คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #66 : บทที่ 18 : เซโนฟิเลียส เลิฟกู๊ด
บทที่ 18 : เซโนฟิเลียส เลิฟกู๊ด
“มันจะเป็นไปได้ยังไง”
รอนท้วงขึ้นทันทีที่ได้ยิน “สเนปไม่มีวันเอาไปได้หรอก”
“แต่วันนั้นพวกนั้นเข้าไปบุกบ้านโพรงกระต่ายเพื่อหาตัวเรานะ”
แฮร์รี่พูด “บางทีสเนปอาจเอาไปตอนนั้นก็ได้”
“แต่มันไม่มีเหตุผลเลย แฮร์รี่”
เฮอร์ไมโอนี่บอกอย่างลืมตัว
“ไม่มีผู้เสพความตายคนไหนโง่พอที่จะเอาสมบัติของดัมเบิลดอร์มาให้กับเราหรอก
ฉันรู้ว่าสเนปต้องรู้แน่”
“แต่วันนั้นเขาเป็นคนเอามาให้จริงๆ”
เฮเลนแทรกขึ้น ดวงตาจับจ้องอยู่บนปกหนังสือ “เขาเอามาให้ฉันที่คฤหาสน์
บอกฉันว่าให้เอาไว้อ่านแก้เบื่อ บางทีดัมเบิลดอร์อาจจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วก็ได้”
“พอทีเถอะน่า” แฮร์รี่แยกเขี้ยว
“เลิกพูดว่าเขารู้อะไรอยู่ก่อนแล้วสักที มันก็แค่หนังสือ!
อย่าให้มันเป็นเหมือนตอนที่เราไปก็อดดริกส์โฮลโล่เลยน่า เฮอร์ไมโอนี่”
“มันไม่เหมือนหรอก!” รอนว่า
“บางทีดัมเบิลดอร์อาจจะรู้ เหมือนตอนนี้ที่เราจะไปหาเลิฟกู๊ดกันไง”
“แต่มันคนละเรื่องกัน!” แฮร์รี่เถียง
“ฉันแน่ใจนะว่านี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากจริงๆ”
เฮเลนพูดน้ำเสียงจริงจัง เก็บหนังสือลงไปที่เดิม
“อย่างน้อยตอนนี้เราก็ควรไปหาคุณเลิฟกู๊ดกันก่อน ส่วนเรื่องสเนป
ฉันว่าเราค่อยไปพบเขาที่ฮอกวอตส์ก็ได้”
“น่าไปพบซะไม่มี” แฮร์รี่พ่นลมหายใจแรงๆ
“ตราสัญสัญลักษ์บนปกหนังสือนิทานบีเดิลยอดกวีนี่
วิกเตอร์บอกเธอว่ามันเป็นตราของกรินเดลวัลด์
แต่มันก็อยู่บนหลุมศพเก่าแกที่ก็อดดริกส์โฮลโล่นั่นด้วย” เฮอร์ไมโอนี่บอก
“แล้ววันที่บนหินนั่นก็ก่อนที่กรินเดลวัลด์เกิดตั้งนาน!
ทีนี้เราจะไปถามดัมเบิลดอร์หรือกรินเดลวัลด์ไม่ได้แล้วว่ามันหมายถึงอะไรเพราะดัมเบิลดอร์ก็ตายแล้ว
กรินเดลวัลด์ก็อยู่ในคุกนูร์เมนการ์ด”
“เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากรินเดลวัลด์ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”
เฮเลนถอนหายใจ มองหน้าแฮร์รี่
“ถูกต้อง” เฮอร์ไมโอนี่เสริม
“แต่เราถามคุณเลิฟกู๊ดได้นี่ เขาก็สวมเครื่องหมายนี้ที่งานแต่งงาน
ฉันว่ามันต้องมีอะไรสำคัญแน่แฮร์รี่”
แฮร์รี่ไม่ได้ตอบทันที
เขามองใบหน้าเฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่สลับกันไปมาแล้วหันออกไปยังความมืดภายนอกอย่างครุ่นคิด
“งั้นก็ได้! เอาเป็นว่า พอเจอคุณเลิฟกู๊ดแล้ว
เราต้องไปตามหาฮอร์ครักซ์อันอื่นๆ ต่อนะ ตกลงไหม” แฮร์รี่พูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
“ว่าแต่บ้านเลิฟกู๊ดอยู่ตรงไหนล่ะ มีใครรู้บ้าง”
“ฉันรู้ อยู่ใกล้ๆ บ้านฉันเอง”
รอนพูด “ไม่แน่ใจนะว่าตรงไหน แต่เวลาพูดถึงพวกนั้น พ่อแม่ก็จะชี้ไปทางเทือกเขา
คงหาไม่ยากหรอก”
เมื่อเฮอร์ไมโอนี่กลับไปที่เตียงของเธอ
แฮร์รี่ก็ลดเสียงลงหันไปพูดกับรอน
“นายเห็นด้วยก็เพราะจะคืนดีกับเขาเท่านั้นแหละน่า!”
