คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : บทที่ 17 : เดต... (เหรอ?) (Re.02)
UP : 09/08/60
Re-write : 21/08/60
Re-write 2 : 01/07/64
บทที่ 17 : เดต...
(เหรอ?)
“เห็นชัดๆ
เลยว่าอาจารย์คุยกันในห้องพักไม่ถนัดแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่บอกเสียงต่ำ เมื่อเธอ
แฮร์รี่และรอนเดินผ่านศาสตราจารย์มักกอนนากัล
ฟลิตวิกและสเปราต์ซึ่งเกาะกลุ่มกันอยู่หน้าชั้นเรียนวิชาคาถาหลังเลิกเรียนวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์
“ทำไมได้หรอกถ้าอัมบริดจ์อยู่ในห้อง”
“คิดว่าพวกอาจารย์รู้อะไรใหม่ๆ ไหม”
รอนว่าพลางเหลียวหลังไปมองอาจารย์ทั้งสาม
“ถ้าพวกเขารู้เราก็คงไม่ได้ยินหรอก
ใช่ไหมล่ะ” แฮร์รี่พูด “ไม่มีหลังจากกฤษฎีกา... ถึงฉบับไหนแล้วนะ?”
แฮร์รี่เลิกคิ้วขึ้นพลางเงยมองประกาศกฤษฎีกาจากกระทรวงเวทมนตร์ที่ติดอยู่เต็มผนังด้านบนของนาฬิกาทรายบรรจุคะแนนบ้านหน้าห้องโถง
เฮอร์ไมโอนี่กับรอนหลุดขำออกมาเบาๆ
- ด้วยคำสั่ง –
ของเจ้าพนักงานสอบสวนใหญ่ประจำฮอกวอตส์
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ห้ามอาจารย์ทั้งหลายให้ข้อมูลใดๆที่ไม่เกี่ยวข้อง
โดยตรงกับวิชาที่ตนได้รับจ้างมาให้สอนแก่นักเรียน
คำสั่งนี้เป็นไปตาม
กฤษฎีกาการศึกษาฉบับที่สามสิบ
กฤษฎีกาฉบับล่าสุดนี้เป็นหัวข้อเรื่องที่ตลกมากในหมู่นักเรียน
แฮร์รี่เคยเห็นลีพูดกับอัมบริดจ์ว่าตามเงื่อนไขของกฎใหม่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ดุว่าเฟร็ดและจอร์จเรื่องเล่นไพ่สแนประเบิดปังที่หลังห้องเรียนและหลังจากนั้นเวลาต่อมาหลังมือของเขาก็มีเลือดโชกเลยทีเดียว
เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่แนะนำเขาเรื่องน้ำยาเมิร์ตแลปเข้มข้นทามันเท่านั้น
แฮร์รี่คิดว่าการแหกคุกอัซคาบันครั้งนี้จะทำให้อัมบริดจ์เจียมตัวขึ้นมาบ้าง
เธอน่าจะตกใจกับเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นใต้จมูกของคอร์นีเลียส
ฟัดจ์สุดแสนที่รักยิ่งของเธอ ยังไงก็เถอะ
ดูเหมือนว่านั่นจะทำให้เธอเพิ่มความปรารถนาแรงกล้าที่จะบีบทุกชีวิตในฮอกวอตส์มาอยู่ภายใต้ความควบคุมของเธอ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็รู้ว่าเธอพยายามไล่อาจารย์บางคนออกไปในช่วงนี้และคำถามอยู่ที่จะเป็นศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ที่ถูกถามในทุกๆ
ชั่วโมงพยากรณ์ว่า ‘ช่วยพยากรณ์อะไรสักอย่างให้ฉันในวันพรุ่งนี้ได้ไหมคะ?’
หรือแฮกริดที่ถูกเหยียดหยามแทบจะในทุกชั่วโมงการสอนจนทำให้สอนได้ไม่ดีเท่าที่ควร
เวลานี้ในชั้นเรียนพยากรณ์ศาสตร์และการดูแลสัตว์วิเศษทุกๆ
ชั่วโมงต้องสอนโดยมีอัมบริดจ์และแผ่นคลิปบอร์ดของเธอปรากฏตัวอยู่ด้วย
เธอมักจะนั่งซุ่มอยู่แถวๆ
บริเวณมุมห้องเหมือนผีสิงกำแพงและขัดจังหวะการพูดของศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ที่พยายามจะคุยเรื่องพยากรณ์กับเฮเลนทำให้หล่อนเริ่มประสาทเสียขึ้นไปทุกวัน
ถ้าไม่ได้กลัวว่าแฮกริดเองก็จะถูกไล่ออก
เขาก็คงจะรู้สึกเสียใจแทนเฮเลนอยู่สักหน่อย
สำหรับพวกเขาแล้วดูเหมือนว่าอัมบริดจ์ค่อยๆ
ตัดรอนทุกสิ่งที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาที่ฮอกวอตส์น่าอยู่มากขึ้น
และเขาจะขอจัดการแก้แค้นด้วยสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้คือเพิ่มความพยายามอีกหลายเท่าในทัพดัมเบิลดอร์
“จะว่าไปเฮเลนหายไปไหนน่ะ”
รอนพูดขึ้นเมื่อเข้าไปในห้องโถง “หลังจากตอนนั้นก็หายไปเลยนะ”
จะว่าไปแฮร์รี่เองก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเฮเลนหายไป
ดวงตาสีเขียวหลังกรอบแว่นกวาดมองไปรอบห้องโถงเพื่อหาน้องสาวฝาแฝดที่หายตัวไปตั้งแต่เช้า
เฮอร์ไมโอนี่ร้องเรียกให้เขานั่งลงที่โต๊ะเมื่อเด็กสาวผมฟูเหลือบไปเห็นโต๊ะสลิธีรินที่ปราศจากเดรโก
มัลฟอย แฮร์รี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่
อยากจะดุยัยตัวแสบให้หลาบจำเสียทีว่าพวกเขาไม่ชอบที่เธอหายไปเลย
ในที่สุดเวลาเลิกเรียนก็มาถึงพร้อมกับทั้งสามที่เข้าไปในห้องต้องประสงค์อย่างเร่งรีบเพื่อยืนยันว่าเฮเลนอยู่กับเดรโกจริงตามที่เฮอร์ไมโอนี่บอกหรือเปล่า
และพบว่าคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่นั้นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย
