงียบๆอยู่ตรงขั้นบันไดที่ปูพรมสีสวยจับตา มองเธอคว้าแขนจองแดฮยอนไปต่อหน้า คล้ายจะแสดงความเป็นเจ้าของอยู่ในที...

     

    “คุณซง มีอะไรรึเปล่าครับ” แดฮยอนยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะชำเลืองมองคนข้างๆแว่บหนึ่ง “ไหนบอกว่ามีธุระด่วนไงครับ”

     

    “เอ่อ...อ๋อ จัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ” สาวสวยที่ชื่อซงอียองยิ้มให้เขาอย่างหยาดเยิ้ม “ไม่อยากให้คุณรอนาน ฉันเลยจัดการธุระให้เร็วที่สุดแล้วรีบมา เราไปต่อกันเลยดีไหมคะ”

     

    “แต่คุณยกเลิกนัดของเราไปเองนะครับเมื่อกี้” แววตาของชายหนุ่มยังคงอบอุ่นแม้จะเอ่ยคำปฏิเสธออกไป “เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกค้ายกเลิกนัดแล้ว ถือเป็นการยกเลิก ไม่สามารถกลับมาเพิ่มเวลาต่อได้ กฎนี้คุณรู้ดีไม่ใช่หรือครับ” แขนยาวอีกข้างยกขึ้นโอบยองแจเอาไว้ในทันทีแล้วกล่าวต่ออย่างไม่เดือดร้อน “โดยเฉพาะตอนนี้ที่ผมมีนัดกับลูกค้าอีกคนแล้ว คงจะไปกับคุณไม่ได้เพราะต้องดูแลคุณยูทั้งคืน ขอโทษด้วยครับ”

     

    “ว่ายังไงนะ” ดวงตาเฉี่ยวเริ่มหรี่ลงอย่างไม่พอใจทันที “แต่ฉันมาก่อนนี่นา แล้วฉันก็เป็นแขกประจำของคุณด้วย คุณต้องดูแลแขกประจำก่อนสิ ส่วนคนอื่นก็หาพนักงานแถวนี้มาบริการก็ได้นี่” อียองมองคุณหนูคนสวยอย่างเหยียดๆ “ค่าจ้างคุณทั้งคืนเขามีพอจ่ายรึเปล่าก็ไม่รู้ มาดูแลฉันไม่ดีกว่าเหรอ”

     

    โฮสต์หนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่...เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับทายาทมหาเศรษฐีอันดับห้าของเกาหลีอย่างยูยองแจแบบนี้มีหวังได้กลายเป็นผุยผงแน่ๆ ถึงจะเลิกกันไปนานแล้ว แต่นิสัยของยองแจคงไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่หรอก คุณยูน่ารักนิสัยดี แต่ในพื้นฐานของความเป็นลูกชายมหาเศรษฐี การโดนกระทบกระเทียบโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างงี้ก็เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้เหมือนกัน แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด คนสวยที่ยืนเงียบๆเมื่อกี้มีปฏิกิริยาตอบโต้กลับไปทันควัน....

     

    “ผมว่าคุณเข้าใจอะไรผิดไปเยอะเลย คุณซง” ยองแจยิ้มหวาน เป็นรอยยิ้มที่ทั้งสดใสแล้วก็หวานกว่าสตรีแท้ๆอย่างคุณซงเสียอีก “ไม่ใช่แค่ทั้งคืนหรอกครับ ผมสามารถจ่ายค่าตัวแดฮยอนกับพนักงานทั้งหมดในคลับนี้ได้ถึงสิ้นปีหน้าเลยแหละ แล้วก็...” นิ้วเรียวกรีดชี้ไปที่ข้อมือของซงอียองอย่างจงใจ

     

    “นาฬิกาที่คุณใส่อยู่นั่นมันตกรุ่นไปสามปีแล้ว ถ้าอยากได้รุ่นใหม่ก็เข้าไปขอส่วนลดจากร้านผมนะ บอกว่ายูยองแจลดให้” ทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนจะฉุดแขนแดฮยอนเป็นเชิงสั่ง “มาเร็วๆสิแดฮยอน ไหนบอกจะอยู่กับฉันทั้งคืนไงล่ะ..คุณซงครับ ถ้ายังเปลี่ยวอยู่ก็เรียกพนักงานแถวนี้มาบริการแทนแล้วกันนะครับ”

