คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #75 : บทที่ 1 กริงกอตส์
บทที่ 1 กริงกอตส์
แผนการวางเอาไว้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างตระเตรียมเรียบร้อย
ในห้องนอนที่เล็กที่สุด ผมสีดำยาวเส้นหนึ่งซึ่งเป็นของเบลาทริกซ์ เลสแตรงจ์
เฮเลนดึงมันออกมาจากเสื้อคลุมตอนอยู่ในคฤหาสน์มัลฟอย ถูกวางม้วนอยู่ในหลอดแก้วใบเล็กบนกรอบเตาผิง
“แล้วเธอก็ต้องใช้ไม้กายสิทธิ์ของเขาจริงๆ”
แฮร์รี่พูด พลางพยักเพยิดมาทางเฮเลนที่ถือไม้กายสิทธิ์วอลนัตอยู่ในมือ
มันไม่สงบนิ่งเสียเท่าไรนักในความคิดของเธอ “เพราะฉะนั้นฉันว่าเธอต้องดูน่าเชื่อมากเลย”
“มันไม่สงบเลยให้ตายสิ” เฮเลนบ่นเล็กน้อยพลางยื่นไม้กายสิทธิ์ให้กับเฮอร์ไมโอนี่
เธอมีที่ท่าเหมือนกลัวไม้กายสิทธิ์จะกัดขณะที่เธอรับมันไปถือเอาไว้
“ฉันเกลียดเจ้าไม้นี่”
เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงต่ำ “ฉันเกลียดมันจริงๆ มันรู้สึกผิดไม้ผิดมือยังไงไม่รู้
มันไม่ยอมทำงานให้ฉันดีดีด้วย... มันเหมือนกับเป็นเขานิดๆ เลย”
“แต่มันจะช่วยให้เธอเล่นสมบทบาทขึ้น”
เดรโกพูดเสียงเรียบ “ไม้นี่มันถูกใช้มายังไงบ้าง เธอก็น่าจะพอเดาได้”
“ก็นั่นแหละ!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง
“ไม้นี่เคยทรมานพ่อแม่เนวิลล์ แล้วก็ไม่รู้ทรมานใครมาอีกบ้าง
แล้วมันก็เป็นไม้ที่ฆ่าซีเรียสด้วย!”
เฮเลนสะดุ้ง เธอลืมคิดถึงเรื่องนั้นไปสนิท
แต่มันก็ไม่มีความหมายที่จะมาคิดเรื่องที่ผ่านมาแล้ว
ตอนนี้พวกเขาจะต้องทำตามแผนการที่วางเอาไว้
“แล้วเธอก็ต้องปลอมตัวเป็นแม่ฉัน”
เดรโกพูดแล้วหยิบขวดเส้นผมสีบลอนด์ขึ้นมาส่งให้เฮเลน “เล่นในแนบเนียนล่ะ
เธออยู่กับเขามาเป็นปี ก็น่าจะพอเข้าใจนะว่าแม่ฉันเป็นคนยังไง”
“ก็พอได้” เฮเลนพยักหน้าเล็กน้อย “ฉันรู้ว่าซิสซี่จะทำท่าทางยังไงตอนที่อยู่กับเบลาทริกซ์”
“ซิสซี่” รอนทวน
“นี่เธออยู่จนสนิทสนมเรียกแม่ของมัลฟอยแบบนั้นได้แล้วเหรอ”
เฮเลนยักไหล่ แล้วประตูห้องนอนเปิดออก
กริ๊บฮุกเดินเข้ามาในห้อง แฮร์รี่เอื้อมมือไปจับดาบส่วนเฮเลนทำเป็นมองไม่เห็นเขา
“เรากำลังตรวจสอบครั้งสุดท้ายกันอยู่
กริ๊บฮุก” แฮร์รี่กล่าว “เราบอกบิลกับเฟลอร์แล้วว่าจะออกเดินทางพรุ่งนี้
แล้วก็ไม่ต้องตื่นมาส่งเรา”
พวกเขายืนกรานอย่างหนักแน่นเพราะเฮอร์ไมโอนี่กับเฮเลนต้องแปลงร่างเป็นเบลาทริกซ์และนาร์ซิสซาก่อนที่จะออกเดินทาง
และยิ่งบิลกับเฟลอร์รู้หรือสงสัยเรื่องนี้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น
พวกเขายังบอกด้วยว่าจะไม่กลับมาที่กระท่อมอีก บิลให้ยืมเต็นท์มาอีกหลัง
เนื่องจากพวกเขาเสียเต็นท์ไปในคืนที่ถูกพวกนักต้อนจับ ตอนนี้เต็นท์ถูกเก็บเอาไว้เรียบร้อยในกระเป๋าลูกปัดของเฮอร์ไมโอนี่
เฮเลนอยากไปจากกระท่อมนี้และจบเรื่องทุกอย่างให้เร็วที่สุด
เธออึดอัดที่จะต้องอาศัยอยู่ในห้องมืดๆ แออัด
แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดคือเธออยากไปให้พ้นๆ จากกริ๊บฮุก เฮเลนยังจำคำเตือนของบิลได้