“ที่แท้ก็มาอยู่ที่นี่เอง”
เด็กหนุ่มสวมแว่นกลมทำหน้าไม่พอใจนิดหน่อยเมื่อรู้ว่าน้องสาวตัวแสบโดดเรียนมาอยู่ในห้องต้องประสงค์กับเดรโก
เฮเลนได้แต่ยิ้มแหยๆ ให้กับแฮร์รี่
“เธอรู้ไหมว่าวันนี้ศาสตราจารย์บินส์ถามหาแต่เธอ
ฉันไม่รู้จะตอบเขาไปยังไงเลย”
เฮอร์ไมโอนี่กอดอกและทำท่าดุเฮเลน
รอนทำท่าไม่พอใจเท่าไหร่
ถึงเทอมที่แล้วการเรียนในห้องต้องประสงค์จะผ่านไปได้ด้วยดีแต่ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาและเดรโกก็ดูไม่ค่อยจะพัฒนาขึ้นนักยกเว้นแค่เฮเลนเพียงคนเดียว
“เพราะนายใช่ไหมมัลฟอย
เฮเลนถึงได้เป็นแบบนี้” รอนกล่าวหาพร้อมกับชักสีหน้าใส่
เดรโกยักไหล่และพยายามทำเป็นไม่ได้ยินที่เขาพูด
นั่นดูเหมือนจะทำให้เด็กหนุ่มผมแดงอารมณ์เสียไม่น้อยเลย
“เอาเถอะ ยังไงก็ปลอดภัยดี
ฉันว่าเรามาเริ่มต้นเรียนคาถากันดีกว่านะ”
แฮร์รี่ยกมือขึ้นปรามเพื่อนของตนก่อนจะหันหน้าไปอีกทางและรอให้ทุกคนในทัพดัมเบิลดอร์มากันให้ครบก่อน
รอนชักสีหน้าเล็กน้อย
แฮร์รี่รู้ว่ารอนและเฮอร์ไมโอนี่ค่อนข้างไม่พอใจที่เฮเลนโดดเรียนเพราะเดรโกแต่ว่าที่ผ่านมาเขารู้สึกได้ว่าเดรโกดูแลเฮเลนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ดังนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะต่อว่าเดรโกกับแค่การชวนน้องสาวสุดรักของเขาโดดเรียนมาอยู่ในห้องต้องประสงค์เพียงสองคนใช่ไหม?
ทำไมถึงรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้
แฮร์รี่คิดพลางรูดไม้กายสิทธิ์ในมือไปมา
เขาสะบัดหัวเป็นเชิงไล่ความคิดนอกเรื่องพวกนั้นออกไปให้พ้นจากสมอง
และวันนี้แฮร์รี่ก็รู้สึกพอใจมากที่เห็นว่าทุกคนแม้แต่แซคคาไรอัส
สมิทฝึกหนักกันยิ่งขึ้นเพราะข่าวที่มีผู้เสพความตายเป็นอิสระขึ้นมาแล้วกว่าสิบคนนั่น
เขาพยามปรายตามองไปยังเดรโกที่ฝึกอยู่กับเฮเลนเป็นระยะๆ และก็เป็นที่น่าพอใจว่าเฮเลนกำลังสอนเขาเป็นอย่างดี
แต่ไม่มีใครที่จะพัฒนาได้เห็นชัดเท่าเนวิลล์
ข่าวที่ว่าผู้ทำร้ายพ่อกับแม่ของเขาหนีรอดมาได้นั้นหล่อหลอมให้เขามีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ
ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย เนวิลล์แทบจะไม่พูดอะไรเลยด้วยซ้ำในระหว่างการฝึกอย่างทรหด
เขาพยายามตั้งสมาธิและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจกับอุบัติเหตุและการบาดเจ็บใดๆ เลย ส่วนการฝึกกับสเนปของแฮร์รี่
ยิ่งนับวันเหมือนมันจะยิ่งแย่ลง
“มันอาจจะเหมือนอาการไม่สบาย”
เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นหลังจากการฝึนวันนี้ผ่านไปด้วยดี
ตอนนี้พวกเขานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมหน้าเตาผิงที่ประจำพร้อมกับครุกแชงก์และพิดวิกเจียนกับเฮนรี่ที่บินเล่นกันอยู่เหนือศีรษะ
“ที่อาการจะทรุดลงก่อนแล้วถึงจะดีขึ้นน่ะเหรอ?”
เฮเลนว่า
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้านิดหน่อยก่อนจะส่งสมุดจดให้เฮเลนที่ขาดเรียนไปทั้งวันตั้งแต่เช้า
เด็กสาวมองดูสมุดเล่มหนาพลางทำหน้าเจื่อนๆ ราวกับว่าเธอไม่ควรขาดเลยไปเลยในวันนี้
เฮเลนมองครุกแชงก์บนตักที่กำลงขดตัวนอนเหมือนเคยด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“ยิ่งเรียนกับสเนปยิ่งแย่ลง” แฮร์รี่บ่น
“ฉันเบื่อจะตายอยู่แล้ว ที่แผลเป็นต้องเจ็บตลอดเวลา
แล้วฉันก็เบื่อเป็นบ้าที่ต้องเดินไปตามระเบียงงี่เง่านั่นทุกคืนด้วย”
เขายกมือขึ้นถูที่แผลเป็นอย่างโมโห
เฮเลนมองหน้าแฮร์รี่พลางนึกขึ้นมาได้ว่าเธอเองก็รู้สึกโกรธอยู่บ่อยๆ
เพียงแค่นึกถึงอะไรนิดๆ หน่อยๆ
แต่สิ่งที่ดีกว่าก็คือเด็กสาวไม่เคยฝันถึงประตูบานนั้นราวกับว่าโวลเดอมอร์ไม่เคยเข้ามายุ่มย่ามอะไรกับเธอเลย
“ฉันอยากให้ประตูนั่นเปิดสักที
ฉันเบื่อที่จะต้องยืนดูมันแล้ว” เขาพูดต่อ
“นี่ไม่ตลกเลยนะ”
เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเขียว
“ดัมเบิลดอร์ไม่ต้องการให้เธอเห็นเกี่ยวกับระเบียงนั่นอีก
ไม่งั้นเขาคงไม่ขอให้สเนปสอนเธอเรื่องการสกัดใจ ฉันคิดว่าเธอต้องฝึกนะแฮร์รี่”
“ฉันฝึก!" แฮร์รี่ตอบอย่างหงุดหงิด “เธอมาลองให้คนอื่นเข้าไปในหัวเธอดูบ้างไหมล่ะ
มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยจะบอกให้!”
