ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    108 Person Online [รับสมัครตัวละคร]

    ลำดับตอนที่ #4 : 108 Person Online :: การหลังหัก(?)ไม่ใช่เรื่องตลก

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 59


    ยังเปิดรับตัวละครใหม่ๆ 24 ชั่วโมงจ้า~>□<
    -------------------------------------------------------
               ความจริงนั้นไม่มีอะไรเรียบง่ายสวยงามแบบในนิยาย...
               เสียงหอบแฮ่กๆของร่างที่ค่อนข้างอวบเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ ขาทั้งสองของเธอยังคงขยับแม้จะเหนื่อยจนแทบขาดใจแล้วก็ตาม
               หญิงสาวร่างท้วมหยุดพักหายใจก่อนแหกปาก(?)ตะโกนสิ่งที่อยู่ก้นบึ้งของจิตใจออกมา... "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่เนี้ย!!?"
               หากจะขอย้อนความกลับไปเล็กน้อย ถึงสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องมาตกระกำลำบากอยู่นี่ก็คงต้องย้อนกลับไปเมื่อสิบนาทีก่อน...
               "ถึงจะจัดการไปเท่าไหร่ๆก็ดูเหมือนจะไม่พอเลยนะ" ฉันสถบออกมาเบาๆ เมื่อพวกสไลม์ยังคงออกมาเรื่อยๆตามถนนหนทาง นี่ขนาดมองเห็นประตูเมืองอยู่หลิบๆแล้วนะ
               แผละ!
               เสียงสไลม์ตัวน้อยๆ โดนรองเท้าอันแสนจะสะอาดเหยียบย่ำจนตัวแตกกลายเป็นน้ำเหมือกสีเขียวๆกระจายเต็มถนน ให้ตายสิ กระทรวงอนามัยจะมาหาเรื่องเก็บค่าทำความสะอาดจากฉันรึเปล่านะ ไม่สิ ในเกมไม่น่าจะมีกระทรวงอนามัยหรอกเนอะ
               แผละ! แผละ! แผละ!
               น่าแปลก... ไม่ว่าจะฆ่าไปกี่ตัวกี่ตัวก็ไม่เห็นมีค่าประสบการณ์ขึ้นสักที แถมไม่มีการแจ้งเตือนด้วย อืม... หรือว่าจะเป็นไอ้นั่น! ใช่แล้ว มุกแบบว่าตัวเองโดนสุ่มเกิดนอกเมืองแล้วเผลอไปจัดการมอสเตอร์เลเวลสูงได้อย่างง่ายดายแต่ยังไม่ได้ไปเอาพวกนาฬิการะบบ หรืออะไรเทือกๆนั้นค่าประสบการณ์เลยไม่ขึ้น!
               แต่ถ้าเป็นงั้นก็ต้องเสี่ยงตายน่ะสิ ไม่เอาด้วยหรอกนะ!
               แผละ! แผละ! "แอ๊ก!"
               หือ เมื่อกี้เหมือนเหยียบโดนอะไรแข็งๆนะ ลองเดินถอยกลับดูหน่อยดีกว่า...
               "แอ๊ก!" เสียงมาจากทางไหนกันนะ หืม? อ้อ ใต้เท้านี่เอง...
               จุด จุด จุด ติ๊ง!
               "เฮ้ย เดี๋ยวสินายเป็นอะไรรึเปล่า!?" เมื่อสัมผัสได้ว่าตนทำอะไพลาดไปฉันจึงรีบลงจากตัว(?)เจ้าร่างก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างเขย่าคอเสื้ออีกฝ่ายอย่างแรง
               "คร้อก..." อย่าพึ่งวิญญาณหลุดออกจากร่างเซ่!

               ก็ประมาณนี้ฉันถึงต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบกคนไม่รู้จักเดินไปเดินมาแบบนี้ไง จะไม่เดือดร้อนเลยสักถ้าหมอนี่ไม่เลือดออกหัวเลือดมาหยดใส่หลังแล้วเหนียวยิ่งกว่าเหงื่ออีกนะเฮ้ย
               "ตัวก็โตอย่างกับอะไรดี" นี่ถ้าไม่ใช่ฉัน หมอนี่ได้นอนเลือดไหลหมดตัวตายแน่(เจอเธอเขาก็โดนเหยียบเกือบตายเหมือนกันนั้นล่ะ) หนวกหูน่าคนกำลังทำคะแนนกระชากใจผู้อ่านอย่าพึ่งมาขัดคอสิ
               ฉันเดินแบกผู้ชายตัวสูงกว่าตัวเองเข้ามาในเมืองมีแต่คนมอง มองอะไรไม่เคยเห็นคนเรอะ... ในเวลาแบบนี้มันต้องมีคนเข้ามาให้ความช่วยเหลือตัวเอกสิถึงจะถูก!....