เธออดคิดไม่ได้ว่ากริ๊บฮุกอาจจะคอยจับตาดูว่าพวกเขาจะมีกลลวงอะไรหรือเปล่า
เฮเลนนอนไม่ค่อยหลับ
ดวงตาเบิกโพลงในความมืดจนล่วงเลยไปถึงเช้าวันใหม่ก็ยังคงตื่นอยู่
เธอเหมือนจะเห็นภาพเรือนรางในสมองว่าพวกเขานั้นบุกเข้าไปในกริงกอตส์โดยปราศจากเดรโก
นอกจากนั้นยังอาจถูกจับได้กลางทางด้วย เธอไม่แน่ใจว่าควรเตือนแฮร์รี่เรื่องนี้ เธอมีแต่ความกังวลและไม่แน่ใจ
เฮเลนกลัวว่าทุกอย่างจะเป็นดังภาพที่อยู่ในสมอง ว่ามันจะผิดพลาดไปหมด
กริ๊บฮุกรู้ดีว่าพวกเขานั้นต้องเผชิญกับอะไรบ้างและทุกคนก็เตรียมตัวพร้อมอย่างดีสำหรับอุปสรรคอะไรก็ตามที่อาจจะต้องเจอ
เฮเลนแน่ใจว่าได้ยินเสียงเฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจหลายครั้งในช่วงค่ำคืน
เธอมั่นใจว่าเฮอร์ไมโอนี่เองก็ตื่นอยู่
แต่ทั้งสองนอนอยู่ในห้องนอนที่เล็กที่สุดกับลูน่า ดังนั้นจึงไม่มีใครพูดอะไร
เฮเลนรู้สึกดีขึ้นเมื่อเวลาใกล้รุ่ง
เฮอร์ไมโอนี่สะกิดเฮเลนนิดหน่อยซึ่งเธอก็เตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับวันนี้
ทั้งสองย่องออกไปที่สวนเพื่อพบกับแฮร์รี่ รอน เดรโกและกริ๊บฮุกที่นั่น
รุ่งอรุณนั้นเย็นชื้น แต่มีลมพัดอ่อนๆ เนื่องจากเป็นเดือนพฤษภาคมแล้ว
ดวงดาวยังคงทอแสงเรือนรางในท้องฟ้ามืดคล้ำ เสียงทะเลสาดซัดกระแทกหน้าผา
เธอคงคิดถึงเสียงนี้มากมายเลยทีเดียว
หน่อสีเขียวเล็กๆ แทงยอดผ่านดินแดงๆ
ที่หลุมศพของด๊อบบี้ขึ้นมาแล้ว
เฮเลนยังกัลวลอยู่นิดหน่อยว่าครีเชอร์จะเป็นอย่างไรบ้าง
บางทีมันอาจจะกลับไปอยู่ในครัวของฮอกวอตส์
เธอรู้สึกใจหายถ้าหากว่ามันจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่กริมโมลด์เพลซ
เฮเลนกับเฮอร์ไมโอนี่ยกขวดน้ำยาสรรพรสขึ้นดื่มระหว่างรอให้รอนกับแฮร์รี่มาถึง
รสชาติประหลาดแทรกผ่านปลายลิ้นเข้าสู่ร่างกาย
ร่างของพวกเธอเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจในทที่สุด นาร์ซิสซา
มัลฟอยและเบลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ก็ยืนอยู่ตรงนั้นแทนที่เธอ
เสียงประตูเปิดดังขึ้น แฮร์รี่ รอน เดรโกและกริ๊บฮุกเดินอาดๆ
ออกมาจากกระท่อม
เดรโกดูมีสีหน้าแปลกไปนิดหน่อยเมื่อทั้งสี่คนเดินมาสมทบกับทั้งสอง
“รสชาติของเบลาทริกซ์น่าขยะแขยงมาก”
เสียงเฮอร์ไมโอนี่พูดผ่านเสียงแหบต่ำของเบลาทริกซ์ “แย่ยิ่งกว่ารากเกิร์ดดี้ซะอีก! โอเครอน มานี่สิ
ฉันจะได้แต่งตัวให้เธอ”
“ตกลง แต่จำไว้นะ
ฉันไม่ชอบเครายาวๆ”
“อย่าเรื่องมากเลยน่า” เฮเลนเอ่ย
“เราไม่ได้แต่งให้หล่อ – ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น
แต่มันเกะกะต่างหากล่ะ!” รอนพูด “อ่อ
แล้วฉันก็อยากให้จมูกสั้นลงหน่อยด้วย
พยายามให้เหมือนที่เธอทำครั้งสุดท้ายนั่นแหละ”
เฮอร์ไมโอนี่ถอนใจแล้วตั้งใจทำงาน
เธอพึมพำเสียงแผ่วขณะที่เปลี่ยนเครื่องหน้าของรอนหลายอย่าง
เขากำลังจะได้หน้าปลอมอันใหม่ ส่วนเดรโก
