ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] B.A.P - Moonstruck

    ลำดับตอนที่ #2 : Moonstruck:: Dim Light #02 (BangxChan)

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 58






    Moonstruck





    Dim Light:: 02

     

    Couple :: BangxChan
    BG :: Cradle [Atomic Kitten]

     

     

    แสงแดดที่ส่องเข้ามาในเช้าวันเสาร์ค่อนข้างแรงจนทำให้เขาลืมตาขึ้นช้าๆ คนในอ้อมกอดยังคงหลับสนิท ยงกุกก้มลงจูบที่ขมับของฮิมชานเบาๆแล้วกระชับร่างบอบบางให้แนบกับอกของเขามากขึ้น เมื่อคืนที่ผ่านมาช่างราวกับฝันจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาทำมันลงไปแล้ว เพราะแพ้ใจตัวเอง แพ้ความอ่อนหวานของคนๆนี้ แล้วก็มีอะไรกับลูกค้าที่ยงนัมสั่งนักสั่งหนาว่าห้ามละเมิดกฎไปเรียบร้อย...

     

    “เวลาของผมเหลือน้อยลงทุกทีแล้ว”....ฮิมชานบอกกับเขาว่าอย่างงั้น ยงกุกเองก็ไม่รู้ว่ามันหมายความถึงอะไร เขาไม่ได้อยู่ที่เกาหลีเหรอ หรืออาจจะอยู่เมืองไหนที่ไกลมากรึเปล่า เพราะแววตาที่อ้อนวอนบวกกับเรือนร่างอันแสนเย้ายวน ทำให้ชายหนุ่มไม่ลังเลที่จะทำตามความต้องการของตัวเอง จากนี้ไม่รู้จะเกิดเรื่องมั้ย แต่ถ้ามันร้ายแรงจริงๆเขาจะรับผิดชอบเอง ฮิมชานไม่ใช่ลูกค้าประจำ เรื่องนี้คงไม่หลุดรอดออกไปง่ายๆ หรือจะให้เขารับผิดชอบคนๆนี้ไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ เพราะเขาเป็นแค่ผู้ชายธรรมดา ไม่มีข้อสัญญาระหว่างลูกค้ากับพนักงานมาผูกมัด...ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนตัวขาวที่เขากำลังกอดอยู่เท่านั้นว่าจะเอายังไง

     

    “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มทักทายเมื่อเห็นร่างน้อยบิดขี้เกียจเบาๆ ท่าทางขี้เซาของคนตรงหน้ายิ่งทำให้ยงกุกอยากจะรังแกให้มากขึ้นอีก ติดที่ว่าฮิมชานบอบบางมากเกินไป แม้เมื่อคืนคนๆนี้จะอ้อนวอนให้เขาทำแรงๆ แต่ยงกุกก็ไม่กล้าเพราะกลัวว่าร่างที่บอบบางอยู่แล้วจะยิ่งเปราะบางมากขึ้นไปอีก....

     

    “กี่โมงแล้ว” ฮิมชานซุกหน้ากับอกเขาแล้วถามด้วยเสียงอ่อนแรง ยงกุกหยิบนาฬิกาข้อมือที่โต๊ะข้างเตียงมาดูครู่หนึ่งแล้วตอบกลับไป ดีว่าเป็นเช้าวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุด แต่ก็ไม่ดีเพราะเขากลัวว่ายงนัมจะโทรมาตาม ถ้าเรื่องที่นอนกับลูกค้าแตกมีหวังโดนมันแพ่นกบาลแยกแน่ๆ

     

    “นี่..” ฮิมชานเปิดปากถามเขาอีกครั้ง “ทำไมคุณถึงชื่อบังยงกุกล่ะ ในเมื่อยงฮวาบอกว่าคุณชื่อยงนัม ผมเคยเห็นรูปของคุณแล้วด้วย ตกลงคุณไม่ได้ชื่อยงนัมเหรอ”

     

    “ยงนัมเป็นพี่ชายฝาแฝดของผมเอง” ในที่สุดยงกุกก็ต้องสารภาพ “ผมจำเป็นต้องใช้เงินนิดหน่อย แล้วพอดียงนัมก็ติดธุระสำคัญ เขาเลยขอให้ผมมาดูแลคุณ...”

     

    “แปลว่าคุณไม่ใช่บังยงนัมจาก Moonstruck?

