ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #17 : บทที่ 16 : บทเพลงของเดรโก (Re.02)

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 64


    TB

    UP : 07/08/60

    Re-write : 21/08/60

    Re-write 2 : 30/06/64

    บทที่ 16 : บทเพลงของเดรโก

     

    ในระหว่างทานอาหาร หนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตของเฮอร์ไมโอนี่ก็ส่งตรงมาถึง เธอกางมันออกบนโต๊ะเพ่งมองที่หน้าแรกอยู่สักครู่หนึ่งแล้วส่งเสียงเรียกให้อีกสามคนเข้ามาดู

    “มีอะไรเหรอ” รอนถาม เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ตอบ เธอยื่นหนังสือพิมพ์ให้ไปหยุดอยู่ตรงหน้าเฮเลนที่นั่งอยู่กึ่งกลางระหว่างรอนและแฮร์รี่ซึ่งตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามของพวกเขาทางขวาสุดโดยมีจินนี่อยู่ถัดมาทางซ้ายมือและต่อด้วยเนวิลล์ นิ้วเรียวชี้ไปยังรูปภาพขาวดำกว่าสิบรูปที่ลงเต็มหน้าหนังสือพิมพ์ เก้ารูปเป็นใบหน้าของพ่อมดและรูปที่สิบเป็นแม่มด

    คนในภาพบางคนหัวเราะเยาะเย้ยโดยปราศจากเสียง บางคนเคาะนิ้วที่กรอบรูปภาพ แต่ละคนดูท่าทางอวดดีจนน่าหมั่นไส้ ทุกภาพมีคำบรรยายชื่อและอาชญากรรมที่ทำให้พวกเขาถูกส่งไปคุกอัซคาบันอยู่

     

    แอนโทนิน โดโลฮอฟ คำบรรยายเขียนเอาไว้ใต้รูปพ่อมดใบหน้ายาวซีดเซียวและมีสีหน้าเคร่งเครียด รอยยิ้มของคนในภาพดูยั่วโทสะอย่างบอกไม่ถูก มีความผิดฐานฆาตกรรมกิดเดียน และ เฟเบียน พรอเว็ตอย่างโหดเหี้ยม

    ออกัสตัส รุดวู้ด คำบรรยายใต้ภาพชายใบหน้าปุปะเต็มไปด้วยรอยแผลและผมมันเยิ้ม ซึ่งยืนพิงขอบรูปภาพของตนเองด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย มีความผิดฐานเปิดเผยความลับของกระทรวงเวทมนตร์ให้แก่คนที่ไม่ควรเอ่ยนาม

     

    ดวงตาของเฮเลนกวาดมองใบหน้าของเหล่านักโทษพลางกัดริมฝีปากล่างแน่น สุดท้ายสายตาของเด็กสาวก็มาหยุดอยู่ที่ภาพสุดท้ายพร้อมกันกับที่แฮร์รี่กำลังมองไปยังภาพนั้นอยู่พอดิบพอดี ใบหน้ายาวเจ้าของเรือนผมหยิกฟู หนา เธอจ้องเขม็งมองดูพวกเขาผ่านดวงตาที่มีเปลือกตาหนาดำเป็นปื้น รอยยิ้มหยิ่งยโสและเหยียดหยามระบายอยู่รอบริมฝีปากบาง ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายซีเรียส

     

    เบลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ ต้องโทษฐานทรมานแฟรงก์และอลิซ ลองบัตท่อมจนพิการตลอดชีวิต

     

    เนวิลล์มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาหยุดดูรูปภาพนั้นและหันกลับไปที่จานอาหารของตัวเองอย่างเลื่อนลอย จินนี่หันไปปลอบเขาพร้อมกับที่คุยอะไรบางอย่างกันโดยที่เฮเลนไม่ได้สนใจฟังมันนัก เธอกำลังให้ความสนใจกับสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ชี้ต่อไป

     

    แหกคุกหมู่จากอัซคาบัน

    กระทรวงหวั่น แบล็กเป็น “แกนนำ”

    ในฐานะของหัวหน้ากลุ่มผู้เสพความตาย

     

    “แบล็ก?” แฮร์รี่เอ่ยขึ้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเฮเลน เธอเองก็มองตอบเขาเช่นกัน “จะบ้าเหรอ --”

