คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #62 : บทที่ 14 : ศัตรูสุดท้ายคือความตาย
บทที่ 14 : ศัตรูสุดท้ายคือความตาย
เช้าวันถัดมารอนกับเฮเลนตื่นตั้งแต่เช้ามืด
เฮเลนเข้าไปช่วยหยิบจับของข้างในครัวกับเซเลสเทียส่วนรอนช่วยดูแลเด็กๆ
สี่ห้าคนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นที่พวกเขานอนพักเมื่อคืน หลังจากทำอาหารเสร็จ
เซเลสเทียก็ออกมาเรียกเด็กๆ เข้าไปทานอาหารเช้าส่วนเฮเลนกับรอนแยกตัวออกมาทานอาหารด้วยกันที่ห้องนั่งเล่น
เบคอนกับไข่และไส้กรอกหนึ่งชิ้นทำให้เฮเลนนึกถึงอาหารเช้าสุดหรูที่คฤหาสน์มัลฟอย
ถึงแม้เดรโกจะทำให้ไม่ค่อยได้กินมันเท่าไหร่ก็ตาม (แน่ล่ะ โต้รุ่งได้แทบทุกคืน)
"เธอคิดว่าสองคนนั้นจะย้ายที่ไปหรือยัง"
รอนถามพลางตักไข่ดาวเข้าปากอย่างงุ่มง่าม
"ถ้าย้ายไปแล้วเราก็จะตามหาได้ยากขึ้นใช่ไหม"
"ใช่" เฮเลนตอบ
กลืนเบคอนลงคออย่างยากลำบาก
"ฉันรู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่ต้องเสกคาถาคุ้มครองเอาไว้เต็มไปหมด
แถมเราก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกเขาจะย้ายไปไหน นายรู้อะไรบ้างไหมล่ะ"
"สองคนนั้นพูดว่าจะย้ายที่นอนบ่อยขึ้น" รอนตอบ "เพราะจะทำให้พวกผู้เสพความตายหาตัวได้ยาก"
"แฮร์รี่สงสัยฮอกวอตส์บ้างหรือเปล่า"
"สงสัยสิ แล้วเธอรู้ได้ยังไงน่ะ"
รอนผงกหัวขึ้นทันที มองใบหน้าเฮเลนด้วยสายตาแปลกใจ
"หมอนั่นพูดอยู่ตลอดเลยว่าโวล..."
"บอกว่าอย่า!" เฮเลนแทรกขึ้นทันควัน ขมวดคิ้วใส่รอน
"ทำไมตอนที่นายอยู่กับแฮร์รี่ถึงไม่ยอมพูดชื่อของเขาเลยกันนะ งี่เง่า!"
"ขอโทษที" รอนพูดแล้วกัดไส้กรอกคำใหญ่
"แฮร์รี่พูดตลอดว่าคนที่เธอก็รู้ว่าใครต้องมีฮอครักซ์ซ่อนอยู่ที่ฮอกวอตส์แน่
แต่ฉันกับเฮอร์ไมโอนี่ไม่เชื่อแบบนั้น เพราะว่าเราอยู่ที่นั่นมาตั้งหกปีไม่เจออะไรเลย"
"พวกเราเคยเดาไว้กับดัมเบิลดอร์"
เฮเลนบอก วางจานเปล่าและส้อมลงบนตัก
"ฉันจำได้ว่าแฮร์รี่น่าจะเคยเล่าให้พวกนายฟังแล้ว ที่คนที่คุณก็รู้ว่าใครชอบสะสมของที่มีมูลค่า
บางทีของสำคัญอย่างฮอร์ครักซ์เขาก็อาจจะเอาไปซ่อนไว้ที่ฮอกวอตส์ด้วยก็ได้เพราะว่าคนที่คุณก็รู้ว่าใครน่ะ
มักจะซ่อนของเอาไว้ในสถานที่ที่เขาเคยไปเสมอ"
"แล้วอะไรที่มีค่าขนาดนั้น" รอนบอก
วางจานเปล่าซ้อนกับจานของเฮเลน "ฮอกวอตส์มีของแบบนั้น
เฟร็ดกับจอร์จก็น่าจะรู้สิ ใช่ไหมล่ะ"
"ดาบของก็อดกริกส์ กริฟฟินดอร์
ถ้วยของเฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ ล็อกเก็ตของซัลลาร์ซา สลิธีรินและรัดเกล้าของโรวีน่า
เรเวนคลอ" เฮเลนพูดเสียงเรียบ
ดวงตาเหลือบไปมองที่ประตูห้องทานอาหารและเงี่ยหูฟังเล็กน้อยเพื่อสังเกตว่าคนในห้องนั้นทานอาหารเช้ากันอยู่จริงหรือไม่
"ฉัน แฮร์รี่ เดรโกและดัมเบิลดอร์คิดว่าคนที่คุณก็รู้ว่าใครใช้ของพวกนี้มาทำเป็นฮอร์ครักซ์เพราะความยิ่งใหญ่ของมันยังไงล่ะ"
"แต่ว่าสองคนนั่นกำลังจะตามหาดาบของกริฟฟินดอร์เพื่อเอาไปทำลายล็อกเก็ต"
