คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #73 : บทที่ 24 : กริ๊บฮุกและโอลลิแวนเดอร์ [END SS3]
บทที่ 24 กริ๊บฮุกและโอลลิแวนเดอร์
แฮร์รี่ เฮเลน เดรโก รอนและเฮอร์ไมโอนี่เดินตามกันขึ้นมาบนชั้นสองของบ้าน
“เธอเป็นไงบ้าง”
แฮร์รี่ถามเฮอร์ไมโอนี่ “เธอยอดเยี่ยมจริงๆ แต่งเรื่องขึ้นมาได้ทั้งๆ
ที่โดนทำร้ายขนาดนั้น – ”
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเพลียๆ
ขณะที่รอนโอบไหล่เธอแรงๆ หนึ่งที
“เราจะทำอะไรกันล่ะแฮร์รี่”
เดรโกถาม
“มาเถอะ” เขาตอบ “เดี๋ยวก็รู้เอง”
แฮร์รี่ เฮเลน เดรโก รอนและเฮอร์ไมโอนี่ตามบิลขึ้นบันไดไปถึงชานบันไดเล็กๆ
ตรงนั้นมีประตูสามบาน
“ในนี้” บิลบอก
เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของเขากับเฟลอร์ ห้องนี้ก็มองเห็นทะเลได้เช่นกัน
และบัดนี้มันถูกแต่งแต้มด้วยสีทองของรุ่งอรุณ แฮร์รี่เดินไปที่หน้าต่าง
หันหลังให้ทิวทัศน์ที่งดงามและยืนคอยอยู่ตรงนั้น แขนยกขึ้นกอดอก
เฮเลนเดินไปยืนอยู่ที่กำแพงห้องด้านในพร้อมกับเดรโก
เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะเครื่องแป้ง รอนนั่งบนเท้าแขนเก้าอี้
บิลโผล่กลับมา
อุ้มก๊อบลินร่างเล็กมาด้วย เขาวางก๊อบลินลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง
กริ๊บฮุกครางขอบคุณแล้วบิลก็ออกไป ปิดประตูให้พวกเขาอยู่กันตามลำพัง
“เราต้องขอโทษด้วยที่ต้องให้คุณลุกจากเตียง”
แฮร์รี่พูด “ขาของคุณเป็นยังไงบ้างครับ”
“ยังปวดมาก” ก๊อบลินตอบ
“แต่กำลังซ่อมกระดูกอยู่”
เขายังกอดดาบของกริฟฟินดอร์ไว้และมีสีหน้าแปลกๆ
กึ่งก้าวร้าว กึ่งทึ่ง เฮเลนสังเกตว่าก๊อบลินมีผิวเหี่ยวซีด
นิ้วผอมยาวและดวงตาสีดำ
เฟลอร์ได้ถอดรองเท้าของเขาออกและเท้าที่ยาวนั้นค่อนข้างสกปรก
เขาตัวใหญ่กว่าเอลฟ์ประจำบ้านไม่มากนัก ศีรษะทรงกลมนั้นใหญ่กว่าศีรษะมนุษย์มาก
“คุณอาจจะจำไม่ได้ – ” แฮร์รี่เริ่ม
“ –
ว่าผมคือก๊อบลินที่พาคุณไปห้องนิรภัยของพวกคุณครั้งแรกที่ไปกริงกอตส์ใช่ไหม”
กริ๊บฮุกพูด “ผมจำได้ ฝาแฝดพอตเตอร์ แม้แต่ในหมู่ก๊อบลิน
พวกคุณก็มีชื่อเสียงโด่งดัง”
เฮเลนมองก๊อบลิน
แผลเป็นยังคงเจ็บแปลบ เธออยากให้การพูดคุยสิ้นสุดลงให้เร็วที่สุด
เธอรู้สึกอยากเล่าความฝันของเธอให้พวกเขาฟังยังไงพิกล แต่ในเวลาเดียวกัน
เธอก็กลัวว่าจะเดินหมากพลาดถ้าหากรีบเร่งจนเกินไป
“คุณฝังศพเอลฟ์” กริ๊บฮุกพูด
น้ำเสียงคั่งแค้นพิกล “ผมเฝ้าดูจากหน้าต่างห้องนอนห้องถัดไป”
“ใช่” แฮร์รี่พูด
กริ๊บฮุกชำเลืองมองทุกคน
“พวกคุณเป็นพ่อมดที่ไม่ปกติเลย
พอตเตอร์”
“ไม่ปกติยังไง” เฮเลนถาม
พยายามห้ามไม่ให้ตัวเองเอื้อมมือไปจับแผลเป็น
“ก็พี่ชายฝาแฝดของคุณขุดหลุมขึ้นมาเอง”
“แล้วไง?” แฮร์รี่ขมวดคิ้ว
กริ๊บฮุกไม่ตอบ
เฮเลนคิดว่ากริ๊บฮุกกำลังเย้ยหยันเรื่องที่แฮร์รี่ทำตัวเหมือนมักเกิ้ล
“กริ๊บฮุก ผมอยากจะขอ – ”
“คุณช่วยก๊อบลินด้วย”
“อะไรนะ” แฮร์รี่ร้อง
“คุณพาผมมาที่นี่ ช่วยชีวิตผม”
“แล้วไงล่ะ
คุณคงไม่เสียใจหรอกใช่ไหมที่ถูกช่วย” เฮเลนพูด รู้สึกหงุดหงิดหน่อยๆ
