ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #82 : บทที่ 8 จุดเปลี่ยน

    • อัปเดตล่าสุด 19 ม.ค. 65


    บทที่ 8 จุดเปลี่ยน


     “คุณคือ...”

    “ฉันว่าเรามาทำอาหารกันดีไหม” เธอพูดแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน มือเรียวเอื้อมมาจับบ่าเฮเลนเบาๆ สัมผัสนั้นคุ้นเคยและอบอุ่น เธอดันหลังเฮเลนให้หันไปทางเตาแก๊สที่เธอแทบไม่เคยแตะมันเลย “บางทีเราน่าจะทำทาร์ตน้ำตาลข้นอย่างที่ลูกชอบนะ”

    “เดี๋ยวค่ะ!” เฮเลนร้องขึ้น ทำให้เธอชะงักไป “คุณ – คุณคงไม่ใช่เธอใช่ไหม – ”

    “ทำไมจะต้องไม่ใช่ล่ะจ๊ะ” เธอยิ้ม พลางหยิบถ้วยใบใหญ่มาถือเอาไว้ก่อนจะก้มลงไปหยิบแป้งพายที่เฮเลนไม่รู้ว่ามีตั้งแต่เมื่อไหร่ออกมาจากตู้ “ทำไมถึงคิดว่าฉันจะไม่ใช่ล่ะ”

    “เพราะว่าคุณ – ”

    “ตายแล้ว” เธอเติมประโยคนั้นก่อนเฮเลนจะพูดจบ “ใช่ – ไม่ว่าจะโลกนั้นหรือโลกนี้ฉันก็ตายไปแล้ว – ฉันไม่ได้อยู่ดูแลพวกเธอเหมือนกันนั่นแหละ”

    “พวกเธอ?” เฮเลนทวนคำ “หรือคุณหมายความว่าหนูมี...”

    “มีอยู่แล้วล่ะ” เธอผสมแป้งลงในถ้วย “แต่แค่ทั้งสองคนยังไม่เจอกัน”

    “แต่ว่า – หนูยังมีเรื่องสงสัยอยู่อีกมากมาย” เฮเลนอึกอัก สมองปั่นป่วนไปหมดตั้งแต่พบเธอ “ทั้งเรื่องทำไมหนูยังอยู่ตรงนี้ ทั้งเรื่องทำไมเฮเลน พอตเตอร์ถึงตาย ทำไมคุณถึงได้อยู่ที่นี่ – แล้วทำไมผู้พิทักษ์ของเขาถึง...”

    เธอวางมือลงจากถ้วยแล้วยิ้ม หันมามองใบหน้าของเธอเลนด้วยสายตาอบอุ่นและคุ้นเคย

    “เรียกฉันว่า คุณแม่ เสียทีเถอะ เฮเลน”

    เด็กสาวสะดุ้ง เธอหลุบตาลงมองพื้นไม่กล้าสบตาแม่ ใช่แล้ว... เธอคนนี้คือลิลี่ พอตเตอร์ ครั้งแรกที่เห็นเธอ เฮเลนนึกถึงชื่อนี้ขึ้นมาทันที

    “คือว่า...”

    “ไม่ว่าจะโลกไหนฉันก็เป็นแม่ของเธอ” ลิลี่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เอาล่ะ – เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่านะ”

    ลิลี่ดึงเฮเลนให้นั่งลงที่โต๊ะและหันหน้ามามองเธอ รอยยิ้มอบอุ่นฉาบอยู่บนใบหน้า เฮเลนไม่เคยเห็นใบหน้าแม่ที่แท้จริงของตัวเองมาตั้งแต่แรกดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าตัวเองควรทำสีหน้าอย่างไรในตอนนี้

    “ตอนนี้ลูกอยากรู้เรื่องอะไรงั้นเหรอ”

    “หลายเรื่องเลยค่ะ” เฮเลนตอบ “หนูเป็นใครกันแน่”