รอนว่า "ถ้าดาบเป็นฮอร์ครักซ์อะไรจะทำลายมันได้"
"ไม่มีวันที่ดาบจะเป็นฮอร์ครักซ์อยู่แล้ว ดาบจะปรากฏก็ต่อเมื่อมีผู้ต้องการมันเท่านั้น"
เฮเลนบอก มองจ้องใบหน้าของรอน "อีกอย่างดัมเบิลดอร์เคยบอกเอาไว้ใช่ไหมล่ะ
ว่าเด็กกริฟฟินดอร์ขนานแท้เท่านั้นถึงจะเอามันออกมาจากหมวกคัดสรรได้"
รอนเงียบไป ไม่นานเซเลสเทียและพวกเด็กๆ
ก็ออกมาจากห้องทานอาหารแล้วเซเลสเทียก็ออกไปทำงาน ทิ้งเด็กๆ
ลูกมักเกิ้ลเอาไว้ให้รอนและเฮเลนช่วยดูแลทั้งที่ทั้งสองคนไม่ใช่คนที่น่าไว้ใจเลยในสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้
อีกอย่างตอนนี้ทั้งสองคนไม่อาจเดาอะไรจากความว่างเปล่าได้เลย
ดัมเบิลดอร์แทบไม่ได้ทิ้งอะไรเอาไว้ให้พวกเขา
แฮร์รี่ค้นหาฮอร์ครักซ์จนเจอแต่ไม่รู้วิธีที่จะทำลายมัน
ส่วนอันที่เหลือก็แทบไม่มีเบาแสอะไรอย่างอื่นนอกจากความทรงจำของโวลเดอมอร์ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเอาไปซ่อนไว้ตรงไหนของสถานที่ในความทรงจำนั่น
รอนบอกเฮเลนว่าเฮอร์ไมโอนี่มีภาพเหมือนของฟินีแอส
ไนเจลลัสอยู่ในกระเป๋าลูกปัดที่ลงคาถาขยายพื้นที่
บางทีฟินีแอสอาจจะช่วยอะไรแฮร์รี่ได้ในสักวันและนอกจากนั้นรอนยังบอกอีกว่าฟินีแอสเหมือนจะบูชาสเนปเนื่องจากเป็นอาจารย์ใหญ่ที่มาจากบ้านสลิธีรินเช่นเดียวกันกับเขา
เฮเลนมีความคิดเพี้ยนๆ ขึ้นมาวูบหนึ่งตอนที่แอนนา
เด็กหญิงหนึ่งในลูกมักเกิ้ลที่เซเลสเทียดูแลเอ่ยถึงความมหัศจรรย์ที่จะได้เข้าไปเรียนที่ฮอกวอตส์ตอนอายุครบสิบเอ็ดขวบ
เฮเลนนึกภาพของตัวเอง แฮร์รี่ เดรโก
รอนและเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปรวมกลุ่มสั่นคลอนอำนาจของสเนปเหมือนครั้งที่ทำกับอัมบริดจ์
เพราะอย่างน้อยตอนนั้นก็มีอาหารให้กิน มีเตียงสี่เสานุ่มๆ
ให้นอนและไม่ต้องรับภาระยิ่งใหญ่ใดๆ ตอนเป็นนักเรียนนั้นดูจะเป็นภาพที่มหัศจรรย์ที่สุดแล้วตอนนี้
แต่แล้วเฮเลนก็นึกขึ้นมาได้ว่าแฮร์รี่นั้นเป็นผู้ไม่พึงปรารถนาหมายเลขหนึ่งที่มีค่าหัวถึงหนึ่งหมื่นเกลเลียน
การเดินเข้าไปในฮอกวอตส์ตอนนี้ก็เหมือนก้าวเข้าไปในป่าดิบชื้นที่ไม่รู้ว่าจะมีอันตรายอะไรรออยู่ภายใน
สามสี่วันแล้วที่เฮเลนและรอนหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่
รู้สึกว่าช่วงนี้รอนจะละเมอพึมพำชื่อของเฮอร์ไมโอนี่ออกมาบ่อยมาจนเฮเลนชักจะประสาทเสีย
เขาเปิดปิดดีลูมิเนเตอร์ตลอดทั้งคืนจนไม่เป็นอันนอนในบางครั้งแต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่เตือนสติของเธอได้ว่ารอนยังคงกังวลและไม่ได้ต้องการทิ้งแฮร์รี่ดังที่เขาพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้
ค่ำวันหนึ่งหลังจากทานอาหารเย็นเรียบร้อย
เฮเลนเสนอรอนว่างดคุยกันเรื่องเครียดๆ
สักคืนและขอให้เซเลสเทียเปิดวิทยุให้พวกเขาฟังเพื่อผ่อนคลายกันสักหน่อยก่อนจะพักผ่อน
อีกอย่าง การหักโหมจนเกินไปคงไม่ทำให้อะไรดีขึ้นไปมากกว่านี้นักหรอก
