คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #79 : บทที่ 5 การรบที่ฮอกวอตส์
บทที่ 5 การรบที่ฮอกวอตส์
เพดานมนตราของห้องโถงใหญ่ดำมืดและดารดาษด้วยดวงดาว
เหล่านักเรียนที่ดูยับยู่ยี่นั่งเรียงรายกันอยู่ที่โต๊ะประจำบ้านสี่ตัวข้างใต้
บ้างก็สวมชุดคลุมเดินทาง หรือเสื้อคลุมนอน
ร่างสีขาวดุจมุกของผีประจำโรงเรียนส่งแสงแวววาวอยู่ตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง
สายตาทุกคู่ไม่ว่าจะคนเป็นหรือคนตายจ้องอยู่ที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัล
เธอกำลังสั่งการอยู่บนพื้นยกสูงสุดห้องโถง
อาจารย์ที่เหลือทั้งหมดยืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ด้านหลังเธอ
และสมาชิกภาคีนกฟินิกซ์ที่มาร่วมต่อสู้ด้วย
“...คุณฟิลช์กับมาดามพอมฟรีย์จะเป็นผู้ดูแลการอพยพครั้งนี้
พีเฟ็คทุกคนเมื่อฉันออกคำสั่ง ให้พวกเธอจัดแถวนักเรียนในบ้านและนำทุกคนเดินไปยังจุดที่จะอพยพอย่างเป็นระเบียบ”
นักเรียนหลายคนมีหน้าตกตะลึงสุดขีด
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เฮเลน แฮร์รี่และเดรโกเดินเลียบกำแพงและกวาดตามองหารอน
เฮอร์ไมโอนี่และแท็คว่าพวกเขากลับมารึยัง เออร์นี่
มักมิลลันก็ยืนขึ้นที่โต๊ะฮัฟเฟิลพัฟและตะโกนว่า
“แล้วถ้าเราต้องการอยู่สู้ล่ะครับ”
มีเสียงปรบมือดังเปาะแปะ
“ถ้าเธออายุครบเกณฑ์
เธอจะอยู่ก็ได้” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลตอบ
“แล้วข้าวของพวกเราล่ะคะ”
เด็กหญิงที่โต๊ะเรเวนคลอร้องถาม “หีบนักเรียนของเรา นกฮูกของเรา”
“ไม่มีเวลาพอที่จะเก็บสมบัติทั้งหลายหรอก”
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลตอบ
“ตอนนี้ที่สำคัญคือต้องพาพวกเธอออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย”
“แล้วศาสตราจารย์สเนปล่ะคะ
อยู่ที่ไหน” เด็กหญิงจากโต๊ะบ้านสลิธีรินตะโกน
“ถ้าจะใช้ภาษาปกติล่ะก็
เขาแจวอ้าวไปแล้วน่ะสิ” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลตอบ เสียงไชโยโห่ร้องดังกระหึ่มขึ้นที่โต๊ะกริฟฟินดอร์
ฮัฟเฟิลพัฟและเรเวนคลอ
ทั้งสามคนยังคงเดินต่อไปตามโต๊ะของกริฟฟินดอร์
เขายังคงมองหารอน เฮอร์ไมโอนี่และแท็ค ขณะที่พวกเขาผ่านไป ใบหน้าต่างๆ หันมามอง
แล้วเสียงกระซิบกระซาบก็ดังขึ้นหึ่งๆ ตามหลัง
“เราเสกคาถาป้องกันรอบๆ
แล้ว” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดต่อไป “แต่คาถาคงไม่อาจยับยั้งได้นานนัก
เราต้องคอยเสริมย้ำอยู่เรื่อยๆ
ดังนั้นฉันจะต้องขอให้พวกเธอเคลื่อนย้ายกันอย่างรวดเร็วและด้วยความสงบ
จงทำตามที่ฟรีเฟ็คของเธอ – ”
