ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #20 : บทที่ 19 : ปากบอน (Re.03)

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ค. 64


    TB

    UP : 12/08/60

    Re-write : 22/08/60

    Re-write 2 : 25/09/61

    Re-write 3 : 13/07/64

    บทที่ 19 : ปากบอน

     

    เฮเลนกลับเข้าไปในห้องต้องประสงค์ คำพูดที่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์พูดยังคงทำให้เด็กสาวค้างคาใจ ทุกคนในห้องยังคงตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมคาถาผู้พิทักษ์อยู่เช่นเดิม วันนี้หลายคนเริ่มมีผู้พิทักษ์ของตัวเองเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เฮเลนรู้สึกสนุกเมื่อเห็นว่าผู้พิทักษ์กำลังกระโดดไปกระโดดมาภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี้

    “ว้าวน่ารักมาเลยลูน่า” กระต่ายป่าสีขาวที่เกิดจากคาถาผู้พิทักษ์กระโดดไปมารอบห้องราวกับว่ามันกำลังวิ่งเล่นในทุ่งกว้าง เด็กสาวผิวซีดยิ้มกว้างและปล่อยให้ผู้พิทักษ์ของเธอวิ่งเล่นไปพร้อมกับของคนอื่น เฮเลนมองไปยังลาเวนเดอร์ที่กำลังยิงกลุ่มควันสีขาวออกมาจากไม้กายสิทธิ์ด้วยใบหน้าไม่ปลื้มใจนัก

    “แต่ฉันยังทำไม่ได้เลย!” เธอบ่นอย่างหงุดหงิดแต่สายตายังคงเหล่มองไปทางรอนที่ยืนคุยกับเฮอร์ไมโอนี่อยู่

    เนวิลล์มีปัญหาด้วยเช่นกัน ใบหน้าของเขาดูบูดเบี้ยวจากการตั้งสมาธิอย่างหนัก แต่มันก็ยังมีเพียงแค่ควันสีเงินบางเบาลอยฉุยออกจากปลายไม้กายสิทธิ์ของเขา เฮเลนเดินไปตบบ่าเขาเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ เขาส่ายหน้าและพยายามเสกคาถาต่อ เฮเลนมองไปยังทุกคนที่ตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมพลางยิ้มกว้าง -- มันมีความสุขขนาดนี้เชียวหรือเมื่อได้อยู่กับเพื่อนๆ มากมาย

    ตึง!

    แต่อยู่ๆ กำแพงก็สั่นสะเทือน พื้นห้องและบริเวณโดยรอบสั่นไปหมดราวกับโดนอะไรแข็งๆ ทุบอย่างแรง แม้กระทั่งโคมไฟระย้าที่ห้อยอยู่เหนือหัวก็ยังสั่นคลอนราวกับจะร่วงลงมา เฮเลนหันหาต้นเสียงรอบห้องและพบว่ากำแพงในจุดที่เธอเพิ่งเข้ามาเมื่อสักครู่นั่นเองเป็นต้นเหตุของการสั่นสะเทือนของห้องนี้ ทุกคนหยุดร่ายคาถาและเดินเข้ามารวมกัน

    เด็กสาวเรือนผมสีน้ำตาลไหม้เดินไปยังกำแพงนั้นด้วยความกล้าๆ กลัวๆ โดยมีคอลินกับเดนิสเดินตามหลังเธอมา กำแพงนั้นกำลังสั่นราวกับว่ามีใครบางคนใช้ค้อนใหญ่ยักษ์ทุบเข้าอย่างแรง มันแรงขึ้นแรงขึ้นจนในที่สุดกระจกที่ถูกติดเอาไว้บนกำแพงก็แตกออกและตกลงมาบนพื้นห้อง เด็กสาวไล่เดนิสและคอลินให้ไปรวมกับพวกคนอื่นๆ ข้างหลังเธอ เฮเลนสอดสายตามองผ่านร่องของกำแพงอิฐออกไปทางด้านนอกอย่างช้าๆ...

    “ต้องรีบกำจัดให้สิ้นซาก” เสียงแหลมลอดผ่านกำแพงเข้ามา เด็กสาวผงะรีบถอยหลังออกห่างกำแพงในทันที!

    "หลบไป!" เฮเลนตะโกนเสียงดังและดึงตัวคอลินกับเดนิสกระโจนออกห่างจากกำแพงทันที

    บอมบ์บาด้า แม็กซิม่า!” จบประโยคนั้นกำแพงก็ถูกระเบิดออกด้วยฝีมือของโดโรเรส อัมบริดจ์ ทุกคนในห้องมองไปยังผู้ที่กำลังก้าวเท้าเดินเข้ามาในห้องนี้พร้อมกับกรรมการสอบสวนของหล่อน เฮเลนหรี่ตามองแท็คที่เข้ามาในห้องด้วยใบหน้าสะใจ

    “เธอนี่เอง... เยี่ยมเลยคุณแม็คมาเวลล์” อัมบริดจ์ยิ้ม “เอาตัวไปเดี๋ยวนี้!