     

    แม้แต่โฮสต์หนุ่มที่เงียบขรึมอยู่เป็นนิจอย่างแดฮยอนก็ยังหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ สายตาคมมองหน้าหญิงสาวที่เริ่มจะคล้ำขึ้นเพราะความโกรธ ถึงไม่อยากพูดก็คงต้องพูดสักหน่อย ไม่งั้นคุณซงอาจเข้าใจผิดไปอีกนาน...

     

    “นาฬิกายี่ห้อ Crystal Drop ที่คุณใส่อยู่นี่ คุณยูเขาเป็นเจ้าของนะครับ” ชายหนุ่มหัวเราะ “พูดจาอะไรก็ระวังจุดไต้ตำตอนิดนึง แล้วก็...ผมต้องขอโทษจริงๆที่บริการคุณไม่ได้ในวันนี้ ขอตัวก่อนนะครับ” แดฮยอนโค้งขอโทษแล้วเดินตามลูกค้าคนล่าสุดของเขาไปติดๆ ทิ้งให้ซงอียองยืนกัดริมฝีปากด้วยความไม่พอใจอยู่ตรงนั้น

    .

    .

    .

     

    ต่อให้เกลียดจะเป็นจะตาย แต่ความรักในครั้งก่อนก็มีมากเกินกว่าจะมาทำมึนตึงใส่กัน ยองแจก็ยังเป็นยองแจ คนที่เขารักและมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้เสมอ....

    .

    .

    .

     

    ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนเหยียบย่ำเขาเอง
    แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถเกลียดยองแจได้จริงๆสักที
    .

    .

    .

     

    ถึงได้บอกไงว่าแดฮยอนแยกความเกลียดกับความรักออกจากกันไม่ได้เลย

     

     

    ----------------------------------------------------

     

    .

    .

    .

     

    บังยงนัมนั่งข้างเตียงพยาบาล มองคนที่หลับสนิทอยู่ตรงหน้าเงียบๆ โชคดีที่ผลการตรวจออกมาไม่มีอะไรร้ายแรงแต่ก็เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ ยงฮวาเป็นลมเพราะทำงานหนักเกิน เกิดภาวะขาดอาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำ รวมถึงมีอาการเครียดของการทำงานเข้ามาปนจึงทำให้เป็นลมหมดสติไป

     

    ร่างโปร่งบนเตียงขยับยุกยิกเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่าตื่นแล้ว เมื่อแพขนตายาวลืมขึ้นสบตาเขา มือใหญ่ก็ยกมือนุ่มมากุมเบาๆและดุอย่างเสียไม่ได้

     

    “เห็นมั้ย ป่วยเลย บอกแล้วว่าอย่าหักโหม”

    “ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นด้วยล่ะ”

     

    “จะไม่ให้เครียดได้ไง” โฮสต์หนุ่มย่นจมูกใส่ “คุณสลบอยู่ตรงหน้าผมนะ ไม่ตกใจก็บ้าแล้ว จากนี้ห้ามทำงานไปอีกหนึ่งอาทิตย์ตามคำสั่งคุณหมอเข้าใจไหม มาคลับได้แต่ห้ามขยับตัวทำอะไรทั้งนั้น ที่เหลือผมทำเอง ไม่ต้องเถียงนะ ห้ามดื้อด้วย”

     

    “รู้แล้วน่า” ยงฮวาหัวเราะแล้วแกล้งยกมือปิดหู “เข้าใจแล้วๆ พักก่อนก็ได้ บ่นรัวแบบนี้ถ้าฉันป่วยกว่าเดิมจะทำไง ว่าแต่...” ดวงตาเรียวสวยช้อนขึ้นมาสบตาอีกฝ่ายอย่างสงสัย

     

