ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปั้นรักเป็นตัว (ภาคต่อร้อยกลดลรัก)

    ลำดับตอนที่ #11 : สามีแห่งชาติ 50%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 220
      2
      16 พ.ย. 59

    พิมพ์เนื้อหาตรงนี้

    พาคุณกี้กับใบตองมาส่งแล้วค่ะ ^___^




    5

    สามีแห่งชาติ

     

    กลินท์กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาหนังหนานุ่มในห้องนั่งเล่น นานครั้งสายตาคมจะชำเลืองมองไปยังภรรยาคนสวยซึ่งตอนนี้กำลังนั่งแกะกล่องของขวัญ ข้างๆกายหล่อนตอนนี้มีเจ้าฮังก๊วยนอนหมอบอยู่ไม่ต่างอะไรกับองครักษ์ผู้พิทักษ์เจ้าหญิงและบางครั้งมันก็ผงกหัวขึ้นเอียงหน้ามอง เมื่อได้ยินเสียงเจ้านายคนสวยแกะกระดาษออกจากห่อของขวัญ และคนที่แกะของขวัญเองหยิบของที่แกะออกมาให้เจ้าสี่ขาดูพร้อมกับพูดคุยถามความเห็นจากมัน ราวกับว่าทั้งสองสื่อสารกันรู้เรื่องทั้งๆที่ความจริงมีเพียงเจ้านายสาวเท่านั้นที่พูดอยู่ฝ่ายเดียว

    กลินท์ถอนหายใจให้ทั้งคนทั้งหมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรขัดออกไป นอกจากชำเลืองมองเงียบๆและยิ้มให้ภรรยาเมื่อหล่อนหันมาถามเขา ซึ่งนานๆทีอีกเช่นกันที่ใบหน้างามจะหันมาทางเขา จะว่าไปแล้วยามนี้เจ้าฮังก๊วยดูจะมีความสำคัญในสายตาของหล่อนมากกว่าสามีอย่างเขาซะอีก

    นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ใบตองใช้เวลาอยู่กับการแกะกล่องของขวัญที่แขกในงานนำมามอบให้ ภาพที่เห็นตอนนี้คือกล่องกระดาษที่กองเป็นภูเขาลูกเล็กๆ ล้อมรอบอยู่ข้างตัวและบรรดาของขวัญชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ที่วางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ หล่อนมัวแต่ง่วนอยู่กับการแกะกล่องของขวัญ พอมองกลับไปยังโซฟาอีกครั้งภาพที่เห็นจึงทำให้อดยิ้มไม่ได้ ภาพใบหน้าคมเข้มของผู้เป็นสามีกอดอกนอนตะแคงมาทางหล่อนแววตาล้ำลึกที่เคยมองสะกดให้ใจละลาย บัดนี้หลับพริ้มไม่ต่างอะไรกับเด็ก ลมหายใจสม่ำเสมอบอกให้รู้ว่าหลับลึกและจะหลับไปอีกนานเท่าไหร่ก็สุดที่หล่อนจะรู้ได้

    ร่างบางวางห่อของขวัญลงแล้วลุกขึ้นเดินไปยังร่างของคนหลับ ค่อยๆดึงชายผ้าห่มที่ร่นลงไปกองอยู่ที่เอวขึ้นมาคลุมให้อย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ เจ้าของใบหน้างามยืนนิ่งอมยิ้มกับภาพตรงหน้าเงียบๆ ก่อนจะก้มลงไปจูบแผ่วเบาบนริมฝีปากหยัก แต่ตอนผละออกกำลังจะกลับไปยังกองห่อของขวัญหล่อนก็ต้องตกใจระคนเขินอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีเมื่อคนหลับลืมตาขึ้นมายิ้มให้หล่อนนัยน์ตาพราวไม่มีวี่แววของคนที่เพิ่งตื่นนอนสักนิด

     “ถึงว่าทำไมเจ้าหญิงนิทราถึงตื่นจากการหลับใหล คงเป็นเพราะจูบแบบเดียวกับที่ผมได้รับ” ประโยคต่อมาของเขายิ่งตอกย้ำให้หล่อนรู้ว่าพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยตัวเองและเจ็บใจมากขึ้นเมื่อถูกเขารวบตัวขึ้นไปกอดบนโซฟาอย่างหมดทางสู้

    “คุณกี้แกล้งหลับเหรอคะ” ใบหน้างามถามหางเสียงงอนๆ เพราะกำลังกลบเกลื่อนความอายที่เสียรู้เขา

    “หลับจริงๆครับแต่ตื่นตอนคนแถวนี้แอบมาขโมยจูบ แต่จะว่าไปอย่างเมื่อกี้เรียกว่าแตะริมฝีปากแนบกันมากกว่านะ จูบจริงๆต้องแบบนี้ครับใบตอง”