               "เฮ้ย ยัยอ้วนส่งคนที่อยู่บนหลังแกมาสิ" โอเค ซึ้ง... ไม่ต้องส่งตัวช่วยมามาก็ได้ แต่เลิกส่งมาวุ่นวายมาสักที
               "แล้วทำไมฉันต้องส่งเขาให้พี่ชายด้วยล่ะ?" ฉันไม่มีเวลามาคุยกับพวกตัวละครโรยหน้าฉากระดับเดียวกับผักชีนานนักหรอกนะ หน้าตาก็ไม่ได้ชวนจิ้นเลยสักนิดนี่สาบานได้นะว่าปรับเปลี่ยนหน้าตาตอนสร้างตัวละครแล้ว
               "ไม่ใช่เรื่องของแก..." ยังไม่ทันจะพูดจบชายหน้าบากก็หน้าถอดสีเมื่อรู้สึกได้ถึงความเย็นของโลหะที่สัมผัสกับคอของตน
               "แหม... ข่มขู่เด็กผู้หญิงไม่มีทางสู้นี่ไม่ดีเลยนะคะ" น้ำเสียงที่ออกแหลมนิดหน่อยดังมาจากข้างหลังของชายคนนั้น ฉันชะเง้อหน้าไปดูพบว่าเป็นหญิงสาวที่สูงพอสมควร... นี่ขนาดฉันว่าฉันสูงแล้วนะ น่าอิจฉาชะมัด "จะยกโทษให้ถ้ารีบๆไสหัวไปให้พ้นๆซะนะคะ..." เธอกล่าวยิ้มๆแต่นัยน์ตาสีฟ้าใสกับไม่ฉายแววความเมตตาเลยสักนิด
               "ข... ขอโทษครับ! ผมทักคนผิด" ปอดแหกจริง... ตัวใหญ่ซะเปล่า
               "ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหมคะ?" เธอหันมาถามด้วยสีหน้าระรื่นผิดกับเมื่อครู่
               "อืม" ถ้าไม่นับเข่าที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเพราะแบกคนข้างหลังมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วก็คงถือว่าไม่บาดเจ็บละมั้งนะ
               "ดูเหมือนว่าเพราะกฎที่คุณลุงตั้งขึ้นจะสร้างความกดดันหน้าดู ทำให้พวกนั้นต้องมาหาเรื่องกับคนที่ดูไม่ค่อยมีพิษมีภัยน่ะค่ะ" สรุปว่าฉัน อ่อน ไม่ต้องพูดถนอมน้ำใจกันก็ได้นะ "ว่าแต่เพื่อนคุณบาดเจ็บอย่างนั้นหรอคะ?"
               "ก็ประมาณนั้นล่ะ พอจะรู้จักร้านหมอดีๆบ้างไหม?" ยังไงตอนนี้ก็ต้องหาทาง... วางหมอนี่ลงจากหลังก่อน!
               "ถ้าเป็นร้านหมอละก็อยู่ตรงหัวมุมซอยสามค่ะ ถ้าไม่รังเกียจฉันจะนำทางให้ดีไหมคะ?" เสนอด้วยแววตาวิบวับขนาดนั้นใครจะไปปฎิเสทลง ไม่สิ นี่มันเข้าข่ายบังคับกันถ้าอ้อมแล้วนะเฮ้ย!
               "ฝ.. ฝากด้วยนะ" จะอะไรก็ช่าง ก่อนอื่นต้องหาทางวางร่างข้างหลังลงก่อนที่หลังฉันจะหักก่อนวัยอันควร...
               "งั้นตามมาเลย" เธอหันหลังควับกลับไปอีกทางก่อนจะเริ่มเดินไปเงียบๆโดยไม่พูดอะไร แต่ถึงเธอจะพูดฉันก็คงไม่มีแรงจะตอบล่ะนะ เพราะฉะนั้นแยู่เงียบๆอาจจะดีกว่าก็ได้
               ...