    ลิลี่เงียบไปอย่างใช้ความคิด ใบหน้าสวยนั้นเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยก่อนเอ่ยตอบ

    “ลูกคือเฮเลน พอตเตอร์” เธอตอบ “ไม่ว่าโลกไหนลูกก็คือเฮเลน พอตเตอร์ ไม่ว่าจะโลกที่ไม่มีเวทมนตร์หรือมีเวทมนตร์ก็ตาม – และที่สำคัญ – ลูกก็เป็นลูกของแม่อยู่ในทุกๆ โลก”

    “หนูไม่เข้าใจ”

    “ถ้าจริงๆ ลูกไม่ได้นามสกุลวินเทอร์มาตั้งแต่แรกล่ะ” ลิลี่พูดพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าที่จริงลูกไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่เพียงลำพังในบ้านหลังนี้ล่ะเฮเลน – บางทีอาจจะมีพี่น้องของลูกอยู่ในอีกที่หนึ่ง หรือเขาอาจจะยังหาลูกไม่เจอก็ได้ – แต่แน่นอน – เขารู้ว่าเขามีลูกเป็นน้องสาว”

    “ทำไมคุณแม่พูดอะไรงงจัง” เฮเลนขมวดคิ้ว “หนูไม่เข้าใจเลย”

    ลิลี่หัวเราะ เธอยิ้มอย่างมีความสุขและรอยยิ้มนั้นช่างสว่างและสดใสราวกับพระอาทิตย์ยามเช้าเสียเหลือเกิน

    “เดี๋ยวลูกก็จะเข้าใจ” ลิลี่ยิ้มแป้น  

    เฮเลนปล่อยเวลาให้ผ่านไปครู่หนึ่งราวกับว่าต้องการให้ลิลี่อธิบายอะไรให้มากกว่านี้ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เฮเลนจึงคิดว่าได้เวลาเอ่ยถามคำถามข้อต่อไปของเธอแล้ว

    "แล้วทำไมเฮเลนอีกคนหนึ่งถึงตายไปล่ะคะ" 

    ลิลี่เงียบไปอีกครู่หนึ่ง เธอทำท่าทางเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่อธิบายออกมาได้ยาก

    "ที่จริงแม่คิดว่าลูกรู้อยู่แล้วนะ" เธอบอก "แฮร์รี่บอกว่าเขาไม่ได้เลือดของลูกไปถูกไหม"

    "ค่ะ ตรงนั้นหนูเข้าใจดี แต่ว่าเขาก็มาได้มันไปที่หลังไม่ใช่เหรอคะ" เฮเลนว่า "แล้วเขาก็ยังได้เลือดแฮร์รี่ไปแล้วด้วย ฝาแฝดก็เหมือนคนเดียวกัน เธอ  หรือหนูเองนั่นแหละ  ไม่น่าตายไม่ใช่เหรอคะ"

    "มันอาจจะค่อนข้างยากสำหรับลูกที่รับฟัง..." ลิลี่พูด "ลูกกับแฮร์รี่เป็นฮอร์ครักซ์อันที่เจ็ดแต่ลูกไม่ใช่ผู้ที่ถูกเลือก... ที่แม่จะอธิบายก็คือ ครั้งนั้นที่ลูกบอกว่าเขาเอาเลือดของลูกไปที่หลัง มันไม่ได้หมายความว่าเลือดของลูกได้เข้าไปไหลเวียนในตัวเขา และลูกรู้อยู่แล้วว่าลูกจะต้องตาย ถูกไหม"

    "ใช่ หนูรู้" เฮเลนตอบ "แต่หนูก็ยังไม่เข้าใจ อะไร  ทำไม ยังไง  โอ๊ย  หนูกำลังจะเป็นบ้า"

    "ลูกจะต้องเป็นบ้าแน่ถ้าไม่รีบเลือก" ลิลี่หัวเราะ 

    "เลือกอะไรคะ" เฮเลนขมวดคิ้ว "หนูตายแล้ว หนูยังจะต้องเลือกอะไรอีกเหรอคะ"