"รายการส่วนใหญ่ถูกกระทรวงควบคุมหมดแล้วล่ะ"
เซเลสเทียบอกหลังจากที่วางวิทยุลงบนโต๊ะ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
"ข่าวที่ออกมาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความตายทั้งนั้นเลย"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
เฮเลนบอกในขณะที่เซเลสเทียเริ่มปรับวิทยุหมุนเครือข่ายไปมา "ฉันกับแสตนอยากฟังเพลินๆ
เท่านั้น เผื่อว่าบางทีเราอาจจะนึกออกว่าหลังจากนี้ควรทำอะไรกัน"
"เธอจะทำอะไรแอนเจลิน่า"
เซเลสเทียถามทั้งที่ดวงตายังมองอยู่ที่วิทยุเครื่องเก่า
"พูดเหมือนจะไม่อยู่ที่นี่อย่างนั้นแหละ"
"ใช่ เราจะไม่อยู่" รอนตอบ
เจ้าของร่างตรงหน้าทั้งคู่เงียบเสียงไป
เฮเลนยกศอกกระทุ้งสีข้างรอนแรงๆ ทีหนึ่ง เป็นเชิงปราม ที่จริงเฮเลนคิดว่าเขาไม่ควรพูดว่าทั้งคู่จะไม่อยู่ที่นี่อีก
เธอไม่รู้จะแก้ต่างให้คำพูดนั้นยังไงจึงได้แต่เงียบแล้วมองเซเลสเทียปรับคลื่นวิทยุต่อไป
"แฮร์รี่ พอตเตอร์" เซเลสเทียกระซิบ
เมื่อหมุนคลื่นไปจนเจอ
"เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะคะ" เฮเลนเอ่ยถาม
ถ้าหูเธอไม่ฝาด เมื่อสักครู่นี้เธอได้ยินชื่อของแฮร์รี่
"มันเป็นคลื่นที่ต้องใช้รหัสในการเข้าถึงน่ะ"
เซเลสเทียตอบ มือเธอหยุดหมุนหาคลื่นแล้ว "ฉันรู้ว่าพวกเธออาจจะไม่ไว้ใจฉันเท่าไหร่
แต่ก็ขอบใจนะที่ช่วยดูแลเด็กๆ ให้ช่วงที่ฉันไม่อยู่"
ทั้งสองคนเงียบ
มองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เซเลสเทียทำให้ทั้งสองคนรู้สึกหน่วงในใจ
ทั้งรอนที่เพิ่งจะหนีจากเพื่อนมาเพราะความโมโหและการกระทำที่น่ารังเกียจของตัวเอง
ทั้งเฮเลนที่ถูกช่วยไว้โดยที่ไม่เต็มใจและถูกบังคับให้ทิ้งเดรโกกับนาร์ซิสซาให้เผชิญกับสิ่งน่ากลัวตามลำพัง
แล้วตอนนี้ทั้งสองคนก็กำลังจะทิ้งเซเลสเทียให้ดูแลเด็กๆ ลูกมักเกิ้ล
(หรือที่พวกนักต้อนเรียกว่าเลือดสีโคลน) ตามลำพังอีกเช่นกัน
"เอาล่ะ
วันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้งกับ 'จับตาพอตเตอร์' และผมรีเวอร์คนเดิมเพิ่มเติมแล้วจะมาบอกนะครับ ช่องการกระจายเสียงช่องเดียวที่ยังไม่ถูกเหล่าผู้เสพความตายที่มีเสน่ห์และกระทรวงเวทมนตร์เข้าครอบครอง"
"จอร์ดัน!" รอนอุทานขึ้นมา "เท่ชะมัดเลย
ให้ตาย"
"พวกเธอรู้จักเขาเหรอ"
เซเลสเทียหันควับมาถาม ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย
"อ้อ! เอ่อ.." รอนพูดติดขัด
เหล่ตามองเฮเลนอย่างหาความช่วยเหลือ
"ฉันเคยเรียนชั้นปีเดียวกับรีเวอร์ค่ะ"
เฮเลนโกหกออกไป
แต่ครึ่งหนึ่งก็เป็นความจริงเพราะแอนเจลิน่าเรียนอยู่ชั้นปีเดียวกับลีและเฟร็ดกับจอร์จ
"เรารู้จักกันสมัยเรียนฮอกวอตส์"
เซเลสเทียพยักหน้าเข้าอกเข้าใจ
เธอเข้ามากอดราตรีสวัสดิ์รอนและเฮเลนเบาๆ ก่อนจะพาเด็กๆ ลูกมักเกิ้ลเข้านอน
ปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันในห้องนั่งเล่นตามลำพังเหมือนทุกๆ คืน
"นายโพลงออกมาได้ยังไง!"