แต่คำพูดของเธอถูกกลบด้วยเสียงอีกเสียงที่ดังกังวานสะท้อนไปทั่วห้องโถง
เป็นเสียงสูง เยือกเย็นและชัดเจน ไม่มีใครบอกว่ามันมาจากไหน
ดูเหมือนมันจะเปล่งออกมาจากกำแพงโดยตรง มันอาจจะนอนหลับอยู่ที่นั่นมานับศตวรรษแล้ว
เหมือนกับสัตว์ร้ายที่ครั้งหนึ่งมันเคยถูกบังคับควบคุมเอาไว้
“ฉันรู้ว่าพวกคุณกำลังเตรียมต่อสู้”
มีเสียงกรีดร้องท่ามกลางกลุ่มนักเรียน
บางคนกอดกันแน่นและเหลียวมองรอบตัวอย่างหวาดหวั่น เพื่อหาต้นตอของเสียง
“ความพยายามของคุณนั้นไร้ผล คุณไม่อาจต่อกรกับฉันได้ ฉันไม่อยากสังหารพวกคุณ
ฉันนับถือเหล่าอาจารย์ฮอกวอตส์เสมอ ฉันไม่อยากหลั่งเลือดผู้วิเศษ”
ตอนนี้ในห้องโถงเงียบสนิท
เป็นความเงียบที่น่ากดดัน
"ส่งตัวพอตเตอร์ให้ฉัน"
เสียงของโวลเดอมอร์พูด "แล้วจะไม่มีใครเป็นอันตราย ส่งฝาแฝดพอตเตอร์ให้ฉัน
แล้วฉันจะไม่แตะต้องโรงเรียน ส่งตัวพอตเตอร์มาให้ฉัน
แล้วพวกคุณจะได้รับรางวัล"
"พวกคุณมีเวลาจนถึงเที่ยงคืน"
ความเงียบแผ่เข้ามาปกคลุมอีกครั้ง
ทุกศีรษะหันมา ตาทุกคู่ในที่นั้นเหมือนจะหาพวกเขาพบและสะกดให้พวกเขายืนตัวแข็งท่ามกลางลำแสงที่มองไม่เห็นนับพันๆ
ลำ แล้วร่างหนึ่งก็ผุดลุกขึ้นที่โต๊ะของสลิธีริน แพนซี่ พาร์กินสัน เธอยกแขนสั่นเทิ้มและกรีดเสียงว่า
"พวกมันอยู่นั่น! ฝาแฝดนรกอยู่นั่น! เดรโก!
จับพวกมันไว้สิ!"
ก่อนที่ใครจะได้เผยอปากพูด
เดรโกก็เคลื่อนตัวมาอยู่ข้างหน้าทั้งคู่
ยืนบังทั้งสองเอาไว้พร้อมกับยกไม้กายสิทธิ์อันเก่าของแท็คขึ้นมาถือในท่าเตรียมพร้อม
ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร คนจำนวนมากก็เคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียง
พวกกริฟฟินดอร์ที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างยืนขึ้นประจันหน้ากับพวกสลิธีริน
แล้วบ้านฮัฟเฟิลพัฟก็ยืนขึ้นพร้อมกับบ้านเรเวนคลอ
ทั้งหมดหันไปหาบ้านสลิธีรินอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม้กายสิทธิ์โผล่มาจากทุกหนทุกแห่ง
ใต้เสื้อคลุมและในแขนเสื้อ
"ขอบใจ
คุณพาร์กินสัน" ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดด้วยเสียงชัดถ้อยชัดคำ
"เธอออกจากห้องโถงไปกับคุณฟิลช์เป็นคนแรกเลย
แล้วนักเรียนที่เหลือในบ้านของเธอจะได้ตามไป"
โต๊ะประจำบ้านทั้งสี่ว่างลงช้าๆ
โต๊ะบ้านสลิธีรินว่างเปล่าทั้งโต๊ะ แต่นักเรียนเรเวนคลอที่โตๆ หลายคนยังอยู่
นักเรียนฮัฟเฟิลพัฟเหลือจำนวนมากกว่า ในขณะที่พวกกริฟฟินดอร์ครึ่งหนึ่งนั่งตรึงอยู่กับที่
ร้อนถึงศาสตราจารย์มักกอนนากัลต้องลงมาไล่ต้อนพวกอายุต่ำกว่าเกณฑ์ให้ออกไป
"ไม่มีทางเด็ดขาด
ครีฟวีย์ วอลเพิร์ต ไปซะ! เธอด้วย พีกส์!"