    “คุณยูล่ะ นายทิ้งเขามาหาฉันแบบนี้ แล้วคุณยูอยู่กับใคร”

    “แดฮยอน”

     

    “ยงนัม” คนป่วยถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อได้ยินชื่อที่กะแล้วว่าจะต้องเป็นคนนั้น “นายอยากให้คลับฉันวินาศสันตะโรเหรอ” ถึงจะเอ่ยปากบ่น แต่ยงนัมก็เห็นหรอกว่าดวงตาสวยมีแววสนุกสนานแฝงอยู่ด้วย “แค่เดินผ่านกันพื้นยังแทบไหม้ ปล่อยให้อยู่ด้วยกันเดี๋ยวได้ฆ่ากันตายพอดี”

     

    “ช่างพวกเขาเถอะ เรื่องบางเรื่องควรจัดการกันเองได้แล้ว” อีกฝ่ายไล้มือไปตามโครงหน้าละมุนอย่างทะนุถนอม “แดฮยอนกับคุณยูไม่ใช่ชนิดที่จะระเบิดใส่กันจนแหลกไปข้าง บอสก็รู้ ทำสงครามเย็นกันมากี่ปีแล้ว เลิกได้แล้ว หรือต่อให้คลับจะพังจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมควรต้องห่วงนี่” ว่าแล้วยงนัมก็หัวเราะออกมาเบาๆ

     

    “คนที่ผมห่วงนอนอยู่ตรงหน้าของผมต่างหาก ใครจะฆ่ากันตายที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องของผมเลย”...

     

    .

     

    .

     

    .

     

    รถเก๋งสีดำทันสมัยแล่นมาจอดที่จุดชมวิวบริเวณริมแม่น้ำฮันซึ่งเต็มไปด้วยดวงไฟสีสวยและน้ำพุสายรุ้งซึ่งเปิดให้ชมเป็นประจำตามฤดูกาล สองร่างที่อยู่ในรถยังคงนิ่งเงียบต่อกัน แม้จะเดินหนีจนลับตาซงอียองมาแล้ว แต่แดฮยอนก็ยังไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายกลับบ้าน เขากึ่งลากกึ่งจูงคนตัวเล็กที่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือมาที่รถ ปากก็ยืนยันว่าต้องทำตามหน้าที่ที่ยงนัมฝากเอาไว้นั่นก็คือคอยเทคแคร์ยองแจให้ดีที่สุด

     

    ปากก็พูดไปแบบนั้น...แต่ในความเป็นจริงแดฮยอนเองก็รู้ดี มันคือความต้องการของส่วนลึกในจิตใจเขาที่อยากจะใช้เวลาอยู่กับคนๆนี้ให้นานเท่าที่จะทำได้ต่างหาก

     

    .

    .

    .

     

    “ฉันอยากกลับบ้าน” ปากอิ่มเอ่ยทำลายความเงียบ ดวงตากลมโตทอดออกไปยังน้ำพุสีรุ้งแสนสวยข้างนอกรถ แต่ดูเหมือนดวงหน้างามนั้นจะไม่ได้ซึมซับกับบรรยากาศเลย มันช่างอึดอัดจนแทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่งรถของเขามาถึงที่นี่ได้ยังไง...

     

    “ทำไม รังเกียจนักเหรอที่อยู่กับผม” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเรียบๆ แววตาคมลึกแสนดึงดูดหันมามองยองแจตรงๆ “ถึงผมจะเป็นเบอร์สอง แต่ประสบการณ์ทำงานของผมก็ไม่น้อยไปกว่ายงนัมหรอกนะ หรือว่ายังไง...คุณติดใจอะไรในตัวยงนัมเหรอ เขาบริการดีแค่ไหน มีนอกรอบด้วยรึไงถึงได้ถูกใจเป็นพิเศษ”

     