“ทุกอย่างยุติธรรมในความรักและสงคราม”
รอนพูดอย่างสดใสจนเฮเลนรู้สึกหมั่นไส้ “แล้วนี่ก็เกี่ยวกับเรื่องทั้งสองซะด้วยสิ รื่นเริงหน่อยน่า นี่วันหยุดคริสมาสต์นะ
ลูน่าต้องอยู่บ้านแน่!”
เช้าวันรุ่งขึ้น
พวกเขาหายตัวไปปรากฏบนไหล่เขาแห่งหนึ่งที่มีลมพัดโชยและมองเห็นหมู่บ้านอัตเทอรี่
เซนต์ แคทช์โพลได้ชัดเจนมาก จากชัยภูมิที่สูงตระหง่านนี้หมู่บ้านมองดูเหมือนเป็นบ้านของเล่นตั้งรวมกันเป็นหมู่อยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ฉายผ่านก้อนเมฆลงมาสู่โลก
ทั้งสามยืนป้องตามองไปยังบ้านโพรงกระต่ายอยู่อึดใจใหญ่ๆ
แต่ก็เห็นเพียงรั้วต้นไม่สูงๆ และยอดไม้ในสวน
ซึ่งคอยช่วยบดบังบ้านโย้เย้หลังเล็กให้พ้นจากสายตาพวกมักเกิ้ล
“รู้สึกแปลกพิลึก” รอนพูด
“มาอยู่ใกล้แค่นี้แต่ไม่ได้เข้าไปเยี่ยม”
“แหม พูดอย่างกับไม่ได้เจอกันนานมาก
ฉันรู้ว่าเธอก็กลับไปที่นั่น” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเย็นชา
“ฉันไม่ได้ไปที่บ้านโพรงกระต่ายสักหน่อย”
รอนพูด แล้วหัวเราะแบบไม่เชื่อหู “ฉันก็พูดต่อปรับคลื่นวิทยุอยู่นี่ว่าฉันอยู่กับบิลที่กระท่อมเปลือกหอย
เธอคิดเหรอว่าฉันจะกล้ากลับไปบอกทุกคนว่าฉันทิ้งพวกเธอมาแถมยังพาเฮเลนออกมาเสี่ยงด้วยน่ะ
ใช่แน่ล่ะ เฟร็ดกับจอร์จคงจะชอบอกชอบใจกันมาก แล้วจินนี่อีกล่ะ
เขาคงเห็นใจฉันน่าดู”
“คือเราไปอยู่ที่กระท่อมเปลือกหอยน่ะ
บ้านของบิลกับเฟลอร์” เฮเลนหันไปบอกเฮอร์ไมโอนี่
“เขาไม่ค่อยประทับใจหรอกตอนที่ฉันบอกว่าฉันทำอะไรลงไป
แต่ก็ไม่ได้ว่าฉันสักคำ เขารู้ว่าฉันเสียใจจริงๆ แล้วก็ดีใจมากๆ ที่ฉัน เฮเลน เธอกับแฮร์รี่ยังปลอดภัย
คนอื่นในบ้านไม่รู้หรอกว่าฉันอยู่ที่นั่น บิลบอกแม่ว่าจะไม่กลับบ้านวันคริสต์มาสเพราะอยากอยู่กับเฟลอร์ตามลำพัง
ก็แบบว่าหยุดครั้งแรกหลังจากแต่งงานอะไรทำนองนั้น แต่ฉันว่าเฟลอร์ไม่ว่าอะไรหรอก
เธอก็รู้ว่าเขาเกลียดเซเลสทิน่า วาร์เบ็กแค่ไหน”
รอนหันหลังให้บ้านโพรงกระต่าย
“ลองขึ้นไปทางนี้เถอะ”
เขาพูดและเดินนำขึ้นสู่ยอดเขา
ทั้งสี่คนเดินกันราวสองสามชั่วโมง
เฮอร์ไมโอนี่ยืนกรานให้แฮร์รี่และเฮเลนซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหนตลอด
ปราฏกว่าทิวเขาเตี้ยๆ นี้ไม่มีคนอยู่อาศัย นอกจากกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่ง
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีคนอยู่เหมือนกัน
“เธอคิดว่าใช่หลังนี้รึเปล่า
พวกเขาอาจจะไปเที่ยวคริสต์มาสก็ได้” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางแอบมองเข้าไปในครัวเล็กๆ
ที่สวยงาม มีต้นเจอเรเนียมที่อยู่ขอบหน้าต่าง รอนพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
“ฟังนะ ฉันมีความรู้สึกว่าถ้าเห็นบ้านพวกเลิฟกู๊ดปุ๊บ
เราจะรู้ได้ทันทีเลยว่าเป็นบ้านใคร” รอนบอก “ลองไปดูเขาลูกต่อไปเลยก็แล้วกัน”
ดังนั้นพวกเขาจึงหายตัวขึ้นไปทางเหนืออีกสองสามไมล์
“นั่นไง!” รอนตะโกน
ขณะที่ลมพัดผมและเสื้อผ้าของทุกคนปลิวสะบัด รอนชี้ขึ้นไปทางยอดเขา
ซึ่งมีบ้านหน้าตาแปลกประหลาดที่สุดตั้งตระหง่านทาบกับท้องฟ้า
มันดูเป็นปล่องใหญ่สีดำ มีดวงจันทร์สีซีดลอยอยู่ด้านหลัง
คล้ายวิญญาณในท้องฟ้ายามบ่าย “นั่นต้องเป็นบ้านของลูน่าแน่ๆ
คนอื่นที่ไหนจะอยู่บ้านแบบนั้น จริงไหม มันดูเหมือนเรือยักษ์เลยนะ!”
