คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #83 : บทที่ 9 ความทรงจำของแท็ค (1)
บทที่ 9 ความทรงจำของแท็ค (1)
มือเรียวบางถือขวดบรรจุของเหลวสีเงินขุ่นเอาไว้มั่น เฮเลนมองไปยังอ่างเพนซิฟด้วยความรู้สึกที่เธอเองก็อธิบายไม่ถูก อยากรู้อยากเห็น ตื่นเต้น ตื้นตันใจและเศร้าศร้อย มันผสมรวมกันอยู่ภายในอก เธออยากรู้ว่าแท็คซ่อนอะไรเอาไว้ภายในความทรงจำเหล่านี้ ทำไมเขาถึงต้องการให้เธอรับรู้เรื่องราวเหล่านั้นนัก
"ความจริงที่ว่าคือความทรงจำของแท็คสินะ" เดรโกพูดพลางมองขวดแก้วในมือเฮเลน "หมอนั่นทำหน้าแย่มากเลยตอนเอาขวดนั่นออกมายัดไว้ในมือของเธอ"
"ฉันจำได้ว่าเขาบอกว่าอยากให้เธอรู้" แฮร์รี่บอก "เรื่องทั้งหมดของเขา"
"หมอนั่นก็สุดยอดเลยนะ รู้ด้วยว่าเธอไม่ตาย" รอนพูดด้วยน้ำเสียงทึ่งเล็กน้อย "ทำเอาฉันรู้สึกผิดไปเลยตอนที่เธอบอกว่าหมอนั่นจะยอมช่วยเรา"
"ก็เธอสามคนเข้าใจผิดเรื่องของเขามาตั้งนานนี่" เฮอร์ไมโอนี่ยกยิ้มเล็กน้อยอย่างเศร้าศร้อย "ฉันรู้สึกว่าเขาจริงใจนะ -- ถึงเขาจะเป็นลูกชายของโวลเดอมอร์ก็ตาม"
"เขาอาจจะไม่ใช่ก็ได้" เฮเลนพูด "เขาบอกฉันว่าเขาทิ้งทุกอย่างไว้ในนี้ -- บางทีมันอาจจะมีความจริงทั้งหมดอยู่ด้วยก็ได้"
เฮเลนเดินไปหยิบอ่างเพนซิฟแล้วดึงมันมาไว้กลางโต๊ะ คนอื่นๆ เดินมาล้อมโต๊ะทันทีโดยไม่ต้องบอก เด็กสาวเทเส้นใยสีเงินนั้นลงไปในอ่างอย่างช้าๆ เฮเลนเขย่าสิ่งที่บรรจุอยู่ในเพนซิฟให้ไหลไปทางหนึ่งอย่างที่เธอเคยเห็นดัมเบิลดอร์ทำมาในครั้งก่อน ร่างของเด็กทารกคนหนึ่งหมุนตัวลอยขึ้นมาอย่างช้าๆ เหนือสารสีเงินที่หมุนวนอยู่ในเพนซิฟ ตัวเขาเป็นสีเงินเหมือนวิญญาณแต่ดูจับต้องได้มากกว่า ร่างของเขาแปลกประหลาด เขาเหมือนเมตามอร์ฟเมกัสแต่ทว่าไม่ใช่ เป็นอนิเมไจหรือเปล่าก็ไม่เชิง
เฮเลนก้มลงเหนือเพนซิฟ เลื่อนใบหน้าผ่านผิวเยือกเย็นของความทรงจำและแล้วเธอก็ตกผ่านความมืดลงไปข้างในนั้น อึดใจต่อมาเท้าของเธอก็แตะลงบนพื้นที่มั่นคงและเฮเลนก็พบว่าตัวเอง เดรโก แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่กำลังยืนอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ แห่งหนึ่ง บ้านหลังนี้ถูกตกแต่งด้วยลูกบอลสีทองประดับมากมายและหน้าเตาผิงมีต้นคริสมาสต์ต้นเล็กๆ ตั้งอยู่ เด็กชายคนนั้นถูกทิ้งไว้ให้นอนอยู่บนฟูกนุ่มๆ ข้างๆ กัน
