คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #80 : บทที่ 6 รัดเกล้าของโรวีน่า เรเวนคลอ
บทที่ 6 รัดเกล้าของโรวีน่า เรเวนคลอ
พวกเขาหยุดกึก แครบและกอยล์ยืนอยู่ข้างหลังทั้งคู่ ไหล่ชนไหล่ ไม้กายสิทธิ์ชี้มาที่ทั้งสองคน ระหว่างใบหน้ายิ้มเยาะของคนสองคนนั้น เฮเลนมองเห็นใบหน้าของแพนซี่ พาร์กินสัน เธอไม่ได้ยินเสียงของรอน เฮอร์ไมโอนี่และเดรโกเลย ดูเหมือนทั้งสามคนจะค้นหาห่างออกไปจนพ้นระยะการได้ยิน
"ทำไมพวกนายสามคนถึงไม่อยู่กับโวลเดอมอร์ล่ะ" แฮร์รี่ถาม
"ฉันจะเอารางวัล" แครบพูด เสียงของเขานุ่มนวลอย่างน่าประหลาดใจ เฮเลนถือไม้เอาไว้ข้างหลัง แฮร์รี่ก็เช่นกัน แครบกำลังยิ้มเหมือนเด็กเล็กๆ ที่มีคนสัญญาว่าจะให้ขนมหวานถุงโต "เราซ่อนอยู่ พอตเตอร์ เราตกลงใจไม่ไป และตกลงใจว่าจะพาพวกแกไปให้ท่าน!"
"แผนดีนี่" เฮเลนแสร้งทำเสียงชื่นชม เธอขยับตัวไปชนบ่าแฮร์รี่เพื่อไม่ให้เขาตื่นเต้นจนเกินไป
"แล้วพวกนายรู้ได้ยังไงว่าต้องเข้ามาในนี้" แฮร์รี่แสร้งถาม เฮเลนเห็นเขาเดินถอยหลังไปหาตู้
"แค่คิดว่าต้องการที่อยู่ของฝาแฝดพอตเตอร์" แพนซี่ตอบ "พวกเราก็เข้ามาได้ไม่ยากหรอก อีกอย่างเมื่อปีที่แล้วเดรโกก็ให้แครบกับกอยล์ค่อยช่วยให้เขาเข้ามาในห้องนี้ มันจะไปยากอะไรถ้าฉันอยากจะเข้ามาบ้าง"
"สมกับที่เป็นคุณพาร์กินสัน" เฮเลนว่า "เธอนี่มันรู้ลึกเจาะทุกประเด็นของเดรโกเลยจริงๆ"
"เราซ่อนตัวอยู่ที่ระเบียงข้างนอกนี่!" กอยล์คำราม "เราทำคาถาพรางตาเป็นแล้วรู้ไหม!" เฮเลนรู้สึกว่าใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่ช่างดูโง่เขลาเสียเหลือเกิน "อยู่ๆ พวกแกก็โผล่มาตรงหน้าเรา บอกว่าแกกำลังหาอะไรนะ รัดเก้า! รัดเก้านี่มันคืออะไรล่ะ"
"แฮร์รี่!" เสียงรอนสะท้อนก้องขึ้นจากอีกฟากของกำแพง "พวกนายพูดกับใครน่ะ"
แครบตวัดไม้กายสิทธิ์ไปที่กองภูเขาสูงห้าสิบฟุต ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องเรือนเก่าๆ หีบหักพัง หนังสือโบราณ เสื้อคลุมและขยะที่ไม่อาจจำแนกประเภทได้อีกจำนวนมาก เขาตะโกนว่า "เดสเซนโด!"
กำแพงนั้นเริ่มโอนเอียง แล้วส่วนบนก็พังครืนลงสู่ช่องทางเดินถัดไปที่มีเสียงรอนอยู่
"รอน!" แฮร์รี่ร้องเสียงหลง ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ก็กรีดร้องขึ้นที่ไหนสักแห่งเฮเลนได้ยินเสียงของนับไม่ถ้วนตกลงกระแทกพื้นอีกฟากของกำแพงง่อนแง่น แฮร์รี่ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่กำแพงแล้วร้องว่า "ไฟไนท์!" ทำให้มันกลับมาตั้งตรงเหมือนเดิม
"เดี๋ยว!" แพนซี่ยกมือห้าม เมื่อแครบพยายามจะเสกคาถาอีกครั้ง "ถ้านายทำห้องนี้พัง รัดเกล้าอะไรนั่นต้องถูกฝังไปด้วย"
"แล้วจะเป็นไรไป!" แครบย้อน "จอมมารต้องการพอตเตอร์ต่างหาก ใครจะสนรัดเกล้านั่นกัน"
"พวกมันเข้ามาหากันในนี้" แพนซี่พูด ทำท่ารำคาญเล็กน้อย "นั่นก็ต้องหมายความว่า เดรโก -- "
" เดรโก อะไรอีกล่ะ" แครบหันเข้าใส่แพนซี่ "ใครจะสนอะไรในตัวหมอนั่นกัน เดรโกกับพ่อของมันน่ะจบไปแล้ว!"