เฮเลนมองไปยังคอลิน
เดนิสและไนเจล พวกเขาทำหน้าบูดเล็กน้อยและเดินออกไป
"พอตเตอร์"
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูด "พวกเธอจะไปค้นหาอะไรกันไม่ใช่เหรอ"
"อะไรนะครับ"
แฮร์รี่ขมวดคิ้ว
"อ้อใช่ค่ะ!"
เฮเลนรีบรับ "ไปกันเถอะทั้งคู่!!"
เด็กสาวลากแฮร์รี่และเดรโกออกมาจากตรงนั้น
พวกเขาวิ่งออกจากห้องโถงใหญ่ท่ามกลางสายตาหลายคู่และแน่นขนัดไปด้วยนักเรียนที่กำลังอพยพ
พวกเขาไหลมาจนถึงบันไดหินอ่อน พวกเขาเดินเลี้ยวมุมหนึ่งแต่ไปต่อได้ไม่กี่ก้าวหน้าต่างทางขวามือก็แตกกระจายเสียงดังลั่น
เดรโกฉุดร่างเธอให้หลบไปข้างๆ
พร้อมกับร่างใหญ่มหึมาเหาะผ่านหน้าต่างมากระแทกกำแพงฝั่งตรงข้าม
ก้อนขนาดใหญ่ขนปุกปุยสะบัดตัวจากร่างที่เพิ่งมาใหม่ มันส่งเสียงครางหงิงๆ แล้วกระโจนใส่แฮร์รี่
"แฮกริด!"
แฮร์รี่ตะเบ็งเสียงพลางปัดป้องการตะกายต้อนรับของเจ้าเขี้ยว
ขณะที่ร่างใหญ่มหึมามีเครารุงรังตะเกียดตะกายยืนขึ้น “นี่มัน – ”
“แฮร์รี่ เฮเลน
พวกเธออยู่ที่นี่! พวกเธออยู่ที่นี่จริงๆ
ด้วย!”
แฮกริดก้มตัวลงมากอดพวกเขาอย่างเร่งรีบจากนั้นก็วิ่งกลับไปที่หน้าต่างบานที่แตก
“ดีมากเจ้าหนูกรอว์ปี้!” เขาตะเบ็งเสียงผ่านหน้าต่าง “เดี๋ยวเจอกันนะ ทำตัวดีดีล่ะเจ้าหนู!”
เฮเลนก้มมองดูนาฬิกา
เป็นเวลาเที่ยงคืน การรบเริ่มต้นขึ้นแล้ว...
“ต้องไปแล้วแฮร์รี่!” เฮเลนดึงแขนเขาและเดรโกวิ่งไปตามระเบียง ทั้งเสียงฝีเท้าและเสียงตะโกนดังขึ้นรอบด้าน
ลำแสงสว่างวาบขึ้นอีก ในบริเวณโรงเรียนมืดสนิท “มัวรอช้าไม่ได้แล้ว
เราต้องไปห้องต้องประสงค์!”