“ไม่เลยเฮเลน พอตเตอร์” กริ๊บฮุกพูด
แล้วใช้นิ้วหนึ่งบิดเคราสีดำใต้คาง “แต่พวกคุณเป็นพ่อมดแม่มดที่ประหลาดมากๆ”
“เอาเถอะ” แฮร์รี่พูด
“ผมต้องการความช่วยเหลือ กริ๊บฮุก แล้วคุณก็ช่วยเราได้”
ก๊อบลินไม่ได้มีท่าทีเชิญชวนให้พูดต่อเลย
แต่ยังคงขมวดคิ้วใส่ทุกคนราวกับไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
“ผมต้องการบุกเข้าไปในห้องนิรภัยห้องหนึ่งที่กริงกอตส์”
“แฮร์รี่ – ” เฮอร์ไมโอนี่พูด แต่กริ๊บฮุกขัดขึ้นมา
“บุกเข้าไปในห้องนิรภัยของกริงกอตส์งั้นเหรอ”
ก๊อบลินทวนคำ นิ่วหน้าเล็กน้อยขณะขยับเปลี่ยนท่าบนเตียง “มันเป็นไปไม่ได้”
“ไม่จริงหรอก” รอนแย้ง
“เคยมีคนทำมาแล้ว”
“ใช่” แฮร์รี่พูด
“วันที่ผมกับเฮเลนพบคุณเป็นครั้งแรกนั่นแหละกริ๊บฮุก วันเกิดของเราเมื่อเจ็ดปีก่อน”
“ห้องนิรภัยนั่นเป็นห้องเปล่า!” ก๊อบลินตวาด
“การคุ้มครองจึงลดน้อยลงมาก”
“ครับ
แต่ห้องที่เราอยากเข้าไปนั่นไม่ได้ว่างเปล่า
ผมเดาว่าคงมีการป้องกันแน่นหนามากด้วย” แฮร์รี่พูด
“มันเป็นห้องนิรภัยของตระกูลเลสแตรงจ์”
เฮเลนบอกต่อ
เธอเห็นเดรโกทำหน้าเหวอไปชั่วอึดใจหนึ่ง
“ไม่มีทางเป็นไปได้เลย”
กริ๊บฮุกพูดตรงๆ “ไม่มีเลยสักนิดเดียว – ”
“ถ้าคุณค้นหาของใต้พื้นเรา
สมบัติเขาใช่ของคุณจงแสยง หัวขโมย – ขอเตือนว่าอย่าเสียแรง” เฮเลนพูด “เรารู้
เราจำได้”
“แต่เราไม่ได้พยายามจะเอาสมบัติมาเป็นของตัวเอง”
แฮร์รี่พูด “เราไม่ได้พยายามเอาอะไรมาให้ตัวเองเลย คุณเชื่อเราได้ไหม”
“ถ้ามีพ่อมดแม่มดที่ไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง”
กริ๊บฮุกพูด “ก็คงเป็นพวกคุณนี่แหละ พอตเตอร์
ก๊อบลินและเอลฟ์ไม่คุ้นเคยกับการปกป้องหรือเคารพที่พวกคุณแสดง
เราไม่เคยได้รับอะไรแบบนี้จากพวกถือไม้กายสิทธิ์”
“พวกถือไม้กายสิทธิ์” แฮร์รี่ทวนคำ
แผลเป็นเจ็บแปลบขึ้น
เฮเลนรับรู้ว่าโวลเดอมอร์กำลังมุ่งหน้าหันเหไปทางทิศเหนือ
“สิทธิที่จะใช้ไม้กายสิทธิ์นั้น”
ก๊อบลินพูดเบาๆ “มีการถกเถียงกันมานานแล้วระหว่างพ่อมดกับก๊อบลิน”
“อ้าว แต่ก๊อบลินเสกเวทมนตร์ได้โดยที่ไม่ต้องมีไม้กายสิทธิ์นี่”
รอนพูด
“แต่นั่นมันขี้ปะติ๋ว!
พ่อมดไม่ยอมแบ่งปันความลับของไม้กายสิทธิ์วิทยากับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
พวกคุณไม่ยอมให้เรามีโอกาสขยายพรมแดนอำนาจออกไป!”
“แต่ก๊อบลินก็ไม่ยอมแบ่งปันเรื่องการทำดาบกับอาวุธเหมือนกัน”
เดรโกแย้ง
กริ๊บฮุกหัวเราะเสียงกร้าว
“เหอะ! ยิ่งจอมมารมีอำนาจมากขึ้น
เผ่าพันธุ์ของพวกคุณก็ยิ่งสูงส่งมั่นคงยิ่งกว่าพวกผม!
กริงกอตส์ตอนนี้มีพ่อมดปกครองไปแล้ว เอลฟ์ประจำบ้านถูกฆ่า
แล้วมีพวกถือไม้กายสิทธิ์คนไหนบ้างที่ลุกขึ้นมาประท้วง”
“ก็เราไงล่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอนั่งตัวตรง
ดวงตาเจิดจ้า “เราประท้วง!
แล้วฉันเองก็ถูกตามไล่ลาเหมือนก๊อบลินหรือเอลฟ์นะ กริ๊บฮุก!
ฉันเป็นเลือดสีโคลน!”
“อย่าเรียกตัวเองแบบนี้ – ”
รอนพึมพำ
“ทำไม” เฮอร์ไมโอนี่พูด
เขม่นมองเดรโกเล็กน้อย “เป็นเลือดสีโคลน แล้วก็ภูมิใจด้วย!