    แล้วกลินท์ก็สาธิตวิธีการจูบอย่างถูกต้องให้กับภรรยา ริมฝีปากหยักบดคลึงลงมาบนริมฝีปากอิ่มอย่างอ่อนหวานและนุ่มนวล เรียวลิ้นอุ่นลากไปรอบๆริมฝีปากล่างจนหญิงสาวยอมเปิดปากดื่มด่ำไปกับสัมผัสหวานล้ำนั้นอย่างเคลิบเคลิ้มและเต็มใจ เนินนานกว่าจูบอันอ่อนหวานซ่านในทรวงจะจบลง

    “อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าจูบ” กลินท์เอ่ยขึ้นหลังจากสาธิตการจูบจบลง ส่วนอีกคนได้แต่หลับตาพริ้มในอ้อมกอดอบอุ่นลมหายใจสะท้านเพราะความซ่านสยิวไม่ต่างอะไรกับต้นไม้เล็กๆที่ต้องสายลมหนาว

    กลินท์ลูบฝ่ามือบนแผ่นหลังบอบบางเหมือนเป็นการกล่อมหญิงสาวไปในตัว ไม่นานร่างในอ้อมกอดเขาก็ผล็อยหลับไปและคนกล่อมก็หลับตามไม่กี่นาทีหลังจากนั้น

                สองชั่วโมงกว่าที่ต่างฝ่ายต่างหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย กลินท์รู้สึกตัวก่อนเขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูบนหน้าปัดบอกเวลาหนึ่งทุ่มเศษ เพียงเขาขยับกายเล็กน้อยอีกคนที่นอนหนุนแขนเขาอยู่ก็ขยับตัวลืมตาขึ้น ต่างฝ่ายต่างมองสบสายตากันจนกลินท์อดใจไม่ไหวก้มหน้าลงมาจูบแผ่วเบาบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาแล้วเอ่ยขึ้น

                “หิวไหมครับ” กลินท์จับปอยผมที่ปิดใบหน้าหญิงสาวไปทัดหูและใช้หลังมือเกลี่ยเบาๆบนแก้มเนียน

    ใบตองกำลังจะตอบแต่พอนึกถึงคำถามเมื่อกลางวันหญิงสาวก็เม้มปากเป็นเส้นตรง ชั่งใจอยู่ว่าควรตอบเขายังไงจะได้ไม่เข้าตัวเอง แต่อีกฝ่ายก็เหมือนจะอ่านความคิดภายในใจหล่อนออกจึงถามไปใหม่

                “ผมหมายถึงหิวข้าวครับ” นั่นแหละ คนคิดมากจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ไม่วายส่งค้อนมาให้เขา

                “ไม่ค่อยหิวค่ะ ตอนนี้ง่วงมากกว่า” หล่อนตอบเสียงอ้อมแอ้มท่าทางงัวเงียยังตื่นไม่เต็มที่นั้นทำให้กลินท์อดยิ้มเอ็นดูไม่ได้

    “งั้นไปนอนต่อที่ห้อง” กลินท์ไม่ได้รอให้หล่อนตอบตกลงหรือกล่าวปฏิเสธ อ้อมแขนแข็งแรงของเขาช้อนกายหล่อนขึ้นและก้าวไปยังห้องนอน สิ่งที่ทำได้สำหรับใบตองคือยกแขนทั้งสองข้างขึ้นโอบรอบคอเขาไว้และซุกหน้าลงกับอกแกร่งอย่างยอมจำนน

    แม้ท่าทางภายนอกหล่อนจะสงบนิ่งในอ้อมแขนของเขา แต่ใครเลยจะรู้ว่าภายในหล่อนนั้นโดยเฉพาะจังหวะหัวใจกลับเต้นแรงระรัวจนกลัวว่าเขาจะจับได้ ยิ่งตอนที่เขาเดินมาถึงหน้าห้องแล้วหยุดนิ่งที่หน้าประตูเป็นการบอกกลายๆ ให้หล่อนเป็นฝ่ายเปิดประตู ซึ่งความจริงก็ต้องเป็นหล่อนอยู่แล้วที่ต้องเปิดเพราะมือของเขาทั้งสองข้างไม่ว่างพอที่จะเปิดได้อยู่แล้ว

    แต่สำหรับใบตองเมื่อเปิดประตูแล้วมองเห็นเตียงสีขาวขนาดใหญ่ถึงกลับต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ความรู้สึกตอนนั้นราวกับว่าหล่อนเป็นฝ่ายยินยอมให้อะไรๆก็ตามที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นดำเนินไปด้วยความเต็มใจ ทั้งๆความจริงก็เป็นแค่การเปิดประตูห้องนอนเท่านั้นแล้วทำไมหล่อนต้องคิดอะไรไปไกลขนาดนั้นด้วย กลินท์จะรู้ไหมนะว่าหล่อนคิดอะไรอยู่ในใจ แวบหนึ่งหล่อนก็แอบมองสังเกตสีหน้าผู้เป็นสามี ดูจากสีหน้าก็ปกติดี หรือว่าจะรู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้

    ความคิดกังวลของใบตองตีกันวุ่นวายจนแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน แล้วมีหรือที่คนอย่างกลินท์จะดูไม่ออก

    “คิดอะไรอยู่เหรอครับ”