เขาเดินเข้ามาปัดเรือนผมสีบลอนด์ซีดเกือบขาวที่ปรกหน้าของนาร์ซิสซา
(หรือตอนนี้คือเฮเลน) ออกอย่างเบามือ ดวงตาคมกริบมองใบหน้าของเธออย่างห่วงหา
“นายเป็นห่วงเขาใช่ไหม” เฮเลนพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมองเดรโกเล็กน้อย
“ฉันหวังว่าเขาจะปลอดภัยนะ”
“ฉันก็ขอให้เป็นแบบนั้น” เขาบอก “อีกอย่างฉันก็เป็นห่วงเธอด้วย
ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากให้เธอไปเสี่ยงอันตรายหรอก”
“แล้วระหว่างให้ฉันไปคอยที่ฮอกส์มี้ดคนเดียวกับไปกริงกอตส์
นายจะเลือกอย่างไหนล่ะ”
“แล้วทำไมต้องไปคอยที่ฮอกส์มี้ดก่อนล่ะ”
เดรโกขมวดคิ้ว “เราไม่มีแพลนจะไปเสียหน่อย”
“ไม่รู้สิ” เฮเลนยักไหล่เบาๆ
“ฉันคิดว่าบางทีเราอาจจะต้องไปฮอกวอตส์
กลับไปที่ห้องต้องประสงค์เพื่อหาอะไรสักอย่างของโรวีน่า เรเวนคลอ”
“เธอเห็นเหรอ” เขาถามอย่างไม่เข้าใจ
“เปล่า” เฮเลนส่ายหน้า “ฉันแค่รู้”
เดรโกยิ้มออกมาบางๆ
พลางส่ายหน้าเล็กน้อย
ทั้งสองเหลือบไปมองแฮร์รี่ที่กำลังจัดการระเบียบกับผ้าคลุมล่องหนพร้อมกับทำท่าทางแบกกริ๊บฮุกเพื่อเตรียมความพร้อม
เฮเลนหันกลับไปหาเดรโกอีกครั้งและเลื่อนมือขึ้นไปสัมผัสใบหน้าเรียวเบาๆ
“ช่วยอะไรสักอย่างได้ไหม” เธอพูด
พร้อมความความรู้สึกไม่แน่ใจที่ผุดขึ้นมา “ช่วยพิสูจน์ทีว่านี่คือเรื่องจริงทีสิ”
“ให้พิสูจน์ยังไง” เดรโกเลิกคิ้ว
มองใบหน้าเฮเลนที่บัดนี้คือนาร์ซิสซาด้วยสายตางุนงงราวกับจะถามว่าต้องการให้เขาพิสูจน์อะไรให้เธอเข้าใจ
ทั้งที่ตอนนี้พวกเขากำลังจะเข้าไปบุกกริงกอตส์ “เธอคงไม่คิดว่าฉันจะกล้าจูบแม่ตัวเองหรอกใช่ไหม”
“ไม่รู้สิ” เฮเลนพูด
ดวงตาไม่ละไปจากใบหน้าของเดรโก
ร่างสูงมีท่าทีลังเลเล็กน้อย
เขาโน้มตัวลงมาประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา
ความรู้สึกอบอุ่นทำให้เฮเลนนั้นมั่นใจมากขึ้นว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องโกหก
แต่ว่าสิ่งที่อยู่ในสมองของเธอตอนนี้นั้นคืออะไรล่ะ
สิ่งที่เธอมั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นไม่ใช่เรื่องจริง...
มันคืออะไรกัน
“เอาล่ะ”
เสียงของเบลาทริกซ์ทำให้ทั้งสองคนผละออกจากกัน เฮเลน
แฮร์รี่และเดรโกหันไปหาเฮอร์ไมโอนี่ทันที “เขาดูเป็นไง”
ก็ยังพอมองออกว่าเป็นรอนภายใต้การปลอมแปลงทั้งหลาย
แต่เฮเลนคิดว่าเพราะพวกเขานั้นอยู่กับรอนมาตลอดจึงเห็นแบบนั้น
ตอนนี้ผมของรอนยาวหยิกเป็นลอน มีเคราและหนวดสีน้ำตาลดกหนา ไม่มีรอยกระ
จมูกแบนสั้นและคิ้วดก
“ฉันไม่ชอบแบบนี้เท่าไหร่” แฮร์รี่พูด
“แต่ก็ใช้ได้แล้วล่ะ”
“ถ้างั้นเราไปกันเลยไหม” เดรโกว่า
ทั้งห้าเหลียวกลับไปมองกระท่อมเปลือกหอย
ซึ่งเงียบกริบเป็นเงาตะคุ่มอยู่ใต้ดวงดาวจางๆ จากนั้นทุกคนก็หันหลังกลับ
เดินออกไปนอกกำแพงบ้านพ้นจากเขตคาถาฟิเดลลิอัส ที่นั่นพวกเขาจะหายตัวไปได้
เมื่อเดินผ่านประตู กริ๊บฮุกก็พูดขึ้นว่า
“ผมควรจะปีนขึ้นไปล่ะนะ แฮร์รี่
พอตเตอร์”
แฮร์รี่ย่อตัวลงแล้วก๊อบลินก็ปีนขึ้นบนหลังของเขา