"นี่บ้านของแท็คเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่กระซิบ น้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย "และนี่ก็คือความทรงจำของเขางั้นสินะ"
เฮเลนพยักหน้า เธอเดินเข้าไปหาเด็กชายที่นอนอยู่บนเปลนั้น เขากลายร่างไปมาอย่างรวดเร็วจนเฮเลนแทบไม่อยากเชื่อสายตา ร่างของเขากลายเป็นงูตัวเล็กๆ และเปลี่ยนกลับไปเป็นเด็กทารก เฮเลนไม่คิดเลยว่าเเท็คจะสามารถจำความรู้สึกสมัยยังเป็นทารกได้ มันน่าเหลือเชื่อมากเลยทีเดียว
เสียงตะโกนใส่กันทำให้เฮเลนสะดุ้ง มีใครบางคนกำลังโต้เถียงกันอยู่ไกลๆ ซึ่งไม่สามารถจับใจความได้ รอนดูเหมือนจะพยายามทำให้ตัวเองฟังคำพูดพวกนั้นออกเเต่เฮเลนไม่คิดว่าจะฟังรู้เรื่องเพราะยังไงทารกก็ยังไม่สามารถทำได้
ครู่หนึ่งฉากนั้นก็เลือนหายไปก่อนที่จะได้รู้ตัว ภาพใหม่ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ในบ้านหลังเดิมแต่กลับดูซอมซ่อยิ่งกว่าเดิม ขวดเครื่องดื่มหน้าตาประหลาดๆ กลิ้งอยู่เกลื่อนกลาดไปหมด เฮเลนเห็นแฮร์รี่ทำท่าอึ้งไปเล็กน้อย เขามองหาเด็กชายคนนั้นที่เดิมแต่กลับไม่เจอเขา
"เด็กคนนั้นไปไปไหนแล้วล่ะ" แฮร์รี่ถาม "เด็กคนนั้นคือแท็คใช่ไหม"
"ฉันคิดว่าน่าจะใช่" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ "ตอนนี้เราอยู่ในความทรงจำของเขา เด็กคนนั้นคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากแท็ค -- แต่ว่าฉันมีเรื่องสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง ทำไมเขาถึงเปลี่ยนร่างไปมาแบบนั้นนะ"
"มันอาจจะเป็นเรื่องผิดพลาดในวัยเด็กของเขาก็ได้" รอนว่า "แต่เดี๋ยวนะ -- เขาเป็นลูกของโวลเดอมอร์ไม่ใช่เหรอ โวลเดอมอร์ไม่น่าจะ..."
เสียงโครมใหญ่หยุดคำพูดของรอนเอาไว้แค่นั้น เฮเลนหันหน้าไปตามเสียงก่อนจะเห็นร่างของเด็กชายวัยประมาณหกขวบล้มกลิ้งลงมาจากบันได ดูท่าว่าจะตกลงมาแรงเสียด้วย เด็กชายคนนั้น -- ซึ่งคาดว่าจะเป็นแท็ค -- ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ดูเหมือนเขาจะไม่ได้กลายเป็นงูอยู่ตลอดเวลาแล้ว แท็คเดินอาดๆ มานั่งลงหน้าเตาผิง อีกพักหนึ่งก็มีชายร่างใหญ่เดินลงตามลงมา ใบหน้าของเขาช่างเย็นชาและไร้ความรู้สึก เรือนผมสีเข้มนั้นขับให้ใบหน้าของเขาดูดุดันยิ่งขึ้น บางทีเขาอาจจะเป็นพ่อของแท็ค
'ไม่กลายเป็นงูแล้วหรือ' เสียงของเขาเย็นชาอย่างน่าหวาดกลัว เฮเลนเลื่อนมือไปจับมือเดรโกเอาไว้แน่น 'กลายร่างอีกสิไอ้เด็กเหลือขอ กลายร่างแล้วหนีไปเหมือนแม่ของแก!'