ศาสตราจารย์สเปราต์วิ่งโครมครามผ่านไป
มีเนวิลล์และคนอื่นๆ อีกครึ่งโหลตามไปด้วย
ทั้งหมดสวมที่ปิดหูและถือสิ่งที่ดูเหมือนไม้กระถางขนาดใหญ่
พวกเขาออกวิ่งห้อออกไปโดยมีแฮกริดและเขี้ยววิ่งควบตามมาข้างหลัง
แฮกริดดูไม่สนใจเดรโกหรือสงสัยในตัวเขาเลยแม้แต่นิด
พวกเขาวิ่งผ่านรูปภาพรูปแล้วรูปเล่า ร่างต่างๆ ในรูปภาพกำลังวิ่งแข่งกันไปข้างๆ
พวกเขาด้วย ทั้งพ่อมดแม่มดที่สวมแผงระบายรอบคอและกางเกงรัดรูป หรือสวมชุดเสื้อเกราะและเสื้อคลุม
ทุกคนเบียดเสีดกันเข้าไปในผืนผ้าใบของคนอื่นๆ พร้อมกับตะโกนส่งข่าวจากส่วนอื่นๆ
ของปราสาท เมื่อพวกเขาไปถึงสุดระเบียงทางเดิน ปราสาททั้งหลังก็เริ่มสั่นสะเทือน
และเมื่อแจกันยักษ์ใบหนึ่งเกิดบินจากฐานตั้งด้วยแรงระเบิดมหาศาล
พวกเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าปราสาทตกอยู่ในอุ้งมือของเวทมนตร์ชั่วร้าย...
ชั่วร้ายกว่าของอาจารย์และสมาชิกภาคีหลายเท่า
“ไม่เป็นไรเขี้ยว
– ไม่เป็นไรหรอก!” แฮกริดตะโกน
แต่เจ้าหมาล่าหมูป่าวิ่งแจ้น เมื่อเศษกระเบื้องปลิวว่อนแหวกอากาศมาเหมือนลูกกระสุน
แฮกริดวิ่งไล่ตามสุนัขที่หวาดกลัวของเขาไป
ทั้งสามคนวิ่งต่อไปตามเส้นทางที่สั่นไหว
ไม้กายสิทธิ์อยู่ในมือท่าเตรียมพร้อม พวกเขากระโจนเลี้ยวตรงหัวมุม พบเฟร็ดกับนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ทุกคนกำลังเงี่ยหูฟังตรงช่องที่ถูกปิดผนึก
“นี่แหละ
คืนแห่งการต่อสู้!” เฟร็ดตะโกน
ปราสาทสั่นสะเทือนอีกครั้ง ทั้งสามคนวิ่งต่อไป พวกเขาถลาเข้าไปในระเบียงทางเดินอีกแห่ง
แล้วทันใดนั้นก็มีนกฮูกอยู่ทั่วไปหมด
คุณนายนอร์ริสกำลังขู่ฟ่อและพยายามยกอุ้งตีนขึ้นตบนก
“พอตเตอร์!” อาเบอร์ฟอร์ธ ดัมเบิลดอร์ยืนขวางทางอยู่ข้างหน้า
ไม้กายสิทธิ์ถือพร้อมอยู่ในมือ “มีเด็กวิ่งโครมครามทะลุร้านฉันเป็นร้อยๆ คน! ฉันไม่ได้หูหนวก คนทั้งฮอกส์มี้ดได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น
แล้วนี่ไม่มีใครคิดได้เลยเหรอว่าควรจะจับเด็กสลิธีรินเอาไว้เป็นตัวประกันบ้าง”
“แค่นั้นคงหยุดโวลเดอมอร์ไม่ได้หรอกครับ”
แฮร์รี่ตอบ
“ดัมเบิลดอร์คงไม่มีวันทำแบบนั้นแน่ๆ
ค่ะ” เฮเลนพูดตาม
อาเบอร์ฟอร์ธกัดฟันแล้วเดินไปอีกทาง
พวกเขาวิ่งต่อไปอีกจากนั้นก็เลี้ยวถไลอ้อมหัวมุมสุดท้าย
แล้วก็ต้องร้องออกมาด้วยความโล่งใจเมื่อพบรอน เฮอร์ไมโอนี่และแท็ค
รอนหนีบไม้กวาดเอาไว้ใต้แขนและแท็คถือไม้กวาดอีกด้ามเอาไว้ในมือด้วย
“เราทำสำเร็จ!” รอนพูด “แท็คช่วยเราให้เข้าไปในห้องนั้น ต้องขอบใจเขาจริงๆ
ดีใจมากที่เขาไม่ได้ฆ่าเรา”
“รอน!” เฮเลนเหว “เขาช่วยนายนะ”
มีเสียงระเบิดดังขึ้น
ทั้งหกคนเหงนหน้าขึ้นมอง ฝุ่นละอองปลิวฟุ้งลงมาจากเพดานแล้วก็มีเสียงกรีดร้องดังๆ
มาจากที่ห่างไกล
“เราคงต้องไปกันแล้ว”
เดรโกพูดหลังจากที่เงียบมานานมาก “ฉันรู้แล้วว่ามันอยู่ที่ไหน – ฉันมั่นใจด้วย – ว่ามันอยู่ที่ห้องต้องประสงค์!”
