ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #51 : บทที่ 3 : ภาพพยากรณ์

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 64


    บทที่ 3 : ภาพพยากรณ์


    "ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้นะครับ ทุกคนจะอันตราย ตราบใดที่ผมยัง..."

    "อย่าโง่ไปหน่อยเลย" นางวีสลีย์พูด "ทั้งหมดที่เราทำคืนนี้คือเพื่อพาเธอมาที่นี่อย่างปลอดภัย แล้วก็ขอบคุณสวรรค์ที่ทำสำเร็จด้วย แถมเฟลอร์ก็ตกลงแล้วว่าจะจัดงานแต่งงานที่นี่ เราเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว ทุกคนจะได้อยู่กันพร้อมหน้าและดูแลเธอได้ด้วย"

    ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านโพรงกระต่ายหลังจากหลบหนีการเข้าโจมตีของโวลเดอมอร์มาได้อย่างหวุดหวิด แฮร์รี่รู้สึกว่านางวีสลีย์ไม่เข้าใจเขาเลย เธอทำให้เขารู้สึกแย่ลงไปอีก ไหนจะเรื่องการตายของแม้ด-อาย ไหนจะเรื่องจอร์จที่ถูกโจมตีจนต้องเสียหูไป ไหนจะเรื่องที่เฮเลนอยู่กับพวกมัน เขาไม่มีกะใจจะมานั่งหลบซ่อนตัวหรืออยู่ยินดีกับงานแต่งงานของใครในเวลานี้หรอก

    "แต่ถ้าโวลเดอมอร์รู้ว่าผมอยู่ที่นี่..."

    "แล้วเขาจะรู้ได้ยังไง" นางวีสลีย์ถาม

    "มีที่ตั้งสิบสองแห่งที่เธออาจจะไปอยู่ตอนนี้นะแฮร์รี่" นายวีสลีย์บอก "เขาไม่มีทางรู้หรอกว่าเป็นบ้างหลังไหน"

    "ผมไม่ได้เป็นห่วงตัวเองนี่ครับ" แฮร์รี่บอก "ทั้งพวกคุณ แล้วที่สำคัญผม..."

    "นั่นล่ะเรารู้" นายวีสลีย์พูดเบาๆ "แต่ความพยายามทั้งหมดในคืนนี้คงจะไร้ความหมายถ้าเธอไป"

    "เธอจะไม่ไปไหนทั้งนั้น" แฮกริดคำราม "ให้ตาย แฮร์รี่ หลังจากทุกอย่างที่เราเจอเพื่อพาเธอมาที่นี่เนี่ยนะ"

    "ใช่!" จอร์จบอก เอนตัวขึ้นมาพิงเบาะ "แล้วยังหูเจ้ากรรมของฉันอีกล่ะ"

    "ฉันรู้!" แฮร์รี่ตะเบ็งเสียง เขารู้สึกเหมือนถูกล้อมข่มขวัญและขู่เข็ญ พวกนี้คิดว่าเขาไม่รู้หรือไงว่าทุกคนทำอะไรเพื่อเขาบ้าง ไม่มีใครเข้าใจเลยรึไงว่านี่แหละคือเหตุผลที่เขาอยากจะไปซะเดี๋ยวนี้ก่อนที่จะมีใครต้องทุกข์ทรมานเพราะเขาอีก ในใจมีแต่ความเครียดและกดดันมากมาย ทั้งเฮเลนที่ต้องไปติดแหงกอยู่กับพวกผู้เสพความตายโดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เดรโกจะช่วยดูแลน้องสาวของเขาได้ดีรึเปล่า

    เกิดความเงียบชวนอึดอัดขึ้นอย่างยาวนาน ขณะที่แผลเป็นของเขาปวดแสบปวดร้อนและเต้นตุ้บๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดนางวีสลีย์ก็พูดแหวกความเงียบขึ้นมา

    "เฮ็ดวิกกับเฮนรี่อยู่ไหนล่ะแฮร์รี่" เธอถามเสียงปะเหลาะ "เราให้มันไปอยู่กับพิกวิดเจียนได้นะ แล้วก็หาอะไรให้มันกิน"

    เหมือนหัวใจของเขาถูกบีบ แฮร์รี่ไม่อาจบอกความจริงแก่ทุกคนได้ เขาดื่มวิสกี้ไฟที่ได้รับมาจนหมดเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม ไม่มีใครพูดอะไรอีก แผลเป็นเจ็บปวดเหมือนถูกไฟจี้ เขาทำได้เพียงสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ไม่ให้ร้องครวญครางออกมาดังๆ แฮร์รี่รีบวางแก้วแล้วเดินออกไปจากห้อง

