ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #76 : บทที่ 2 มังกร

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 65


    บทที่ 2 มังกร


    เฮเลนรู้สึกอำนาจควบคุมจิตใจวิ่งจากสมองลงมาสู่ไม้กายสิทธิ์ บ็อกร็อดทำหน้าเฉยเมยอย่างสุภาพ รอนวิ่งไปหยิบถุงหนังบรรจุเครื่องมือโลหะขึ้นมา

    “เขากำลังจะได้สติ” เธอพูดพร้อมหอบน้อยๆ “เอาล่ะ แล้วเราจะเอาไงต่อ”

    เฮอร์ไมโอนี่ชี้ไม้กายสิทธิ์ของเบลาทริกซ์ไปที่น้ำตกและร้องว่า “โพรเทโก้” ทุกคนเห็นคาถาเกราะวิเศษแหวกผ่านสายน้ำต้องมนตราและเหินกลับขึ้นไปตามทาง

    “นำทางไปเลยกริ๊บฮุก!” แฮร์รี่ร้อง

    “แล้วเราจะออกไปยังไงล่ะ” รอนถาม ขณะที่พวกเขาออกกวิ่งตามหลังก๊อบลินไปในความมืด บ็อกร็อดหอบแฮกๆ ตามหลังเดรโกมารั้งท้าย

    “ฉันคิดว่าเฮอร์ไมโอนี่ต้องมีวิธีดีดี” เฮเลนบอก ในหัวพลันปรากฏภาพของมังกรตัวใหญ่

    “ฉันเนี่ยนะ” เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว สองขายังคงวิ่งตามไปอย่างไม่ลดละ เฮเลนพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าได้ยินเสียงโกร่งกร่างและเสียงเคลื่อนที่อยู่ไม่ไกล แฮร์รี่พูดว่า “กริ๊บฮุก อีกไกลไหม”

    “ไม่ไกลแล้ว แฮร์รี่ พอตเตอร์ ไม่ไกล...”

    พวกเขาเลี้ยวตรงหัวมุมแล้วก็เห็นสิ่งที่เฮเลนเพิ่งจะคิดอยู่ในสมองเมื่อครู่ มันทำให้ทุกคนหยุดกึก

    มังกรตัวมหึมาถูกล่ามโซ่เอาไว้ที่พื้นเบื้องหน้าพวกเขา ขวางกั้นทางไปสู่ห้องนิรภัยสี่หรือห้าห้องที่อยู่ลึกที่สุด เกล็ดของมังกรเป็นสีซีดจาง ดวงตาเป็นสีชมพูขุ่น ขาหลังทั้งสองข้างใส่ปลอกหนักๆ มีโซ่ล่ามมหึมาที่ฝังลึกลงไปในหิน ปีกใหญ่ที่มีหนามแหลมพับแนบอยู่ข้างลำตัว มันหันหัวมาทางพวกเขาและส่งเสียงคำรามกึกก้องจนหินสั่นสะเทือนและอ้าปากพ่นลูกไฟออกมาเป็นสาย ทำให้พวกเขาต้องถอยครูดกลับไปทางเดิม

    “ตามันมืดมัว” กริ๊บฮุกพูดหอบๆ “แต่ก็ยิ่งทำให้มันดุขึ้นไปอีก แต่ว่าเรามีเครื่องมือที่จะควบคุมมันนะ มันเรียนรู้แล้วว่าจะเจออะไรถ้าได้ยินเสียงก๋องแก๋ง ส่งมันมาให้ผมสิ”

    รอนส่งถุงไปให้กริ๊บฮุก ก๊อบลินล้วงเอาเครื่องมือโลหะอันเล็กๆ จำนวนหนึ่งออกมาเขย่า ทำให้เกิดเสียงสั่นดังๆ เหมือนค้อนขนาดจิ๋วเคาะทั่งเหล็ก กริ๊บฮุกแจกจ่ายเครื่องมือนั้นให้กับทุกคน บ็อกร็อดรับมาอย่างว่าง่าย

    “พวกคุณรู้นะว่าต้องทำยังไง” กริ๊บฮุกบอก “มันรู้ว่ามันจะต้องเจ็บตัวเมื่อได้ยินเสียงนี่ เพราะฉะนั้นมันจะถอยไป แล้วบ็อกร็อดต้องทาบฝ่ามือลงบนประตูห้องนิรภัย”

    ทุกคนเดินเลี้ยวหัวมุมไปอีกครั้งพลางเขย่าก๋องแก๋งไปด้วย เสียงของมันก้องสะท้อนไปทั่วกำแพงหิน เมื่อเข้าไปใกล้ ทุกคนก็เห็นรอยแผลเป็นจากการถูกกรีดเหวอะหวะบนใบหน้าของมัน มันคงถูกสอนให้กลัวดาบเมื่อได้ยินเสียงก๋องแก๋ง เฮเลนใช้มืออีกข้างสะบัดไม้กายสิทธิ์ไปทางบ็อกร็อด ทำให้เขาเดินไปกดฝ่ามือลงบนประตูก่อนที่กริ๊บฮุกจะทันได้อ้าปาก ประตูห้องนิรภัยหายไป เผยให้เห็นห้องที่เหมือนถ้ำขนาดใหญ่ ภายในแน่นขนัดตั้งแต่พื้นจดเพดาน

