ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Universe Story II

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ห้า: แอตแลนติส อารีน่า

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 57


    บทที่ห้า: แอตแลนติส อารีน่า

    บรรยากาศของที่นี่เริ่มมีแสงสว่างขึ้น เด็กหนุ่มสาวทั้งห้างัวเงียตื่นขึ้นมาหลังจากที่เพลียเพราะเรื่องเมื่อสองวันก่อนและวันนี้จะเป็นวันคัดเลือกนักสู้เพื่อแข่งขัน

    หากพวกเขาคนใดคนหนึ่งตกรอบ พวกเขาทั้งหมดก็ต้องเป็นวิญญาณอยู่ที่นี่ชั่วนิรันดร์

    “ไปกันเถอะ เดี๋ยวสาย” เนียทาพองเป็นคนปลุกพรรคพวกที่กำลังงัวเงียอยู่

    พวกเขาใส่ชุดทีม เตรียมอาวุธพร้อมที่จะไปแข่งขันต่อสู้กันแล้ว และเพียงไม่กี่นาทีพวกเขาก็ออกจากห้องเพื่อไปยังสถานที่แข่ง

    “แอตแลนติส อารีน่า”

    ถึงภายนอกจะดูสวยหรูเพราะทำด้วยหินอ่อนเรียบเนียนแต่การออกแบบก็ไม่ค่อยต่างจาก คอลัสเซียมเท่าไหร่เลย และในตอนนี้ผู้ชมก็เนืองแน่นกันไปหมด ซึ่งส่วมมากล้วนแล้วแต่เป็นพวกชนชั้นสูง ส่วนที่ลงทะเบียนแข่งก็มีแต่คนยากจนทั้งนั้น เพราะการแข่งขันนี้หากใครชนะก็จะได้รางวัลมากมายมหาศาล

    “โอ้ว เหล่าผู้มาเยือนจากโลกนอกนี่เอง ราชาบอกข้าแล้ว พวกท่านแต่ละคนนำเบอร์นี้ไป” เจ้าหน้าที่กรอกใบสมัครยื่นบัตรให้เป็นเหมือนบัตรคิว

    เอ ได้เบอร์ A-01

    คาร่า ได้ B-02

    เนียทาพองได้ C-03

    เอเซกุด ได้ D-04

    นาปากัซได้ Z-99

    จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เชิญพวกเขาไปห้องพักนักสู้

    “ทำไมฉันถึงได้แตกต่างจากพวกฟระ” นาปากัซบ่น

    “เอาเถอะนี่คงเป็นความต้องการของเขาที่ให้เราแยกสายกัน” เอ ปลอบ

    “ต่อจากนี้ จะเป็นการเริ่มการแข่งขัน แอตแลนติส ไฟท์ ณ บัด นี้” เสียงประกาศจากภายในสนามดังออกมาจนได้ยินยันห้องพักนักสู้

    “รอบคัดเลือกจากการแข่งขันครั้งแรกจะเริ่มที่สาย A เริ่มจากท่านแรก ผู้มาเยือนจากภายนอก” สิ้นเสียงประกาศ บัตรคิวก็ส่องแสงสว่างจนต้องหลับตาและเมื่อ เอ ลืมตามาอีกทีเขาก็อยู่ในสนามเสียแล้ว

    “เครื่องวาร์ปสินะ” เอ คิด

    “ปะทะกับสัตว์ร้ายของเรา สแกรี่แครป” ทันใดนั้นประตูเหล็กก็เปิดอ้า บางสสิ่งได้เคลื่อนที่ออกมาอย่างรวดเร็ว

    ปูยัก์สีเขียว ก้ามใหญ่ มองมาทางเขาด้วยความหิวโหย ไม่รอช้ามันก็พุ่งเข้ามา

    “ปูที่นี่มันเดินตรงได้ด้วยหรอ” เอ ตกใจที่เห็นปูพุ่งมาเป็นเส้นตรงไม่เดินเฉียง เขากระโดดหลบ และด้วยพลังของชุดทำให้เขากระโดดได้สูงขึ้นสี่เท่า กลางอากาศนั้นเขาชักดาบคาตานะที่เหน็บไว้ที่เอวแล้วม้วนตัวกลับไปฟันมันจนขาดเป็นสองท่อน

    “จบสักทีสินะ” เอเก็บดาบ

    แต่ยังไม่มิดปลอกเขาก็รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวบางอย่างข้างหลัง