เฮเลนแยกเขี้ยวใส่รอนทันทีที่เซเลสเทียเข้าห้องนอนไปได้พักหนึ่ง "เขาใช้ชื่อที่เป็นเหมือนรหัสลับขนาดนั้นนายยังจะพูดชื่อจริงๆ
ของเขาไปอีก ถ้าเซเลสเทียเป็นสายของพวกนั้นเราจะทำยังไง"
"ขอโทษที" รอนตอบ "ฉันลืมตัวไปหน่อย"
เฮเลนยกมือขึ้นกอดอกและเริ่มตั้งใจฟังรายการ 'จับตาพอตเตอร์' อย่างใจเย็น
"วันนี้มีข่าวการตายของพวกเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จากเดลี่พรอเฟ็ตที่ไม่มีสาระสำคัญอะไรนัก
นั่นก็คือมีครอบครัวมักเกิ้ลถูกฆ่าตายอีกแล้ว
ทางการมักเกิ้ลรายงานข่าวว่าเป็นการเกิดจากสิ่งที่เรียกว่าอุบัติเหตุทางไฟฟ้า
แต่สมาชิกภาคีนกฟินิกซ์ของเราได้ทำการเข้าสำรวจและพบว่ามันเป็นผลมาจากคำสาปพิฆาต
โชคร้ายนักที่ครั้งนี้ไม่เหลือผู้รอดชีวิตเลยแม้กระทั่งเด็กคนเดียว
เราคาดว่าครอบครัวนี้ไม่ใช่ครอบครัวที่เป็นเลือดสีโคลนอย่างที่พวกมันว่ากัน"
"ทำอย่างกับเป็นกีฬาเพื่อความสนุกอย่างนั้นแหละ"
รอนบอก หยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว
"ตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์
เดรโกก็ถูกบังคับให้ใช้คำสาปกรีดแทงกับพวกผู้เสพความตายด้วยกัน" เฮเลนพึมพำ
"คนที่คุณก็รู้ว่าใครคงจะไม่เห็นค่าพวกไร้เวทมนตร์"
"จะว่าไป แฮร์รี่อยากกลับไปที่ก็อดดริกส์
โฮลโล่" รอนหันมาบอกเฮเลน
ดวงตาสีฟ้าปรายมายังเธอที่ยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวทั้งที่ยังนั่งอยู่
"เหมือนว่าหมอนั่นอยากจะกลับไปหาความจริงที่บ้านน่ะ"
"งั้นเราไปกันไหม" เฮเลนว่า
"บางทีเราอาจจะเจอพวกเขาที่นั่นก็ได้"
"ลองไปดูสิ" รอนบอก
ดวงตาปรือลงอย่างเห็นได้ชัด "แต่วันคริสมาสต์ฉันว่าจะไปหาบิลที่กระท่อมเปลือกหอยเพราะยังไงตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ไปอยู่ที่ไหนกันแล้ว เราคงต้องไปก่อนหน้านั้นล่ะนะ"
"อืม"
เฮเลนรับก่อนจะเอื้อมมือไปปิดวิทยุและทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาอีกตัวข้างๆ กัน
เฮเลนรู้สึกเหมือนกำลังจะได้กลับไปที่บ้านเกิด กลับคืนสู่ครอบครัวที่จากมาและอาจจะไปพบกับแฮร์รี่ที่นั่น ถ้าโวลเดเดอมอร์ไม่ทำลายพวกเขา เธอและแฮร์รี่ก็คงเติบโตขึ้นที่ก็อดดริกส์โฮลโล่นั่นเอง ช่วงปิดเทอมก็งกลับไปที่นั่น คงมีรอนและเฮอร์ไมโอนี่ไปเที่ยวเล่นที่บ้าน บางทีอาจจะได้ฉลองวันเกิดปีที่ผ่านมาพร้อมกับพ่อแม่และมีปาร์ตี้เล็กๆ กันในบ้านของตัวเอง นี่เป็นครั้งแรกที่รู้ได้ด้วยตัวเองว่าสูญเสียอะไรไปบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังลืมอะไรบางอย่าง บางอย่างที่สำคัญมากๆ ไป
วันรุ่งขึ้นรอนและเฮเลนไม่ได้ตัดสินใจเดินทางในทันที
หิมะด้านนอกโปรยปรายลงมาซึ่งตอนนี้น่าจะเข้าสู่เดือนธันวาคมได้พักหนึ่งแล้ว
เซเลสเทียออกไปทำงานตอนเช้าเหมือนเคยและไม่ลืมที่จะฝากเด็กๆ
เอาไว้ให้เฮเลนและรอนดูแล ทั้งสองปรึกษากันเรื่องการบอกลาเซเลสเทียภายในค่ำคืนนี้และอาจจะออกเดินทางในเช้าวันถัดไป
"อีกหนึ่งอาทิตย์จะวันคริสมาสต์!"