ฉันเองก็ไม่ได้มีฐานะสูงส่งไปมากกว่าคุณในระบบการปกครองใหม่นี่! ที่คฤหาสน์มัลฟอยพวกนั้นเลือกฉันไปทรมาน!”
เธอดึงคอเสื้อคลุมอาบน้ำออก
เผยให้เห็นบาดแผลที่เบลาทริกซ์ทำไว้เป็นรอยสีแดงอยู่บนคอ
“คุณรู้หรือเปล่าว่าฝาแฝดเป็นคนช่วยให้ด๊อบบี้เป็นอิสระ”
เธอถาม “คุณรู้ไหมว่าเราต้องการให้พวกเอลฟ์เป็นอิสระมานานแล้ว เราอยากให้คนที่คุณก็รู้ว่าใครพ่ายแพ้มากยิ่งกว่าคุณเสียอีก
กริ๊บฮุก!”
ก๊อบลินมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยความฉงนสงสัยเช่นเดียวกับที่มองฝาแฝด
“คุณต้องการอะไรในห้องนิรภัยของพวกเลสแตรงจ์”
อยู่ๆ เขาก็ถามขึ้น “ดาบที่อยู่ในนั้นเป็นของปลอม นี่คือของจริง”
เขามองดูทั้งห้าทีละคน “ผมคุณว่าพวกคุณก็รู้อยู่แก่ใจ คุณให้ผมโกหก แฮร์รี่
พอตเตอร์ เมื่อตอนที่อยู่บ้านนั้น”
“แต่ของในนั้นไม่ได้มีแต่ดาบปลอมอย่างเดียว”
เดรโกบอก “มันมีสิ่งหนึ่งอยู่ในนั้นด้วย ผมรู้ว่าคุณรู้เพราะวันนั้นผมก็ไปด้วย”
“เรามีกฎห้ามพูดถึงความลับของกริงกอตส์”
ก๊อบลินบิดเคราไปรอบๆ นิ้วมืออีกครั้ง “เราเป็นผู้รักษาสมบัติอันมหัศจรรย์ทั้งหลาย
เรามีหน้าที่ต่อวัตถุสิ่งของที่ถูกมอบให้เราดูแล
ซึ่งส่วนใหญ่ก็ประดิษฐ์ขึ้นด้วยมือเราเอง”
ก๊อบลินลูบดาบ
ดวงตาสีดำกวาดมองไปทั่วห้อง
“ยังเด็กเกินไป” เขาพูดในที่สุด
“ที่จะต่อสู้กับคนมากมาย”
“คุณจะช่วยเราไหมล่ะ” แฮร์รี่พูด
“เราไม่มีทางบุกเข้าไปได้ถ้าไม่มีก๊อบลินช่วย คุณเป็นโอกาสเดียวของเรา”
“ผมจะ... ลองคิดดู”
กริ๊บฮุกพูดอย่างกวนโมโห
“ขอบคุณมาก” เฮเลนพูด
ก๊อบลินก้มศีรษะลงแสดงความรับรู้
เฮเลนเห็นรอนถอนหายใจแรงๆ อย่างมีโทสะ
“ผมคิดว่า” เขาพูด
ขยับตัวนอนอย่างโก้เก๋บนเตียงของบิลกับเฟลอร์
“น้ำยาปลูกกระดูกนั่นทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมคงจะได้นอนหลับเสียที ขอตัวนะ...”
“เชิญ”
เฮเลนพูดน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนออกจากห้อง
แฮร์รี่ชะโงกตัวไปหยิบดาบของกริฟฟินดอร์จากข้างตัวก๊อบลิน
กริ๊บฮุกไม่ประท้วงแต่ว่าเห็นได้ถึงความขัดเคืองในแววตานั้น
“ยอดยี้งี่เง่า” รอนกระซิบ
“ชอบใจนักล่ะให้เรารออยู่แบบนี้”
“เดรโก” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบ
เธอเดินออกให้ห่างจากประตูไปอยู่ตรงชานบันไดมืดๆ เพื่อให้คนอื่นๆ เดินตามไป
“เธอกำลังจะบอกสิ่งที่ฉันคิดว่าเธอกำลังจะบอกใช่ไหม
เธอกำลังจะบอกว่าเบลาทริกซ์ซ่อนฮอร์ครักซ์ไว้ในห้องนิรภัยตระกูลเลสแตรงจ์งั้นเหรอ”
“ใช่” แฮร์รี่เป็นคนตอบ
“ตอนเบลาทริกซ์คิดว่าเราเข้าไปในห้องนั้น ท่าทางเขากลัวสุดขีดเลย กลัวจนลืมตัว
แต่ทำไมล่ะ เขาคิดว่าเราเห็นอะไร คิดว่าเราเอาอะไรไปอีก มันต้องเป็นอะไรที่เขากลัวคนที่เราก็รู้ว่าใครจะรู้เข้า”
“แต่ฉันคิดว่าเรากำลังหาที่ที่คนที่เราก็รู้ว่าใครเคยอยู่
เคยทำอะไรสำคัญๆ เอาไว้ไม่ใช่เหรอ” รอนพูด
“เขาเคยเข้าไปในห้องนิรภัยของพวกเลสแตรงจ์เหรอ”
“เขาเคยเข้าไปที่กริงกอตส์หรือเปล่ายังไม่รู้เลย”
เฮเลนบอก “ตอนเด็กๆ เขาไม่ได้เข้าไปแน่อยู่แล้วเพราะเขาไม่มีครอบครัว
ไม่มีใครทิ้งมรดกอะไรเอาไว้ให้ แต่ตอนไปที่ตรอกไดแอกอนครั้งแรก
เขาอาจจะเคยเห็นธนาคารจากข้างนอกก็ได้”