    “นี่แดฮยอน” ยองแจหันขวับมาจ้องเขาเขม็งทันที “นายกำลังดูถูกคลับของตัวเองกับยงนัมอยู่นะ อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเป็นแบบนายไปซะหมดสิ แต่ก็ใช่อีกนั่นแหละ เทียบกันแล้วยงนัมเขาบริการดีกว่านายเยอะ ขนาดฉันที่ไม่ชอบคลับแบบนี้อย่างที่นายว่า ยังยอมกลืนน้ำลายตัวเองเพื่อมาเที่ยวเลย เหตุผลเท่านี้เพียงพอรึยังว่ายงนัมดีขนาดไหน”

     

    “แย่หน่อยนะที่คุณคงเป็นได้แค่ลูกค้าของเขา คุณยู” จองแดฮยอนยักไหล่แสดงทีท่าว่าไม่สนใจ แม้ภายในจะหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกก็ตาม “กฎของ Moonstruck ลูกค้ายังไงก็เป็นแค่ลูกค้า คำหวานที่เขาพูดใส่คุณอยู่บ่อยๆก็เป็นแค่คำโกหกหลอกลวงเท่านั้นแหละ”

     

    “เรื่องนั้นทำไมฉันจะไม่รู้” คนสวยแค่นยิ้ม “แต่คำหวานที่มาจากหน้าที่ มันดีกว่าคำหวานจากใครบางคนที่หลอกให้เราเชื่อใจซะอีกนะ กับยงนัม ฉันรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเขาปฏิบัติต่อฉันในฐานะอะไร แต่กับบางคนที่เคยพูดดีๆด้วยแล้วกลับมาพูดจาตัดรอนเหมือนคนไม่รู้จักกัน แบบนั้นฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไปเพราะต้องการอะไรกันแน่”

     

    “ก็เพราะเขาโดนเหยียบย่ำก่อนไงล่ะ” ใบหน้าคมคายยื่นเข้ามาใกล้จนยองแจอึ้งไป “คนเรา เวลารักมากก็เกลียดมาก แต่ถ้าเกลียดแล้วจะให้กลับไปรักใหม่ มันก็ไม่มีวันเหมือนเดิมแล้ว”

    .

    .

    .

     

    ชั่วขณะหนึ่งที่สองตาประสานกันภายใต้ความเงียบอันว่างเปล่า...ทั้งยองแจและแดฮยอนต่างก็ถูกเสน่ห์ที่คุ้นเคยดึงดูดเข้าหากันราวกับตกอยู่ในภวังค์ ประกายสุกใสในแววตากลมโตคือสิ่งที่จองแดฮยอนโหยหามาตลอด ทั้งที่เกลียดถึงขนาดนี้ แต่เขากลับคิดถึงเรือนร่างบอบบางที่นุ่มละมุนจนเจ็บปวดหัวใจไปหมด นับตั้งแต่เจอกับอดีตคนรักอีกครั้งเมื่อ 2 ปีก่อน เขาก็เข้าใจดีว่าความรู้สึกเดิมที่ถูกกดอยู่ภายในใจนั้นไม่ได้ลดทอนลงไปแม้แต่นิดเดียว

    .

    .

    .

     

    แต่สิ่งที่ยองแจทำกับเขา จะให้ลืมก็คงลืมไม่ได้อีกเหมือนกัน...

     

    .

     

    .

     

    “ฉันไปทำอะไรให้นาย” ในที่สุดคุณหนูคนสวยก็ถามออกมาตรงๆ “เกลียดฉันใช่ไหม ที่ทำแบบนี้ก็เพราะเกลียดฉันใช่ไหม ที่มองผ่านฉันไปเหมือนฉันไม่มีตัวตนเวลาไปที่คลับ นั่นก็เพราะเกลียดฉันด้วยใช่ไหม...จองแดฮยอน ตอบฉันหน่อย ที่ผ่านมาฉันไปทำอะไรให้นาย กระทั่งวันที่นายบอกเลิกฉัน ต่อว่าฉัน ฉันก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเพราะอะไร..ทำไมถึงต้องเกลียดฉันขนาดนี้”

     