แอนนาพูดขึ้นอย่างสดใส มือสองข้างถือไฟประดับเอาไว้พร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า
"คุณแม่บอกว่าซานต้าจะเอาของขวัญมาให้ด้วยล่ะ"
"ใช่ๆ" เอล็กซ์ เด็กชายผมสีบลอนด์อีกคนที่อายุน้อยกว่าพูดบ้าง
"ผมจะรีบไปหาถุงเท้ามาแขวนล่ะ ที่ปลายเตียง"
"แต่คุณแม่บอกว่าเขาจะไม่เอามาให้ถ้าเกิดว่าเราเป็นเด็กไม่ดีนี่นา"
อีธาน เด็กชายผมสีดำอายุน้อยที่สุดพูดขึ้นพลางเล่นพันด้ายในมือไปมา
"ผมกลัวจังเลยว่าเขาจะไม่ให้ผม"
"เขาไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้นหรอกครับ!" เลนนี่
เด็กชายตัวเล็กมีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเอ่ยและหันมาทางเฮเลน
"ใช่ไหมครับแอนเจลิน่า... แอนเจลิน่า!"
"หือ อ้อ! ใช่แล้ว"
เฮเลนตอบหลังจากมัวแต่คิดถึงเรื่องที่จะไปก็อดดริกส์โฮลโล่จนไม่ได้ฟังที่พวกเด็กๆ
คุยกัน "ถ้าพวกเธอเป็นเด็กดี
ซานต้าก็จะรักเธอแล้วก็ให้ของขวัญที่เธอต้องการนะ"
เด็กๆ ร้องดีใจกันใหญ่ในขณะที่รอนเดินออกไปอีกห้องเพื่อทำอะไรบางอย่างที่เฮเลนไม่รู้
เขาเปิดปิดดีลูมิเนเตอร์มาหลายวันเข้าไปแล้วโดยที่เธอไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อะไรเลย
วันคริสมาสต์ก็กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
จนเฮเลนกลัวว่าอาจจะกลับไปที่ก็อดดริกส์โฮลโล่ไม่ทัน
ในที่สุดเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงช่วงเย็น
เฮเลนและรอนคุยกับเซเลสเทียเรื่องที่พรุ่งนี้จะออกเดินทางกันแล้ว
เธอยอมรับได้และขอร้องให้ออกไปโดยที่เด็กๆ ไม่รู้ตัว
คืนนี้พวกเขาจึงเป็นคนที่สงเด็กๆ เข้านอนแทนเซเลสเทีย และหลังจากที่ส่งพวกเด็กๆ
เข้านอนเสร็จแล้วเฮเลนกับรอนก็กลับมานั่งคุยกับเซเลสเทียที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง
"งั้นพวกเราจะเดินทางกันคืนนี้เลยนะคะ"
เฮเลนพูด ใบหน้าของเซเลสเทียหมองลงกว่าเดิมเล็กน้อย
"ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ ขอบคุณมากนะคะเซเลสเทีย"
"เด็กๆ คิดว่าพวกเธอจะอยู่กับเขา"
เซเลสเทียพึมพำ นั่นทำให้รอนและเฮเลนสบตากันอย่างรู้สึกผิด
"ฉันจะบอกพวกเขาว่ายังไงดี"
"เดี๋ยวเราก็เจอกันอีกค่ะ" เฮเลนบอก
เผยรอยยิ้มกว้างให้กับเซเลสเทีย "แล้ววันนั้นฉันจะมารับพวกเด็กๆ ไปนะคะ"
ท้องฟ้าคืนนี้ไร้ซึ่งดวงดาว
มันเต็มไปด้วยก้อนเมฆหิมะหนาลอยเต็มท้องฟ้า เฮเลนยังไม่กล้าที่จะบอกความจริงกับเซเลสเทียว่าเธอเป็นใคร
ทั้งสองเดินออกมาหน้าบ้านโดยเซเลสเทียทำขนมทรัฟเฟิลใส่กล่องเอาไว้ให้พวกเขาเพื่อเป็นเสบียงระหว่างเดินทางอีกด้วย
หลังจากออกมาจากบ้านของเซเลสเทีย
ทั้งสองกะว่าจะหายตัวไปที่ก็อดดริกส์โฮลโล่โดยใช้ความมืดช่วยบดบังสภาพในตอนนี้
เฮเลนยกหมวกเสื้อคลุมขึ้นมาคลุมก่อนที่ทั้งสองจะหมุนตัวเข้าสู่ความมืดมิดที่ทำให้หายใจไม่ออก
เฮเลนลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอและรอนยืนกุมมือกันอยู่บนถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะบางๆ
ใต้ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ดาวทอประกายให้เห็นรางๆ บนท้องฟ้าขมุกขมัว สองข้างถนนแคบๆ
มีกระท่อมตั้งเรียงราย
เครื่องประดับเทศกาลคริสมาสต์เริ่มถูกนำมาตกแต่งส่องแสงระยิบระยับอยู่ในหน้าต่างกระท่อม
ห่างออกไปไม่ไกลมีแสงไฟถนนสีเหลือส่องสว่างอยู่ตรงที่เป็นศูนย์กลางหมู่บ้าน
"ให้ตาย หิมะนี่" รอนร้อง
"ทำไมที่นี่หิมะตกเยอะขนาดนี้ล่ะ ที่นั่นไม่เห็นตกเยอะเท่านี้เลย"
"ช่างมันเถอะรอน" เฮเลนบอกเบาๆ
"คงไม่มีคนสนใจหรอกว่าเราเป็นใคร อย่างน้อยพวกมักเกิ้ลก็ไม่รู้"
ทั้งสองออกเดินหน้าต่อไปอย่างเปิดเผย อากาศที่เย็นเฉียบบาดผิว เฮเลนและรอนเดินผ่านกระท่อมไปหลายหลัง
หลังใดหลังหนึ่งอาจจะเป็นหลังที่เจมส์และลิลลี่ พอตเตอร์เคยอยู่ก็เป็นได้
หรือบางทีบ้านหลังนั้นอาจจะเป็นบ้านของบาธิลดา แบ็กชอต
นักประวัติศาสตร์เวทมนตร์ที่เฮเลนรู้ว่าเธออาศัยอยู่ที่นี่จากหนังสือชีวประวัติของดัมเบิลดอร์
เฮเลนมองไปยังบ้านหลังต่างๆ
และนึกสงสัยว่าตัวเองจะจำได้สักหลังไหม แต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจดีว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย
วันที่จากสถานที่นี้ไปเธอกับแฮร์รี่อายุเพียงหนึ่งปีกับอีกไม่กี่เดือนเท่านั้น
บางทีคาถาฟิเดลลิอัสอาจจะไม่คลายออกแม้ว่าผู้ถูกคุ้มครองจะตายไปแล้วก็ได้
จากนั้นถนนเล็กๆ ที่พวกเขาเดินมาก็โค้งไปทางซ้ายและจัตุรัสเล็กๆ
ซึ่งเป็นหัวใจของหมู่บ้านก็ปรากฏต่อสายตา
กลางจตุรัสมีสิ่งที่เหมือนอนุสาวรีย์สงครามโลกตั้งอยู่
ประดับเอาไว้ด้วยไฟหลากสี แต่บางส่วนถูกบดบังด้วยต้นคริสมาสต์ที่ถูกลมพัดแกว่งไกว
มีร้านค้าอยู่ตรงนั้นหลายร้าน รวมทั้งที่ทำการไปรษณีย์ ร้านเหล้าและโบสถ์หลังเล็ก
หน้าต่างกระจกสีของโบสถ์ทอประกายดุจอัญมณีข้ามจัตุรัสมา
ไม่มีแม้แต่ชาวบ้านเดินอยู่ที่นี่
เฮเลนคาดว่าคงไม่มีใครออกมาเดินร่อนในช่วงกลางคืนที่อากาศหนาวเหน็บจนเกินบรรยายแบบนี้
"ฉันว่ามันใกล้วันคริสมาสต์มากเลยนะ"
รอนบอก "เราควรไปที่กระท่อมเปลือกหอย"
"ฉันรู้" เฮเลนบอกเสียงเรียบ
"เราคงหาที่พักที่นี่ไม่ได้หรอกรอน ถ้าเราไม่เจอแฮร์รี่ที่นี่
เราก็ต้องไปที่กระท่อมเปลือกหอยอย่างที่เธอว่านั่นล่ะ"
เธอหลงวัน
พวกเขาไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์มาหลายวันแล้ว
"ฉันคิดว่าสุสานอยู่หลังโบสถ์" รอนว่า
มองไปยังโบสถ์ที่มีแสงไฟส่องอยู่เล็กน้อย "จะไปดูไหม"
เฮเลนพยักหน้า
จับมือรอนเอาไว้แน่นและก้าวเดินออกไปพร้อมกัน แต่เมื่อผ่านจัตุรัสไปได้ครึ่งทาง
รอนก็หยุดชะงัก
"เฮเลน ดูสิ"
