คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 แซนส์และพาไพรัส สองพี่น้องโครงกระดูก (Re.1)
Up lode : 29/04/2016
Re Write No.1 : 14/05/2016
บทที่ 4
แซนส์และพาไพรัส
สองพี่น้องโครงกระดูก
ตึง!
ฉันปิดประตูบานใหญ่ลงก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันหลังพิงมันไว้เพื่อสงบสติอารมณ์....
...
.....
“ฮู่ว! เดินต่อกันเถอะฟริคส์ เธอจะต้องไม่ฆ่าใครอีก”
ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อไปอย่างใจเย็น ที่จริงรู้อะไรไหม? ฉันเกือบจะดึงมีดออกมาฟันเจ้าดอกไม้สีทองนั่นแล้วเชียวถ้ามันไม่ได้อันตรธานหายไปก่อนล่ะก็นะ...
ฮู่ว! แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณที่มันหนีไปทำให้ฉันไม่พลั้งมือฆ่าใครอีก
ตึก... ตึก...
เสียงฝีเท้าของฉันดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ สองข้างทางเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาดูราวกับว่าอากาศหนาวจนเป็นน้ำแข็ง แต่ที่จริงเปล่าเลย... มันทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูกและมันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อครู่นี้นิดหน่อย
ซรวบ...
หือ?
ซรวบ... ซรวบ...
ในระหว่างที่ฉันกำลังเดินชมนกชมไม้อยู่นั้น เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เสียงฝีเท้าของฉันแน่ๆ ! ฉันเหลียวหลังกลับไปมองแต่ก็ไม่พบใครสักคนเดินตามมา แม้เพียงเงาก็ไม่มี!!
ฉันสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะบอกตัวเองว่า 'มันไม่มีอะไร' เฮ้อ! มันอันตรายอย่างที่คุณแม่โทเรียลบอกจริงๆ ด้วยสินะ แบบนี้ฉันน่าจะกลับเข้าไปอยู่ในบ้านนั่นนน T.T...
ไม่สิฟริคส์! ตั้งสติหน่อย เธอเดินมาไกลเกินกว่าจะกลับไปแล้วนะ...
ตั้งสติไว้...
กึก!
ฉันท่องอมิตาพุทธ นะโมสามจบ สี่จบ ห้าจบ หรืออะไรก็ตามเถอะที่ฉันท่องได้เพื่อเรียกสติให้กลับมา จนในที่สุดฉันก็เดินมาจนถึงสะพานแคบๆ ถูกสร้างเอาไว้ข้ามร่องเหวขนาดเล็ก บนสะพานมีอะไรสักอย่างที่เหมือนกับ...
เอ่อ... จะว่าไงดี?
มันเหมือนกับราวกั้น? ล่ะมั้ง? มันเหมือนราวกั้นที่ทำจากไม้ ที่จะใช้กั้นเอาไว้ไม่ให้ใครก็ตามข้ามสะพานไปได้... แต่จะว่าก็ว่าเถอะ ร่องมันกว้างเกินไปรึเปล่านั่นน่ะ!!
“นี่...!”
เฮือก...
ในขณะที่ฉันกำลังวิจารณ์ราวกั้นนั่นอย่างเพลิดเพลินบันเทิงใจนั้นเอง เสียงใครบางคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ฉันสะดุ้งเฮือก ตัวแข็งทื่อขึ้นมาในทันใด! ที่จริงฉันไม่ได้กลัวผีหรอกนะ นับสทรับลุคฉันก็เจอมาแล้ว แต่นี่มัน...
คือตอนแรกฉันไม่เจอใครเลย แล้วทำไมเขาถึงได้...?!
“มนุษย์! เธอไม่รู้วิธีที่จะทักทายเพื่อนใหม่รึไง?”
“...”
“หันมา... แล้วจับมือฉันสิ!”
ฉันตัวสั่นขึ้นมาในทันใดด้วยความกลัว ความกล้าเพียงส่วนน้อยในตัวฉันกำลังบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ฉันหลับตาลงและสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหันหลังไปสัมผัสกับมือของใครบางคนที่มันนุ่มจนบอกไม่...
ป้าดดดดดดดดดดด!!! แพรดดดดด!!
...ถูก -_-^!!
“ฮ่าๆๆ ทำไมเธอถึงหลับตาหันมาแบบนั้นล่ะ!”