    "ลูกเป็นเด็กฉลาดนะเฮเลน" เธอยิ้ม "ลูกน่าจะเข้าใจนะว่าแม่หมายถึงอะไร"

    "หนูเข้าใจค่ะ แต่  " เฮเลนชะงักไปชั่วขณะ "แม่หมายความว่าหนูเลือกได้เหรอคะว่าจะไม่ตาย  เหมือนแฮร์รี่  ใช่ไหมคะ"

    "มันก็ไม่เชิงนะ" ลิลี่ทำท่ากระอักกระอ่วนใจ "แต่ลูกแค่ต้องเลือกว่าลูกคนไหนจะต้องตาย"

    "แม่หมายความว่ายังไง"

    "ถ้าหากลูกอยากจะอยู่ในบ้านหลังนี้  " ลิลี่มองไปรอบบ้านด้วยแววตาเศร้าศร้อย "ลูกที่อยู่ในโลกเวทมนตร์จะต้องตาย"

    เฮเลนนิ่งไปราวกับถูกไฟฟ้าชอต ถ้าหากเธอไม่ได้ผจญภัยมากับพวกเขาถึงสามปีเกือบสี่ปี เธอคงจะตัดสินใจได้ง่ายกว่านี้ ไม่สิ  ที่จริงเธอตัดสินใจง่ายอยู่แล้ว เธอมีเหตุผลที่เธอไม่อยากจะอยู่ที่นี่ เธอเกลียดที่นี่ เกลียดความเหงา เกลียดที่จะต้องอยู่ลำพัง เกลียดความเงียบที่เสียดแทงหัวใจ เกลียดที่ต้องอยู่คนเดียว...

    "แต่ถ้าลูกเลือกโลกเวทมนตร์ ลูกที่อยู่ที่นี่ต้องตาย" ลิลี่พูดต่อ "แต่ลูกอย่าลืมนะว่าความจริงในโลกที่ไร้เวทมนตร์ใบนี้ลูกก็ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง"

    เฮเลนยังคงชั่งใจ ถ้าหากว่าคนที่เธอรอคอยในโลกไร้เวทมนตร์ใบนี้คือแฮร์รี่ พี่ชายฝาแฝดคนเดียวที่กำลังตามหาเธออยู่ แล้วเขาพบว่าเธอตายไปแล้วล่ะ  

    "ทุกทางเลือกต้องพบความเจ็บปวด" ลิลี่พูดเมื่อเฮเลนไม่ยอมตอบอะไร "ลูกจะต้องเข้มแข็ง  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ลูกจะไม่ได้ยืนอยู่เพียงลำพัง"

    มือเรียวเลื่อนมาจับมือเฮเลนเอาไว้ ความรู้สึกอบอุ่นถูกส่งผ่านมือนั้นเข้ามา มันเป็นความอบอุ่นที่เฮเลนไม่เคยได้รับจากใครๆ มันไม่เหมือนกับเดรโก ไม่เหมือนกับแฮร์รี่ มันอบอุ่นและปลอดภัย...

    เด็กสาวพยักหน้าและกุมมือของลิลี่ตอบ 

    "หนู  หนูจะกลับไปที่โลกเวทมนตร์" เฮเลนท่าทีอึกอักเล็กน้อย "พอดีมันมีอีกหลายเรื่องที่หนูยังไม่เคลียร์"

    "เรื่องที่ยังไม่เคลียร์หมายถึงเรื่องของ – "

    "ไม่ใช่ค่ะ!" เฮเลนร้องทันควัน เธอรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมานาน "หนูไม่ได้ติดใจเรื่องเดรโกเลยนะคะ ไม่เลยสักนิดเดียวเลยค่ะ!"

