คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : N.F.
‘เลือดทั้ง 13 หยดงั้นรึ........
ฮึ......เข้าใจแล้วนายนี้มันไม่ได้สวะอย่างที่ฉันคิดเลยจริงๆสิ...’
เคียวคุรินคิดก่อนที่จะหันไปทางแบล็คการ์เนียที่เพิ่งกลับมาจากการหาคำปริศนาที่เธอไหว่วาน
[*จริงอยู่ที่พลังของเคียวคุรินในตอนนั้นจะแทบไม่เหลือ แต่ถ้าเธอทำการปลดปล่อยแบล็คการ์เนียให้กลับไปเป็นดังเดิมที่ไม่ต้องกลับไปเป็นแหวน เธอจึงไม่จำเป็นต้องใช้พลังในการบังคับ แต่ต้องเสียพลังชีวิตลงอีกครึ่งหนึ่งในการยกเลิกสัญญาระหว่างผู้เป็นนายกับเทพคุ้มครอง [?]]
“นายหญิงขอรับ.......” ม้าสีดำมืดตัวใหญ่ร่างสง่างามก้มตัวลง พร้อมรับคำบัญชาและรายงานหน้าที่ของตนต่อผู้เป็นนายหญิงอย่างจงรักภัคดีถึงแม้ว่าจะเลิกทำสัญญาระหว่างผู้เป็นนายกับเทพคุ้มครองไปแล้วก็ตาม....
สาวน้อยดวงตาสีเลือดเพลิงมองมาที่[อดีต]เทพคุ้มครองของเธออย่างเย็นชา ก่อนที่ใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นยิ้มบางๆอย่างไม่ปิดบัง
“ทำได้ดีนี้.........แบล็คการ์เนีย” สาวน้อยเอ่ยก่อนที่จะใช้มือซ้ายของเธอวางลงบนกลางหน้าผากของแบล็คการ์เนีย แล้วอ่านความคิดและมองสิ่งที่แบล็คการ์เนียเพิ่งได้เจอและเห็นมา
“เอ๊ะๆๆๆๆๆ?????” เซเรเนดมองทั้งคู่อย่างงงงวยคงจะประมาณว่า ‘2 คน[1 คนกับอีก 1 ตัว]นั้นมันทำบ้าอะไรกันอยู่ฟ่ะ?’
1 ชั่วโมงที่แล้ว
‘เข้าใจน่ะแบล็คการ์เนีย ไม่ว่ายังไงก็ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด....ว่าเรากำลังทำอะไรกัน....’
เสียงของผู้เป็นนาย[เด็ก]หญิงดังก้องอยู่ในหัวของแบล็คการ์เนียอย่างซ้ำไปซ้ำมา และในตอนนี้หล่อนและเซเรเนดคงกำลังตามหาคำใบ้+แก้ปริศนาอยู่เช่นกันเป็นแน่
ในขณะที่แบล็คการ์เนียกำลังช่วยนายหญิงของตัวเองอย่างลับๆ ผลันก็นึกขึ้นมาได้ว่า สถานที่ที่นายหญิงกำลังหาอยู่คือสวนมะกอก แต่ตาของแบล็คการ์เนียก็สะดุดเข้ากับต้นไม้ประหลาดในรูปวาดบนเพดานอย่างสนใจ
‘
.ต้นอะไรน่ะ....’ แบล็คการ์เนียว่าพรางมองบนเพดาน แล้วก้าวไปตรงกลางของห้องขนาดใหญ่ ดูๆแล้วห้องๆนี้เหมือนจะเป็นห้องที่เอาไว้ทำพิธีกรรม แต่ถ้าดูจากการตกแต่งของห้องคงไม่มีทางใช่ แลจะเป็นห้องจิตกรรมต้นไม้ประหลาดบนฝาผนังและเพดานซะมากกว่า
‘ทำไมในที่อย่างนี้ถึงได้มีสถานที่อย่างนี้น่ะ...?’แบล็คการ์เนียคิดอย่างเงียบๆก่อนที่จะมองนู่นนี้ด้วยความสนใจ เพราะมันเองก็สนใจเรื่องพวก[รูป]ต้นไม้แปลกๆตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว...