สองมือเกี่ยวรัดกันที่รอบคอของแฮร์รี่
ก่อนที่เฮเลนจะนำผ้าคลุมล่องหนที่เขาจัดแจงเมื่อครู่มาเหวี่ยงให้มันคลุมรอบทั้งสองคน
“เรียบร้อย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางก้มลงดูเท้าของแฮร์รี่
“ไม่เห็นอะไรเลย ไปกันเถอะ”
พวกเขาทั้งหมดหายตัวไปอยู่บนถนนชาริงครอส
รอบตัวมีมักเกิ้ลเดินผ่านไปมา ทุกคนมีสีหน้าเซื่องซึมจากการตื่นแต่เช้าตรู่
แทบไม่มีใครรู้ตัวว่ามีที่พักแรมเล็กๆ นี้อยู่
บาร์ของร้านหม้อใหญ่รั่วเกือบจะว่างเปล่า
ทอม เจ้าของร้านหลังค่อมและฟันหลอกำลังเช็ดแก้วอยู่หลังเคาน์เตอร์
พ่อมดสองสามคนกำลังซุบซิบคุยกันอยู่ที่สุดมุมห้อง
พวกเขาชำเลืองมองเดรโก เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่แล้วรีบหลบเข้าไปในเงามืด
“มาดามเลสแตรงจ์ มาดามและคุณหนูมัลฟอย”
ทอมพึมพำและเมื่อเดินผ่านเขาก็ก้มศีรษะคำนับอย่างนอบน้อม
“อรุณสวัสดิ์” เฮอร์ไมโอนี่พูด
เฮเลนสะกิดสีข้างของเธอแรงๆ ทีหนึ่ง
“สุภาพเกินไป”
เฮเลนกระซิบลอดไรฟันในขณะที่เดรโกทำท่าทางเย่อหยิ่งและพาทั้งคู่เดินออกไปหลังร้าน
“เธอต้องทำเหมือนคนอื่นเป็นแค่เศษสวะนะ!”
แฮร์รี่กระซิบจากที่ไหนสักแห่งในผ้าคลุม
“โอเค โอเค!”
เฮอร์ไมโอนี่ดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาจากในเสื้อคลุม
เคาะที่อิฐก้อนหนึ่งบนกำแพงตรงหน้า ทันใดนั้น ก้อนอิฐทั้งหลายก็เริ่มหมุนติ้วและมีช่องว่างโผล่ขึ้นมาตรงกลางกำแพง
ช่องนั้นขยายใหญ่ขึ้นจนในที่สุดก็กลายเป็นช่องประตูโค้ง นำไปสู่ถนนแคบๆ ปูด้วยหิน
ซึ่งก็คือตรอกไดแอกอน
ภายในตรอกเงียบสงบ
เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่ร้านค้าจะเปิดและแทบไม่มีคนซื้อของอยู่เลย
ถนนปูหินที่คดเคี้ยวสายนี้เปลี่ยนไปมาก จากสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ร้านรวงที่ปิดกิจการไปมีจำนวนมากขึ้นแต่ก็มีร้านตั้งใหม่อีกหลายร้านนับจากที่เฮเลนเห็นครั้งสุดท้าย
ส่วนใหญ่มุ่งขายของทางศาสตร์มืดโดยเฉพาะ
ใบหน้าของฝาแฝดแปะอยู่กลางโปสเตอร์หน้าร้านหลายร้าน ส่วนใหญ่มีคำบรรยายใต้ภาพว่า ผู้ไม่พึงประสงค์หมายเลขหนึ่ง
กลุ่มคนสวมเสื้อผ้ากะรุ่งกะริ่งนั่งจุกกันอยู่ตามช่องประตูต่างๆ
เธอได้ยินพวกนั้นคร่ำครวญใส่คนที่เดินผ่านไปมา อ้อนวอนขอทอง
พร้อมกับยืนยันว่าตัวเองเป็นพ่อมดแม่มดจริงๆ อย่างน่าสมเพช ชายคนหนึ่งมีผ้าพันแผลเปื้อนเลือดปิดที่ตาด้วย
เมื่อทั้งหกคนออกเดินไปตามถนน
ขอทานทั้งหลายก็เหลือบเห็นเฮอร์ไมโอนี่ เฮเลนและเดรโก
ทุกคนดูเหมือนจะละลายหายไปต่อหน้าเธอ พวกเขาพากันดึงหมวกคลุมหัวปิดบังใบหน้า
แล้วหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เฮเลนเห็นเฮอร์ไมโอนี่มองตามไปอย่างประหลาดใจ
จนกระทั่งมีชายที่มีผ้าพันแผลเปื้อนเลือดเดินโซซัดโซเซตรงมาขวางทางพวกเขา
“ลูกๆ ของฉัน!” เขาตะเบ็งเสียง
พลางชี้มือชี้ไม้มาทางทั้งสี่ เสียงนั้นสูง แตกพร่าฟังดูคุ้มคลั่ง “ลูกๆ
ของฉันอยู่ที่ไหน เขาทำอะไรกับลูกฉัน แกรู้ แกรู้!”