    “รีบ – ” แฮร์รี่ยังไม่ทันพูดจบประโยคก็เกิดเสียงขึ้นทางด้านหลัง ประตูปรากฏขึ้นพร้อมกับปิดขังพวกเขาเอาไว้ภายใน

    ลูมอส!” เดรโกตะโกน “เรามีเวลาไม่มาก ฉันพอจะจำได้ลางๆ ว่ามันอยู่ที่ไหน”

    “แล้วเราจะออกไปยังไง!” รอนร้อง หลังจากที่ทุกคนจุดไฟบนไม้กายสิทธิ์ของตนเอง

    “ไม่มีปัญหา!” กริ๊บฮุกพูด “บ็อกร็อดจะพาเราออกไปได้ รีบๆ เข้าเถอะ!

    ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเอื้อมมือควานหาของนั้น เฮเลนก็ตะโกนเสียงดังว่า “หยุดก่อน!

    “อะไร!” รอนว่า “เราต้องรีบนะ”

    “ของพวกนี้ถูกลงคาถาเอาไว้” เธอพูด “ถ้าแตะโดน มันจะเพิ่มจำนวนขึ้น”

    เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด ถ้วยเชิงอัญมณีหล่นจากมือเธอกลิ้งลงไปที่พื้น มันแตกตัวออกมากมายจนกลายเป็นถ้วยเชิงที่ตกกระจายดุจสายฝนกระหน่ำ เสียงเคร้งคร้างดังสนั่น ถ้วยมีเชิงกระจายเกลื่อนเต็มพื้น ไม่มีทางมองออกเลยว่าอันไหนคือใบที่แท้จริง

    “มันลวกมือฉัน!” เฮอร์ไมโอนี่ครางพลางสะบัดมือไปมา

    “ฉันบอกว่าอย่าแตะไงเล่า!” เฮเลนแยกเขี้ยว ดวงตากวาดมองไปรอบห้องเพื่อมองหาเดรโกที่เดินหายไปในความมืด “พวกมันเสริมคำสาปเจมิโนกับฟลาแกรนเตเอาไว้! มันจะไหม้มือและเพิ่มจำนวนขึ้น อย่าจับอะไรอีก – ไม่งั้นเราถูกทองทับตายที่นี่แน่!

    “มันอยู่นั่น!” เดรโกตะโกนจากที่ไกลๆ ถ้วยของ เฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ เป็นประกายสว่างวาบอยู่ชั้นบนสูงลิบ

    “แล้วเราจะถ่อขึ้นไปเอาลงมาได้ยังไงโดยที่ไม่แตะต้องอะไรเลย” รอนถาม

    แอ๊กซีโอ ถ้วย!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง

    “ไม่ได้ผล มันไม่ได้ผลหรอก!” ก๊อบลินตะคอกใส่

    “ถ้างั้นเราจะทำยังไงล่ะ” แฮร์รี่พูด จ้องก๊อบลินเขม็ง “ถ้าคุณอยากได้ดาบนะกริ๊บฮุก คุณก็ต้องช่วยเรามากกว่านี้ – เดี๋ยวก่อน! เฮอร์ไมโอนี่ ส่งดาบมานี่หน่อย!

    แฮร์รี่สอดดาบเข้าไปที่หูถ้วยใบที่ใกล้ที่สุด มันไม่ทวีคุณออกมาแต่ว่าพวกเขาไม่มีทางเลยที่จะขึ้นไปข้างบนนั้นได้ คลื่นความร้อนจากสมบัติต้องมนตราทวีความร้อนขึ้นเรื่อยๆ เดรโกเดินกลับเข้ามาด้วยท่าทางกังวล เหงื่อไหลอาบหน้าและหลังของเขา เสียงมังกรคำรามจากอีกด้านของประตูห้องนิรภัยและเสียงก๋องแก๋งดังมาจากข้างนอกนั้น ดูเหมือนว่าก๊อบลินอีกฝูงกำลังใกล้เข้ามาทางนั้น ความหวาดกลัวประทับอยู่บนใบหน้าของทุกคน

    ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็ใช้คาถาเลวิคอร์พัสช่วยให้แฮร์รี่ลอยขึ้นไปด้านบน เขาถูกแขวนห้อยอยู่ในอากาศ ก๊อบลินทั้งสองกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อชุดเกราะทั้งชุดกำลังร่วงลงมาและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากแฮร์รี่แตะถูกมันเข้าโดยบังเอิญ ทุกอย่างเพิ่มจำนวนขึ้น เดรโกคว้าร่างของเธอเข้ากอดเอาไว้และพยายามตะเกียดตะกายออกจากกองสมบัติร้อนๆ ที่เพิ่มพูนสูงขึ้นเรื่อยๆ

    อิมเพอร์วิอัส!” เฮอร์ไมโอนี่กรีดเสียง เธอพยายามป้องกันทุกคนจากโลหะที่ร้อนฉ่า

    รอนกระเสือกกระสนช่วยบ็อกร็อดไม่ให้เลื่อนไหลลงไปในกระแสคลื่นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่กริ๊บฮุกถูกสมบัติกลืนจนหายไปจากสายตาเห็นแต่ปลายนิ้วโผล่ขึ้นมา เฮเลนดึงปลายนิ้วของเขาและขอให้เดรโกช่วยกันดึงเขาออกมา เนื้อตัวมีแต่แผลพุพอง ปากส่งเสียงร้องโหยหวน