"แฮร์รี่ เฮเลน" รอนตะโกนอีกครั้ง "เกิดอะไรขึ้น"
"แฮร์รี่ เฮเลน" แครบทำเสียงล้อเลียน "เกิดอะไรขึ้น -- อย่านะพอตเตอร์! ครูซิโอ!"
เฮเลนกระโดดออกมาตรงหน้ากอยล์ในขณะที่แฮร์รี่โถมตัวไปหามงกุฏ คำสาปของแครบพลาดโดนรูปสลักหิน มันเหินลอยขึ้นไปในอากาศแล้วตกลงมากองบนข้าวของ รัดเกล้ากระเด็นสูงแล้วตกลงมาหายไปในกองนั้นด้วย
"หยุดนะ!" แพนซี่ตะโกน "จอมมารต้องการตัวพวกเขาแบบเป็นๆ -- "
"แล้วไง! ฉันไม่ได้ฆ่าพวกมันสักหน่อย" แครบตะเบ็งเสียงตอบ "แต่ถ้าทำได้ฉันก็จะทำ ยังไงจอมมารก็ต้องการให้ฝาแฝดนี่ตายอยู่แล้ว มันจะต่าง -- "
ลำแสงสีแดงพุ่งผ่านอากาศตรงไปยังแครบแต่มันพลาดเพราะแพนซี่ดึงแขนของเขาให้หลบไปอีกทาง เฮอร์ไมโอนี่วิ่งอ้อมมุมมาหาพวกเขา
"นั่งเลือดสีโคลน! อะวาดา เคดาฟ-รา!"
เฮอร์ไมโอนี่กระโจนหลบไปข้างๆ เฮเลนรู้สึกโกรธขึ้นมาเมื่อเห็นว่าแครบมีเจตนาที่จะฆ่าจริงๆ
"เอกซ์เปลลิอาร์มัส!"
ไม้กายสิทธิ์ของแครบและกอยล์บินหวือออกจากมือแล้วหายไปในกองพะเนินข้างตัว แครบล้มกลิ้งหงายหลังไปอีกทางส่วนกอยล์กระโจนตามไม้กายสิทธิ์ไปอย่างโง่งม พยายามคุ้ยไม้นั้นกลับมา เฮเลนเห็นไม้กายสิทธิ์ที่น่าจะเป็นของกอยล์กลิ้งหลุนๆ ลงมาด้านล่าง แพนซี่กระโดดหลบคาถาสะกดนิ่งครั้งที่สองของเฮอร์ไมโอนี่ รอนและเดรโกโผล่พรวดออกมาที่สุดช่องทางเดิน รอนยิงคำสาปมัดร่างใส่แครบและเดรโกยิงคาถาเชือกวิเศษใส่กอยล์ แต่ทั้งสองคนนั้นกลับหลบได้อย่างหวุดหวิด
แครบหมุนตัวอย่างรวดเร็ว คว้าไม้กายสิทธิ์แล้วหันมาทางทั้งคู่ก่อนจะร้องว่า "อะวาดา เคดาฟ-รา" อีกครั้ง รอนกระโจนหลบลำแสงสีเขียวอย่างรวดเร็ว เดรโกพุ่งเข้าใส่แพนซี่และคว้าตัวหล่อนเอาไว้ได้ เสียงโวยวายของแพนซี่เป็นเสียงเตือนชั้นดีเลยว่าเดรโกได้ตัวเธอแล้ว
"ปล่อย!" แพนซี่กรีดร้อง "นายมันคนทรยศ! ไสหัวไปซะ มัลฟอย!"
เฮเลนเห็นเฮอร์ไมโอนี่ยิงคาถาสะกดนิ่งใส่กอยล์
"มันอยู่แถวนี้ล่ะ" แฮร์รี่ตะโกนกลบเสียงตะโกนของแพนซี่ที่อยู่ไกลเกินกว่าที่เฮเลนจะได้ยิน เขาชี้กองขยะที่มงกุฏตกลงไป "ลองหาดูระหว่างที่ฉันไปช่วยร -- "
"แฮร์รี่!" เธอกรีดร้องและเฮเลนเห็นว่าเดรโกกำลังกระชากมือแพนซี่ให้วิ่งมาทางนี้
เสียงคำรามกึกก้องบอกเธอได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ไฟ! แครบเสกไฟที่ควบคุมไม่ได้!! เฮเลนนึกขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน เธอกวาดตามองหาไม้กวาดทันที รอนกับแครบวิ่งสุดชีวิตตามหลังเดรโกและแพนซี่มา เปลวเพลิงขนาดใหญ่ผิดธรรมชาติกำลังไล่ทั้งสองมาด้วย มันแลบเลียกำแพงขยะทั้งสองข้าง ทุกอย่างกลายเป็นจุลทันทีที่ถูกมันสัมผัส