รอนชี้ไปที่อนุสาวรีย์สงครามโลก
ในขณะที่พวกเขาเดินผ่านมันได้กลายร่างไป
แทนที่จะเป็นเสาแหลมสูงซึ่งมีชื่อสลักไว้กลับเปลี่ยนเป็นรูปปั้นของคนสี่คน
ชายที่มมีผมยุ่งเหยิงและสวมแว่นตา ผู้หญิงผมยาวหน้าตาสะสวยและใจดี
เด็กแฝดสองคนนั่งอยู่ในอ้อมแขนของพวกเขา หิมะตกลงมาคลุมหัวทั้งสี่
มองดูเหมือนกำลังสวมหมวกไหมพรมขนปุย
เฮเลนเดินเข้าไปใกล้
มองขึ้นไปที่ใบหน้าของพ่อและแม่ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็นรูปปั้นของครอบครัวที่นี่
แปลกใจมากที่ได้เห็นตัวเองเป็นหิน
เด็กทารกที่มีความสุขและไร้ซึ่งรอยแผลเป็นบนหน้าผาก
"ไปเถอะรอน"
เฮเลนพูดเมื่อคิดว่าไม่ควรยืนจ้องรูปปั้นนานไปกว่านี้
ทั้งสองหันไปทางโบสถ์อีกครั้งขณะที่เดินข้ามถนนและรูปปั้นกลับกลายเป็นอนุสาวรีย์สงครามโลกเหมือนเดิมแล้ว
พวกเขาเดินผ่านประตูไม้ตรงปากทางเข้าป่าช้าเข้าไป
มีทางเดินลื่นๆ ทอดตรงไปยังประตูโบสถ์ สองข้างทางมีหิมะคลุมหนาและไม่มีรอยเหยียบย่ำ
ทั้งสองคนเดินฝ่าหิมะเลียบตัวโบสถ์ไปทำให้เกิดร่องลึกเป็นแนวตามหลัง เฮเลนกับรอนพยายามอยู่ใต้เงามืดข้างใต้หน้าต่างอันงดงามของโบสถ์
ด้านหลังโบสถ์
แผ่นหินหน้าหลุมศพปรากฏขึ้นตั้งเรียงเป้นแถวบนผืนหิมะสีฟ้าอ่อน
แต่งแต้มด้วยเงาสะท้อนจากกระจกสี เป็นจุดๆ สีแดง ทองและเขียว
เฮเลนกุมมือรอนเอาไว้แน่นและก้าวต่อไปยังหลุมศพที่ใกล้ที่สุด
ทั้งสองคนลุยลึกเข้าไปในป่าช้าโดยไม่มีการสนทนาใดๆ
และคอยหรี่ตามองในความมืดเป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเดินตามมา
เฮเลนเหลือบไปเห็นป้ายหลุมศพแผ่นหนึ่งบางส่วนถูกปกคลุมด้วยหญ้ามอสส์
มันเก่าแก่เหลือเกิน ตากลมตากฝนมานานจนแทบอ่านชื่อไม่ออก
หินนั้นสึกกร่อนมากจนดูแทบไม่ออกว่าสลักอะไรเอาไว้ สัญลักษณ์บางอย่างปรากฏอยู่บนแผ่นป้ายนั้น
มันเป็นรูปสามเหลือมเหมือนลูกตา
"ลูมอส"
เฮเลนดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาจากใต้เสื้อคลุม
ดวงตาเพ่งมองไปยังสัญลักษณ์นั้นพร้อมอ่านชื่อที่สลักอยู่บนนั้น
ถึงแม้ว่ามันจะเรือนรางมากก็ตาม "อิกโนตัส เพฟเวอร์เรล อ่านแบบนี้ใช่ไหมรอน"
"ใช่" รอนตอบ เขาพยายามเพ่งมองที่ป้ายนั่นเช่นกัน
"แล้วนี่เธอจะไม่ไปหาหลุมศพของพ่อแม่เหรอ"
เฮเลนดับไฟที่ไม้กายสิทธิ์และเงยหน้าขึ้นมองรอน
พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะออกเดินต่อไป เธอเห็นนามสกุลที่รู้จักที่ฮอกวอตส์เป็นระยะ
เช่นอับบอตต์ มักมิลลัน เป็นต้น บางตระกูลก็มีคนฝังเอาไว้ที่นี่หลายรุ่น
ดูจากวันเดือนปีที่สลักเอาไว้ เฮเลนสามารถบอกได้ทันทีว่าบางทีพวกเขาอาจจะตายหมดตระกูลหรือไม่รุ่นปัจจุบันก็คงไม่ได้อยู่ที่ก็อดดริกส์ฮอลโล่แล้ว
พวกเขาเดินเข้าไปท่ามกลางหลุมศพ และทุกครั้งที่ไปถึงหินหลุมศพอันใหม่
ใจก็จะวูบไปด้วยความกลัวและความคาดหวัง