               เงียบ... เงียบเกินไปแล้ว! ตั้งแต่เธอเรียกหมอเข้ามาดูอาการของผู้ชายคนนั้นก็นั่งเงียบๆข้างฉันมาตลอด แล้วไอ้ท่าทางวิ้งวับจนชวนขนลุกก่อนหน้านี่มันอะไรกัน!!! ถ้าเธอไม่คิดจะพูดอะไรแล้วจะอาสานำทางมาทำไมกันละเฮ้ย! แถมยังมาเนียนนั่งรอคนป่วยด้วยกันอีกต่างหาก
               "...ดาบนั่น?" ฉันเผลอพึมพำออกมาเบาๆ เมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่เหน็บอยู่ข้างเอวซึ่งใช้ข่มขู่ เอ๊ย เจรจากับชายหน้าบากเมื่อครู่
               "หือ นี่น่ะหรอ? ดาบคาตานะ** น่ะ เห็นเล่มบางๆแบบนี้แต่ใช้ตัดหินออกเป็นแผ่นๆได้เชียวนะ..." มือเรียวดึงดาบออกมาจากฝักทำให้เห็นตัวดาบได้ชัดเจน โลหะสีเงินสะท้อนใบหน้าของผู้เป็นนาย น่าจะคมสุดๆเลยนะนั่น... ฉันยกมือขึ้นลูบคอหน่อยๆ ทำให้คนที่นั่งข้างๆหลุดขำออกมานิดๆ "ฉันไม่คิดจะใช้มันกับคุณหรอกค่ะ วางใจได้" เธอว่ายิ้มๆแล้วเก็บดาบเข้าที่ตามเดิม ฉันนึกว่าบนสนทนาของเราจะจบลงแค่นั้น แต่ว่า...
               "จะว่าไปแล้วเรียกคุณ คุณ ตลอดนี่ฟังดูห่างเหินแปลกๆจังเลยนะคะ" เอ่อ... ไม่ล่ะ ถึงแม้จะถูกเธอช่วยไว้ แต่ยังไงพวกเราก็เป็นคนแปลกหน้าอยู่นะ ฉันว่าไอ้ที่เธอกระตือรือร้นในการเข้าหานี่มันแปลกยิ่งกว่าอีก... ไม่นะ ฉันยังไม่อยากเล่นสายยูริ***! "ฉันมีชื่อว่าจวิ้นซิ่วค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมีชื่อว่าอะไรอย่างนั้นหรอคะ? ฉันลองไปถาม NPC คราวๆแล้วดูเหมือนว่าเกมนี้เราจะไม่สามารถดูข้อมูลความสามารถผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้ แถมยังไม่มีไอเทมตรวจสอบด้วยเพื่อความเสมือนจริงน่ะค่ะ"
               สร้างอะไรให้มันยุ่งยากซะจริงนะ... หลังจากสถบก่นด่าลุงในใจไปหลายตลบ จึงเริ่มแนะนำตัวบ้าง "ฉันชื่อ... 'เสี่ยวหลิง' ยินดีที่ได้รู้จัก" ฉันว่าพลางยืนมืออกไปตามธรรมเนียมสากล แต่ร่างบางตรงหน้ากลับมองมือของฉันตาค้างเบิกกว้างเล็กน้อย พึมพำบางอย่างเบามากจนต้องเงี่ยหูฟัง
               "เสี่ยวหลิง... เสี่ยวหลิง... หลิงปา! เธอคือหลิงปาใช่ไหม!?" จวิ้นซิ่วใช้มือสั่นๆทั้งสองมาจับมือฉันแล้วเขย่าแรงๆราวกับจะย้ำว่าเธอไม่ได้ฝันไป เอ่อ... ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอกนะแต่เธอช่วยเพลาๆแรงลงหน่อยได้ไหม!!? แขนจะหลุดอยู่แล้ว! เอ๊ะ เดี๋ยวนะ...
               "เมื่อกี้ เธอเรียกฉันว่า... หลิงปา?" ฉันเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย อย่างน้อยในช่วงสามปีที่ผ่านมาไม่น่าจะมีใครสนิทสนมกับฉันขนาดแยกตัวอวาต้าที่ปรับเปลี่ยนหน้าตาไปแล้วได้นี่นา...