“ฉะ – ฉันไม่ – ”
เฮอร์ไมโอนี่กระอึกกระอัก
ชายผู้นั้นโถมเข้าใส่และพยายามบีบคอเฮอร์ไมโอนี่
เฮเลนชักไม้กายสิทธิ์ออกมาพร้อมกับร่ายคาถาสตูเปฟาย!ในใจ ลำแสงสีแดงพุ่งวาบกระแทกเขากระเด็นหงายหลังลงไปนอนหมดสติอยู่ที่พื้น
รอนยืนตัวแข็งทื่อและมีสีหน้าตกตะลึงอยู่ภายใต้หนวดเครา ใบหน้าต่างๆ
โผล่ออกมาจากบ้านเรือนสองข้างถนน
ระหว่างนั้นคนเดินถนนที่แต่งตัวดีกลุ่มหนึ่งรีบรวบเสื้อคลุมแล้วออกวิ่งเหยาะๆ
พวกเขาคงอยากหลบไปให้พ้นที่เกิดเหตุ
เฮเลนเก็บไม้กายสิทธิ์เข้าไปในเสื้อคลุม
การมาถึงของพวกเขาคงโดดเด่นไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เฮเลนสงสัยอยู่ครู่หนึ่งว่าควรหนีไปตอนนี้เลยดีไหมแต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าตนอยู่ในร่างของนาร์ซิสซา
มัลฟอย มีเหตุอะไรทำให้ต้องหนีจากการกระทำนี้
แล้วทั้งหมดก็ได้ยินเสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง
“อ้าว มาดามเลสแตรงจ์!” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา “พวกมัลฟอยก็อยู่ที่นี่ด้วย”
พ่อมดร่างผอมสูงคนหนึ่งกำลังเดินอาดๆ
ตรงมา เขามีผมสีเทากลางกระหม่อมและมีจมูกยาวแหลม เป็นหนึ่งในผู้เสพความตายที่หัวเราะเยาะทุกครั้งที่เฮเลนถูกโวลเดอมอร์ทำร้ายด้วยคำสาปกรีดแทง
แต่ปัญหาก็คือเธอจำไม่ได้ว่าเขาชื่ออะไร
“หมอนี่ชื่อทราเวอร์ส” เดรโกกระซิบ
เฮเลนพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงเข้าใจในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ยืดอกผาย
แบะปากและยกมือขึ้นเท้าสะเอวและมองทราเวอร์สด้วยสายตาดูหมิ่นที่สุดเท่าที่จะทำได้
“สวัสดี ทราเวอร์ส”
เฮเลนพูดเสียงเรียบ กุมมือเอาไว้ด้านหน้า
เชิดคางเล็กน้อยอย่างที่นาร์ซิสซาเคยทำประจำ
ถ้าหากเธอปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนพูดล่ะก็ผู้เสพความตายคนนี้คงไม่พอใจแน่ๆ “ค่อนข้างจะหยาบคายนะที่เรียกฉันแบบนั้น
– มีอะไร”
“ขอสารภาพนะ นาร์ซิสซา”
ทราเวอร์สตอบ “ผมประหลาดใจที่เห็นพวกคุณออกมาเดินเตร็ดเตร่แบบนี้”
“จริงเหรอ ทำไมล่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่ย้อนถาม
“เอ่อ” ทราเวอร์สกระแอมเล็กน้อย “ผมได้ยินมาว่าคฤหาสน์มัลฟอยถูกกักบริเวณอยู่แต่ในบ้าน
หลังจาก..อ้า..การหลบหนี และคุณก็มีหน้าที่ที่ต้องทำด้วย เบลาทริกซ์”
“ตอนนี้หลานสาวของฉันมีคนดูแลอยู่แล้ว”
เฮเลนตอบ หรี่ตามองทราเวอร์สด้วยหางตา เธอได้ยินเดรโกแอบลอบถอนหายใจเบาๆ “ไม่ใช่กงการอะไรของแกที่จะต้องมาวุ่นวาย”
“และจอมมารให้อภัยคนที่รับใช้ท่านมาอย่างซื่อสัตย์ที่สุดในอดีต”
เฮอร์ไมโอนี่ต่อ เลียนแบบท่าทางหยาบเหยียดของเบลาทริกซ์ได้อย่างยอดเยี่ยม “บางทีฐานะของแกคงเทียบกับของฉันไม่ได้หรอกนะในสายตาท่าน”
แม้ว่าผู้เสพความตายจะมีสีหน้าขัดเคือง
แต่เขาดูสงสัยน้อยลงไป ทราเวอร์สชำเลืองมองชายคนที่เฮเลนเพิ่งจะทำให้สลบไป