“ฉันคิดว่าเขาคงอิจฉาทุกคนที่มีกุญแจห้องนิรภัยของกริงกอตส์
เขาคงเห็นมันเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นสมาชิกโลกผู้วิเศษจริงๆ” แฮร์รี่พูด
“อย่าลืมว่าเขาไว้ใจเบลาทริกซ์กับสามีมาก
สองคนนั้นเป็นคนรับใช้ที่จงรักภัคดีที่สุดก่อนเขาจะหมดอำนาจ
แล้วพวกนั้นก็ไปตามหาตัวเขาด้วยตอนเขาหายไป เขาพูดเองคืนที่กลับมา ฉันได้ยิน”
“แต่เขาไม่ได้บอกป้าเบลล่าว่าเป็นฮอร์ครักซ์”
เดรโกเอ่ย “เขาบอกว่ามันเป็นแค่สมบัติที่มีค่ามาก
เธอมาขอให้ฉันไปเป็นเพื่อนตอนที่เอามันไปฝากไว้ที่ห้องนิรภัย
ฉันคิดว่าเขาคงคิดว่ามันเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกที่อยากจะซ่อนอะไรก็ตามที่อยากจะซ่อน”
เมื่อพวกเขาพูดจบ รอนส่ายศีรษะ
“เอาเถอะ” เฮเลนบอก
“เราเข้าไปหาโอลลิแวนเดอร์กัน”
ทั้งห้าคนเดินข้ามชานบันไดแคบๆ
ไปเคาะประตูห้องตรงข้าม เสียงอ่อยๆ พูดออกมาว่า “เชิญเข้ามา”
ห้องนั้นมีเตียงสองเตียง
ช่างทำไม้กายสิทธิ์นอนอยู่บนเตียงที่ไกลจากหน้าต่าง เขาถูกขังและทรมานอยู่ในห้องใต้ดินนานกว่าหนึ่งปีโดยที่เฮเลนไม่สามารถเข้าไปช่วยได้เลย
เขาผ่ายผอม กระดูกบนใบหน้าปูดโปนตัดกับผิวสีเหลือง
ดวงตาสีเงินคู่โตดูใหญ่กว่าเดิมในกระบอกตาที่โหลลึก
มือที่วางทาบบนผ้าห่มนั้นเหมือนมือของโครงกระดูก แฮร์รี่นั่งลงบนเตียงว่างๆ
อีกเตียงพร้อมๆ กับเฮเลน เดรโก รอนและเฮอร์ไมโอนี่
ห้องนี้หันหน้าเข้าหาสวนบนหน้าผาและหลุมศพที่เพิ่งขุดใหม่ๆ
“คุณโอลลิแวนเดอร์ครับ
ผมขอโทษที่มารบกวนคุณ” แฮร์รี่พูด
“พ่อหนุ่มที่รัก”
เสียงของโอลลิแวนเดอร์อ่อนเพลีย “เธอช่วยเราออกมา
ฉันคิดว่าเราจะตายอยู่ที่นั่นซะแล้ว ฉันไม่อาจขอบใจเธอได้... ไม่มีวันขอบใจเธอได้เพียงพอเลย
เสียงของเด็กสาวที่ฉันได้ยินแทบทุกวัน เธอทรมานมากเลยใช่ไหม พอตเตอร์”
เฮเลนยิ้มน้อยๆ “ไม่เท่าคุณหรอกค่ะ”
“เราดีใจที่ได้ช่วยคุณออกมาครับ”
แฮร์รี่บอก
แผลเป็นปวดขึ้นมาตุ้บๆ
เฮเลนแน่ใจว่าเหลือเวลาไม่มากแล้ว เธอไม่มีทางไปถึงจุดหมายที่เธอรู้อยู่แก่ใจว่ามันคือที่ใดก่อนโวลเดอมอร์หรือแม้แต่จะถ่วงเวลาให้มันช้าลงสักเสี้ยววินาทีก็ยังทำไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เธอก็ตัดสินใจไปแล้ว
เฮเลนยื่นไม้กายสิทธิ์หักครึ่งคืนให้แฮร์รี่
เขาถือมันและมองไปยังโอลลิแวนเดอร์
“ผมอยากให้คุณช่วย”
“อะไรก็ได้ อะไรก็ได้”
ช่างทำไม้กายสิทธิ์พูดอย่างอ่อนแรง
“คุณจะซ่อมไม้นี้ได้ไหมครับ
เป็นไปได้ไหม” แฮร์รี่ถาม
โอลลิแวนเดอร์ยื่นมือสั่นเทาออกมา
แฮร์รี่วางไม้ทั้งสองท่อนที่เกือบขาดจากกันลงบนฝ่ามือเขา
“ฮอลลี่กับขนนกฟินิกซ์”
โอลลิแวนเดอร์พูดเสียงสั่นเครือ “สิบเอ็ดนิ้ว ดีและนุ่ม”
“ใช่ครับ” แฮร์รี่พูด “คุณ – ”
“ไม่ได้หรอก” โอลลิแวนเดอร์กระซิบ
“ฉันเสียใจ เสียใจจริงๆ แต่ไม้กายสิทธิ์
ที่เสียหายระดับนี้ไม่อาจซ่อมได้ด้วยวิธีที่ฉันรู้”
แฮร์รี่เก็บไม้กายสิทธิ์ลงถุง
เฮเลนเอื้อมมือไปลูบบ่าเขาอย่างปลอบใจ โอลลิแวนเดอร์มองตามจนมันลับไปจากสายตาจนกระทั่งแฮร์รี่หยิบไม้กายสิทธิ์อีกสองอันออกมาจากกระเป๋า
เฮเลนก็เช่นกัน เธอคว้าไม้ของแท็คออกมาจากกระเป๋าและส่งมันรวมไปกับของแฮร์รี่