    ขณะที่แฮร์รี่เดินข้ามลานมืดๆ เธสตรอลตัวใหญ่ซึ่งมีแต่หนังหุ้มกระดูกเงยหน้าขึ้นมองเขา ขยับปีกค้างคาวเสียงกรอบแกรบแล้วก้มลงกินหญ้าต่อไป แฮร์รี่หยุดยืนตรงหน้าประตูเข้าสวน จ้องมองต้นไม้ที่รกรุงรังในนั้นพลางใช้มือถูหน้าผากที่ปวดเหมือนถูกทุบ เขาคิดถึงเฮเลนและที่สำคัญคิดถึงดัมเบิลดอร์

    ดัมเบิลดอร์ก็เหมือนแม้ด-อาย เหมือนซีเรียส เหมือนกับพ่อแม่ของเขา เหมือนนกฮูกที่น่าสงสารทั้งสอง ทั้งหมดจากไปแล้ว ไปยังที่ที่แฮร์รี่ไม่สามารถคุยด้วยได้อีกต่อไป เขารู้สึกร้อนในลำคอเหมือนมีไฟไหม้ ซึ่งมันคงจะไม่ได้เป็นเพราะวิสกี้ไฟอย่างแน่นอน

    อยู่ๆ ความเจ็บปวดที่แผลเป็นนั้นก็พุ่งพรวดขึ้น เขาต้องยกมือขึ้นกุมหน้าผาก เสียงกรีดร้องดังอยู่ข้างในหัว


    "แกบอกฉันว่าจะแก้ปัญหาได้ถ้าใช้ไม้กายสิทธิ์ของคนอื่น"

    ภาพของชายแก่ร่างผอมปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ชายคนนั้นนอนอยู่บนพื้นหิน แต่งตัวรุ่งริ่ง กำลังกรีดร้องโหยหวน บ่งบอกถึงความเจ็บปวดทรมานสุดจะทานทน

    "อย่า! ผมขอร้อง ผมขอร้อง"

    "แกโกหกลอร์ดโวลเดอมอร์ โอลิแวนเดอร์!"

    "ผมไม่ได้โกหก สาบานได้ ผมไม่ได้โกหก"

    "แกเลือกที่จะช่วยพอตเตอร์ ช่วยให้มันหนีฉันไปเหมือนนังเด็กนั่น!"

    "ผมสาบานได้ ผมไม่ได้ทำ ผมเชื่อว่าไม้กายสิทธิ์อีกอันจะทำได้"

    "งั้นก็อธิบายมา! มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม้กายสิทธิ์ของลูเซียสถูกทำลาย"

    "ผมไม่รู้ มันคงมีความเกี่ยวโยง..."

    "โกหก!!"

    "ได้โปรด ผมขอร้อง"

    มือสีขาวชูไม้กายสิทธิ์ขึ้น เขารู้สึกถึงความโกรธที่ชั่วร้าย ชายแก่ที่อ่อนแอดิ้นพล่านบนพื้นด้วยความปวดร้าวทรมาน


    "แฮร์รี่!"

    ทั้งหมดหายไปกะทันหันเหมือนตอนที่ปรากฏขึ้น แฮร์รี่ยืนตัวสั่นในความมืด ยึดบานประตูสวนไว้แน่น หัวใจเต้นตูมๆ แผลเป็นยังเจ็บแปลบๆ เป็นเวลาอึดใหญ่ๆ กว่าเขาจะรู้ตัว รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ก็ยืนอยู่ข้างตัวแล้ว

    "แฮร์รี่ กลับเข้าบ้านเถอะ" เฮอร์ไมโอนี่กระซิบ "เธอไม่ได้คิดเรื่องที่จะไปแล้วใช่ไหม"

    "นายต้องอยู่ที่นี่เพื่อน" รอนบอกพร้อมตบบ่าแฮร์รี่เบาๆ

    "เธอสบายดีหรือเปล่า" เฮอร์ไมโอนี่ถาม ตอนนี้เธออยู่ใกล้พอจะมองเห็นใบหน้าของเขา "เธอดูแย่จัง"

    "เอาเถอะ" แฮร์รี่พูดเสียงสั่น "ยังไงฉันก็คงดูดีกว่าโอลิแวนเดอร์ล่ะ"

