ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เจ้าหญิงจอมซ่า : ตอนที่ 7 ตำนานสวนกุหลาบ
พอเดินมาเรื่อย ๆ ฉันจึงได้เห็นสวนกุหลาบ เป็นสวนกุหลาบที่สวยมาก มีกุหลาบขาว แดง ชมพู ส้ม เหลือง ฯลฯ ปลูกสลับกันไปมา เป็นทัศนียภาพที่ดูแล้ว ช่างงดงามมาก ฉันจึงเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ เมื่อเดินเข้าไปได้เห็นม้านั่งแบบชิงช้า(นึกภาพกันออกใช่มั๊ยคะ ? เป็นเก้าอี้แต่มีเชือกผูกให้แกว่งไปมาได้ เก้าอี้ไม่มีขาเก้าอี้นะคะ) ฉันจึงนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น แล้วนั่งคิดถึงเรื่องที่บ้าน ป้าจะเป็นห่วงมั๊ย ? ถึงป้าจะอยู่ต่างจังหวัดแต่เมื่อได้รับเงินฉันจะส่งจดหมายกลับไปเสมอ แล้วก็มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามา (เท่าที่)ฉันจำได้ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่เรียกฉันว่าองค์หญิงเมื่อฉันมาถึงที่นี่ (ด้วยวิธีอะไรไม่รู้)
“องค์หญิงมาทำอะไรที่นี่เพคะ ทำไมไม่ไปเรียนหนังสือกับท่านฟาน เดี๊ยวท่านฟานลงโทษะเพคะ ไหนจะพระราชาที่ตั้งความหวังกับท่าน” เป็นชุด = = ที่ฉันมาอยู่ที่นี่ มันผิดมากใช่มั๊ย ?
“พระราชา เรียกให้ครูฟานเข้าเฝ้าน่ะ” กระจ่างแจ้งยัง... คำนี้ฉันพูดในใจ เพราะเกรงว่าถ้าพูดออกไป จะเสียความเชื่อถือที่ทุกคนให้มา(อย่างน้อยนิด- -;)หมด
“งั้นก็แล้วไปเพคะ” พูดเหมือนฉันโดนครูทำโทษแต่ที่จริงฉันเป็นแพะรับบาปเลยอ่ะ
“แล้วพระองค์คิดเช่นไรเพคะ ถึงได้มาประทับอยู่ที่สวนกุหลาบแห่งนี้” ตกลงน้าจะไม่ไปทำงานใช่มั๊ย ถึงได้มาอู้ คุยกับฉันเนี่ย แต่ก็เป็นวิธีที่ฉลาดนะ เพราะถ้ามีใครมาตามก็จะเกรงใจฉันที่เป็นเจ้าหญิง ถ้าเป็นฉันก็คงใช้วิธีนี้(มั้ง น่าจะคาดไม่ถึงอ่ะ)
“ก็มานั่งเล่นน่ะ เห็นสวนกุหลาบสวยดี มันทำให้นึกถึงเรื่องเก่า ๆ น่ะ” พอดูแล้วจิตใจมันเลื่อนลอยชอบกลเหมือนกันนะ
“งั้นหม่อมฉันจะเล่าตำนานของสวนกุหลาบแห่งนี้ให้ฟัง เอามั๊ยเพคะ” ตำนานงั้นเหรอ เอาสิ ว่างอยู่เหมือนกัน
“อื้อ เอาสิ”
“เรื่องมันเป็นอย่างนี้เพคะ”
เมื่อ500ปีก่อน
“ไม่ เจ้าจะแต่งงานกับมันไม่ได้!!!”
“เพราะเหตุอันใดกัน เสด็จพ่อ”
“เพราะว่ามันเป็นแค่ไพร่ยังไงล่ะ แถมข้ายังได้ข่าวคาว(คราว)มาว่ามันน่ะมีหนี้สินติดตัวมากมายมหาศาล จนเกือบจะเป็นทาสให้เจ้าหนี้แล้วด้วยซ้ำ”
“แต่ก็ไม่ได้เป็นนี่เพคะ”
“นั่นเพราะเจ้าหนี้ของมันได้ตายไป ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นฤๅ
หึ!!! มันคงโดนเขาใช้งานเป็นทาสเยี่ยงสัตว์กระมัง”
“แต่... ลูกรักเขาเพคะเสด็จพ่อ”
“นาดีน ทำไมเจ้าถึงไม่ฟังที่ข้าได้บอกกล่าวแก่เจ้าบ้าง ที่ข้าได้กล่าวออกไปนั้นมันเป็นเรื่องจริง”
“เรื่องที่ว่าเขาผู้นั้นทำดีกับลูกเพราะเงินน่ะหรือเพคะ”
“ใช่ หรือเจ้าจะปฏิเสธ”
“ข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็นเช่นนั้นเพคะ”
แล้วหญิงสาวหน้าตาสะสวยที่มีนามว่า นาดีน ได้เดินออกจากห้องนั้นด้วยอารมณ์กึ่งโกรธกึ่งเสียใจ เพราะบุคคลอันเป็นที่รักของนางไม่ได้รับการยอมรับจากผู้ที่นางเรียกว่า เสด็จพ่อ
“ทำไมกัน ทำไมข้าถึงรักกับเขาไม่ได้ ทำไมกัน!!! เจ้าตอบข้าทีสิ เมต้า” นางได้แต่ระบายความคิดและอารมณ์ของนางกับสาวใช้คนสนิทของนางเท่านั้น
“... นั่นเพราะท่านเป็นองค์หญิงกระมัง”สาวใช้เลือกที่จะไม่พูดคำลงท้าย(เพคะ)กับบุคคลตรงหน้า โดยไม่สนว่าบุคคลตรงหน้านั้นมีศักดิ์เป็นถึงเจ้าหญิง เนื่องจากองค์หญิงไม่ชอบให้นางพูด เพราะว่ามันออกจะห่างเกินไป เมื่อเพื่อนคนเดียวในปราสาท พูดอย่างนั้น มีครั้งหนึ่งพระราชินีได้ยินเข้าจึงตักเตือนนาง ว่าไม่ให้เกียรติองค์หญิง พอนางพูดคำลงท้าย องค์หญิงโกรธมาก เล่นเอานางเหนื่อยไปเลยกับการง้อองค์หญิง
“ถ้าข้าเลือกเกิดได้ ข้าไม่เกิดเป็นองค์หญิงหรอก”
“ทำไมท่านจึงพูดเช่นนั้น”
“การที่เราจะรักใครสักคน แต่รักไม่ได้เพียงเพราะเกียรติศักดิ์ค้ำคอ เจ้าคิดว่าข้ารู้สึกเช่นไรกัน!!!”
“...”เมต้าเลือกที่จะเงียบเสีย เนื่องจากรู้ดีว่า ถึงพูดอะไรไปหญิงสาวตรงหน้าก็คงไม่รับฟัง
“เดี๊ยวก็องค์หญิง ๆ ข้าอึดอัดกับคำ ๆ นี้มาตั้งหลายปีแล้ว เมื่อสมัยเด็ก ข้าอยากจะไปวิ่งเล่นดังที่เด็กคนอื่นทำกัน แต่ข้าก็ทำไม่ได้ เมื่อข้าถามเหตุผล คำตอบที่ได้กลับมา คือเพราะข้าเป็นองค์หญิง”นาดีนเริ่มโกรธขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคิดถึงเรื่องในอดีต
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น