               "ใช่ เธอคือหลิงปาใช่รึเปล่า? จำฉันได้ไหม? นี่ฉันเอง อ้ายเม่ยไง" โอย หยุดเขย่าสักทีก่อนที่ความทรงจำในหัวฉันเกี่ยวกับเธอมันจะระเหยกลายเป็นธาตุอากาศน่ะ เดี๋ยวนะ ขอนึกแปบ... อ้ายเม่ย อ้ายเม่ย อ้ายเม่ย
               "เสี่ยวอ้ายหรอ?" ฉันถามออกไปแบบไม่แน่ใจนักแต่เท่าที่จำได้ ก็มีแต่เพื่อนสมัยก่อนที่เคยเรียกว่าเสี่ยวอ้ายเท่านั้นแหละ
               "หลิงปาจริงๆด้วย!" ร่างที่บางกว่าโถมตัวเข้าใส่อย่างกะทันหันทำให้ฉันพลัดตกเก้าอี้ไปโครมใหญ่ แต่ถึงกระนั้นคนตรงหน้าก็ยังคนกอดรัดฟัดเหวียงอยู่นั่นล่ะ เออ เอาเข้าไป เห็นฉันเป็นตุ๊กตา*ตื้ด*พูรึไงเนี้ย "หลิงปา หลิงปา... คิดถึงจังเลย ไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะ ยังกินข้าวตรงเวลาอยู่รึเปล่า? สอบเข้ามหาลัยติดหรือยัง? คุณลุงคุณป้าสบายดีไหม? ดูเหมือนเธอจะผอมลงนะ"
               รั่วคำถามมาเป็นชุด แม่เจ้า บอกฉันทีนี่เธอยังเป็นคนอยู่ใช่ไหมปอดเธอนี่ทำด้วยอะไรถามจริง "กินข้าวก็กินบ้างไม่กินบ้างเหมือนเดิมนั่นล่ะ สอบเข้ามหาลัยได้แล้วอยู่คณะอักษรศาสตร์ปีหนึ่ง คุณป้าสบายดี ส่วนตาลุงนั่นน่ะช่างเถอะ แล้วก็เสียใจด้วยฉันอ้วนขึ้นต่างหาก"
               เยา อ้ายเม่ยเป็นเพื่อนที่คบกับตั้งแต่ตอนที่ฉันพึ่งเข้ามาในตระกูลเยาได้แค่ปีเดียว ถึงอายุของเธอจะมากกว่าแต่ถ้านับเป็นเดือนก็ห่างกันแค่เดือนเดียวเท่านั้นเอง ด้วยความที่เป็นเด็กเธอก็เลยขอให้เราเรียกเธอว่า 'เสี่ยวอ้าย' จนกระทั่งเราติดมาจนถึงตอนนี้
               "อ้วนหรอ? แบบนั้นก็ดีน่ะสิจะได้ไม่มีใครคิดจะมาแย่งหลิงปาไปจากฉันเลย" เอ่อ ฉันคิดว่าถึงไม่อ้วนมันก็คงไม่มีใครตาบอดมาชอบของแปลกแบบเธออีกแล้วล่ะนะ =_=
               "ว่าแต่ทำไมถึงรู้ว่าเป็นฉันล่ะ?" เราก็ว่าปรับสีผมเปลี่ยนสีตาแล้วนี่นา และครั้งสุดท้ายที่เสี่ยวอ้ายเห็นเรามันก็ตั้งสี่ปีก่อนที่เธอจะเดินทางไปต่างประเทศ ขนาดเรายังจำแทบไม่ได้แท้ๆ
               "เพราะกลิ่นไงล่ะ" กลิ่น? จำได้ว่าฉันก็อาบน้ำก่อนเข้าเกมนะเออ หญิงสาวเห็นท่าทางของร่างท้วมแล้วก็หัวเราะคิกคักเล็กน้อย "ไม่ใช่กลิ่นแบบเหม็นหรอก แต่เป็นกลิ่นเฉพาะของหลิงปาต่างหาก" ถึงจะมีกลิ่นเฉพาะยังไงก็เถอะ... แต่ที่ดมได้นี่มันต้องจมูกระดับสุนัขขึ้นไปเลยนะเฮ้ย พอฉันทำหน้าคาดคั้นมากๆเข้าเจ้าตัวจึงเอ่ยปากยอมแพ้
               "โอเคๆ จบการล้อเล่นแต่เพียงเท่านี้ก็แล้วกันนะ พอดีบังเอิญผ่านไปแถวนั่นเห็นท่าทางของเธอมันรู้สึกคุ้นก็เลยลองตามมาน่ะ แล้วก็ประกอบกับรอยแผลไฟไหม้ที่มือก็เลยคิดว่าอาจจะใช่" เพราะอย่างนั้นตอนที่ยื่นมือออกไปถึงตกใจมากสินะ ในโลกจริงเราหาถุงมือมาใส่ไว้ตลอดเพื่อกันไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็นแต่ก็ดันลืมซะได้... "แล้วก็นะ... คนที่เรียกฉันว่าเสี่ยวอ้ายน่ะนอกจากแม่แล้วก็มีแค่หลิงปาเท่านั้นแหละ~"