    เขาเล่าเรื่องที่เห็นให้ทั้งสองฟัง รอนทำท่าขนลุกแต่เฮอร์ไมโอนี่นั้นดูหวาดกลัวมาก

    "แต่มันควรจะหยุดแล้วนี่ แผลเป็นของเธอ มันไม่ควรจะทำอะไรแบบนี้อีก เธอต้องไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น ดัมเบิลดอร์ต้องการให้เธอปิดกั้นใจตัวเองนะ" เขาไม่ตอบ เฮอร์ไมโอนี่บีบแขนแฮร์รี่แน่น "แฮร์รี่! เขากำลังจะยึดกระทรวงและหนังสือพิมพ์ โลกผู้วิเศษอีกครึ่งหนึ่งแล้วก็เฮเลนด้วย! อย่าปล่อยให้เขาเข้ามาในหัวเธอได้อีกเลย"

     

    เฮเลนลืมตาขึ้นอีกครั้งหนึ่งกลางดึก หญิงสาวรู้สึกปวดไปทั้งตัวจนไม่อาจขยับร่างกายได้ดั่งใจ ดวงตากลมเหลือบไปมองร่างของผู้ที่นอนอยู่ข้างกาย ดวงตาคมกริบหลับพริ้มลงแต่สีหน้าดูเป็นกังวลและเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เดรโกส่งเสียงกรนออกมาเบาๆ เพื่อบอกว่าเขานั้นกำลังหลับสนิท

    "เหนื่อยมากรึเปล่านะ" เธอพึมพำ มองจ้องไปที่ใบหน้าของเดรโกด้วยความเป็นห่วง "ขอบคุณนะ"

    อากาศในยามค่ำคืนหนาวเย็นสุดขั้วหัวใจ เฮเลนใช้แขนข้างที่ไม่เจ็บดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมทั้งตัวและไม่ลืมที่จะหันไปคลุมให้เดรโกด้วย ฟูกเตียงหนานุ่มไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกสบายตัวขึ้นเลย เฮเลนเพิ่งสังเกตว่าบาดแผลตามร่างกายของเธอเลือนหายไปจนหมดแล้ว น้ำยาหนวดเมิร์ตแลปเข้มข้นกับหัวน้ำเชื้อสมุนไพรดิตทานีคงถูกใช้ไปเกือบหมดแล้วกระมัง

    เฮเลนข่มตาให้หลับลงอย่างยากลำบาก ในใจเฝ้าภาวนาให้วันพรุ่งนี้มาถึงโดยเร็วและหวังว่าฝันร้ายนี้จะจบลงเสียที

    วันต่อมาเดรโกปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เพราะโวลเดอมอร์ต้องการให้เธอลงมาร่วมรับประทานมื้อเช้าร่วมกับเขา เฮเลนดื่มน้ำยาบำรุงร่างกายที่เก็บเอาไว้ในหีบก่อนจะรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปที่ห้องทานอาหารพร้อมกับเดรโก

    เหล่าผู้เสพความตายนั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตาที่โต๊ะทานอาหารและมีโวลเดอมอร์นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ เดรโกพาเธอไปนั่งตรงเก้าอี้ที่ถูกเว้นเอาไว้ทั้งสองตัว เฮเลนพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่สบดวงตาแดงฉานของเขา อาหารเช้าวันนี้เป็นข้าวโอ๊ตต้มร้อนๆ ที่ช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้นในช่วงอากาศหนาวได้เป็นอย่างดี

    "อรุณสวัสดิ์ เฮเลน" โวลเดอมอร์เอ่ยทักทายเสียงเย็นเฉียบ "เมื่อวานเป็นยังไงบ้าง"

    ร่างบางกัดริมฝีปากอย่างแรงเมื่อได้ยินคำถาม เขาถามว่าเป็นยังไงบ้างหลังจาที่โดนคำสาปกรีดแทงงั้นเหรอ เธอควรจะตอบเขาว่าสบายดีใช่ไหม ทั้งที่ถูกสาปโดยที่ไม่ได้ผิดอะไรเลย!