    ลิลี่หัวเราะ

    "แม่หมายถึงแท็คต่างหากล่ะ" เธอยิ้ม "แท็คทิ้งบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ให้ลูกเพราะเขาเชื่อว่าลูกจะยังไม่ตาย"

    "แต่เขาตายแล้ว" เฮเลนพูดเสียงเบา "ใช่ไหมคะ"

    ลิลี่เม้มปากและพยักหน้าเบาๆ "ใช่จ้ะ – "

    เงียบงันกันไปครู่หนึ่ง

    "คุณแม่อยากให้หนูกลับไปหรือเปล่าคะ"

    "แม่คิดว่า" ลิลี่พูด "ถ้าลูกเลือกกลับไป ลูกก็มีเรื่องให้กลัวน้อยกว่าอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะโลกที่มีเวทมนตร์หรือไม่มีเวลทมนตร์ก็ตาม"

    เฮเลนชำเลืองมองประตูที่คาดว่าแท็คน่าจะยืนพิงมันอยู่ด้านนอก

    "อย่างสงสารคนตายเลยนะเฮเลน" ลิลี่พูด "ดัมเบิลดอร์เคยบอกไม่ใช่เหรอ สงสารคนที่มีชีวิตอยู่เถอะ โดยเฉพาะคนที่มีชีวิตอยู่โดยปราศจากความรัก – ถ้าลูกกลับไป มันอาจจะมีอะไรดีดีมากกว่าที่ลูกคิดก็ได้"

    เฮเลนพยักหน้าและถอนหายใจ การกลับไปที่นั่นอาจไม่ยากเท่าตอนที่เดินเข้าไปในป่าต้องห้ามกับแฮกริด เธอกำลังจะเดินไปหาความเจ็บปวดและการสูญเสีย 

    "ลูกอยากจะคุยกับแท็คอีกสักครั้งไหม"

    เฮเลนพยักหน้า โดยไม่ต้องรอเสียงเรียก เจ้าของชื่อก็เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม

    "ผมว่ามีไม่กี่เรื่องหรอกที่คุณอยากจะคุยกับผม" แท็คพูดแล้วเดินเข้ามาใกล้ๆ เฮเลน ดวงตาของทั้งคู่ประสานกัน "ผมอยากจะบอกคุณว่าผมทิ้งทุกอย่างเอาไว้ในมือของคุณแล้ว บางทีคุณอาจจะได้รู้ว่ามันคืออะไรก็ตอนที่เข้าไปในห้องทำงานของดัมเบิลดอร์"

    "แล้วนายจะไปต่อเหมือนดัมเบิลดอร์ไหม" เฮเลนถาม

    "ผมบอกแล้วไงว่าผมยังไม่ไปต่อจนกว่าจะถึงเวลา" แท็คตอบและยังคงยิ้มอยู่ "ผมว่าเราไปส่งเฮเลนที่ห้องข้างบนกันเถอะครับ"

    ลิลี่พยักหน้ารับ ทั้งคู่เดินจูงมือเธอกลับไปที่ห้องนอน ผ่านสิ่งนั้นที่ยังร้องครวญครางอยู่หน้าทางเข้าและขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นสอง พวกเขาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนของเธอ

    "ช่วยบอกอีกสักเรื่องได้ไหม" เฮเลนถามขึ้นก่อนจะเปิดประตูเข้าไป "นี่เป็นเรื่องจริงหรือความฝันกันแน่"

    "ถ้าหากมันจะเป็นความฝัน" แท็คเลื่อนตัวเข้ามากระซิบที่ข้างใบหูของเธอ "แล้วทำไมมันถึงจะต้องไม่จริงด้วยล่ะครับ"



    "ผมคือ... นายที่แท้จริงของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์"

    เฮเลนกำลังนอนหงายอยู่บนอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่มจนน่าแปลกใจ ในมือกำลังกำขวดอะไรบางอย่างเอาไว้อย่างแน่นหนา เฮเลนปรือตาขึ้นมองแสงสีแดงทองฉายขึ้นบนเพดานมนตราเบื้องบน ดวงอาทิตย์อันเจิดจ้าปรากฏขึ้นที่ขอบหน้าต่างที่ใกล้ที่สุด แสงนั้นสาดต้องใบหน้าของคนสองคนที่กำลังยืนประจันหน้ากันอยู่กลางห้องโถง