พูดจบแฮร์รี่ก็ทำท่าฟึดฟัดเหมือนกับอยากจะล้มอะไรสักอย่างให้คว่ำ
“บางที” รอนพูดช้าๆ
“บางทีอาจจะไม่ใช่ความผิดของแฮร์รี่ที่เขาปิดกั้นใจตัวเองไม่ได้”
“เธอหมายความว่าไง” เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้ว
“ก็...
บางทีสเนปอาจจะไม่ได้พยายามช่วยเขาจริงๆ น่ะสิ”
ทั้งสามหันไปมองหน้ารอนพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
รอนสบตาพวกเขากลับไปอย่างลึกลับ
เดือนมกราคมดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
คงเพราะพวกเขามีเรื่องให้ทำมากมาย
จำนวนการบ้านที่มีเยอะกองเท่าภูเขาทำให้พวกนักเรียนปีห้าต้องนั่งทำการบ้านกันเลยเที่ยงคืนอยู่บ่อยๆ
การประชุมลับของทัพดัมเบิลดอร์ผ่านไปเร็วจนน่าตกใจ
ก่อนจะได้รู้ตัวเดือนกุมภาพันธ์ก็มาถึงแล้ว
มันนำสภาพอากาศที่อุ่นและเฉอะแฉะชื้นน้ำเพราะน้ำแข็งที่ละลายมาพร้อมกับโอกาสที่จะได้ไปเที่ยวฮอกส์มี้ดมาเป็นครั้งที่สองในปีนี้ด้วย
วันที่สิบสี่ตรงกับวันที่ได้ไปฮอกส์มี้ดพอดิบพอดี
เฮเลนเห็นแฮร์รี่แต่งตัวพิถีพิถันเป็นพิเศษ เธอแอบคิดว่าเขาคงมีนัดอะไรบางอย่างกับโชช่วงที่ไปฮอกส์มี้ดแน่นอน
เด็กสาวลงมาทานอาหารเช้าพร้อมกับเฮอร์ไมโอนี่ในห้องโถงที่เวลานี้มีคนเข้ามานั่งกันน้อยมากจนแทบนับได้
มันคงจะเช้าเกินไปสำหรับพวกนักเรียนที่จะตื่นขึ้นมาเตรียมตัวออกเดินทาง
“เธอว่าไง”
หลังจากนั่งลงเฮอร์ไมโอนี่ก็เอ่ยขึ้น เฮเลนมองหน้าเธอด้วยความสงสัย
“มัลฟอยชวนเธอไปเดตรึเปล่าวันนี้”
เฮเลนอ้าปากค้าง เฮอร์ไมโอนี่มองตอบเธอด้วยรอยยิ้มเชิงล้อเลียน
ดูเธอไว้ใจเดรโกมากขึ้นหลังจากที่ร่วมฝึกในห้องต้องประสงค์ด้วยกันมาระยะหนึ่ง
เฮเลนพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงบอกว่าใช่ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มล้อเลียนอยู่พักใหญ่ๆ
ไม่นานนักแฮร์รี่กับรอนก็ลงมาทานอาหารเช้าในตอนที่นกฮูกไปรษณีย์มาส่งจดหมายพอดี
เฮอร์ไมโอนี่ดึงจดหมายจากจะงอยปากของนกฮูกสีน้ำตาลไม่คุ้นหน้าคุ้นตาตัวหนึ่ง
“ถึงเวลาสักที!
ถ้าไม่มาวันนี้ก็คงไม่มีโอกาสแล้ว!!” เธอพูด
มือฉีกซองจดหมายจังหวะเดียวกับที่รอนและแฮร์รี่ทิ้งตัวลงนั่ง
เฮอร์ไมโอนี่ดึงกระดาษแผ่นเล็กออกมาจากซองอย่างกระตือรือร้น
ดวงตาของเธอวิ่งจากซ้ายไปขวาอย่างเร็วรี่ก่อนที่เธอจะแสดงสีหน้าพอใจสุดๆ ออกมา
“ฟังนะเธอสองคน”
เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้นพร้อมกับหันหน้าไปทางแฮร์รี่และเฮเลน “เรื่องนี้สำคัญมาก
เธอสองคนคิดว่าจะไปหาฉันที่ร้านไม้กวาดสามอันตอนช่วงเที่ยงได้ไหม”
“เอ่อ... ไม่รู้สิ”
แฮร์รี่และเฮเลนตอบพร้อมกัน ทั้งสองหันไปมองตากันสักครู่ก่อนที่แฮร์รี่จะเอ่ยต่อ
“โชอาจจะอยากให้ฉันอยู่กับเขาทั้งวันน่ะ เราไม่เคยพูดเลยว่าจะทำอะไรกันบ้าง”
“เดรโกเองก็เหมือนกัน ถึงจะวางแผนกันเอาไว้นิดหน่อยแต่ก็...”
เฮเลนหยุดพูดไปนิดหน่อยเมื่อแฮร์รี่หรี่ตามองเธอพูดถึงเดรโกด้วยสายตาไม่พอใจ
“ก็ว่าจะไปเดินเล่นนิดๆ หน่อยๆ นั่นแหละ”
“งั้นก็พาพวกนั้นมาด้วยเลยสิถ้าจำเป็น”
เฮอร์ไมโอนี่ว่า “สำหรับเดรโกฉันคิดว่าเธอไม่น่าชวนเขามาด้วยนะ แต่ว่ายังไงก็จะมาใช่ไหม?”