    "ก็ -- " เฮเลนงึมงำ "ก็ดี ที่ไม่ตาย"

    เสียงหัวเราะดังครืนขึ้นมารอบโต๊ะ ผู้เสพความตายหัวเราะออกมาอย่างครื้นเครงราวกับว่าเรื่องที่เฮเลนถูกสาปเมื่อวานเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง

    "งั้นเหรอ" โวลเดอมอร์ตอบ "ฉันไม่อยากให้แกตายหรอกนะ แกเป็นคนสำคัญของฉันเลยล่ะ"

    "รู้สึกดีจริงๆ ที่ได้ยิน" เฮเลนถอนหายใจ

    "อย่ามาปากดี" เบลาทริกซ์ตวาดขึ้นทันใด "แกมาอยู่ที่นี่ก็ในฐานะนักโทษ! ได้ขึ้นมานั่งร่วมโต๊ะด้วยก็เป็นบุญมากเท่าไหร่แล้ว นังเด็กโง่"

    "เงียบ เบลาทริกซ์" โวลเดอมอร์พูดเสียงเย็น "ฉันดีใจที่แกรู้สถานะตัวเองพอตเตอร์ -- เอาล่ะ หลังจากมื้อเช้าอย่าลืมทำในสิ่งที่ต้องทำล่ะ"

    เฮเลนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เธอหันไปมองเดรโกที่นั่งเงียบจ้องมองถ้วยข้าวโอ๊ตร้อนๆ โดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียว ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัวและอดทนอดกลั้นเอาไว้ไม่ยอมพูดจาอะไรออกมาสักคำ

    การรับประทานอาหารเช้าเป็นไปอย่างราบเรียบ เหล่าผู้เสพความตายพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการยึดครองกระทรวงเวทมนตร์และสถานที่ที่แฮร์รี่ พอตเตอร์อาจจะไปอยู่ เฮเลนไม่อาจบอกพวกเขาไปได้ว่าแฮร์รี่จะไปอยู่ที่ไหน แต่เธอมั่นใจที่สุดก็คือเขาน่าจะไปอยู่ที่บ้านโพรงกระต่ายและถ้าเขาปลอดภัยมันก็คงจะดี

    เฮเลนกลับมาอยู่ที่ห้องนอนของเดรโกอีกครั้งเพื่อเตรียมพร้อมก่อนที่จะลงไปพยากรณ์ให้กับโวลเดอมอร์เกี่ยวกับเรื่องในกระทรวงว่าเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ อีกสี่วันเธอก็จะอายุครบสิบเก้าปีและนั่นหมายความว่าร่องรอยของแฮร์รี่ก็จะจางหายไปด้วย เฮเลนอยากจะวางแผนหนีออกไปจากที่นี่หลังจากที่อายุครบสิบเก้าแล้ว แต่เธอไม่รู้ว่าโวลเดอมอร์จะสามารถพินิจใจของเธอสำเร็จเสียก่อนหรือไม่

    หลังจากเตรียมสมาธิจนพร้อมแล้วเฮเลนก็ลงมาจากห้อง เดรโกถูกสั่งให้ออกไปช่วยผู้เสพความตายทำงานอื่นด้านนอก เฮเลนคิดว่านาร์ซิสซาค่อนข้างพอใจที่เห็นอย่างนั้น เธอไม่เคยปลื้มเลยสักครั้งที่เดรโกพยายามจะปกป้องเฮเลน ร่างบางเดินลงมาหยุดที่หน้าประตูบานใหญ่ชั้นล่าง ห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวที่โวลเดอมอร์จะใช้เพื่อให้เธอเข้าไปตั้งสมาธิเพื่อพยากรณ์เท่านั้น

    "มาตรงเวลาดี" เสียงกังวานและหนักแน่นพูดขึ้น โวลเดอมอร์มองหญิงสาวอย่างพออกพอใจ ลูกแก้วขนาดมหึมาวางตั้งอยู่บนโต๊ะสีแดงสดเหมือนเลือดตัวเดิมที่เธอเคยเห็น "คราวนี้แกจะมองเห็นอะไรกันนะ"

    เฮเลนเงียบ ไม่ได้ตอบอะไร เธอหวังอยู่ลึกๆ ว่าครั้งนี้ดวงตาพยากรณ์จะยอมทำตามที่เธอขอให้ถูกที่ถูกเวลา ต่อให้เธอต้องถูกทรมานจนเป็นบ้าก็อย่าเพิ่งทำงานตอนที่เขาอยากจะได้คำตอบเลย ในห้องนี้เป็นห้องเล็กๆ ที่ไม่ได้ถูกตกแต่งอะไรเอาไว้มากนัก กำแพงทุกด้านถูกฉาบเอาไว้ด้วยสีดำทะมึนและมีเทียนสีดำประดับอยู่บนโคมไฟระยาด้านบนเป็นร้อยเล่ม

