ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปั้นรักเป็นตัว (ภาคต่อร้อยกลดลรัก)

    ลำดับตอนที่ #5 : พรีเวดดิ้ง VS ซ้อมเข้าหอ 50 % แก้ไขคำผิด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 280
      2
      23 ส.ค. 59

    2

    พรีเวดดิ้ง VS ซ้อมเข้าหอ

     

                “ใบตองเสร็จหรือยังลูกคุณกี้มารอนานแล้วนะ”

    “เรียบร้อยแล้วค่ะแม่” ใบตองเปิดประตูห้องนอนออกมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบย่อมพลางยิ้มสดใสให้มารดา

    “เสร็จแล้วก็รีบลงไปเถอะลูกปล่อยให้พี่เขารอนานมันไม่ดี ว่าแต่หนูไม่ลืมอะไรแล้วแน่นะ” สายใจถามย้ำ

    “ไม่ลืมแน่นอนค่ะ” ใบตองสะพายเป้เดินทางไว้บนไหล่ข้างหนึ่งก่อนจะควงแขนมารดาลงมาข้างล่าง

    “ลงมาแล้วครับพี่กี้” ก้านกล้วยพยักหน้าไปทางบันไดบ้านทำให้กลินท์ต้องหันไปมองตาม

    “ไปแค่สองวันเก็บของนานยังกับจะไปเป็นอาทิตย์” ก้านกล้วยยังคงเป็นพี่ชายที่รักน้องสาวเช่นเคย (เคยแกล้งน้องยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น)

    “คนที่ทำอะไรนานๆ เขาเรียกว่าเป็นคนรอบคอบก้านกล้วย” ข้ออ้างของใบตองทำให้กลินท์กับสายใจได้แต่ยิ้มอ่อนใจไปตามๆ กันส่วนคนเป็นพี่นั้นทำปากมุบมิบเลียนแบบคำพูดน้องสาว

    “พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเถอะลูกสายกว่านี้เดี๋ยวรถจะติด” สายใจทำหน้าที่เป็นกรรมการห้ามศึกลูกทั้งสองคนอีกตามเคย กลินท์ยิ้มอ่อนก่อนจะนำกระเป๋าเป้ของใบตองไปใส่ท้ายรถ

     “ฝากดูแลใบตองด้วยนะคะคุณกี้”

    “ครับคุณแม่” กลินท์ยกมือไหว้ลาสายใจส่วนใบตองยกมือไหว้มารดาก่อนจะหันมาโบกมือลาพี่ชายและก้าวขึ้นรถซึ่ง กลินท์เปิดประตูรอไว้แล้ว

    รถของกลินท์มุ่งหน้าไปยังหัวหินเพื่อถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ใบตองเป็นคนเลือกสถานที่เพราะหัวหินอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนักแถมกลินท์ก็มีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่นั่นหากถ่ายวันเดียวไม่เสร็จทีมงานยังสามารถพักที่บ้านพักได้บวกลบคูณหารดูแล้วหัวหินจึงเป็นที่ที่ใบตองคิดว่าประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกเปราะหนึ่ง ความคิดนี้แม้กลินท์จะค้านเพราะพ่อบุญทุ่มของหล่อนยอมจ่ายไม่อั้นสำหรับงานนี้แต่สำหรับใบตองเงินทุกบาททุกสตางค์กว่าจะหามาได้ไม่ใช่ง่ายๆ ดังนั้นแต่ละบาทที่ใช้ไปใบตองจึงอยากให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

    ว่าที่ภรรยาของผมหัดเป็นคนขี้งกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน กลินท์เคยล้อหล่อนด้วยประโยคนี้หล่อนยอมรับและไม่เถียงเขาสักคำเพราะคนเราจะจนหรือรวยกว่าจะมีกินมีใช้ได้ก็ต้องรู้จักประหยัดอดออมกันทั้งนั้นและที่หล่อนช่วยเขาเซฟค่าใช้จ่ายไม่เรียกว่างกแต่เรียกว่าใช้เงินให้เป็นต่างหาก

    ทีมงานจากร้านเวดดิ้งเดินทางมาถึงหัวหินก่อนกลินท์ตั้งแต่ช่วงเช้าเพราะต้องมาจัดสถานที่สำหรับถ่ายภาพทั้งช่างภาพและทีมงานต่างเดินดูโลเกชั่นโดยมีแม่บ้านของกลินท์ทำหน้าที่คอยต้อนรับ เสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟอาหาร รวมทั้งของว่างให้ทีมงาน เมื่อกลินท์กับใบตองเดินทางมาถึงหัวหน้าทีมงานจากร้านเวดดิ้งจึงเดินเข้ามาคุยรายละเอียดก่อนจะเริ่มลงมือทำงานกันอีกครั้งให้ทันเวลา เซ็ตแรกกลินท์ใช้สถานที่เป็นบ้านพักตากอากาศของตัวเองโดยให้ทีมงานนำดอกไม้มาประดับประดาตามบ้านและสวนย่อมส่วนใหญ่เน้นดอกไม้โทนสีขาวตามสีของบ้านพักที่เห็นเด่นชัดและเยอะที่สุดคือกุหลาบขาวและดอกเดซี่ขาวมีช่อกุหลาบสีแดงตัดแซมมาบ้างเพื่อเพิ่มสีสัน ระหว่างที่ทีมงานจัดเตรียมสถานที่และเซ็ตฉากให้พร้อม กลินท์จึงพาใบตองมาทานข้าวให้เรียบร้อย เมื่อกลินท์กับใบตองจัดการเรื่องส่วนตัวเรียบร้อยแล้วทีมงานจึงพาทั้งสองมาเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าทำผม

