ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Introduction to Gemology...

    ลำดับตอนที่ #3 : พลอยเม็ดที่ 2...แร่ที่มีคุณสมบัติเป็นอัญมณี

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 50






    บทที่แล้ว เราได้กล่าวถึง ความหมายของอัญมณีและรัตนชาติไปแล้วใช่มั้ยคะ ฉันหวังว่าเพื่อนๆคงจะเข้าใจมากยิ่งกว่าเดิม และอยากรู้เรื่องต่างๆมากยิ่งขึ้น

                    จากคราวที่แล้วจบลงที่แร่ที่เราค้นพบบนโลก ที่นี้เรามาทำความเข้าใจกันว่า แร่ต่างๆที่เราสามาถนำมาทำเป็นอัญมณีควรมีคุณมบัติอะไรบ้าง

                    อย่างแรกเลยนะคะก็คือ

                    1.มีความสวยงาม (beauty) ค่ะ แน่นอนว่าก่อนอื่นเริ่มแรกก่อนที่เราจะเลือกอัญมณีสิ่งเม็ดหนึ่ง มันจะต้องถูกใจเราก่อน เอาใจเราว่าคนอื่นว่ามันไม่สวยยังไง ถ้าเราพอใจซะอย่างล่ะก้อ...ซื้อเลยค่ะ

                    ความสวยงามของแร่ที่ว่านี้ เราดูจากสี (color) เป็นอันดับแรกค่ะ ต่อมาดูที่ประกายที่แวววาวเล่นกับไปได้ดี(brilliancy) หรือที่เรารู้จักและเรียกกันว่า น้ำ นอกจากนี้ยังต้องดูที่ความใสสะอาด(clarity) ส่วนอัญมณีที่ทึบแสง จะดูจากสีและความวาวของผิว(luster)เมื่อขัดมันเรียบร้อยแล้วค่ะ

     

                    2. แร่ที่มีความคงทนถาวร (durability)  ซึ่งจะพิจารณาจากคุณสมบัติ  3  ประการ  คือ

                    -  ความแข็ง (hardness)  เป็นความทนทานต่อการขูดขีดหรือขัดถู  เพชรเป็นอัญมณีที่มีความแข็งมากที่สุด นั่นก็คือ ความแข็ง 10 ซึ่งเป็นค่าความแข็งที่สูงที่สุดใน Molh’s scale*** ค่ะ

     

                    ***Molh’s scale hardness(H=1- 10)

                    1  Talc ทัลก์                                        6 Orthoclase ออร์โทเคลส

                    2 Gypsum ยิมซัป                              7 Quartz ควอตซ์

                3 Calcite แคลไซต์                            8 Topaz โทแพซ

                4 Fluorite ฟลูออไรต์                        9 Corundum คอรันดัม

                5 Apatite อะพาไทต์                          10 Diamond เพชร

     

                    -  ความเหนียว (toughness)  เป็นความทนทานต่อการแตกหัก  ไม่สัมพันธ์กับความแข็งค่ะ  หยก เป็นอัญมณีที่มีความเหนียวมากที่สุด แต่มีความแข็งต่ำ  ในขณะที่เพชรมีความแข็งสูงมาก แต่ว่าเพชรสามารถแตกได้หากทำทุบทำลาย

                    -  ความมีเสถียรภาพ (stability)  เป็นความทนทานต่อการซีดจางของสี  การสูญเสียเนื้ออัญมณีเมื่อถูกความร้อน แสงสว่าง หรือสารเคมีเช่นน้ำหอม แอลกอฮอร์ หรือกรดต่างๆค่ะ

                    3. เป็นสิ่งที่หายาก (rarity) อัญมณีบางชนิดอาจไม่สวยแต่ว่าหายาก อาจทำให้มีราคาสูงได้ค่ะเนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์ชื่นชอบสิ่งที่หายาก ทำให้อัญมณีที่พบน้อยเป็นที่ต้องการมาก ราคาจึงสูงกว่าอัญมณีที่หาได้ทั่วไป

     

    และนอกจากปัจจัยทั้ง  3  ประการแล้ว คุณค่าของอัญมณีบางชนิดยังขึ้นกับความนิยม (fashion)ในแต่ละช่วงเวลา  และอัญมณีควรมีขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวก (portable)อีกด้วยค่ะ เช่น ในช่วงคริสตศตวรรษที่19 การ์เนต จาก Bohemia ดั้รบความนิยมมาก จึงมีราคาสูง แต่ปัจจุบันราคาลดลงเพราะว่าความนิยมลดลงไปมากค่ะ

     

     

                    บทต่อไป ฉันจะอธิบายถึงวิธีการจำแนกประเภทและชนิดของอัญมณีค่ะ

                    To be continue…

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×