    เฮเลนเห็นแฮร์รี่ทำดาบหลุดมือเมื่อเขาร่วงลงมา กริ๊บฮุกำพุ่งกระโจนไปทางนั้นในทันที ในวินาทีนั้นพวกเขารู้ได้ทันทีเลยว่าก๊อบลินไม่เคยมั่นใจเลยว่าพวกเขาจะรักษาคำพูด ถ้วยทองใบเล็กหลุดจากดาบลอยไปในอากาศ รอนรับมันเอาไว้ได้ดูท่าว่ามันคงจะร้อนเหมือนกับสมบัติชิ้นอื่นๆ แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยมือ ถ้วยฮัฟเฟิลพัฟอีกเป็นร้อยระเบิดออกจากมือเขาตกเกลื่อนไปทั่ว ทันใดนั้นห้องนิรภัยก็เปิดออกอีกครั้ง เฮเลนไถลลงไปตามกองเงินทองที่ร้อนฉ่า มันพาพวกเขาไหลออกมาจนถึงห้องโถงด้านนอก

    “ขโมย! ขโมย! ช่วยด้วย! ขโมย!” เฮเลนเห็นกริ๊บฮุกกวัดแกว่งดาบแล้วร้องลั่น เขาหายตัวไปในกลุ่มก๊อบลินที่ดาหน้าเข้ามา ทั้งหมดถือมีดสั้นและยอมรับเขาเข้าพวกโดยไม่ไต่ถาม

    “ไอ้พวกยี้งี่เง่า!” เดรโกสบถและตะเกียดตะกายยืนขึ้น “แล้วจะเอาไงต่อล่ะทีนี้”

    สตูเปฟาย!” แฮร์รี่ร้อง เฮเลน เดรโก รอนและเฮอร์ไมโอนี่จึงเข้ามาร่วมวงด้วย ลำแสงสีแดงเหาะเหินเข้าไปในฝูงก๊อบลิน บางตัวล้มคว่ำลง แต่อีกหลายตัวยยังคงเดินหน้าต่อ ยามพ่อมดอีกหลายคนกำลังวิ่งเลี้ยวหัวมุมเข้ามาพร้อมกับเสียงคำรามของมังกร เปลวไฟลูกใหญ่พุ่งข้ามหัวก๊อบลินไป พวกพ่อมดพากันวิ่งถอยหลังกลับไปทางที่เข้ามา เฮอร์ไมโอนี่ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ปลอกคอหนามและตะโกนว่า “รีแลชซิโอ!

     ปลอกคอแตกออกเสียงดังสนั่น เฮเลนไม่แปลกใจเมื่อเฮอร์ไมโอนี่เรียกให้ทุกคนวิ่งตามเธอไป มังกรยังไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นอิสระแล้ว เฮอร์ไมโอนี่รีบปีนขึ้นไปเป็นคนแรก ตามด้วยรอน แฮร์รี่ เฮเลนและปิดท้ายด้วยเดรโกแล้วอีกไม่กี่วินาทีต่อมามังกรก็รู้ตัวว่ามันไม่ได้ถูกล่ามเอาไว้แล้ว

    มังกรคำรามเสียงก้องและชูคอขึ้น เฮเลนเกาะเกล็ดที่ขรุขระให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ หางตาเหลือบมองเดรโกเป็นระยะเพราะกลัวเหลือเกินว่าเขาจะร่วงลงไปเบื้องล่าง เดรโกเป็นเพียงบุคคลเดียวที่เฮเลนคิดว่าเขาไม่ควรอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การพาเขามาด้วยถือว่าเป็นการเสี่ยงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาเองว่าเขาอยากจะทำอะไร

    ปีกทั้งสองข้างของมังกรกางออก กรัแทกก๊อบลินที่กรีดร้องกระเด็นไปข้างๆ เหมือนพินโบว์ลิง แล้วมังกรก็เหินไปในอากาศ เฮอร์ไมโอนี่ รอน แฮร์รี่ เฮเลนและเดรโกก้มตัวราบอยู่บนหลังของมัน ร่างของพวกเขาครูดกับเพดานเมื่อมันพุ่งสู่ทางออก พวกก๊อบลินที่ตามมาขว้างมีดสั้นเข้าใส่ ตี่ดถูกสีข้างมังกรแล้วแฉลบออกไป

    มังกรอ้าปากพ่นไฟออกมาอีกครั้ง ระเบิดอุโมงค์จนพังถล่มลงมา มังกรคืบคลานและฟันฝ่าหาทางออกด้วยกำลังอันมหาศาล เฮเลนหลับตาแน่นเพื่อป้องกันความร้อนและฝุ่น เสียงหินแตกกระจายาดังอื้ออึงและเสียงคำรามของมังกรเสียดแทงเข้าไปในหู แล้วเสียงเฮอร์ไมโอนี่ก็ดังขึ้นอีกครั้งว่า “ดีโฟดีโอ!