“ได้สิ” แฮร์รี่ตอบ
ส่วนเฮเลนยังทำท่าคิดหนักและเฮอร์ไมโอนี่เองก็รอคำตอบจากเธอเช่นกัน
“ฉันจะพยายามบอกให้เขาเข้าใจแล้วกัน
มันคงไม่ได้เลวร้ายนัก” เธอว่าพลางกลอกตาไปมา “มีอะไรเหรอ”
“ฉันไม่มีเวลาบอกตอนนี้
ฉันต้องตอบจดหมายนี่ด่วนเลย” แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ลุกขึ้นออกไปจากห้องโถงใหญ่โดยมีจดหมายอยู่ในมือขวาและขนมปังปิ้งอยู่ในมือซ้าย
แฮร์รี่กับเฮเลนมองหน้ากันอย่างมีความหมายก่อนที่ทั้งสองจะหันไปหารอน
“นายจะไปด้วยไหม” แฮร์รี่ถาม
รอนส่ายหน้ายิก
“ฉันไปไม่ได้
แอนเจลิน่าต้องการให้ฉันฝึกทั้งวัน ยังกะว่ามันจะช่วยให้ทีมดีขึ้นได้อย่างนั้นแหละ
เราน่ะห่วยจนไม่อยากจะพูดถึง นายต้องเห็นสล็อปเปอร์กับเคิร์กนะ
สองคนนั้นน่าสมเพชสุดๆ ห่วยยิ่งกว่าฉันซะอีก” รอนถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ
“ไม่รู้ว่าทำไมแอนเจลิน่าถึงยังไม่ยอมให้ฉันลาออกสักที!”
“เพราะว่านายน่ะเจ๋งจริงๆ
ตอนเข้าฟอร์มน่ะสิ นั่นแหละเหตุผล” แฮร์รี่ตอบ เขาเองรู้สึกว่ายากจริงๆ
ที่จะเห็นใจชะตากรรมของรอนเพราะว่าระหว่างที่กำลังซ้อมเขาดันทำเรื่องไว้จนตัวเองพร้อมกับเฟร็ดและจอร์จโดนสั่งยึดไม้กวาดและห้ามเล่นควิดดิชไปตลอดชีวิตจากอัมบริดจ์
และเขายอมสละทุกอย่างเพื่อให้ได้เล่นในนัดนั้นแต่เขาก็ไม่ได้เล่น
รอนเหมือนจะเข้าใจน้ำเสียงของแฮร์รี่
เขาไม่พูดอะไรต่ออีกเลยระหว่างอาหารเช้า
พวกเขาบอกลากันนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันออกไป
เฮเลนเดินไปตามห้องโถงหาชายหนุ่มที่นัดเธอเอาไว้วันนี้และพบว่าเขานั่งอยู่กับพวกบ้านสลิธีรินที่โต๊ะอาหารด้านหน้า
เด็กสาวไม่อยากจะไปพบแครบ
กอยล์หรือแม้แต่บัลสโตรกจ์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นและดูเหมือนเดรโกจะสังเกตเห็นเธอเขาจึงบอกลากลุ่มเพื่อนและลุกออกมาจากโต๊ะแทบจะในทันที
“ไง ‘โทษทีนะ กำลังคุยกันสนุกเลย” เขาว่า
“เหรอ คุยต่อมั้ยล่ะ?” เฮเลนพูดแล้วใช้ดวงตากลมมองไปยังแครบที่หยิบพายขึ้นมากิน
“ไม่ล่ะ" เขาส่ายหน้า
"ไปกันเลยไหม”
เด็กสาวพยักหน้าก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินไปต่อแถวของคนที่ยืนคอยให้ฟิลซ์อนุญาตให้ออกไปได้
เฮเลนรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ออกไปสูดอากาศสดชื่นนอกโรงเรียน
ทั้งสองเดินกุมมือกันไประหว่างทางโดยมีเสียงซุบซิบของเด็กคนอื่นๆ ดังขึ้นเป็นระยะ
และส่วนใหญ่ก็เป็นสาวๆ ที่หลงใหลได้ปลื้มในตัวเดรโกทั้งนั้น
ที่สำคัญกว่านั้นคือเหมือนหัวหอกในการพูดคุยของกลุ่มก็คือบิลลิเซนต์
บัลสโตรกจ์ตัวดีที่เธอสัมผัสได้ถึงรังสีอาฆาตทุกครั้งที่อยู่ใกล้เดรโกไม่ต่างจากตอนที่เธอเจอแพนซี่ครั้งแรกเลย
วันนี้เป็นวันที่สดชื่นมาก สายลมพัดอ่อนๆ
ท้องฟ้าแจ่มใสบรรยากาศเหมาะสำหรับเดินเล่นเอามากๆ เมื่อทั้งสองเดินผ่านสนามควิดดิช
เฮเลนเหลือบไปเห็นรอนและจินนี่เหาะไปรอบๆ อัฒจันทร์ในขณะที่กำลังฝึก
“อยากบินเหรอ?” เดรโกถามขึ้นเมื่อมองตามสายตาเธอไป
“เปล่า
ฉันแค่รู้สึกว่ามันจะสนุกไหมถ้าได้ลองเล่นสักครั้ง” เฮเลนว่า
เดรโกยักไหล่เบาๆ
“ได้ข่าวว่าคะแนนการบินเธอห่วยติดดินเลยนี่ คงยากเกินไปมั้ง”
เด็กสาวหันไปทุบไหล่เขา
เดรโกหัวเราะร่วนก่อนจะเดินพาเธอผ่านประตูใหญ่ออกไป
เฮเลนพบว่าแพนซี่เดินออกมาก่อนในระหว่างที่พวกเขากำลังหยุดยืนคุยกันเรื่องควิดดิชระหว่างทาง
เธอเห็นแพนซี่เดินกรีดกราย (ท่าเดินที่น่าหมั่นไส้ที่สุด) อยู่ตรงหน้าแฮร์รี่และโช
“พอตเตอร์กับแชง?” หล่อนกรีดเสียงแหลมสูงผ่านเสียงหัวเราะเยาะเย้ยที่ดังประสานขึ้นมาของเพื่อนของเธอ
“นี่แชง! ฉันคิดว่ารสนิยมเธอไม่ดีเท่าไหร่เลยนะ...
อย่างน้อยดิกกอรี่ก็หน้าตาหล่อล่ะนะ!”