    “ไม่จริงน่า” เอ ผวา เมื่อเห็นเศษศากของปูสองส่วนนั้นขยับแล้วงอกอวัยวะอย่างรวดเร็วเป็นปูสองตัว

    เฮๆๆๆๆ

    เสียงคนเชียร์ร้องดังทั่วสนามที่เห็นเอกำลังเสียท่า

    “เอาไงดีนะ” เอกำลังคิดและหลบหลีกการโจมตีจากมันและบางครั้งที่เขาต้องฟันมัน เพียงขาหลุด ขาก็งอกใหม่ และยังมีอีกตัวหนึ่งงอกออกมาด้วยจากเศษที่กระเด็นไป ยิ่งสู้ก็ยิ่งเยอะขึ้นจน เอ เริ่มเสียเปรียบ

    “เจ้าหนูนั่นไม่รอดหรอก” หนึ่งในราชาที่อยู่ดูการต่อสู้ที่โซนพระราชาบอก

    “สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร” ราชาผู้อวุโสพูดแล้วดูการต่อสู้ต่อไป

    “มันต้องมีจุดอ่อน ตรงไหนสักที่” เอ ใช้สมองอย่างหนัก เหมือนจะคิดออกแต่ก็คิดไม่ออก สมาธิก็ไม่ค่อยจะมีเพราะโดนไล่ต้อนอยู่ เขาเหมือนเด็กท่วิ่งวนสนามไปมา จนคจนดูโฮ่

    ปิ้ง

    “รูปแบบแบบนี้มันคือพวกสัตว์เซลย์เดียว เจ้านี้คือสัตว์เซลย์เดียว งอกใหม่ได้เรื่อยๆยกเว้นนิวเคลียสจะตาย แต่เจ้านี้เป็นสัตว์หลายเซลล์ คงจะพัฒนามา ต้องทำให้มันตายทุกเซลล์ แล้วจะทำไงดีนะ” เอ ครุ่นคิด

    “อ๊ะที่พื้นนี่มันไม่ใช่ดินธรรมดานี่นา” เอ มอง จากนั้นก็ชักดาบออกมาแล้วลากมัไปกับพื้นจนเป็นเส้น

    “เจ้าหนูนั่นทำอะไร” ราชาคนหนึ่งถาม

    “ทำให้ดาบเสียดสีไงหล่ะ ดาบนั่นหน่ะมันทำมาจากโลหะผสมหลายอย่าง มีหินขนวนและอัคนีด้วย” ราชาผู้อวุโสยิ้ม

    “พื้นนี่ประกอบด้วยหินอัคนีเพราะพื้นที่ตั้งของแอตแลนติสคือภูเขาไฟ ส่วนดาบนี่ก็ติดไฟได้ ดังนั้น” เอยิ้มมุมปากเล็กน้อย

    ฟุ่มมม

    ส่วนคมของคาตานะติดไฟที่ร้อนแรง มันเป็นดาบไฟไปแล้ว เอจับดาบแล้วเข้าไปฟันปูอีกครั้ง

    ฟุ่ม

    เขาตวัดดาบอย่างรวดเร็วจนปูนั่นติดไฟไปทั้งตัว และไหม้ตาย

    “ต่อไปก็พวกแก” เอ ไล่ฟันปูทีละตัวจนหมดสนาม ผู้ชมก็โห่แสดงความยินดีให้ตามมารยาทแม้ใจจริงอยากเห็นเขาถูกจัดการก็เถอะ

    เอ เดินออกจากโซนการต่อสู้ในขณะที่ผู้เข้าร่วมการต่อสู้คนใหม่ก็วาร์ปเข้ามาและสู้กับสัตว์อื่น

    เขาเดินจนถึงห้องพักของนักสู้

    “เป็นไงบ้าง” เนียทาพองถามเมื่อเห็น เอ สบักสบอมมา

    “ไม่ตาย” เอ ตอบขำๆ

    “สู้กับใคร ทำไมไม่เห็นประกาศชื่อคู่ต่อสู้เลยหล่ะคะ” เอเซกุดถาม

    “อ๋อ รอบแรกเขาให้เราสู้กับสัตว์หน่ะ ไม่มีไรมาก แต่ก็น่ากลัวอยู่นะ อย่างฉันเจอปูงอกใหม่ได้” เอ ตอบ