“นะ นี่... -_-^”
ฉันลืมตาขึ้นและมองลงไปยังสิ่งที่กำลังบีบอยู่ มันไม่ใช่มือแต่เป็นสิ่งที่เรียกกันว่า 'ถุงตด' ของเล่นบนพื้นโลกที่ฉันเคยโดนเพื่อนแกล้งมาแล้วนัดต่อนัด! ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้า
ไม่สิ! เขาไม่ใช่คน!! ตรงหน้าของฉันคือปิศาจโครงกระดูกสวมเสื้อฮู้ดสีฟ้าทับเสื้อยืดสีขาว กางเกงวอร์มสีดำและรองเท้าแตะ สูงกว่าฉันประมานยี่สิบเซนติเมตรได้ มือทั้งสองข้างของเขาซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อฮู้ด...
และนั่นหมายความว่าเขาจงใจแกล้งฉันตั้งแต่แรก!
“ฮ่าๆๆๆ!! แต่มันเจ๋งเป็นบ้าเลย
มันทำให้ฉันขำได้ตลอดเลยนะเนี่ย”
“นี่นาย!!!” ฉันกำถุงตดนั่นเอาไว้แน่นพร้อมยกมือขึ้นเตรียมจะขว้างมันใส่หน้าเขาแต่ทว่าฝ่ายตรงข้ามยกมือขึ้นขอยอมแพ้แสียก่อน
“ฮะๆ ขอโทษทีที่แกล้งนะ ยังไงก็เถอะ... เธอน่ะเป็นมนุษย์ใช่ไหม?”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม! นายจะกัดหัวฉันรึไง”
ฉันเบ้ปากใส่เขาแล้วโยนถุงตดโง่ๆ นั่นลงบนพื้นก่อนจะเปลี่ยนท่ามายืนกอดอก ชิ! ปิศาจบ้าบอคอแตกอะไรมาหัวเราะใส่หน้าคนอื่นเขาแบบนี้กัน
นิสัยไม่ดี!
“ฮ่าๆ อย่าโกรธไปเลยน่า ฉันชื่อแซนส์
เป็นปิศาจโครงกระดูก”
“ฉันฟริคส์”
“ที่จริงหน้าที่ฉันคือการจับมนุษย์อย่างเธอไปส่งให้พระราชา”
“...”
“แต่ฉันไม่มีอารมณ์จะมาจับเธอไปตอนนี้หรอก บอกตามตรงว่าเธอน่ะตลกดี ฮ่าๆ"
แซนส์พูดแล้วหัวเราะขึ้นมาอีกรอบก่อนจะก้มลงเก็บถุงตดใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ เขายิ้มแล้วมองหน้าฉันก่อนจะพูดต่อ
"เอาเป็นว่าน้องชายของฉัน พาไพรัสน่ะเป็นโรคบ้าชอบล่ามนุษย์มากเลยน่ะนะ”
"..."
“แล้วฉันคิดว่าเขาก็คงจะอยู่แถวๆ นี้นั่นแหละ”
“อะ อะไรนะ!?”
ฉันคลายการกอดอกแล้วมองไปรอบๆ เพื่อหาโครงกระดูกอีกตัวที่น่าจะเป็นน้องชายเขาที่มีนามว่า 'พาไพรัส' แซนส์มองฉันแล้วหัวเราะในลำคอ (ถึงเขาจะไม่มีลำคอก็เถอะ!) เขาเดินเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะจับไหล่ฉันเอาไว้
ที่น่าแปลกคือฉันไม่ได้ขยับหนีเขา!
“เอาเป็นว่าฉันมีไอเดียล่ะ
เราข้ามสะพานผ่านไอ้ที่กั้นไร้สาระของพาไพรัสไปเถอะ น้องฉันน่ะทำมันกว้างเกินกว่าจะรั้งใครเอาไว้ได้”
แซนส์พูดแล้วจับฉันกลับหลังหันดันให้เดินข้ามสะพานนั้นไป ก่อนที่ฉันจะได้ขัดขืนอะไรแซนส์ก็ดันฉันมาไกลจากสะพานนั่นมากแล้ว -_-; แต่เพียงพักเดียว เหมือนกับว่าเขาเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติขึ้นมา...
“อุ๊บส์! ให้ตายสิ... ไปหลบหลังหินก้อนนั้นก่อน เร็วเข้า!!"