“แต่ห้องต้องประสงค์เราใช้อพยพคนกันอยู่นะ!” รอนร้อง “ไม่ใช่ที่นั่นแน่!”
“ผมรู้แล้วว่ากำลังพูดถึงห้องไหน”
แท็คว่า “ห้องที่คุณไปเปิดตู้อันตรธานใช่ไหม คุณมัลฟอย”
เดรโกพยักหน้า
ขณะที่กำแพงสั่นไหวอีกครั้ง
เฮเลนเดินนำพวกเขาเข้าไปในประตูที่ซ่อนตัวอยู่และลงบันไดไปสู่ห้องต้องประสงค์ ในห้องไม่มีใครเลยนอกจากผู้หญิงสามคน
คือจินนี่ ท็องส์และแม่มดชราผู้สวมหมวกเก่าคร่ำคร่า เฮเลนมั่นใจว่าเธอคือคุณย่าของเนวิลล์
"อ้าว พอตเตอร์" เธอพูดเสียงสดชื่น ราวกับกำลังรอคอยพบพวกเขาอยู่ "บอกเราหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง"
"ทุกคนปลอดภัยหรือเปล่า" จินนี่และท็องส์ถามพร้อมกัน
"ปลอดภัย ฉันแน่ใจ" เฮเลนบอก "ยังมีคนอยู่ในทางไปร้านหัวหมูอีกไหม"
ห้องจะไม่มีวันเปลี่ยนไปถ้าตราบใดที่ยังมีคนใช้มันอยู่
"ฉันเป็นคนสุดท้ายที่ออกมา" นางลองบัตท่อมพูด "ฉันปิดผนึกมันแล้วล่ะ รู้สึกว่าเปิดไว้คงไม่ดีแน่ เพราะอาเบอร์ฟอร์ธทิ้งร้านออกมาแล้ว จะว่าไปพวกเธอเห็นหลานชายของฉันไหม"
"เขากำลังต่อสู้อยู่ครับ" แฮร์รี่ตอบ
"แน่ล่ะสิ" หญิงชราพูดอย่างภูมิใจ "ขอโทษทีนะ ฉันคงต้องไปช่วยเขาอีกแรง"
เธอออกวิ่งไปยังบันไดหินด้วยความเร็วที่น่าประหลาดใจ
"ผมคิดว่าคุณอยู่กับเท็ดดี้ที่บ้านแม่คุณเสียอีก" แฮร์รี่มองท็องส์
"ฉันทนไม่ได้หรอก ไม่รู้เรื่องอะไรเลย -- " ท็องส์มีสีหน้าอมทุกข์ "แม่จะดูแลเขาเอง -- เธอเห็นรีมัสหรือเปล่า"
"อย่า!" เฮเลนร้องก่อนที่แฮร์รี่จะเปิดปากบอกเขา "อย่าไป - ถ้าคุณไปเท็ดดี้จะ -- "
"แม่ฉันจะดูแลเขา - " ท็องส์หลุบตาลงมือไม้กายสิทธิ์ในมือ "ฉันต้องไปหารีมัส ฉันปล่อยให้เขาสู้เพียงลำพังไม่ได้!"