แท็คส่ายหน้า ตามร่างกายของเขาเขียวช้ำ ร่างผอมบางจนเกือบเห็นแต่กระดูก ดวงตาสีเข้มส่อแววเจ็บปวดและแสนเศร้า แต่น่าแปลกที่แววตาของเขาปราศจากความโกรธเคือง เคียดแค้น หรือแม้แต่ความเกลียดชังเลยแม้แต่นิดเดียว เห็นได้ชัดว่าแท็ครักชายคนนี้มากเกินกว่าจะรู้สึกโกรธหรือเกลียดชัง อย่างมากที่สุดเขาก็คงจะเเค่รู้สึกผิดหวังและน้อยใจเท่านั้น
'ผมจะไปทำการบ้าน' เขาพูดเสียงแผ่วเบาและลุกขึ้นยืน 'ผมมีการบ้านที่ยังไม่ได้ทำครับ'
'แกไม่อยากเห็นหน้าฉันล่ะสิ ไอ้ลูกหมา!' พ่อของแท็คคำราม 'ไป! จะไสหัวไปไหนก็ไป เรื่องของแก!'
เด็กชายวิ่งตึงตังขึ้นไปบนชั้นสอง พ่อของแท็คเดินไปหยิบเครื่องดื่มที่เฮเลนแน่ใจว่ามันคงเป็นเครื่องดื่มที่ไม่เหมาะสำหรับเด็กแน่ๆ ออกมาดื่มและนั่งลงบนโซฟาหน้าเตาผิง เฮเลนหันไปพยักหน้าให้เดรโกและคนอื่นๆ ก่อนจะเดินนำหน้าขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน บรรยากาศรอบบ้านดูเงียบเหงาและเคว้งคว้างไม่น่าอยู่ สำหรับเด็กอายุหกขวบแล้วมันไม่ใช่สภาพการเลี้ยงดูที่ดีเลย
เสียงร้องไห้เบาๆ ดังมาจากในห้องหนึ่งด้านบน เศษแก้วแตกกระจายเกลื่อนกลาดบอกได้เป็นอย่างดีว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงคร่ำครวญของแท็คทำให้เฮเลนรู้สึกเหมือนถูกเข็มสักล้านเล่มแทงเข้าไปในใจ มันทรมานเสียเหลือเกิน
"เขาเจ็บตัว เจ็บใจ" รอนว่า "ฉันแปลกใจมากที่เขาไม่ฆ่าหมอนั่นทิ้งไปซะ"
"รอน!" เฮอร์ไมโอนี่ตีแขนเขา
"เพราะเขารักน่ะสิ" เฮเลนว่า "เพราะเขารักคนที่ทำร้ายเขา -- เพราะเขารัก ถึงไม่รู้สึกโกรธเคืองหรือแค้นเลยไงล่ะ"
"ฉันว่าฉันเข้าใจความรู้สึกพวกนั้นนะ ถึงมันจะแตกต่างกันอยู่บ้างก็เถอะ" แฮร์รี่บอกพลางเม้มริมฝีปาก
เงียบกันไปครู่หนึ่ง แล้วภาพทั้งหมดก็แปรเปลี่ยนไปอีกครั้งกลายเป็นภาพป่าสีเขียวขจีและกว้างขวาง เดรโกสะดุ้งเฮือกเมื่อมีงูตัวหนึ่งเลื้อยผ่านพวกเขาไป พวกเขาเดินตามงูตัวนั้นไปเรื่อยๆ เฮเลนแน่ใจว่ามันคือแท็ค ไม่ว่ายังไงก็ตามมันเหมือนกับงูตัวที่กระโจนเข้าใส่นากินีมาก นอกจากนั้นมันยังเหมือนกับงูตัวแรกที่แท็คกลายร่างไปเป็นอีกต่างหาก
พวกเขาหยุดเมื่องูตัวนั้นเลื้อยมาถึงบ้านหลังเดิม มันซอมซ่อและเหมือนถูกทิ้งร้าง ไม้ที่เคยสวยงามบัดนี้กลายเป็นเพียงไม้เก่าๆ แห้งๆ ซึ่งสามารถกลายเป็นชนวนเพลิงไหม้ได้ตลอดเวลา หลังคาบ้านที่มุงอย่างดีมีรอยแตกหัก บนนั้นเต็มไปด้วยใบไม้แห้งและเศษดินและหิน ประตูหน้าต่างเอียงกระเท่เร่ โดยรวมแล้วเหมือนจะกลายเป็นบ้านร้างอย่างสมบูรณ์แบบ เฮเลนเห็นแท็คเลื้อยเข้าไปในบ้านจึงไม่รอช้าที่จะเดินตามเข้าไป
เขากลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง แท็คชูมือที่มีเกล็ดงูขึ้นอยู่เล็กน้อยมาดูพลางถอนหายใจเบาๆ เด็กชายถือตัวอะไรสักอย่างเอาไว้และเดินลิ่วเข้าไปในห้องครัว เฮเลน เดรโก แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่เดินตามเข้าไป เฮเลนพบว่าแท็คกำลังถอนขนไก่ป่าอยู่ในอ่างล้างมือ สภาพห้องครัวไม่ต่างจากส่วนอื่นเท่าไหร่นัก ผุพังและเต็มไปด้วยหยากไย่ เฮเลนแน่ใจว่าแท็คไม่รู้วิธีที่จะทำความสะอาดหรือบางทีเขาอาจจะมีสัญชาตญาณความเป็นงูมากกว่าที่เห็น จึงออกไปล่าสัตว์ข้างนอกเข้ามาในบ้าน
ภาพในห้องครัวถูกลบไป เปลี่ยนไปเป็นป่าอีกครั้ง คราวนี้มันมืดและครึ้มมากกว่าเดิม
"นั่นเขาใช่ไหม!" รอนร้องขึ้นอย่างตกใจ เขาชี้ไปที่งูตัวหนึ่งที่นอนราบอยู่บนพื้นหญ้า ตามร่างกายมีรอยแผลเหวอะจนไม่อาจคิดเลยว่าถ้ากลายสภาพกลับมาเป็นมนุษย์จะเป็นอย่างไร "เขาไปโดนอะไรมาน่ะ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น"
"บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องที่นายคงไม่อาจจินตนาการเลยก็ได้" เดรโกพูดท่าทางผวาเล็กน้อย
"ฉันก็คิดแบบนั้น" เฮอร์ไมโอนี่เสริมพลางเดินเข้าไปกอดแขนรอนเอาไว้เบาๆ
เฮเลนจุ๊ปากให้พวกเขาเงียบระหว่างที่ความทรงจำของแท็คกำลังไหลไปเรื่อยๆ เพื่อบอกเรื่องราวของตนแก่พวกเขาให้ได้รับรู้ ร่างของงูตัวนั้นนอนแน่นิ่งอย่างสิ้นหวัง โดยรอบนี้ไม่มีคน พ่อมด แม่มดหรือสิ่งมีชีวิตใดๆ เลยแม้แต่สิ่งเดียว ที่เฮเลนเห็นตอนนี้คือป่าและกอหญ้าสูงรกร้าง แท็คพยายามเลื้อยออกไปจากพงหญ้าสูงแห่งนี้แต่ตัวเขานั้นอ่อนแรงเกินกว่าจะทำแบบนั้นได้
ร่างกายของแท็คกลับคืนเป็นมนุษย์ เขาไม่มีแม้แต่เสียงร้องออกมาจากริมฝีปาก บนร่างกายเต็มไปด้วยรอยบาดแผลฉกรรจ์จนน่าตกใจ เลือดสีแดงสดไหลออกมาตามรอยแผลพวกนั้นจนน่ากลัวราวกับว่าเขาจะตายไปในอีกไม่กี่วินาที ดูเหมือนว่าช่วงเวลาจะไม่ได้ผ่านมาจากครั้งที่แล้วมากนัก เพราะเขาดูไม่ได้เติบโตขึ้นเลยแม้แต่น้อย เฮเลนดึงแขนเดรโกให้เดินตามแท็คไปอย่างช้าๆ เมื่อเขาพยายามที่จะใช้ร่างมนุษย์นั้นคลานออกไปจากพงหญ้า