    เธอขยายทางออกให้มังกร ขณะที่มังกรกระเสือกกระสนขึ้นไปหาอากาศสดชื่นเบื้องบน ไปให้ไกลจากพวกก๊อบลินที่กรีดร้องและทำเสียงก๋องแก๋ง พวกเขาทำตามเธอในทันที ทั้งห้าคนช่วยกันระเบิดเพดานด้วยคาถราเซาะร่อง พวกเขาผ่านทะเลสาบใต้ดินและดูเหมือนเจ้าสัตว์ร้ายจะรู้สึกได้ถึงอิสรภาพและพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเบื้องหน้า ขณธที่มันคืบคลานและส่งเสียงคำรามต่อไป เบื้องหลังพวกเขานั้น หางแหลมของมังกรหวดฟาดไปทั่วทางเดิน หินก้อนใหญ่และหินย้อยขนาดยักษ์แตกกระจายเกลื่อน เสียงก๋องแก๋งของก๊อบลินดูจะแผ่วลงไปทุกที ส่วนเบื้องหน้า เปลวเพลิงของมังกรเปิดทางต่อไปให้โล่งขึ้นๆ –

    แล้วในที่สุด ด้วยการรวมพลังระหว่างคาถากับความแข็งแกร่งดุร้ายของมังกร พวกเขาก็ระเบิดทางออกมาจนถึงโถงทางเดินหินอ่อนได้ ก๊อบลินและพ่อมดกรีดร้องและวิ่งหาที่หลบภัยกันจ้าละหวั่น ในทึ่สุดมังกรก็มีที่กว้างพอที่จะขยายปีกได้เต็มที่ มันหันหัวไปทางอากาศเย็นภายนอกที่มันได้กลิ่น แล้วมันก็เตรียมบิน เฮอร์ไมโอนี่ รอน แฮร์รี่และเดรโกยังคงเกาะติดอยู่บนหลัง มันใช้กำลังฝ่าประตูโลหะออกไป ทิ้งบานประตูโค้งงอและห้อยแต่งไว้เบื้องหลัง ขณะที่มันเดินโซเซออกมาที่ตรอกไดแอกอนแล้วพุ่งตัวเหินสู่ท้องฟ้า –

    ไม่มีวิธีที่พวกเขาจะบังคับทิศทางได้ มังกรมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่ามันกำลังไปทางไหน และเฮเลนคิดว่าอีกไม่นานพวกเขาจะต้องกระโดดลงไป ขณะที่มันบินผ่านลอนดอน สายลมเย็นก็โชยมาพัดช่วยบรรเทาความเจ็บปวดบนผิวหนังไหม้พอง ปีกของมังกรกระพือแหวกอากาศเหมือนกังหันลม

    ดูเหมือนเจ้ามังกรไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างอื่นนอกจากไปให้ห่างจากคุกใต้ดินให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้  มังกรตัวนี้แทบจะมองไม่เห็นจะหาที่เหมาะๆ ลงพักได้อย่างไรนอกจากพวกเขาจะลงจากหลังมันไปเอง รอยแผลเป็นบนหน้าผากเริ่มจะเจ็บแปลบๆ ขึ้นมาอีกเสียแล้ว เฮเลนรู้สึกหงุดหงิดหนักขึ้นเมื่อเธอเริ่มจะรู้แล้วว่าสุดท้ายพวกเขาจะทำอะไรต่อไป ไม่นานหลังจากนี้โวลเดอมอร์จะรู้ว่าพวกเขาเข้าไปในห้องนิรภัยของเบลาทริกซ์และเทียวหาว่าพวกเขาพบฮอร์ครักซ์ทั้งหมดหรือยังนอกจากนั้นเขาจะต้องพานากินีไปกับเขาทุกหนแห่งอย่างแน่นอน

    ในที่สุดมังกรก็บินผ่านแม่น้ำที่คดเคี้ยวและชนบทที่แบ่งเป็นตารางสีเขียวและน้ำตาล ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลง ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีครามแต่กระนั้นมังกรก็ยังคงบินต่อไป เงามหึมาของมังกรพาดไปบนพื้นเหมือนเมฆดำก้อนใหญ่ เฮเลนรู้สึกปวดข้อมือและเกือบทั่วทั้งร่างรู้สึกร้าวไปหมดเนื่องจากต้องเกาะอยู่บนหลังของมังกรเป็นเวลานาน

    “นี่เรากำลังลดระดับลงใช่ไหม” รอนตะโกน

    เทือกเขาสีเขียวเข้มและทะเลสาบสีทองแดงยามอาทิตย์อัสดง ภูมิประเทศทุกอย่างดูใหญ่ขึ้นและมีรายละเอียดมากขึ้น มังกรบินวนเวียนเป็นเกลียวขนาดใหญ่ ลดระดับลงเรื่อยๆ ดูเหมือนมันคงอยากจะมุ่งลงไปที่ทะเลสาบเล็กๆ ข้างล่างนั่น

    “เราต้องกระโดดลงไป” แฮร์รี่ร้องบอก “ลงไปในน้ำเลย ก่อนที่มันจะรู้ตัว!