“คุณบอกได้ไหมครับว่าพวกนี้เป็นไม้อะไร”
แฮร์รี่ถาม
“นั่น – ”
เดรโกทำท่าจะท้วงแต่เฮเลนกระทุ้งข้อศอกใส่เขาเสียก่อน
“อันนี้ ไม้วอลนัตและเอ็นหัวใจมังกร”
โอลลิแวนเดอร์พูด “สิบสองเศษสามส่วนสี่นิ้ว ไม่ยอมงอ
ไม้กายสิทธิ์นี่เป็นไม้กายสิทธิ์ของเบลาทริกซ์ เลสแตรงจ์”
ช่างทำไม้กายสิทธิ์ส่งไม้อันแรกคืนและหยิบไม้อันต่อไปขึ้นมา
เขาถือเอาไว้ใกล้ดวงตาสีจาง กลิ้งมันไปมาระหว่างข้อนิ้วที่ปูดโปน กระดกมันนิดๆ
“ไม้ฮอว์ทอร์นและขนหางยูนิคอร์น
ยาวสิบนิ้ว ยืดหยุ่นกำลังดี อันนี้เคยเป็นไม้ของเดรโก มัลฟอย”
“ทำไมถึงเคยละครับ” เดรโกเอ่ยถาม
“เขายึดมันมาจากเธอ”
โอลลิแวนเดอร์พูด “โดยทั่วไปแล้วเมื่อไม้ถูกชิงมาได้
ความสวามิภักดิ์ของมันก็จะเปลี่ยนไปด้วย”
โอลลิแวนเดอร์หยิบไม้อันที่สามขึ้นมาและตรวจมันด้วยวิธีเดียวกัน
“ไม้ชีดาร์ และเอ็นหัวใจมังกร
ยาวสิบสองนิ้ว” โอลลิแวนเดอร์พูด “มีความยืดหยุ่นสูง ไม้นี้เคยเป็นไม้ของแท็ค
แม็คมาเวลล์ ความสวามิภักดิ์ของไม้อันนี้เปลี่ยนไปเมื่อนานมากแล้ว”
เขายื่นไม้กายสิทธิ์ให้กับเดรโก
“มันจะทำงานได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อมันอยู่กับเธอ” เขายิ้ม “ไม้กายสิทธิ์เป็นผู้เลือกพ่อมด
พวกเราที่ศึกษาไม้กายสิทธิ์วิทยารู้เรื่องนั้นดี”
“แต่เราใช้ไม้กายสิทธิ์ที่ไม่ได้เลือกเราก็ได้นี่ครับ
ใช่ไหม” แฮร์รี่ถาม
“อ๋อ ได้สิ ถ้าเธอเป็นพ่อมดล่ะก็
เธอส่งเวทมนตร์ผ่านเครื่องมือได้เกือบทุกอย่างนั่นแหละ ยังไงก็ตาม
ถ้าจะให้ผลดีที่สุด พ่อมดกับไม้กายสิทธิ์ต้องมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง
การเชื่อมโยงนี้ซับซ้อนมาก เริ่มจากการดึงดูดกันครั้งแรกแล้วจากนั้น
ทั้งสองต้องค้นหาประสบการณ์ร่วมกัน ไม้กายสิทธิ์จะเรียนรู้จากพ่อมดและพ่อมดก็จะเรียนรู้จากไม้ด้วย”
ทะเลสาดซัดเข้ามาแล้วก็ถอยกลับไป
เสียงดังเหมือนกำลังคร่ำครวญ
“กฎที่ลึกซึ้งนั้นกำหนดความเป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์
แต่ไม้เชลยก็มักจะโอนอ่อนผ่อนตามนายใหม่ของมันเสมอ”
“ถ้างั้นผมก็ควรใช้ไม้นี่สิครับ”
รอนพูด พลางดึงไม้กายสิทธิ์อีกอันออกมาจากกระเป๋า ส่งให้โอลลิแวนเดอร์
“ไม้เกาลัดและเอ็นหัวใจมังกร
เก้าเศษหนึ่งส่วนสี่นิ้ว เปราะ ฉันถูกบังคับให้ทำไม้นี้ให้ปีเตอร์
เพ็ตติกรูว์หลังจากถูกจับไปไม่นาน ใช่
ถ้าเธอชิงมันมาได้ล่ะก็เป็นไปได้มากว่าไม้จะยอมทำตามคำสั่งของเธอและจะทำได้ดีกว่าไม้กายสิทธิ์อันอื่นๆ
ด้วย”
“แล้วกฎข้อนี้ใช้กับทุกคนได้หรือเปล่าครับ”
เดรโกถาม
“ฉันคิดแบบนั้นนะ” โอลลิแวนเดอร์ตอบ
ดวงตาโปนโตจับจ้องที่ใบหน้าของแฮร์รี่ “เธอตั้งคำถามลึกซึ้งมากคุณพอตเตอร์
ไม้กายสิทธิ์วิทยานั้นเป็นแขนงเวทมนตร์ที่ลึกซึ้งมาก”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเจ้าของเดิม
เพื่อให้ได้ไม้มาเป็นกรรมสิทธิ์อย่างแท้จริงใช่ไหมครับ” แฮร์รี่ถาม
โอลลิแวนเดอร์กลืนน้ำลาย
“จำเป็นรึ ไม่เลย
ฉันไม่คิดหรอกว่าจำเป็นต้องฆ่า”
“แต่ว่ามีตำนาน” แฮร์รี่พูด
“ตำนานเกี่ยวกับไม้กายสิทธิ์อันหนึ่ง – หรือหลายอัน – ที่ส่งต่อกันผ่านการฆ่า”
โอลลิแวนเดอร์หน้าซีดเผือด
เมื่อทาบอยู่บนหมอนสีขาวเหมือนหิมะ หน้าเขาก็ออกสีเทาเข้มๆ ดวงตาดูใหญ่มหึมา