    เฮเลนไม่เคยเห็นอัมบริดจ์มีความสุขขนาดนี้มาก่อน หล่อนจับแขนเธอเอาไว้แน่นเหมือนกับเครื่องยึดและหันไปยิ้มกว้างให้กับแท็คในขณะที่เด็กหลายคนในห้องพากันวิ่งกระจายออกไปโดยมีพวกสลิธีรินหลายคนวิ่งตามพวกเขาอยู่ เฮเลนสะบัดแขนแรงๆ หลายครั้งแต่ดูท่าว่าจะไม่เป็นผลที่จะต่อต้านอัมบริดจ์

    “รีบไปเร็วดูซิว่าพวกเธอจะจับพวกนี้ได้อีกกี่คน!” หล่อนพูด “ตรวจสอบในห้องสมุดแล้วให้คุณพาร์กินสันไปตรวจสอบห้องน้ำหญิง ไปสิ! อัมบริดจ์ว่าแล้วหันกลับมาหาเฮเลนอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่หล่อนจะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอันตรายที่สุดที่เคยได้ยินมา “เธอจะต้องไปห้องทำงานอาจารย์ใหญ่กับฉัน พอตเตอร์!

    เมื่อมาถึงหน้าตุ๊กตาหินสัตว์ประหลาด เฮเลนสงสัยว่าจะมีคนอื่นถูกจับไปได้อีกกี่คนและจะรู้สึกยังไง รอนคงถูกนางวีสลีย์ฆ่าแน่ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่จะร้องไห้หนักขนาดไหนถ้าถูกไล่ออกก่อนจะได้สอบ ว.พ.ร.ส. แถมยังเป็นการประชุมครั้งแรกของไนเจลเพื่อนของเดนิสด้วย ทุกคนก็ทำได้ดีมากๆ แล้ววันนี้...

    แต่แล้วยัยบ้านี่ก็มาขัดขวางเราเอาไว้!

    อัมบริดจ์พาเธอขึ้นบันไดหินเลื่อนไปจนถึงประตูเดิมที่เฮเลนเคยมาพร้อมแฮร์รี่ครั้งที่แล้ว หล่อนไม่สนใจเคาะประตู เธอก้าวฉับๆ เขาไปข้างในโดยที่มือนั้นยังบีบแขนเฮเลนเอาไว้แน่นจนเด็กสาวเริ่มรู้สึกปวด

    “จับตาดูเป็นอาทิตย์แล้วเห็นไหม!

    อัมบริดจ์พูดด้วยเสียงที่แหลมแสบหูมากขึ้นกว่าเดิม เธอเรียกนายกรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์อย่างคอร์นีเลียส ฟัดจ์มาพร้อมกับผู้ติดตามอีกสองคนของเขาด้วย คิงสลีย์มองมายังเฮเลนด้วยสายตาตำหนิ เขายืนคู่อยู่กับพ่อมดหน้า เหี้ยม ผมสั้นที่เฮเลนไม่รู้จักและเพอร์ซี่ วีสลีย์ยืนถือปากกาขนนกกับกระดาษม้วนใหญ่อยู่ในมือพร้อมจดโน้ต

    ภาพเหมือนของอดีตอาจารย์ใหญ่ทั้งชายและหญิงไม่ได้แกล้งทำเป็นนอนหลับเลยในคืนนี้ ทุกคนต่างตื่นตัวและดูเคร่งเครียด พยายามจับตาดูสิ่งที่เกิดขึ้นและน่าแปลกที่ภายในห้องนั้นมีเพียงศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เพียงคนเดียวที่อยู่ที่นั่น ทั้งที่เมื่อสักครู่เขาเพิ่งเรียกแฮร์รี่กับเดรโกไปพบ เป็นเรื่องที่เฮเลนค่อนข้างแปลกใจเลยทีเดียว

    “มันพิสูจน์ถึงสิ่งที่ฉันพยายามบอกคุณมาตั้งแต่แรก คอร์นีเลียส!” อัมบริดจ์พูดด้วยเสียงแหลมสูงแสบหูที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา

    เด็กสาวสะบัดแขนออกจากการจับกุมของอัมบริดจ์อย่างหงุดหงิดเมื่อประตูเหวี่ยงปิดด้านหลังพวกเขา คอร์นีเลียส ฟัดจ์จ้องมายังร่างบางเขม็ง ความพอใจอย่างมุ่งร้ายปรากฏบนใบหน้า

    “เรื่องความกลัวต่อคนที่คุณรู้ว่าใครไม่เคยตบตาเราได้สำเร็จ!" อัมบริดจ์ยังคงไม่หยุดเปิดปากพูด ใจเฮเลนอยากจะสาปเธอด้วยคําสาปปีศาจค้างคาวนัก "เราเห็นถึงความโป้ปดมดเท็จที่ใช้ซ่อนเร้นถึงแผนการที่จะเข้ายึดครองกระทรวง!!

    ดัมเบิลดอร์พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เขาไม่พูดอะไร เฮเลนยกมือขึ้นกอดอกพร้อมกับโทสะที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาในใจมากขึ้น

    “ดีล่ะ... พอตเตอร์ ฉันคิดว่าเธอคงรู้ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่” ฟัดจ์เอ่ยถาม

    เฮเลนไม่พูดอะไรกับเขาทั้งสิ้น เธอเหล่ตามองฟัดจ์ด้วยหางตาอย่างเบื่อหน่าย

    “เธอรู้น่ะสิว่าเธอทำผิดกฎโรงเรียน” ฟัดจ์พูดอีกครั้ง “และมันเป็นกฎของกระทรวง”

    “ไม่รู้สิคะ!" เฮเลนยักไหล่ เอ่ยปากตอบด้วยเสียงสูงเหมือนกับอัมบริดจ์ "หนูไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ากระทรวงมีสิทธิ์เข้ามาควบคุมภายในโรงเรียนด้วย”

    เฮเลนถากถาง เหล่ารูปภาพอาจารย์ใหญ่หัวเราะกันคิกคัก หน้าฟัดจ์เปลี่ยนสีเป็นสีม่วงเข้ม เฮเลนกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพอใจโดยมีอัมบริดจ์ทำท่าเหมือนอยากจะบีบคอเธออยู่ข้างๆ

    “นี่แบบนี้เธอก็เป็นหัวโจกตั้งกองนักเรียนแบบผิดกฎหมายที่ถูกค้นเจอน่ะสิ!!