    “อ่านอย่างเดียวพอ!” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบเสียงแข็ง ทั้งสองจึงก้มหน้าอ่านต่อ

     

    กระทรวงเวทมนตร์ประกาศเมื่อกลางดึกคืนวานว่ามีการแหกคุกอัซคาบันครั้งใหญ่ คอร์นีเลียส ฟัดจ์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ได้กล่าว ยืนยันว่านักโทษจากคุกที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงจำนวนสิบคนได้หลบหนีออกมาในตอนค่ำวานนี้ และกล่าวว่าตนได้แจ้งนายกรัฐมนตรีของพวกมักเกิ้ลแล้วเรื่องสถานภาพอันตรายของบุคคลเหล่านี้

    “โชคร้ายจริงๆ” ฟัดจ์กล่าว “เรากำลังตกอยู่ในสภาวะเดิมที่เคยเผชิญเมื่อสองปีครึ่งที่ผ่านมา ตอนที่ฆาตรกรซีเรียส แบล็กได้แหกคุกออกมาได้ เราคิดว่าการแหกคุกทั้งสองคราวนี้ต้องเกี่ยวข้องกันแน่นอน การหนีเป็นหมู่แบบนี้แสดงว่าต้องได้รับการช่วยเหลือจากคนภายนอกและเรารู้ว่าแบล็ก ในฐานะที่เป็นคนแรกที่แหกคุกอัซคาบันได้ คงจะรออยู่ในทำเลที่เหมาะสมที่จะสามารถช่วยคนอื่นๆ ให้ตามรอยเท้าเขาไป ทางเราคิดว่าเป็นไปได้มากที่คนเหล่านี้จะชุมนุมกันโดยมีแบล็กเป็นหัวหน้า ทั้งนี้รวมถึงญาติของแบล็กคนหนึ่ง เบลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ อย่างไรก็ตาม เราพยายามทำทุกอย่างที่เราทำได้ เพื่อกวาดจับพวกอาชญากรเหล่านี้และเราขอให้ชุมชนผู้วิเศษช่วยตื่นตัวระวังภัย ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม ไม่ควรเข้าใกล้บุคคลเหล่านี้เป็นอันขาด”

     

    “นี่ไง” รอนทำสีหน้าตื่นกลัว “มากันหมดเลย”

    “ดัมเบิลดอร์เตือนฟัดจ์ว่ามันอาจเกิดขึ้น เราจะถูกฆ่าแน่ถ้าเขายังไม่ยอมรับความจริง”

    เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยท่าทางเหนื่อยใจก่อนจะกระชากหนังสือพิมพ์ออกมาจากกลางวงและตั้งใจอ่านรายงานด้านในต่อ แฮร์รี่เหม่อมองไปรอบห้องโถงใหญ่ด้วยสายตางงงวยส่วนเฮเลนก็เริ่มครุ่นคิดถึงเรื่องราวในอนาคตข้างหน้า สิ่งที่มันกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นั่นคือความตายของซีเรียส แบล็ก

    เด็กสาวเหลือบมองไปยังโต๊ะอาจารย์ ศาสตราจารย์แต่ละท่านกำลังสนทนากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่อยู่ๆ เฮอร์ไมโอนี่ก็ลุกขึ้นยืนและทำท่าเหมือนนึกอะไรออก

    “เธอจะไปไหน” รอนเอ่ยถามโดยมีของหวานอยู่เต็มช้อนในมือ

    “ฉันจะไปส่งจดหมาย” เธอเหวี่ยงกระเป๋าขึ้นพาดบ่า “มันมีอะไรน่าลองอยู่ล่ะ ฉันเป็นคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้”

    เฮอร์ไมโอนี่ว่าแล้วขยิบตาให้กับเฮเลนก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องโถงไป

    “ฉันล่ะเกลียดจริงๆ เวลายัยนั่นทำแบบนี้” รอนบ่นในขณะที่กำลังลุกขึ้นยืนพร้อมกัน “มันจะตายรึไงที่จะบอกสักครั้งว่าจะทำอะไร อย่างมากก็เสียเวลานิดหน่อย”