“เหรอ? แล้วสำหรับเธอใครที่หล่ออีกล่ะ”
ในขณะที่แฮร์รี่ยืนนิ่งเงียบ เฮเลนก็สาวเท้ามาถึงสองคนอย่างรวดเร็วโดยที่เดรโกยังเดินตามเธอมาไม่ทัน
เด็กสาวยกแขนขึ้นกอดอกและมองหน้าแพนซี่อย่างหาเรื่อง
“นี่เธอ!” แพนซี่ร้อง
“มาแส่อะไรเรื่องของฉันยะ”
“แล้วเธอมาแส่อะไรกับแฮร์รี่? โชจะมากับใครก็เรื่องของเขาสิ ยุ่งอะไรด้วย!” เฮเลนตอบ
“เหรอ! แล้วหล่อนล่ะมากับไอ้หน้าไหน”
เฮเลนเงียบ รอคอยว่าเดรโกจะเดินมาถึงเมื่อไหร่
เธอจะได้หักหน้ายัยแพนซี่ปากเน่าคนนี้เสียที อยากสาปใจจะขาดแต่ทำไม่ได้!
ส่วนเด็กหนุ่มเรือนผมสีบลอนด์จางนั้นเมื่อเห็นว่าแพนซี่กำลังแผดเสียงอยู่ไม่ไกลนัก
ทำเอาเขาไม่อยากจะเดินเข้าไปใกล้เลยเพราะเสียงแหลมๆ นั้นน่ารำคาญเกินกว่าจะยอมทนฟังเป็นเวลานานๆ
“อุ้ย! คงตอบไม่ได้เลยล่ะสิ... แน่ล่ะ!
ใครจะมาเอาผู้หญิงอย่าง...”
“ผู้หญิงอย่างไหนเหรอแพนซี่”
ในที่สุดมือเรียวยาวก็เลื่อนเข้ามารวบเอวเล็กๆ
เอาไว้ได้ทันท่วงทีก่อนที่แพนซี่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้และก่อนที่เฮเลนจะโกรธ
เดรโกก็รีบเร่งฝีเท้าเข้ามาหาเธอในทันที
สิ่งนั้นทำให้แพนซี่ชะงักไปส่วนแฮร์รี่และโชก็หันมามองเธอกับเดรโกสลับกันไปมาและมือของเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่
“เดรโก!” แพนซี่กรีดร้อง
“ที่นายปฏิเสธฉันเพราะมากับยัยนี่เหรอ”
“ใช่” เขาตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ฉันไม่เคยบอกเธอเหรอว่าฉันจะเลิกยุ่งกับเธอ
ถ้าเธอยังทำตัวเกินเพื่อนน่ะ” เขาพูดเสียงเข้ม
หันไปมองแฮร์รี่นิดหน่อย
“มันเป็นสัญญา เธอก็รู้” เดรโกยักไหล่
“แล้วนี่จะไปกันได้รึยังพอตเตอร์”
“อ่า เออ! โอเค เจอกันเฮเลน”
เขาพูดแต่ไม่ยอมเอ่ยชื่อเดรโก ร่างสูงเบ้ปากนิดหน่อยก่อนจะพาเฮเลนเดินไปจากตรงนั้น
ทิ้งแพนซี่ยืนหวีดร้องอยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนของเธอ
ระหว่างเดินเล่นอยู่ในฮอกส์มี้ดเฮเลนเหลือบไปเห็นโปสเตอร์รูปภาพของผู้เสพความตายที่หลบหนีออกมาได้สิบคน
ในโปสเตอร์เสนอให้รางวัลหนึ่งพันเกลเลี่ยนสำหรับพ่อมดคนที่มีข้อมูลนำไปสู่การจับกุมคนในภาพ
“นั่นป้าฉัน” เดรโกกระซิบ
“ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะหนีมาได้”
เดรโกหัวเราะหึๆ ในลำคอ
ท่าทางของเขาทำให้เฮเลนรู้สึกไม่พอใจแปลกๆ เนื่องจากความจริงเรื่องเบลาทริกซ์
เลสแตรงจ์ทรมานพ่อแม่ของเนวิลล์จนต้องไปอยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์มังโก้นั้นเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้
เสียงหัวเราะของเดรโกมีความภูมิใจแฝงอยู่ในนั้นซึ่งเด็กสาวเห็นว่ามันไม่สมควรเอาซะเลย
“น่าแปลกนะ” เฮเลนว่า “ตอนที่ซีเรียส
แบล็กหนีออกมา มีพวกผู้คุมวิญญาณเต็มไปหมด
แต่ตอนนี้ผู้เสพความตายเป็นอิสระตั้งสิบคน ไม่เห็นผู้คุมวิญญาณเลยแม้แต่เงา”
เฮเลนพูดเหยียดเสียงและนั่นทำให้เดรโกหยุดหัวเราะในทันที
บางทีเขาก็ลืมไปว่าเด็กสาวข้างกายเขาเป็นใคร
ที่จริงเขาควรจะอึดอัดที่ต้องออกเดตกับคนที่ไม่ได้อยู่ในอุดมการณ์เดียวกันแต่มันกลับไม่ใช่เลย
เหมือนกับเขาเริ่มซึมซับความคิดเธอเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงขั้นที่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าใครจะคิดยังไงเรื่องที่เขาดูจะทรยศสายเลือดโดยการคว้าเลือดผสมเข้ามาในครอบครัว
แต่อย่างน้อยเธอก็คือคนที่เขามีโอกาสได้เลือกด้วยตัวเอง!