“ไม่เห็นเหมือนเรือสักหน่อย”
เฮอร์ไมโอนี่พูด ขมวดคิ้วใส่หอคอยทันทีที่เห็น
เฮเลนกับแฮร์รี่เดินจับมือกันภายใต้ผ้าคลุมล่องหนตามทั้งสองคนข้างหน้าไป
มืออุ่นของพี่น้องฝาแฝดที่ไม่ได้พบกันมานานแสนนาน
“ฉันพูดถึงเรือที่เป็นหมากรุกต่างหาก”
รอนพูด “หรือเธอจะเรียกว่าปราสาทก็ได้”
ขาของรอนยาวที่สุด เขาจึงไปถึงยอดเขาก่อนเพื่อน
อีกสามคนที่ตามมากุมสีข้างที่ปวดแปลบมองรอนที่ยืนยิ้มหน้าบานอยู่หน้าประตูรั้วพังๆ
“ใช่บ้านนี้แน่” รอนว่า “ดูสิ”
มีป้ายที่เขียนด้วยลายมือสามผ้ายติดเอาไว้ที่ประตูรั้วหักพัง
ป้ายแรกเขียนไว้ว่า
“เดอะควิบเบลอร์ บรรณาธิการ
ซ.เลิฟกู๊ด”
ป้ายที่สอง
“เก็บมิสเซิลโทของคุณเอง”
ป้ายที่สาม
“อย่าเดินผ่านต้นพลัมบังคับทิศทาง”
ประตูรั้วลั่นเอี๊ยดอ๊าดเมื่อถูกเปิดออก
ทางเดินคดเคี้ยวที่ทอดสู่ประตูหน้าดูรกด้วยพืชแปลกๆ หลากชนิด
รวมไปถึงพุ่มไม้ที่มีผลคล้ายหัวผักกาดแดง ซึ่งบางครั้งลูน่าก็เอาไปสวมเป็นต่างหู
เฮเลนคิดว่าทุกคนคงจำต้นสนาร์กาลัฟได้จึงพยายามเดินให้ห่างจากมัน มีแอปเปิ้ลปูแก่ๆ
สองต้นยืนเฝ้าอยู่สองข้างประตูหน้า ลำต้นของมันคดโค้งเพราะแรงลม ใบร่วงจนโกร๋น
แต่ยังมีลูกสีแดงเล็กๆ ดกไปทั้งต้นและมีเถามิสเซิลโทซึ่งมีลูกสีขาวๆ เกาะอยู่ด้วย
นกฮูกตัวเล็กซึ่งมีหัวแบนเหมือนเหยี่ยวจ้องมองลงมาจากกิ่งหนึ่งของแอปเปิ้ล
มันทำให้เฮเลนคิดถึงเฮนรี่อย่างช่วยไม่ได้
“เธอสองคนถอดผ้าคลุมออกก่อนดีกว่านะ”
เฮอร์ไมโอนี่พูด “คุณเลิฟกู๊ดคงอยากช่วยพวกเธอสองคน ไม่ใช่เรา”
แฮร์รี่ดึงผ้าคลุมล่องหนออกและส่งให้เฮอร์ไมโอนี่เก็บเอาไว้ในกระเป๋าลูกปัด
จากนั้นเธอเคาะประตูบานสีดำบานหนาหนักสามที ประตูนั้นฝังด้วยตะปูเหล็กและมีที่เคาะเป็นโลหะรูปนกอินทรี
ผ่านไปประมาณสิบวินาทีประตูก็เหวี่ยงเปิดออก
เซโนฟิเลียส เลิฟกู๊ดยืนอยู่ตรงประตู เท้าเปล่า และสวมสิ่งที่ดูเหมือนเสื้อนอนด่างๆ
ดวงๆ ผมยาวสีขาวที่ฟูฟ่องดูยุ่งเหยิง
“อะไร อะไรกันนี่ พวกเธอเป็นใคร
ต้องการอะไร” เขาร้องเสียงสูงแหลม
น้ำเสียงหาเรื่องพลางมองเฮอร์ไมโอนี่จากนั้นก็รอน
แฮร์รี่และมาสิ้นสุดที่ใบหน้าของเฮเลน พอเห็นสองแฝดเท่านั้น เขาก็อ้าปากค้าง
“สวัสดีครับคุณเลิฟกู๊ด”
แฮร์รี่พูดพลางยื่นมือออกไป “ผมแฮร์รี่ครับ แฮร์รี่ พอตเตอร์”
เซโนฟิเลียสไม่ได้จับมือแฮร์รี่ ทว่าตาข้างที่ไม่ได้เขเลื่อนตรงมาที่รอยแผลบนหน้าผากของเฮเลนและหันกลับไปหาแฮร์รี่สลับกันไปมา
“เราขอเข้าไปข้างในได้ไหมคะ”
เฮเลนถาม “เรามีเรื่องอยากถามคุณ”
“ฉันไม่แน่ใจหรอกนะว่าจะสมควร”
เซโนฟิเลียสกระซิบ เขากลืนน้ำลายและกวาดตาไปทั่วสวนอย่างรวดเร็ว “เอ้อ ตกใจมาก
ให้ตาย... ฉัน ฉันเกรงว่า ฉันคิดว่าฉันไม่ควร...”