"อากัวเมนตี!" แฮร์รี่ร้อง เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่วิ่งเข้าไปฉุดกอยล์ที่ถูกสะกดนิ่งเอาไว้และลากเขาไปด้วย ตอนนี้ทุกคนดูหวาดกลัวสุดขีด แครบวิ่งลิ่วผ่านพวกเขาไป สายน้ำที่พุ่งออกจากปลายไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ระเหยไปทันที แฮร์รี่ รอน เฮเลน -- กอยล์ที่ถูกลาก -- เฮอร์ไมโอนี่ วิ่งฉิวตามหลังเขาไป โดยมีเดรโกและแพนซี่ไล่หลังมา เปลวเพลิงไล่กวดมาติดๆ มันไม่ใช่เปลวไฟธรรมชาติ แครบเสกมันขึ้นมาโดยคำสาปที่ไม่มีใครรู้จัก ของที่ถูกสะสมมานานนับศตวรรษเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทุกอย่างระเบิดเผาผลาญไปจนหมดสิ้น แครบหายไปจากสายตาของพวกเขาแล้ว
"นั่น!" เฮเลนชี้ไปยังไม้กวาดที่อยู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาอย่างพอดิบพอดี
แฮร์รี่คว้าไม้กวาดขึ้นมาอันหนึ่ง ส่งให้รอนและเดรโกคนละอัน
"ไฟไนท์ อินคานทาเท็ม!" เฮเลนชี้ไปที่กอยล์ เขากลับมาขยับได้อีกครั้ง
เดรโกถือไม้กวาดก้าวพรวดมาหาเฮเลนอย่างรวดเร็ว แฮร์รี่คร่อมไม้กวาดพร้อมกับใช้คาถาสะกดใจสั่งให้แครบซ้อนไม้กวาดเขา และรอนดึงเฮอร์ไมโอนี่ให้ขึ้นซ้อนท้าย เดรโกเหวี่ยงขาขึ้นคร่อมไม้กวาดและดึงให้เธอขึ้นซ้อนอย่างรีบเร่งโดยลืมไปเลยว่ายังเหลือแพนซี่อยู่อีกคนหนึ่ง แพนซี่เม้มปาก ส่ายหน้าเล็กน้อยและวิ่งตามแครบไป
เดรโกถอนหายใจเบาๆ และพวกเขาก็เตะพื้นอย่างแรง ทั้งหกคนเหินขึ้นไปในอากาศ หลบเพลิงปีศาจได้อย่างฉิวเฉียด ควันและความร้อนเพิ่มมากขึ้นจนสุดจะทนทานได้ ใต้ตัวพวกเขา ไฟคำสาปกำลังกลืนกินของต้องห้ามของนักเรียนรุ่นแล้วรุ่นเล่าให้หายไปภายใต้เปลวเพลิง ความลับที่ถูกซ่อนเอาไว้ของผู้คนนับไม่ถ้วน แพนซี่หายไปอย่างไร้ร่องรอย แฮร์รี่บินโฉบลงต่ำเหนือปิศาจไฟทำลายล้าง เหมือนกำลังหาสองคนนั้น แต่เฮเลนไม่เห็นอะไรเลลยนอกจากไฟ เฮเลนมั่นใจว่าเธอไม่อาจช่วยแครบเอาไว้ได้แน่ แต่ถ้าหากเป็นแพนซี่ล่ะก็...
ในพายุเพลิง เฮเลนเห็นแพนซี่และแครบเกาะอยู่บนโต๊ะนักเรียนดำเกรียมที่ตั้งซ้อนง่อนแง่น เธอกระตุกเสื้อเดรโกเบาๆ ก่อนจะยกมือชี้ไปที่ทั้งคู่ "นั่น! เดรโก สองคนนั้นอยู่นั่น"
"ออกไปกันเถอะ!" รอนตะเบ็งเสียงบอก "มันอันตราย - เกินไป"
แฮร์รี่และเดรโกดิ่งลงไป แพนซี่ชูแขนขึ้นเมื่อเห็นพวกเขา
"ถ้าเราตายเพราะพวกมันล่ะก็ ฉันจะฆ่าพวกนาย!" รอนคำราม
"ถ้านายสามารถฆ่าคนที่ตายไปแล้วได้อีกล่ะก็ เชิญเลย วีสลีย์!" เฮเลนร้องตอบ
คิเมร่าเพลิงตัวมหึมากระโจนเข้าใส่พวกเขา รอนและแฮร์รี่จับแขนแครบคนละข้าง เฮเลนและเดรโกคว้ามือแพนซี่จะดึงขึ้นมานั่งบนไม้กวาดอย่างทุลักทุเลก่อนจะดีดตัวขึ้นตามไป ทั้งสองลำหมุนและโผนขึ้นไปในอากาศได้อีกครั้งแต่ทว่ามือของแครบคงจะลื่นเกินกว่าที่เขาจะยึดเอาไว้ได้ ร่างของเขาดิ่งลงไปในปากของคิเมร่าเพลิงอย่างรวดเร็ว ควันดำฟุ้งกระจายไปทั่วจนแทบหายใจไม่ออกพร้อมกับเสียงกรีดร้องของแพนซี่และเดรโกที่กำไม่กวาดแน่นขึ้นไปอีก ข้าวของไม่กี่ชิ้นที่เหลือรอดจากเปลวเพลิงถูกเหวี่ยงกระจัดกระจายในอากาศ เจ้าสัตว์ร้ายจากไฟคำสาปสำรอกมันออกมาเพื่อเฉลิมฉลอง ทั้งถ้วย เกราะ สร้อยคอเป็นประกาย และมงกุฏเก่าสีหมอง...