“ไปร้านไม้กวาดสามอันกันเถอะ”
เฮเลนพูดหลังจากยืนมองโปสเตอร์อยู่นาน
เธอจับมือเดรโกเดินไปยังร้านในทันทีโดยที่เด็กหนุ่มยังไม่ได้พูดอะไรสักคำเดียว
เขาได้แต่เดินตามเธอไปเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรอีก
เพราะเขาเกรงว่าถ้าเกิดพูดอะไรออกไปแล้วมันทำให้การเดตนี้แย่ลงไปอีกก็จบกันพอดี
ทั้งสองสั่งบัตเตอร์เบียร์มาสองที่และนั่งดื่มกันอย่างเงียบๆ
ไม่มีการสนทนาใดๆ เท่าที่ควร มีเรื่องเดียวที่เป็นหัวข้อสนทนาที่ดูท่าเฮเลนจะสนใจมากที่สุดเพราะมันเกี่ยวพันกับเธอด้วย
“สัญญาน่ะเหรอ?” เดรโกทวนคำ
“ฉันสัญญากับพอตเตอร์เอาไว้ว่าจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนในระหว่างที่กำลังอยู่กับเธอ
ฉันจะมองแค่เธอ คุยแค่เธอและกินแค่เธอ”
“อะไรนะ?” เด็กสาวทวนคำ
เดรโกยิ้มกริ่มพลางยกบัตเตอร์เบียร์ขึ้นดื่มโดยไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะเริ่มมีสีแดงจางๆ
ขึ้นที่แก้มของเธอมากแค่ไหนแล้ว
มีคนพลุกพล่านเต็มร้านไปหมด
เดรโกจับให้เธอนั่งเอนพิงไหล่เขาเบาๆ
ในมือของเด็กสาวยังถือแก้วบัตเตอร์เบียร์เอาไว้ต่างจากเดรโกที่กำลังสั่งแก้วที่สองมาพร้อมกับเนื้อย่าง
ใจจริงเฮเลนอยากจะถามว่าหิวรึเปล่าก็เกรงใจกลัวว่าเขาจะหิวจริงๆ
ไม่งั้นเขาคงไม่สั่งอาหารเมนูอื่นมานอกจากบัตเตอร์เบียร์
“เอ้านี่”
ยังไม่ทันไรเดรโกก็หั่นเนื้อย่างแล้วจิ้มมันมาจ่อตรงปากเฮเลน “กินสิ
เดี๋ยวจะหิวซะก่อน”
“ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าฉันหิว”
เฮเลนทำหน้าซื่อตาใสใส่เดรโก เขาขมวดคิ้วเข้าหากันนิดหน่อย
“งั้นก็อย่ากิน หิวก็ห้ามบ่น”
เดรโกบ่นงุบงิบก่อนจะดึงส้อมที่มีเนื้ออยู่ออกมาให้ห่างจากปากของเด็กสาว
เฮเลนรีบยื้อมือเขาไว้ก่อนจะอ้าปากงับเนื้อชิ้นนั้นเข้าปากในทันที
เดรโกยกยิ้มมุมปากก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาหั่นเนื้อย่างตรงหน้าที่มีควันลอยกรุ่นขึ้นมานิดหน่อย
ทั้งสองนั่งดื่มบัตเตอร์เบียร์พร้อมกับเนื้อย่างไปเรื่อยๆ
และคุยกันในเรื่องสัพพะเหระ
เฮเลนห้ามไม่ให้เดรโกพูดถึงทัพดัมเบิลดอร์ในระหว่างนี้และบอกกับเขาว่าเธอนัดเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้ตอนช่วงเที่ยง
ดูเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักที่เฮเลนไม่ให้เขาไปร่วมวงด้วยแต่เดรโกก็พยักหน้าเข้าอกเข้าใจและพร้อมที่จะนั่งรอตรงนี้จนกว่าเฮเลนจะคุยธุระเสร็จ
“แฮร์รี่! ทางนี้!!”
เสียงเฮอร์ไมโอนี่และร่างของเด็กสาวผมฟูปรากฏขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของร้านพร้อมกับแฮร์รี่ที่เพิ่งจะเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
เขาเหล่มองมาทางเฮเลนกับเดรโกนิดหน่อยก่อนจะหันไปหาเฮอร์ไมโอนี่และเดินเข้าไปร่วมโต๊ะนั้น
“เดี๋ยวฉันมาแปปนึงนะเดรโก”
เฮเลนรีบลุกขึ้นจากโต๊ะทันทีที่เดรโกพยักหน้าหงึกหงักและดูหงอยลงในพริบตา
เธอหัวเราะแล้วยิ้มให้เขานิดหน่อยก่อนจะเดินไปสมทบกับแฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่กับเพื่อร่วมดื่มที่ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะเป็นไปได้นั่นก็คือ
ลูน่า เลิฟกู๊ดและริต้า สกีตเตอร์
อดีตนักหนังสือพิมพ์ของเดลี่พรอเฟ็ตและคนที่เฮอร์ไมโอนี่ชอบน้อยที่สุดในโลก
“เธอมาเร็วดีนี่”
เฮอร์ไมโอนี่ว่าหลังจากเฮเลนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ กับแฮร์รี่
“ฉันนึกว่าเธอจะอยู่กับโชซะอีก แล้วเธอจะมาสายอย่างน้อยชั่วโมงนึงด้วยซ้ำไป”
“โชเหรอ?” ริต้าเอ่ยขึ้นทันที
เอี้ยวตัวมองแฮร์รี่ “เด็กผู้หญิงงั้นเหรอ”
เธอคว้ากระเป๋าหนังขึ้นมาและคลำหาของในนั้น
“มันไม่ใช่ธุระของคุณ
ถึงแฮร์รี่จะไปเดตกับผู้หญิงร้อยคนก็เถอะเพราะฉะนั้นเก็บไอ้นั่นไปเดี๋ยวนี้!”
เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเย็น “แล้วก็ช่วยลบรูปที่แอบถ่ายเมื่อก้ด้วย!!”
เฮเลนเลิกคิ้วพลางมองเฮอร์ไมโอนี่อย่างตั้งคำถาม
เด็กสาวผมฟูยักไหล่และหรี่ตามองริต้าด้วยสายตาไม่พอใจ
หล่อนทำหน้าเหมือนถูกบังคับให้กลืนของไม่พึงประสงค์ลงคอและปิดกระเป๋าดังฉับ
“เธอจะทำอะไร” แฮร์รี่เอ่ยถาม
“คุณหนูผู้สมบูรณ์แบบคนนี้กำลังจะบอกฉันพอดีตอนเธอมา”
ริต้าตอบพร้อมดื่มเครื่องดื่ม “ฉันคิดว่าฉันได้รับอนุญาตให้พูดกับพวกเขานะ ใช่ไหม?”
เธอหันมาถลึงตาใส่เฮอร์ไมโอนี่
“ฉันคิดว่าคุณได้รับอนุญาต!”
เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงเย็น “แล้วอย่าลืมลบรูปด้วยก่อนที่ฉันจะระเบิดกล้องคุณ!”