ทั้งห้องประดับไปด้วยรูปต้นไมนานาพรรณที่งดงามบ้างน่ากลัวบ้าง แต่สวนใหญ่จะมีแต่รูปต้นไม้หน้าตาแปลกประหลาดทั้งนั้น
อย่างบางรูปก็เป็นต้นไม้ที่มีลำต้นเป็นต้นแอปเปิ้ลมีรูปร่างเหมือนไม้กางเขนที่ออกผลเป็นลูกแก้วที่ข้างในเป็นผลส้มสีฟ้า หรือไม่ก็เป็นรูปต้นที่มีลำต้นเป็นต้นโอ๊กแต่ผลกลับออกเป็นนารีผลที่หน้าตาอัปลักษ์และกำลังค่อยๆหล่วงหล่นลงมาอย่างน่ากลัว
แต่จริงๆแล้วสิ่งที่แบล็คการ์เนียสนใจมากที่สุดนั้นก็คือรูปต้นไม้ประหลาดที่อยู่ข้างบนกลางเพดานของห้องนี้ต่างหาก
ต้นไม้ที่มีใบไม้สีแดงเลือด ออกผลเป็นลูกอะไรซักอย่างที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนอวัยวะต่างๆของมนุษย์เป็นสีเขียวและผลใหญ่กว่าตัวของมนุษย์ โดยมีเหล่าศพทหารนับสิบๆที่ไม่มีหูถูกยัดให้ยืนเป็นลำต้นใหญ่ หน้าตาของนักรบที่เป็นศพเหล่านั้นมีหน้าตาที่เจ็บปวดและน่ากลัวซะจนแทบไม่กล้ามอง
รอบๆต้นไม้มีภูตบินอยู่มากมาย บางตัวก็กำลังร่วมกันกินผลของต้นๆนั้นอย่างน่ากลัว แต่สีของผลไม้ที่แตกออกหลังจากที่หล่นจากพิ้นก็เป็นสีสันต่างๆมากมายอย่างบรรยายไม่ถูก
ตึ่ก! เคร้ง! ตึ่ก! เคร้ง!
‘วิญญาณศัตรูรึ!?’ แบล็คการ์เนียหันควับด้วยความตกใจก่อนที่จะพบกับพี่น้องฝาแฝดคู่หนึ่งที่เด็กผู้หญิงกำลังถือโซ่ที่ห้อยไปด้วยหัวคนและกำลังนั่งอยู่บนไหล่ของเด็กชายที่ถือเลื่อยไฟฟ้าโชกเลือด
“พี่~
.ดูสิมีคุณม้ามาเยี่ยมเราด้วยล่ะ~
ฮี่ๆๆๆ”
“นั้นสิน้า~ ฮ่าๆๆ” ทั้ง 2 คุยกันอย่างน่ากลัวและหัวเราะอย่างบ้าครั่ง ก่อนที่จะหายไปแล้วพุ่งตรงมาหาแบล็คการ์เนียหวังจะหันแบล็คการ์เนียให้เป็นชิ้นๆ
“หยุดอยู่ตรงนั้นล่ะ เปเทล.....ฮันโตร....”
กึก!
เด็กน้อยทั้ง 2 หยุดอย่างไม่เต็มใจก่อนที่จะหันไปทางต้นเสียง
“ทำไมต้องห้ามพวกข้า? อิลิยา!!”
อิลิยายังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม ก่อนที่จะกลายร่างเป็นเอรียา
“เพราะว่าพวกเจ้า จะทำให้ข้าใช้เวลาในการเล่นกับพวกลูกแกะน้อยของข้าลดลงน่ะสิ~”
เอรียากล่าวอย่างสนุกสนานปนรำคาญ
“แต่พวกข้าอยากเชือดเจ้าม้านั้น!!” เด็กชายว่าอย่างโมโห แต่เมื่อหันไปทางแบล็คการ์เนีย แบล็คการ์เนียก็ไม่อยู่ซะแล้ว
“ไหนล่ะ ม้าที่ว่าของพวกเจ้าน่ะ!?”เอรียาว่าก่อนที่จะกลับกลายร่างเป็นอิลิยาอีกครั้ง
“กลับไปทำตามหน้าที่ที่ต้องดูแลห้องๆนี้ของพวกเจ้าซะ...” อิลิยาว่าด้วยเสียงหวานอย่างเย็นชาก่อนที่จะหายไป
ทั้งเปเทลและฮันโตรต่างกัดฟันกรอดๆ อย่างเสียอารมณ์ก่อนที่จะหายไป เหลือไว้เพียงรอยเท้าเปื้อนเลือดของทั้ง 2 เท่านั้น...
กลับมา ณ ปัจจุบัน
“วิญญาณฮันเตอร์กับเกรเธีย.... พี่น้องฝาแฝดนักฆ่าชื่อดังที่ตายไปเพราะถูกวางยาพิษนี้นา....”เคียวคุรินว่าก่อนที่จะทำหน้าครุ่นคิด ”แถมยังเปลี่ยนชื่อเป็น เปเทลกับฮันโตร อีก...”
รูปต้นไม้บนเพดานที่มีรูปร่างประหลาด พี่น้องฝาแฝดนักฆ่าชื่อดังที่โดนเปลี่ยนชื่อ แต่ก็ทำไมถึงรู้สึกตงิดๆกับไอ้ผลไม้รูปร่างประหลาดนั้นน่ะ................อ่ะ!!?
ความคิดของเคียวคุรินหยุดลงก่อนที่จะหันควับไปทางข้างหลังของเธอ
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคืออิลิยา ซึ่งยังคงหน้าตาที่เย็นชาไว้ดังเดิม ในขณะที่เซเรเนดยังอึ้งๆกับการปารกฎตัวของอิลิยา แต่เคียวคุรินก็ยังคงนิ่งเฉยเหมือนเช่นเคย
“เจ้ามีเรื่องที่อยากจะถามข้าไม่ใช่รึ?”เสียงหวานถามอย่างรู้ทันเจ้าของดวงตาสีเลือดเพลิง
“รู้ดีนี้...”สาวน้อยกล่าวอย่างท้าทาย ในขณะที่เซเรเนดได้แต่ทำหน้าเหวอ
“มะ.............มีอะไรจะถามเหรอครับเคียวจัง?” ในที่สุดเซเรเนดก็อดที่จะถามไม่ได้ เพราะเริ่มหมดความอดทนกับการเงียบงันของเคียวคุริน
“นั่งฟังเงียบๆไปซะ....”เธอพูดด้วยเสียงเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นผลทำให้เซเรเนดต้องเงียบไป เพราะชักจะจับได้ถึงรังสีอำมหิตที่เคียวคุรินปล่อยออกมาอย่างน่ากลัว
“คำใบ้น่ะรึ....................เจ้าก็รู้อยู่แล้วนี้นา สิ่งที่เจ้ากำลังตามหาอยู่ในตอนแรกน่ะ
.”อิลิยากล่าวเมื่อล่วงรู้ถึงสิ่งที่สาวน้อยต้องการคำตอบ
“แล้วมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ
.”สาวน้อยถามอย่างเย็นชา แต่ยังคงปล่อยรังสีอำมหิตออกมาไม่ยั้ง
“เสียใจด้วย......ข้าตอบเจ้าได้แค่เพียงครั้งเดียว และข้าก็ตอบไปแล้ว
..”
เคียวคุรินเงียบก่อนที่จะกัดฟันกรอดๆและเริ่มนับ 1-1000 อีกรอบอย่างบ้าครั่ง ก่อนที่อิลิยาจะหายตัวไป[อีกครั้ง]
“อะ......คะ......................คือ...เคียวจังครับ ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยเถอะครับ...ขอร้องน่ะครับ”เซเรเนดว่าออกมาอย่างกล้าๆกังๆ เพราะความโมโหและรังสีอำมหิตของเคียวคุรินยังไม่จางหายไปเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเพิ่มทวีคูณเพิ่มขึ้นซะมากกว่าด้วยซ้ำ....