    ไม่นานนักมังกรก็บินเลียบกับผิวน้ำ พวกเขาไถลตัวลงจากหลังและทิ้งตัวลงสู่ทะเลสาบ ปรากฏว่าระยะทางนั้นสูงเกินคาด เฮเลนจมลงในน้ำสีเขียวเย็นเยือก เธอพยายามเตะเท้าถีบตัวเองให้ขึ้นสู่ผิวน้ำแต่ทำไม่สำเร็จ ก่อนจะถูกใครบางคนช้อนตัวขึ้นไปเหนือน้ำ เธอหายใจหอบถี่และมองหน้าเดรโกที่มองตามมังกรไป เหมือนมันจะไม่รู้ว่าพวกเขาเคยอยู่บนหลังของมัน

    ทั้งห้าคนว่ายเข้าสู่ตลิ่ง ทะเลสาบดูจะไม่ลึกมากนัก เมื่อถึงฝั่งพวกเขาก็ทิ้งตัวลงนอน เปียกโชก หนาวสั่นและหายใจหอบถี่ หมดแรงอยู่บนหญ้าลื่นๆ เฮเลนเหลือบไปเห็นแฮร์รี่รีบลุกขึ้นเสกคาถาคุ้มครองรอบตัวทุกคนอย่างรวดเร็วก่อนจะกลับเข้ามานั่งพักข้างๆ รอน

    เฮเลนยันตัวลุกขึ้นและพบว่าทุกคนมีรอยไหม้พุพองอยู่ทั่วร่าง เธอล้วงหยิบกระเป๋าน้ำยาสำรองของตัวเองออกมา มันมีน้ำมันหนวดเมิร์ตแลปและหัวน้ำมันดิตทานีอยู่ภายใน พวกเขาช่วยกันหยดและแต้มยารักษาลงบนแผล ความรู้สึกแสบนิดๆ แล่นเข้าสู่สมอง ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะดึงน้ำฟักทองออกมาแจกจ่ายพร้อมเสื้อคลุมที่แห้งสะอาดสำหรับทุกคน พวกเขาจึงเปลี่ยนเสื้อและดื่มน้ำกัน

    “เฮเลนแก้ปัญหาได้ดีกว่าที่คิดนะ” แฮร์รี่พูด เขาจิบน้ำฟักทองในมือนิดหน่อย “เพราะไปอยู่ที่คฤหาสน์นั่นมาตั้งปี ถึงได้รู้เรื่องภายในนั้นเป็นอย่างดีสินะ”

    “ไม่หรอก” เฮเลนวางขวดน้ำฟักทองเปล่าลงบนพื้นหญ้า “ที่จริงเรื่องของเบลาทริกซ์ ฉันเห็นตั้งแต่อยู่ที่กระท่อมเปลือกหอยแล้ว แต่ – แต่ฉันไม่ได้บอกพวกนายเท่านั้นเอง”

    “หมายความว่าไง” รอนเลิกคิ้ว เขากระดกน้ำฟักทองอึกสุดท้ายเข้าปากและจ้องมองายังเฮเลน

    “ฉันเห็นเบลาทริกซ์ – ” ดวงตากลมเหลือบมองไปทางเดรโก เขาพยักหน้าเล็กน้อย “ – เบลา – ไม่สิคนที่คุณก็รู้ว่าใครกำลังหัวเราะ เขามีความสุข และ – และตรงหน้าเขามีเปลเด็ก”

    “เปลเด็ก” เฮอร์ไมโอนี่ทวนคำ “เปลเด็กเหรอ – เธอกำลังหมายความว่าคนที่คุณก็รู้ว่าใครมีลูก กับ – กับ เบลาทริกซ์!?”

    เฮเลนพยักหน้าเล็กน้อย เดรโกถอยหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้น

    “พวกนายไม่เห็นเหรอว่าเขาไม่มาปรากฏตัวเลยตอนที่บุกฮอกวอตส์” เดรโกเอ่ยเสียงแผ่ว “ตอนแรกฉันก็คิดว่าการที่ป้าเบลล่าใส่เสื้อผ้าตัวโคร่งๆ เพราะเธอร้อน – แต่ฉันคิดผิดไปหน่อย – หลังจากที่เฮเลนหนีหายไป เธอก็ใส่ชุดคลุมท้องเตรียมจะคลอดแล้ว แม็คมาเวลล์ได้รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กนั่นตั้งแต่นั้นมา และถ้าเฮเลนไม่บอกฉันเรื่องนี้ ฉันก็คิดว่าเด็กนั่นเป็นลูกของโรโดลฟัส”

    “แล้วแท็ค – ไม่สิ – แม็คมาเวลล์ยังต้องไปฮอกวอตส์นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด “เขาจะไปดูแลลูกของเบลาทริกซ์ตลอดได้ยังไงกันล่ะ”

    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” เดรโกส่ายหน้า เขากำขวดน้ำฟักทองเปล่าแน่น “ฉันกับแม่ถูกห้ามไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเดลฟินี่ – ชื่อเด็กคนนั้นน่ะ – เหมือนว่าจอมมารจะไว้ใจแค่แม็คมาเวลล์เท่านั้น”

    “แล้วอีกเรื่อง” รอนว่าพลางมองหนังบนมือที่กำลังงอกขึ้นมาใหม่ “เธอรู้ได้ยังไงว่าเฮอร์ไมโอนี่จะช่วยให้เราออกมาได้ – ตาพยากรณ์งั้นเหรอ”