เฮเลนเงียบเสียงและหันหน้าไปอีกทางเมื่อแฮร์รี่ชี้บอกท็องส์ว่าลูปินไปที่ไหน ท็องส์ไม่ตอบอะไร เธอวิ่งห้อออกไปจากห้องทันที
"จินนี่" แฮร์รี่พูด "ขอโทษที เราต้องให้เธอออกไปด้วย แค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น แล้วค่อยกลับเข้ามาใหม่นะ"
จินนี่รู้สึกยินดีปรีดาขึ้นมาทันทีที่จะได้ออกจากที่หลบภัย
"แท็คจะไปกับเธอด้วย" แฮร์รี่ว่า "เขาก็ยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ ที่จริงเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อสู้ในครั้งนี้ด้วยซ้ำ -- ฝากดูแลจินนี่ด้วย"
แท็คนิ่วหน้า เขาหันมามองเฮเลนด้วยสายตาประหลาด
"เธอรู้ใช่ไหมว่าถ้าฉันไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น" แท็คพูด น้ำเสียงแฝงเอาไว้ด้วยความเจ็บปวดและความโศกเศร้าเจือจางอยู่ในนั้น "เธอรู้ใช่ไหม -- ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันหลังจากนี้"
เฮเลนมองหน้าแท็ค เธอไม่อาจบอกได้ว่าตัวเองรู้อะไรหรือไม่รู้อะไร เธอไม่อยากนึกถึงคนที่ไม่มีบทบาทในเนื้อเรื่องมาตั้งแต่แรกอย่างเขา เฮเลนได้แต่พยักหน้าและยอมรับสิ่งที่ปรากฏขึ้นในหัวอย่างช้าๆ แท็คยิ้มออกมาบางๆ เขาเหลือบขึ้นไปมองใบหน้าของเดรโกเล็กน้อย
"ถ้าผมขอโอกาสสักครั้ง คุณคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ" แท็คพูด "มันคงเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของผมแล้ว คุณมัลฟอย"
"นายจะเรียกฉันว่าเดรโกก็ได้นะ" เดรโกพูดเสียงเบา เขาพยักหน้าเล็กน้อยให้แท็คและทั้งสองคนก็ยื่นมือมาจับมือกันและเขย่าเบาๆ "ถ้านายสาบานว่าครั้งนี้เป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย ฉันจะยอมก็ได้ - แต่ครั้งเดียวนะ"
แท็คหัวเราะเบาๆ ในรอบหลายปี เฮเลนไม่เคยเห็นเขาหัวเราะมาก่อนตั้งแต่ได้พบกัน
"พวกนายกำลังพูดเรื่องอะไรกัน" รอนขมวดคิ้วและถามสลิธีรินทั้งสองด้วยน้ำเสียงงงงวย
แต่แล้วเขาก็ได้รับคำตอบอย่างรวดเร็วเมื่อแท็คดึงร่างของเฮเลนเข้าไปกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว เดรโกหันหลังให้กับพวกเขาเพื่อไม่ให้ตัวเองมองภาพที่อาจทำให้เขาฆ่าแท็คในภายหลังได้ เขาสวมกอดเธอด้วยความรู้สึกอบอุ่นเป็นครั้งแรก แท็ควางคางลงบนไหล่ของเฮเลน เขากระซิบด้วยเสียงอันเบาว่า "ขอบคุณที่เข้าใจ"
ครู่หนึ่งแท็คก็ผละออกจากร่างของเธอพร้อมกับพาจินนี่ออกไปข้างนอกห้องต้องประสงค์เงียบๆ เดรโกถอนหายใจพรืดแล้วหันหลังกลับมาดังเดิม
"เดี๋ยวนะ" รอนพูด "เราลืมใครไปหรือเปล่า"
"ใคร" เฮอร์ไมโอนี่ถาม
"เอลฟ์ประจำบ้านน่ะสิ" รอนว่า "พวกมันอยู่ในครัวข้างล่างไม่ใช่หรือไง"
"นายหมายความว่าเราควรสั่งให้มันสู้งั้นเหรอ" เดรโกถาม
"ไม่ใช่" รอนพูดอย่างเคร่งขรึม "ฉันว่าเราควรบอกพวกนั้นให้ออกไป เราคงไม่อยากเจอแบบด๊อบบี้จริงไหม เราจะสั่งให้พวกนั้นตายเพื่อเราไม่ได้หรอก -- "
"หยุดเลยนะ ยัยเกรนเจอร์!" เดรโกแยกเขี้ยว ยกมือขึ้นกอดอกจ้องหน้าเฮอร์ไมโอนี่เมื่อเธอทำท่าจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงรอน "ถ้าฉันไม่ได้ทำ เธอก็ต้องไม่ได้ทำด้วย"
"มันไม่ใช่เวลา เนอะเดรโก" แฮร์รี่พูดเห็นดีเห็นงามกับเดรโกอย่างออกนอกหน้า "ที่นี่เขากำลังรบกันอยู่!"
