คืนสยองขวัญกลางฤดูร้อน
ผมมีประสบการณ์ที่ตื่นเต้นน่ากลัวมาเล่าให้ฟัง....ขอแนะนำว่าอย่าอ่านเรื่องนี้ตอนกลางคืนเพราะว่ามัน......มันน่ากลัวมาก
ผู้เข้าชมรวม
280
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
-
-
ผมมีประสบการณ์ที่ตื่นเต้นน่ากลัวมาเล่าให้ฟัง....ขอแนะนำว่าอย่าอ่านเรื่องนี้ตอนกลางคืนนะครับเพราะว่ามัน......มันน่ากลัวมาก
ผมจำไม่ได้แล้วว่าวันนั้นเป็นวันที่เท่าไร แต่ผมคิดว่าน่าจะอยู่ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่า ทุกคนในบ้านต่างก็เข้านอนกันหมดแล้ว บรรยากาศกำลังเงียบสงัดไร้ซึ่งเสียงใด ๆ
......ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังหลับไหล.....ยกเว้น....ตัวผม
ผมกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานในห้อง ตรงหน้าคือสมุดเขียนนิยาย ดินสอกดแท่งโปรดในมือก็ขยับไปมาขณะขีดเขียนตัวอักษรตัวแล้วตัวเล่าอย่างรวดเร็ว ถ่ายทอดพล็อดนิยายที่อยู่ในความคิดลงสู่หน้ากระดาษ
อืมม์....คราวนี้ให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้นะ.....นางเอกจะคิดอย่างนี้......พระเอกต้องเจอแบบนี้
ด้วยความคิดที่หลั่งไหลเข้ามาสู่สมองอย่างไม่ขาดสาย และตัวผมเองก็ไม่อยากให้โอกาสดี ๆ ที่นาน ๆ ทีจะเข้ามาเช่นนี้หลุดลอยไปและถูกขัดจังหวะโดยการนอน ทำให้ผมเขียนนิยายไปเรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลินจนลืมนึกถึงเวลา
จนเวลาล่วงมาถึงตีสองกว่า......
ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือไม่ แต่ว่าจู่ ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถูกใครบางคนจ้องมองอยู่......
ทันใดนั้นบรรยากาศรอบตัวพลันเย็นยะเยือกลงทันทีอย่างน่าพิศวง......แปลกจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้อากาศมันร้อนอบอ้าวขนาดที่ว่าผมเปิดพัดลมแล้วยังต้องคอยซับเหงื่อบนใบหน้าเป็นระยะ ๆ
......ความเย็นยะเยือกดังกล่าวค่อย ๆ คืบคลานย่างกรายเข้ามาเรื่อย ๆ มันผ่านเข้ามาทางแผ่นหลังทำให้ร่างกายผมสั่นกระตุกไปทั่ว
อะไรน่ะ......นั่นมันอะไร
บางอย่างในจิตใต้สำนึกบอกเราว่ามีบางสิ่งบางอย่างอยู่ข้างหลัง อะไรบางอย่างที่ผมคิดว่ายังไงก็ไม่น่าจะใช่เรื่องดีแน่ ๆ สิ่งนั้นมันกำลังก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นอย่างช้า ๆข้างหลังผม กลิ่นอายที่น่ากลัวของมันช่างเข้มข้นและเหมือนจริงจนเกินกว่าที่จินตนาการของผมจะสร้างได้....
ผมนั่งตัวแข็งทื่อไม่สามารถขยับตัวไม่ได้เลยทำได้แต่เพียงวิงวอนขออย่าให้เป็นไปตามที่ผมคิด โอย.....ไม่นะ ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย.....ย....อย่าโผล่มาแบบนี้นะ เราต่างคนต่างอยุ่กันไม่ได้หรอ เราไม่เคยมีเจตนาจะไปเบียดเบียนใครนะ
สิ่งที่อยู่ในหัวของผมตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวคือทำยังไงก็ได้เพื่อกระโจนหนีไปให้พ้นจากที่นี่ เพื่อให้ผมออกไปจากสถานการณ์ที่แสนอึดอัดทึบทึมน่ากลัวเช่นนี้
แต่ในใจลึก ๆ ก็ยังแอบหวังว่าบางทีผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ จริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรหรอกนะ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราคิดไปเองทั้งนั้นล่ะ ใช่แล้ว.....ผมกำลังคิดไปเองอยู่
......แต่ถึงแม้ว่าผมจะคิดอย่างนั้นแต่ผมก็ยังไม่กล้าที่จะหันหลังกลับไป
วืดดดดดด........ถึงแม้ว่าจะนั่งหันหลังให้แต่ผมก็สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งนั้นกำลังขยับเข้ามาใกล้ผมเรื่อย ๆอย่างช้า ๆ ส่งผลให้เราที่ตัวสั่นอยู่แล้วยิ่งไปกันใหญ่
มันเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ แล้ว อยู่ในรัศมีที่ใกล้จนแทบจะเอื้อมมือมาแตะบ่าผมได้เลย ตอนนี้ผมตกใจกลัวแทบสิ้นสติและพยายามอ้าปากเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ.....ใครก็ได้ ใครซักคน มาช่วงผมทีเถอะ.....ได้โปรด
......แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากลำคอที่แห้งผาก
"ตุบ!" ดินสอกดในมือร่วงลงกระทบพื้นโต๊ะเบา ๆ เมื่อสัมผัสเย็นเยียบน่าขนลุกเลื่อนมาแตะบ่าผมเบา ๆ
"นี่! ดึกป่านนี้ทำไม่ยังไม่นอนอีกห๊า.....!!!!!!! ดู ๆ นี่มันจะตีสามอยู่แล้วนะ! อยากไม่สบายรึไง! แล้วพรุ่งนี้น่ะไม่ไปเรียนใช่มั้ย! จะอยู่เป็นยามเฝ้าบ้านรึไง! ทำอะไรอยู่ไม่รู้จักเวลาซะเลย! อ๋อ.....เขียนนิยายใช่มั้ย! ถ้ายังไม่รีบไปนอนเดี๋ยวแม่จะเอาสมุดนิยายไปเผาทิ้งเลย!!!! ไปนอนเดี๋ยวนี้นะ!!!!!!!!!!!!!!"
สิ้นวาจาประกาศิตของคุณแม่บังเกิดเกล้า.....ต้นเหตุของเจ้าสิ่งที่อยู่ข้างหลังผมนี่เอง ท่านคงจะเห็นไฟที่โต๊ะผมยังสว่างอยู่ ผมรีบลนลานลุกพรวดจากโต๊ะจนแทบสะดุดล้มแล้วเผ่นพุ่งหลาวไปที่เตียงทันทีด้วยความหวาดกลัว ขณะที่คุณแม่ยังคงยืนบ่น (โบราณเขาว่าท่านให้พร) เป็นการกล่อมผมจนหลับปุ๋ย....อื๋ยย์
นี่ล่ะ เรื่องน่ากลัวของผม......มันน่ากลัวใช่มั้ยล่ะครับ
ผลงานอื่นๆ ของ avicenna ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ avicenna
ความคิดเห็น