แดงก่ำด้วยเลือดและโปนออกมาราวกับหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
“มีอันเดียวเท่านั้นล่ะนะ ฉันว่า”
เขากระซิบ
“แล้วคนที่คุณก็รู้ว่าใครก็สนใจมันด้วยใช่ไหมคะ”
เฮเลนถาม
“ฉัน – เธอรู้” โอลลิแวนเดอร์ถามเสียงแหบและมองคนอื่นๆ
อย่างขอความช่วยเหลือ “เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
“วันนั้นเขามาถามฉันเกี่ยวกับเรื่องการเชื่อมโยงของไม้
แล้วเขาก็เข้าไปหาคุณ” เฮเลนบอก
โอลลิแวนเดอร์มีสีหน้าตื่นกลัว
“เขาทรมานฉัน เธอต้องเข้าใจ! คำสาปกรีดแทง ฉัน –
ฉันไม่มีทางเลือก นอกจากบอกสิ่งที่ฉันรู้ สิ่งที่ฉันเดา!”
“เราเข้าใจครับ” แฮร์รี่พูด
“คุณบอกเขาเรื่องแกนที่เป็นฝาแฝด
คุณบอกเขาให้ขอยืมไม้กายสิทธิ์ของพ่อมดคนอื่นใช่ไหมครับ”
โอลลิแวนเดอร์ดูตกตะลึงระคนหวาดกลัว
เขาพยักหน้าช้าๆ
“แต่มันไม่ได้ผล” เฮเลนบอก “ไม้ของแฮร์รี่ยังเอาชนะไม้ของลูเซียส
มัลฟอยได้ คุณพอจะรู้ไหมคะว่าทำไม”
โอลลิแวนเดอร์สั่นศีรษะช้าๆ
เหมือนตอนพยักหน้า
“ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย
ไม้กายสิทธิ์ของเธอทำบางสิ่งที่พิเศษมากในคืนนั้น
การเชื่อมโยงของแกนแฝดนั้นหายากจริงๆ ยกเว้นจะเป็นระหว่างไม้ของพวกเธอสองคน
แต่ทำไมไม้ของลูเซียส มัลฟอยถึงหักได้ ฉันไม่รู้เลย...”
“แล้วเขาก็กลับไปถามคุณเรื่องอีกไม้ใช่ไหมคะ”
เฮเลนถาม
“ใช่ เขาถาม” โอลลิแวนเดอร์กระซิบ
“เขาอยากรู้ทุกอย่างที่ฉันจะบอกได้ เรื่องไม้กายสิทธิ์ที่ถูกเรียกกันด้วยชื่อต่างๆ
เช่นไม้กายสิทธิ์มฤตยู ไม้กายสิทธิ์แห่งโชคชะตาหรือไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์”
เฮเลนกับเดรโกมองหน้ากัน
“จอมมาร” โอลลิแวนเดอร์พูด
น้ำเสียงนั้นแผ่วเบาและแฝงเอาไว้ด้วยความหวาดหวั่น
“พอใจกับไม้กายสิทธิ์ที่ฉันทำให้เสมอ – ไม้ยิวและขนนกฟินิกซ์ สิบสามนิ้วครึ่ง –
จนกระทั่งเขาพบความสัมพันธ์เรื่องแกนแฝดนั่น บัดนี้เขาค้นหาไม้กายสิทธิ์อันใหม่
ที่มีพลังอำนาจมากกว่า เพื่อเป็นวิธีเดียวที่จะเอาชนะไม้ของเธอ”
เขาชี้มายังแฮร์รี่
“แต่ในไม่ช้าเขาก็จะรู้
หรือไม่ก็อาจจะรู้แล้ว ผ่านเฮเลนไม่ก็ผ่านจากผมเองว่าไม้กายสิทธิ์ของผมหักจนซ่อมไม่ได้”
แฮร์รี่พูดเสียงเรียบ
“ไม่นะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูด
น้ำเสียงตื่นตระหนก “เขาไม่รู้หรอก แฮร์รี่ เขาจะรู้ได้ยังไง”
“ไพร – ออร์ อินคานตาโต้”
แฮร์รี่พูด “พวกนั้นอาจจะตรวจไม้นั่นตอนที่เราถูกจับไป
บางทีพวกนั้นอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่าระหว่างนั้นฉันใช้ไม้แบล็กทอร์นตั้งแต่หลังจากนั้นมา”
“จอมมารไม่ได้ค้นหาไม้กายสิทธิ์เพื่อพิชิตพวกเธออีกแล้ว
พอตเตอร์ เขามุ่งมั่นที่จะครอบครองมันให้ได้
เพราะเขาเชื่อว่ามันจะทำให้เขาไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแท้จริง”
“แล้วมันจะทำได้จริงเหรอครับ”
“เจ้าของไม้เอลเดอร์ต้องหวาดกลัวอยู่เสมอว่าจะโดนโจมตี”
โอลลิแวนเดอร์พูด “แต่ความคิดที่ว่าจอมมารจะได้ครอบครองไม้กายสิทธิ์นั่น
ฉันจำต้องยอมรับว่า... น่าเกรงขามมาก”
คุยได้ไม่นานนักทั้งห้าคนก็เดินลงบันไดมา