    เฮเลนนั่งลงตรงกันข้ามกับโวลเดอมอร์ ดวงตาสีเขียวมรกตมองจ้องเข้าไปในลูกแก้วที่มีควันขมุกขมัวลอยวนอยู่ภายใน เธอเลื่อนมือไปสัมผัสมันเบาๆ และนึกถึงสิ่งที่ตัวเองอยากรู้มากที่สุดในหัวใจ พยายามนึกถึงหัวข้อที่โวลเดอมอร์ต้องการจะรู้แต่ว่าสิ่งที่ปรากฏในนั้นกลับไม่ใช่สิ่งที่โวลเดอมอร์ต้องการ มันเป็นสิ่งที่เธอต้องการจะเห็นต่างหาก

    ควันสีขาวขมุกขมัวลอยวนเป็นวงกว้างก่อนจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง มันคือภาพของงานเลี้ยงฉลองยิ่งใหญ่ที่มีแขกเหรื่อมากมาย ทุกคนสวมชุดราตรีพร้อมสำหรับงานเต้นรำ ในงานนี้ปราศจากเงาของแฮร์รี่โดยสิ้นเชิง แต่มีรอน เฮอร์ไมโอนี่และจินนี่พร้อมทั้งครอบครัววีสลีย์อยู่ด้วย มันเป็นงานแต่งงานของใครบางคนที่กำลังจัดขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่ปั่นป่วนราวกับพายุร้ายนี้

    เฮเลนเพ่งมองเข้าไปอีกจนกระทั่งภาพนั้นจางหายไป

    "เห็นอะไรในนั้น" โวลเดอมอร์เอ่ยขึ้นทันที "แกเห็นอะไร"

    "ไม่เห็น" เธอพูดปด "ฉันไม่เห็นอะไรเลย ถึงได้พยายามเพ่งมองมัน"

    "โกหก!" เขาพูดเสียงดัง "พูดมาว่าแกเห็นอะไร"

    "ขอเวลาสักครู่" เฮเลนบอกเขา "ขอให้ฉันเห็นอะไรที่มันชัดกว่านี้อีกหน่อยเถอะนะ"

    โวลเดอมอร์เงียบไป เฮเลนหันกลับไปจ้องที่ลูกแก้วอีกครั้ง เธอพยายามคิดถึงกระทรวงเวทมนตร์และสคริมเจอร์ จนในที่สุดแล้วเหมือนความสามารถจะทรยศเธอจริงๆ ภาพในลูกแก้วปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เป็นภาพของกระทรวงเวทมนตร์กำลังวุ่นวายไปหมดเพราะการคุกคามของผู้เสพความตาย

    รูฟัส สคริมเจอร์คือหนึ่งที่ออกมาปราบพวกเขา เฮเลนไม่อยากบอกอะไรกับโวลเดอมอร์เลยด้วยซ้ำ แต่โชคร้ายนักที่เธอไม่อาจปิดกั้นตัวเองจากการพินิจใจของเขาได้เลย หญิงสาวจึงจำเป็นจะต้องบอกทุกอย่างที่เธอเห็นออกไป เฮเลนคิดว่าเพราะการมาอยู่ที่คฤหาสน์มัลฟอยทำให้เธออ่อนแอลงทุกวัน แม้กระทั่งการใช้คาถาง่ายๆ บางทีเธอเองก็ไม่อาจจะทำได้

    "กระทรวงเวทมนตร์" เฮเลนพูด "กำลังต่อต้านคุณ"

    "ใครที่กำลังต่อต้านฉัน" โวลเดอมอร์ถาม ยกยิ้มขึ้นมาน้อยๆ

    "สคริมเจอร์" เธอตอบ "รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์จะสามารถเอาชนะลูกน้องทั้งหลายของคุณได้ เขาสามารถที่จะต่อต้านคุณและไม่ยากเลยที่เขาจะไล่ผู้เสพความตายทั้งหมดไปได้"

    เงียบไปครู่หนึ่ง โวลเดอมอร์มีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย

    "รูฟัส สคริมเจอร์จะรู้เรื่องราวทุกอย่างของแฮร์รี่ พอตเตอร์" เฮเลนพูดต่อ "เขาจะมาสามารถบอกคุณได้ถ้าเกิดว่าคุณอยากจะรู้ ฉันเชื่อแบบนั้น"

    เธอมั่นใจว่ากระทรวงเวทมนตร์ต้องรู้แน่นอนว่าแฮร์รี่อยู่ที่ไหน แต่ที่เฮเลนมั่นใจมากที่สุดก็คือสคริมเจอร์ไม่มีวันทิ้งความหวังเดียวในการโค่นล้มจอมมารไปได้อย่างแน่นอน เธอเชื่ออย่างนั้นและเฮเลนยังแอบหวังลึกๆ ว่าโวลเดอมอร์คงจะจับเขามาขังรวมเอาไว้กับโอลิแวนเดอร์ถ้าเกิดว่าเขายังไม่ยอมบอกเกี่ยวกับที่ซ่อนของแฮร์รี่