“ใช้เวลาไม่นานครับ” แฮร์รี่พูด
เฮเลนผิดหวังเล็กน้อยกับการต้อนรับที่ไม่ยินดียินร้ายนี้
“ฉัน --- เอ้อ ก็ได้ ถ้างั้น
เขามาสิ เร็วๆ หน่อย เร็วๆ เข้า!”
ทั้งสี่คนยังก้าวแทบไม่พ้นประตู
เซโนฟิเลียสก็รีกระแทกประตูปิด
พวกเขายืนอยู่ในห้องครัวที่พิลึกที่สุดที่แฮร์รี่เคยเห็นมา
ห้องนั้นเป็นวงกลมอย่างสมบูรณ์ จึงรู้สึกเหมือนอยู่ในขวดพริกไทยขนาดยักษ์
เครื่องเรือนทุกชิ้น เช่น เตา อ่างล้างจานและดู้
ทำเป็นทรงโค้งเข้ากับกำแพงได้อย่างเหมาะเจาะและระบายสีเอาไว้สดใสเป็นรูปดอกไม้
แมลงและนก
ที่ตรงกลางห้องมีบันไดเวียนเหล็กดัดนำสู่ชั้นบน
มีเสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากเหนือหัว
เฮเลนแอบสงสัยว่าลูน่าอาจจะทำอะไรอยู่ข้างบนนั้น
“พวกเธอขึ้นมาข้างบนดีกว่า”
เซโนฟิเลียสพูด ยังคงทำท่าไม่สบายใจสุดขีด
เขาออกเดินนำ
ห้องข้างบนนั้นดูเหมือนจะเป็นห้องนั่งเล่นและทำงานผสมกัน
และยิ่งแออัดยัดเยียดกว่าในห้องครัวเสียอีก
ห้องนี้ดูคล้ายห้องต้องประสงค์ตอนที่มันเปลี่ยนตัวเองเป็นวงกตขนาดมหึมาที่เต็มปรี่ไปด้วยข้าวของที่ซุกซ่อนมานานนับศตวรรษ
แม้ห้องนี้จะเล็กกว่ามากและเป็นวงกลม แต่ก็มีตั้งหนังสือซ้อนทับกันไม่รู้กี่ตั้ง
เศษกระดาษวางไปทั่วทุกหนแห่ง มีหุ่นจำลองแขวนห้อยลงมาจากเพดาน
เป็นรูปเหมือนจริงของสัตว์หลายชนิดที่เฮเลนไม่เคยเห็น
ลูน่าไม่ได้อยู่ที่นั่น
สิ่งที่ทำเสียงครึกโครมอยู่คืออุปกรณ์ไม้ชนิดหนึ่ง มันปกคลุมไปด้วยซี่ล้อและฟันเฟืองที่กำลังหมุนติ้วด้วยเวทมนตร์
ของสิ่งนี้ดูเหมือนลูกผสานพิสดารระหว่างโต๊ะทำงานช่างและหิ้งแบบโบราณ
แต่หลังจากนั้นอึดใจหนึ่ง เฮเลนก็อนุมานได้ว่ามันเป็นแท่นพิมพ์โบราณ
ทั้งนี้เนื่องจากมันกำลังปั่นเดอะควิบเบลอร์ออกมา
“ขอตัวหน่อยนะ” เซโนฟิเลียสพูดแล้วก้าวยาวๆ
ไปที่เครื่องจักร เขากระชากผ้าปูโต๊ะสกปรกออกมาจากใต้กองหนังสือและกระดาษ
ทำให้ทั้งหมดล้มระเนระนาดลงไปบนพื้น จากนั้นเขาก็โยนผ้าคลุมขึ้นแท่นพิมพ์
ทำให้เสียงโครมครามเบาลงไปอีกนิดก่อนที่เขาจะหันมาหาทั้งสี่คน
“พวกเธอมาที่นี่ทำไม”
เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนเริ่มพูดก่อน
“คุณเลิฟกู๊ดคะ --- นั่นมันอะไรคะ”
เธอชี้ไปที่เขาสัตว์สีเทาขนาดมหึมา
เป็นเกลียวคล้ายเขายูนิคอร์น ซึ่งแขวนติดอยู่ที่ข้างฝา
“เขาของสนอร์แค็กเขาย่นยังไงล่ะ”
เซโนฟิเลียสตอบ
“ไม่ใช่หรอกค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด
“เฮอร์ไมโอนี่”
แฮร์รี่พึมพำอย่างกระอักกระอ่วน “นี่ไม่ใช่เวลาที่จะ...”