     

    มีว่าที่เจ้าบ่าวสักกี่คนกันนะที่นั่งมองว่าที่เจ้าสาวของตัวเองแต่งตัวตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ แม้ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือกฎข้อห้ามแต่เจ้าสาวทุกคนก็อยากมีอะไรดีๆ และเก็บไว้ให้เจ้าบ่าวได้เห็นบ้างล่ะน่า... สำหรับใบตองหล่อนยังเป็นสาวช่างฝันอย่างไรก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ภาพที่เจ้าบ่าวยืนอึ้งตะลึงงันจนแทบลืมหายใจเมื่อเห็นว่าที่เจ้าสาวของตัวเองในชุดสีขาวฟูฟ่องใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนสวยสะดุดตา แต่กลินท์กลับทำความฝันของหล่อนพังหมด

                “เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” เสียงช่างแต่งหน้าเอ่ยขึ้นก่อนจะถอยหลบให้กลินท์ได้เห็นว่าที่เจ้าสาวของตัวเองชัดๆ

                ใบหน้าคมคายบวกกับแววตาล้ำลึกที่กำลังมองมาที่หญิงสาวร่างบอบบางทำให้ช่างแต่งหน้าทั้งสามคนที่อยู่ในห้องแต่งตัวอดที่จะอมยิ้มตามไม่ได้ และว่าที่เจ้าสาวเองแม้ตอนแรกจะไม่พอใจที่เจ้าบ่าวไม่ปล่อยให้แต่งตัวอยู่กับช่างแต่งหน้าตามลำพัง แต่เมื่อได้เห็นแววตาของเขาที่กลังจ้องมองตัวเองในตอนนี้ มันคือการบอกรักผ่านสายตาชัดๆ เอาล่ะ หล่อนจะถอนความคิดที่เคยคิดไว้ก่อนหน้าก็ได้ จะว่าไปกลินท์ก็ไม่ได้ทำความฝันของหล่อนพังหมดซะทีเดียวหรอกน่า...

                “เดี๋ยวเราจะเริ่มถ่ายกันที่ระเบียงห้องนอนกันก่อนนะคะ” เสียงทีมงานดังขึ้นแต่กลินท์กลับยังจ้องเพียงใบหน้างามตาไม่กระพริบ

                “เลิกมองได้แล้วคะ ใบตองอายเค้า” ใบตองเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหากลินท์หลังจากที่ยืนนิ่งให้เขามองจนแทบจะละลายไปกับสายตาคู่คม

                “ผมคิดถูกแล้วที่เข้ามาดูคุณแต่งตัว” นอกจากไม่สนใจที่คนรักพูดแล้วกลินท์ยังใช้นิ้วชี้พันเส้นผมของใบตองที่ทิ้งปลายลงมาคลอเคลียแก้มใส

                “คิดถูกยังไงคะ” อายแต่ก็อยากรู้คำตอบจากเขา

                “ถ้ารออยู่ข้างนอกผมคงหัวใจวาย”

                “เพราะอะไรคะ” แม้พอจะเดาคำตอบได้แต่ผู้หญิงทุกคนก็อยากได้ยินคำชมนั้นจากปากคนที่ตัวเองรักอยู่ดี

                “คุณสวยมากครับใบตอง” สายตาและน้ำเสียงของกลินท์ตอนนี้ทำเอาทะเลหัวหินแทบตกผลึกเป็นน้ำตาลเลยทีเดียว

    กลินท์... หล่อนเคยบอกไปหรือยังนะว่าเขาน่ะ บทจะหวานก็ทำเอาหัวจิตหัวใจหล่อนหลอมละลายไปเลยจริงๆ นี่คงเป็นอีกความสามารถของผู้ชายอย่างเขาสินะ ใบตองเอ๋ยแล้วคืนเข้าหอ หล่อนจะสวดมนต์ได้ถึงเช้าไหม?






    อัพตอนใหม่ให้แล้วค่ะ
    ขอโทษนะคะที่หายไปหลายวัน
    แป๋วติดภาระกิจสำคัญต่อเนื่องจากวันแม่
    จนถึงวันน้องสาวรับปริญญา
    และเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายตามด้วยแบตรถยนต์หมด
    อะไรจะโชคดีขนาดน้านนน 5555


    ตอนนี้เคลียร์ปัญหาเรียบร้อยแล้ว เข้าสู่ภาวะปกติแล้วค่ะ

    ขอให้อมยิ้มกับการอ่านนิยายนะคะ

    กันต์วลี

    ขอคุณคุณหลินเช่นเดิมที่ช่วนตรวจคำผิดในทุกๆ ตอน
    ขอบคุณค๊าาา ^^




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×