“มันทำอะไรให้คุณไม่พอใจล่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก
แต่มันจะไม่ทำอีกแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเย็น
“ไอ้พวกไร้ไม้กายสิทธิ์บางคนนี่ก็ยุ่งเสียจริง”
ทราเวอร์สพูด “ถ้ามันเอาแต่ขอทานผมก็ไม่ขัดข้องหรอก แต่นี่มีคนหนึ่งมาอ้อนวอนผมเลยนะ
ขอให้ช่วยทำเรื่องอุทธรณ์ต่อกระทรวงด้วยนะเมื่อสัปดาห์ก่อน ‘ฉันเป็นแม่มดค่ะ ฉันเป็นแม่มด
ฉันจะพิสูจน์ให้ดูนะคะ’ ” เขาทำเสียงสูงๆ แหลมๆ “ยังกะว่าผมจะยอมให้ไม้กายสิทธิ์หล่อนไปแน่ะ –
แต่ว่าตอนนี้คุณใช้” ทราเวอร์สถามอย่างใคร่รู้ “ไม้กายสิทธิ์ของใครกันล่ะ
เบลาทริกซ์ ผมได้ยินว่าไม้ของคุณถูก – ”
“ไม้ของฉันก็อยู่นี่ไง”
เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเย็นชา พลางชูไม้กายสิทธิ์ของเบลาทริกซ์ขึ้นมา “ฉันไม่รู้ว่าแกได้ยินอะไรมานะทราเวอร์ส
แต่ดูเหมือนมันจะเป็นข่าวลือผิดๆ”
ดูเหมือนทราเวอร์สจะผงะไป เขาหันไปหารอนแทน
“เพื่อนคุณนี่ใครกันล่ะ
ผมไม่เคยเห็นมาก่อน”
“นี่คือดราโกมีร์ เดสปาร์ด”
เฮอร์ไมโอนี่พูด พวกเขาตกลงกันแล้วว่าบทชาวต่างชาติที่สมมติขึ้นน่าจะปลอดภัยที่สุดสำหรับรอน
“เขาพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก แต่เห็นพ้องกับวัตถุประสงค์ของจอมมาร เขาเดินทางมาจากทรานซิลเวเนียเพื่อมาดูระบอบใหม่ของเรา”
“ว่าแต่ว่า คุณกับเพื่อนผู้ – อ้า –
เห็นพ้องด้วยนี่ มาทำอะไรกันแต่เช้าล่ะ ที่ตรอกไดแอกอน” ทราเวอร์สถาม
“ไม่ใช่กงการอะไรของแก ทราเวอร์ส”
เฮเลนเหยียดเสียง
ผู้เสพความตายทำท่าไม่พอใจนัก
เขาถอนหายใจเบาๆ
“ผมกำลังจะไปกริงกอตส์” ทราเวอร์สบอก
“ทอง! ทองที่โสโครก! เราอยู่โดยปราศจากมันไม่ได้
แต่ขอสารภาพว่าผมรังเกียจมากที่จำเป็นต้องไปสุงสิงกับเพื่อนนิ้วยาวของเรา”
“เราเองก็กำลังจะไปกริงกอตส์”
เฮอร์ไมโอนี่โพลงขึ้น เฮเลนและเดรโกหันควับไปมองเธอทันที
“งั้นก็ดีเลย!” ทราเวอร์สพูดน้ำเสียงรื่นเริง “เราไปด้วยกันเลยเถอะ”
เขาทำท่าให้พวกเขาก้าวนำไป
ทุกคนไม่มีทางเลือกได้แต่เดินนำหน้าเขาไปตามถนนปูหินคดเคี้ยวมุ่งสู่ธนาคารกริงกอตส์สีขาวสะอาด
ซึ่งตั้งตระหง่านเหนือร้านรวงเล็กๆ ทั้งหลาย รอนเดินหลบๆ ไปข้างๆ
การมีผู้เสพความตายมาคอยจ้องดูเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาต้องการ
ที่แย่ที่สุดคือ ขณะที่ทราเวอร์สเดินเคียงข้างพวกเขาไปนั้น เดรโก เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่ไม่มีสิทธิ์ติดต่อแฮร์รี่หรือรอนได้เลย
ในไม่ช้าพวกเขาก็เดินมาถึงบันไดหินอ่อน ซึ่งนำไปสู่ประตูทองบานใหญ่
และดังที่กริ๊บฮุกได้เตือนเอาไว้แล้ว
ที่สองข้างประตูมีพ่อมดสองคนมายืนแทนที่ก๊อบลินในเครื่องแบบ
ทั้งคู่กุมแท่งไม้เรียวยาวสีทองเอาไว้ในมือ
“อ้า เครื่องหยั่งความซื่อสัตย์”
ทราเวอร์สแสร้งถอนหายใจ “ช่างหยาบคายเสียจริง – แต่ก็ได้ผล!”