    "อะวาดา เคดาฟ-รา"

    "เอกซ์เปลลิอาร์มัส"

    เสียงกระทบกันดังสนั่นเหมือนปืนใหญ่ เปลวเพลิงสีเหลืองทองระเบิดออกมาระหว่างคนทั้งสอง ตรงจุดศูนย์กลางของวงกลมที่พวกเขาเดินย่ำ เป็นเครื่องหมายแสดงตำแหน่งที่คาถาทั้งสองปะทะกัน เฮเลนเหลือบตาขึ้นมองและพบว่าตัวเองกำลังนอนหนุนตักเดรโกอยู่โดยมีสเนปนั่งอยู่ด้านข้าง เขาลูบผมร่างที่นอนอยู่บนพื้นใบหน้าซีดเซียวและมีเลือดไหลอาบอยู่บนคอ

    สุดท้าย แฮร์รี่ก็ชิงไม้กายสิทธิ์มาจากโวลเดอมอร์ได้ แฮร์รี่ยื่นมือขวาออกไปรับมันมาไว้ในมือได้อย่างแม่นยำ โวลเดอมอร์หงายหลัง แขนกาง ตาเหลือก ทอม ริดเดิ้ลล้มกระแทกพื้น  สิ้นสุดไม่ต่างจากปุถุชนคนหนึ่ง ร่างของเขาปวกเปียกและหดเหี่ยว มือสีขาวว่างเปล่า โวลเดอมอร์ตายแล้ว เขาถูกคาถาของตัวเองตีกลับ เฮเลนยันตัวลุกขึ้นจากพื้น สร้างความแตกตื่นให้กับคนรอบข้างอย่างมาก

    "เฮเลน!" เดรโกร้องอย่างตกใจ "เธอยังไม่ตาย!"

    เฮเลนยกมือข้างซ้ายขึ้นมาดู พบว่ามันคือขวดที่บรรจุของเหลวสีเงินขุ่นเป็นประกายลอยวนอยู่ภายในนั้น แต่ก่อนจะได้คิดว่ามันคืออะไร แฮร์รี่ก็วิ่งโผเข้ากอดเธอเต็มแรงจนเฮเลนเกือบจะล้มลงไปนอนอยู่บนตักของเดรโกอีกรอบ เสียงอื้ออึงระเบิดขึ้นรอบตัวพวกเขา เสียงตะโกน เสียงไชโยโห่ร้องและเสียงคำรามของผู้ชมดังกึกก้องไปในอากาศ ดวงอาทิตย์แจ่มจ้าส่องแสงแสบตาผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ผู้คนแห่เข้ามาหาพวกเขา เสียงตะโกนฟังไม่รู้เรื่องดังกลบหู เฮเลนฟังไม่ออกว่าพวกเขานั้นพูดเรื่องอะไร มีหลายคนพยายามจับมือ กอดหรือดึงตัวเธอไป เด็กสาวผู้รอดชีวิตจากคำสาปพิฆาตและฟื้นคืนชีพมาได้อีกครั้งอย่างกับปาฏิหาริย์

    ห้องโถงใหญ่รุ่งโรจน์ด้วยชีวิตและแสงสว่าง คนที่ถูกสะกดใจทั่วประเทศกลับคืนเป็นตัวของตัวเอง นาร์ซิสซาเดินเข้ามาสวมกอดลูกชายด้วยความภาคภูมิใจ ผู้เสพความตายต่างพากันหลบหนี บางส่วนถูกจับกุมไว้ได้ คนบริสุทธิ์ถูกปลดปล่อยออกมาจากคุกอัซคาบัน คิงสลีย์ ชักเคิลโบลด์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ชั่วคราว... แต่เฮเลนคิดว่าเขาคงจะเป็นไปได้อีกนานเลยเชียวล่ะ

