ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปั้นรักเป็นตัว (ภาคต่อร้อยกลดลรัก)

    ลำดับตอนที่ #8 : เธอคือหัวใจของผม 100%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 226
      1
      8 พ.ย. 59


    อัพต่อให้แล้วคคร๊าบบบบ ไปอ่านกันได้เล้ยยยย ^^


               จนถึงช่วงสำคัญอีกช่วงนั้นก็คือการโยนช่อดอกไม้ แน่นอนว่าความเชื่อของขั้นตอนสำคัญนี้คือคนไหนที่ได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาว คนๆนั้นจะได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไป เมื่อพิธีกรประกาศให้สาวโสดเข้ามายืนหน้าเวที ติยากรจึงไม่พลาดที่คว้าโอกาสนี้เอาไว้

    “ก้านกล้วย ไปรอรับดอกไม้จากใบตองกัน”

    “ผู้ชายไปได้เหรอครับ” ก้านกล้วยขืนตัวไว้เมื่อถูกติยากรดึงให้เดินตามไปทางเวที

    “ได้สิ ไม่ว่าจะชายหรือหญิงขอแค่โสดไปได้ทั้งนั้นแหละ ไปเร็ว” สุดท้ายก้านกล้วยก็ต้องเดินตามแรงฉุดของติยากร

                “ห้า สี่ สาม สอง...”เสียงพิธีกรเริ่มนับถอยหลังแข่งกับเสียงตะโกนของสาวโสดหนุ่มโสดที่อยู่ข้างล่างเวที

                “ทางนี้ ใบตอง ก้อยอยู่ทางนี้”

                “หนึ่ง” สิ้นเสียงนับ ช่อดอกไม้จากมือเจ้าสาวก็ลอยมาตกอยู่ในมือของก้านกล้วยพอดิบพอดี คนรับช่อดอกไม้ได้ยืนงงอยู่สักพักก่อนจะถูกเชิญให้ขึ้นไปบนเวที

                “ผมไม่ได้ตั้งใจจะรับเลยนะ มันลอยมาเอง” ก้านกล้วยกระซิบกับติยากรเมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าผิดหวังที่ไม่ได้ช่อดอกไม้

                “ช่างเถอะ ชาตินี้ก้อยคงไม่มีคู่อย่างที่พี่กี้กับพี่โก้บอกจริงๆนั่นแหละ”

                “ผมให้” เพราะไม่อยากเห็นท่าทางเสียใจของติยากรก้านกล้วยจึงยกช่อดอกไม้ให้

                “จริงนะ” ก้านกล้วยพยักหน้าและเขาก็ได้เห็นรอยยิ้มดีใจของติยากร ไม่ต่างอะไรกับรอยยิ้มเด็กห้าขวบที่ได้ตุ๊กตาตัวโปรดมาเป็นของขวัญ

    “ขอบคุณนะก้านกล้วย”

    “ไม่เป็นไรครับ”

    “เชิญผู้โชคดีขึ้นมาบนเวทีครับ” เสียงพิธีกรประกาศอีกครั้ง ติยากรจึงดึงแขนก้านกล้วยให้ขึ้นมาบนเวทีด้วยกัน อีกครั้งเช่นกันที่ชายหนุ่มต้องเลยตามเลยกับหญิงสาวร่างเล็กที่คอยแต่จะลากเขาไปโน่นมานี่ด้วยตลอดเวลา และเป็นเขาอีกเช่นกันที่ยอมทำตามและขัดหล่อนไม่ได้เลยสักครั้ง

    “เขินๆอายๆด้วยกันทั้งคู่แบบนี้แสดงว่าเพิ่งเป็นแฟนกันได้ไม่นานแน่เลยใช่ไหมครับ” พิธีกรถามขึ้น ทั้งก้านกล้วยและติยากรตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน

    “ไม่ใช่ครับ/ไม่ใช่ค่ะ”

