คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : A D U L T E R A T I O N : 5
***
ประมาณสิบนาทีต่อมายุนกิเดินมาบอกเขาให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมส่งสายตาน่ากลัวกับคำตอบท้ายประโยคคำสั่งว่าเร็วๆนั้นก็พอที่จะทำให้แทฮยองลุกจากทีวีจอยักษ์ตรงหน้าที่กำลังฉายโปโรโร่และมันฝรั่งทอดไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ เมื่อคืนเขามาที่เพนท์เฮ้าส์ของยุนกิตอนสี่ทุ่มพร้อมกระเป๋ากับทุกสิ่งทุกอย่างที่เตรียมมาไว้เพื่อใช้ชีวิตตอนอยู่ที่นี้
แทฮยองเปิดประตูมาเจอยุนกิในเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ขาดๆกับแจ็คเก็ตหนังตัวหนึ่งและโฮซอกในชุดแบบเดียวกันแค่เขาไม่ได้ใส่แจ็คเก็ตแต่ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวไว้ด้านนอกแทน โฮซอกมองแทฮยองอย่างหงุดหงิดเหมือนเคย โฮซอกกับยุนกิกำลังคุยอะไรบางอย่างกันซึ่งแทฮยองไม่ได้ยิน
“ผมเสร็จแล้วนะ” ยุนกิหันมามองหน้าแทฮยองจากที่ขมวดคิ้วอยู่ก็เลิกคิ้วแล้วเดาะลิ้นตามสไตล์ของเขา โฮซอกทำหน้าเบื่อโลกทุกครั้งที่เพื่อนตัวเองเดาะลิ้นมันเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย แล้วเขาก็ขี้เกียจแก้มันแล้วด้วย
“โอเคเจ้าหนู” ยุนกิพูดแล้วลุกขึ้นจากโซฟา สนีกเกอร์สีสวยเดินนำไปที่ลิฟต์ ที่นี้ไม่มีประตูมีแค่ลิฟต์ตัวหนึ่ง มันขึ้นมาจากชั้นหนึ่งขึ้นมาโดยใช้คีย์การ์ด เปิดมาก็จะเจอห้องของยุนกิเลย บางทีแทฮยองก็สงสัยนะว่าถ้าคีย์การ์ดตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้ามที่เป็นคู่อริพวกเขาจะไม่ลำบากหรือไง
แทฮยองสังเกตว่าที่หน้าของยุนกิกับโฮซอกมีอะไรแปลกๆ มันคล้ายๆกับเครื่องสำอางที่ผู้หญิงใช้ ที่มันเป็นสีดำๆเอาไว้ทาเปลือกตา ? เขาเรียกว่าอะไรนะ อายแชโดว์ ? อายไลเนอร์ ? ช่างมันเถอะเขาแค่คิดว่าพวกเขาแต่งหน้าด้วยหรอ ? บางทีเขาควรถาม
“พวกคุณแต่งหน้าด้วยหรอ ?” แทฮยองถาม โฮซอกหันหน้ามาทำหน้าเบื่อโลกใส่แทฮยองอีกครั้งผิดกับยุนกิที่หัวเราะคิกคัก
“หน้าสดไปทำธุรกิจหรือเจอลูกค้ามันออกจะทำให้เรา เสียลูกค้านะเจ้าหนู เราไม่ได้ใช้สมองหากินหน้าตาก็มีส่วนถึงเรื่องแต่งหน้าจะเป็นความชอบส่วนตัว แล้วก็ถ้าเราไม่แต่งหน้าเราก็ดูดีอยู่แล้ว” ยุนกิอธิบาย ปากสวยยังคงยิ้มอยู่
“พวกคุณจะบอกว่าพวกคุณหน้าตาดี ?” แทฮยองถามพร้อมเลิกคิ้ว
“แน่นอนพวกเราหน้าตาดี” โฮซอกตอบ เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นรอยยิ้มของโฮซอก มันก็ดูไม่แย่ดีกว่าอีกฝ่ายทำหน้าเบื่อโลกใส่เขาตลอดเวลาด้วยซ้ำ
“หลงตัวเองซะไม่มี” แทฮยองพูดแล้วเบือนหน้าไปยังแผงปุ่มกดลิฟต์
“งั้นหลังจากพวกเราถึงชั้นหนึ่งนายก็กดลิฟต์กลับไปที่ชั้นสามสิบสี่แล้วนอนอ่านหนังสือดูการ์ตูนเพนกวินปัญญาอ่อนกับกองมันฝรั่งทอดอยู่บนนั้น” โฮซอกก็ยังเป็นโฮซอกอยู่วันยังค่ำนั้นแหล่ะ เรื่องบ่นขอให้บอก เขาพร้อมส่งเพื่อนคนนี้ไปแข่งชิงแชมป์โลกด้วยซ้ำ