เฮเลนเห็นแฮร์รี่หักเลี้ยวทันควันและคว้ารัดเกล้าเอาไว้ได้ก่อนที่มันจะตกลงไปในกระเพาะงูที่อ้าปากหาว เดรโกขี่ไม้กวาดตามรอนและเฮอร์ไมโอนี่ไปอย่างรวดเร็วโดยมีแฮร์รี่ตามรั้งท้าย แพนซี่กรีดร้องและจิกเฮเลนจนเจ็บแขนไปหมด แล้วในอึดใจต่อมา อากาศสะอาดก็ไหลเข้ามาเต็มปอด พวกเขาชนเข้ากับระเบียงทางเดินเต็มแรง
พวกเขาทั้งหมดตกจากไม้กวาดกลิ้งไปคนละทิศละทาง ไอกันโขลกๆ และมีเสียงสำลักโอ้กอ้าก เฮเลนรีบกลิ้งตัวลุกขึ้น ประตูห้องต้องประสงค์หายไปแล้ว เดรโก รอน เฮอร์ไมโอนี่และแฮร์รี่นั่งอยู่บนพื้น หายใจหอบ กอยล์สลบไป ส่วนแพนซี่นั่งร้องไห้อย่างน่าเวทนา
ทุกคนเงียบกริบ จากนั้นก็มีเสียงปังสนั่นชุดใหญ่ เขย่าตัวปราสาทจนสั่นไหว ร่างโปรงใสขนาดใหญ่ควบม้าผ่านไป หัวที่หนีบอยู่ใต้แขนส่งเสียงสบถสาบานบ้าเลือด พวกเขาลุกขึ้นยืนหลังจากที่นักล่าหัวขาดผ่านไปแล้ว การรบยังดำเนินต่อไปทุกแห่ง เฮเลนได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาอีก ความตื่นตระหนกลุกโพลงขึ้นในตัว
"จินนี่อยู่ไหน" แฮร์รี่โพลง "เมื่อกี้ยังอยู่ที่นี่เลย เขาต้องกลับไปที่ห้องต้องประสงค์!"
"ให้ตาย นายคิดว่ามันยังใช้ได้อีกเหรอหลังจากที่โดนไฟเปรตนั่น" รอนถาม "เราแยกกันตาม -- "
"อย่า!" เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกัน เฮเลนมองไปยังแพนซี่ที่ยกมือขึ้นกอดตัวเองอย่างหวาดหวั่น
"อยู่ด้วยกันเถอะ ฉันว่าจะปลอดภัยมากกว่า" เดรโกว่า "เราจะได้ไม่ต้องสูญเสียใครไปอีก"
ท้ายประโยค เสียงของเขาแผ่วลงอย่างน่าตกใจ เฮเลนเลื่อนมือไปจับมือของเขาเอาไว้อย่างแผ่วเบา เดรโกหลุบตามองเธอและยกยิ้มขึ้นมุมปากเล็กน้อย
"จะว่าไป -- " เฮอร์ไมโอนี่พูด "แฮร์รี่ ที่แขนเธอนั่นอะไร"
"อะไร อ๋อ ใช่ -- "
แฮร์รี่ดึงรัดเกล้าออกจากข้อมือและชูขึ้น มันยังร้อนระอุ สารสีคล้ำเหนียวเหมือนเลือดไหลออกมาจากรัดเกล้า เสียงกรีดร้องดังออกมาจากมันแล้วมันก็หักออกในมือของแฮร์รี่
"เพลิงปีศาจ" เฮเลนพึมพำ
"มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่" เฮอร์ไมโอนี่คราง ตามองเศษแก้วที่แตกนั้น "เพลิงปิศาจ -- ไฟจากคำสาป -- เป็นอีกสิ่งที่ทำลายฮอร์ครักซ์ได้ ฉันไม่เคยกล้าใช้มันเลย มันอันตรายมาก"
"ฉันคิดว่าเขาคงเรียนมันมาจากพวกแคร์โรว์ แฮร์รี่พูดใบหน้าทมึงทึง
"น่าเสียดายที่เขาไม่ตั้งใจฟังพวกนั้นสอนวิธีหยุดมัน" รอนพูด "ถ้าเขาไม่พยายามฆ่าเราล่ะก็ ฉันคงเสียใจอยู่เหมือนกันที่เขาตาย"
เดรโกยักไหล่ให้รอน
"แต่เธอไม่เข้าใจเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่พูด "ถ้าเราจัดการงูนั่นได้ล่ะก็ -- "
แต่เธอหยุดพูดเมื่อได้ยินเสียงตะโกนและเสียงต่อสู้ดังขึ้นในระเบียงทางเดิน เฮเลนมั่นใจว่าผู้เสพความตายเข้ามาในฮอกวอตส์แล้ว เฟร็ดและเพอร์ซี่กำลังล่าถอยมาทางนี้ หัวใจเฮเลนกระตุกวูบ มีสิ่งที่เธอไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีกสิ่งหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ครั้งที่เธอไม่ต้องการให้ซีเรียสตายแต่เธอกลับทำอะไรไม่ได้ ช่วยไม่ได้ รั้งไม่ได้ราวกับว่ามันเป็นชะตากรรมที่ถูกกำหนดเอาไว้ไม่ให้เปลี่ยนไปแม้จะส่งเธอเข้ามา แต่ครั้งนี้เธออยากจะทำให้ได้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม!
แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ เฮเลนและเดรโกวิ่งตรงรี่เข้าไปช่วย ลำแสงบินว่อนอยู่ทุกทิศทุกทาง ชายคนที่สู้กับเพอร์ซี่ถอยหลังอย่างรวดเร็ว หมวกคลุมหัวของเขาเลื่อนหลุด ทุกคนเห็นหน้าผากสูงและผมที่เป็นปื้น --
"สวัสดีท่านรัฐมนตรี!" เพอร์ซี่ตะเบ็งเสียง ส่งคำแช่งไปถูกทิกเนสอย่างจัง เขาทิ้งไม้กายสิทธิ์และตะกุยตะกายที่หน้าเสื้อคลุม ท่าทางทุรนทุรายอย่างหนัก "ผมบอกหรือเปล่าว่าผมลาออกแล้ว!"
"นายพูดตลกดีนี่เพิร์ซ!" เฟร็ดตะโกน ขณะที่ผู้เสพความตายที่สู้กับเขาล้มฮวบลงเพราะคาถาสะกดนิ่งสองลำ ทิกเนสล้มลงกับพื้น มีหนามแหลมจิ๋วๆ งอกทั่วตัว ดูเหมือนเขาจะกลายเป็นหอยเม่นไปแล้ว เฟร็ดมองเพอร์ซี่อย่างชื่นชม และในจังหวะเดียวกัน เฮเลนรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอหยุดยิงคำแช่งและดึงแขนเฟร็ดอย่างแรงในนาทีที่เขากำลังจะหันไปพูดกับเพอร์ซี่
อากาศระเบิดเปรี้ยง เฮเลนเห็นเพอร์ซี่กระโดดหลบไปอีกฝั่งขณะที่เธอดึงเฟร็ดให้ล้มลง เหมือนอันตรายที่ดูจะหมดไปเมื่อสักครู่ โลกทั้งโลกก็แตกเป็นเสี่ยงๆ เฮเลนรู้สึกว่าถูกอากาศผลักให้ปลิวไปพร้อมกับเฟร็ดที่ดึงร่างบางเข้ามาสวมกอดเอาไว้แน่น
และแล้วทั้งโลกก็กลับมาเจ็บปวดและมืดสลัวเหมือนเดิม ทั้งสอนคนถูกฝังจนเกือบมิดในซากปรักหักพังของระเบียงทางเดิน ซึ่งเป็นเป้าหมายของการโจมตีอันร้ายกาจ อากาศเย็นบ่งบอกว่าด้านข้างของปราสาทถูกระเบิดพังไป เฮเลนรู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆ ไหลลงมาอาบแก้ม เธอคงกำลังเลือดไหลโชก
เฮเลนใช้เวลาตั้งสติอยู่ชั่วครู่จึงเงยหน้าขึ้นมา ร่างบางลุกพรวดขึ้นมองร่างที่เธอนอนทับอยู่ด้วยความรู้สึกกลัวจนสุดขั้วหัวใจ เฟร็ดหลับตาพริ้มราวกับกำลังหลับ เพอร์ซี่ รอนและเดรโกวิ่งเข้ามาสมทบอย่างรวดเร็ว เฮเลนจับแขนเขาเขย่าไปมาหลายครั้ง และเริ่มเขย่าแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีการตอบสนองจากเขาทั้งที่ก่อนหน้านั้นเฮเลนยังมั่นใจว่าเขาโอบกอดร่างของเธออยู่
"เฟร็ด!" เฮเลนร้อง "เฟร็ด! ไม่นะ -- ไม่นะเฟร็ด ไม่ใช่!!"
เดรโกทรุดตัวลงนั่งข้างๆ และโอบบ่าของเฮเลนเอาไว้เบาๆ รอนและเพอร์ซี่คุกเข่าลงข้างๆ พวกเขาเมื่อเเฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่วิ่งเข้ามา รอยยิ้มรางๆ ครั้งสุดท้ายยังคงประทับอยู่บนใบหน้านั่น... ปราสาทเงียบงันด้วยความหวาดกลัว เฮเลนไม่อยากเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเธอก็ช่วยใครเอาไว้ไม่ได้เลย --
"แน่นอน" เสียงใครบางคนพูดขึ้น "ไม่ใช่ฉันแน่ -- ฉันไม่ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะตายวันนี้"
รอยยิ้มจางๆ นั้นกว้างขึ้นเมื่อเฟร็ดลืมตาโพลงและลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วจนพวกเขาตกใจ เฮเลนสะดุ้งเฮือกกระเด้งไปชนเดรโกจนทั้งคู่เกือบจะหงายหลังล้มลงไปพร้อมกัน
"นายยังไม่ตาย!" รอนร้อง
"ใช่สิ เจ้างี่เง่า!" เฟร็ดยิ้มแป้น "บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะตายวันนี้"
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ร่วงลงมาผ่านรูที่ถูกระเบิด ตำสาปบินว่อนเฉี่ยวพวกเขาไปในความมืด
"ก้มลง!" แฮร์รี่ตะโกน เมื่อคำสาปบินผ่านราตรีเข้ามาอีก เขากับรอนดึงตัวเฮอร์ไมโอนี่ให้ก้มลงบนพื้น เพอร์ซี่กระชากคอเฟร็ดให้ล้มลงไปนอนอีกครั้ง เดรโกดึงตัวเฮเลนในคว่ำหน้าหมอบลง "เพอร์ซี่ ไปเถอะ เราต้องย้ายที่แล้ว!"
เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องขึ้นเมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นมา แมงมุมยักษ์ขนาดใหญ่กำลังไต่ผ่านรูใหญ่ที่กำแพงเข้ามา รอนและแฮร์รี่ตะโกนขึ้นพร้อมกัน คาถาของทั้งคู่ปะทะร่างของแมงมุมตัวนั้น สัตว์ร้ายถูกกระแทกหงายหลัง ขากระตุกอย่างน่ากลัว แล้วมันก็หายไปในความมืด
"มันพาเพื่อนมาด้วย!" รอนร้องบอกขณะมองลอดรูที่ถูกระเบิดออกไป แมงมุมยักษ์อีกหลายตัวกำลังไต่ด้านข้างปราสาทขึ้นมา พวกมันคงถูกปลดปล่อยออกมาจากป่าต้องห้าม ผู้เสพความตายคงบุกไปถึงที่นั่นแล้ว คำสาปอีกจำนวนมากเหาะข้ามศีรษะของพวกเขาไป เฉียดฉิวเสียจนเส้นผมกระพือ
"ไป! เดี๋ยวนี้เลย" พวกเขาลุกขึ้นและก้มตัวลงต่ำเพื่อหลบคาถา แพนซี่และกอยล์หายไปแล้ว ระเบียงทางเดินเต็มไปด้วยฝุ่นและอิฐปูนที่ตกลงมา กระจกหายไปจากหน้าต่างหลายบาน ที่สุดระเบียง เฮเลนเห็นผู้คนวิ่งกันอลหม่าน จะเป็นมิตรหรือศัตรูก็สุดที่จะรู้ได้ เฟร็ดและเพอร์ซี่วิ่งตะบึงเข้าไปหาผู้เสพความตายคนหนึ่งที่เห็นอยู่ไกลลิบๆ หายไปจากสายตา
"เราต้องไปหาโวลเดอมอร์!" เฮเลนพูด "ฉันรู้ว่าเขาอยู่ไหน -- แต่ฉัน -- "
เขากำลังยืนอยู่กลางห้องที่อ้างว้างแต่คุ้นตาอย่างน่าประหลาด กระดาษปิดผนังลอกล่อน หน้าต่างทุกบานมีไม้กระดานตีปิด ยกเว้นแต่บานเดียว เสียงสู้รบที่ปราสาทได้ยินเพียงเเผ่วเบาและฟังห่างไกล หน้าต่างบานเดียวเท่านั้นที่ไม่ถูกปิด มันเผยให้เห็นแสงวาบลิบๆ อยู่ที่ปราสาท แต่ในห้องนั้นมืดสลัว มีเพียงแสงจากตะเกียงน้ำมันดวงเดียว
เขากลิ้งไม้กายสิทธิ์ระหว่างนิ้วมือ ตามองดูมัน แต่ความคิดอยู่ที่ห้องในปราสาท... ห้องลึกลับซึ่งเขาเท่านั้นค้นพบ ห้องซึ่งเหมือนห้องแห่งความลับ คือต้องเป็นคนฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยม และช่างสงสัยจึงจะค้นพบได้ เขามั่นใจว่าเด็กพวกนั้นจะไม่มีวันพบรัดเกล้าอย่างแน่นอน
"ท่านพ่อขอรับ" เสียงหนึ่งพูดขึ้นอย่างหมดหวังและแหบพร่า เขาหันไปหาแท็คที่นั่งอยู่ในมุมมืดที่สุด ตามตัวมีริ้วรอยลงโทษหลังจากที่เฮเลนหนีไปจากปราสาท และหลังจากที่ถูกเรียกกลับมาเพื่อลงโทษอีกครั้งเนื่องจากช่วยเหลือพวกมัน ตาข้างหนึ่งยังปิดและบวมเป่ง "ท่านพ่อขอรับ...ได้โปรด... ท่านบอกว่า..."
