คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : A D U L T E R A T I O N : 12
***
***
สายตาของยุนกิมองไปที่กระเป๋าเดินทางที่เขาขนมันออกมาจากตู้พร้อมกับกองเสื้อผ้าที่เอาออกมากองไว้ด้วยกัน ไฟทำให้ห้องสีขาวของเขาสว่างเกินไปจนอยากจะปิดมัน แต่เขาก็ไม่ทำ
ยุนกิเหนื่อยจนกว่าจะลุกเดินไปไหนมาไหน เหนื่อยเกินกว่าจะพลิกตัวด้วยซ้ำ
ก๊อกๆ
เสียงดังมาจากประตูห้อง เขาเพียงแค่กรอกตาแล้วปล่อยมันดังต่อไปพร้อมเสียงเรียกจากเด็กตัวปัญหา เสียงจองกุกดังแทรกขึ้นเป็นระยะๆสุดท้ายก็หายไป
ยุนกิกระพริบตาแล้วพลิกตัวอย่างยากลำบาก เขารู้สึกคลื่นไส้ เวียนหัวและหน้ามืด หลายๆเรื่องมันมีผลกระทบต่อเขาเกินไป
มือที่ขาวซีดอยู่แล้วยิ่งซีดขึ้นไปใหญ่ ยุนกิกลิ้งตัวอยู่ซักพักแล้วปล่อยตัวเองตกลงข้างเตียง เขาลากตัวเองลุกขึ้นไปที่ประตู มือเขาสัมผัสได้ถึงความเย็นของลูกบิดประตู รีโมทเครื่องปรับอากาศที่ตกอยู่พื้นแสดงเลขสิบหกบนจอของมัน โฮซอกคงลดอุญหภูมิให้เขาก่อนออกจากห้อง
เขาเปิดประตูออกมาเจอกับจองกุกและแทฮยองที่กำลังจ้องอย่างเอาเป็นเอาตายกับหนังสยองขวัญในทีวีจอยักษ์ของเขา ยุนกิส่ายหน้าแล้วลากเท้าเดินต่อไป เขาเดินผ่านครัวพาตัวเองไปยังห้องเก็บอาหาร หยิบนมมาเทใส่แก้วแล้วโยนมันไปที่ไมโครเวฟ
และ ..
เขาก็รอ ..
***
ทางเดินยาวที่ไร้แสงไฟ หญิงสาวมีแค่ไฟฉายกระบอกใหญ่ในมือ หล่อนกวาดสายตาไปรอบๆอย่างหวาดหวั่น เสียงก้าวเท้าดังขึ้นมาเรื่อยๆจากทางด้านหลัง
วิ่ง
ตอนนี้เธอคิดได้แค่นี้ ขายาวๆของเธอวิ่งตรงไปเรื่อยๆอย่างไม่คิดชีวิต เสียงก้าวเท้ากลายเป็นเสียงวิ่ง พื้นไม้ที่เธอเหยียบอยู่สั่นสะเทือนตามจังหวะเท้า เธอวิ่งมาจนสุดปลายทางและเข้าไปซ่อนตัวที่ช่องเล็กๆด้วยข้าง
เสียงแมลงปีกแข็งเดินไปมาอยู่ข้างหู พื้นไม้อับชื้นและน่าสะอิดสะเอียน เสียงย่ำเท้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ หล่อนก้มหน้าปิดหูพยายามสวดภาวนาอ้อนวอนพระเจ้า
และแล้วเสียงเดินก็ผ่านเธอไป เสียงมันไกลขึ้นเรื่อยๆ
หล่อนลืมตาอย่างช่วยไม่ได้ ค่อยๆเงยหน้าขึ้นและ..
“ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ”
“ หยุดเลยหยุดกูไม่ดูแล๊วววววว ” เสียงตะโกนดังมาจากเด็กชายสองคนที่นั่งกอดกันอยู่บนโซฟาหน้าโทรศัพท์จอยักษ์ ทั้งคู่หลับหูหลับตามือควานหารีโมททีวี เสียงกรีดร้องของหนังสยองขวัญยังดังอยู่
“ กูจำได้ว่าวางไว้แถวๆนี้ ” แทฮยองบ่นพร้อมกับลากมือตามโซฟา
“ มึงลุกไปปิดทีวีเลย ” จองกุกพูดแล้วยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าตัวเอง
“ กูไม่ไป มึงเก่งมากมึงก็ไปเองดิ่ เอาผ้าห่มมากูกลัว ” เด็กหัวส้มพูดแล้วยื่นมือปะปายไปยึดผ้าห่มที่จองกุกคลุมตัวเองไว้
“ มึงเป็นคนท้าครับ มึงไปปิดทีวี ” จองกุกขบกรามแล้วลืมตาขึ้นมาทั้งสองคนมองหน้ากันมือของพวกเขากำคอเสื้อของกันและกันไว้
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ” เสียงของทั้งคู่ประสานกันแล้วต่างก็มุดเข้าไปในผ้าห่ม
ยุนกิยืนมองลูกหมาสองตัวที่เล่นอะไรเป็นเด็กๆกัน เขายกนมร้อนในมือขึ้นจิบแล้วอมยิ้ม หนังสยองขวัญในจอยังดำเนินต่อไป เขาเดินไปอย่างเงียบๆ หยิบรีโมททีวีที่ตกอยู่ด้านหลังของโซฟาแล้วกดปิดทีวี
“ มึง ”
“ เสียงแม่งเงียบแล้วว่ะ ”
“ แสดงว่ามีคนปิดทีวี ”
ยุนกิเดินขึ้นไปบนระเบียงชั้นสองของคอนโด เขาเท้าแขนไว้ที่ราวระเบียง มองก้อนผ้าห่มกลมๆที่เริ่มขยุกขยิกอยู่บนโซฟา
“ มึงโผล่หัวออกไปก่อนเลย ” แทฮยองบอก
“ ไม่มึงก่อน ” จองกุกเถียงกลับ
จากการเถียงกันเล็กๆน้อยๆกลายเป็นการตะโกนเถียงกันใต้ผ้าห่ม เขาคิดว่าที่พวกนั้นไม่ออกมาเถียงกันดีๆเพราะว่าน่าจะยังกลัวอยู่ เสียงของลูกหมาสองตัวดังขึ้นเรื่อยๆ
ประตูอีกด้านของห้องรับแขกถูกเปิดออกโฮซอกเดินออกมาจากห้องรับแขก แล้วตรงไปที่ครัว ยุนกิเลิกคิ้ว เขาคิดว่าโฮซอกจะเดินมาดุพวกนี้ที่เสียงดังซะอีก
ยุนกิยกนมร้อนขึ้นจิบอีกรอบและมันก็หมดแก้วแล้ว สายตาเหม่อลอยของเขาทอดไปยังอีกฝั่งของระเบียง คิดถึงอะไรหลายๆเรื่อง นิ้วขาวเพียงไม่กี่นิ้วเกี่ยวหูของแก้วไว้ เสียงเถียงกันยังดังอยู่เนื่องๆ แก้วมัคในมือของเขาร่วงลงจากชั้นลอยลงไปสู่พื้นด้านล่าง
“ มึง ” เสียงใต้ผ้าห่มดังขึ้นอีกรอบ
“ มึง ”
“ ได้ยินเหมือนที่กูได้ยินป่ะว่ะ ”
“ มึงกูว่าเราเจอดีแล้วแน่ๆเลยว่ะมึง ”
“ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ นับสามแล้วโผล่หัวไปดูนะ ” จองกุกพูด แทฮยองพยักหน้าเบาๆ
“ โอเค ”
“ หนึ่ง ”
“ สอง ”
“ สา.. ”
“ เราต้องโผล่ตอนที่มันนับสามหรือหลังจากนับสามว่ะ ” แทฮยองพูดจองกุกจิ๊ปากแล้วสถบคำหยาบออกมาเบาๆ
“ หลังจากสาม ” จองกุกขบกรามแล้วถอนหายใจ
“ โอเค หนึ่ง ”
“ สอง ” ยุนกิกลั้นหัวเราะ
“ สาม ” หัวกลมๆโผล่ออกมาจากกองผ้าห่มบนโซฟา พวกเขากวาดตาไปรอบๆ
ซ่า
น้ำอุณหภูมิเหมือนเพิ่งไปตักมาจากแถบขั้วโลกเหนือสาดใส่หน้าพวกเขา ทั้งสองลืมตาแล้วเตรียมสถบใส่คนตรงหน้า แต่พอมองหน้าคนตรงหน้าแล้วก็เป็นอันต้องรูดซิปปากให้สนิทที่สุด
“ กูบอกพวกมึงไปนอนตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว แล้วนี้อะไร! มีหูไหม! อยากดูนักใช่ไหมไอ้หนังปัญญาอ่อนเนี่ย! ”
จอง โฮซอกออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ..