    จากนั้นพวกเขาก็นั่งรอ ในห้องมีบริการน้ำและอาหารให้รับประทานกัน หลายคนที่ออกไปก็กลับมา แต่บางคนก็ไม่ได้กลับมาเช่นกัน

    “ดูเหมือนจะมีคนตายเฉลี่ยหกคนต่อสิบคนนะ มีผู้เข้าแข่งขัน สองร้อยน่าจะเหลือ แปดสิบคนโดยประมาณ” คาร่าคำนวน

    และเวลาก็ได้เลยผ่านไป

    C-01” เสียงประกาศเรียกหลังจากหมดชุด A

    “เฮ้ยทำไมข้ามอ่ะ” นาปากัซงง

    “ช่างเถอะ มันแล้วแต่เขารู้ไปก็ไม่ได้อะไรหรอก” คาร่า ตอบสีหน้าเฉย

    และแล้วก็ถึงคราวของ เนียทาพอง

    วูป

    เมื่อเสียงประกาศคิวของเขาจบลงเขาก็หายไปจากห้องและเข้าสู่สังเวียน

    เนียทาพองหันซ้ายขวาดูสนามต่อสู้

    “โห โล่งไม่มีที่ให้หลบเลย มีกลิ่นเลือดกับซากเนื้อด้วย” เนียทาพองหรี่ตามอง

    “คู่ต่อสู้ของผู้มาจากโลกภายนอก ก็มาจากโลกภายนอกที่เราจับมาเช่นกัน”

    เนียทาพองเตรียมปืนกลบีมมาเตรียมสู้

    “ตัวอะไรก็มาเจอปืนก็เดี้ยง” เขาคิดอย่างได้ใจ

    และแล้วชื่อของสัตว์ร้ายก็โดนประกาศ

    “บีควีน”

    ประตูเหล็กปิดสนิทมีเพียงคนแก่คนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกล่องเล็กๆใบหนึ่ง

    เนียทาพอง งงเป็นไก่ตาแตก ไหนหล่ะ สัตว์ ไหนหล่ะ ศัตรู คนแก่คนนี้หรอ

    ท่ามกลางความงง ชายชราคนนั้นเปิดกล่องออกมาแล้วรีบวิ่งหนีไป

    “วิ่งหนีอะไรหน่ะ” สักพักเขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรกำลังพุ่งมาทางเขา

    เขาเบี่ยงหลบซ้ายและก็เหลือบไปเห็นแมลงขนาดเล็กซึ่งลักษณะเหมือนกับผึ้งบินผ่านเขาไป

    “หนอยแมลงนี่เอง” เขากราดยิงไปทั่วสนามแต่กไม่ได้ผลผึ้งนั้นว่องไวเกินไปและตัวเล็กเกินไปทำให้กระสุนพลาดและเขาก็เล็งไม่ได้

    เขาเปลี่ยนอาวุธเป็นบาซูก้ายิงแต่ก็ไม่โดนซ้ำยังโดนลานนั่งจนสั่นไปหมด

    “อาวุธจากโลกภายนอกแม้จะยิงได้เร็วแต่ก็พ่ายแพ้ผึ้งตัวเล็กๆช่างน่าขำ” เหล่าราชาหัวเราะกับการกระทำของเนียทาพองยกเว้นราชาผู้อวุโสกำลังมองอย่างเมามันส์

    “โธ่เว้ย” เขาได้แต่ยิงต้านมันเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้แต่กระสุนและไฟฟ้าก็จะหมดเต็มที เขาจนปัญญาจะเอามือตบมันก็ไวเกินและอาจโดนโจมตีได้อีกด้วย

    ขณะวิ่งหนีเขาก็ควักอาวุธจากกระเป๋าไล่มาเรื่อยๆจนกว่าจะเจออันที่คอดว่าใช่แล้วจึงยิง

    ฉึก

    “โอ้ย” เนียทาพองโดนมันต่อยเข้าไป แต่ผึ้งชนิดนี้ไม่ตายมันยังตั้งท่าโจมตีซ้ำอีก

    “หนอย” เขาหลบการโจมตี สีหน้าของเขาเริ่มมืดเพราะเนื่องจากพิษที่เหล็กในของมันมันจะต่อยให้เหยื่อสลบแล้วดูดของเหลวช้าๆ เพียงต่อยครั้งเดียวก็ถือว่าแย่แล้ว