    เฮเลนพยายามไม่รู้สึกเสียใจที่ท็องส์ ลูปิน คอลิน ไนเจลและคนอื่นๆ อีกห้าสิบคนตายไปเพราะสงคราม เธอพยายามยินดีที่เฟร็ดยังรอดชีวิตและสเนปที่กลับมาอีกครั้ง ต้องขอบคุณแฮร์รี่ที่พูดความจริงกลางห้องโถงตอนที่จะสู้กับโวลเดอมอร์ มักกอนนากัลย้ายศพของโวลเดอมอร์ไปที่ห้องข้างๆ และเสกโต๊ะประจำบ้านให้กลับมาอีกครั้ง แต่ไม่มีใครนั่งตามบ้านอีกต่อไป ทุกคนนั่งคละกันเหมือนครั้งที่เฮเลนเข้ามาที่โลกนี้ครั้งแรก แต่เพียงแค่มีครู ผีและพ่อแม่ เซ็นทอร์และเอลฟ์ประจำบ้านมาเพิ่มเท่านั้น กรอว์ปเมียงมองผ่านหน้าต่างที่แตกเข้ามา แล้วผู้คนก็โยนอาหารใส่ปากที่หัวเราะร่าของมัน หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เฮเลนก็เดินเข้าไปนั่งข้างๆ กับเดรโก

    "ฉันอยากให้เธอพักอยู่ที่ห้องพยาบาลมากกว่านะ" เขาพูด

    "ฉันก็อยาก" เธอตอบ "แต่มีอีกหลายอย่างที่ฉันต้องทำ"

    "อุ๊ย ดูสิ ตัวลิบเบอร์ริ่ง ฮัมดิงเจอร์!"

    "มาเร็ว" เสียงแฮร์รี่พูดในความว่างเปล่า เขาดึงเฮเลนเข้าไปในผ้าคลุมที่สวมอยู่อย่างรวดเร็ว "แล้วเจอกัน เดรโก"

    ร่างที่นั่งอยู่หัวเราะน้อยๆ และพยักหน้า เดรโกหันไปกุมมือนาร์ซิสซาเอาไว้และปลอบใจเธอเรื่องเบลาทริกซ์ที่ถูกนางวีสลีย์ฆ่าตายไปในระหว่างการต่อสู้เล็กน้อยก่อนจะมุดตามเข้าไปในผ้าคลุม เฮเลน แฮร์รี่และเดรโกเดินผ่านห้องโถงออกไปได้โดยไม่มีใครรบกวน เธอเห็นสเนปยืนอยู่ที่มุมห้อง ใบหน้าของเขายังนิ่งงันและบูดบึ้ง แต่สิ่งที่เธอเห็นว่าเขาเปลี่ยนไปนั่นก็คือแววตาของเขานั้นไม่มืดมนและขุ่นมัว ไม่ได้เต็มไปด้วยความเกลียดชังเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่บุคคลที่เธอไม่เห็นเขาเลยก็คือแท็ค... เธอรู้ว่าเขาน่าจะอยู่กับศพอื่นๆ ในห้องนั่นแต่ว่าเธอก็เก็บสิ่งที่เขามอบให้เอาไว้เเล้ว

    ในที่สุดพวกเขาก็เดินมาเจอกับเฮอร์ไมโอนี่และรอนที่นั่งกุมมือกันอยู่ แฮร์รี่เรียกพวกเขาให้เดินออกไปจากห้องโถงใหญ่พร้อมกัน บันไดหินอ่อนบางส่วนหักพัง ราวลูกกรงบางช่วงหายไป เศษหินและคราบเลือดปรากฏอยู่เกือบทุกแห่งและเกือบทุกขั้นบันไดที่เดินผ่าน