แซนส์ดันหลังฉันให้ไปแอบอยู่หลังก้อนหินก้อนใหญ่ข้างๆ กับเพิง หรืออะไรสักอย่างนั่นล่ะ ก่อนที่เขาจะออกไปยืนเอามือล้วงกระเป๋าและยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่ตรงทางที่เราเพิ่งเดินมา ฉันชะโงกหัวออกไปมองว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น และพบว่ามีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาตรงนี้นั่นเอง!
ตึก ตึก ตึก
“โอ้ว! ไงน้องชาย”
“นายก็รู้นี่ว่า ‘ไง’ ล่ะพี่!”
ใครบางคนที่ว่านั่นก็คือนายโครงกระดูกร่างสูงสวมชุดประหลาดคล้ายชุดซุปเปอร์แมนแต่สวมผ้าพันคอสีแดง (?) เขาทำหน้าไม่พอใจสักเท่าไหร่นักที่เห็นแซนส์อยู่ตรงนั้น แต่ดูเหมือนว่าแซนส์จะไม่ได้สนใจท่าทางของเขาเลย
“นี่มันหลายวันแล้วนะที่นายไม่ได้ไปปรับปรุงปริศนาของนายเลย
ฉันเห็นแต่นายยืนร่อนไปร่อนมาอยู่นั่นแหละ! ฉันถามจริงๆ เถอะว่าวันๆ
นายทำอะไรบ้าง!!”
แซนส์ยิ้ม เขายกมือขึ้นแล้วชี้มายังก้อนหินที่ฉันกำลังแอบอยู่และนั่นเล่นเอาฉันเกือบจะหดหัวกลับเข้ามาแทบไม่ทัน!
“วันๆ ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรนะ
ก็แค่มองไอ้ก้อนหินก้อนนั้นน่ะ มันเจ๋งดีนะ! นายลองมามองด้วยกันมั้ยล่ะ?”
อะ อีตาโครงกระดูกบ้านั่น จงใจแกล้งฉันรึเปล่าเนี่ย!!
“ไม่!
ฉันไม่มีเวลามาทำอะไรไร้สาระแบบนั้นหรอกนะ”
“ฮ่า จริงเหรอออ”
“ใช่สิ! ถ้าเกิดมีมนุษย์ผ่านมาตรงนี้ล่ะ
ฉันน่ะต้องพร้อมตลอดเวลา!!”
“อู้ว ฟังดูดีจังนะ”
“ฉันจะต้องเป็นที่หนึ่ง ฉันจะต้องจับมนุษย์!”
“งั้นก็ไปจับซะสิ”
“และฉัน! ท่านพาไพรัสผู้ยิ่งใหญ่
จะได้ทุกอย่างที่ฉันต้องการ อุวะฮ่าๆ!!”
“อ๋อเหรอ”
ทำไมยิ่งฟังฉันยิ่งรู้สึกว่าแซนส์กำลังกวนประสาทยังไงก็ไม่รู้แฮะ
-_-^
“ทั้งความน่าเกรงขาม ชื่อเสียง!
และฉันก็จะถูกแต่งตั้งเป็นราชองรักษ์”
“หวังลมๆ แล้งๆ น่า”
“ทุกคนจะมาขอเป็นเพื่อนกับฉัน!
และฉันจะรอบล้อมไปด้วยหมู่เพื่อนและมีจูบอรุณสวัสดิ์ในทุกๆ เช้าเลยล่ะ!!!”
“หื้ม? ฉันว่าก้อนหินนั่นอาจจะช่วยนายได้นะ”
แซนส์ว่าและนั่นทำให้ฉันขนลุกซู่!
เดี๋ยวแซนส์! นายคิดจะทำอะไรน่ะ!! ฉันคิดแล้วแนบแผ่นหลังติดกับก้อนหินเย็นเฉียบก้อนนั้นและเงี่ยหูฟังต่อไปอย่างเงียบๆ
“แซนส์! นายไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย
ไอ้ขี้เกียจกระดูเป็นเกลียววว!!”
“งั้นเหรอออ”
“นายก็เอาแต่นั่งแล้วทำตัวให้เสียเวลา
นายขี้เกียจมากขึ้นทุกวันแล้วนะ!!”
“เฮ้! ใจเย็นน่า
นายไม่รู้เหรอว่าฉันทำงานเป็นตันเลยนะวันนี้น่ะ!”