ริต้าวางเครื่องดื่มลงกระแทกโต๊ะและหยิบกล้องเก่าๆ
ขึ้นมาร่ายคาถาอะไรสักอย่างลงไป การว่างงานดูไม่ค่อยเหมาะกับเธอเท่าไหร่ เธอว่างกล้องลงอีกครั้งและยิ้มมุมปากมองมายังแฮร์รี่และเฮเลน
“เด็กคนนั้นสวย น่ารักใช่ไหมล่ะแฮร์รี่
ส่วนหนุ่มน้อยเดรโกคนนั้นก็เป็นเรื่องจริงสินะระหว่างเธอกับเขาน่ะเฮเลน” เฮเลนสะบัดหน้าหนีพร้อมกับกัดฟันกรอด
นึกถึงเดลี่พรอเฟ็ตที่เฮอร์ไมโอนี่นำมาให้อ่านเมื่อต้นเทอม ถ้าไม่ติดว่าริต้าโดนไล่ออกแล้วเธอคงจะเคืองผู้หญิงคนนี้เอามากๆ
!!
“อีกคำเดียวกับเรื่องชีวิครักของพวกเขา
เป็นอันเลิกเรื่องที่ตกลงกันไว้ได้เลย ฉันพูดจริงๆ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างหงุดหงิด
ริต้าปรายตามองไปยังเฮอร์ไมโอนี่นิดหน่อย
“ตกลงอะไร” ริต้าถาม “เธอไม่ได้บอกเรื่องตกลงอะไรกันสักหน่อยคุณหนูเจ้าระเบียบ
เธอแค่บอกให้ฉันโผล่มาที่นี่ โอ๊ย... สักวันหนึ่งเถอะนะ...”
“ใช่!
วันหนึ่งคุณคงจะเขียนเรื่องอะไรร้ายๆ เกี่ยวกับพวกเขากับฉันอีกล่ะสิ”
เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างไม่แยแส
“ทำไมคุณถึงไม่ไปหาเรื่องคนที่เขาอยากให้คุณเขียนถึงกันล่ะ หา?”
“ในปีนี้หนังสือพิมพ์กับนิตยสารลงเรื่องร้ายกาจเกี่ยวกับคู่แฝดนี่ถมถืดไม่ต้องให้ฉันช่วยหรอก”
ริต้าบอก ส่งสายตามองมายังสองคน “มันทำให้เธอสองคนรู้สึกยังไงล่ะ ถูกหักหลัง
กลุ้มหัวหมุนหรือเข้าใจผิดมากๆ”
“แน่นอนล่ะว่าพวกเขาโกรธ!”
เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแข็ง “เพราะพวกเขาบอกความจริงรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์
แต่ฟะ... เอ่อ... รัฐมนตรีน่ะปัญญาอ่อนเกินกว่าจะเชื่อ!”
“งั้นพวกเขาก็ยืนกรานเลยล่ะสิว่าคนที่ไม่ควรเอ่ยชื่อกลับมาแล้ว”
ริต้าพูดพลางยกเครื่องดื่มขึ้นดื่มอีกครั้ง
ดวงตาคู่นั้นหลังกรอบแว่นจ้องมองเฮเลนและแฮร์รี่สลับกันไปมา
การเผชิญหน้ากับเธอทำให้เฮเลนหวั่นวิตก เพราะจากการอ่านหนังสือมา ริต้า สกีตเตอร์
เป็นอีกหนึ่งคนที่เฮเลนรู้สึกไม่อยากเจอเท่าไหร่
“ผมไม่ใช่พยานคนเดียวที่เห็น” แฮร์รี่ว่า
“มีผู้เสพความตายอีกสักโหลได้มั้งอยู่ที่นั่นด้วย ต้องการชื่อพวกเขาไหมล่ะ”
แฮร์รี่เหลือบตาไปมองทางเฮเลน
และเด็กสาวเองก็เหล่มองไปยังเดรโกที่นั่งอยู่ไกลออกไป
เขายังคงดื่มบัตเตอร์เบียร์และมองมาทางเธอเป็นระยะ
เฮเลนรู้สึกโชคร้ายที่เลือกร้านนี้
แต่ก็รู้สึกโชคดีปนกันไปเพราะเดรโกไม่ได้ยินที่แฮร์รี่พูด
“ต้องการแน่นอน”
ริต้าหายใจแรงคุ้ยหาของในกระเป๋าอีกหน “พาดหัวข่าวหนาว่า ‘พอตเตอร์กล่าวหา...’
พาดหัวรองลงมา
‘เด็กหนุ่มและแฝดประสาทกลับผู้รอดจากการถูกคนที่รู้ว่าใครทำร้ายทำให้เรื่องวุ่นวายโดยการกล่าวหาสมาชิกชุมนุมพ่อมดอันทรงเกียรติและน่านับถือว่าเป็นผู้เสพความตาย’”
ปากกาจดทันใจอยู่ในมือเธอแล้ว สีหน้าของริต้าดูมีความสุขเสียจนน่าหมั่นไส้
“นั่นแหละ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงหวาน
“นั่นแหละ คือสิ่งที่คุณหนูผู้สมบูรณ์แบบคนนี้ต้องการให้คุณทำ”
ริต้ามองใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่อย่างตกใจ
ส่วนลูน่านั้นเอาแต่ร้องเพลง ‘วีสลีย์นั้นคือราชันย์ของเรา’ อย่างฝันๆ เสียงเบา
และคนเครื่องดื่มของตัวเองด้วยไม้คอกเทลที่เสียบหัวหอมลูกเล็กๆ เอาไว้
“เอาเป็นเรื่องจริง
ข้อเท็จจริงที่สองแฝดนี่รายงานทุกอย่าง
เขาจะให้รายละเอียดที่เป็นความจริงกับคุณทั้งหมด
เขาจะบอกคุณเรื่องผู้เสพความตายที่เผยโฉมให้เห็นที่นั่น
เขาจะเล่าให้คุณฟังว่าโวลเดอมอร์ตอนนี้หน้าตาเป็นยังไง”
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเยาะในขณะที่ริต้าเริ่มอ้าปากค้างเมื่อได้ยินชื่อของโวลเดอมอร์
“แต่พรอเฟ็ตไม่มีวันยอมพิมพ์เรื่องนี้หรอก!
ถ้าเผื่อว่าเธอไม่ได้สังเกต ไม่มีใครเชื่อเรื่องที่สองพี่น้องนี่ฝอยออกมา
ทุกคนคิดว่าพวกเขาบ้าและประสาทหลอนไปแล้ว” เฮเลนหรี่ตามองริต้าอย่างไม่พอใจ
ตั้งแต่ ‘แฝดประสาทกลับ’ กับ ‘บ้าและประสาทหลอน’
มันทำให้เธอรู้สึกอยากเหวี่ยงแก้วบัตเตอร์เบียร์ที่ถือติดมือมาด้วยใส่ริต้าเสียจริงๆ “เอาล่ะ! แต่ถ้าเธอจะให้ฉันเขียนจากแง่มุมนั้น...”