    เสียงของฟัดจ์สั่นเครือด้วยความโกรธ เฮเลนยังคงใจเย็นเฉียบยักไหล่พลางทำสีหน้าบริสุทธิ์และไร้เดียงสาอย่างเต็มที่ เธอระบายความโกรธออกไปด้วยการเสแสร้งกวนประสาทฟัดจ์ในโทสะพวกนั้นระเบิดอยู่ในตัวเขา ดูเหมือนว่าฟัดจ์และอัมบริดจ์จะไม่พอใจนัก เด็กสาวเหลือบไปเห็นคิงสลีย์ยกมือกุมหน้าผากท่าทางหนักใจแต่ก็แอบอมยิ้ม

    “ท่านรัฐมนตรีคะ” อัมบริดจ์พูดเสียงนุ่มนวล “ฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่านี้ถ้าเกิดฉันพาตัวคนให้ข่าวมา”

    “ดีพามาเลย” ฟัดจ์ตอบ พยักหน้าและชำเลืองมองไปทางดัมเบิลดอร์ “ไม่มีอะไรดีไปกว่าพยาน จริงไหมดัมเบิลดอร์”

    “ใช่ ไม่มีเลยคอร์นีเลียส” ดัมเบิลดอร์พูดเสียงเรียบ ดวงตาไม่มองมาทางเฮเลนแม้แต่น้อย 

    ไม่นานนักเด็กสาวก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก อัมบริดจ์จับบ่ามารีแอตต้าเพื่อนผมหยิกหยอยของโชมาด้วย สองมือของเธอกุมใบหน้าเอาไว้เหมือนกับกลัวอะไรบางอย่าง

    “อย่ากลัวไปเลยหนู นี่เป็นเรื่องดีเลยนะ เธอทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ท่านรัฐมนตรีพอใจมากเลยจ้ะ ท่านจะไปเล่าให้คุณแม่ของเธอฟังว่าเธอเป็นเด็กดีมากๆ” อัมบริดจ์พูดอย่างอ่อนโยน “มาดามเอจคอมป์จากกองการขนส่งเครื่อข่ายฟลูคงจะดีใจอย่างแน่นอน”

    “ดีดีจริงๆ เลย!!” ฟัดจ์กล่าวอย่างร่าเริง “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นใช่ไหมล่ะ ดีมาก มานี่เถอะแม่หนูไม่ต้องอาย”

    ฟัดจ์เอื้อมมือไปดึงมือของมารีแอตต้าออกแต่เธอยื้อไว้ เฮเลนหันไปจ้องใบหน้าของมารีแอตต้าด้วยสายตาไม่พอใจเต็มที่ เธอไม่คิดว่าคนที่เข้ามาร่วมทัพพร้อมกับโชจะเป็นคนที่เผยเรื่องของพวกเขาให้กับอัมบริดจ์ เฮเลนนึกถึงเรื่องคำสาปที่เฮอร์ไมโอนี่เคยพูดเอาไว้เกี่ยวกับคนที่ลงชื่อในกระดาษใบนั้น เธออยากจะรู้นักว่าผลลัพธ์มันจะทำให้มารีแอตต้าต้องเสียใจแบบไหน!

    “กางเกงในเมอร์ลิน!” ฟัดจ์อุทานหลังจากที่มารีแอตต้าเงยหน้าขึ้นจากฝ่ามือ เขากระโดดโหยงถอยหลังไปด้วยความตกใจเกือบจะล้มลงไปในเตาผิง มารีแอตต้าร้องโหยหวนแล้วดึงคอเสื้อคลุมขึ้นไปปิดจนถึงลูกตา หลังจากที่ทุกคนในห้องได้เห็นว่าใบหน้าของเธอเสียโฉมด้วยตุ่มหนองสีม่วงแดงขึ้นติดๆ กันกระจายอยู่เต็มใบหน้าแผ่ข้ามจมูกและแก้มเรียงเป็นคำที่สวยงามว่า...

    ปากบอน

    เฮเลนยกยิ้มมุมปากนิดหน่อยพยายามกลั้นหัวเราะที่แทบจะหลุดออกมาทันทีที่ได้เห็น มารีแอตต้าหันมาจ้องหน้าเธอเขม็งแต่เฮเลนก็ไม่ได้สนใจ ยืนยิ้มอย่างสะใจอยู่ตรงนั้นในใจพลางนึกขอบคุณเฮอร์ไมโอนี่สำหรับคำสาปที่แสนสาสม เธอยักไหล่ใส่มารีแอตต้าและยกมือขึ้นกอดอกเล็กน้อยพร้อมกับเหล่มองเธอด้วยหางตาอย่างดูถูก

    “อย่าห่วงเรื่องสิวเลยตอนนี้หนู” อัมบริดจ์พูดอยู่อย่างหงุดหงิด “แค่เอาเสื้อคลุมออกไปให้พ้นปากแล้วบอกท่านรัฐมนตรี..." 