    ตอนนี้มีหัวข้อสนทนาเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นตามระเบียงทางเดินนั่นก็คือเรื่องผู้เสพความตายสิบคนที่หนีหลุดออกมาจากคุกได้ ในที่สุดเรื่องพวกนั้นก็บินว่อนไปทั่วโรงเรียนไวอย่างกับฝุ่นที่ฟุ้งตอนเอาไม้ขนไก่ปัดกวาด ข่าวลือบินว่อนไปทั่วว่ามีบางคนเห็นพวกเขาที่ฮอกส์มี้ดด้วยและแถมยังมีข่าวว่าพวกนั้นหลบซ่อนตัวกันอยู่ในเพิงโหยหวน

    เฮเลนขอตัวออกจากแฮร์รี่และรอน เธอเดินแยกออกจากพวกเขาตรงระเบียงทางเดิน เด็กสาวค่อนข้างนึกถึงข่าวที่ออกของเดลี่พรอเฟ็ต จริงที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาพรอเฟ็ตเอาแต่เขียนข่าวโจมตีพวกเขา ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ไม่มีการรายงานอธิบายเรื่องของนักโทษที่หลุดออกมาจากอัซคาบันได้แต่อย่างใด ราวกับว่าการที่นักโทษแหกคุกที่หลุดออกมานั้นไม่ใช่เพราะโวลเดอมอร์ แต่ต้องการโยนความผิดไปให้ซีเรียส แบล็กแทนเพื่อรักษาหน้าของฟัดจ์!

    เฮเลนรู้สึกโกรธขึ้นมาอีกแล้ว ในขณะที่เด็กสาวกำลังสาวเท้าตรงไปยังห้องต้องประสงค์คิ้วทั้งสองข้างก็ผูกติดเป็นโบว์ขึ้นมาในทันที สองเท้าเล็กๆ ก้าวเข้าไปในห้องและพบกับความว่างเปล่าโดยไร้ซึ่งร่องรอยของเด็กหนุ่มที่นัดเธอเอาไว้โดยสิ้นเชิง ใจหนึ่งเฮเลนก็อยากจะตวาดใส่เขาสักทีที่มาสาย แต่คิดอีกที บางทีเธออาจจะมาเร็วเกินไปก็ได้

    คนตัวเล็กเดินวนไปวนมาในห้องสักครู่เพื่อทำจิตใจให้สงบ ริมฝีปากบางพ่นลมหายใจออกมาเป็นระยะเพื่อให้ความคิดและอารมณ์ของตนผ่อนคลาย จนในที่สุดเฮเลนก็เลือกที่จะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ากระจกบานเดิมที่เคยยืนจ้องมันพร้อมกับเดรโก

    ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูเหมือนไม่ใช่ตัวเอง มันดูเหมือนว่ากำลังมีใครควบคุมจิตใจของเธออยู่และนั่นทำให้เด็กสาวใช้สองมือตบแก้มของตัวเองเบาๆ สองสามทีไปมาจนในที่สุดอารมณ์ครุกกรุ่นก็เริ่มสงบลง ดวงตากลมโตมองจ้องไปยังรูปภาพของเด็กหนุ่มใบหน้าเรียวได้รูปบนกระจกที่ส่งยิ้มมาให้เธอ

    เชตริก ดิกกอรี่

    “หมอนั่นหล่อใช่ไหมล่ะ” เสียงแสนคุ้นเคยทำให้เธอสะดุ้ง “แถมยังได้ลงแข่งเวทไตรภาคีอีก เท่สุดๆ!

    น้ำเสียงประชดประชันของเดรโกทำให้เฮเลนแสยะยิ้มเจื่อน เธอหันไปมองหน้ามู่ทู่ของเดรโกที่ดูเหมือนกำลังงอนอย่างเต็มที่ ร่างสูงยืนถืออะไรบางอย่างที่เด็กสาวคุ้นตาดีถ้าเกิดว่าเธออยู่ในโลกเดิมแต่มันไม่น่าใช่สำหรับโลกใบนี้...

    กีตาร์เขาถือกีตาร์อยู่!!