ท่ามกลางความมืดและความเงียบงันนี้ทำให้เฮเลนรู้สึกวิตก
นึกถึงผู้คุมวิญาณขึ้นมากะทันหัน
"นี่ไงเฮเลน" รอนกระตุกมือของเฮเลนเบาๆ
ให้เธอหยุดเดิน "พวกเขาอยู่ตรงนี้"
เฮเลนรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆ ทับอยู่บนอก
รู้สึกทรมานเหมือนตอนที่ดัมเบิลดอร์ถูกคำสาปบนยอดหอคอยวันนั้น ความวิปโยคกำลังถ่วงหัวใจและปอดของเธอ
หินหลุมศพนั้นทำด้วยหินอ่อนสีขาวทำให้คำจารึกอ่านได้ง่ายเพราะมันดูเหมือนจะส่องแสงอยู่ในความมืด
ไม่จำเป็นต้องคุกเข่าหรือก้มหน้าลงไปดูเลย
เจมส์
พอตเตอร์ ลิลลี่
พอตเตอร์
ชาตะ
27 มีนาคม 1960 ชาตะ 30 มกราคม 1960
มรณะ 31 ตุลาคม 1981 มรณะ 31 ตุลาคม 1981
ศัตรูสุดท้ายที่ต้องทำลายคือความตาย
ติดตามตอนต่อไป...
เนื่องจากไรท์ถอดตัวเองออกมาจากการประกวด ปั้นหมึกคอนเทส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ถอดตัวเอง ไม่รอให้ใครมาถอดด้วย 5555) ก็เลยเอามาวางลงใน raw เด็กดี fictionlog และ ธัญวลัย ในรูปแบบที่ไม่ติดเหรียญ อ่านฟรียันจบไปเลยจ้า ถ้าหากนักอ่านท่านใดสะดวกที่จะเข้าไปอ่านและติดตามผลงาน Ori ของไรท์เบลอๆ คนนี้ก็ติดตามได้ทางช่องทางนี้จ้า
ขอขอบพระคุณล่วงหน้างับ ♥
ชื่อเรื่อง : Time reverse ฉีกกฏเวลา ย้อนกลับมารัก
เรื่องราวของสาวน้อยที่เกิดใหม่หลายรอบจนพระเจ้าเหนื่อยใจ รอบนี้ย้อนเวลาให้อีกรอบก็เลยให้จำได้ซะเลยว่าตัวเองทำตัวแบบไหนมาแล้วถึงได้ตายซ้ำตายซาก แล้วมันก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแก้ไขทุกอย่างและทำให้ทั้งคู่ได้รักกันสักที! เฮ้อ! พระเจ้าก็เหนื่อยเป็น (เอเดน ♥ ของขวัญ)
RAW >> https://www.readawrite.com/a/b73379daf113540832d8649bb4c89fd2
Dek - D >> https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2280680
Thanwalai >> https://www.tunwalai.com/v2/story/603542
Fiction log >> https://fictionlog.co/b/61ba150b3e481a001ccc3414
และ
ชื่อเรื่อง : Protective H! ภารกิจลับ ฉบับยัยตัวร้าย
เรื่องของเจ้าเด็กอวดดีที่วันๆ เอาแต่คิดว่าตัวเองอยากจะได้อิสระในชีวิต จนลืมไปว่าก็ต้องใช้ชีวิตให้มันปลอดภัยด้วย ทำให้พ่อแม่ต้องหาบอดี้การ์ดส่วนตัวมาให้ แต่ไม่ได้หามาให้แบบให้รู้นะ บอดี้การ์ดนอกเครื่องแบบไปอีก! ทำไมต้องทำตัวให้มันมีปัญหามากขนาดนั้นด้วยนะ! (เฮอร์วิน ♥ วัตสัน)
RAW >> https://www.readawrite.com/a/4b182a370f1a804e0984381bbf124cc5
Dek - D >> https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2280855
Thanwalai >> https://www.tunwalai.com/v2/story/610542?rc=2
Fiction log >> https://fictionlog.co/b/61b72c4af17a2b001d610d2a
ปล. ช่วงนี้จะขายนิยายเก่งหน่อย อดทนนิดนึงนะคะ 5555555555555555555555
ความคิดเห็น