    มารีแอตต้าทำเสียงอู้อี้และสั่นหัวแรงๆ อย่างบ้าคลั่ง

    “โธ่เอ๊ยฉันเล่าเองก็ได้” อัมบริดจ์ตวาด เธอระบายยิ้มน่าคลื่นไส้ออกมาอีกครั้ง “อย่างนี้ค่ะท่านรัฐมนตรี คุณเอจคอมป์มาที่ห้องทำงานของฉันหลังอาหารเย็นแล้วบอกฉันว่าเธอมีเรื่องที่ต้องการจะบอก เธอบอกว่าถ้าฉันขึ้นไปบนชั้นเจ็ด จะเจอกับห้องลับที่มีชื่อว่าห้องต้องประสงค์และมันจะมีประโยชน์กับฉันมาก ฉันถามเธอต่ออีกนิดหน่อย แล้วเธอก็ยอมรับว่ามีการพบปะประชุมกันที่นั่น แต่โชคร้ายเมื่อถึงตอนนั้นคำสาปก็เกิดออกฤทธิ์ขึ้นมา...”

    อัมบริดจ์เหล่มองมารีแอตต้าอย่างรำคาญใจ เฮเลนแอบคิดว่าถ้าไม่มีคำสาป มารีแอตต้าคงได้ประชันริมฝีปากกับเธออย่างแน่นอน

    “เอาล่ะ” ฟัดจ์กล่าวขึ้น จ้องไปยังใบหน้าของมารีแอตต้า “นี่เป็นความกล้าหาญของหนูนะ ที่มาบอกศาสตราจารย์อัมบริดจ์ หนูทำถูกต้องที่สุดแล้ว อย่างน้อยตอนนี้หนูช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าพวกเขาประชุมกันเรื่องอะไร มีจุดประสงค์แบบไหนแล้วใครอยู่ที่นั่นบ้าง”

    มารีแอตต้าไม่ยอมพูด เธอสั่นหัวอีกครั้งด้วยความหวาดกลัว

    “นี่เราไม่มีคาถาแก้คำสาปนี้รึไงนะ” ฟัดจ์บอกอัมบริดจ์ “เขาจะได้พูดได้คล่องๆ”

    “จุดประสงค์ของพอตเตอร์ที่ไปพบนักเรียนเหล่านั้นที่ร้านหัวหมู ก็คือจะเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาร่วมสมาคมผิดกฎหมาย" อัมบริดจ์หรี่ตามองเฮเลน "ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือการเรียนคาถาและคำสาปที่กระทรวงตัดสินแล้วว่าไม่เหมาะกับเด็กวัยเรียน” 

    “ผมคิดว่ามีอะไรผิดพลาดนะโดโรเรส” ดัมเบิลดอร์พูดเบาๆ เฮเลนจ้องมองไปยังเขา เธอไม่เห็นว่าดัมเบิลดอร์จะพูดแก้ต่างให้เธอหลุดจากเรื่องนี้ไปได้อย่างไร ถ้าเกิดอัมบริดจ์รู้เรื่องมากขนาดนี้ก็คงไม่มีทางหนีรอดได้เลย

    “โอ้โห!” ฟัดจ์ร้อง “ใช่แล้ว มาฟังกันทีซิว่าเรื่องโกหกเอาตัวรอดล่าสุดที่แต่งเพื่อฉุดเด็กแฝดพอตเตอร์ออกจากหล่มเอาเลยสิพูดเลยดัมเบิลดอร์ ที่ร้านหัวหมูวันนั้นคงจะเป็นเด็กคนอื่นที่เหมือนกับเด็กสองคนนี้หรือว่ามีคำอธิบายที่แสนธรรมดาอย่างเรื่องย้อนเวลา คนตายแล้วฟื้น แล้วก็ผู้คุมวิญญาณที่ไม่เคยมีใครเห็น!

    เพอร์ซี่ วีสลีย์หัวเราะชอบใจ เฮเลนหันไปมองเขาตาขวางเธออยากรู้เสียจริงๆ ว่าเขาลืมไปแล้วรึไงที่เขาเคยมาโรงเรียนนี้และศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์คุ้มกะลาหัวอยู่ตอนเขาเรียน เธอล่ะอยากจะสาปเขาให้เหมือนมารีแอตต้าเสียเหลือเกิน!

    แต่ด้วยความประหลาดใจ เด็กสาวเห็นดัมเบิลดอร์ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับฟัดจ์

    “ผมไม่ปฏิเสธหรอก และผมมั่นใจด้วยว่าเฮเลนคงไม่ปฏิเสธด้วยเหมือนกันว่าเธออยู่ที่นั่นวันนั้น" เขายิ้มและมองมาทางเฮเลนด้วยสายตาอ่อนโยน เธอลดแขนลงอย่างอึ้งๆ "และก็คงไม่ปฏิเสธหรอกว่าได้พยายามหานักเรียนมาเข้ากลุ่มป้องกันตัวจากศาสตร์มืด แต่ผมเพียงจะบอกโดโรเรสว่ากฤษฎีกาของกระทรวงยังไม่มีผลบังคับใช้ในตอนที่พวกเขาไปประชุมที่ฮอกส์มี้ด ดังนั้นการที่เธออยู่ในร้านหัวหมูจึงไม่ใช่เรื่องผิดอะไร”

    เพอร์ซี่ทำท่าเหมือนถูกแส้ฟาดหน้า ฟัดจ์อ้าปากค้าง

    “จะพูดอย่างนั้นก็ถูกค่ะอาจารย์ใหญ่” อัมบริดจ์ตอบ “แต่ตอนนี้ผ่านมาหกเดือนแล้วนับตั้งแต่กฤษฎีกาฉบับนั้นออกมาใช้ แม้การพบกันครั้งแรกจะไม่ผิดกฎ แต่การพบกันครั้งต่อมาทั้งหมดนั้นผิดกฏหมายแน่นอน!!