    “มาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ” เฮเลนถาม

    “ก็สักพักหนึ่งแล้ว ฉันเข้ามานั่งแอบอยู่ตรงโซฟา เห็นเธอเดินไปเดินมาเหมือนกับกำลังประสาทกลับ เลยไม่อยากจะกวน” เขาทำเสียงยียวน เด็กสาวก้าวยาวๆ ไปหาเขาก่อนจะฟาดมือลงบนไหล่ของเดรโกแรงๆ ทีหนึ่ง

    “โอ๊ยเจ็บนะ” เขาร้อง

    “แล้วนายหลอกว่าฉันทำไมล่ะ!” เฮเลนพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ “ฉันแค่ยืนดูรูป ไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย!

    “เหรอ ก็เห็นปีที่แล้วเธอประชดใส่ฉันซะเต็มแรงเลยว่าถ้าเป็นหมอนั่นมาขอเธอไปเต้นรำ เธอจะรีบแจ้นไปอย่างไม่ใยดีเลย” เดรโกทำหน้าบึ้ง “แล้วจะไม่ให้ฉันพูดอะไรได้ไง!

    “แต่ตอนนี้เขาตายไปแล้วนะ และถ้าฉันชอบเขาอยู่นายคงไม่ได้จะ... ช่างมันเถอะ!

    เฮเลนเห็นทีว่าควรจะหยุดพูดไว้เพียงเท่านี้ก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่าเดิม

    “แล้วนายไปเอานั่นมาจากไหน” ดวงตากลมมองไปยังกีตาร์โปร่งที่เขาถืออยู่ โดรโกเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยก่อนตอบ

    “ไอ้นี่หรอ?” เขายกของที่ถืออยู่ขึ้นมา  เดรโกยักไหล่แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว “พ่อยึดได้จากพวกมักเกิ้ล จริงๆ พ่อบอกไม่ให้ฉันยุ่งกับมัน แต่พอรู้ตัวอีกทีก็หยิบมันมาแล้ว” 

    “ทำไมซนแบบนี้ล่ะ” เฮเลนเบ้หน้า

    “แล้วยังไง" เดรโกพูด "ฉันเอามันมาเล่นให้เธอฟังเลยเชียวนะ”

    “ฉันเหรอ?” เฮเลนถามกลับ สิ่งที่อยู่ในอกสั่นคลอนราวกับกำลังจะกระดอนออกมา

    “ก็เธอบอกว่าไม่ได้ของขวัญนี่ เจ้าบ้านั่นเอาของฉันไปซ่อน ฉันก็เลยจะให้เธอได้ฟังไอ้นี่แทน”

    เขาว่าแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ที่มีอยู่ในห้องนั้นอยู่แล้วตรงมุมห้อง เด็กสาวนั่งยืดขาตรงหน้ากระจกบานใหญ่และมองเดรโกในขณะที่เขาเริ่มตั้งสายกีตาร์ในเมื่อเหมือนกับผู้เชี่ยวชาญ

    “ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเล่นมันได้ไงเหมือนกัน แต่มันง่ายหว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก”

    “ง่ายงั้นเหรอ?” เฮเลนทวนคำเขาก่อนที่สมองจะนึกย้อนไปถึงตอนที่เธอพยายามขอร้องให้เพื่อนชายคนหนึ่งในห้องเรียนที่โลกเดิมสอนเธอเล่น นอกจากมันจะจับยากแล้วยังทำให้เธอเจ็บนิ้วไปหมดตอนเล่นมันครั้งแรก แต่เดรโกกลับบอกว่ามันง่ายกว่าที่คิด? บ้าเกินไปแล้ว!

     

     

    (หมายเหตุ : กดปิดเพลงที่คุณเปิดทุกเพลงหรือแม้กระทั่งเพลงในหน้าหลักของนิยายเรื่องนี้ เพื่อฟังเสียงของ ‘เขา’ ให้ชัดขึ้นอีกนิดเสียงของเดรโก มัลฟอยหรือทอม เฟลตันของเรานั่นเอง*กดเปิดเพลงด้วยนะ*)

     

    นิ้วเรียวยาวบรรจงดีดลงบนสายกีตาร์ ค่อยๆ ทำจังหวะให้เป็นเสียงดนตรีคลอในห้องเบาๆ เดรโกส่งเสียงงึมงำในลำคอเหมือนกับกำลังทวนอะไรบางอย่างในหัวพลางส่งเสียงฮัมไปด้วย เขามองจ้องมายังเฮเลนด้วยสายตาที่บอกให้เธอรอฟังเขาเอาไว้ให้ดีๆ ถึงท่าทางของเขาจะดูน่าหมั่นไส้ แต่มันก็ยังดูน่าทึ่ง สำหรับคนคลั่งเลือดบริสุทธิ์ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่วัยเด็กจะนำของใช้ของมักเกิ้ลมาเล่น

    แถมยังเล่นได้ดีเสียด้วย!