    เนียทาพองยังคงคว้าอาวุธต่อไป เสียงคนดูเริ่มดังขึ้นเพราะอยากเห็นผู้ต่อสู้ตาย(จิตสุดๆ) เนียทาพองเริ่มไม่มีแรงแล้ว

    ฉึกๆๆๆๆๆ

    “อ้ากกกก” เขาโดนมันต่อยไม่ยั้ง แต่ถ้าหลับก็เท่ากับตาย และ แพ้อีกด้วย

    “เขายังคงอดทนอยู่ ในกระเป๋าอาวุธเริ่มน้อยขึ้นๆ จนเหลือชิ้นสุดท้ายตาเขาปรือๆใกล้หมดลมหายใจ

    “นี่มัน” เขายิ้ม

    ปืนลำแสงสายฟ้า ยิงขึ้นบนฟ้าแล้วไฟจะช๊อตทุกสิ่งอย่างทุกอนูในรัศมีด้วยกำลังไฟฟ้าต่ำๆ แน่นอนว่าตัวเขาด้วย แต่ว่าหัวใจของเขาตอนนี้กำลังหยุดเต้นโดนไฟฟ้าเข้าไปคงจะดีขึ้นเขาตัดสินใจใช้แรงเฮือกสุดท้ายเหนี่ยวไกรปืน จากนั้นกระสุนไฟฟ้าก็ลอยขึ้นไปประมาณสามเมตร

    แปล็ปๆๆๆๆๆๆๆ

    ควีนบีที่บินว่อนเมื่อสักครู่ไหม้เกรียมรากับโดนไม้ไฟไหม้ส่วนเนียทาพองก็รู้สึกดีขึ้นเพราะโดนไฟช๊อต

    “จบสักที” เขาถอนหายใจแล้วไปเก็บปืนต่างๆที่เขาโยนลงตามพื้นจนครบแล้วเดินออกไป

    “เป็นไงบ้าง” เอถาม

    “ยังไม่ตาย” เนียทาพองเล่นมุขกลับจนอีกฝ่ายหน้าเสีย

    ....

    กาลเวลาผ่านไปและแล้วก็ถึงคิวของหนูน้อย เอเซกุด

    “หนูไปก่อนนะ”

    วูปปป

    ร่างของเธออยู่กลางสนามตามมาด้วยเสียงฮือฮาเพราะเห็นเด็กตัวน้อยในสังเวียน

    “คราวนี้แหละพวกมันต้องแพ้บ้างหล่ะแล้วเราก็จะได้กำจัดพวกมัน” เหล่าราชาพูด

    ราชาผู้อวุโสดูเหมือนจะสนใจกลุ่ม HEXAGON T.ไม่น้อยคงเพราะทั้งทีมมีแต่เด็กแต่ก็สามารถมาถึงที่นี่และเอาชนะสัตว์ร้ายได้ถึงสองตัว

    “เอาหล่ะหนูน้อยคนนี้ คู่ต่อสู้ของเธอคืออออออ” เสียงประกาศเว้นระยะ สร้างความตื้นเต้นให้ผู้ชม

    “ไทรันโนซอรัสสส”

    ประตูบานใหญ่เปิดออก สัตว์นักล่าจากอีราทอร์สมัยดึกดำบรรพ์โผล่ออกมาเกรี้ยวกราด เอเซกุดยืนนิ่งเตรียมหมัด

    มันวิ่งอ้าปากจะงับ เอเซกุด เหล่าผู้ชมก็รอดูวินาทีสุดท้ายของเธอ เหล่าราชาก็กำลังรอดูความพ่ายแพ้ อีกไม่กี่ก้าว ไทรันโนซอรัสก็จะงาบเธอลงท้อง

    ก๊าซซซซซซ

    ตึก

    “อะไรกัน” เสียงฮือฮาดังก้อง แม้แต่เหล่าราชาก็ต้องตะลึงแรงบดเขี้ยวและฟันอันแหลมคมของไทรันโนซอรัสไม่สามารถงับเธอได้เพียงเธอนำมือทั้งสองข้างมาง้างปากเอาไว้

    แกร้ก

    เอเซกุด หักกรามและฉีกปากของสัตว์ร้ายได้อย่างง่ายดาย เธอนำชิ้นปากล่างของไดโนเสาร์ขว้างไปยังที่นั่งของราชาทั้งสิบสอง