    “อ้า...” ดัมเบิลดอร์เอ่ย มองเธอด้วยความสุภาพ “แน่นอนการพบปะนั่นต้องผิดกฎหมาย แต่คุณมีหลักฐานอะไรไหมว่าการพบปะครั้งนั้นยังดำเนินต่อไป”

    “หลักฐานเหรอคะ?” อัมบริดจ์ทวนคำ “คุณไม่ได้ฟังเหรอคะ อาจารย์คิดว่าคุณเอจคอมป์มาอยู่ที่นี่ทำไม”

    “เธอบอกเรื่องการพบกันตั้งหกเดือนได้งั้นเหรอ” ดัมเบิลดอร์เลิกคิ้วถาม “ผมฟังแล้วรู้สึกว่าเธอแค่รายงานการนัดพบแค่คืนนี้นะ”

    “คุณเอจคอมป์” อัมบริดจ์หันไปหามารีแอตต้า “บอกเราหน่อยซิว่าการประชุมนี้จัดมานานแค่ไหนแล้ว แค่พยักหน้าหรือสั่นหัวก็พอจ้ะ พวกเขานัดเจอกันเป็นประจำในช่วงหกเดือนที่ผ่านมารึเปล่าจ้ะ?”

    ทุกคนต่างก็จ้องไปที่ใบหน้ามารีแอตต้า ตอนนี้ดวงตาของเธอดูว่างเปล่าพิกลแล้วตอนนั้นเองที่ทำให้เฮเลนประหลาดใจ มารีแอตต้าสั่นหัว อัมบริดจ์กับฟัดจ์มองหน้ากันทันที

    “ไม่มีการประชุดมลับตลอดหกเดือนที่ผ่านมาถูกต้องไหมคุณเอจคอมป์” ดัมเบิลดอร์ว่า

    มารีแอตต้าพยักหน้า

    “แต่มีการประชุมคืนนี้!” อัมบริดจ์พูดด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด “มีการประชุมกันในห้องต้องประสงค์คุณแม็คมาเวลล์ก็ไปกับฉัน เธอบอกกับพวกฉันเองนะคุณเอจคอมป์! -- ว่าสองพี่น้องพอตเตอร์เป็นหัวหน้า -- ไม่ใช่งั้นเหรอ”

    “ปกติถ้าคนเขาสั่นหัว ก็หมายความว่า ‘ไม่’ นะคะศาสตราจารย์” เฮเลนพูดเสียงเย็น

    “โดโรเรส” ฟัดจ์เอ่ยขึ้น ทำท่าเหมือนจะให้ทุกอย่างยุติลง “การประชุมคืนนี้ ที่เรารู้ว่ามันมีขึ้นแน่ๆ น่ะ”

    “ใช่ค่ะ” อัมบริดจ์ตอบ “คุณเอจคอมป์มาบอกแล้วฉันก็ขึ้นไปชั้นเจ็ดในทันที หลังจากระเบิดกำแพงแล้วพวกเขาก็วิ่งกระจายหนีไปทุกทิศทุกทางเลยค่ะ และเราก็ได้หลักฐานด้วย”

    เฮเลนสะดุ้งเฮือก เธอดึงรายชื่อที่ติดเอาไว้บนผนังห้องออกมาจากกระเป๋าส่งให้ฟัดจ์

    “ยอดมากโดโรเรส... แล้ว...” เขาพูดค้างไว้เงยหน้ามองดัมเบิลดอร์ “กองทัพดัมเบิลดอร์”

    “ถูกต้องแล้ว” ดัมเบิลดอร์ดูเหมือนช็อคไปครู่หนึ่ง “คุณต้องการให้ผมเขียนคำสารภาพด้วยไหมคอร์นีเลียส”

    “ไม่นะคะศาสตราจารย์เขาไม่รู้เรื่องนี้ ฉันต่างหาก!” เฮเลนขึ้นเสียงและหันไปทางอัมบริดจ์ คิงส์ลีย์ส่งสายตาแว้บหนึ่งมาให้เธอเป็นเชิงเตือน เธอไม่อาจปล่อยให้เรื่องต่อจากนี้เกิดขึ้นได้หลังจากที่พยายามอยู่ตั้งนาน! "ฉันเอง! ฉันเป็นคนคิดชื่อนั้นเอง -- อาจารย์ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ มันคือ --"

    “นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งนะเฮเลนที่ปกป้องฉัน แต่มันก็เห็นๆ อยู่แล้วว่าเป็นการลงชื่อเพื่อกองทัพดัมเบิลดอร์... ไม่ใช่พอตเตอร์” เด็กสาวเงียบเสียงลง ตามจริงควรจะเป็นแฮร์รี่มากกว่าที่จะต้องมายืนเถียงอัมบริดจ์อยู่ตรงนี้ แต่ว่าเขาไม่อยู่กลายเป็นเธอโดนจับมาเสียเอง แถมหายไปกับเดรโกสองคนอีกต่างหาก!! “ผมเป็นคนสั่งเฮเลนให้ก่อตั้งชมรมลับขึ้นมา และผมขอรับผิดชอบเรื่องนี้เพียงคนเดียว” 

    “วีสลีย์!” ฟัดจ์ร้องเรียก “วีสลีย์เธอเขียนลงไปหมดทุกอย่างรึเปล่า ทุกอย่างที่เขาพูดเมื่อกี้นี้!