     

    “And I was woken by the thought in my head,

    Time to see the world and get up out of this bed.”

    With feet to walk with and a little time to kill,

    I grab my guitar so I can go and chill”

    (แล้วฉันก็ตื่นขึ้นจากความฝันในหัว

    "ถึงเวลาที่จะไปมองโลกกว้างและลุกขึ้นจากเตียงนี้แล้ว"

    สองเท้าก้าวเดินออกไปช้าๆ ฆ่าเวลากันสักหน่อย

    ฉันหยิบกีตาร์ขึ้นมาและเดินออกไปอย่างใจเย็น)

     

    เฮเลนนั่งฟังเพลงนั้นของเขาไปอย่างเงียบๆ พร้อมรอยยิ้ม ร่างกายโยกไปตามจังหวะเพลงและเสียงของเขา ถึงมันจะดูไม่ค่อยเข้าทำนองแต่ว่าถ้าเกิดนี่เป็นการเล่นครั้งแรกก็ถือว่าเขาทำได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว

     

    “And I remember sharing lips with her…

    The coming weeks were to be a blur.

    ‘Cause time with her is like no other –

    She can make a winter’s day feel like the summer”

    (และฉันจำได้ว่าฉันแลกจุมพิตกับเธอ

    สัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงเหมือนจะมองไม่ค่อยชัดเลย

    เพราะเวลาที่ฉันใช้ไปกับเธอมันไม่เหมือนกับใคร

    เธอทำให้วันในฤดูหนาวอบอุ่นดั่งฤดูร้อน)

     

    ริมฝีปากบางเผยยิ้มกว้างทั้งที่กำลังขับร้องเสียงเพลง ดวงคาสีฟ้าจางมองไปยังใบหน้าของหญิงสาวที่เริ่มโยกตัวไปตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน ดูท่าว่าเดรโกจะพึงพอใจกับผลงานของเขาพอสมควรเพราะสำหรับแค่เพลงสั้นๆ เพียงสี่นาทีสามารถทำให้เฮเลนยิ้มได้ก็ถือว่าคุ้มค่าที่แอบขโมยของมักเกิ้ลชิ้นนี้มา

     

    “And I’ve no idea

    Where those weeks gone went.

    Yet I know that it’s time well spent.

    And I’ve no idea

    Where those weeks gone went.

    Yet I know that it’s time well spent.

    So I sing…”

    (ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย

    เมื่อสัปดาห์นั้นได้ผ่านไป

    ยังไม่ทันรู้ตัวเลยว่าเวลามันผ่านไปแล้ว

    แล้วฉันก็ยังไม่ทันได้คิดอะไรเลย

    สัปดาห์นั้นมันผ่านไปแล้วงั้นเหรอ

    ยังไม่ทันรู้เลยนะ ว่าเวลามันได้ผ่านไปแล้ว

    ฉันก็เลยร้องเพลง...)

     

    เพลงท่อนสุดท้ายจบลงพร้อมกับเดรโกที่จ้องไปยังเฮเลนด้วยรอยยิ้มจนเด็กสาวรู้สึกตัวและหยุดการกระทำนั้นอย่างรวดเร็ว เดรโกหัวเราะเบาๆ ก่อนจะถือกีตาร์ไปวางไว้ที่มุมห้องที่เขาชอบไปยืนอยู่เป็นประจำและเดินย้อนกลับไปนั่งลงข้างๆ กับเฮเลน