***
หัวเข่าของแทฮยองเริ่มชา เขาเจ็บ แทฮยองกัดปากตัวเองเบาๆแล้วเริ่มขยับตัวยุกยิกทั้งๆที่จองกุกที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆกลับนั่งอยู่นิ่งๆ
เขาโดนจอง โฮซอกผู้ที่อยู่บนห่วงโซ่อาหารระดับๆเดียวพอๆกับยุนกิของเขา สั่งให้มานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าทีวีเงียบๆหลังจาก .. เอ้อนั้นแหล่ะ
“ ย่าห์ นายอยู่นิ่งๆไม่เป็นหรือไงกัน อย่าขยับสิกล้องนั้นมันถ่ายเราอยู่ ” จองกุกพูดแล้วเพยิดหน้าไปทางมุมบนขวา เขาเห็นCCTVตัวเล็กๆที่แทบจะมองไม่เห็นถ้าไม่สังเกตดีๆจับจ้องเขาอยู่
“ ก็มันเจ็บ นายไม่เจ็บหรือไง หัวเข่าฉันชาไปหมดแล้ว ” คิมแทเถียงกลับเขายกเข่าขึ้นแล้วเอามือไปสอดรองหัวเข่า แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หายเจ็บกว่าเดิมเลยซักนิด
เขาเห็นใครบางคนจากหางตา แทฮยองหันหน้าไปมองคนที่เพิ่งเดินเข้ามา ยุนกิในชุดนอนที่ในมือถือแก้วมัคสองแก้ว มีควันสีขาวลอยออกมากำลังเดินมาหาพวกเขา ยุนกิวางแก้วแปะลงบนโต๊ะกระจก
“ ลุกขึ้นมาได้แล้ว โฮซอกคงนอนหลับแล้วล่ะ ” คนตัวขาวสั่ง พวกเขาสองคนลุกขึ้นในขณะที่แทฮยองร้องโอดโอยกับความเจ็บปวดที่หัวเข่าจอนจองกุกกลับเดินมานั่งอยู่ที่โซฟาแล้วยกนมร้อนขึ้นดื่ม
“ ย่าห์ จอน จองกุกนายทำได้ยังไงนั่งนานขนาดนั้นไม่เจ็บซักหน่อยเลยหรือไง ร่างกายทำด้วยอะไรว่ะ ” ยุนกิกระตุกยิ้ม แทฮยองทิ้งก้นลงนั่งบนโซฟาแล้วคว้าแก้วบนโต๊ะขึ้นบ้าง
“ ถอดออกได้แล้วมั้ง ตอนนี้หันหลังในกล้องอยู่ ” ยุนกิพูดในขณะที่มุมปากยังยกยิ้ม แทฮยองเบะปากทำหน้าไม่เข้าใจก่อนที่อารมณ์ถัดมาที่เข้ามาแทนที่คืออยากกระโดดซัดหน้าจอนจองกุก
พอยุนกิสั่งในจอน จองกุกถอดเจ้านั่นออกเพราะหันหลังให้กล้องแล้ว หมอนั่นก็หันไปมองรอบๆตัวแล้วก้มลงถึงกางเกงนอนขายาวของตัวเองเลิกขึ้นมาทีล่ะข้างจนถึงเข่า ..
เข่าที่มีสนับเข่าสีดำอย่างหนารัดเอาไว้ ..
คิมแทฮยองสาบานว่าชาตินี้เขาต้องต่อยหน้าหมอนี้ซักครั้ง ..
- คิดถึงพี่ซอกจินกันยัง คิดถึงปาร์คจีมินกันยัง 555
- ตอนนี้มันไม่มีไรเลยอ่ะ แก้เครียดโง้ยยยย
#อดวก
ความคิดเห็น