    พวกเขาได้ยินเสียงพีฟส์เหาะบินผ่านระเบียงทางเดินที่ไหนสักแห่ง พลางร้องเพลงฉลองชัยที่มันแต่งขึ้นเอง

    ตอนนี้ทุกอย่างอาจกำลังถูกบดบังด้วยความอ่อนเพลีย ความเจ็บปวดจากการสูญเสียงเหมือนเข็มทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจเลยก็ว่าได้ แต่ก่อนอื่นดูเหมือนแฮร์รี่กำลังมีเรื่องที่อยากจะเล่าให้พวกเขาฟังมากกว่าคนไหนๆ เมื่อแฮร์รี่ดึงผ้าออกเขาก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้พวกเธอฟัง แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้แสดงความตื่นตะลึงหรืออัศจรรย์ใจอะไรออกมา ทุกคนก็มาถึงที่ที่ต้องการในที่สุด ทั้งที่ไม่เคยมีใครพูดถึงจุดหมายปลายทางเลย

    ตุ๊กตาหินอ่อนหน้าห้องอาจารย์ใหญ่ถูกกระแทกเอียงไปหลังจากที่เขาเห็นครั้งสุดท้าย มันยืนตัวเอียงกระเท่เร่ ท่าทางเหมือนเมาเล็กน้อย เฮเลนนึกขำในใจ

    "เราจะขึ้นไปได้ไหม" แฮร์รี่ถามตุ๊กตาหิน

    "ตามสบายเลย" มันครางตอบ

    ทั้งห้าปีนข้ามรูปสลักและก้าวขึ้นบันไดเวียนหิน มันหมุนตัวขึ้นอย่างเชื่องช้าเหมือนบันไดเลื่อน แฮร์รี่เป็นคนผลักประตูเปิดเมื่อขึ้นไปถึงขั้นบนสุด

    เสียงปรบมือดังขึ้นทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปภายใน อาจารย์ใหญ่ชายและหญิงของฮอกวอตส์พร้อมใจกันปรบมือให้พวกเขาบนกำแพง หลายคนพยายามโบกหมวก บางคนก็โบกผมปลอม ฟินิแอส ไนเจลลัส ร้องเสียงแหลมสูงว่า "แล้วโปรดจำไว้ด้วยว่าสลิธีรินก็มีส่วนช่วย อย่าลืมแรงสนับสนุนของเรา!"

    เฮเลนยิ้มบางๆ ก่อนที่จะหันไปหาคนที่อยู่ในรูปภาพเหมือนที่ใหญ่ที่สุด ตรงหลังเก้าอี้อาจารย์ใหญ่พอดิบพอดี น้ำตาหลั่งไหลจากเบื้องหลังแว่นตารูปครึ่งวงพระจันทร์ หยดลงบนเคราสีเงิน ความภูมิใจและคำขอบคุณเปล่งประกายออกมาจากตัวเขา

    "สิ่งที่ซ่อนอยู่ในลูกสนิช" แฮร์รี่เริ่ม "ผมทำมันหล่นในป่า ผมไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน แต่ผมจะไม่กลับไปค้นหามันอีกแล้ว อาจารย์เห็นด้วยไหมครับ"

    "พ่อหนุ่มที่รัก ฉันเห็นด้วย" ดัมเบิลดอร์พูด "เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญและชาญฉลาดมาก ไม่ผิดจากที่ฉันคิดเลยทีเดียว มีใครรู้อีกหรือเปล่าว่ามันตกอยู่ที่ไหน"

    "ไม่มีครับ" แฮร์รี่ตอบ ดัมเบิลดอร์พยักหน้าด้วยความพอใจ

    "ฉันดีใจที่เธอเลือกกลับมา" ดัมเบิลดอร์พูดทั้งยิ้ม มองมาทางเฮเลน "มันไม่ผิดไปจากที่ฉันคิดเลย ขอบใจจริงๆ"