    “อ้าว...ถ้าอย่างนั้น  สาวโสดหนุ่มโสดทุกคนที่อยู่ในงานยังมีสิทธิ์นะซิครับ” คำพูดของพิธีกรทำเอาหนุ่มๆและโดยเฉพาะสาวๆที่อยู่ข้างล่างเวทีต่างกรี๊ดกันวี้ดว้าย 

                ใบตองมองพี่ชายฝาแฝดของตัวเองที่เริ่มจะเขินอายเมื่อถูกสาวๆมอง ถึงแม้จะถูกเก็บซ่อนไว้ภายใต้ท่าทางนิ่งขรึมแต่ใบหูขาวสะอาดที่แดงเป็นกุ้งถูกลวกบอกได้ดีว่าพี่ชายหล่อนกำลังเขินจัดเลยทีเดียว

                “ยัยก้อยกำลังหึงพี่ชายคุณ” กลินท์กระซิบข้างหูใบตอง

                “หึง...หึงเรื่องอะไรคะ แล้วทำไมต้องหึง”

    ใบตองมองตามสายตาของกลินท์ที่กำลังมองไปที่ก้านกล้วยกับติยากร หล่อนไม่เห็นเลยว่าท่าทางของติยากรจะแสดงออกว่าหึงก้านกล้วยตรงไหน ก็แค่ตอนถูกพิธีกรถามติยากรจะมองสบตาก้านกล้วยบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติและธรรมชาติ และตอนที่พิธีกรให้ถ่ายรูปคู่กันก่อนลงจากเวที ติยากรก็คล้องแขนก้านกล้วยเอียงหน้าลงมาซบไหล่พี่ชายหล่อน กิริยาทุกอย่างที่ติยากรแสดงออกไม่ได้น่าเกลียดหรือแสดงออกว่าหึงพี่ชายหล่อนอย่างที่กลินท์บอกสักนิด

                “ของอย่างนี้ต้องดูกันยาวๆ”

    กลินท์ยักคิ้วให้ใบตองซึ่งไม่ทันเหลี่ยมน้องสาวของเขา ก่อนจะมองตามก้านกล้วยซึ่งกำลังเดินลงเวที โดยมีน้องสาวของเขาคล้องแขนฝ่าวงล้อมสาวๆออกไปถึงโต๊ะที่นั่งกับครอบครัว เขามั่นใจว่าก้านกล้วยรู้ตัวว่ากำลังถูกน้องสาวเขาหว่านเสน่ห์อย่างแน่นอน แสดงว่าที่ผ่านมาติยากรสามารถเอาชนะก้านกล้วยได้เป็นเพราะอีกฝ่ายออมมือ  เอาล่ะ...ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก้านกล้วยก็ไม่ใช่ไก่อ่อนที่เขาต้องห่วงหากต้องรับมือกับติยากร แต่เป็นแม่น้องสาวตัวดีของเขาต่างหากที่น่าห่วงว่าจะทันเหลี่ยมของก้านกล้วยไหม  

     

    ตั้งแต่มีใบตองผมว่าพี่กี้มีความอดทนน้อยลงนะครับ

    ใช่ค่ะ ก้อยว่าพี่กี้ดูใจร้อนขึ้นด้วย โดยเฉพาะเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับใบตอง

    คำพูดของน้องสาวกับน้องชายที่เคยบอกเอาไว้ทำให้เขาเริ่มมองตัวเองใหม่และเริ่มจะเห็นด้วย ใบตองเข้ามาเปลี่ยนชีวิตเขาจริงๆ และตอนนี้ความอดทนของเขาก็เหลือน้อยลงทุกที แม้ขั้นตอนพิธีศักดิ์สิทธิ์จะดำเนินมาถึงช่วงขั้นตอนสุดท้ายแล้วก็ตาม ใครกันเป็นคนกำหนดพิธีการต่างๆ ให้มีขั้นตอนยุ่งยากและยาวนานขนาดนี้นะ