เขาก้าวขึ้นบันไดไป
พลางผงกศีรษะซ้ายทีขวาทีให้พ่อมดที่ยกไม้เรียวสีทองขึ้นวาดผ่านตัวเขา เกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยตอนที่พวกเขากำลังจะเดินผ่าน
เฮเลนเดาว่าบางทีแฮร์รี่คงใช้คาถาสับสนทำให้พวกยามงงว่าตรวจพวกเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ผ่านมันมาได้
เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่จำต้องเดินสะบัดเข้าไปภายในต่อเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ทราเวอร์สสงสัย
ก๊อบลินสองตัวยืนอยู่หน้าประตูด้านในซึ่งทำด้วยเงิน
ประตูนี้มีบทกลอนสลักไว้ เตือนผู้ที่อยากขโมยทั้งหลายเรื่องผลกรรมอันร้ายกาจ
เฮเลนรู้สึกประหลาดมากขึ้นเมื่อสมองประมวลว่าเธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเลยในชีวิต
ดวงตากลมมองไปรอบทิศแต่ก็ยังพยายามไม่ให้ผิดสังเกต อีกอึดใจหนึ่ง
พวกเขาก็เดินมายืนอยู่ในห้องโถงหินอ่อนอันกว้างใหญ่ของธนาคาร
หลังเคาน์เตอร์ยาวมีก๊อบลินนั่งประจำอยู่บนม้านั่งสูง
เตรียมพร้อมรับใช้ลูกค้ากลุ่มแรกของวันนั้น เฮเลน เดรโก เฮอร์ไมโอนี่
รอนและทราเวอร์สมุ่งหน้าไปยังก๊อบลินชราตัวหนึ่ง เขากำลังพิจารณาเหรียญทองหนาๆ
ผ่านแว่นตา
เฮเลนกระตุกชายเสื้อของเฮอร์ไมโอนี่เล็กน้อยเพื่อให้เธอปล่อยให้ทราเวอร์สเข้าไปก่อนโดยแสร้งชวนให้เฮอร์ไมโอนี่อธิบายส่วนต่างๆ
ของห้องโถงให้รอนฟัง
ก๊อบลินโยนเหรียญที่ถืออยู่ไปข้างๆ
จากนั้นก็หันมาหาทราเวอร์ส เขาส่งกุญแจดอกเล็กให้
ก๊อบลินพิจารณาดูแล้วส่งกลับคืนให้เขา
เดรโก เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่ก้าวไปข้างหน้า
“ฉันอยากจะใช้ห้องนิรภัยของฉัน”
เฮอร์ไมโอนี่พูด
ก๊อบลินชราทำท่าแสยงไปเล็กน้อย
“คุณมีหลักฐานการแสดงตัวใช่ไหมครับ”
ก๊อบลินถาม
“หลักฐานแสดงตัวเหรอ ฉัน – ฉันไม่เคย
– ”
“เราไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานการแสดงตัวอะไรทั้งนั้น”
เฮเลนพูดแทรกขึ้นมาเสียงเรียบ “เครื่องหยั่งความซื่อสัตย์ข้างหน้าก็ทำอะไรเราไม่ได้ตั้งแต่แรก
– ไม่เห็นหรือไง”
“ต้องขออภัย” ก๊อบลินชราพูด “แต่ใช้ไม้กายสิทธิ์ของคุณก็ได้ครับมาดามเลสแตรงจ์”
เฮอร์ไมโอนี่ยื่นไม้กายสิทธิ์ของเบลาทริกซ์ให้ก๊อบลิน
มันพิจารณาอย่างละเอียดแล้วพูดว่า “อ้อ คุณให้ช่างทำไม้อันใหม่แล้วนี่ครับ
มาดามเลสแตรงจ์”
“อะไรนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด “ไม่ใช่
นี่ไม้ของฉัน – ”
“ไม้ใหม่หรือ” ทราเวอร์สพูด “แต่ได้ยังไง
– อ๋อ – ผมเข้าใจแล้ว มันสวยงามมาก แล้วใช้งานดีไหม
ผมรู้สึกว่าไม้กายสิทธิ์ต้องใช้ไปสักพักนะถึงจะคุ้นมือ คุณว่างั้นไหม”
ก๊อบลินชราข้างหลังเคาน์เตอร์ตบมือแล้วก๊อบลินหนุ่มตัวหนึ่งก็เดินเข้ามาหา
“ฉันต้องใช้ก๋องแก๋ง” เขาบอก
ก๊อบลินหนุ่มรีบรุดออกไปแล้วกลับมาในอีกอึดใจ
พร้อมกับถุงหนังซึ่งดูเหมือนเต็มไปด้วยโลหะเสียงดังกรุ๋งกริ๋ง
เขาส่งต่อให้ผู้อาวุโส “ดี ดี! ถ้าเช่นนั้น พวกคุณกรุณาตามผมมา” ก๊อบลินชราพูด
เขากระโดดลงจากม้านั่งและหายไปจากสายตา “ผมจะพาคุณไปที่ห้องนิรภัยเองครับ”
เขาโผล่มาที่สุดเคาน์เตอร์และวิ่งเหยาะๆ
อย่างชื่นบานมาหาทุกคน สิ่งที่บรรจุอยู่ในถุงส่งเสียงกรุ๋งกริ๋งตลอดทาง
ตอนนี้ทราเวอร์สยืนทื่อ อ้าปากกว้าง เฮเลนหันไปมองเขาพลางขมวดคิ้ว เธอสงสัยว่าแฮร์รี่คงกำลังใช้คำสาปสะกดใจ
“เดี๋ยวก่อน – บ็อกร็อด!”
ก๊อบลินอีกตัววิ่งอ้อมเคาน์เตอร์ออกมา
“เราได้รับคำสั่ง”
เขาพูดพลางคำนับเฮเลน เดรโกและเฮอร์ไมโอนี่ “กรุณาให้อภัยผมด้วย
แต่มีคำสั่งพิเศษเกี่ยวกับห้องนิรภัยของตระกูลเลสแตรงจ์”
เขากระซิบที่หูของบ็อกร็อดอย่างร้อนรน
แต่ก๊อบลินผลักเขาออกไป
“ผมรู้เรื่องคำสั่งนั้นแล้ว
มาดามเลสแตรงจ์ต้องการเข้าไปในห้องนิรภัยของเธอ... ตระกูลที่เก่าแก่มาก...
ลูกค้าเก่าแก่... กรุณามาทางนี้ครับ...”