    เฮเลนยิ้มกว้าง เธอรู้สึกอยากจะกอดดัมเบิลดอร์เสียจริงๆ 

    "เราสองคนคงต้องขอเก็บสิ่งนี้เอาไว้นะครับ" แฮร์รี่พูด "ของขวัญจากอิกโนตัส"

    "แน่ล่ะ พวกเธอ" ดัมเบิลดอร์ยิ้มหน้าบาน "มันจะเป็นของพวกเธอตลอดกาลจนกว่าพวกเธอจะส่งมอบมันต่อไป"

    "ถ้างั้นก็เหลือแค่สิ่งนี้ครับ"

    แฮร์รี่ชูไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ขึ้น รอน เฮอร์ไมโอนี่และเดรโกมองมันอย่างบูชา

    "ผมไม่ต้องการมัน" แฮร์รี่พูด

    "อะไรนะ" รอนร้องเสียงดัง "นายประสาทไปแล้วหรือไง"

    "เรารู้นะว่ามันมีอำนาจมาก" เฮเลนหันไปหารอน "แต่ไม่ว่าใครก็ชอบไม้ของตัวเองมากกว่าอยู่แล้วจริงไหม..."

    "อย่างที่เฮเลนพูด" แฮร์รี่พูดอย่างเหนื่อยใจ "เพราะฉะนั้น..."

    แฮร์รี่ดึงไม้กายสิทธิ์อันเก่าออกมา มันยังคงหักเป็นสองท่อนและเชื่อมโยงกันไว้ด้วยใยขนนกฟินิกซ์แสนบาง เขาวางไม้กายสิทธิ์ลงบนโต๊ะทำงานอาจารย์ใหญ่ แตะปลายไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ลงไปและพูดว่า "เรปาโร"

    ไม้กายสิทธิ์ของเขาผนึกติดกันอีกครั้ง ประกายไปสีแดงปะทุออกมาจากปลายไม้ มันประสบผลสำเร็จ 

    "ผมจะเอาไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ กลับไปไว้ที่มันจากมา" แฮร์รี่บอกดัมเบิลดอร์ "มันจะได้อยู่ที่นั่น ถ้าผมตายตามธรรมชาติ พลังอำนาจของมันก็จะหมดไป นั่นจะเป็นจุดจบของมัน"

    ดัมเบิลดอร์พยักหน้า

    "นายแน่ใจเหรอ" เดรโกถาม เขามองไม้เอลเดอร์

    "ฉันคิดว่าแฮร์รี่พูดถูกนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเบา

    "ไม้กายสิทธิ์นี่ทำเรื่องวุ่นวายเกินค่าของมัน" แฮร์รี่พูด "แล้วพูดตรงๆ นะ ฉันมีเรื่องวุ่นวายมากพอแล้วสำหรับชั่วชีวิตหนึ่ง"

    พวกเขาหัวเราะขึ้นมาพร้อมกันอย่างพออกพอใจ แต่เฮเลนยังมีเรื่องค้างคาใจอยู่อีกเรื่องหนึ่ง นั่งคงเป็นความหมายที่ขาทั้งสองข้างของเธอนำพาเธอมายังห้องของอาจารย์ใหญ่ เฮเลนเงยหน้ามองดัมเบิลดอร์ เขายิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะผายมือไปที่อ่างเพนซิฟ

    "ฉันรู้ว่าแท็คคงจะทิ้งอะไรเอาไว้ให้เธอด้วย" เขาพูด "เชิญตามสบายนะ"

    "เอาล่ะ" เฮเลนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ "พร้อมรึยังสำหรับการรับรู้ความจริงอีกสักเรื่องหนึ่ง"


    ติดตามตอนต่อไป...


    -----------------------------------------------------------------

    บางทีไรท์อาจจะดองตอนถัดไปนานหน่อยนะคะ 555555 

    ไรท์ต้องย้อนอ่านตั้งแต่เริ่มเลยว่าแท็คทำอะไรไปบ้าง ฮิฮิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×