'นั่น! มีคนอยู่ตรงนั้น' เสียงของใครบางคนกรีดร้องพร้อมกับร่างสี่ห้าร่างวิ่งห้อเข้ามายังเขา หญิงสาวที่เข้ามาเป็นคนแรกมีสีหน้าวิตกกังวลทันทีที่พบเขา ชายสองสามคนที่วิ่งตามมาถึงกับผงะไป
'เขาบาดเจ็บ' หญิงสาวพูด 'แต่เขายังไม่ตาย -- ได้โปรด -- ช่วยเขาที'
'พาเขาเข้าไปในหมู่บ้าน -- เร็วเข้า!' หนึ่งในชายกลุ่มนั้นพูดขึ้นแล้วแท็คก็ถูกหามออกไปจากตรงนั้น
ภาพทั้งมวลหมุนวนไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ครู่เดียวที่ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังสับสนว่าความทรงจำที่กำลังจะเห็นถัดไปจากนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ราวๆ หนึ่งนาทีภาพก็ปรากฏขึ้น พวกเขากำลังยืนอยู่ในบ้านเล็กๆ แคบๆ หลังหนึ่ง แสงสีส้มทองจากเตาผิงส่องสว่างไปทั่วบ้าน มีเทียนไขถูกตั้งวางเอาไว้โดยรอบเพื่อให้แสงสว่าง บรรยากาศในบ้านดูอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกราวกับไฟในเตาผิงกำลังให้ความอบอุ่นเธออยู่ด้วยยังไงอย่างนั้น
เฮเลนเห็นร่างของเด็กชายสวมเสื้อสเว็ตเตอร์ตัวหนากำลังนั่งทานคุกกี้อยู่หน้าเตาผิง แท็คดูโตขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้เขาคงมีอายุราวๆ แปดขวบเห็นจะได้ ใบหน้าของเขาดูสดใสผิดจากตอนที่อยู่ในบ้านหลังเก่าอย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือ เขานั่งอยู่บนฟูกเก่าๆ ไม่เหมือนครั้งที่ยังเป็นทารก ร่างเล็กๆ ดูมีเนื้อมีหนังขึ้นเล็กน้อยแต่ที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความสดใสและความสุขอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
'แท็ค นั่งอยู่หน้าเตาผิงเหรอลูก' เสียงหวานๆ ดังขึ้นมาจากชั้นบน 'หิวหรือยัง ทานคุกกี้หมดกระปุกแล้วหรือเปล่านั่น'
'เปล่าครับ' เด็กชายตอบเสียงสดใส ยัดคุกกี้ชิ้นที่กัดไปได้เพียงครึ่งเดียวกลับลงไปในโหลแก้ว 'ผมกำลังรอคุณแม่มาทำอาหารเย็นอยู่เลยครับ'
เฮเลนและเดรโกมองหน้ากันเล็กน้อย แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่มีทีท่าตกใจและงงงวย เกิดอะไรขึ้นในระหว่างนั้นกัน หรือว่าแท็คถูกคาถาเปลี่ยนความทรงจำกันแน่
'พอได้เรียกแม่ล่ะเรียกใหญ่เลยนะ' หญิงสาวเรือนผมสีแดงยาวตรงถึงกลางหลัง ใบหน้าหวานๆ กับดวงตาสีเขียวมรกตนั้นทำให้ทุกคนตะลึง เธอคือหญิงสาวที่เข้าไปช่วยแท็คในตอนนั้น แถมในตอนนี้เมื่อเห็นหน้าของเธอชัดๆ แล้วยิ่งทำให้เฮเลนตกใจ 'ตอนแรกยังเรียกแต่ อลิซๆ อยู่เลย'