เขารีบเดิน เสียงก๋องแก๋งๆ
ไปยังประตูบานหนึ่งที่พาออกไปจากห้องโถง ทราเวอร์สเดินอย่างสงบเสงี่ยมตามมา
ขณะที่ทั้งหมดเดินไปถึงประตูและออกไปสู่ทางเดินหินขรุขระซึ่งสว่างด้วยแสงจากคบไฟ
“เราแย่แล้ว พวกเขาสงสัย”
แฮร์รี่พูดและดึงผ้าคลุมล่องหนออกเผยตัวตน
ไม่มีใครแปลกใจที่บ็อกร็อตกับทราเวอร์สไม่แสดงอาการประหลาดใจที่อยู่ๆ แฮร์รี่
พอตเตอร์ปรากฏขึ้นตรงหน้า “พวกนั้นถูกสะกดใจไว้น่ะ – ฉันไม่คิดว่าคำสาปจะแรงพอ
ฉันไม่มั่นใจ...”
“แล้วเราจะทำยังไง” รอนถาม “หนีกันแต่ตอนนี้เลยดีไหม”
“ไม่ทันหรอก” เดรโกบอก “ตอนนี้พวกนั้นต้องกำลังเตรียมการณ์อะไรสักอย่างเพื่อเรียกพวกผู้เสพความตายมาที่นี่แน่ๆ”
“ฉันก็ว่าอย่างนั้น” แฮร์รี่พูด “เรามาไกลขนาดนี้แล้ว
เราควรจะไปต่อ”
“ดี!” กริ๊บฮุกบอก “ถ้าอย่างนั้น
เราก็ต้องเอาบ็อกร็อดไปด้วยเพื่อบังคับรถ ผมไม่มีอำนาจทำได้อีกต่อไปแล้ว
แต่คงไม่มีที่พอให้พ่อมดคนนั้นหรอกนะ”
เฮเลนเห็นแฮร์รี่ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ทราเวอร์ส
พ่อมดหันหลังกลับและเริ่มเดินอย่างแข็งขันไปข้างรางมืดๆ
เฮเลนมั่นใจว่าได้ยินเสียงตะโกนอยู่ในห้องโถงใหญ่ระหว่างที่พวกเขาตะเกียดตะกายลงไปนั่งกันในรถ
บ็อกร็อด กริ๊บฮุกและแฮร์รี่นั่งเบียดกันอยู่ข้างหน้าส่วนข้างหลังคือรอน
เฮอร์ไมโอนี่ เดรโกและเฮเลนที่จำต้องขึ้นไปนั่งตักเขาอย่างเสียไม่ได้
รถคันเล็กกระตุกเคลื่อนไปข้างหน้า
จากนั้นก็เพิ่มความเร็วขั้นเรื่อยๆ ทุกคนแล่นฉิวผ่านทราเวอร์ส
เขากำลังดิ้นรนแทรกตัวเข้าไปในซอกแตกร้าวของกำแพง
จากนั้นรถคันเล็กก็เริ่มหักเลี้ยวไปมาผ่านเส้นทางเขาวงกตและเดินทางลาดต่ำลงไปเรื่อยๆ
เฮเลนไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงรถดังโกร่งกร่างและมือของเดรโกที่จับแน่นอยู่บนเอว
ผมของพวกเขาปลิวสะบัดเมื่อรถเลี้ยวแทรกระหว่างหินงอกหินย้อยและเหาะลึกลงใต้ดินมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้พวกเขาลงมาลึกมาก
รถเลี้ยวโค้งหักศอกด้วยความเร็วสูง แล้วน้ำตกสายหนึ่งก็ไหลทะลักลงมาบนราง
ทุกคนเห็นมันล่วงหน้าแค่ไม่กี่วินาที เฮเลนได้ยินเสียงกริ๊บฮุกตะโกนเสียงดัง
พวกเขาเหาะทะลุน้ำตกเข้าไป น้ำไหลเข้าตาเข้าปากเฮเลนไปหมด
เธอมองอะไรไม่เห็นและสำลักน้ำไอโขลก แล้วทันใดนั้นรถก็เอียงวูบ พลิกคว่ำ
ทุกคนถูกเหวี่ยงลอยไป เฮเลนได้ยินเสียงรถกระแทกกำแพงข้างทางจนพังเป็นเสี่ยงๆ
ได้ยินเสียงเฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องบางอย่างแล้วก็รู้สึกว่าตัวร่อนลงสู่พื้นดินราวกับไร้น้ำหนักและลงไปยืนอยู่บนพื้นอย่างปลอดภัย
“คะ – คาถาเบาะ” เฮอร์ไมโอนี่ละล่ำละลัก
เฮเลนสะดุ้งเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ใช่นาร์ซิสซาอีกต่อไป
เฮอร์ไมโอนี่กลับเป็นตัวเอง รอนกลับมามีผมสีแดงและไม่มีเคราอีกแล้ว
พวกเขาสัมผัสใบหน้าของตัวเองอย่างตกใจ
เฮเลนได้ยินกริ๊บฮุกพูดเรื่องมาตรการการป้องกันขั้นสูงสุดของกริงกอตส์
ดูเหมือนน้ำตกนั่นจะล้างคำสาปได้ทุกแขนง เฮเลนยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นชี้ไปทางบ็อกร็อด
“อิมเปริโอ!”
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น