"ฉันเข้าใจ" รอนพูด สีหน้าราวกับถูกลูกบลัดเจอร์ฟาดใส่ศีรษะ "แต่ถ้าไม่ทำ เราจะไปทำตอนไหนล่ะ"
"คอยก่อนเถอะย่ะ!" เฮเลนพูด "รอให้เราได้ฮอร์ครักซ์ -- รัดเกล้าของเรเวนคลอ -- ก่อนเถอะ"
"อา -- ใช่ -- ถูกต้อง -- ขอโทษนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดตะกุกตะกัก
พวกเขาก้าวออกไปสู่ระเบียงทางเดินอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าไม่กี่นาทีที่พวกเขาอยู่ในห้องต้องประสงค์ สถานการณ์ในปราสาทได้เลวร้ายลงไปอีกหลายเท่า กำแพงและเพดานสั่นไหวมากกว่าเก่า ผงฝุ่นลอยคลุ้งอยู่กลางอากาศ ลำแสงสีแดงสีเขียวสว่างวาบอยู่ใกล้ฐานปราสาท
จินนี่กับท็องส์ถือไม้กายสิทธิ์อยู่ที่หน้าต่างแตกๆ บานถัดไป ขณะที่มองดู จินนี่ยิงคำแช่งไปยังกลุ่มคนที่ต่อสู้กันอยู่เบื้องล่างอย่างแม่นยำ
"ดีมากสาวน้อย" ร่างที่วิ่งฝ่าฝุ่นธุลีมาทางพวกเขาคำรามขึ้น อาเบอร์ฟอร์ธวิ่งผมปลิวสะบัด ขณะนำนักเรียนกลุ่มเล็กผ่านไป "ดูเหมือนพวกมันจะตีกำแพงทางเหนือแตก มันเอายักษ์มาด้วย!"
"คุณเห็นรีมัสหรือเปล่า" ท็องส์ถามไล่หลังเขาไป
"เห็นกำลังสู้อยู่กับโดโลฮอฟ" อาเบอร์ฟอร์ธตะโกนตอบ "หลังจากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย"
"ท็องส์!" จินนี่พูด "ท็องส์ หนูแน่ใจว่า -- "
ท็องส์วิ่งฝ่าฝุ่นตามอาเบอร์ฟอร์ธไปแล้ว จินนี่หันมาหาแฮร์รี่ เฮเลน เดรโก รอนและเฮอร์ไมโอนี่อย่างหมดหวัง
"แท็คหายไปไหนล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ร้องขึ้น "แล้วแท็คล่ะ!"