    “ครับ”

    “คุณเป็นน้องชายฝาแฝดของยงนัม แล้วก็ไม่ได้เป็นพนักงานในคลับนั้น?”

     

    “ครับ” ชายหนุ่มตอบแล้วประสานดวงตากลมนั้นอย่างเป็นกังวล “ฮิมชาน ขอโทษนะที่ผมไม่ใช่คนที่คุณต้องการ โกรธผมรึเปล่าที่หลอกคุณแบบนี้”

     

    “ไม่เลย” ศีรษะทุยนั้นสั่นแรงๆจนผมนุ่มกระจายอยู่บนท่อนแขนเขา

     

    .

     

    .

     

    “ดีแล้วที่เป็นคุณ” ฮิมชานยิ้มตาหยีอีกครั้ง “ถ้าเป็นคุณยงนัม เราอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ได้ ผมเข้าใจดีว่ากฎของ Moonstruck เคร่งครัดแค่ไหน ยงฮวาเคยบอกกับผมอยู่บ่อยๆ อันที่จริงก็สงสัยตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ถึงจะไม่เคยพบกับยงนัมตัวเป็นๆ แต่ผมก็รู้ว่าคนที่ทำอาชีพแบบนี้เค้าไม่นั่งเงียบอย่างคุณหรอก”

     

    “ใจร้าย รู้ตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่ยอมบอก” ยงกุกบีบแก้มใสเบาๆแล้วก้มลงจูบจนมันขึ้นเป็นสีชมพู “ปล่อยให้ผมเครียดแทบตาย กลัวคุณรู้แล้วจะไม่พอใจ ถ้าไปเอาเรื่องกับยงนัม ผมต้องตายแน่ๆ”

     

    “ทำไม กลัวคุณยงนัมจะโดนไล่ออกเหรอ ได้ข่าวว่าเขาเป็นเบอร์หนึ่งของคลับ ยงฮวาไม่ไล่เขาออกง่ายๆหรอก”

     

    “ไม่ได้กลัวเรื่องนั้น” ยงกุกพลิกตัวขึ้นมาอยู่บนร่างขาวอีกครั้งแล้วแนบริมฝีปากลงไปจรดเรียวปากบางอย่างหลงใหล “แค่กลัวว่าถ้าคุณไม่พอใจแล้วกลับไปเรียกหายงนัมเหมือนเดิม ผมคงทนไม่ได้”

     

    “ยงกุก...” ฮิมชานครางเสียงแผ่วเมื่อคนตรงหน้าตั้งท่าจะรังแกเขาอีกครั้ง “ผมมีคุณแล้ว ผมจะเรียกหาคนอื่นได้ยังไง อยู่กับผมนะ อยู่กับผมแบบนี้จนกว่าจะถึงเวลาของผม ถ้าคุณเสียงานเสียเวลา ผมจะจ่ายให้ อยากได้เท่าไหร่ผมก็พร้อมจะให้คุณ ขอแค่อยู่กับผม อยู่แบบนี้ทั้งวันทั้งคืน อย่าทิ้งผมไปได้มั้ย”

     

    “มีปัญหาอะไรรึเปล่า” ยงกุกชะงักแล้วประสานสายตาที่เริ่มรื้นไปด้วยน้ำตานั้น แสงจันทร์สลัวที่ส่องมาเมื่อคืนทำให้เขาดูน่าสงสารพออยู่แล้ว ยิ่งในยามกลางวันที่ต้องแสงแดด ร่างขาวๆนี้ก็ยิ่งเปราะบางเข้าไปใหญ่ ยังไม่รวมน้ำตาที่เตรียมจะหยดลงมาอีกนะ คิมฮิมชานทำให้เขาใจอ่อนได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย

     

    “ไม่มี” ฮิมชานตอบปฏิเสธ พยายามควบคุมปลายเสียงที่สั่นนิดๆเอาไว้ “แค่อยากให้คุณอยู่กับผม...เหมือนอย่างตอนนี้ เข้ามาในตัวผมเถอะนะ ผมต้องการคุณ”...