"ยังไงพวกมันก็ต้องตาย แท็ค นั่นไม่ใช่ความผิดของฉันเลย ถ้าพวกมันไม่ตายฉันก็จะต้องตาย"
"แต่ท่านพ่อบอกว่า..." แท็คกระซิบ
"หุบปาก! ฉันรู้ว่าแกอยากให้การต่อสู้สิ้นสุดลง เพื่อที่แกจะได้ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสองคนนั่น ส่วนฉัน ฉันไม่ต้องไปตามหาพวกมันหรอก คืนนี้พวกมันจะมาหาฉันเอง"
โวลเดอมอร์ทอดตามองไม้กายสิทธิ์บนมืออีกครั้ง มันรบกวนเขา... สิ่งใดที่รบกวนโวลเดอมอร์ จำเป็นต้องถูกจัดการเสียใหม่
"ไปตามสเนปมาหาฉัน"
"สเนปเหรอครับ ท่านพ่อ"
"สเนป เดี๋ยวนี้ ฉันต้องการตัวเขา ฉันมีเรื่องจะให้มัน -- รับใช้"
แท็คทำท่าลังเลใจ เขาหันไปอะไรบางอย่างที่มุมห้องด้วยแววตาเศร้าศร้อย แท็คกระซิบอะไรบางอย่างที่โวลเดอมอร์ไม่อาจได้ยินแล้วออกไปจากห้อง
"นี่เป็นทางเดียว นากินี" โวลเดอมอร์กระซิบ แล้วหันกลับไปมอง บัดนี้งูใหญ่ตัวหนาถูกแขวนลอยอยู่กลางอากาศ มันบิดตัวอย่างสง่างามในบริเวณคุ้มครองที่เขาเสกด้วยเวทมนตร์ เป็นลูกกลมโปร่งใสที่ส่องประกายดุจแสงดาว คล้ายกรงหรือตู้กระจกที่แวววาว
เฮเลนหายใจหอบ หืออื้ออึงด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงปึงปังของการรบ
"เขาอยู่ในเพิงโหยหวน" แฮร์รี่กระซิบ "งูอยู่ด้วย มีเวทมนตร์อะไรบางอย่างคุ้มครองอยู่"
"เขาส่งแท็คไปตามสเนป" เฮเลนว่า "เขาจะทำอย่างนั้นไม่ได้ -- ฉันจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้น"
"โวลเดอมอร์นั่งอยู่ในเพิงโหยหวนงั้นเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างเดือดดาล "เขาไม่ -- เขาไม่ทำอะไรแม้แต่ต่อสู้งั้นเหรอ!"
"เขาคิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องต่อสู้" แฮร์รี่พูด "เขาคิดว่าเราจะไปหาเขาเอง"
"แต่ ทำไมล่ะ" รอนว่า
"เขารู้ว่าเรากำลังไล่ล่าฮอร์ครักซ์ -- เขาเก็บนากินีไว้กับตัว -- เพราะฉะนั้นเราต้องไปหาเขาอยู่แล้วเพื่อเข้าใกล้มัน" แฮร์รี่ว่า
"ไม่ใช่" เฮเลนขัดขึ้น "เขาจะใช้ทางอื่นเพื่อให้เราไป -- และอย่างน้อยตอนนี้เขาก็รู้ว่ายังไงฉันก็ต้องไปช่วยเขาคนนั้น"
"ใครคือเขาคนนั้น" เดรโกเลิกคิ้วถาม
"เธอไม่รู้จริงๆ เหรอเดรโก" เฮเลนหันไปหาเขา "ตลอดหนึ่งปีที่ฉันอยู่ที่คฤหาสน์ เธอจำไม่ได้จริงๆ เหรอว่าใครอยู่เบื้องหลังการช่วยเหลือและการเดาต่างๆ ของพวกเราน่ะ"
"ฉันรู้ แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องไปช่วยเขา" เดรโกว่า "โวลเดอมอร์ชอบเขาจะตาย เขาไม่มีวัน -- "
"ต้องตายแน่" เฮเลนย้ำ "เขาต้องถูกฆ่าแน่ ถ้าไม่มีใครไปฉันจะไปเอง!"
แล้วม่านตรงหัวบันไดที่พวกเขายืนอยู่ก็ถูกฉีกออก
"พอตเตอร์!"
ผู้เสพความตายสวมหน้ากากอยู่ตรงนั้น แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ก็ตะโกนว่า "กลิซซีโอ!"
บันไดใต้เท้ากลายเป็นพื้นราบเรียบ เฮอร์ไมโอนี่ รอน แฮร์รี่ เฮเลนและเดรโกไถลลื่นลงมา พวกเขาไม่อาจบังคับความเร็วได้ แต่ก็เร็วมากเสียจนคาถาสะกดนิ่งของผู้เสพความตายเหินข้ามหัวไป ทั้งหมดพุ่งผ่านผ้าทอที่สุดปลายบันได แล้วกลิ้งไปชนกำแพงตรงข้าม
"ดูโร!" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง พลางชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ม่านทอ มีเสียงแตกร้าวน่าสยดสยองเมื่อม่านกลายเป็นหิน ผู้เสพความตายที่ไล่ตามมาชนมันเข้าเต็มเปา
"ถอยเร็ว!" รอนตะโกน ทั้งห้าคนแนบตัวติดกับประตู ขณะที่ฝูงโต๊ะนักเรียนควบผ่านไปเสียงกึกก้อง ศาสตราจารย์มักกอนนากัลวิ่งห้อต้อนพวกมันมา ดูเหมือนเธอจะไม่เห็นพวกเขาเลย ผมเผ้าเธอหลุดลุ่ยและมีรอยแผลที่แก้ม ขณะที่เธอเลี้ยวตรงหัวมุม พวกเขาได้ยินเสียงเธอร้องว่า "โจมตี!"
"ไปเถอะ!" เฮเลนบอก
"แต่พวกเธอควรสวมผ้าคลุม -- " เดรโกพูด
"มันไม่ใช่เวลาที่จะต้องซ่อนตัว!" เฮเลนขัดอย่างรวดเร็ว "ไป!"