'อลิซาเบ็ธ แม็คมาเวลล์' แท็คยิ้มร่า วางโหลคุกกี้ลงบนฟูกและวิ่งไปหาหญิงสาว เขาสวมกอดเธอด้วยความรักเต็มเปี่ยม 'ส่วนผมก็ชื่อแท็ค อาเรนเดล แม็คมาเวลล์ไงครับ'
อลิซาเบ็ธหัวเราะ
'เอาชื่อคุณพ่อมาใส่เหรอครับ' อลิซาเบ็ธถามเสียงสดใส แท็คพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
'คุณพ่อเก่งที่สุด ผมจะรอคุณพ่อกลับมาบ้านครับ แล้วจะอวดชื่อผมด้วย'
'คุณพ่อจะต้องชอบมากแน่ๆ จ้ะ' อลิซาเบ็ธยิ้ม 'เอาล่ะ เดี๋ยวแม่ไปทำอาหารในครัวก่อนนะ แล้วเรามารอคุณพ่อด้วยกันนะครับ'
แท็คยิ้มร่าและวิ่งกลับไปอยู่กับโหลคุกกี้หน้าเตาผิงอีกครั้งเมื่ออลิซาเบ็ธเดินหายเข้าไปในห้องครัว
'แล้วอย่าทานคุกกี้หมดโหลเสียก่อนล่ะลูก' เธอตะโกนออกมาในขณะที่แท็คกำลังคว้าคุกกี้ชิ้นเดิมออกมาจากโหล เด็กชายปล่อยมันกลับลงไปและรีบปิดฝาโหลแก้วทันที
ภาพแห่งความสุขนั้นค่อยๆ เลือนหายไป พวกเขาหันหน้าเข้าหากันพร้อมประเด็นของเรื่องราวนี้ทันที
"หมายความว่าผู้หญิงที่ชื่ออลิซาเบ็ธเก็บแท็คมาเลี้ยงงั้นเหรอ" รอนถามอย่างรวดเร็ว
"ฉันก็ว่าอย่างนั้น" แฮร์รี่พูด
"แสดงว่าคนที่ชื่ออาเรนเดลนั่นก็คงจะเป็นสามีของอลิซาเบ็ธงั้นสิ" เฮอร์ไมโอนี่วิเคราะห์ "งั้นชื่อของเขาก็มาจากสองคนนี้ แล้วเขามาอยู่กับครอบครัวของญาติฉันได้ยังไงกัน ที่จริงฉันรู้จักเขาครั้งแรกตอนอายุสิบเอ็ด ตอนนั้นอยู่ๆ เขาก็โผล่มา"
"มันก็คงจะมีเฉลยหลังจากนี้นั่นแหละนะ" เฮเลนว่า "เรามารอดูต่อไปเถอะ"
"ฉันหวังเหลือเกินว่าชีวิตหมอนั่นจะไม่เลวร้ายไปมากกว่านี้" เดรโกถอนหายใจ เขากระชับมือที่จับเฮเลนแน่นขึ้นและหลับตาลงครู่หนึ่งเมื่อภาพความทรงจำของแท็คกลับมาอีกครั้ง
ตอนนี้พวกเขายืนอยู่บนทุ่งหญ้าสีเขียวขจีบนเนินเขา
แท็คกำลังวิ่งเล่นอยู่ที่นั่นพร้อมอลิซาเบ็ธและชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
'ผมเหนื่อยแล้วครับ' แท็คร้องบอกเมื่อวิ่งวนรอบตอไม้ต้นใหญ่แล้ววิ่งกลับมาหาอลิซาเบ็ธ เขานอนลงเอาศีรษะหนุนตักอลิซาเบ็ธ หญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนโยนและลูบผมเขาไปมาเบาๆ 'ขอนอนได้ไหมครับ คุณแม่'
'ได้สิจ๊ะพ่อหนุ่มน้อย' อลิซาเบ็ธตอบ ในวินาทีนั้นเฮเลนมองเห็นอะไรบางอย่างในแววตาใสซื่อของแท็ค
ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นพุ่งขึ้นมาในนั้น แท็คค่อยๆ หลับตาลงอย่างเชื่องช้า