     

    ยงกุกไม่ได้ตอบอะไรอีกนอกจากทำตามที่คนใต้ร่างเขาเชิญชวน ไม่ใช่แค่ฮิมชานเท่านั้น เขาเองก็ต้องการร่างน้อยอันแสนบอบบางนี้จนแทบทนไม่ไหวเหมือนกัน ชายหนุ่มก้มลงจูบและปรนเปรอความรักลงไปเท่าที่ตัวเองจะทำได้.....มิสคอลกว่ายี่สิบสายของยงนัมปรากฏอยู่บนจอสมาร์ทโฟนที่ปิดเสียงเอาไว้ ต่อให้โทรมาอีกเป็นร้อยเป็นพันครั้ง วันนี้ทั้งวัน เขาก็ไม่พร้อมที่จะรับโทรศัพท์ของพี่ชายหรอก...

     

    .

     

     

    .

     

     

    รอก่อนนะ...มีปัญญาโทรได้ก็โทรไปละกัน...

     

    --------------------------------------------------------------------

     

     

    ยงนัมนั่งนวดขมับด้วยความเครียดหลังฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากน้องชาย ไม่รู้เป็นความผิดเขารึเปล่าที่เบี้ยวนัดในวันนั้นและส่งยงกุกไปแทน และใครจะไปรู้ว่าไอ้น้องตัวดีที่วันๆไม่คุยกับใครจะไปตกหลุมรักลูกค้าของเขาซะอย่างงั้น ถึงฮิมชานจะไม่ใช่ลูกค้าประจำและไม่ใช่วีไอพีแต่ก็เป็นเพื่อนของยงฮวา ต่อให้เรื่องนี้จบลงด้วยความพอใจของทั้งสองฝ่าย ถึงยังไงเขาก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

     

    “นายจะเครียดไปทำไม ฉันยังไม่เห็นเครียดเลย” ยงกุกนั่งไกวชิงช้าอย่างสบายใจในสวนสาธารณะ ที่เดียวกับที่เขานัดฮิมชานเมื่อครั้งแรกนั่นแหละ

     

    “แหงล่ะ แกไม่เสี่ยงตกงานเหมือนฉันนี่ ถ้าบอสรู้ว่าแกกินเพื่อนเขาไปแล้ว คนที่ซวยก็คือฉันเข้าใจไหม” ยงนัมจิ้มที่หน้าอกตัวเองก่อนจะหันไปจิ้มหน้าผากน้องชายจนหน้าเกือบหงาย “มึงนะมึง หาเรื่องจริงๆ ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าห้ามนอนกับลูกค้า”

     

    “ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าฉันทำผิด” ยงกุกเอ่ยเสียงอ่อยๆ “แต่ฉันชอบเขาจริงๆ นายไม่คิดบ้างเหรอว่านี่เป็นพรหมลิขิต ถ้านายไม่มาขอร้องฉันวันนั้น ฉันก็คงไม่ได้เจอกับเขา”

     

    “เออ เอาเหอะๆ ขี้เกียจจะพูด” ยงนัมโบกมือทำนองว่าไม่ใส่ใจ เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าแฝดน้องจะจริงจังกับเรื่องนี้มากกว่าที่คิด ช่างมันก็ได้ ตราบใดที่เรื่องไม่แดงออกมาและไม่ส่งผลกระทบกับการงานชื่อเสียงของเขาก็คงไม่เป็นไร “แล้วนี่ยังติดต่อกันอยู่รึเปล่า”

     

    “อือ เขาจ้างฉันต่อ”

     

    ยงนัมเกือบไถลตกชิงช้าหัวฟาดพื้น....

     

    “อะไรนะ”

     

    “ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน แต่เขาบอกว่าเวลาของเขาเหลือน้อยแล้ว ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี่ฉันก็อยู่กับเขาตลอด ค่าเสียเวลาของฉันเขาก็บอกว่าจะจ่ายให้ แต่ฉันไม่เอาหรอก” ยงกุกว่าพลางไกวชิงช้าเบาๆ “รับเงินมาก็จริง แต่กะจะคืนไปทั้งหมดนั่นแหละ จะหน้าด้านรับได้ยังไงในเมื่อมันมาจากความเต็มใจของฉันด้วย”

     

    ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ชายหนุ่มทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับร่างบางๆนั้น เขาขลุกอยู่แต่ในโรงแรมกับฮิมชาน ทำทุกอย่างที่คนในอ้อมกอดขอร้องให้ทำ ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ยงกุกเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะมีความสุขได้มากขนาดนี้ แม้บางครั้งที่เขาตื่นมากลางดึกจะเห็นฮิมชานนั่งเงียบๆอยู่ตรงโซฟาริมหน้าต่างในโรงแรม สองมือกุมศีรษะหรือบางครั้งก็สะอื้นเบาๆ เมื่อลุกไปถาม คนสวยของเขาก็บอกแต่เพียงว่าไม่เป็นไร แล้วก็ขอให้เขากอดอีกจนกว่าจะถึงรุ่งเช้า...