    “ท่าทางที่แกล้งทำเป็นใสซื่อของคุณมันใช้กับผมไม่ได้หรอก ผมขยะแขยงคุณจนสุดจะทนจริงๆ คุณยู” แววตาตัดพ้อของอีกฝ่ายยิ่งกระตุ้นความเจ็บในหัวใจมากขึ้น แต่นั่นก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของการเสแสร้งด้วยก็ได้

     

    “คุณเกลียดอาชีพโฮสต์ผมก็เข้าใจ แต่เมื่อก่อนที่ผมยอมทำอาชีพนี้ มันเป็นเพราะใครคุณก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ” เสียงของแดฮยอนเริ่มเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ “ถ้าผมผิดที่เป็นแค่คนจนๆ ไม่คู่ควรกับคุณ ถ้าอายที่จะคบกับผม แค่พูดตรงๆมาก็พอว่าคุณไม่รักผมแล้ว ไม่ใช่จ้างให้คนเอาเงินมาฟาดหัวผมแล้วบอกว่ารังเกียจในตัวตนที่ผมเป็น ทีนี้ซึมเข้าไปในหัวรึยังว่าผมเกลียดคุณเพราะอะไร”

     

    “ฉันบอกนายไปแล้วไงว่าฉันไม่เคยพูด” ยองแจร้อง “เรื่องตอนนั้นฉันไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรด้วยเลย ทั้งหมดดงฮยอกเป็นคนทำทั้งนั้น ฉันไม่เห็นด้วยกับอาชีพที่นายทำ แต่ฉันก็ไม่เคยเหยียบย่ำนาย เราคบกันมาตั้งกี่ปี นายยังไม่รู้นิสัยของฉันอีกเหรอว่าฉันเป็นคนยังไง”

     

    “มันก็พูดยากนะ” มือใหญ่คว้าไหล่บางเอาไว้เบาๆ แต่กลับออกแรงกดจนยองแจปวดหนึบไปหมด “คบกันนานก็ใช่ว่าจะเห็นนิสัยที่แท้จริงของคนๆนั้นได้เสมอไป งั้นที่คุณกลับมาเกาหลีแล้วเทียวไปเทียวมาที่คลับนี้ล่ะ เป็นเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะอยากมาดูถูกเหยียบย่ำผมอีก”

     

    “ฉันไม่เคยคิดจะทำแบบนั้น” ยูยองแจพยายามขืนตัวออกจากวงแขนของเขา “ฉันเจอกับนายโดยบังเอิญที่นั่น แล้วก็แค่อยากมาใช้บริการ มันเป็นความสุขของฉัน ไม่เกี่ยวกับนายซักหน่อย”

     

    “คลับในโซลมีตั้งเยอะตั้งแยะ ที่หรูพอๆกับ Moonstruck ก็มี ถ้าไม่ใช่เพราะผม คุณจะเลือกมาที่นี่ทำไม หรือว่า....” ใบหน้าคมปรากฏแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมาวูบหนึ่ง “หรือว่าคุณยังรักผมอยู่”

     

    “ม...ไม่ใช่ ฉันไมได้รักนาย” คนสวยปฏิเสธเป็นพัลวัน แก้มเนียนเริ่มขึ้นสีชมพูระเรื่อเมื่อถูกเค้นความจริงจากหัวใจ แม้ในรถจะมืด แต่เสียงประหม่าแบบนี้ทำให้แดฮยอนเดาได้ไม่ยากเลยว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าแบบไหน ยิ่งทำกลบเกลื่อนแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งน่าสงสัยเข้าไปอีก..

     

    ชายหนุ่มหัวเราะหึๆในลำคอก่อนจะลากสายตาคมมองใบหน้าหวานนั้นไปทีละจุด ยูยองแจยังคงงามเสมอโดยเฉพาะยามสะท้อนกับแสงจันทร์จากภายนอกแบบนี้ ดวงตากลมโต จมูกเชิดรั้นและริมฝีปากอิ่มสีชมพูชวนให้หลงมัวเมา นี่อาจเป็นสิ่งที่เขาโหยหามาตลอด 4 ปีก็เป็นได้าก

     

    ทำไมหัวใจถึงได้พองฟูขึ้นมาแบบนี้...นี่เขากำลังมีความสุขอยู่งั้นเหรอ เราสามารถเกลียดคนๆนึงแต่ก็มีความสุขไปกับคนๆนั้นได้รึเปล่านะ...