"เขาไปแล้ว" เฮเลนพูดเสียงแผ่ว "มันเป็นชะตาของเขา -- เขาไปแล้ว"
"เขาหายไปก่อนที่พวกพี่ออกมาแค่นิดเดียวเอง!" จินนี่พูด "แค่สองวินาทีที่แล้ว! ฉันไม่เข้าใจว่าเขาหายไปได้ยังไง"
"พวกเขาจะปลอดภัยน่า" แฮร์รี่พูด แต่ก็รู้ว่ามันเป็นคำที่ไร้ความหมาย "จินนี่ อย่าไปไหนนะ หลบให้ปลอดภัยล่ะ -- ไปกันเถอะ"
พวกเขาวิ่งย้อนกลับไปที่กำแพงหน้าห้องต้องประสงค์ มันกำลังรอคอยจะตอบสนองคำขอรายต่อไป
เราต้องการที่ที่ซ่อนทุกอย่างไว้
ประตูปรากฏขึ้นมาอย่างช้าๆ
ทั้งห้าเข้าไปในห้องและปิดประตู เสียงต่อสู้เกรียวกราวหายวับไปทันที ทุกสิ่งเงียบกริบ พวกเขาอยู่ในห้องที่กว้างใหญ่พอๆ กับวิหาร สภาพรอบตัวเหมือนนครแห่งหนึ่ง มีกำแพงสูงตระหง่านสร้างจากสิ่งของที่ถูกซ่อนไว้ โดยนักเรียนนับพันคนที่จากไปนานแสนนานแล้ว
"แล้วเขายังไม่รู้อีกเหรอว่าใครๆก็เข้ามาในนี้ได้" รอนพูดขึ้น เสียงก้องสะท้อนในความเงียบ
"เขารู้" เดรโกบอก "แต่เขาแค่ไม่คิดว่าจะมีใครรู้ว่าเขาจะซ่อนมันเอาไว้ที่นี่"
"แย่หน่อยที่ฉันก็ต้องหาที่ซ่อนของ แล้วเดรโกก็ต้องหาทางพาผู้เสพความตายมาที่นี่เหมือนกัน" แฮร์รี่พูด
"ฉันคิดว่ามันอยู่ตรงนั้น" เฮเลนว่าแล้วเดินผ่านโทรลล์ที่ถูกสตัฟฟ์ ผ่านตู้อันตรธานที่เดรโกซ่อมจนเสร็จเมื่อปีก่อน และนำมาซึ่ยหายนะอันใหญ่หลวงตามแผนที่ดัมเบิลดอร์ได้วางเอาไว้ ให้พวกเขาได้ทำตามและแก้ปัญหาของมันได้ด้วยตัวเอง เฮเลนไม่แน่ใจแล้วว่าต้องไปทางไหนต่อ
"แยกกันหาเถอะ" เดรโกพูด
"หารูปสลักผู้ชายใส่วิกกับมงกุฏ" แฮร์รี่บอก "มันจะอยู่บนหลังตู้ ที่ไหนสักแห่งแถวๆ นี้แหละ"
ทั้งหมดออกวิ่งไปตามเส้นทางที่ติดกัน เฮเลนได้ยินเสียงฝีเท้าเพื่อนก้องสะท้อนผ่านข้าวของที่กองสูงเหมือนหอคอย ทั้งขวด หมวก ลัง เก้าอี้ หนังสือ อาวุธ ไม้กวาด ไม้บลัดเจอร์...
เฮเลนเดินเข้าไปกับแฮร์รี่ เธอมั่นใจว่าเขาจะหาเจอ ลึกเข้าไปในวงกต กวาดตามองหาข้าวของต่างๆ ที่เคยเห็นในหัวสมอง ในที่สุดฝาแฝดก็พบมัน มันอยู่ตรงหน้านั่น ตู้เก็บของที่เป็นแผลพุพองไปทั้งตู้ บนหลังตู้มีรูปสลักพ่อมดที่หน้าเป็นข้าวตังตั้งอยู่ สวมผมปลอมเก่าๆ ฝุ่นเขรอะ และสิ่งที่เหมือนมงกุฏโบราณสีหมอง
"ระวังนะแฮร์รี่" เฮเลนกระซิบ "เดี๋ยวจะต้องมีคนมา"
"เธอว่าไงนะ"
"แครบกับกอยล์จะต้องมาที่นี่" เฮเลนพูดเสียงเบา "แต่ฉันไม่แน่ใจว่าจะมีใครนำพวกเขามา เพราะเดรโกอยู่กับเราที่นี่ -- กระชับไม้เอาไว้ด้วยนะ"
แฮร์รี่พยักหน้าช้าๆ เขาล้วงไม้กายสิทธิ์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อพร้อมๆ กับเฮเลน เธอยื่นมือออกไปข้างหน้า แม้ว่าจะอยู่ห่างถึงสิบฟุต แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นทางด้านหลังดังคาด
"หยุดก่อน พอตเตอร์"
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น