     

    ยงกุกไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฮิมชานเลย รู้แค่ว่าเจ้าหญิงของเขามีเงินมากพอจะเช่าห้องสวีทนี้ได้ยาวๆไปถึงสิ้นปี รู้แค่ว่าเขาไม่รู้จักกับใครนอกจากยงฮวา รู้แค่ว่าฮิมชานติดเขาแจจนไม่ยอมให้เขาไปไหน ดีที่ว่าตัวเขาเพิ่งจะลาออกจากงาน กว่าจะเริ่มงานใหม่ก็ตั้งเดือนหน้าเลยมีเวลาว่างให้กับฮิมชานทั้งวัน ชายหนุ่มไม่ได้อึดอัดหรอก อย่างที่บอก มันเป็นความเต็มใจของเขาเอง เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าทำไมฮิมชานถึงได้ต้องการให้เขาอยู่เป็นเพื่อนมากขนาดนั้น รวมไปถึงอาการแปลกๆที่มักจะกำเริบออกมาตอนกลางคืน มันคืออะไรกันแน่

     

    .

     

    .

     

     

    คิมฮิมชานสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา เขารีบซ่อนของที่ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็นอย่างรวดเร็ว ระยะหลังนี่รู้สึกว่าจะใช้มันถี่มากขึ้น แต่ก็พอดีกับเวลาแล้วล่ะ อีกไม่นานก็ถึงเวลาของเขาแล้ว และอีกไม่นานเขาก็ต้องจากบังยงกุกไปเช่นเดียวกัน...ดีเหลือเกินที่ได้พบกับคนๆนี้ในช่วงเวลาที่เหลือของชีวิต ถึงจะยังไม่แน่ใจในอนาคต แต่ปัจจุบันที่ได้อยู่กับยงกุกตอนนี้ก็เป็นความสุขที่สุดของเขาแล้ว

     

    “มาแล้วเหรอ” ริมฝีปากซีดเซียวยกยิ้มขึ้นมาน้อยๆ “ผมยังไม่ได้สั่งอาหารขึ้นมาเลย หิวมั้ย”

     

    “รอผมทำไม นี่มันบ่ายกว่าแล้วนะ ทำไมไม่กินไปก่อน” ยงกุกเดินเข้ามาโอบคนตรงหน้าเอาไว้ เจ้าหญิงของเขานั่งชันเข่ามองออกไปที่กระจกเหมือนที่เคยทำทุกๆวัน ร่างเปลือยเปล่าของฮิมชานขาวจัดจนสะท้อนแสงแข่งกับแสงอาทิตย์ พวกเขาเปลือยกายอยู่ในห้องจนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ทำจนชายหนุ่มไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลก เพราะต่อให้ใส่ อีกเดี๋ยวก็ต้องโดนบังคับให้ถอดอยู่ดี...

     

    “ผมยังไม่หิว” ฮิมชานตอบแล้วหัวเราะคิกด้วยความจั๊กจี้เมื่อยงกุกทรุดลงบนโซฟาและกดจูบลงบนซอกคอขาวเนียนนั้น “จะทำเลยหรือว่าจะกินข้าว”

     

    “ทำพร้อมๆกันได้มั้ย” ยงกุกไล่ขึ้นมาจูบหน้าผากเขาด้วยความรัก “ผมกินคุณ อิ่มพอดีเลย..”

     

    “รอบเดียวไม่อิ่มหรอก ถ้าจะกินต้องกินหลายรอบนะ” ร่างเล็กหัวเราะแล้วรั้งคนตรงหน้าเข้ามาจูบ “กินข้าวเถอะยงกุก เดี๋ยวผมสั่งขึ้นมาให้”

     

    “ไม่เอาดีกว่า” ร่างสูงโอบฮิมชานเข้ามาไว้กับอกกว้างพลางนิ่งคิด “วันนี้ออกไปสูดอากาศหน่อยดีมั้ย คุณอยู่แต่ในห้องจนผมกลัวว่าจะเฉาตาย เอางี้ เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกับน้องโรเบิร์ต”

     

    “โรเบิร์ต?”