“แต่แฮร์รี่ นี่มันเขาอีรัมเพนท์นะ!
มันจัดอยู่ในสินค้าซื้อขายได้ประเภท ข. แล้วก็อันตรายสุดๆ
ถ้าเอามาเก็บไว้ในบ้านแบบนี้!”
“เธอรู้ได้ไงว่าเป็นเขาอีรัมเพนท์”
รอนถาม พลางกระเถิบห่างจากเขานั้น
“มันอธิบายเอาไว้ในหนังสือสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ยังไงล่ะ”
เฮเลนกระซิบบอก “แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นว่าสนอร์แค็กเขาย่นมันหน้าตาเป็นไงเหมือนกัน”
“คุณเลิฟกู๊ดคะ
คุณต้องกำจัดมันไปทันทีเลยนะคะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด “คุณไม่รู้เหรอคะว่าแค่แตะถูกนิดเดียวมันก็อาจจะระเบิดขึ้นมาได้”
“นี่มันสนอร์แค็กเขาย่น”
เซโนฟิเลียสพูดชัดถ้อยชัดคำ สีหน้าดื้อดึง “เป็นสัตว์ที่ขี้อายและมีพลังเวทมนตร์สูงมาก
แล้วเขาของมัน...”
“คุณเลิฟกู๊ดคะ
หนูจำลักษณะร่องลึกที่รอบฐานได้ค่ะ
นั่นละเขาของอีรัมเพนท์แล้วมันอันตรายเหลือเชื่อเลยนะคะ – หนูไม่รู้ว่าคุณได้มันมาจากไหน
---”
“ฉันซื้อมันมา”
เซโนฟิเลียสพูดอย่างดื้อรั้น “เมื่อสองสัปดาห์ก่อน
จากพ่อมดหนุ่มที่น่าคบมากคนหนึ่ง เขารู้ว่าฉันสนใจสนอร์แค็กที่แสนงดงามนี้
นี่เป็นของขวัญคริสต์มาสสำหรับลูน่าของฉัน”
เฮอร์ไมโอนี่เงียบเสียงลง
หันมามองเฮเลนอย่างขอความช่วยแหลือ
แต่เธอทำได้เพียงแค่ส่งสายตาบอกให้เฮอร์ไมโอนี่หยุดเถียงเท่านั้น
“เอาล่ะ” เขาพูด “บอกมาตรงๆ
เลยว่าทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่ แฝดพอตเตอร์”
“เราต้องการความช่วยเหลือครับ”
แฮร์รี่พูด
“อ้า” เซโนฟิเลียสร้อง “ความช่วยเหลือ
อืม ใช่ แต่การ... ช่วยเหลือฝาแฝดพอตเตอร์... มันค่อนข้างอันตราย”
“แต่คุณก็เที่ยวบอกใครต่อใครไปทั่วไม่ใช่เหรอ
ว่าเป็นหน้าที่อันดับแรกที่จะต้องช่วยฝาแฝดพอตเตอร์” รอนพูด “ในหนังสือของคุณน่ะ”
เซโนฟิเลียสชำเลืองไปที่แท่นพิมพ์ซึ่งถูกซ่อนเอาไว้
มันยังคงทำเสียงตึงตังโครมครมมอยู่ใต้ผ้าปูโต๊ะ
“เอ่อ ใช่ ฉันเคยแสดงทัศนคติแบบนั้น
แต่ว่า...”