    ซึ่งถ้ามันเป็นอย่างนั้นคงจะดีทีเดียวที่เธอจะได้แอบลอบเข้าไปถามเขาเกี่ยวกับเรื่องของแฮร์รี่เพื่อวางแผนที่จะหนีต่อไปหลังจากที่ช่วงวันเกิดผ่านพ้นไปแล้ว

    "แล้วมันจะบอกฉันเหรอ" โวลเดอมอร์เอ่ยเสียงเย็น "เป้าหมายของฉันคือการลอบฆ่ามันเพื่อยึดกระทรวง แต่ถ้าแกพูดแบบนั้นฉันก็คงจะต้องไว้ชีวิตมัน"

    เฮเลนไม่ตอบ ดวงตามองจ้องอยู่ที่ลูกแก้ว ภาพของสคริมเจอร์ยังคงเดินวนอยู่ในนั้นด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด เขาเล็งไม้กายสิทธิ์ใส่ผู้เสพความตายทั้งหลายที่พุ่งเข้ามาและคว้าชัยไปได้ เฮเลนคิดว่าถ้าเกิดโวลเดอมอร์พาพวกผู้เสพความตายเข้าไปบุกกระทรวงซึ่งหน้า บางทีสิ่งที่เธอเห็นอาจจะเป็นจริงขึ้นมาก็ได้

    "ไปได้" โวลเดอมอร์บอก "วันนี้คำทำนายเป็นที่น่าพอใจ ฉันหวังว่าครั้งหน้าคงจะเป็นอย่างนี้"

    เฮเลนลุกขึ้นยืน ไม่มีการทำความเคารพใดๆ ทั้งสิ้นก่อนจะหันหลังและเดินออกจากห้องมา หัวใจเต้นรัวไม่เป็นส่ำ เธอคงไม่ได้ทำให้เขาโกรธขึ้นมาอีกใช่ไหมถ้าเกิดว่าเขารู้ว่าการบุกไปที่กระทรวงจะทำให้ผู้เสพความตายต้องตายไปอีกหลายคน เดรโกยืนรอเธออยู่หน้าห้อง ดวงตาคมจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาเป็นห่วง

    "มาตั้งแต่เมื่อไหร่" เฮเลนถาม "ภารกิจเป็นไงบ้าง"

    เดรโกก้าวยาวๆ เข้ามาหาเธอในทันที เขารวบร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดเหมือนอย่างทุกครั้งหลังจากที่เสร็จภารกิจ

    "ฉันเกือบต้องฆ่าคนแล้ว" เขาพึมพำ "โชคดีที่โดโลฮอฟขี้หงุดหงิด เขาก็เลยทำแทนฉัน"

    "ดีแล้ว" เฮเลนลูบหลังเขาเบาๆ อย่างปลอบใจ "นายจะได้ไม่ต้องรู้สึกแย่"

    "แล้วเธอล่ะ" เขาถาม "เธอโดนอีกรึเปล่าวันนี้ เขาไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม"

    "เปล่า" เธอตอบ "ฉันทำนายออกมาให้เขาพอใจน่ะ"

    "แต่ถ้าทำแบบนั้น แฮร์รี่จะ..."

    เฮเลนเลื่อนมือไปปิดริมฝีปากของเขาเอาไว้เบาๆ เธอดันเดรโกออกก่อนจะดึงแขนพาเขาเดินกลับขึ้นไปบนห้อง ช่วงนี้ทั้งสองไม่เห็นแท็คในคฤหาสน์เลย เฮเลนไม่คิดว่าโวลเดอมอร์จะส่งเขาไปที่ไหนอีกแน่เพราะนี่ก็ใกล้ถึงช่วงเวลาเปิดเทอมของฮอกวอตส์แล้ว อีกอย่างสเนปที่ถูกแต่งตั้งเป็นอาจารย์ใหญ่ก็ยังมาที่นี่บ่อยกว่าปกติเสียด้วย