    เฮเลนสะดุ้ง เธอไม่รู้ว่าจะตอบรอนไปว่าอย่างไรในเมื่อเธอเองก็ยังไม่มั่นใจเสียด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ปรากฏขึ้นในสมองคืออะไร เรื่องของโวลเดอมอร์และเรื่องที่ผิดคาดมากมายตีรวนกันไปหมด

    “ไม่เชิงหรอกนะ” เธอตอบ พยายามเลี่ยงคำตอบที่ชัดเจนเกินไป “ฉันเองก็เคยบอกไปแล้วว่าคนที่คุณรู้ว่าใครไม่มีทางชนะพวกเราหรอก แต่แฮร์รี่ไม่ฟังฉันเลยสักคำ”

    “ก็ฉันคิดว่ายังไงอนาคตก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอดนี่” แฮร์รี่พูด เขาหยดน้ำมันดิตทานีลงบนแขนขวาเมื่อสังเกตเห็นแผลที่ยังไม่ได้รักษา “อีกอย่าง ฉันกลัวเราเดาทางดัมเบิลดอร์ผิดไปมากกว่าชนะหรือแพ้ซะอีก”

    “เอาล่ะ เราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่านะ – ” รอยแทรกขึ้น “เราได้ฮอร์ครักซ์มาแล้ว แต่ข่าวร้ายก็คือ – ”

    “ – ไม่มีดาบ” แฮร์รี่พูด พลางถอนหายใจเล็กน้อย

    “ใช่ ไม่มีดาบ” รอนทวนคำ “จอมหักหลังตัวกระเปี๊ยก...”

    แฮร์รี่หยิบฮอร์ครักซ์ขึ้นมา มันส่องแสงแวววาวอยู่ใต้แสงแดด ดึงดูดสายตาของทุกคนที่วางขวดน้ำฟักทองเปล่าลงบนพื้นอย่างเชื่องช้า

    “อย่างน้อยคราวนี้เราก็ไม่ต้องสวมมันละ คงจะแปลกพิลึกถ้าเอาไอ้นี่มาห้อยคอ” รอนพูด

    “ว่าแต่ว่าเราจะทำอะไรต่อไปล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด “เขาจะต้องรู้แล้วใช่ไหม คนที่คุณก็รู้ว่าใครจะต้องรู้แล้วว่าเรารู้เรื่องฮอร์ครักซ์ของเขา”

    “บางทีพวกมันอาจจะกลัวจนไม่กล้าบอกเขาก็ได้” รอนพูดอย่างมีความหวัง “บางทีพวกมันอาจจะหาทางกลบเกลื่อนไป – ”

    ท้องฟ้า กลิ่นทะเลสาบ เสียงของรอน ดับวูบไปหมดสิ้น ความเจ็บปวดคือดาบที่ผ่าศีรษะเฮเลน เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในห้องที่มืดสลัว มีพ่อมดยืนเป็นรูปครึ่งวงกลมประจันหน้าเธอ ที่พื้นแทบเท้ามีร่างเล็กสั่นเทิ้มคุกเข่าอยู่


    “แกว่าอะไรนะ” เสียงของเขาสูงเยือกเย็น แต่โทสะและความกลัวเผาผลาญอยู่ข้างใน สิ่งเดียวที่หวาดกลัว – มันจะเป็นจริงไปได้อย่างไร

    ก๊อบลินตัวสั่นเทา ไม่อาจมองสบตาเจ้าของดวงตาสีแดงก่ำที่อยู่สูงค้ำศีรษะ

    “พูดอีกที!” โวลเดอมอร์พึมพำ “พูดออกมาอีกที!!

    “จะ – เจ้านาย” ก๊อบลินตะกุกตะกัก ดวงตาสีดำเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว “จะ – เจ้านาย...เราพะ – พยายาม – หยะ – หยุดพวกมัน... ตะ – ตัวปลอมขอรับ...บุก – บุกเข้าไป – ในหะ – ห้องนิรภัยของตระกูลเลสแตรงจ์...”

    “ตัวปลอมเหรอ ตัวปลอมอะไรกัน ฉันคิดว่ากริงกอตส์มีวิธีเผยโฉมคนที่ปลอมแปรงตัวไม่ใช่รึไง พวกมันเป็นใคร!

    “มันคือ...มันคือ...ฝะ – แฝดพะ – พอตเตอร์ กับ ผะ – ผู้สมรู้ร่วมคิดและ คะ – คนทรยศ – อีกสะ – สามคน”

    “แล้วพวกมันเอาอะไรไป” เขาพูดเสียงสูงขึ้น ความกลัวอันร้ายกาจเกาะกุมหัวใจ “บอกฉัน พวกมันเอาอะไรไป”

    “ถะ – ถ้วยทอง ละ – เล็กๆ จะ – เจ้านาย...”