    “อื้อ ใส่เสื้อผ้าเร็วคนสวย ผมจะให้น้องโรเบิร์ตพาคุณเที่ยว”

     

    .

     

    .

     

    เบื้องหน้าของฮิมชานคือมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่เท่สมกับคนขับ ยงกุกบอกว่านี่คือน้องโรเบิร์ต มอเตอร์ไซค์สุดรักที่เขาลงทุนเก็บเงินซื้อ ชายหนุ่มรับค่าจ้างที่ไปเที่ยวกับฮิมชานแค่คืนแรกเพื่อเอาเงินไปซ่อมมัน แต่หลังจากนั้น ทุกบาททุกสตางค์ เขาก็เก็บเอาไว้หมดเพื่อตั้งใจจะคืนให้กับฮิมชานด้วยตัวเอง

     

    “ใส่หมวกกันน็อคแล้วกอดผมเอาไว้นะ” ยงกุกกำชับเรื่องความปลอดภัย จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง พอเห็นฮิมชานทำท่าตื่นเต้นที่จะได้นั่งมอเตอร์ไซค์ เขาก็อดกลัวไม่ได้ ตัวแค่นี้โดนลมนิดเดียวก็ปลิวแล้ว เกิดแม่นึกสนุกลุกขึ้นยืนโต้ลมแล้วตกมอเตอร์ไซค์ไปเขาได้ซวยกันพอดี ฮิมชานพยักหน้าหงึกๆแล้วกอดเอวเขาเอาไว้แน่น เชื่อใจคนที่เริ่มสตาร์ทเครื่องและซิ่งตัวออกไปยังจุดหมายที่ต้องการ

     

    .

     

    .

     

    “สวยมั้ย” ร่างสูงโอบกอดอีกฝ่ายจากด้านหลัง เขาเกยคางลงกับไหล่ของฮิมชานเบาๆขณะที่คนในอ้อมกอดมองไปยังทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา “ผมเห็นคุณเหงาๆก็เลยพามาที่นี่ ถ้าอยู่แต่ในห้องอย่างเดียวก็จะยิ่งเหงานะ ชอบทะเลมั้ย”

     

    “งื่อ ชอบมากเลย” ร่างบางเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้มให้ หยาดน้ำตาใสๆเริ่มรื้นขึ้นมาอีก ฮิมชานคิดไม่ถึงจริงๆว่ายงกุกจะทำให้เขาถึงขนาดนี้ ทั้งที่เขาแค่จ้างมาให้เป็นเพื่อนอยู่ด้วยแท้ๆ แต่ยงกุกกลับไม่เคยพูดถึงเรื่องเงินเลยสักครั้ง ตอนที่ให้ก็รับไปเงียบๆและเก็บซองลงกระเป๋าเป้ของตัวเอง ไม่สนใจจะออกมานับดูด้วยซ้ำ ยงกุกดูแลเขาอย่างดีและทำตามที่เขาขอทุกอย่าง จากตอนแรกที่คิดว่าอยากจะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายให้มีความสุข กลับกลายเป็นความทรมานสำหรับเขาไปเสียแล้ว

     

    .

     

    .

     

    ใช่ ทรมาน...ทรมานที่รักบังยงกุกไปจนหมดหัวใจ...

     

    “ไว้ผมจะพามาอีกนะ จะพามาบ่อยๆเลย เจ้าหญิงของผมจะได้ไม่เหงาอยู่ในห้องอีก โอเคนะ”

     

    “อื้อ ขอบคุณนะยงกุก” ฮิมชานโผเข้าซุกอกกว้างแล้วยิ้มทั้งน้ำตา อยากจะพูดคำว่ารักออกไปเป็นพันครั้งแต่ก็ทำไม่ได้ เขาไม่อยากทำให้ยงกุกต้องเจ็บ....

     

    .

     

    .

     

    ถึงเวลาที่เขาต้องกลับแล้ว กลับไปยอมรับในชะตากรรมของตัวเอง....

     

     

    TBC

     

    ------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×