    “รักกันถนอมน้ำใจกันให้มากนะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน ชีวิตคู่ย่อมมีสุขบ้างทุกข์บ้างขอแค่ลูกทั้งสองใช้เหตุผลคุยกัน แม่เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างย่อมพ่ายไปในที่สุด มีความสุขมากๆนะลูก” สุกัญญาเข้ามาอวยพรให้ลูกก่อนจะหลีกทางให้สามีเข้ามา

    “น้องเขาฝากชีวิตไว้ที่เราแล้วกี้ต้องดูแลทั้งชีวิตของน้องให้ดีนะลูก ความเข้าใจความห่วงใยและการเอาใจใส่ซึ่งกันและกันจะทำให้ชีวิตคู่ของลูกทั้งสองไม่มีอุปสรรค ที่สำคัญขอหลานให้พ่ออุ้มเร็วๆนะ พ่อแก่แล้วเดี๋ยวจะไม่มีแรงเลี้ยงหลาน” กลินท์ยิ้มรับคำอวยพรของบิดาก่อนจะหันไปสบตาใบตอง

    “ผมจะพยายามครับคุณพ่อ”

    “ดีมากไอ้ลูกชาย” เกรียงไกรตบมือกับต้นขาตัวเองอย่างถูกใจก่อนหลีกทางให้พ่อแม่ของใบตองเข้ามาอวยพรบ้าง

    “พ่อขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขมากๆ ใบตองคือแก้วตาดวงใจและเป็นดวงมณีที่มีค่าของพ่อ คุณกี้สัญญากับพ่อได้ไหมว่าจะดูแลดวงใจของพ่อให้ดีที่สุด”

    “ผมสัญญาครับคุณพ่อ” คำพูดหนักแน่นที่รับปากบิดาของตนทำให้ใบตองถึงกับน้ำตาซึม

    “พ่อจะถือว่านี่คือสัญญาของลูกผู้ชาย ฝากดูแลลูกสาวของพ่อด้วยนะลูก”

    “ครับคุณพ่อ”

    “การใช้ชีวิตคู่เราต้องเป็นฝ่ายยอมบ้าง เพราะถ้าต่างฝ่ายต่างคอยแต่จะเอาชนะกันสุดท้ายชีวิตคู่ก็ไปกันไม่รอดและถ้าอีกฝ่ายร้อนเราก็ต้องเย็น หน้าที่ของภรรยาคือดูแลปรนนิบัติสามีไม่ให้บกพร่อง ส่วนหน้าที่สามีคือดูแลภรรยาไม่ให้ลำบากทั้งทางกายและทางใจสำคัญที่สุดคือดูแลรักษาน้ำใจกัน  แม่ไม่รู้จะอวยพรอะไรแล้วที่อยากพูดพ่อเขาก็พูดไปหมดแล้ว ขอให้ลูกทั้งสองถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร ใบตองหนูต้องเชื่อฟังพี่เขานะลูกอย่าดื้ออย่าซนเพราะเราไม่ใช่ผู้หญิงตัวคนเดียวแล้ว ทำอะไรหนูต้องคิดให้มากอย่าทำให้พี่เขาหนักใจนะลูก”

    “ค่ะแม่” ใบตองรับปากมารดา

    “ดึกแล้วเรากลับกันดีกว่าค่ะลูกๆจะได้พักผ่อนด้วย” สุกัญญาเอ่ยชวน ทุกคนที่เข้ามาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวในห้องหอต่างเห็นด้วยกับคำชวนนั้นจึงทยอยกลับออกไป

    เมื่อเหลือกันอยู่สองคนความประหม่าก็เริ่มเกิดขึ้นกับใบตอง

    “คุณกี้จะอาบน้ำก่อนไหมค่ะ ใบตองต้องล้างเครื่องสำอางไหนจะต้องสระผมอีกถ้าอาบก่อนคงนานกว่าจะเสร็จ” ใบตองเสนอแต่กลินท์กลับส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