บิล เฟลอร์ ลูน่าและดีนนั่งอยู่ที่โต๊ะครัว มีถ้วยน้ำชาวางอยู่ตรงหน้า
ทั้งหมดเงยหน้าขึ้นมองเมื่อพวกเขาเดินผ่านไปที่ช่องประตู
พวกเขาแค่พยักหน้าให้แล้วเดินต่อไปในสวน เนินดินแดงๆ
ที่ปกคลุมร่างของด๊อบบี้ปรากฏขึ้นตรงหน้า
ความเจ็บปวดที่ศีรษะทวีความรุนแรงขึ้นมาจนเฮเลนต้องยกมือขึ้นไปจับมัน
“เกรโกโรวิตซ์เคยมีไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์เมื่อนานมาแล้ว”
แฮร์รี่เริ่ม “ฉันเห็นคนที่คุณก็รู้ว่าใครพยายามตามหาเขา พอแกะรอยพบ
เขาก็รู้ว่าเกรโกโรวิตซ์ไม่มีไม้อยู่กับตัวอีกแล้ว มันถูกกรินเดลวัลด์ขโมยไป
ฉันไม่รู้หรอกว่ากรินเดลวัลด์รู้ได้ยังไงว่าเกรโกโรวิตซ์มีไม้ –
แต่ถ้าเกรโกโรวิตซ์โง่พอที่จะแพร่ข่าวลือเอง มันก็คงไม่ยากหรอก”
เฮเลนรู้สึกว่าโวลเดอมอร์ไปถึงฮอกวอตส์แล้ว
เธอเห้นเขายืนอยู่ตรงไหนสักแห่งและเห็นด้วยว่ามีตะเกียงลอยอยู่ในความมืดก่อนรุ่งอรุณ
แสงตะเกียงใกล้เข้ามา
“แล้วกรินเดลวัลด์ก็ใช้ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ทำให้ตัวเองมีอำนาจ”
แฮร์รี่พูดต่อ “ดัมเบิลดอร์รู้ว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่จะหยุดยั้งกรินเดลวัลด์
เขาเอาชนะได้ แล้วก็ยึดไม้กายสิทธิ์มา”
“ดัมเบิลดอร์เป็นคนที่ถือไม้กายสิทธิ์”
เฮเลนบอก “เรื่องราวมันปะติดปะต่อได้มานานมากแล้ว
เพียงแต่เราปิดกั้นไม่ยอมรับว่าไม้นั่นมีจริง”
“แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะตอนนี้”
รอนถาม
“ฮอกวอตส์” แฮร์รี่ตอบ
“ถ้างั้นก็ไปกันเลยสิ!” รอนพูดอย่างเร่งร้อน “รีบไปเถอะ
ไปเอามันมาก่อนที่เขาจะได้ไป!”
“ช้าไปแล้ว” เฮเลนแทรก “เขารู้นานแล้วว่ามันอยู่ที่นั่น
เขาไปถึงมันแล้วตอนนี้”
“พวกนาย!” รอนพูดอย่างกราดเกรี้ยว “พวกนายรู้เรื่องนี้มานานแค่ไหนแล้ว
– เรามัวเสียเวลาอยู่ทำไม ทำไมนายต้องคุยกับกริ๊บฮุก – เราควรจะไป เรายังไปได้ – ”
“ไม่ได้หรอก” แฮร์รี่พูด
เขาคุกเข่าลงบนหญ้า อาการปวดแผลของฝาแฝดเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น “ดัมเบิลดอร์ไม่อยากให้ฉันได้มัน
เขาไม่อยากให้ฉันเอามันมา เขาต้องการให้ฉันไปเอาฮอร์ครักซ์”
“นี่มันไม้กายสิทธิ์ที่ไม่มีวันพ่ายแพ้นะ!” รอนคร่ำครวญ
“เราไม่ควรได้มันมารอน...
เราควรไปหาฮอร์ครักซ์...”
Season 3
E N D
Easter egg
บัดนี้ทุกอย่างเยือกเย็นและมืดมัวดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าขณะที่เขากำลังเลื่อนไหลไปข้างๆ
กับสเนป ผ่านบริเวณโรงเรียนไปทางทะเลสาบ
“อีกประเดี๋ยวฉันจะไปสมทบกับแกที่ปราสาท”
เขาพูดด้วยเสียงสูง เยือกเย็น “ตอนนี้ให้ฉันอยู่ตามลำพัง”
สเนปโค้งคำนับแล้วออกเดินกลับไปตามทาง
เสื้อคลุมสีดำโบกสะบัดตามหลัง เขาเดินอย่างเชื่องช้า
คอยให้ร่างของสเนปหายลับไปก่อน ไม่เหมาะให้สเนปหรือใครก็ตามเห็นว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน
แต่บนปราสาทไม่มีแสงไฟและเขาก็บังคับตนเองได้ด้วย... ในอึดใจเดียว
เขาเสกคาถาพรางตาใส่ตัวเอง ปกปิดร่างแม้กระทั่งจากสายตาของเขาเอง
แล้วเขาก็เดินต่อไป
เลาะริมฝั่งทะเลสาบ ซึมซาบกับโครงร่างของปราสาทสุดที่รัก อาณาจักรแห่งแรกของเขา
สมบัติที่คู่ควรกับชาติกำเนิด...