“เอางี้....”เธอว่าอย่างเย็นชา แต่ฟังยังไงๆน้ำเสียงของเธอก็คงบอกอยู่ดีว่า ‘เมื่อไหร่แกจะหุบปากซักทีวะ ไอ้สวะ!!’
เคียวคุรินค่อยๆวางมือของเธอลงบนหน้าผากของเซเรเนดอย่างเอือมระอา ก่อนที่จะเริ่มส่งทุกอย่างที่เธอเพิ่งรับรู้มาจากแบล็คการ์เนียไปให้เซเรเนด
“อะ.............อ๋อ...อย่างงี้นี้เอง ทำไมเหรอครับ”
“ถามมาได้!? นายก็มีสมองนี้ทำไมไม่หัดคิดเล่า!” เธอว่าอย่างเซ็งจัดก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วกอดอกอย่างโมโห แล้วกุมขมับพลางคิดถึงคำใบ้[?]ของอิลิยา
“ก็หาต้นมะกอกเจอแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
เคียวคุรินหันควับหลังจากที่มัวแต่จับขมับแล้วคิดนู่นคิดนี้อย่างเหนื่อยใจ
“อะไรน่ะ....” เคียวคุรินกล่าวอย่างสนใจปนตกใจ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปหาเซเรเนดแล้วนั่งลงยองๆเพื่อฟังเหตุผลของคำพูดของเซเรเนด
“ทำไมนายถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”เธอถามด้วยรอยยิ้มบางๆแต่ใต้รอยยิ้มนั้นก็มีแต่ความโมโหที่กำลังสั่งสมกันและพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่ออยู่
“ก็เอ่ออ..........คืองี้น่ะครับ”เซเรเนดกล่าวก่อนที่จะหายใจเข้าเต็มปอด แล้วหายใจออกอย่างแรง
“อย่างที่อิลิยาบอก คือให้เราไปตามสถานที่ๆเรากำลังหาอยู่ในตอนแรก และซึ่งสถานที่นั้นผมคาดว่าคงจะเป็นสถานที่ที่แบล็คการ์เนียเพิ่งเจอมาแหละครับ”
“ทำไมนายถึงคิดอย่างนั้น”เคียวคุรินว่าพลางทำเป็นโง่ แต่จริงๆแล้วเธอรู้แล้วล่ะว่าทำไม
“...........................เธอก็รู้นี้.......”เคียวคุรินชะงักก่อนที่จะตีมือข้างที่เซเรเนดเพิ่งตัดนิ้วไปมาดๆอย่างแรง
“อ่ะ จ้ากกกกกกกกก!!!!!!!!!!” เซเรเนดร้องลั่นก่อนที่จะลงไปเกลือกกลิ้งไปมาเพราะความเจ็บปวดกับพื้น
“โทษฐานที่นายลอกคำพูดฉันย่ะตาบ้า.....” เคียวคุรินว่าก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างร่าเริง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนที่เธอจะไปลากเซเรเนดขึ้นมานั่งบนตัวแบล็คการ์เนีย แล้วไปยังที่ที่แบล็คการ์เนียเพิ่งจากมา
คำใบ้ที่ 2 ถูกเฉลยแล้ว........
แต่ทั้ง 2 ก็ยังไม่รู้หรอกว่ามันยังไม่จบแค่นี้....
ณ ห้องจิตรกรรม
“..........อืมม......ทีนี้ต้องหารูปหูสิน่ะ อืมม...” เคียวคุรินว่าก่อนที่จะมองรูปบนเพดานอย่างสนใจปนรีบร้อน[*สิ่งที่เคียวคุรินคิดอยู่ประมาณว่ารูปหูคือประตูของปริศนา[มั้ง]]
“อืมมม....มีแต่ของน่าสนใจทั้งนั้นเลยน่ะครับ....” เซเรเนดว่าพรางมองโน่นนี้ด้วยความสนใจไม่แพ้กัน
แต่..............ใช่ว่ามันจะง่ายอย่างที่เห็นหรอกน่ะ....