“...”
“เป็น Skele-ton!”
WTF! มะ มุกนั่น? เขาเอาอะไรมาคิดมุกบ้าๆ พรรคนั้นกันน่ะ! ฉันจะไม่แปลกใจเลยถ้าคนฟังจะรู้สึกโมโหหลังจากที่เขาเล่นมุกประสาทแตกนั่น
ถึงฉันจะได้แต่แอบขำอยู่หลังหินนี่ก็เถอะ!!
“แซนนนนส์!!!”
“โว้ววว ใจเย็นนนน นายยิ้มอยู่นะเห็นป่ะ!”
“เออ ฉันยิ้มแต่ฉันก็เกลียดมันโคตรๆ เลย! ชิ
ทำไมคนที่ยิ่งใหญ่อย่างฉันจะต้องมาเสียเวลากับนายด้วยเนี่ย...”
“ว้าว
ดูเหมือนว่านายจะจริงจังในการทำงานของนายมาก...”
“...”
“จนมันลงไปถึงกระดูกเลยนะเนี่ยย!!!”
WTFFF!!!
ฉันล่ะอยากกรีดร้องออกไปให้ดังๆ ซะเหลือเกินนน TOT มุกนั่นมัน... อ๊ากกกก!
“โอ๊ย! ฉันจะไปดูปริศนาของฉัน! ส่วนงานของนาย นายก็เอากระดูสันหลังไปทำก็แล้วกัน!!!”
“อุ๊บส์”
“ชิ!”
ฉันชะโงกหน้าออกไปอีกครั้งและพบว่าพาไพรัสเดินออกไปแล้ว
-_-; ฉันแอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ไม่ได้ถูกพาไพรัสจับตัวไป และฉันสามารถบอกได้เลยว่าถ้าฉันเป็นพาไพรัสฉันจะไม่ทนยืนฟังมุกบ้าๆ บอๆ ของแซนส์จนถึงเมื่อกี้หรอก! รับประกันได้เลย!!
“เอาล่ะ ออกมาได้แล้ว”
ฉันลุกขึ้นแล้วเดินออกจากที่ซ่อนไปหาแซนส์ที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ไม่ไกล
เขาหันหน้ามายิ้มให้ฉันซึ่งเมื่อฉันมองแล้วมันให้ความรู้สึกน่าหมั่นไส้เป็นบ้าเลย -_-^
“เธอควรจะไปได้แล้วนะก่อนที่พาไพรัสจะกลับมา
และถ้าเขากลับมาเธอจะต้องทนฟังมุกตลกของฉันไปอีกยาวเลยล่ะ ฮ่าๆ”
แซนส์ว่าแล้วยกมือขึ้นมายีหัวฉันเบาๆ
จนทำให้ทรงผมทีฟูอยู่แล้วฟูขึ้นไปอีก ฉันสะบัดหัวให้ออกจากการกระทำนั่นอย่างหงุดหงิดแล้วหันหลังเตรียมจะเดินออกไปให้ไวที่สุดก่อนที่จะได้ฟังมุกงี่เง่านั่นของเขาต่อ -_-;
“เฮ้! เอ่อ...
ถ้ามันไม่ได้เป็นการรบกวนเธอ ช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม?”
“...”
“ฉันน่ะคิดมาตลอดว่าน้องชายฉันนะเป็นคนแบบค่อนข้างเจ้าอารมณ์
และเขาก็ไม่เคยเห็นมนุษย์มาก่อน”
“...”
“บางทีการได้เจอกับเธออาจจะทำให้เขาดูสดใสขึ้นก็ได้นะ
แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะเขาไม่ใช่คนอันตรายอะไรหรอก”
“...”
“ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามทำตัวให้อันตรายก็ตาม”
ก็นั่นแหละที่น่าห่วง -_-; ฉันคิดแล้วหันหน้ากลับไปมองหน้าแซนส์นิดหน่อย เขากำลังยกมือขึ้นมาเกาคางสีหน้าเหมือนกำลังลำบากใจ
“อืม... ก็คงได้มั้ง”
บางทีเขาอาจจะไม่ได้อันตรายอย่างที่ฉันคิดก็ได้นะ
“ขอบใจมากนะ”
“...”
“ฉันจะคอยดูแลเธอเอง เด็กน้อย”
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น