     

    .

    .

    .

     

    ไวเท่าความคิด ริมฝีปากหนาแนบเข้าไปที่ปากอิ่มสีสวยนั้นอย่างรวดเร็ว สัมผัสอ่อนหวานเมื่อครั้งก่อนที่เคยได้รับจากคนในอ้อมกอดยังคงติดตรึงไม่จากไปไหน....ยองแจตกใจกับสัมผัสนั้นในทีแรกแต่ก็คล้อยตามไปอย่างว่าง่าย มือบางเอื้อมไปกอดคออีกฝ่ายและจูบตอบเขาอย่างเผลอไผล...

     

    .

    .

    .

     

    มีเสียงหอบหายใจเบาๆหลังจากแดฮยอนถอนจูบออกมา ความเกลียดชังที่กักเก็บไว้ไม่สามารถต้านทานรอยสัมผัสอันหวานละมุนนั้นได้อีก โฮสต์หนุ่มปรับเบาะรถยนต์ให้เอนลงในระหว่างที่มือแกร่งอีกข้างก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนตรงหน้า รู้สึกตัวอีกที ร่างโปร่งก็ก้าวข้ามมาทาบทับร่างบางที่ยังมึนเมากับรสจูบโดยไม่ทันรู้ตัวเสียแล้ว

     

    .

    .

    .

     

    “นายคิดจะทำอะไร” ยองแจครางเสียงแผ่วเมื่ออีกฝ่ายก้มลงขบใบหูขาวของเขาเบาๆ

     

    “ไม่น่าถามเลยว่าผมจะทำอะไร” แดฮยอนแตะปลายลิ้นลงที่ซอกคอขาวอย่างหลงใหล “ใช่ว่าเราไม่เคยทำเรื่องแบบนี้กันซักหน่อย”

     

    “แต่ Moonstruck ห้ามพนักงานเกินเลยกับลูกค้านะ” คนสวยท้วงอย่างอ่อนแรง “ถ้าคุณยงฮวารู้เรื่องนี้ นายต้องโดนไล่ออกแน่ๆ ยิ่งฉันเป็นลูกค้าวีไอพีด้วย นายกล้าทำแบบนั้นเหรอ”

     

    .

    .

    .

     

    “ใครบอกว่าผมจะยุ่งกับคุณในฐานะลูกค้า” มุมปากของจองแดฮยอนกระตุกขึ้นอย่างมีความหมายอีกครั้ง ถ้าเป็นช่วงเวลาอื่น ยองแจคงคิดว่ามันมีเสน่ห์ แต่ตอนนี้เวลานี้ มันกลับไม่น่าไว้วางใจเอาซะเลย.....

     

    .

     

    .

     

    .

     

    “ผมไม่ได้คิดจะยุ่งกับคุณในฐานะลูกค้าสักหน่อย” เขายังคงยืนยันคำเดิม

     

    .

     

    .

     

    .

     

    “แต่ในฐานะแฟนเก่าต่างหากล่ะ”.....

     

    .

     

    .

     

    .

     

    TBC

     

    ------------------------------------------------------------------------------

     

    ตั้งใจว่าจะให้เรื่องนี้ดราม่าเข้มๆหน่อย แต่ส่วนตัวเราก็ยังแต่งแนวนี้ไม่เก่งนะ บวกกะมันเป็นช็อตฟิคก็คงเข้มมากไม่ได้เดี๋ยวไม่จบ 5555555 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ของแดแจนี่น่าจะซัก 4-5 ตอนเลยค่ะ ยังไงก็จบแน่นอนแต่ไม่รู้ซึ่งความถี่ TvT ไม่แน่ใจว่ามีคนอ่านเยอะมั้ย แต่แค่รู้ว่ามีคนอ่านก็ดีใจและ 55555 เช่นเคย เม้ามอยใน @chocopastelbbyz หรือ #บอพมสต ได้เลยค่า^^

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×