และมันก็ตั้งอยู่ที่นี่เอง
ริมทะเลสาบ สะท้อนเงาอยู่ใต้น้ำดำมืด สุสานหินอ่อนสีขาว
เป็นรอยตำหนิส่วนเกินบนภูมิทัศน์อันคุ้นตา
เขารู้สึกว่าความปลาบปลื้มที่ควรคุมไว้พุ่งปะทุขึ้นมาอีกครั้ง รวมทั้งความตื่นเต้นของใจที่มุ่งมั่นทำลายล้าง
เขายกไม้กายสิทธิ์ไม้ยิวที่ใช้มานาน ช่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้
นี่จะเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่ชิ้นสุดท้ายของมัน
สุสานแตกออกตั้งแต่ต้นจนปลาย
ร่างที่ถูกห่อหุ้มดูเหยียดยาวและผอมบางเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
เขาชูไม้หายสิทธิ์ขึ้นอีกครั้ง
ผ้าห่อศพแหวกเปิดออก
ใบหน้านั้นดูโปร่งใส เผือดซีด ตอบลีบ แต่ก็คงสภาพอยู่เกือบสมบูรณ์
พวกนั้นวางแว่นตาของเขาเอาไว้บนจมูกที่หัก โวลเดอมอร์รู้สึกขบขันปนสมเพช
มือของดัมเบิลดอร์วางไว้บนอกและมันวางอยู่ที่ตรงนั้น กุมอยู่ในมือฝังไว้กับศพเขา
ตาแก่โง่นั่นคิดว่าหินอ่อนหรือความตายจะปกป้องไม้กายสิทธิ์ได้ละหรือ
เขาคิดว่าจอมมารจะไม่กล้าบุกรุกสุสานของเขา
มือที่เหมือนแมงมุมโฉบลงไปดึงไม้กายสิทธิ์จากกำมือของดัมเบิลดอร์
ขณะที่เขาจับขึ้นมา ประกายไฟก็โปรยปรายลงมาเป็นสายจากปลายไม้ ส่องประกายระยิบระยับอยู่บนซากศพของเจ้าของคนก่อน
และพร้อมที่จะรับใช้นายใหม่ในที่สุด
ติดตามตอนต่อไป...
จบซีซั่น 3 แล้วจ้าาา!! แล้วเจอกันใหม่ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า -- รอบนี้ยาวไปนะ ! --
เนื่องจากไรท์ถอดตัวเองออกมาจากการประกวด ปั้นหมึกคอนเทส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ถอดตัวเอง ไม่รอให้ใครมาถอดด้วย 5555) ก็เลยเอามาวางลงใน raw เด็กดี fictionlog และ ธัญวลัย ในรูปแบบที่ติดเหรียญ แม้อาจจะไม่มีใครเข้ามาอ่าน 555555555555555555555 (ร้องไห้หนักมาก)
แต่ถ้าหากนักอ่านท่านใดสะดวกที่จะเข้าไปอ่านและติดตามผลงาน Ori ของไรท์เบลอๆ คนนี้ก็ติดตามได้ทางช่องทางนี้จ้า
ขอขอบพระคุณล่วงหน้างับ ♥
ชื่อเรื่อง : Time reverse ฉีกกฏเวลา ย้อนกลับมารัก
เรื่องราวของสาวน้อยที่เกิดใหม่หลายรอบจนพระเจ้าเหนื่อยใจ รอบนี้ย้อนเวลาให้อีกรอบก็เลยให้จำได้ซะเลยว่าตัวเองทำตัวแบบไหนมาแล้วถึงได้ตายซ้ำตายซาก แล้วมันก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแก้ไขทุกอย่างและทำให้ทั้งคู่ได้รักกันสักที! เฮ้อ! พระเจ้าก็เหนื่อยเป็น (เอเดน ♥ ของขวัญ)
RAW >> https://www.readawrite.com/a/b73379daf113540832d8649bb4c89fd2
Dek - D >> https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2280680
Thanwalai >> https://www.tunwalai.com/v2/story/603542
Fiction log >> https://fictionlog.co/b/61ba150b3e481a001ccc3414
และ
ชื่อเรื่อง : Protective H! ภารกิจลับ ฉบับยัยตัวร้าย
เรื่องของเจ้าเด็กอวดดีที่วันๆ เอาแต่คิดว่าตัวเองอยากจะได้อิสระในชีวิต จนลืมไปว่าก็ต้องใช้ชีวิตให้มันปลอดภัยด้วย ทำให้พ่อแม่ต้องหาบอดี้การ์ดส่วนตัวมาให้ แต่ไม่ได้หามาให้แบบให้รู้นะ บอดี้การ์ดนอกเครื่องแบบไปอีก! ทำไมต้องทำตัวให้มันมีปัญหามากขนาดนั้นด้วยนะ! (เฮอร์วิน ♥ วัตสัน)
RAW >> https://www.readawrite.com/a/4b182a370f1a804e0984381bbf124cc5
Dek - D >> https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2280855
Thanwalai >> https://www.tunwalai.com/v2/story/610542?rc=2
Fiction log >> https://fictionlog.co/b/61b72c4af17a2b001d610d2a
ปล. ช่วงนี้จะขายนิยายเก่งหน่อย อดทนนิดนึงนะคะ 5555555555555555555555
ความคิดเห็น