    “ได้ครับ ผมคิดว่าได้หมดครับ!!” เพอร์ซี่ตอบอย่างกระตือรือร้น

    “ดีมากลอกโน้ตออกมาวีสลีย์ จัดนกฮูกให้ส่งข่าวไปที่เดลี่พรอเฟ็ต คิดว่าตอนนี้น่าจะลงข่าวเช้าได้ทัน” ฟัดจ์พูดพลางยัดรายชื่อนักเรียนทั้งหมดลงในกระเป๋าเสื้อคลุมของเขา “ดอว์ลิช ชักเคิลโบลต์ พวกคุณจะต้องเป็นคนพาดัมเบิลดอร์ -- ไปที่อัซคาบัน”

    “เพื่อรอฟังการพิจารณาคดีเรื่อง การวางแผนและการทรยศ” ฟัดจ์พูดย้ำคำ

    “อา... นึกอยู่แล้วว่าจะต้องเจอปัญหา” ดัมเบิลดอร์ว่าแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ “ดูเหมือนคุณกำลังหลงผิดและคิดว่าผมจะยอมไป -- ต้องพูดว่าอะไรนะ...”

    “อย่างเงียบๆ -- ใช่มั้ย?” อาจารย์ใหญ่พูดแล้วเหล่ตามมองมายังใบหน้าของเฮเลน เขาขยิบตาให้เธอเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “ผมไม่มีความตั้งใจจะไปอัซคาบัน”

    “พอกันสักทีเอาตัวเขาไป!!” อัมบริดจ์เหวเสียงสูง แต่ว่ายังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงร้องของฟอกซ์ นกฟินิกซ์ของดัมเบิลดอร์ก็ดังขึ้น มันโผบินลงจากแท่นที่มันเกาะอยู่มาหาดัมเบิลดอร์ก่อนที่อาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์จะยกมือขึ้นตีมือในจังหวะพอดีกับฟอกซ์โฉบลงมา บังเกิดเปลวเพลิงสีส้มสว่างจ้าระเบิดออกมา พลังของมันผลักทุกร่างให้กระเด็นออกจากตรงนั้นแม้กระทั่งเพอร์ซี่เองก็ยังหงายหลังล้มลงเช่นกัน เพียงวูบเดียวที่กระแสพลังเวทมนตร์ได้พัดมาร่างของดัมเบิลดอร์ก็หายไปพร้อมกับเปลวเพลิง

    คิงสลีย์ยันตัวลุกขึ้นจากพื้นได้เป็นคนแรก เขาปัดฝุ่นบนร่างกายออกก่อนจะดึงตัวรัฐมนตรีขึ้นมายืนข้างกัน

    “นี่... ผมรู้นะว่าคุณไม่ชอบหน้าเขา แต่ก็ยอมรับเถอะ”

    “...”

    “ดัมเบิลดอร์เป็นคนมีสไตล์”

     

     

    ต่อมาไม่นานโดโรเรส อัมบริดจ์ก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์ กฎอีกมากมายถูกตั้งขึ้นทำให้นักเรียนอยู่ในโรงเรียนนี้อย่างไม่มีความสุข 

    “ค่อยๆ คัดไปนะ...”

    เสียงแหลมๆ ของอัมบริดจ์ดังมาจากหน้าห้องโถง ฮ่า...ใช่ตอนนี้พวกเธอกำลังถูกอัมบริดจ์ลงโทษด้วยปากกาขนนกต้องคำสาป น่าหงุดหงิดชะมัดที่จะต้องมาเจออะไรแบบนี้ โชคดีของเดรโกที่เขาไม่เคยเขียนชื่อลงในกระดาษใบนั้นทำให้เขารอดจากการลงโทษนี้ไปอย่างหวุดหวิด เฮเลนเงยหน้ามองอัมบริดจ์ที่นั่งแท่นอาจารย์ใหญ่พลางจิบชามองดูพวกเราทรมานอย่างพึงพอใจ...

    “ขนาดดัมเบิลดอร์ยังไม่รู้ล่วงหน้าเลย” รอนร้องพลางจับมือที่เป็นแผลขึ้นมาดู

    “ถ้าจะมีคนผิดก็เรานั่นแหละ” เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าหงอยๆ หลังจากที่ถูกลงโทษ เฮเลนลูบรอยกรีดหลังฝ่ามือซ้ายเบาๆ และหวังว่ามันจะจางหายไปเร็วขึ้น ตอนนี้ทั้งสี่คนนั่งรวมกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นบ้านพร้อมกับคนอื่นๆ ในบ้านกริฟฟินดอร์ที่อยู่ในทัพดัมเบิลดอร์ พวกเขาดูหงุดหงิดกับรอยบนหลังมือนั่นมากจนขมวดคิ้วยุ่งกันแทบทุกคน โดยเฉพาะเฟร็ดกับจอร์จ สองคนนี้ต้องแอบวางแผนอะไรในหัวแล้วแน่ๆ

    “เราพยายามทำทุกอย่างแล้ว” แฮร์รี่พูดแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขากลอกตาไปมาอย่างหงุดหงิดใจ

    “ไม่มีใครหยุดยัยแก่นั่นได้เลยรึไงกัน” รอนบ่น

    “เอาเถอะ ตอนนี้ฉันต้องไปหาสเนปแล้ว ฝากทางนี้ด้วยแล้วกัน”