“โอเค ผมผิดเอง พวกคุณเป็นคนที่หน้าตาดีแบบที่ผมไม่คิดว่าจะเห็นบนโลกนี้ด้วยซ้ำ พวกคุณหล่อมากโอเค๊ ?” แทฮยองพูดพร้อมถอนหายใจ
“ขอบคุณ” อย่างกับเตี๊ยมกับไว้ ยุนกิกับโฮซอกพูดคำว่าขอบคุณพร้อมกัน แล้วประตูลิฟต์ก็เปิด
***
ตอนนี้พวกเขาใกล้สนามยิงปืนนอกเมือง อุณหภูมิข้างนอกร้อนระอุจนแทฮยองสัมผัสได้แม้ว่าตัวเองจะอยู่ในรเมอร์ซิเดส เบนซ์ของยุนกิก็เถอะ
รถของยุนกิแล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถของที่นี้ ป้ายด้านหน้าบอกว่าปิดแต่พอยุนกิลดกระจกลง ยามที่ป้อมก็ทำสีหน้าเลิกลั่ก แล้ววินาทีต่อมาพวกเขาก็มาด้านในเรียบร้อยแล้ว
อากาศร้อนไม่เปลี่ยนแปลงจากที่เขาคิดพวกเขาก้าวลงจากรถ แทฮยองทำสีหน้าเหยเก ต่างกับยุนกิกับโฮซอกที่ทำหน้านิ่งๆ สาบานได้ว่ายุนกิต้องร้อนกว่าพวกเขาแน่ๆ อาจจะสักเปอร์เซ็นหนึ่งหรือไม่ก็สองเพราะคนตัวขาวใส่แจ็คเก็ตหนังผิดกับแทฮยองที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าสบายๆ
พอเข้ามาข้างในบรรยากาศที่นี้โดยรวมแล้วเย็นสบายถ้าไม่รวมข้างนอกนั้น แอร์เย็นฉ่ำอย่างที่ยุนกิชอบ พนักงานเดินมาทำหน้าเหวี่ยงใส่พร้อมบอกว่าวันนี้ที่นี้ปิดไม่เห็นป้ายหรือไง แต่พอเห็นหน้ายุนกิก็มีปฏิกิริยาเดียวกับยามข้างหน้านั้นแหล่ะ
“คุณพาผมมาที่นี่ทำไม ?” แทฮยองถามในขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินไปที่สนาม
“แล้วโฮซอกไปไหน ?” เด็กหัวส้มถามมาอีกรอบ
“บางทีนายควรเติมคำว่า ‘ฮยอง’ ด้วยนะ ไม่ใช่แค่เขาไม่พอใจฉันก็แอบไม่พอใจที่นายเรียกชื่อพวกเราเฉยๆ” ยุนกิตอบพร้อมกลอกตา เขาไม่ชอบจริงๆเวลาแทฮยองเรียกเขาด้วยชื่อเฉยๆ เด็กนี่เป็นใคร ลูกน้องเขายังไม่ยอมให้เรียกเลยนะ มีคนเดินสวนพวกเขาไป แทฮยองหันหลังมองตาม
“โอเค โฮซอกฮยองไปไหน”
“ไปคุยกับเจ้าของสนามเรื่องที่เรามาใช้ที่นี่”
“ผมเห็นป้ายข้างหน้ามันบอกว่าวันนี้ที่นี่ปิด”
“ใช่มันปิด” ยุนกิผลักประตูเข้าไปที่สนามสำหรับซ้อม ที่นี่ปลอดผู้คน
“แล้วเราเข้ามาได้ยังไง ? พอยามกับพนักงานเห็นหน้าพวกคุณพวกเขาก็ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วยอมให้เราเข้ามา”
“นั่นคือเหตุผลที่โฮซอกต้องไปหาเจ้าของสนาม โอเค ?” แทฮยองไม่ตอบแต่เขามองตามยุนกิที่เดินไปหยิบเบเร็ตต้า 92fs มายื่นให้เขา
“นายยิงปืนเป็นไหม ?” ยุนกิถาม
“เป็นผมเคยเข้าค่ายยิงปืนตอนอายุสิบสองผมได้คะแนนรวมอันดับสองจากนักเรียนทั้งผมห้าสิบคน” แทฮยองพูดพร้อมพลิกปืนในมือไปมาเพื่อให้ชินมือ
“นั่นยังไม่ดีพอ” ยุนกิพูด “นายต้องเป็นที่หนึ่ง เข้าใจไหมไอ้หนู ที่หนึ่งคิดว่าโฮบอมฮยองกับ ซอกจินส่งนายมาหาฉันเพราะอยากให้นายเป็นลูกหมาตามตูดคนอื่นต้อย ต้อย ต้อยหรือไง ? คำตอบคือไม่ ไม่งั้นพวกเขาไม่จ่ายให้ฉันอย่างงามหรอก”
“จ่ายเท่าไหร่ ?”