“คุณบอกให้คนอื่นทำ
แต่ตัวเองไม่ทำใช่ไหมล่ะ” รอนพูด
เซโนฟิเลียสไม่ตอย
เขาเฝ้าแต่กลืนน้ำลาย ดวงตาเหลือบดูคนทั้งสี่สลับกันไปมา
“ลูน่าอยู่ไหนเหรอคะ” เฮเลนถาม “เราอยากเจอเขา
เราอยากรู้ว่าเขาคิดยังไง”
เซโนฟิเลียสกลืนน้ำลายเสียงดัง
ดูเหมือนเขาพยายามตั้งหลัก
“ลูน่าลงไปจับพลิมปี้น้ำจืดอยู่ที่ลำธาร
เขา... เขาคงอยากเจอพวกเธอ ฉันจะไปตามเขามา แล้วจากนั้น --- เอาละ ก็ได้
ฉันจะพยายามช่วยพวกเธอ”
เขาหายลงบันไดเวียนไปชั้นล่างแล้วก็ได้ยินเสียงเปิดปิดดังๆ
ทั้งสี่คนมองสบตากัน
“เจ้าหูดแก่ตาขาว” รอนพูด “ลูน่ากล้ากว่าเขาสักสิบเท่าได้มั้ง”
“ฉันคิดว่าไม่ใช่อย่างนั้นนะรอน”
เฮเลนแย้ง “เขาคงเป็นห่วงความปลอดภัยของลูน่ามากกว่าถ้าฉันกับแฮร์รี่อยู่ที่นี่”
“เขาจะเดือดร้อน
ถ้าพวกผู้เสพความตายรู้ว่าเราสองคนอยู่นี่” แฮร์รี่พูด
“ฉันเห็นด้วยกับรอนนะ”
เฮอร์ไมโอนี่ว่า “เป็นตาแก่ที่หน้าไหว้หลังหลอกสุดๆ เที่ยวบอกให้คนอื่นช่วยพวกเธอ
แต่ตัวเองกลับหาทางหนี แล้วสวรรค์ทรงโปรด อยู่ห่างๆ ไอ้เขานั่นด้วย”
แฮร์รี่ดึงเฮเลนเดินไปที่หน้าต่างอีกฝั่งของห้อง
เขามองเห็นลำธารบางๆ ทอประกายอยู่ไกลออกไปทางตีนเขา พวกเขาขึ้นอยู่สูงมาก
นกตัวหนึ่งกระพือปีกผ่านหน้าต่างไป ขณะที่เฮเลนเห็นว่าแฮร์รี่จ้องมองไปทางบ้านโพรงกระต่ายที่ตอนนี้มองไม่เห็นเสียด้วยซ้ำ
บางทีเขาคงจะคิดถึงจินนี่
เขาผละออกจากหน้าต่างส่วนเฮเลนยังคงมองทอดออกไปข้างนอกนั้น
เธอยังคงอยากรู้ว่าตอนนี้เดรโกจะทำอะไรอยู่ที่ไหน
บางทีอาจจะโดนทรมานแทนเธอหรืออาจจะกำลังอยู่ที่ฮอกวอตส์เพื่อไปดูความประพฤติของเด็กนักเรียนที่อยู่ที่นั่นในช่วงคริตส์มาสเพราะแท็คกลับมาที่คฤหาสน์ก็ได้
“ดูนี่สิ” เสียงของแฮร์รี่ดังขึ้นมา
ดึงความสนใจของเฮเลนให้หันไปหาเขา
มันคือรูปสลักหินครึ่งตัวของแม่มดคนหนึ่ง
หน้าตาเธอสวยงามแต่กลับเคร่งเครียด เธอสวมเครื่องประดับศีรษะที่ประหลาดที่สุด
มีวัตถุหน้าตาเหมือนปากแตรสีทองโค้งออกมาสองข้าง สายหนังเส้นหนึ่งพาดบนกระหม่อม
ติดปีกสีน้ำเงินเป็นประกายสองอัน สายหนังอีกเส้นคาดรอบหน้าผาก
ติดหัวผักกาดสีส้มเอาไว้ด้วยอีกหนึ่งหัว
“น่าเอ็นดูมาก” รอนบอก “แปลกจังที่เขาไม่สวมมันไปงานแต่งงาน”
พวกเขาได้ยินเสียงประตูหน้าปิดและไม่กี่นาทีต่อมาเซโนฟิเลียสก็ไต่บันไดเวียนกลับเข้ามาในห้อง
ขาผอมๆ ของเขาอยู่ในรองเท้าบู๊ตยาง
มือถือถาดที่มีถ้วยชาไม่เข้าชุดกันและกาน้ำชาควันฉุยอีกหนึ่งชา
“อ้อ
พวกเธอเห็นงานประดิษฐ์ชิ้นโปรดของฉันแล้วล่ะสิ” เขาพูดพลางยัดถาดใส่มือเฮอร์ไมโอนี่แล้วเดินเข้าไปหาแฮร์รี่ที่รูปสลัก
“ถอดแบบเกือบเหมือนเปี๊ยบมาจากศีรษะของโรเวนนา เรเวนคลอผู้งดงาม เชาน์ปัญญาเหลือคณานับคือขุมทรัพย์มหาศาล!”