    แฮร์รี่พูดแล้วเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้อีกสามคนนั่งมองหน้ากันอย่างหมดอาลัยตายอยาก

    “งั้นฉันขอตัวขึ้นไปนอนก่อนล่ะ”

    รอนพูดและลุกขึ้นเดินออกไปอีกคน ตอนนี้เฮเลนไม่รู้ว่าอะไรจะแย่ลงไปกว่านี้อีกไหมแต่ว่าถ้าเกิดว่าเธอไม่รีบหาทางทำอะไรสักอย่างก่อนที่แฮร์รี่จะออกไปตามหาลูกแก้วพยากรณ์ล่ะก็ -- แต่มันดีแล้วจริงๆ เหรอ? ทุกอย่างมันผิดเพี้ยนไปหมดจากเรื่องราวที่เธอเคยได้รับรู้มา ต่อจากนี้เดรโกจะเปลี่ยนไปเพราะว่าพ่อของเขาถูกจับเข้าคุกอัซคาบัน แล้วเขาจะเปลี่ยนไปอยู่กับผู้เสพความตายโดยสมบูรณ์ ถ้าหากเฮเลนห้ามแฮร์รี่ไม่ให้ไปหาลูกแก้วนั่น เขาก็จะไม่ยอมอยู่ดีเพราะโวลเดอมอร์บังคับให้เขาเห็นภาพลวงตานั่น แล้วเธอควรจะทำอย่างไรดี?

    คืนนั้นทั้งคืนเฮเลนไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คิดเรื่องนี้จนนอนไม่หลับ แฮร์รี่เองหลังจากกลับมาจากไปหาสเนปเขาก็มีท่าทีแปลกๆ จนคุยกันไม่รู้เรื่อง

    “ขั้นตอนที่หนึ่งกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วนะ” เช้าวันถัดมาเฟร็ดกระโจนลงมาจากหอนอนและพูดขึ้น เขาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือนิดหน่อย “ถ้าฉันเป็นพวกเธอฉันจะรีบเข้าไปในห้องโถงเพื่อกินอาหารเช้านะ แบบนี้พวกอาจารย์ก็จะไม่คิดว่าเธอเกี่ยวข้องกับพวกมันด้วย”

    ทั้งสี่คนมองหน้ากันอย่างงงงวยในขณะที่กำลังจะเดินออกไปทานอาหารเช้า

    “เกี่ยวกับอะไรล่ะ?” เฮอร์ไมโอนี่หันไปถาม

    “เดี๋ยวเธอก็เห็น!” จอร์จตอบ “ไปก่อนล่ะ”

    เฟร็ดกับจอร์จว่าแล้ววิ่งออกจากห้องนั่งเล่นไปก่อนใครเพื่อน เฮเลนมองตามทั้งสองคนไปอย่างกังวลใจก่อนที่แฮร์รี่จะเดินนำพวกเราเข้าไปที่ห้องโถง แต่ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปเสียงระเบิดก็ดังขึ้นมาเสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับเด็กนักเรียนหลายคนที่วิ่งกระจายออกมาจากห้องโถง

    เฟร็ดกำลังจุดดอกไม้ไฟเวทมนตร์บนหีบขนาดมหึมากลางห้องโถง บรรดามังกรที่ทั้งตัวประกอบด้วยประกายไฟหลากสีกำลังเหาะขึ้นมาในห้องโถงกว้าง วงล้อดอกไม้ไฟขนาดใหญ่สีชมพูดแสบตาหมุนหวืออย่างน่าหวาดเสียวอยู่กลางอากาศเหมือนจานบินหลายลำ จรวดทั้งหลายแหล่และพวกไฟเย็นกำลังเขียนคำหยาบคายลงบนกำแพง ประทัดระเบิดขึ้นมาหลายแห่งที่เฮเลนมองเห็นราวกับถูกปล่อยทุ่นกระจายเอาไว้ทั่ว แถมแทนที่มันจะเผาไหม้และหายไป แต่ดอกไม้เพลิงพวกนั้นกลับดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มพลังอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ

    “เร็วเข้า ฟิลช์ เร็วเข้า!” อัมบริดจ์กรีดร้องหลังจากที่วิ่งเข้ามาถึงจุดเกิดเหตุ “สตูเปฟาย!!

    เฮเลนได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นทุกหนทุกแห่งโดยเฉพาะจากแฮร์รี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ และที่ดังที่สุดคือออกมาจากปากของเธอเองเธอเห็นอัมบริดจ์และฟิลช์ร้องตะโกนลั่นพยายามกำจัดพวกดอกไม้ไฟและพยายามกลั้นไม่ให้เสียงหัวเราะด้วยความสะใจของตัวเองดังจนเกินไปนัก

    ดอกไม้ไฟยังคงลุกไหม้และกระจายไปทั่วโรงเรียนตลอดจนถึงช่วงบ่าย มันก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมายโดยเฉพาะกับพวกประทัดแต่ดูเหมือนอาจารย์คนอื่นๆ จะชอบอกชอบใจพวกมันซะมากกว่าแต่พวกเขาแค่ไม่ได้แสดงออกให้อัมบริดจ์เห็น

    ในที่สุดเวลาก็ผ่านไปจนถึงช่วงเลิกเรียน ทั้งสี่คนกลับมาอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมอีกครั้งพร้อมกับการบ้านกองเท่าภูเขา ในห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยหัวข้อสนทนาเรื่องดอกไม้ไฟและอัมบริดจ์พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก

    “นี่ รู้ไหมตอนที่ฉันไปเข้าห้องน้ำตอนบ่ายฉันเจออะไร” แฮร์รี่พูดขึ้นหลังจากนั่งลงบนโซฟา

    “โชล่ะสิ” เฮเลนรีบพูด แฮร์รี่ยักไหล่ เธอพอจะเดาๆ ได้อยู่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่จะมานั่งแก้ตัวให้มารีแอตต้าหน้ายับนั่นก็มีแค่คนเดียวก็คือโช

    “เธอบอกฉันว่าไม่คิดว่ามารีแอตต้าจะเป็นคนบอก” เขาถอนใจ “โชบอกว่ามารีแอตต้าเป็นคนนิสัยดี เธอทำผิดแค่ครั้งเดียว...”