“นั้นไม่ใช่เรื่องของเรา นายคิดหรือยังว่าอนาคตจะทำอะไร ?”
“ผมยังไม่ได้คิด” แทฮยองตอบ
“งั้นก็คิดซะ กระสุนมีสิบนัด นายยิงได้สิบแต้มกี่นัด เอาสถิติสูงสุดที่เคยทำ”
“แปดไม่ก็เจ็ด”
“งั้นหลังจากนายฝึกนายต้องได้สิบเข้าใจไหม ? ไปโชว์ให้ดูหน่อยสิว่านายมีค่าแค่ไหน เป้าอยู่ตรงนั้น แว่นตาหรือที่ปิดหูไม่มีเข้าใจ ?”
แทฮยองไม่ตอบเขาเดินไปที่ช่องที่ใกล้ที่สุด ประคองปืนด้วยมือทั้งสองข้างยกมันขึ้นมาในระดับสายตา เขาเล็งและกำลังจะเหนี่ยวไกแต่ยุนกิก็ขัดซะก่อน
“อ๊ะๆ มือเดียวเจ้าหนู ใช้เพียงข้างเดียว”
“แต่แรงดีดของปืนมัน...” แทฮยองกำลังจะหันไปเถียงแต่ยุนกิก็ขัดมาก่อนอีกจนได้
“นายจะบอกว่าถ้านายโดนตามล่านายก็จะมากังวลกับแรงดีดของปืน ?” ยุนกิพูดพร้อมฉีกยิ้มให้เด็กน้อย
“โอเค”
***
คิม แทฮยองคิดว่าข้อมือของเขาฉีกไปแล้วด้วยซ้ำ เขาจับปืนครั้งสุดท้ายตอนอายุสิบสอง เจ็บจนน้ำตาจะไหล ชื้นใจนิดหน่อยตรงที่พอยิงเสร็จวางปืนลงแล้วคนตัวเล็กกว่าก็เดินมาหาเขา ดูแขนข้างขวา พลิกไปมา บีบมันนิดหน่อยพร้อมถามเขาว่าเจ็บไหม ? ปวดหรือเปล่า อยากจะตอบไปว่าเจ็บจนกล้ามเนื้อแทบฉีก แต่ใจมันก็สั่งให้ส่ายหน้าๆ
ยุนกิตบไหล่แทฮยองเบาๆ
เด็กนี้ใช้ได้ ยุนกิคิดในใจข้อมือไม่หลุดเอ็นไม่ฉีกซะก่อนถือว่าเยี่ยม
“นายทำได้ดีแล้ว” ยุนกิบอกแทฮยองระหว่างที่กำลังเดินออกจากห้อง ระหว่างทางพวกเขาเจอโฮซอกที่เดินออกมาจากห้องเจ้าของสนามพอดี สีหน้าโฮซอกเหมือนจะเบื่อโลก แต่ก็เปื้อนด้วยริ้วสีชมพูจางๆที่แก้ม แถมสายตาเลิกลั่ก
ยุนกิกับโฮซอกกลับมาที่ห้องซ้อมอีกครั้ง ไม่ได้จะมาให้แทฮยองยิงให้ดูอีกแต่พวกเขามาเล่นเอง แทฮยองนั่งอยู่ที่โซฟาด้านหลังเล่นสมาร์ทโฟนของตัวเองที่เชื่อมเข้ากับ wifi ของที่นี้
***
- กลับมาจากโรงพยาบาลแล้วเย้
- ฟิคมันสั้นไปไหมแต่ล่ะตอนง่า
- ตอนต่อๆไปเราจะแปะเพลงไว้นะ ถ้าไม่ชอบก็กดปิดเราอยากให้ฟังถึงมันจะไม่มีอารมณ์ร่วมก็เถอะช่วงนี้เราติสต์
- อยากได้แท็กกันไหมอ่ะ ? เราคิดไม่ออกช่วยออกความเห็นหน่อยย
ความคิดเห็น