ตึ่ง! เคร้ง! ตึ่ง! เคร้ง!
ควับ!!
ทั้ง 2 หันควับเมื่อได้ยินเสียงที่[แล]จะน่าคุ้นเคยดี
“ฮี่ๆๆๆ.......คราวนี้มีคนให้ได้ฆ่าแล้วล่ะฮันโตร”
“นั้นสิน่ะ คราวนี้แหละพวกข้าจะไม่ยอมปล่อยให้ใครได้กลับไปได้อีกแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
ทั้ง 2 หัวเราะอย่างน่ากลัวและสนุกสนาน ก่อนที่จะเริ่มการปะทะกับเซเรเนดและเคียวคุริน
“เจอแล้ววว!!!!!!!” ในขณะที่เคียวคุรินกำลังหยิบปืนนั้นก็เผอิญเห็นเข้ากับรูปหูข้างบนเพดานพอดี
“ฮะ??!! อ่ะจ้ากกกกกก~!” เซเรเนดร้องด้วยความงุนงงและตกใจเพราะเคียวคุรินลากเขาไปนั่งบนตัวแบล็คการ์เนียอีกแล้ว- -*
“ตรงนั้นแหละแบล็คการ์เนียยยยยยย!!!”
แบล็คการ์เนียบินตรงขึ้นไปยังรูปหูนั้นอย่างแรงหวังจะพังประตูเข้าไปแต่ก็พบว่า....
โครมมมมมมมม!!!!!!!
ชนกับประตูนั้นเข้าอย่างจัง...............จนทั้ง 3 ล่วงลงมากับพื้น
“ฮี่ๆๆๆๆๆๆ โง่จริงๆ ประตูนั้นน่ะทำด้วยอิฐอย่างดีที่มีกลไกตั้งไว้ ถ้าไม่เอ่ยคำที่เป็นรหัสเข้าไปล่ะก็ มันก็จะไม่เปิดหรอกน่ะ ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เด็กน้อยนักฆ่าว่าอย่างขบขันและสังเวชผู้ที่พุ่งชนกับประตูนั้นเข้าอย่างจัง ก่อนที่พี่น้องนักฆ่าทั้ง 2 จะวิ่งเข้ามาหวังจะฆ่าผู้โง่เขลาทั้ง 3
“อะ.............อู๊ยย.....ดะ.......เดี๋ยวก่อนสิครับบบบ!!”เซเรเนดว่าพรางยกมือขึ้นห้ามผู้ต้องการชีวิตของตนและคู่หู
“อะไรอีกล่ะ!!!!!!” ทั้งคู่หยุดนิ่งอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะมองมาที่เซเรเนดด้วยความเบื่อหน่าย
“ไหนๆ พวกเราก็จะตายอยู่แล้วช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับ......”เซเรเนดว่าไปและลุกขึ้นอย่างเซๆ
“ว่า.........รหัสนั้นน่ะคืออะไรนะครับ”
“ฮึๆ.................คิดว่าพวกข้าโง่รึไง!!!!!! ถ้าพวกข้าบอกเจ้าไป เจ้าก็ต้องหนีขึ้นไปน่ะสิ!!”เด็กชายตอบอย่างรู้ทัน แต่น่าเสียดายที่น้องสาวของตนไม่คิดว่าอย่างนั้น
“ไหนๆมันก็จะตายอยู่แล้วนี้จ้ะพี่~ บอกๆมันไปเฮอะ เพราะถึงยังไงมันก็คงจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะบังคับม้านั้นได้แล้วล่ะ ฮี่ๆๆๆ ”
“เอาอีกแล้วน่ะ เปเทว! เพราะว่าเจ้าเอาแต่ประมาทอย่างงี้ไงล่ะ! ถึงได้ทำให้พวกเราต้องตายกัน!!”
“เอ๊ะ!! ก็ใครจะไปรู้กันเล่าว่ามันมียาพิษอยู่น่ะ! อีกอย่างถ้าไม่กินมันเข้าไปเราก็ต้องอดตายกันอยู่ดีนั้นแหละ!!!”