    “เพราะไหม” เขาถามทันทีที่ก้นแตะถึงพื้น เฮเลนพยักหน้า

    “นายไปหัดมาจากไหนเดรโก” เด็กสาวเอ่ยถามด้วยสายตาอึ้งๆ

    “หัดเอง” เขายักไหล่ “ก็มันมีหนังสือแปลกๆ ติดมาด้วย ฉันก็เลยลองทำตามดู โชคร้ายนะที่หนังสือนั่นโดนพ่อเห็นก่อนที่ฉันจะเอากลับไปห้องก็เลยไม่ได้อ่านมันเยอะเท่าไหร่”

    เขาพูดแล้วมองจ้องไปยังกีตาร์ที่เขาเพิ่งเอาไปวางไว้เมื่อครู่ก่อนจะหันกลับไปมองใบหน้าของเฮเลน

    “ชอบรึเปล่า?” เขาเอ่ยถามหลังจากที่เว้นระยะพูดไปค่อนข้างนาน “ฉันคิดอยู่นานเลยล่ะว่าจะเล่นมันดีไหม”

    “ชอบสิ” เด็กสาวหัวเราะเบาๆ “แน่นอนว่าชอบอยู่แล้ว”

    “ก็ดี เพราะมันคือของขวัญวันคริสมาสต์ที่ฉันเตรียมไว้ให้เธอ” ริมฝีปากบางยกยิ้มอย่างภูมิใจ เฮเลนหัวเราะร่วนกับท่าทางนั้น เดรโกยื่นมือไปยีผมเด็กสาวนิดหน่อยก่อนจะดึงเธอมาโอบกอดเอาไว้เบาๆ

    “แต่ฉันไม่มีอะไรจะให้นายเลยเดรโก” เด็กสาวเอ่ยเสียงแผ่ว

    “ไม่เห็นจำเป็น คนแบบเธอจะหาอะไรมาให้ฉันได้”

    ฝ่ามือเล็กฟาดเข้าที่ไหล่ของเดรโกอีกรอบพร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงในเวลาต่อมา เดรโกหัวเราะกับท่าทางของร่างบางข้างกายเขาพลางเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเธออย่างเบามือ เฮเลนยกแขนขึ้นกอดอกด้วยท่าทางหงุดหงิดและนั่นยิ่งทำให้ร่างสูงอยากจะแกล้งเธอมากขึ้นไปอีก

    “ล้อเล่น หลับตาสิ ฉันมีของอีกอย่างจะให้”

    เด็กสาวขมวดคิ้วยุ่งแต่ก็ยอมทำตามที่เดรโกบอกแต่โดยดี ดวงตากลมโตหลับพริ้มลงอย่างว่าง่าย เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์จางมองใบหน้าหวานของคนตรงหน้าแล้วยิ้มออกมา เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันถูกต้องหรือผิดไปรึเปล่า การที่เขาหลวมตัวเข้ามาใกล้ชิดเธอแบบนี้คือสิ่งที่ดีแล้วใช่ไหม?

    ยิ่งมองใบหน้าของเฮเลน เดรโกยิ่งตอบคำถามในใจของตัวเองยากขึ้น แต่ความรู้สึกกลับยิ่งชัดเจนกว่าตอนนี้เขาอยากครอบครองเธอตรงหน้านี้มากมายแค่ไหน ใบหน้าคมเลื่อนเข้าไปใกล้กับใบหน้าของเด็กสาวก่อนที่ริมฝีปากของทั้งสองจะแตะกัน  จุมพิตหวานหอมถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้งตรงหน้ากระจกบานใหญ่ในห้องต้องประสงค์ พร้อมกับความรู้สึกของทั้งสองที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีใครสามารถต้านมันเอาไว้ได้อีก เดรโกลืมเรื่องที่เคยสัญญากับพ่อเอาไว้หรือแม้กระทั่งแผนการแสบๆ ที่เคยคิดเอาไว้เพื่อแกล้งเธอก็ตาม

    สมองโล่งๆ ของเขาตอนนี้คิดแค่เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น

    ขอแค่เธออยู่ข้างๆ เขาก็พอ

    แค่อยู่ตรงนี้พอแล้ว

     

    ติดตามตอนต่อไป...

     

    ปล.เพลงของทอมไรท์หาแปลไทยไม่ได้ก็เลยลองเอามาแปลเอง อ่านจะแปร่งๆ ไปนิดนึง ขอโทษนะนะ Y_Y

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×