    เหล่าองค์รักษ์ก็ปกป้องและป้องกันไม่ให้เหล่าราชาได้แปดเปื้อน

    “พวกลุงใจร้ายข้างบน ถ้าไม่ปล่อยพี่ของหนูหล่ะก็เจอดีแน่” เธอประกาศออกมาอย่างห้าวหาญและดุดันจากนั้นก็ออกไปจากสนามแข่ง

    “สุดยอดจริงๆเด็กคนนั้นหน่ะ” ราชาผู้อวุโสอุทานในใจแล้วนั่งชมการต่อสู้ต่อไป

    การต่อสู้ของ นาปากัซ ก็จบเร็วเช่นกัน เขาเจอ สิงห์สิบเศียร ที่มาจากดาวของตนเอง ทำให้รู้จุดอ่อนอย่างดี ผ่านไปแล้วสี่เหลืออีกหนึ่ง

    “คาร่าถึงตานายแล้ว” เอ บอก

    “ฉ....ฉ...ฉันหรอ” ไม่ทันได้พูดจบเขาก็ถูกวาร์ปมาที่สนาม

    กรรรร

    “อ..อ..อะไรหน่ะ” คาร่าด้วยความขี้กลัวและไม่ถนัดต่อสู้ เขาเห็นสัตว์ร้ายที่เขาต้องสู้แล้ว มันคือเสือ เสือจากอีราทอร์ธรรมดาตัวหนึ่ง หากเป็นคนอื่นคงจัดการไปได้นานแล้วเพราะตัวนี้จัดการง่ายที่สุดในรอบคัดเลือก แต่ทว่า คาร่ากลับยืนขาแข็งสั่นระริกๆ

    “เฮอะเจ้านี้ขี้กลัวขมัด ตายแน่นอน” ราชาคนหนึ่งพูด

    แฮ่ ปึงๆๆๆๆๆ

    เสือที่พุ่งชนและใช้เขี้ยวเล็บกำลังทำลายบาเรียของเขา

    “โธ่แล้วฉันก็ลืมอาวุธมา มิน่าเหมือนลืมอะไร” เขาได้แต่บ่นตัวเองและนอนหมอบอยู่อย่างนั้น แม้การโจมตีจะไม่รุนแรงแต่บาเรียก็ถอยเรื่อยๆ

    “ออกไปนะ ออกไป” เขาปล่อยโฮฟุบหมอบลงไปไม่กล้าดู บาเรียก็ค่อยๆหายไปทีละนิด

    “ผมจะทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆ” เขาได้แต่บ่นพึมพำ สมองและระบบทำงานหยุดกึกและรวนเขาคิดอะไรไม่ออกแล้วได้แต่รอความตายเพียงอย่างเดียว

    “คาร่า ถ้าหนูกลัวหนูก็จะล้มแล้วอยู่กับอดีตนะ สู้กับความกลัวแล้วเดินหน้าสู่อนาคตเถอะ” เสียงแว่วๆในหัวสมองดังอกมา

    .....ย้อนไปเมื่อหกปีก่อน......

    “ฮือๆๆๆ ไม่เอาหนูกลัวความมืดอ่ะ ไม่เอาๆๆๆๆ” เด็กตัวเล็กๆคนนึงงอแงในบ้านไม้เก่าๆหลังหนึ่งนอกเมือง

    “กลัวอะไรไม่เห็นมีอะไรเลย” เสียงของยายที่อยู่ข้างๆปลอบใจ

    คาร่าในวัยสี่ขวบเขากลัวเกือบทุกสิ่ง หมอจิตวิทยาที่นั่นบอกว่าเกิดจากความผิดปรกติเพราะได้รับเรื่องสะเทือนใจในวัยเด็ก แต่เด็กก่อนสี่ขวบจะจำอะไรแม่นจนขนาดอาการหนักขนาดนี้นะ

    คาร่างอแง เพียงแค่ยายต้องการให้เขาฝึกไปเข้าห้องน้ำเองแต่เพราะยากจนมากจึงไม่มีไฟฟ้าใช้ บ้านจึงมืดในเวลากลางคืน

    “คาร่า ถ้าหนูกลัวหนูก็จะล้มแล้วอยู่กับอดีตนะ สู้กับความกลัวแล้วเดินหน้าสู่อนาคตเถอะ