“ยังไงข้าก็ไม่บอกพวกมันเด็ดขาดดดดดดด!!!”
“งั้นข้าจะบอกเองก็ได้~!!!!!!!!!!!!!”สาวน้อยตวาดเสียงดังก่อนที่จะบอกรหัสประตู แต่ก็โดนพี่ชายของเธอ ทุ่มลงกับพื้นอย่างรุนแรง
“โอ้ยยยยยยย!! ทำอะไรของพี่น่ะ!!!”
“ก็จะทำให้เจ้าไม่ไปบอกเจ้าพวกนั้นไงเล่า!!!” ว่าแล้วทั้ง 2 ก็ปะทะกันเองตามประสาพี่กับน้องทะเลาะกัน ในขณะที่ทั้งเคียวคุรินและเซเรเนดคิดขึ้นพร้อมๆกันว่า ‘ยังไงเด็กก็ยังเป็นเด็กวันยันค่ำแหละว้า~
.’
แต่ก่อนที่ทั้ง 2 จะคิดอะไรต่อไป เคียวคุรินก็ได้ความคิดอะไรบางอย่างก่อนที่จะเรียกเซเรเนด
“นี้ๆ....เจ้าสวะ”
“ผมไม่ได้ชื่อเจ้าสวะครับ ผมชื่อเซเรเนด- -*”
“เออๆ......เซเรเนด นายว่าไหม ชื่อของเจ้าพี่น้องคู่นี้น่ะมันมีอะไรแปลกๆน่ะ...”
“เอ๊ะ......จะว่าไปแล้ว Patel กับ Huntro งั้นเหรอครับ?”
“อืมม............ลองคิดดูน่ะ ถ้าจะเรียงชื่อทำไมไม่เรียงเป็น Huntro กับ Patel ล่ะ แล้วแถมยังไม่ยอมใช้ตามชื่อเดิมอีกว่า Hunter กับ Grathia แถมยังต้องมาเป็นผู้ดูแลห้องๆนี้อีกนายลองคิดดูสิว่ามันไม่แปลกรึไง?”
“อืมม........”
Patel กับ Hunto งั้นเหรอ........อ่ะ!!
“นักบุ........อุ๊บบบ!!” เซเรเนดกำลังจะตะโกนออกมา แต่โชคดีที่เคียวคุรินปิดปากของเซเรนไว้ได้ทัน
“เงียบๆหน่อยสิ เดี๋ยวพวกมันก็ได้ยินหรอก- -*”
“คะ..............ครับ แต่.....นักบุญเปโตร [Patro] เหรอครับ”
เคียวคุรินพยักหน้าเป็นเชิงให้ว่าถูกต้องแล้ว เพราะถ้าเอาชื่อข้างหน้ากับข้างหลังของ ทั้ง 2 มารวมกันจะกลายเป็น แบบนี้ Patel+Huntro = Patro
“ฉันว่าเรารีบไปกันเถอะ”
“ครับ”
แล้วทั้ง 2 ก็ขึ้นไปนั่งบนตัวแบล็คการ์เนียแล้วบินขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง โดยปล่อยให้เปเทวกับฮันโตรทะเลาะกันต่อไป
“Pato”
เคียวคุรินว่าออกไปเบาๆ ก่อนที่ประตูจะเปิดออกอย่างช้าๆและเสียงดัง แต่นักฆ่าเบื้องล่างทั้ง 2 ก็ยังคงปะทะกันอย่างไม่สนใจ
ข้างหลังประตูนั้นเป็นทางผ่านขึ้นไปข้างบนที่ทั้งมืดและเต็มไปด้วยฝุ่น แถมเส้นทางยังไกลอีกตั้งหาก แต่ในที่สุดทั้ง 2 ก็มาถึงทางออก
แต่ทางออกนั้นกลับกลายเป็นไม่ใช่ทางออกเพราะสิ่งที่พวกเขาทั้ง 2[กับอีก 1 ตัว]พบก็คือ....
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น