    “อาบพร้อมกันดีกว่าจะได้เสร็จเร็วๆ ” คนพูดอมยิ้มแต่คนฟังกลับห่อปากตาโตก่อนจะส่ายหน้า

    “ไม่ค่ะ แบบนั้นไม่ดีแน่นอน”

    “ดีที่สุดเชื่อผมสิ อย่าดื้อใบตองเมื่อกี้แม่คุณบอกว่าไง อย่าดื้ออย่าซนกับผมไม่ใช่เหรอ นี่ไม่ทันไรจะไม่เชื่อฟังผมแล้วเหรอ หืม...”

    “เปล่าดื้อนะคะ แค่คิดว่าต่างคนต่างอาบน่าจะเร็วกว่า อ๊ะ... พอแล้วค่ะเดี๋ยวใบตองทำต่อเอง” ใบตองยืนนิ่งให้เขาช่วยแกะผมแต่พอเสร็จจากผมมือหนาก็เลื่อนไปรูดซิบด้านหลังให้ แถมยังทำท่าว่าจะรูดลงจดสุดจนหล่อนต้องร้องห้ามเอาไว้

    “มากกว่าแผ่นหลังผมก็เห็นมาแล้วนะใบตอง” กลินท์ไม่ได้หยุดมือลงแต่เขารูดซิบจนสุดและค่อยถอดชุดแต่งงานออกจากตัวใบตองอย่างเบามือ

    “ใบตองครับ” กลินท์เรียกหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นแถมยังหลับตานิ่งไม่กล้าสู้หน้าเขา

    “ถ้าไม่ลืมตาผมจะถือว่าคุณอนุญาตให้ผมทำอย่างอื่นต่อนะ” ใบตองลืมตาขึ้นทันที

    “เสื้อคลุมครับ” กลินท์หยิบเสื้อคลุมที่อยู่ปลายเตียงมาสวมให้ใบตองเมื่อเสร็จเรียบร้อยก็ช้อนอุ้มร่างบางเข้ามาในห้องน้ำ

    “คะ...คุณกี้คะ” กลินท์วางใบตองลงหน้ากระจกบานใหญ่ เมื่อหญิงสาวยืนด้วยตัวเองได้แล้วเขาจึงถอยออกมา

    “อาบน้ำพร้อมกันของผมคือคุณอาบห้องนี้ เดี๋ยวผมจะไปอาบห้องข้างๆ คุณคิดไปถึงไหนนะใบตอง”

    “ก็...” จะเถียงเขาแต่สุดท้ายเป็นตัวเองที่ต้องอายจนต้องก้มหน้าหลบสายตาเขา

    “ใบตองครับ”

    “คะ” ใบตองขานรับแต่ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองคนเรียก

    “ภรรยาที่ดีไม่ควรให้สามีรอนานในคืนเข้าหอนะครับ ผมไม่กวนแล้วรีบอาบน้ำเถอะจะได้พักผ่อน” กลินท์ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คนขี้อายก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำแถมยังช่วยปิดประตูให้

    เชื่อแล้วว่าคนอย่างกลินท์พูดคำไหนคำนั้นจริงๆ และยังจำได้ว่าตอนที่กลินท์ให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอหมั้นหมาย ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าอีกสองปีงานแต่งงานถึงจะเกิดขึ้น แต่กลินท์กลับเปลี่ยนสองปีให้เหลืองสองเดือนได้โดยที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นดีเห็นงามด้วย กลินท์...เขาร่ายมนต์อะไรดลใจพวกท่านกันนะ


    ปั้นรักเป็นตัววางขายในรูปแบบอีบุ๊คแล้วนะคะ
    ฝากผลงานเรื่องล่าสุดของกันต์วลีด้วยนะคะ ^^

    https://www.hytexts.com/ebook/B010066-ปั้นรักเป็นตัว
    https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiODYzMDQ5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiNDk4MzIiO30

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×