พวกเขาวิ่งลงบันไดไปและเข้าสู่ระเบียงทางเดินที่เต็มไปด้วยคู่ต่อสู้ รูปภาพเหมือนสองด้านแน่นขนัดด้วยภาพต่างๆ ทุกรูปส่งเสียงเชียร์ แนะนำและให้กำลังใจ ขณะที่ผู้เสพความตายสวมหน้ากากและไม่สวมหน้ากากต่อสู้กับนักเรียนและอาจารย์ ดีนชิงไม้กายสิทธิ์มาได้อันหนึ่งแล้ว เขากำลังดวลอยู่กับโดโลฮอฟ ปาราวตีสู้กับทราเวอร์ส แฮร์รี่ เฮเลน รอน เดรโกและเฮอร์ไมโอนี่ยกไม้ของตัวเองขึ้นมาทันที เตรียมพร้อมจะลงมือ แต่คู่ต่อสู้ทั้งหมดถอยเข้าและถอยออกเร็วมาก ถ้าเสกคำสาปไปก็อาจจะโดนพวกเดียวกันได้ พวกเขาเห็นพีฟส์เหาะเร็วจี๋อยู่เหนือหัว มันโยนฝักสนาร์กาลัฟฟ์ใส่พวกผู้เสพความตาย ทันใดนั้นศีรษะของทุกคนก็ห่อหุ้มด้วยหน่อเล็กๆ สีเขียวที่ดีดดิ้นคล้ายหนอนอ้วนๆ
พวกเขาวิ่งฝ่าดงต่อสู้ไป ลื่นไถลบ้างเล็กน้อยบนแอ่งสนาร์กาลัฟฟ์ ทั้งสามตรงไปที่หัวบันไดหินอ่อนซึ่งนำสู่ห้องโถงกลาง เฮเลนเหลือบไปเห็นแพนซี่ยืนอยู่กับกอยล์และหยายามหลบคำสาปและพยายามเตือนผู้เสพความตายว่าพวกเขาคือพวกเดียวกัน
มีคนต่อสู้กันอยู่เต็มบันไดและห้องโถง ผู้เสพความตายกระจายกันอยู่ทุกหนทุกแห่ง แยกซ์ลีย์สู้กับฟลิตวิกอยู่ใกล้ประตูหน้า ผู้เสพความตายที่สวมหน้ากากดวลกับคิงสลีย์อยู่ข้างๆ นักเรียนวิ่งพล่านทั่วทุกหนแห่ง บางคนอุ้มหรือลากเพื่อนที่บาดเจ็บไปด้วย เนวิลล์โผล่มาพร้อมกับแกว่งเทนทะคูเลอะมีพิษเต็มอ้อมแขน พืชดังกล่าวขมวดตัวเป็นห่วงคล้องผู้เสพความตายที่อยู่ใกล้ๆ อย่างมีความสุข
แฮร์รี่ เฮเลน เดรโก รอนและเฮอร์ไมโอนี่วิ่งห้อลงบันไดหินอ่อน มีเสียงแก้วแตกกระจายทางซ้ายมือ มรกตจากนาฬิกาแก้วบอกคะแนนของบ้านสลิธีรินทะลักออกมาเกลื่อนกลาด ผู้คนลื่นไถลโซเซเมื่อวิ่งไปเหยียบเข้า ร่างสองร่างร่วงหล่นจากระเบียงเหนือหัวขณะที่พวกเขามาถึงพื้น ก้อนสีเทาที่เฮเลนคิดว่าเป็นสัตว์วิ่งตัดห้องโถงมาและมันเตรียมฝังเขี้ยวลงบนร่างหนึ่ง
“อย่า!” เฮอร์ไมโอนี่กรีดเสียงแหลม และด้วยแรงระเบิดดังสนั่นที่ออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของเธอ เฟนเรีย เกรย์แบ็กกระเด็นหงายหลังออกมาจากร่างของลาเวนเดอร์ บราวน์ที่ขยับตัวอย่างอ่อนเปลี้ย เขาลอยไปกระแทกกับราวบันไดหินอ่อนแล้วตะเกียดตะกายลุกขึ้นยืน แต่แสงสีขาวสว่างวาบขึ้นพร้อมกับเสียงแตกดังสนั่น ลูกแก้วลูกหนึ่งตกลงบนกระหม่อมของเขา เกรย์แบ็กล้มลงไปนอนไม่ไหวติงบนพื้น
“ฆ่าเลยได้ไหม” เฮเลนพูดกระซิบ เดรโกผงะไปเล็กน้อย เธอยักไหล่เบาๆ “ฉันก็พูดไปงั้น – เอาล่ะไปกันต่อเถอะ ถ้าช้ากว่านี้คงไม่ทันแน่”
เฮเลนเห็นแฮกริดวิ่งโครมครามลงบันไดมา พลางกวัดแกว่งร่มสีชมพูลายดอกไม้เพื่อปกป้องเหล่าแมงมุม
"แฮกริด!" แฮร์รี่ตะโกนลั่นและวิ่งเข้าไปหาแฮกริดอย่างลืมตัว
"แฮร์รี่ อย่า!"
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น