    “อะไรนะ!” เฮอร์ไมโอนี่เด้งตัวมองหน้าแฮร์รี่อย่างไม่อยากเชื่อ เฮเลนได้แต่ยักไหล่เบาๆ

    “เขาขายเราทั้งหมดเลยนะ รวมถึงเธอด้วย แถมจะอ้างไม่ได้ว่าแม่เขาทำงานที่กระทรวง!" รอนว่าพลางขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด "พ่อฉันก็ทำอยู่เหมือนกัน ดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันไม่ถูกแม่ฆ่าด้วย -- ยัยคนจอมปลอม!” 

    “ฉันก็บอกไปแล้ว” แฮร์รี่พูดต่อ เฮเลนไม่คิดว่าระหว่างเขากับโชจะจบดีนักหลังคุยกันเรื่องนี้ “โชบอกว่าเฮอร์ไมโอนี่ร้ายกาจที่ไม่ยอมบอกว่าร่ายคำสาปใส่ไว้”

    “แต่ฉันว่ามันยอดเลยนะ!” เฮเลนพูดตอบพลางส่งยิ้มไปให้เฮอร์ไมโอนี่อย่างภูมิใจ "ก็สมควรแล้วกับพวกที่ไม่ซื่อสัตย์"

    “ฉันรู้ว่าเธอจะต้องชอบ!" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างอารมณ์ดี "แต่จะว่าไปฉันทำไอ้นี่มาให้พวกเธอด้วย”

    เธอส่งตารางอะไรสักอย่างมาให้เฮเลน รอนและแฮร์รี่ เธอมองสิ่งที่อยู่ในมือและพบว่ามันเป็นตารางสำหรับอ่านหนังสือเตรียมสอบที่จะมีขึ้นในอีกหกสัปดาห์ข้างหน้า

    “ของเธอว่างหนึ่งวันสำหรับควิดดิชนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดและนั่นทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของรอนที่เพิ่งจะปรากฏเมื่อสักครู่ได้หายไปในพริบตา

    “มันจะมีประโยชน์อะไร” เขาว่า “เรามีโอกาสได้ถ้วยควิดดิชปีนี้พอๆ กับพ่อฉันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์นั่นแหละ”

    รอนบ่นกระปอดกระแปดในขณะที่เฮเลนนั่งถอนใจกับตารางเวลาและสิ่งที่ต้องทำในนั้น และในที่สุดเทศกาลอีสเตอร์ก็ผ่านไปพร้อมกับพวกนักเรียนปีห้าและปีเจ็ดที่ยังเหลืออยู่ (ย้ำว่าที่เหลืออยู่) ถูกกักเอาไว้ในห้องสมุด เธอนั่งอยู่ลำพังในห้องสมุดโดยมีสายตามาดามพินซ์จ้องมองมาอย่างจับผิด

    เฮเลนเหล่ตามองใบปลิวอีกใบที่แอบเอาไว้ในหน้าหนังสือ มันเป็นกระดาษสำหรับการแนะนำเรื่องอาชีพและให้ไปพบกับอาจารย์ประจำบ้าน แฮร์รี่ไปหาศาสตราจารย์มักกอนนากัลแล้วเมื่อกี้นี้ส่วนเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่ที่นี่ไปได้ถึงเมื่อไหร่ จริงๆ ก็แอบมองงานที่ฝ่ายมักเกิ้ลสัมพันธ์อยู่เหมือนกัน บางทีเธออาจจะทำได้ดีกว่าไปเป็นมือปราบมารเหมือนแฮร์รี่ แต่พอนึกถึงลุงเวอร์นอนแล้วเธอก็เริ่มไม่อยากจะเป็นซะแล้วสิ

    สรุปแล้วเฮเลนก็ไปพบศาสตราจารย์มักกอนนากัลและบอกเธอไปว่าอยากเป็นมือปราบมารเสียอย่างนั้นโอเค เธอยอมรับเลยว่าตื่นเต้นเกินไปที่จะต้องคุยถึงอนาคตที่ไม่ได้วางแผนไว้ แต่พอเธอเห็นหน้าอัมบริดจ์ที่เอาแต่ไอคอกแคกเหมือนรองเท้าติดคอมันก็ทำให้เธอสงบลงพร้อมกับความรู้สึกหงุดหงิด หล่อนบอกว่าเฮเลนไม่มีวันได้เป็นมือปราบมาร และแน่นอนว่าถ้าศาสตราจารย์มักกอนนากัลไม่ได้ส่งสายตาปรามเธอไว้ล่ะก็อัมบริดจ์อาจจะเจอการปะฉะดะเหมือนตอนที่เธอลากเฮเลนไปที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์วันนั้นก็ได้!

     

    ติดตามตอนต่อไป...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×