และเฮเลนรู้ดีว่าเขาไม่ได้หลับอย่างแน่นอน
จนกระทั่งพวกเขาปล่อยให้เวลาผ่านไปครู่หนึ่งจึงเริ่มเอ่ยปากพูด
'เขาหลับหรือยัง' ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน อลิซาเบ็ธพยักหน้ารับเบาๆ อาเรนเดลถอนหายใจ และพูดต่อ 'เราจะทำยังไงต่อไปดีนะ การกวาดล้างเริ่มเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ แล้วด้วยสิ – เราคงต้องย้ายที่อยู่กันแล้ว – ที่นี่คงไม่ปลอดภัยอีกต่อไปสำหรับเรา'
'แล้วแท็คล่ะ' อลิซาเบ็ธตอบ 'เขาปลอดภัยถ้าเกิดว่าอยู่ที่นี่ เขาเป็นโนแมจนะ – อย่าลืมเรื่องนี้สิ'
อาเรนเดลเงียบไป
คำว่าโนแมจทำให้พวกเขางุนงงว่ามันหมายความว่าอะไร เฮเลนหันไปมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่
เธอพยักหน้าและรียกระซิบบอกว่า “พวกเขาหมายถึง มักเกิ้ล – ฉันหมายความว่า โนแมจ
ก็คือ มักเกิ้ล แต่คำว่าโนแมจเอาไว้ใช้เรียกในแถบอเมริกาเท่านั้น”
“งันแสดงว่าตอนนี้แท็คก็อยู่ในอเมริกางั้นสิ”
รอนว่า “แล้วทำไมเขาถึงไปเรียนที่ฮอกวอตส์ได้ล่ะ”
“รอดูต่อไปดีกว่านะ”
เฮเลนพูด
พวกเขาหันกลับไปสนใจความทรงจำอีกครั้ง แต่มันก็ทำให้พวกเขาพลาดบางคำพูดของอลิซาเบ็ธกับอาเรนเดลไป แต่มันไม่ยากเลยที่จะปะติดปะต่อว่าพวกเขากำลังคุยเรื่องอะไรกัน แน่นนอนว่าเฮเลนรู้ว่าในช่วงนี้แถบอเมริกาเหนือกำลังอยู่ในช่วงการขับไล่สเคาเรอร์และสืบหาความจริงพร้อมกับช่วงที่เกิดการล่าแม่มดขึ้นมา ทำให้ผู้วิเศษที่อยู่ในอเมริกาต้องหลบซ่อนตัวและย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ
'เขาเห็นว่าฉันเป็นแม่
อาเรน!' อลิซาเบ็ธขึ้นเสียงอย่างลืมตัว นั่นทำให้พวกเขาสะดุ้ง แต่อาเรนเดลกลับดูท่าไม่สะทกสะท้านอะไรเลย 'ฉันเลี้ยงเขามาตั้งแต่พบเขาครั้งแรกที่ชายป่านั่น – เขารักฉัน
แล้วเขาก็รักคุณด้วย คุณไม่ควรทำแบบนั้น – คุณไม่ควรทิ้งเขา!'
'แต่เราจะอยู่ที่นี่นานกว่านี้ไม่ได้' อาเรนเดลว่า 'ถ้าวันหนึ่งพวกมันรู้ว่าเราเป็นผู้วิเศษ มันต้องหาทางกำจัดเราแน่'
'งั้นเราจะพาเขาไปด้วย' อลิซาเบ็ธยังคงดื้อดึง ดูท่าเธอจะไม่ต้องการทิ้งแท็คเอาไว้ที่นี่โดยที่ไม่รู้เลยว่าเด็กชายนั้นไม่ได้นอนหลับ
แต่ฟังพวกเขาพูดอยู่ตลอดเวลา 'ไม่ว่าคุณจะว่ายังไงก็ตาม ฉันจะพาเขาไป – ฉันรักเขา
ฉันจะพาเขาไปด้วย'
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น