    “มะ...ไม่ได้คิดอะไรค่ะ” เสียงตอบละล่ำละลักบอกออกมาจนกลินท์แทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่

    “ทำหน้าแบบนี้ต้องคิดอะไรทะลึ่งอยู่แน่ๆ หรือว่ากำลังคิดเรื่องเพิ่มรอบของผม ”

    “บ้า ใบตองไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย” เสียงหัวเราะหึๆในลำคอของกลินท์ทำให้ใบตองเลือกที่จะเงียบเพราะยิ่งพูดมากต่อปากต่อคำกับเขาก็เข้าตัวเองเปล่าๆ

                “นมอุ่นๆสักแก้วไหมครับจะได้หลับสบาย” คำถามของกลินท์ช่วยดึงสติของใบตองที่กำลังคิดมากและคิดเลยเถิดไปไกลให้กลับมาสู่ปัจจุบัน

                “ก็ได้ค่ะ” กลินท์ยิ้มกว้างก่อนจะค่อยๆวางภรรยาลงบนเตียง

                “รอเดี๋ยวนะครับ” กลินท์จูบเร็วๆบนหน้าผากมนจนหญิงสาวตั้งตัวไม่ทันและก่อนที่จะได้ทักท้วง ร่างสูงก็เดินผละออกไปจากห้อง

    เดี๋ยวเดียวอย่างที่บอกจริงๆ กลินท์ก็กลับมาพร้อมกับประคองแก้วใบใหญ่ที่บรรจุนมสีขาวอุ่นๆส่งให้ภรรยา

                “ขอบคุณค่ะ” ใบตองรับแก้วนมมาดื่ม กลินท์มองภาพนั้นยิ้มๆไม่พูดอะไร จนหญิงสาวส่งแก้วเปล่าคืนให้เขารับมาแล้ววางไว้บนโต๊ะข้างๆหัวเตียงแล้วหันกลับมามองใบหน้าผู้เป็นภรรยาอีกครั้ง

                “คุณกี้มองอะไรคะ” ที่ถามก็เพราะเขาเอาแต่จ้องหล่อนนิ่งแล้วมองยิ้มๆจนหายใจไม่ทั่วท้องแล้วตอนนี้

                “มองภรรยาที่กลายร่างเป็นนางยักษ์ครับ”

    ใบตองเลิกคิ้วเรียวขึ้นอย่างสงสัยและก็เข้าใจในเวลาต่อมา เมื่อแลเห็นขอบแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะเลอะไปด้วยคราบนม และตอนนี้บนใบหน้าของหล่อนก็คงมีรอยแก้วนั้นอยู่ตรงมุมปากทั้งสองข้าง ดูไม่ต่างอะไรกับนางยักษ์อย่างที่เขาว่า ใบตองกำลังจะยกมือเช็ดคราบนมที่เลอะออก มือของกลินท์ก็ยกขึ้นมารั้งมือหล่อนไว้ สายตาทั้งสองคู่ประสานกันนิ่ง ใบหน้าคมโน้มต่ำลงมาเรื่อยๆ สายตาหวานล้ำของเขาก็ยังทำหน้าที่ของมันได้ดีจนหล่อนยอมแพ้เป็นฝ่ายหลบซะเอง แต่ยังไม่ทันจะผละใบหน้าหนี มือข้างหนึ่งของเขาก็เอื้อมมารั้งที่ท้ายทอยของหล่อนเอาไว้เพื่อปิดกั้นหนทางในการหลบหนี สุดท้ายปากบางอิ่มของหล่อนก็ถูกเขาครอบครองจนพอใจ เป็นความพอใจของหล่อนด้วยนั่นแหละ และจังหวะสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะจบลง กลินท์ตวัดลิ้นเบาๆลงบนมุมปากทั้งซ้ายและขวาของหล่อน เป็นการเช็ดคราบนมที่วาบหวามที่สุดเท่าที่หล่อนเคยสัมผัสมา

                “แต่นางยักษ์ตนนี้ดูท่าคงไม่มีพิษภัยอะไร เพราะปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม” กลินท์กระซิบข้างใบหูเล็กของนางยักษ์ แทนคำพูดโต้ตอบใดๆ กำปั้นน้อยๆก็ทุบลงบนอกเขาอย่างคนเขินอาย ใบหน้างามนั้นยังซบนิ่งอยู่ในอ้อมกอดเขา ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมาสู้หน้า ทำได้แค่ฟังเสียงหัวเราะหึหึของเขาในลำคอ

    ขนาดเป็นยักษ์หล่อนยังสู้เขาไม่ได้ แล้วอะไรหนอจะมาต่อกรกับคนอย่างกลินท์ได้ หญิงสาวคิดพร้อมกับซุกตัวแนบใบหน้าลงกับอกอุ่นนั้นพยายามข่มตาหลับเพื่อจะได้พ้นอายและพ้นหน้าคนร้อยเล่ห์เหลี่ยม




    ขอให้อมยิ้มกับการอ่านนิยายนะคะ

    กันต์วลี ^__^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×