เขาชี้ไปที่วัตถุคล้ายปากแตรสำหรับคนหูตึง
“นี่คือกาลักน้ำของแร็กเพิร์ต ---
ช่วยปัดเป่าสิ่งรบกวนไปจากตัวคนที่กำลังใช้ความคิด ส่วนนี่” เขาชี้ไปที่ปีกจิ๋ว “ปีกใบพัดของบิลลี่วิก
เพื่อยกระดับกรอบความคิดให้สูงขึ้น แล้วท้ายที่สุด” เขาชี้ไปทางหัวผักกาดสีส้ม “นี่คือลูกพลัมบังคับทิศทาง
เพื่อเพิ่มความสามารถในการยอมรับสิ่งแปลกประหลาด”
เซโนฟิเลียสก้าวยาวๆ
กลับไปที่ถาดน้ำชาที่เฮอร์ไมโอนี่จัดวางเอาไว้บนโต๊ะที่ขนัดแน่นอย่างหมิ่นเหม่จวนจะร่วงลงมา
“ลองนย้ำประสานรากเกิร์ดดี้กันหน่อยนะ”
เซโนฟิเลียสพูดและเริ่มต้นรินเครื่องดื่มสีม่วงแดงเหมือนน้ำหัวบีต “เราทำกันเองเลย
ลูน่าอยู่เลยสะพานบอตท่อมไปหน่อย พอได้ยินว่าพวกเธอมาก็ตื่นเต้นน่าดู
อีกเดี๋ยวก็คงกลับมาแล้วล่ะ จับพลิมปี้ได้เกือบจะมากพอแล้ว
จะได้ทำซุปเลี้ยงทุกคนได้ไง นั่งสิ ใส่น้ำตาลกันได้ตามใจชอบเลยนะ”
“เอาล่ะ”
เขายกตั้งกระดาษง่อนแง่นไปจากเก้าอี้นวมและทรุดตัวลงนั่ง “ฉันจะช่วยพวกเธอได้ยังไง
พอตเตอร์”
“เอ่อ” แฮร์รี่อ้ำอึ้ง
เขาเหลือบมองเฮเลนนิดหน่อย “เรื่องสัญลักษณ์ที่คุณสวมในงานแต่งงานของบิลกับเฟลอร์น่ะครับ
คุณเลิฟกู๊ด เราสงสัยว่ามันหมายถึงอะไร”
เซโนฟิเลียสเลิกคิ้ว
“เธอพูดถึงเครื่องรางยมทูตน่ะเหรอ”
ทั้งสี่คนหันไปมองหน้ากัน
ใบหน้าของคนข้างๆ ดูเหมือนจะไม่เข้าใจที่เซโนฟิเลียสพูดสักนิด
“เครื่องรางยมทูตงั้นเหรอคะ”
เฮเลนหันไปถามอีกครั้ง
“ถูกต้อง” เซโนฟิเลียสพูด “เธอไม่เคยได้ยินเหรอ
แต่ฉันก็ไม่แปลกใจหรอก พ่อมดแม่มดน้อยคนที่จะเชื่อเรื่องนี้
อย่างเจ้าหนุ่มหัวทึบที่งานแต่งงานของพี่ชายเธอนั่นไง” เขาหันไปหารอน “มาหาเรื่องฉัน
หาว่าฉันอวดสัญลักษณ์ของพ่อมดศาสตร์มืดอะไรก็ไม่รู้! ช่างโง่เขลานัก
เครื่องรางไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับศาสตร์มืดเลยสักนิดเดียว ---
หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่ในความหมายหยาบๆ แบบนั้น
เราใช้สัญลักษณ์เพื่อแสดงตนต่อผู้เชื่อคนอื่นๆ เท่านั้นเอง
เพื่อว่าทุกคนจะได้ช่วยกันในการค้นหามันจนได้”
เขาใส่น้ำตาลลงไปในน้ำประสานเกิร์ดดี้หลายก้อน
คนจนเข้ากัน จากนั้นก็ยกขึ้นจิบ
“ขอโทษค่ะ” เฮเลนพูด “แต่เราก็ยังไม่เข้าใจ”
เฮเลนหันไปเห็นแฮร์รี่ยกถ้วยน้ำขึ้นมาจิบและทำท่าสะอิดสะเอียน
เธอเก็บมือที่เตรียมจะจับถ้วยทันที
“ก็ผู้เชื่อน่ะ
ตามหาเครื่องรางยมทูตยังไงล่ะ เข้าใจไหม” เซโนฟิเลียสพูดพลางดูดปากดังๆ
“แต่เครื่องรางยมทูต
นี่มันคืออะไรล่ะคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
เซโนฟิเลียสวางถ้วยลง
“ฉันเดาว่าพวกเธอคงคุ้นเคยกับ ‘นิทานสามพี่น้อง’ ดีเลยใช่ไหม”
แฮร์รี่กับเฮเลนตอบไปว่า “ไม่”
ในขณะที่รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ตอบว่า “ใช่”
“คือแบบนี้นะพอตเตอร์
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มขึ้นที่ ‘นิทานสามพี่น้อง’ นี่แหละ... ฉันมีอยู่เล่มหนึ่ง
อยู่ที่ไหนสักแห่ง...”