    เขากรีดร้องด้วยความเดือดดาลและไม่อยากเชื่อ เสียงนั้นเหมือนเสียงของคนแปลกหน้า เขาโกรธจนคลั่ง มันไม่จริง มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ไอ้เด็กพวกนั้นรู้ความลับของเขาได้อย่างไร

    ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์หวดผ่านอากาศ ลำแสงสีเขียวระเบิดวาบไปทั่วห้อง ก๊อบลินที่คุกเข่าอยู่ล้มกลิ้ง ตายสนิท พ่อมดที่ยืนมองอยู่หนีกันหัวซุกหัวซุนต่อหน้าเขา ท่าทางหวาดกลัวสุดขีด เบลาทริกซ์กับนาร์ซิสซาวิ่งแข่งกันไปที่ประตูพลางผลักคนอื่นๆ ไปข้างหลัง ไม้กายสิทธิ์ของเขาหวดลงอีกครั้ง แล้วก็อีกครั้ง พวกที่เหลือทั้งหมดถูกฆ่า ยกเว้นเพียงแท็ค แม็คมาเวลล์เท่านั้น เพราะพวกมันนำข่าวมาบอกเขา เพราะมันได้ยินเรื่องถ้วยทองคำ –

    เมื่ออยู่ตามลำพังกับลูกชายท่ามกลางคนตายเกลื่อนห้อง เขาเดินกระทืบเท้ากลับไปมา แล้วภาพเหล่านั้นก็ผ่านเข้ามาในใจเขา สมบัติของเขา เครื่องป้องกันของเขา สมอของเขาที่ทอดยึดความเป็นอมตะ – บันทึกถูกทำลายไปแล้ว และถ้วยถูกขโมยไป ถ้าเผื่อเจ้าเด็กพวกนั้นรู้เรื่องอื่นๆ ของเขาด้วยล่ะ พวกมันรู้จริงๆ หรือพวกมันลงมือไปแล้ว มันตามรอยเจอของชิ้นอื่นๆ อีกหรือเปล่า ดัมเบิลดอร์เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมดนี้ใช่ไหม ดัมเบิลดอร์ซึ่งตายด้วยคำสั่งเขา ดัมเบิลดอร์เป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์ที่บัดนี้กลายเป็นของเขาแล้ว แต่กระนั้นมันก็ยังเอื้อมมือออกมาจากความตายที่น่าอับอาย ผ่านมาทางไอ้เด็กพวกนั้น ไอเด็กสองคนนั่น –

    แต่แน่นอนล่ะ ถ้าเจ้าเด็กนั่นทำลายฮอร์ครักซ์อื่นๆ ไปแล้ว เขาก็ต้องรู้สิ เขาจะต้องรู้สึกตัวไม่ใช่หรือ เขา พ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขา ผู้มีพลังอำนาจมากที่สุด เขา ผู้สังหารดัมเบิลดอร์และคนที่ไร้ชื่อไร้ค่าอีกมากมาย ลอร์ดโวลเดอมอร์จจะไม่รู้ตัวได้อย่างไร ถ้าเขาเอง ผู้ซึ่งสำคัญที่สุด มีค่าที่สุด ถูกโจมตี ถูกทำร้าย

    จริงอยู่เขาไม่รู้สึกตัวตอนที่สมุดบันทึกถูกทำลาย แต่นั่นน่าจะเพราะเวลานั้นเขาไม่มีร่างที่จะรับรู้ มีชีวิตเหลือน้อยยิ่งกว่าวิญญาณ... ไม่หรอก แน่นอนที่เหลือนั้นต้องปลอดภัยสิ... ฮอร์ครักซ์อื่นๆ ต้องไม่บุบสลาย

    แต่เขาต้องรู้ เขาต้องให้แน่ใจ...เขาเดินย่ำอยู่ในห้อง เตะศพก๊อบลินไปใส่แท็คเมื่อเดินผ่าน แต่กระนั้นลูกชายก็ไม่มีทีท่าหวาดหวั่นใดใด ภาพพร่ามัวเผาไหม้อยู่ในสมองที่ร้อนเร่า...ทะเลสาบ บ้านโกโรโกโสและฮอกวอตส์ –

    ความสงบเล็กน้อยช่วยบรรเทาความเดือดดาลของเขาลง เจ้าเด็กนั่นจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาซ่อนแหวนไว้ในเพิงของพวกก๊อนท์ ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นญาติกับพวกก๊อนท์ เขาปกปิดความสัมพันธ์นั้นไว้ ฆาตกรรมเหล่านั้นไม่อาจย้อนรอยมาถึงเขาได้ เพราะฉะนั้นแหวนจะต้องปลอดภัย

    แล้วเด็กพวกนั้นหรือใครก็ตาม จะรู้เรื่องถ้ำหรือทะลุผ่านการป้องกันนั้นไปได้อย่างไร ความคิดที่ว่าล็อกเก็ตจะถูกขโมยไปนั้นบ้าสิ้นดี...

    แล้วที่โรงเรียน มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าฮอร์ครักซ์ซุกซ่อนเอาไว้ที่ไหนในฮอกวอตส์ เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ขุดลึกลงไปถึงความลับที่สุดของสถานที่นั้น...

    เขาเงยหน้ามองไปยังแท็คอีกครั้งและยังคงเงียบ ความคิดตีรวนไปหมด เขาจะต้องไปส่งลูกชายและนากินีไปทำงานอะไรอีก เขาจะต้องไม่เสี่ยงเพราะนากินีมักจะชอบอยู่กับแท็คเสมอ เขาจะต้องปกป้องทั้งสองอย่างนี้...