               นั่นสิ พูดถึงแม่ของอ้ายเม่ยแล้ว "จะว่าไปเธอกลับมาครั้งนี้จะอยู่อีกนานหรอ แล้วเรื่องงานของคุณน้าล่ะ?" คุณน้าอ้ายหลี่(爱丽)นางแบบชื่อดังระดับโลกทำให้ต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยครั้ง และเสี่ยวอ้ายก็ต้องติดตามไปด้วยทุกครั้งทำให้เธอเรียนช้าไปหนึ่งปี
               "ฉันขอแม่ย้ายมาอยู่ตัวคนเดียวน่ะ จะเข้ามหาลัยแล้วถ้าไปๆมาๆต่างประเทศคงไม่ค่อยสะดวก แล้วก็... ถ้ามากลับอยู่ที่จีนก็จะได้เห็นหน้าของหลิงปาบ่อยๆด้วยไง" เอ่อคือ เหตุผลประโยคหลังมันไม่ฟังดูแปลกๆไปหน่อยหรอ? แล้วนี่ คิดจะกอดไปถึงเมื่อไหร่กันเนี้ย!! ถ้าคนบนเตียงตื่นขึ้นมาเห็นสภาพนี่จะอธิบายว่ายังไง ดุจดั่งวาจาสิทธิ์พูดอะไรได้ตามนั้น...
               น้ำเสียงออกทุ้มไม่มากดังขึ้นมาจากบนเตียงผู้ป่วย "คือว่า..." หยุด! ได้โปรดอย่าพูด ถึงสภาพการณ์มันจะใช่แต่มันไม่ใช่สิ่งที่นายกำลังคิดหรอกเอาหัวตาลุงเป็นประกันได้เลย!!! "นี่ผม... ตื่นมาขัดจังหวะพวกคุณรึเปล่าครับ?"
               "ไม่..."
               "อืม ใช่แล้วล่ะ พวกเรากำลังจู๋จี๋(?)มีความสุข หลังจากไม่ได้พบกันนานน่ะนะ แต่นายก็ดันมาขัดซะนี่" อย่ามาพูดขัดตอนคนอื่นเขากำลังจะปฏิเสทเซ่! แล้วคำที่มีความหมายกำกวมนั่นมันอะไร! เธอจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากมากกว่าเดิมนะรู้ไหม? ถึงจะยอมรับว่ารู้สึกดีใจนิดหน่อยเพราะได้เจอเพื่อนสมัยเด็กอีกครั้งก็เถอะ แต่คนที่มีความสุขกับไอ้สถานการณ์พิลึกๆนี้น่ะมันเธอคนเดียวไม่ใช่เรอะ!
               "งั้นเชิญตามสบายครับ คิดซะว่าผมไม่ได้อยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน" อย่ายิ้มเหมือนพ่อพระผู้แสนดีแล้วคลุมโปงนี้ความจริงแบบนี้สิ ฉันเป็นคนแบกนายมานะ มาช่วยกันแงะเสี่ยวอ้ายออกไปก่อนเถอะได้โปรด!

    ???%
    --------------------------------------------
    ตัวละครใหม่ หนึ่งในฮาเร็ม(?)ของหลิงหลิง ของข้อย
    ผู้ปกครองคงเดากันได้อยู่แล้วนะเออ~=₩=
    การอัพครั้งหน้า เสี่ยว*ตื้ด*(เซนเซอร์)ของ(บาง)ท่าน
    จะมีบทมากขึ้นแน่นอน หลังจากนอนยาว(?)มาหลายหน้า
    และพอตื่นขึ้นมาก็มิช่วยอะไรเสี่ยวหลิงของเราเลย=₩=^
    เจอกันวันพุธจ้า #น่าจะอัพเป็นวันจันทร์ พุธ ศุกย์ เสาร์ อาทิตย์นะ
    เสาร์อาทิตย์จะพยายามอัพถี่ๆหน่อยแต่วันธรรมดาคงยากขอโทษน้อ
    ถ้าหากนักอ่านเงาและไม่เงาท่านใดมีลูกๆอยากส่ง
    เข้ามาร่วมสนุก(?)เป็นส่วนหนึ่งในฮาเร็ม(?)ของเสี่ยวหลิง
    ยังเปิดรับตลอดยี่สิบสี่ชัวโมงเน้อ
    #คนหนึ่งจะส่งกี่ตัวก็ได้ส่งเยอะๆไรท์ชอบ >□<~~~
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×