“เราไม่ต้องการเรื่องนั้นหรอก!”
เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงฉุนๆ “เรามีเรื่องนั้นเยอะแล้ว
ฉันต้องการให้โอกาสพวกเขาได้เล่าความจริง
อีกอย่างพรอเฟ็ตมีอยู่เพื่อบอกคนเรื่องที่พวกเขาต้องการได้ยินเท่านั้น”
เฮอร์ไมโอนี่ถากถาง นั่นทำให้เฮเลนหัวเราะออกมาเบาๆ
พลางเหล่มองเดรโกนิดหน่อย เด็กหนุ่มนั่งเท้าคางทำหน้าเบื่อๆ พร้อมจานเนื้อย่างที่ว่างเปล่าแต่ก็ยังมองมายังเฮเลนอย่างไม่วางตา
“พรอเฟ็ตมีไว้เพื่อขายตัวเองจ้ะ
แม่เด็กฉลาด” เธอพูดเสียงเย็น
“พ่อฉันคิดว่าเดลี่พรอเฟ็ตเป็นหนังสือพิมพ์ที่เลวร้ายมากๆ”
ลูน่าพูดสอดขึ้นมา
"พ่อตีพิมพ์เรื่องสำคัญที่พ่อคิดว่าคนทั่วไปจำเป็นต้องรู้เอาไว้เท่านั้น เขาไม่ได้แคร์เรื่องทำเงินได้หรือไม่ได้หรอก”
“ฉันเดาว่าพ่อของเธอคงจะออกจดหมายข่าวประจำหมู่บ้านเล็กๆ
หรือไม่ก็ยี่สิบวิธีคลุกคลีกับพวกมักเกิ้ลล่ะสิ" ริต้ามองลูน่าอย่างหมิ่นๆ "แล้วก็จะตีพิมพ์วันที่จะมีงานออกร้านขายของหาเงินเข้าการกุศลเท่านั้นลาะสิใช่ไหม”
“ไม่ใช่” ลูน่าตอบ
“พ่อฉันเป็นบรรนาธิการเดอะควิบเบลอร์ต่างหากล่ะ”
ริต้าพ่นลมออกจากจมูกเสียงดัง
“นั่นเรียก ‘เรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้’
งั้นเหรอ” เธอพูดเย้ยหยัน
“ฉันน่ะใช้เรื่องจากหนังสืองี่เง่านั่นทำปุ๋ยในสวนฟักทองของฉันได้เลยเชียวล่ะ!”
“แต่มันก็เป็นโอกาสที่คุณจะยกระดับมันขึ้นใช่ไหมล่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างร่าเริง
“ลูน่าบอกว่าพ่อของเธอพอใจที่จะลงเรื่องสัมภาษณ์ของแฮร์รี่
นี่แหละคนที่จะตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ให้ยังไงล่ะ!”
“เธอคิดว่าจะมีใครเชื่อจริงๆ เหรอ!?”
ริต้าหัวเราะ
“บางคนอาจจะไม่เชื่อ”
เด็กสาวผมฟูตอบเสียงเรียบ “แต่รายงานข่าวเรื่องแหกคุกอัซคาบันน่ะมีช่องโหว่เบ้อเริ่ม
ฉันคิดว่าหลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมไม่มีคำอธิบายที่ดีกว่าแค่ซีเรียส
แบล็กเป็นผู้ช่วยเหลือ
คนอะไรจะไปช่วยแหกคุกอัซคาบันได้ตั้งหลายหนแถมใครที่ไหนจะบ้ากลับไปที่นั่นอีก
ถ้าฉันได้ไปสักครั้ง สาบานด้วยเกรียรจิของแม่มดผู้ฉลาดหลักแหลมเลยว่าฉันจะไม่มีวันย่างเข้าไปเฉียดที่นั่นอีกแน่นนอน
แล้วถ้ามีเรื่องต่างออกไปเสนอให้อ่าน ถึงมันจะตีพิมพ์ในเดอะควิบเบลอร์ก็ตาม
ยังไงก็จะมีคนอยากอ่านอยู่ดีนั่นแหละ”
ริต้าไม่พูดตอบอะไรครู่หนึ่ง
เธอมองดูเฮอร์ไมโอนี่ท่าทางสุขุม
“เอาเป็นว่าฉันจะทำก็แล้วกัน
แล้วฉันจะได้ค่าเขียนเท่าไหร่ล่ะ” ริต้าหันไปหาลูน่า
“ฉันไม่คิดว่าพ่อจ่ายเงินให้กับคนที่เขียนนิตยสาร
พวกเขาเขียนมาลงเพื่อเป็นเกียรติยศ!”
“นี่ฉันต้องทำงานฟรี?” ริต้าแบะปาก
“ใช่!” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงเรียบ
“หรือไม่จะให้ฉันแจ้งว่าคุณเป็นอนิเมจัสผิดกฎหมายด้วยก็ได้นะ”
ได้ยินประโยคนั้น
ริต้าทำท่าราวกับว่าอยากจะเอาปากกาวิเศษจิ้มจมูกเฮอร์ไมโอนี่
“ฉันคงไม่มีทางเลือกใช่ไหมล่ะ!”
ริต้าพูดเสียงสั่น
“พ่อต้องพอใจแน่ๆ เลย”
ลูน่าพูดเสียงใสพร้อมกับยกเครื่องดื่มขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ดี
“โอเคไหมเธอสองคน” เฮอร์ไมโอนี่ถามและหันมาทางเฮเลนและแฮร์รี่
“พร้อมจะเล่ารึยัง?”
“คงพร้อมแล้ว” แฮร์รี่ตอบ
มองริต้าที่วางปากกาจดทันใจเตรียมพร้อม
“คงงั้นล่ะ” เฮเลนยักไหล่
“จะพยายามบอกให้หมดก็แล้วกันนะ”
“ยิงคำถามได้เลย”
เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเรียบ ในขณะที่เฮเลนพยายามนึกถึงเนื้อหาในนิยายที่เคยอ่านว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นบางในช่วงเวลาที่แฮร์รี่แข่งเวทไตรภาคี
ติดตามตอนต่อไป…
ความคิดเห็น