    แต่เพื่อให้แน่ใจ เพื่อให้แน่ใจจริงๆ เขาต้องกลับไปยังที่ซ่อนแต่ละแห่ง เขาต้องเสกเวทมนตร์ป้องกันฮอร์ครักซ์เพิ่มขึ้นทวีคูณ... เป็นงานที่เหมือนการค้นหาไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ งานที่เขาต้องทำตามลำพัง...

    เขาควรไปที่ไหนเป็นแห่งแรกล่ะ ที่ไหนน่าจะอันตรายที่สุด ความกระสับกระส่ายแบบเดิมวูบเข้ามาในตัวเขาอีก ดัมเบิลดอร์รู้ชื่อกลางของเขา...ดัมเบิลดอร์อาจรู้ความเกี่ยวข้องกับพวกก๊อนท์...บ้านร้างของพวกนั้นอาจเป็นที่ซ่อนที่ปลอดภัยน้อยที่สุด เขาจะต้องไปที่นั่นเป็นอันดับแรก...

    ส่วนทะเลสาบ ดูไม่น่าจะเป็นไปได้เลย...แต่ก็มีความเป็นไปได้เล็กน้อย ดัมเบิลดอร์อาจจะไปรู้มาจากโรงเลี้ยงเด็กกำพร้า ว่าเขาเคยก่อเรื่องอะไรไว้บ้างสมัยเด็กๆ

    และฮอกวอตส์... เขารู้ว่าฮอร์ครักซ์นั่นต้องปลอดภัย เจ้าพอตตเรอ์ไม่มีทางโผล่ไปฮอกส์มี้ดโดยไม่มีใครเห็น ยิ่งโรงเรียนยิ่งไม่ต้องพูดถึง อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีควรไปเตือนสเนปเอาไว้ก่อน ว่าเจ้าเด็กนั่นอาจจะพยายามเข้าไปในปราสาทและสั่งให้ดูแลลูกชายเขาเป็นพิเศษ...แต่ไม่ควรบอกมันว่าทำไปทำไม เขาเคยทำผิดพลาดที่ไว้ใจเบลาทริกซ์กับมัลฟอย ความโง่เง่าและเลินเล่อของพวกมันทำให้เขารู้แล้วว่าไม่ฉลาดเลยที่จะไว้ใจคนอื่นนอกจากตัวเอง

    เขาจะไปเยี่ยมบ้านโกโรโกโสของพวกก๊อนท์เป็นอันดับแรก ต้องพานากินีไปด้วยและรีบสั่งให้แท็คไปที่ฮอกวอตส์ทันทีหลังจากนั้น เขาไม่อาจแยกจากงูและปล่อยให้ลูกชายเดินทะเล่อทะล่าในที่ที่ไม่น่าไว้ใจได้อีก... เขาก้าวอาดๆ ออกจากห้อง ผ่านห้องโถงไปสู่สวนที่ดำมืดโดยมีแท็คเดินตามหลังไปเงียบๆ น้ำพุในนั้นยังเปิดอยู่ เขาเรียกนากินีและสั่งให้แท็คติดตามเขาไปอย่าได้ห่างกาย...


    ดวงตาของเฮเลนลืมขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอกลับมาสู่ปัจจุบันและกำลังนอนแผ่อยู่ข้างๆ แฮร์รี่ท่ามกลางแสงแดดยามพระอาทิตย์ตก รอน เฮอร์ไมโอนี่และเดรโกกำลังก้มลงมองพวกเขา ดูจากสีหน้าพวกเขาคงมั่นใจมากว่าทั้งคู่เดินทางไปสู่จิตใจของโวลเดอมอร์ เฮเลนลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กับแฮร์รี่ที่พูดขึ้นด้วยเสียงอันสั่นเทา

    “เขารู้แล้ว เขากำลังไปตรวจทุกที่ที่ซ่อนมันเอาไว้” แฮร์รี่นั่งตัวเกร็ง “แล้วอันสุดท้ายนั่น – อยู่ที่ฮอกวอตส์”

    “อะไรนะ” เดรโกทวนคำ “ฮอกวอตส์ – เฮเลน เธอเคยบอกฉันแล้วใช่ไหมว่าเราจะต้องไปฮอกวอตส์ ตั้งแต่ออกมาจากกระท่อมเปลือกหอย”

    หญิงสาวพยักหน้าและลุกขึ้นยืน รอนอ้าปากค้าง เฮอร์ไมโอนี่คุกเข่าสีหน้ากังวล

    “แล้วเธอรู้ได้ยังไง” แฮร์รี่ถาม ขมวดคิ้วมองเฮเลน “เราเพิ่งเห็นเขา – ”

    “ฉันบอกไปแล้วว่าฉันรู้ – แล้วเราก็ต้องไปฮอกส์มี้ดและพบกับใครบางคนที่นั่น” เฮเลนพูดในขณธที่เดรโกลุกขึ้นยืนตามมา “พวกเราไม่มีทางเข้าไปในปราสาทได้ – ถ้าไม่มีเขาคนนั้น – ”

    “ใคร – เขาที่เธอว่า” รอนถามเสียงเข้ม

    “เดี๋ยวเราก็จะรู้เองถ้าไปที่นั่น” เฮเลนว่า “เพราะยังไงเราก็ต้องพบเขา – ต้องพบเขาอย่างแน่นอน”



    ติดตามตอนต่อไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×