    คำสอนของยายเข้าหูซ้ายแล้วไปยังสมอง ด้วยความเป็นอัจฉริยะเขาจึงจำทุกสิ่งอย่างที่ประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ทำให้เขารับรู้ต่างๆแม้จะเด็กก็ตาม เขายังจำภาพที่พ่อแม่ของเขาทะเลาะกันในความมืดเสียงดัง และนำเขามาวางไว้นอกเมือง เวลากลางคืน แมลงสกปรกและสัตว์ร้ายก็เริ่มออกล่าอาหาร เขากลัวมากร้องเท่าไหร่ก็ไร้คนช่วยเหลือ

    เด็กไม่ถึงสามขวบถูกทิ้งในความมืดพร้อมสัตว์ร้ายนานาชนิดที่จ้องจะกินเขา

    และแล้ว ยาย คนหนึ่งก็รับเลี้ยงเขาไป ความทรงจำอันดีเยี่ยมทำให้จิตใจสะเทือน เขากลัว ความมืดและสัตว์ร้าย

    หลายปีต่อมาเมื่อเขากลัวเขาก็มักใช้คำสอนของยายเป็นที่ตั้ง

    ......ปัจจุบัน.........

    “ใช่ เราต้องอยู่รอด” คาร่าได้สติ

    เราต้องคิดเราต้องคิด เรามีอะไรบ้างนะ นี่มันก็แค่สัตว์ร้ายระดับต่ำตัวหนึ่ง

    กึก

    เขาล้วงเจอปากกาของเขา เล่มเดียวกับที่ใช้ที่ Survival planet ปากกาในวันเกิดครบรอบห้าขวบของเขาและวันแต่งตั้งเขาเป็นลูเคเชียน ออฟ มัลติเวอร์ส ยายของเขาซื้อมันเป็นของขวัญ ราคาไม่ใช่น้อย แม้ยายจะไม่มีเงินมากแต่ก็ซื้อให้เขา เขาใช้มันทำงานและพกตลอดเวลา

    คุณสมบัติคล้ายมีดพก เขาคิดต่อ เพียงปากกาไม่สามารถช่วยเขาได้

    เขามองไปที่พื้นแล้ววิเคราะห์

    กำมถัน ถ่าน ซัลเฟตุ โซเดียม โอ้แร่ครบถั้วนมาก เขาคิดวืธีชนะออกแล้วเขาลุกขึ้นมา เหล่าผู้ชมก็มองดูว่าเขาจะทำอะไร เขาคว้าดินที่เป็น กำมถัน และ ถ่านมา จากนั้นก็เปลี่ยนปากกาตนเองเป็นกระบอกอะไรซักอย่างจากนั้นก็ปั้นดินให้กลายเป็นก้อนเขากดปุ่มตรงหัวปากกา มีตะกั่วร้อนเคลือบลูกดินปืนและนำลูกดินปืนที่หลอมตะกัวแล้วใส่กระบอก

    ใช่แล้วเขาเพิ่งทำกระสุนปืนภายในสามสิบวินาทีอย่างชำนาญ

    กระบอกนั้นเหมือนกับปืนเพียงเขากดปุ่มมันก็ยิงไปทะลุกลางศรีษะของเสือตัวนั้น

    คาร่าเป็นฝ่ายชนะ

    หัวใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ ทั้งเหนื่อ ตื่นเต้น กลัว ดีใจ ผสมกันมั่ว เขากลับไปยังห้องนักสู้

    “ฉันขนะ” คาร่าโบกมือ

    “เฮ้” เหล่าเด็กๆทุกคนปลอดภัย วันนี้ คาร่าก็ได้เรียนรู้บางอย่างเพิ่มเติมและโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกก้าวหนึ่ง

    เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินมาหาพวกเขาแล้วยื่นบัตร

    “การต่อสู้รอบต่อไปเป็นแบบทีม พวกคุณอยู่ทีมเดียวกัน โชคดีนะครับ” เจ้าหน้าที่บอกกติกาจากนั้นก็ไป

    “เอาหล่ะ ไปพักกินอะไรก่อน แล้วรวมพลังกันสู้เพื่อลอเรียกันเถอะ” เอบอกอย่างอารมณ์ดี

    “เป็นห่วงลอเรียสินะคะ พวกเราสู้เกือบตายไม่เคยสน” เอเซกุดแซว

    “หึ จรองของน้องเขาฉันเห็นด้วย” เนียทพองสมทบ

    จากนั้นทั้งห้าก็หัวเราะแล้วเดินไปกินอาหารพร้อมกันอย่างมีความสุข

    .............................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×