    เฮเลนดันเดรโกเข้าไปในห้องก่อนจะเสกคาถาลงกลอนเหมือนทุกครั้งและไม่ลืมที่จะใช้คาถา มัฟฟลิอาโต้ ด้วยเพื่อไม่ให้ใครที่เดินผ่านมาได้ยินที่ทั้งสองคุยกันในห้อง เขาเดินไปนั่งบนฟูกเตียงและตบเบาๆ ที่ข้างกายเพื่อเรียกให้เธอไปนั่งข้างเขา เฮเลนเดินไปทิ้งตัวลงบนฟูกอย่างว่าง่าย บรรยากาศในห้องที่มีเพียงเธอกับโวลเดอมอร์แทบทำให้เธออ้วกออกมาเพราะความอึดอัด

    "เธอหมายความว่าไงที่ว่าคำพยากรณ์วันนี้น่าพอใจ" เดรโกถามแหวกความเงียบ

    "หมายความว่าฉันเห็นน่ะสิ" เฮเลนตอบ "เห็นสคริมเจอร์จัดการผู้เสพความตายไปหลายคนเลยในตอนที่ไปบุกกระทรวง ฉันบอกให้เขาฟังแบบนั้น จำได้ไหมที่เขาวางแผนจะลอบฆ่าสคริมเจอร์ ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็คงไม่สำเร็จหรอกจริงไหม อีกอย่างฉันบอกเขาไปด้วยว่าบางทีสคริมเจอร์อาจจะรู้ข้อมูลของพวกแฮร์รี่"

    "จะบ้าเหรอเฮเลน" เดรโกขัดขึ้นทันที "บอกไปแบบนั้นเดี๋ยวจอมมารก็ไปหาข้อมูลจากสคริมเจอร์หรอก"

    "ฉันก็คิดแบบนั้น" เธอพูด "แล้วถ้าเกิดสคริมเจอร์ไม่บอกเขาล่ะ"

    "หมายความว่าไง"

    "ฉันหมายถึง" เฮเลนคิดว่าจะอธิบายยังไงให้เดรโกเข้าใจดี "ถ้าเกิดสคริมเจอร์ไม่ยอมบอก โวลเดอมอร์ก็จะต้องทำทุกทางเพื่อให้เขายอมบอกใช่ไหมเดรโก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็จะจับสคริมเจอร์มาที่นี่"

    "ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์ตรงไหน" เดรโกเบ้หน้า "ต่อให้จอมมารจับเขามาที่นี่ แล้วเธอจะทำยังไงได้ เดี๋ยวเขาก็ต้องยอมบอกเรื่องของแฮร์รี่เพื่อให้ตัวเองรอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"

    "ฉันคิดว่าสคริมเจอร์ไม่ใช่คนแบบนั้น" เฮเลนบอก "หลังจากที่ได้เจอเขามาครั้งหนึ่งฉันพอจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างกระด้างแล้วก็ต่อต้านศาสตร์มืดมากเลยทีเดียว แฮร์รี่บอกว่าเขาเคยทำงานเป็นมือปราบมารด้วยนะ"

    เดรโกไม่พูดอะไรต่อ เขาลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปหาหญิงสาวที่มีสีหน้าโล่งใจกว่าทุกครั้ง เฮเลนไม่อยากให้โวลเดอมอร์เจอตัวแฮร์รี่ แต่ถึงอย่างนั้นการยั่วให้เขาข่มขวัญสคริมเจอร์ก็อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดของแผนการเอาตัวรอดของเธอในครั้งนี้ ยังไงก็ตามในช่วงที่จะหนี เธอก็ต้องพาโอลิแวนเดอร์กับสคริมเจอร์หนีไปด้วยให้ได้

    "อีกสี่วันร่องรอยของฉันก็จะหมดไป" เฮเลนพูด ล้มตัวลงนอนบนฟูกหนา "หลังจากนั้นโวลเดอมอร์ก็จะตามตัวฉันยากขึ้น แต่จะไปให้พ้นจากที่นี่ได้ยังไง"

    "รอบๆ คฤหาสน์มีการลงคาถาเอาไว้หมด" เดรโกบอก "คาถาต้านการหายตัวแล้วก็คำสาปอีกเยอะแยะ เราคงต้องวางแผนให้รอบคอบถ้าเกิดว่าจะหนี"

    "แล้วเรื่องของแม่เธอล่ะเดรโก" เฮเลนมองหน้าเขา "ถ้าเราหนีไป มีอะไรรับประกันชีวิตแม่ของเธอได้หรือเปล่า"

    "ไม่รู้สิ" เขาส่ายหน้าเบาๆ ดวงตาฉายแววกังวล "ฉันคิดว่าแม่น่าจะปลอดภัยมากกว่าถ้าอยู่ที่นี่"

    "เธอแน่ใจเหรอ" เฮเลนถามย้ำ "เธอต้องห่วงเขาให้มากกว่าฉันสิ เหมือนกับทีซีเรียส..."