เขากวาดตามองไปรอบห้องอย่างเลื่อนลอย
มองหาตามกองกระดาษและหนังสือ
“หนูมีค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น “หนูมีเล่มหนึ่งค่ะคุณเลิฟกู๊ด
อยู่นี่”
“ฉบับดั้งเดิมหรือเปล่า”
เซโนฟิเลียสถามทันที เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับ “ดีมาก ถ้างั้นทำไมเธอไม่อ่านดังๆ
เพื่อให้ทุกคนเข้าใจร่วมกันล่ะ”
“เอ่อ” เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก “ก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวผมฟูเปิดหนังสือออก
กระแอมไอเล็กน้อยและเริ่มต้นอ่าน
ติดตามตอนต่อไป...
หู้ววว ใกล้จบ SS 3 แล้วนะคะ ไวจุง T_T
ss 4 ก็จะทำให้เรื่องนี้จบลงแล้ว ไรท์ยังแอบงงเลยว่าดำเนินเรื่องมาถึงขั้นนี้ได้ยังไงในเมื่อตอนแรกคิดจะร่างพล็อตเล็กๆ แต่งแค่ 10-20 ตอนแล้วก็ให้จบๆ ไม่ต้องมีปมอะไรมาก ขี้เกียจมานั่งแก้ สรุปว่าตอนนี้ 66 ตอน ไม่รวมตอนหลังจากตอนนี้ไปอีก อื้อหือ สุดยอด แปลกใจตัวเองมาก ที่นั่งๆ นอนๆ มันก็ไหลมาเทมา จดแทบไม่ทัน ส่วนอีกเรื่องนี้ [จิ้ม] ไรท์ก็จดไว้และปมมันก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนไรท์คิดว่ากว่าจะจบนี่ยาวนานแน่ๆ
ดังนั้นฝากติดตามผลงานของนักเขียนตาดำๆ คนนี้ต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ♥
เนื่องจากไรท์ถอดตัวเองออกมาจากการประกวด ปั้นหมึกคอนเทส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ถอดตัวเอง ไม่รอให้ใครมาถอดด้วย 5555) ก็เลยเอามาวางลงใน raw เด็กดี fictionlog และ ธัญวลัย ในรูปแบบที่ไม่ติดเหรียญ อ่านฟรียันจบไปเลยจ้า ถ้าหากนักอ่านท่านใดสะดวกที่จะเข้าไปอ่านและติดตามผลงาน Ori ของไรท์เบลอๆ คนนี้ก็ติดตามได้ทางช่องทางนี้จ้า
ขอขอบพระคุณล่วงหน้างับ ♥
ชื่อเรื่อง : Time reverse ฉีกกฏเวลา ย้อนกลับมารัก
เรื่องราวของสาวน้อยที่เกิดใหม่หลายรอบจนพระเจ้าเหนื่อยใจ รอบนี้ย้อนเวลาให้อีกรอบก็เลยให้จำได้ซะเลยว่าตัวเองทำตัวแบบไหนมาแล้วถึงได้ตายซ้ำตายซาก แล้วมันก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแก้ไขทุกอย่างและทำให้ทั้งคู่ได้รักกันสักที! เฮ้อ! พระเจ้าก็เหนื่อยเป็น (เอเดน ♥ ของขวัญ)
RAW >> https://www.readawrite.com/a/b73379daf113540832d8649bb4c89fd2
Dek - D >> https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2280680
Thanwalai >> https://www.tunwalai.com/v2/story/603542
Fiction log >> https://fictionlog.co/b/61ba150b3e481a001ccc3414
และ
ชื่อเรื่อง : Protective H! ภารกิจลับ ฉบับยัยตัวร้าย
เรื่องของเจ้าเด็กอวดดีที่วันๆ เอาแต่คิดว่าตัวเองอยากจะได้อิสระในชีวิต จนลืมไปว่าก็ต้องใช้ชีวิตให้มันปลอดภัยด้วย ทำให้พ่อแม่ต้องหาบอดี้การ์ดส่วนตัวมาให้ แต่ไม่ได้หามาให้แบบให้รู้นะ บอดี้การ์ดนอกเครื่องแบบไปอีก! ทำไมต้องทำตัวให้มันมีปัญหามากขนาดนั้นด้วยนะ! (เฮอร์วิน ♥ วัตสัน)
RAW >> https://www.readawrite.com/a/4b182a370f1a804e0984381bbf124cc5
Dek - D >> https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2280855
Thanwalai >> https://www.tunwalai.com/v2/story/610542?rc=2
Fiction log >> https://fictionlog.co/b/61b72c4af17a2b001d610d2a
ปล. ช่วงนี้จะขายนิยายเก่งหน่อย อดทนนิดนึงนะคะ 5555555555555555555555
ความคิดเห็น