    "เธอกับแฮร์รี่คือทุกสิ่งทุกอย่างเฮเลน" เดรโกว่าแล้วจ้องหน้าเธอ "ถ้าเธอสองคนโค่นล้มจอมมารลงได้ทุกอย่างก็จบ ทุกคนก็จะปลอดภัย ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าชีวิตของเธอสองคนแล้ว"

    "แต่ฉันเคยบอกไปแล้วไง" เฮเลนเถียง "ฉันไม่เคยอยากให้ใครมาตายเพื่อฉัน ไม่ว่าจะเธอหรือแฮร์รี่ หรือใครก็ตาม รวมไปถึงสมาชิกภาคีคนอื่นๆ ด้วย"

    เดรโกเงียบเสียงไป เขาทิ้งตัวลงนอนข้างๆ กับเฮเลน เขาตอบอะไรเธอไม่ได้เลย เพราะไม่ว่าใครก็ต้องการปกป้องพี่น้องพอตเตอร์เอาไว้ทั้งนั้น ดัมเบิลดอร์บอกกับเขาว่าฝาแฝดคู่นี้คือความหวังที่เหลืออยู่ของพวกเรา เชื่อในสิ่งที่พวกเขาเชื่อและมั่นใจในการตัดสินใจของพวกเขา จงปกป้องพวกเขาเอาไว้ให้ได้

    ดัมเบิลดอร์ทำให้เขาดูเป็นตัวอย่างแล้วว่าถึงแม้ต้องแลกมาด้วยชีวิตก็จะต้องทำให้สำเร็จ พี่น้องพอตเตอร์จะต้องมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

    "เดรโก" หลังจากทุกอย่างเงียบเชียบอยู่นาน เฮเลนก็พูดขึ้น "นายคิดว่าเราจะได้เห็นวันที่เราขึ้นรถไฟไปที่ฮอกวอตส์กันอีกไหม"

    "เป็นคำถามที่ไม่น่าถามเลยนะ" เขาตอบ "ก็ต้องมีอยู่แล้วสิ"

    "เมื่อไหร่เหรอ" เธอถาม "อีกนานมากไหม ปีนี้เราอยู่ปีเจ็ดกันแล้วนะ แล้วเราก็จะเรียนจบและทำงาน ฉันอยากกลับไปเรียนอีกจัง มันมีความสุขมากเลยไม่ใช่เหรอ โดยเฉพาะตอนที่เรานั่งอยู่ด้วยกันที่ลานปราสาทน่ะ"

    ภาพช่วงเวลาต่างๆ มากมายแล่นเข้ามาในหัวของเธอ รอยยิ้มของแฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ การกลั่นแกล้งสุดแสบของเฟร็ดและจอร์จ ศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ที่เอาแต่พูดพร่ำเพ้อและช่วงวันหยุดคริสมาสต์ในบ้านโพรงกระต่าย และที่สำคัญที่สุดคือช่วงเวลาที่นั่งพูดคุยกับเดรโกในชั่วโมงพัก มันไม่มีอะไรที่จะมีความสุขไปมากกว่านี้แล้วไม่ใช่หรือ เฮเลนเกิดอยากรู้ขึ้นมาเสียแล้วว่าทำไมเธอถึงได้เป็นคนที่ถูกเลือก ทำไมไม่เป็นคนอื่นหรือว่าทำไมต้องมีโวลเดอมอร์

    "เขาว่ากันว่าช่วงเวลาที่มีความสุขมักจะผ่านไปเร็ว" เดรโกบอก "แต่มันจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป"

    "ฉันหวังว่าจะเป็นแบบนั้น"

    เฮเลนพูดเสียงแหบแห้ง ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังเพดานที่ว่างเปล่า ร่างของทั้งสองนอนเคียงกันอยู่อย่างนั้นและปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมระหว่างทั้งสองคน ตอนนี้ไม่มีอะไรบอกได้เลยว่าพรุ่งนี้จะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง จะถูกคำสาปหรือจะผ่านไปอีกหนึ่งวันอย่างไร้ความหมาย เฮเลนก็ยังไม่อาจเดาได้ แต่สิ่งที่เธอภาวนาและร้องขออยู่ทุกคืนวันนั่นก็คือ ขอให้ชายหนุ่มที่อยู่เคียงข้างเธอนั้นปลอดภัยและ...

    ขออย่าให้มีใครต้องตายเพราะเธออีกเลย



    ติดตามตอนต่อไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×